EP.965 รีวิว ทาวน์โฮม โกลเด้น ทาวน์ 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ Golden Town 2 Ladprao-Kaset Nawamin
สวัสดีค่ะผู้อ่าน Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ Golden Town 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ทาวน์โฮมโครงการใหม่ จาก Goldenland ตัวโครงการตั้งอยู่บน ซอยประเสริฐมนูกิจ 48 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. อยู่ใกล้ CDC, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และ เดอะมอลล์บางกะปิ เดินทางสะดวกใกล้จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และ วงแหวนกาญจนาภิเษก
โกลเด้น ทาวน์ 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ มีเนื้อที่โครงการ 33-0-13 ไร่ จำนวน 335 ยูนิต เป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น ขนาด 3-4 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1-2 คัน ออกแบบบ้านมาในสไตล์อิงลิช ทาวน์โฮม กับแบบบ้าน Extra ฟังก์ชั่น ครั้งแรกกับห้องพระในทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น และห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามต้องการ ขนาดเริ่มต้นที่ 16.20 ตร.วา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน กันยายน ปี 2561
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมี คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนสวยภายในโครงการ และสนามเด็กเล่น มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 2.65 ล้านบาท
โดยรายละเอียดที่เราจะพาท่านไปชมจะมีทำเลที่ตั้งโครงการ, สภาพแวดล้อม, ข้อมูลโครงการ และบ้านตัวอย่างแบบเจาะลึก เชิญติดตามอ่านที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
ชื่อโครงการ | โกลเด้น ทาวน์ 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ Golden Town 2 Ladprao-Kaset Nawamin |
เจ้าของโครงการ | โกลเด้นแลนด์ / Goldenland |
ลักษณะโครงการ | ทาวน์โฮม 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 33-0-13 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 335 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 96-130 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 16.20 ตร.วา |
จำนวนห้อง | 3-4 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 1-2 คัน |
โซน | ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนประเสริฐมนูกิจ 48 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. 10230 |
กำหนดการ | พรีเซลล์ 9 ก.ย. 2560 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน กันยายน ปี 2561 |
ราคา | เริ่มต้น 2.65 ล้านบาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 32 บาท/ตร.วา |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | โกลเด้น ทาวน์ ๒ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ทาวน์โฮมใหม่ ใจกลางเมือง ย่านลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ 4 นอน 3 น้ำ อลังการสโมสร+โรงหนังส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 2.65 ล้าน* |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยประเสริฐมนูกิจ 48 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. 10230
พิกัด : 13.799412, 100.663112
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Golden Town 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 42 หรือที่เรียกอีกชื่อนึงว่า ซอยสุวรรณนิเวศน์ เข้ามาจากถนนนวมินทร์เพียง 1.4 กม. บนช่วงระหว่างแยกเกษตร-นวมินทร์กับแยกบางกะปิ ทำเลของโครงการเป็นทำเลในซอย สภาพแวดล้อมในซอยโดยรวมค่อนข้างเงียบสงบ เพราะส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม มีโรงงานขนาดกลางอยู่บ้าง 1-2 แห่งค่ะ ซึ่งนับว่าเป็นทำเลที่มีทางหนีที่ไล่พอสมควร เพราะสามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง โดยแต่เดิมที่ตั้งโครงการก็คือบึงสำราญ เป็นธุรกิจตกปลาและร้านอาหารขนาดใหญ่
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเข้าถึงโครงการสามารถเข้าได้ทั้งจากถนนหลัก 2 เส้นค่ะ คือ ถนนนวมินทร์ ฝั่งมุ่งหน้าลาดพร้าว เข้ามาทางซอยนวมินทร์ 42 และจากถนนเกษตร-นวมินทร์ หรือ ถนนประเสริฐมนูญกิจ ฝั่งมุ่งหน้างามวงศ์วาน สามารถเข้าซอยทองเปลวโกศล หรือ ซอยประเสริฐมนูกิจ 48 ลัดเข้ามาซอยนวมินทร์ 42 แยก 25 และ แยก 27 ได้ค่ะ
การเดินทางเข้า-ออกเมืองก็ทำได้สะดวก เพราะจากตัวโครงการสามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายสาย จากถนนเกษตร-นวมินทร์ ก็สามารถเชื่อมต่อไปยัง ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วน), ถนนพหลโยธิน, ถนนงามวงศ์วาน และ ถนนวิภาวดี-รังสิตได้ง่าย จากถนนนวมินทร์ ก็สามารถเชื่อมต่อ ถนนลาดพร้าว, ถนนเสรีไทย และ ถนนรามคำแหง เข้าถนนพระราม 9
และยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ด่านเก็บเงินโยธินพัฒนา ที่สามารถพาเราเข้าเมืองไปพระราม 9, พัฒนาการ และสุขุมวิท หรือถ้าจะออกนอกเมืองก็สามารถขึ้นทางด่วนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้าสุขาภิบาลเพื่อไปเชื่อมกับทางด่วนวงแหวนตะวันออกไปได้ถึงปุทมธานีก็ได้เช่นกันค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังอยู่ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษก สามารถเดินทางลงไปแถบ บางนา-สุวรรณภูมิได้สะดวก หรือจะวิ่งขึ้นออกไปทางบางปะอินก็ได้เหมือนกัน
ทางด่วน ให้ดูเวลากันคร่าวๆจากโครงการไปถึงจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ฝั่งมุ่งหน้าเข้าเมือง ระยะทางประมาณ 7.2 กม. ใช้เวลา 15 นาทีค่ะ
หรือวิ่งไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก เพียง 10.0 กม. ใช้เวลาราวๆ 20 นาทีค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินบริเวณโครงการ ถือว่ายังพอมีให้พึ่งพิงได้ ถ้าเดินออกมาจากโครงการมาที่ซอยนวมินทร์ 42 จะมีร้านค้าเล็กๆของชาวบ้าน และถ้าเดินเลยไปอีกหน่อยบนแยก 25 จะเจอ 7-Eleven อยู่ 1 สาขา นอกเหนือจากนั้นก็ต้องอาศัยขับรถออกจากซอยแล้วค่ะ
ถ้ามองในภาพรวมที่กว้างขึ้น โดยออกมาบนถนนใหญ่จะมีความอุดมสมบูรณ์ที่มากขึ้น ทั้งตลาดสด, Hypermarket และร้านอาหาร เช่น บนเส้นเกษตร-นวมินทร์ จะมีร้านอาหารชื่อดังบรรยากาศดีอย่าง Chocolate Ville, Hypermarket ก็จะมี Big C และ Max Value อีกทั้งตลาดนัดขนาดใหญ่อย่าง ตลาดนัดหัวมุม ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับศูนย์การค้า The Walk ถ้าวิ่งลงมาตามเส้นประดิษฐ์มนูธรรม หรือเลียบทางด่วน ที่เด่นๆก็จะมี CDC, The Crystal และ เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ส่วนบนเส้นลาดพร้าวจะมี ตลาดบางกะปิ, Tesco Lotus, Makro, ตะวันนา ห้างใหญ่ๆที่ใกล้โครงการที่สุดคือ The Mall บางกะปิ นอกจากนี้ก็ยังอยู่ไม่ไกลจาก Fashion Island และ The Promanade อีกด้วย
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ค่อนข้างลึกจากถนนใหญ่และไม่มีรถโดยสารใดๆวิ่งผ่าน แต่จะมีวินมอเตอร์ไซค์ และ แท็กซี่ วิ่งผ่านไป-มาอยู่ตลอดเวลา จึงนับว่าไม่ได้ลำบากอะไรค่ะ ส่วนรถเมล์จะมีอยู่หลายสายมากบนถนนนวมินทร์ โดยป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยนวมินทร์ 38 ยกตัวอย่างสายที่ผ่าน เช่น สาย 501 ที่วิ่งไปถึงหัวลำโพงผ่านสยาม พญาไท ฯลฯ หรือ สาย 95ก วิ่งไปบางกะปิ เป็นต้น
ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ, สายสีส้ม ช่วง ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และ สายสีชมพู ช่วง แคราย-มีนบุรี วิ่งผ่านบริเวณโดยรอบโครงการ แต่ที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นสถานี บางกะปิ ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งห่างจากสถานีลำสาลีเพียงสถานีเดียว ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้มค่ะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ Golden Town 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนเกษตร-นวมินทร์ > ถนนวมินทร์ > ซอยนวมินทร์ 42 > ซอยนวมินทร์ 42 แยก 27 > โครงการ Golden Town 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนเกษตร-นวมินทร์ช่วงแยกตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราวิ่งไปตามป้ายถนนนวมินทร์ค่ะ
ตรงไปบนถนนเกษตร-นวมินทร์เรื่อยๆ เราจะเห็นบุญถาวรอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
ตรงไปอีกสักพัก ให้เราชิดขวาที่แยกนวมินทร์-นวลจันทร์ เพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนนวมินทร์ไปทางบางกะปิ
เข้ามาบนถนนนวมินทร์เราวิ่งตรงไปอีกประมาณ 1.6 เมตร ให้ชิดซ้าย
จากนั้นก็ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนวมินทร์ 42 เลยค่า
จากซอยนวมินทร์ 42 ให้เราตรงเข้าไปอีกเป็นระยะ 1.4 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าที่แยก 27 เราก็จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางด้านขวามือเลยค่ะ นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าสู่ตัวโครงการจากถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) ทางซอยประเสริฐมนูกิจ 48 ได้อีกด้วย
เข้ามาภายในซอยนวมินทร์ 42 เป็นซอยขนาด 2 เลน รถสามารถสวนกันได้สะดวก บรรยากาศภายในซอยถือว่าเงียบสงบดีเพราะว่าส่วนมากเป็นที่อยู่อาศัย มีทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมค่ะ
ตรงเข้าไปเรื่อยๆเราจะเห็น 7-Eleven ตรงแยก 25 ให้เราตรงเลยไปอีกหน่อยแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าแยก 27 เป็นแยกสุดท้าย
พอเราเลี้ยวเข้าแยก 27 ไป เราก็จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางด้านขวามือเลยค่ะ ซึ่งภายใน British Avenue นี้จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 โครงการนั่นก็คือ Golden Town 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ และ Golden Neo ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์
เข้ามาภายใน British Avenue ตรงเข้าไปเรื่อยๆ ผ่านโครงการ Golden Neo ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ไปก่อน แล้วเราก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการ Golden Town 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ อยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเดิม ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารที่พักอาศัยแนวราบ บรรยากาศโดยรวมสงบเงียบดีค่ะ สำหรับพื้นที่ที่ติดกับโครงการ ทิศเหนือ ติดกับ โครงการ Golden Neo ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ทิศตะวันออก ติดกับ คลองลำรางกุ่ม และ บ้านพักอาศัยข้างเคียง สูง 1-2 ชั้น ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า และ ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนซอยนวมินทร์ 42 แยก 27
เดี๋ยวเราจะมาสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการกันนะคะ จะได้เห็นว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง เริ่มจากบริเวณหน้าซุ้มทางเข้าโครงการก็คือ British Avenue ค่ะ
มองไปทางฝั่งซ้ายมือ จะล้อมรั้วกั้นเอาไว้เป็นพื้นที่กองเก็บวัสดุก่อสร้าง และจอดรถขนของ
มองไปทางฝั่งซ้ายมือ
ด้านข้างตัวโครงการจะอยู่ติดกับ Golden Neo ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ โครงการเป็นบ้านแฝดสูง 2 ชั้นค่ะ
มองไปทางฝั่งซ้ายมือ เราจะเดินออกจาก British Avenue ออกไปยังซอยนวมินทร์ 42 กันค่ะ
บริเวณหน้าทางเข้า British Avenue
ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้า British Avenue จะเป็นลานจอดรถโล่งๆค่ะ
ทางฝั่งขวามือจะเป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิมทั้งหมด ถ้าเดินเลยไปหน่อยเราก็จะเจอ Golden Town ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ โครงการที่ 1 ค่ะ
มองออกไปทางซ้ายมือ เราจะเดินไปทางซอยนวมินทร์ 42 นะ
ตรงหัวโค้งพอดีก็คือศูนย์การเรียนชุมชนสุวรรณนิเวศน์ค่ะ ถ้าเลี้ยวขวาเข้าไปจะเป็นซอยตัน
บ้านดั้งเดิมของคนในละแวกนี้ค่ะ ดูหน้าตาน่ารักดี
2 ข้างถนนภายในซอยนวมินทร์ 42 ก็จะมีพวกร้านแผงลอยเปิดขายอาหารกันอยู่บ้าง ทั้งอาหารตามสั่ง และพวกส้มตำไก่ย่าง
ส่วนอีกฝั่งที่เป็นทาวน์เฮ้าส์ ก็ใช้ชั้นล่างของบ้านตัวเองเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวบ้าง เป็นร้านโชห่วยบ้าง
ตรงหัวมุมของแยก 25 จะเจอ 7-Eleven พอดีเลย เดินมาจากหน้าทางเข้าโครงการนิดหน่อยก็ถึงแล้ว ด้านหน้า 7-Eleven ก็จะมีลูกชิ้นทอด และชายสี่บะหมีเกี๊ยวขายด้วยนะ
ตรงตามซอยนวมินทร์ 42 ออกไปประมาณ 1.4 กม. เราก็จะเข้าถนนนวมินทร์แล้วค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ Golden Town 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ เป็นโครงการทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น สไตล์อิงลิช ทาวน์โฮม มีทั้งหมด 335 ยูนิตบนที่ดิน 33 ไร่เศษ ออกแบบด้วยแนวความคิด Extra Function และ Extra Spec ที่อยู่เหนือกว่าทาวน์โฮมทั่วๆไปเพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษขึ้นมาและวัสดุที่เทียบเท่ากับบ้านเดี่ยว ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปสำรวจบริเวณภายในโครงการจะขออธิบายผังคร่าวๆเพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ
ทางเข้า-ออกของโครงการหลักจะมีเพียงทางเดียวคือจากซุ้มทางเข้าโครงการบนถนน British Avenue โดยจะต้องผ่านรปภ.ประกอบด้วย ป้อมยาม, ระบบ Auto Access Card, กล้อง CCTV และ รั้วไม้กระดก การวางผังของโครงการจะใช้ถนนหลักกว้างผ่าเข้ามากลางโครงการแล้วแจกด้วยถนนย่อยเป็นซอยเพื่อเข้าสู่ตัวบ้านแต่ละหลัง คลับเฮ้าส์และสวนสาธารณะของโครงการถูกวางไว้ส่วนหน้าของโครงการ ซึ่งจากคลับเฮ้าส์และสวนสาธารณะไปถึงปากซอยสุดท้ายของโครงการจะยังอยู่ในระยะที่ลูกบ้านจากซอยสุดท้ายสามารถเดินมาใช้งานได้อย่างสะดวก ในปัจจุบันคลับเฮ้าส์ยังถูกใช้เป็นสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะใช้เป็นฟิตเนสค่ะ
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
แบบบ้านของโครงการจะมีด้วยกัน 3 แบบนั่นก็คือ
จุดเด่นของบ้านภายในโครงการนี้ก็คือ เป็นทาวน์โฮมที่มี Function และพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางกว่าทาวน์โฮมทั่วไป มีการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ฝ้าเพดานที่สูงโปร่งเกือบ 3 เมตร ทำให้โถงบันไดดูโปร่งโล่งมากขึ้นไปอีก พิเศษด้วยห้องพระชั้น 2 และ ห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่าง เดี๋ยวเราจะมาดูฟังก์ชั่นของแบบบ้านทั้ง 3 กันค่ะ
::: แบบบ้าน Saint James ขนาด 96 ตร.ม. :::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
::: แบบบ้าน Windsor Plus ขนาด 113 ตร.ม. :::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
::: แบบบ้าน Kengsinton ขนาด 130 ตร.ม. :::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
ได้ชมรายละเอียดกันไปหมดแล้ว คราวนี้เรามาดูบรรยากาศภายในโครงการของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มต้นจากบริเวณซุ้มทางเข้าโครงการ ดีไซน์ตัวซุ้มเป็นสไตล์อังกฤษ ด้วยโทนสีขาว-เทา และ ผนังลายอิฐ โดยการเข้า-ออกตัวโครงการจะต้องผ่านรปภ.ประกอบด้วย ป้อมยาม, ระบบ Access Card, กล้อง CCTV และรั้วไม้กระดก
โดยช่องฝั่งขาเข้าจะแบ่งย่อยออกไปอีก 2 ช่อง
ฝั่งริมซ้ายสุดจะเป็นช่องของ Resident ที่ถือ Key Card ค่ะ จะสามารถขับผ่านประตูรั้วเข้าไปได้เลย
เครื่องจับสัญญาณ Access Card และกล้อง CCTV
ส่วนฝั่งขวาจะเป็นช่องของ Visitor พี่รปภ.จะต้องสอบถาม, แลกบัตร และจดบันทึก พร้อมกล้อง CCTV ที่ซุ้มทางเข้าออก เพื่อบันทึกภาพหน้าคนขับและป้ายทะเบียนรถค่ะ
กล้อง CCTV เอาไว้จับภาพหน้าคนขับ และทะเบียนรถ
มุมมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
พอเข้ามาภายในโครงการ เราก็จะเจอถนนเมนกว้างทอดยาวเข้าไปค่ะ
ขับเข้าไปเรื่อยๆจนถึงวงเวียนหน้าโครงการ
เมื่อขับผ่านวงเวียนเข้ามาแล้ว ที่ฝั่งซ้ายมือเราจะเห็นคลับเฮ้าส์ตั้งอยู่ ด้านหน้ามีที่จอดรถให้
พอเดินเข้าไปด้านในจะมีทางแยก 2 ทาง ฝั่งซ้ายจะออกไปยังสระว่ายน้ำ ส่วนฝั่งขวาคือห้องฟิตเนส
ห้องฝั่งขวาจริงๆแล้วก็คือฟิตเนสนะคะ แต่ปัจจุบันถูกใช้เป็นสำนักงานขาย ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้ข้อมูล และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับตัวโครงการ
มาดูสระว่ายน้ำกันต่อค่ะ
ข้างๆสระได้จัดเตรียมชุดโต๊ะ-เก้าอี้นั่งพักผ่อน และ Day bed เอาไว้ให้
ส่วนสระว่ายน้ำจะใช้ระบบเกลือค่ะ สระมีขนาด 7 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ ออกแบบให้บันไดเดินลงอยู่ภายในสระ
ภายในแบ่งเป็นสระเด็กไว้ให้ด้วยนะ โดยจะกั้นขอบไว้ให้ภายในสระเรียบร้อย
หันหลังกลับมาดูห้องน้ำกันต่อค่ะ จะแบ่งห้องชาย-หญิงให้ ชายฝั่งซ้าย และหญิงฝั่งขวา
เข้าไปดูภายในห้องน้ำหญิงกันก่อน ส่วนแรกจะเจออ่างล้างมือ 2 อ่าง
เข้าไปด้านในจะเป็นห้องน้ำ และห้องอาบน้ำค่ะ
ส่วนห้องน้ำชาย ภายในก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากห้องน้ำหญิงนะคะ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็มีโถปัสสาวะชายเพียงอย่างเดียว
มาดูภายในสวนสาธารณะกันต่อ
ทางโครงการก็จะจัดให้ได้บรรยากาศคล้ายๆกับ British Garden มีศาลาหลังคาโปร่งให้นั่งพักผ่อนได้ แต่ไม่ช่วยกันแดดกันฝนนะ
ภายในสวนมีบ่อน้ำพุสไตล์อังกฤษ โดยรอบทำม้านั่งเอาไว้ให้นั่งพักผ่อนได้
ภายในสวนก็จะมีสนามเด็กเล่นด้วยนะคะ แต่ภาพรวมยังไม่เรียบร้อยดีเลยยังไม่ได้เก็บภาพมาฝากกันนะ
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังด้วยกัน ลำดับเป็นแบบบ้าน Kensington ขนาด 130 ตร.ม. และตามด้วย แบบบ้าน Windsor Plus ขนาด 113 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า ?
::: แบบบ้าน Kensington ขนาด 130 ตร.ม. :::
มาดูแบบบ้าน Kensington ขนาด 130 ตร.ม. ขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการกันก่อนค่ะ รูปแบบหน้าตาของบ้านก็จะเป็นสไตล์อังกฤษ นำเอกลักษณ์ของบ้านในอังกฤษมาใช้นั้นก็คือลายอิฐ, รูปแบบการแบ่งช่องลูกฟักหน้าต่าง รวมถึงขอบบัวของหน้าต่างและผนัง โดยใช้โทนสีออกเป็นโทนสว่าง
เข้ามาในบริเวณตัวบ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด สามารถจอดรถได้ถึง 2 คัน พื้นเป็นซีเมนต์ปาดเรียบขัดหยาบ ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์
บริเวณพื้นเฉลียงทางเข้าจะยกระดับขึ้นมาประมาณ 15 ซม.วัสดุเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ประตูทางเข้าบ้านทางห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูบานเลื่อน UPVC สีขาวกระจกเขียวตัดแสงพร้อมมือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นห้องทานอาหารและครัวไทย ทางขวามือจะเป็นโถงบันได, ห้องน้ำ และห้องนอนชั้นล่าง ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว
ที่ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร ภายในบ้านจะใช้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด
มาดูการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านกันต่อค่ะ
ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวาง สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง หรือจะวางเป็นโซฟารูปตัว L ก็ได้ ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมรั้วเหมือนบ้านตัวอย่างก็จะได้หน้าต่างข้างบ้านเพิ่มมาด้วยค่ะ แต่ถ้าเป็นบ้านมาตรฐานจะไม่มีให้นะ
ถ้าเป็นบ้านหลังแปลงมุมก็จะได้หน้าต่างบานเลื่อนมาแบบนี้ค่ะ
ผนังฝั่งชั้นวางทีวีจะเป็นพื้นที่ระหว่างโถงบันไดกับห้องน้ำกว้างประมาณ 1.2 เมตร พอจะตั้งชั้นวางทีวีขนาดกลางๆได้ตัวนึง ระยะทีวีตรงนี้กว้างมากอยู่ค่ะ ดูทีวีจอขนาด 70 นิ้วขึ้นไปได้สบายๆ
มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องทานอาหาร
พื้นที่ผนังระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องทานอาหารก็ยังเหลือที่ว่างอยู่นะ ตรงนี้เราสามารถวางชั้นวางของเพิ่มเติม หรือจะวางเป็นโต๊ะทำงานก็ได้เช่นกันค่ะ
มาดูที่ห้องทานอาหารกันต่อค่ะ ถ้าเป็นบ้านหลังแปลงมุมก็จะได้ช่องแสงมาอีก 1 ช่องด้วย เป็นหน้าต่างบานเลื่อนค่ะ
พื้นที่ของห้องอาหารจะพอดีกับโต๊ะขนาด 4-6 ที่นั่งพอดีๆ ถ้าอยากจะเปลี่ยนทิศการวางโต๊ะก็ทำได้เหมือนกันนะ
เมื่อวางโต๊ะทานอาหารแล้ว ด้านหลังยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและแพนทรี่สำหรับเตรียมหรืออุ่นอาหารง่ายๆได้
มองจากห้องทานอาหารย้อนกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
มาดูที่ห้องนอนชั้นล่างกันต่อ
เข้าไปภายในห้องนอนมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ยังสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว ห้องนอนชั้นล่างนี้จะเหมาะมากๆสำหรับผู้สูงอายุที่อาจจะเดินขึ้น-ลงบันไดไม่ค่อยสะดวกแล้ว นอกจากนี้อาจจะทำเป็นห้องอเนกประสงค์อย่าง ห้องนั่งเล่นของครอบครัว, ห้องโฮมเธียเตอร์ หรือห้องทำงานก็ได้เช่นกัน
เมื่อวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งแล้วก็จะยังเหลือพื้นที่ยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าอีกประมาณ 0.8 เมตร
ในส่วนของปลายเตียงจะเหลือพื้นที่อีกไม่มากนัก แต่ก็ยังสามารถวางชั้นวางของตัวเล็กๆได้อยู่
พื้นที่อีกฝั่ง ถ้าวางตู้เสื้อผ้าขนาดไม่ใหญ่มากก็จะเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานได้อีกตัวนึง มุมนี้จะมีหน้าต่างบานเปิดให้ด้วยค่ะ แต่ถ้าจัดเป็นห้องนอนหรือห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็อาจจะหาม่านมาติดเพิ่มเติมได้
หน้าต่างในห้องนี้จะเป็นบานเปิดแบบนี้ค่ะ
มือจับบานหน้าต่างแบบก้านโยก
เราเข้าไปดูภายในห้องครัวกันต่อค่ะ
จริงๆแล้วพื้นที่ได้จะเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบปาดหน้าเรียบ ลดระดับจากพื้นบ้านลงไปประมาณ 10 ซม.
ทางบ้านตัวอย่างได้จัดให้พื้นที่เป็นครัวไทยขนาดใหญ่เรียบร้อยสวยงาม สามารถวางเตาปรุงอาหาร, อ่างล้างมือ และยังเหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารอีกด้วย เตาไมโครเวฟอาจจะวางไว้ที่ใต้เคาน์เตอร์ก็ได้ค่ะ จะได้เหลือพื้นที่เยอะหน่อย
ถ้าวางเคาเตอร์ครัวแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ปรุงอาหารอีกประมาณ 1.2 เมตรเลย ถือว่ากำลังดีทีเดียว
มองมาที่อีกฝั่งหนึ่งทางบ้านตัวอย่างจัดให้เป็นห้องซักรีด
ตรงนี้สามารถแบ่งพื้นที่จากครัวไทยเอาไว้สัก 2 x 2.5 เมตรนี่ก็เหลือเฟือละ
ทำหลังคาที่สามารถเปิด-ปิดได้ เป็นความคิดที่ดีมากๆเลยค่ะ ไม่ต้องคอยวิ่งเก็บเสื้อผ้าเวลาฝนตก
มาดูที่ห้องน้ำชั้นล่างกันก่อน
ที่พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 2 อยู่บริเวณพื้นที่ใต้บันไดจะเป็นห้องน้ำสำหรับแขกด้วย แต่ก็จะติดฝักบัวมาให้เผื่อในชั่วโมงที่เร่งด่วน พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม.พร้อมกระเบื้องตกแต่งอื่นๆ
ไฟในห้องน้ำจะใช้เป็นโคมซาลาเปาค่ะ
มาดูที่สุขภัณฑ์กันต่อ อ่างล้างมือจะเป็นแบบแขวนผนัง มีฝาครอบท่อดักกลิ่นให้เรียบร้อย
อ่างล้างมือแบบแขวนผนังจะเป็นของ American Standard ค่ะ ขนาดกระทัดรัดๆเหมาะกับขนาดของห้องน้ำ
ส่วนก๊อกน้ำก็จะเป็นของ American Standard อีกเช่นกัน ขนาดจับถนัดมือ
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของโซนอาบน้ำ และโถสุขภัณฑ์ พื้นที่ยืนอาบน้ำจะแคบหน่อย ตรงนี้เราคงติดพวก Shower Box เพิ่มไม่ได้นะ
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ค่ะ ระยะติดตั้งได้มาตรฐาน นั่งกำลังสบาย
ติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบการใช้งานเรียบร้อย
ส่วนชุดฝักบัวอาบน้ำจะเป็นของ American Standard เช่นกันค่ะ มาพร้อมกับราวปรับระดับและจานวางสบู่
หัวฝักบัวขนาดพอดีๆไม่เล็กไม่ใหญ่ สามารถปรับระดับของสายน้ำได้
เสร็จจากชั้น 1 แล้วเดี๋ยวเราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ
พื้นที่โถงบันไดกว้าง 0.9 เมตร วัสดุบันไดจะเป็นไม้อัดประสานสำเร็จรูป
ข้างๆโถงบันไดก็จะมีหน้าต่างบาน Fixed มาเป็นช่องแสงให้ จะอยู่บริเวณช่วงโรงจอดรถพอดีค่ะ ถ้าไม่อยากให้คนภายนอกมองเข้ามาเห็นละก็หาม่านมาติดเพิ่มเติมเอานะ
มุมมองจากโถงบันไดขึ้นไปยังชั้น 2
มุมมองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได
ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นทั้งหมดจะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต โถงบันไดจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างห้องต่างๆ ฝั่งซ้ายคือห้องนอนใหญ่ ตรงกลางคือห้องนอน 2 และห้องน้ำ ส่วนฝั่งขวาคือห้องนอน 3
มุมมองย้อนกลับลงไปที่โถงบันได จะมีชั้นลอยให้ สามารถใช้เป็นหิ้งพระได้ค่ะ
นอกจากจะเป็นหิ้งพระแล้ว ยังสามารถใช้เป็นมุมนั่งเล่นได้อีกมุมด้วยนะ
เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูภายในห้องนอนใหญ่กันก่อนเลยค่ะ
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอนใหญ่ มีการแบ่งพื้นที่ห้องออกเป็น 2 โซน คือโซนพักผ่อนและโซน Walk-in closet ตำแหน่งของห้องจะอยู่บริเวณหน้าบ้าน ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด
มาดูในส่วนของโซนพักผ่อนกันก่อนค่ะ
ในส่วนของโซนที่นอนจะมีพื้นที่ๆกว้างขวางสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ เมื่อวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงอีกเหลือเฟือ ทำเตียงหรือยังเดินผ่านได้สะดวกค่ะ
มุมมองไปที่ฝั่งประตูทางเข้าห้องนอน พื้นที่ผนังฝั่งขวายังเหลือสำหรับวางชั้นวางทีวีได้
เมื่อวานชั้นวางทีวีแล้วก็ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินอยู่ค่ะ เดินผ่านได้สบายๆ
จากโซนพักผ่อนไปที่โซน Walk-in closet กันบ้าง
จะสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ และยังเหลือที่พอสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งด้วยค่ะ
ในส่วนของโซนแต่งตัวจะเชื่อมกับระเบียงห้องด้วยประตูบานเลื่อน
ขนาดพื้นที่ระเบียงไม่กว้างขวางมาก แต่พอจะออกไปรับลมชมวิวได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ลดระดับจากพื้นห้องนอนเล็กน้อย และ ราวระเบียงเป็นระแนงเหล็กค่ะ
กลับเข้ามาภายในห้อง เข้าไปดูห้องน้ำในตัวกันต่อ
พื้นห้องน้ำก็จะลดระดับลงไปเล็กน้อยจากพื้นห้องนอน
วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนห้องน้ำชั้นล่างทุกประการค่ะ เพียงแต่ห้องนี้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า
จึงได้พื้นที่โซนอาบน้ำที่กว้างขวางมากขึ้น พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย เป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอนค่ะ
ขนาดพื้นที่กว้างขวางขึ้น อาบน้ำได้สะดวกกว่า
ภายในติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำให้แบบเดียวกันเลยค่ะ
จากนั้นเรามาดูที่ห้องน้ำ 2 กันต่อ
ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์จะไม่แตกต่างจากห้องน้ำที่ผ่านๆมาเลยค่ะ โดยภายในโซนอาบน้ำจะติดตั้ง Shower Box มาให้ เป็นแบบบานเลื่อนโค้งเข้ามุม
จากนั้นมาดูที่ห้องนอน 2 และห้องนอน 3 กันต่อค่ะ
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน 2 จะมีขนาดไม่แพ้ห้องนอนใหญ่เลยนะคะ ภายในได้ช่องแสงขนาดใหญ่มา 2 ด้าน ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่ง
โดยจะจัดวางตู้เสื้อผ้าเอาไว้อยู่หน้าห้อง
ถัดเข้าไปเป็นส่วนของโต๊ะทำงานและเตียงนอน
ขนาดเตียง 3 ฟุตครึ่งจะเป็นขนาดที่กำลังเหมาะสมกับพื้นที่ห้องเลยค่ะ
ส่วนปลายเตียงก็ยังเหลือพื้นที่อยู่อีกนะ สามารถทำโต๊ะ Built-in ยาวทั้งผนังได้เลย
มาถึงห้องนอน 3 ห้องสุดท้ายแล้วค่ะ
เป็นห้องนอนขนาดเล็กที่สุดแต่ก็ยังสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างครบครัน ตามห้องตัวอย่างได้จัดวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งเอาไว้
เมื่อวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งแล้วก็จะมีพื้นที่เหลือพอสำหรับโต๊ะข้างหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าขนาดกลางๆ
โต๊ะข้างหัวเตียงและตู้เสื้อผ้า
เมื่อวางเตียงนอนแล้วจะยังพอมีพื้นที่ปลายเตียงเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย สามารถทำชั้นวางของเพิ่มได้อีกนะคะ
ส่วนปลั๊กไฟ, สวิตช์ไฟ และตู้ Load center ของบ้านภายในโครงการจะใช้เป็นของ Schneider electric ทั้งหมดค่ะ
::: แบบบ้าน Windsor Plus ขนาด 113 ตร.ม. :::
หน้าตาแบบบ้าน Windsor จะไม่แตกต่างไปจากแบบบ้าน Kensington มากนัก เป็นสไตล์อังกฤษเหมือนกัน
ในส่วนของลานจอดรถ พื้นที่ลานจอดรถจะถูกแบ่งครึ่งเซ็ทเข้าไปจากเฉลียงทางเข้าบ้าน สามารถจอดรถได้ 1 คัน วัสดุพื้นลานจอดรถของบ้านมาตรฐานที่เราจะได้จริงๆจะใช้เป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบขัดหยาบ ฝ้าเพดานจะเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้
บริเวณพื้นเฉลียงทางเข้าจะยกระดับขึ้นมาประมาณ 15 ซม.วัสดุเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ประตูทางเข้าบ้านทางห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูบานเลื่อน UPVC สีขาวกระจกเขียวตัดแสง มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน เหมือนแบบบ้านหลังที่แล้ว
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นห้องทานอาหาร และครัวไทย ทางขวามือจะเป็นโถงบันได, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องนอน 4 ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร ภายในบ้านจะใช้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด
ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวาง สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง หรือจะวางเป็นโซฟารูปตัว L ก็ได้
จะเห็นว่าเมื่อวางโซาฟาแล้วก็ยังเหลือพื้นที่อีกสำหรับวางโต๊ะทำงานได้ หรือจะวางเป็นชั้นหนังสือหรือชั้นเก็บของก็ทำได้เช่นกัน จะเห็นได้ว่าถ้าเป็นบ้านแปลงมุมรั้วก็จะได้หน้าต่างข้างบ้านเพิ่มมาด้วยค่ะ ถ้าเป็นบ้านมาตรฐานจะไม่มีนะคะ
บริเวณผนังชั้นวางทีวีของบ้านหลังนี้จะมีพื้นที่เหลือเยอะกว่าบ้านหลังที่แล้ว พอตกแต่งผนังด้วยกระจกเงาก็จะทำให้ภายในบ้านดูกว้างขวางขึ้นได้ค่ะ
มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องรับประทานอาหาร
มาดูที่ห้องรับประทานอาหารกันต่อค่ะ
พื้นที่ของห้องอาหารจะพอดีกับโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งพอดีๆเท่ากับบ้านหลังที่แล้ว
ด้านหลังยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและแพนทรี่สำหรับเตรียมหรืออุ่นอาหารง่ายๆได้
มาดูที่ห้องนอนชั้นล่างกันต่อ
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน สามารถใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้ ตามบ้านตัวอย่างได้จัดให้เป็นห้องโฮมเธียร์เตอร์ หรือถ้าต้องการทำเป็นห้องนอนก็มีพื้นที่เพียงพอค่ะ สามารถจัดได้เหมือนบ้านหลังที่แล้ว
อีกมุมมองหนึ่งเข้าไปภายในห้อง สามารถจัดวางโซฟาสำหรับดูหนังได้ 2 ที่นั่งขนาดใหญ่
มุมมองไปที่ส่วนของโฮมเธียเตอร์ ที่ฝั่งนี้จะมีผนังกระจกเข้ามุม และหน้าต่างบานเปิดอีก 1 บาน
เราเข้าไปดูภายในห้องครัวกันต่อค่ะ
จริงๆแล้วพื้นที่ได้จะเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบปาดหน้าเรียบซึ่งลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 ประมาณ 10 ซม.
จริงๆแล้วพื้นที่ได้จะเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบปาดหน้าเรียบซึ่งลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 ประมาณ 10 ซม. ถ้าวางเคาเตอร์ครัวแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ปรุงอาหารอีกประมาณ 1.2 เมตรเลยค่ะ กำลังดีทีเดียว
อีกฝั่งหนึ่งทางบ้านตัวอย่างได้จัดให้เป็นห้องดูดาว
จริงๆแล้วจะทำเป็นห้องซักรีดเหมือนบ้านหลังที่แล้วก็ทำได้นะ น่าจะเป็นประโยชน์ที่มากกว่า
มาดูที่ห้องน้ำชั้นล่างกันต่อ
พื้นของโถงทางเข้าห้องน้ำจะลดระดับลงไปจากพื้นชั้น 1 อยู่ 15 ซม.
และพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปอีก 5 ซม.
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ ทั้งวัสดุ, สุขภัณฑ์ และการจัดวางห้องน้ำจะไม่แตกต่างจากบ้านหลังที่แล้วเท่าไหร่ ส่วนฝ้าเพดานจะเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมซาลาเปามาให้
ทั้งก๊อกน้ำและอ่างล้างมือจะเป็นของ American Standard ค่ะ แต่ขนาดของอ่างจะใช้ไซส์ที่เล็กลงมาหน่อยนึง
ข้างๆอ่างวางโถสุขภัณฑ์
พื้นที่มุมในเป็นโซนอาบน้ำ ติดฝักบัวพร้อมราวปรับระดับมาให้ ข้างๆเจาะผนังทำเป็นชั้นวางสบู่
พื้นที่ยืนอาบน้ำก็จะพอๆกับบ้านหลังที่แล้วค่ะ แต่พอจะสามารถติดตั้ง Shower Box เพิ่มเติมได้
เดี๋ยวเราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ พื้นที่โถงบันได้กว้าง 0.9 เมตร วัสดุบันไดจะเป็นไม้อัดประสานสำเร็จรูป ส่วนราวบันไดจะเป็นราวเหล็กมือจับใช้วัสดุเดียวกันกับตัวบันได
มุมมองขึ้นไปที่โถงบันไดชั้น 2
มุมมองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได
โถงบันไดจะเป็นตัวแจกเข้าห้องต่างๆ ฝั่งซ้ายคือห้องนอนใหญ่ และห้องน้ำ 1 ส่วนฝั่งขวาคือห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ที่พื้นชั้น 2 ทั้งหมดจะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต
มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได
มาดูห้องฝั่งซ้ายของโถงบันไดก่อนเริ่มจากห้องนอนใหญ่
เข้าไปภายในห้องนอนใหญ่ บริเวณลายผนังของห้องนอนทุกห้องจะเดินปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้ด้วยสำหรับการติดตั้งทีวี ห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือโซนพักผ่อนและโซน Walk-in closet
มาดูที่โซนพักผ่อนกันก่อน
ในส่วนของโซนที่นอนจะมีพื้นที่ๆกว้างขวางสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ เมื่อวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงอีกเหลือเฟือ
ที่ฝั่งประตูทางเข้าห้องนอน พื้นที่ผนังฝั่งซ้ายยังเหลือสำหรับวางชั้นวางทีวีได้
เมื่อวางชั้นวางทีวีแล้วก็จะยังเหลือพื้นที่ว่าง สามารถเดินผ่านได้ ไม่มีปัญหาค่ะ
จากโซนพักผ่อนไปที่โซน Walk-in closet กันบ้าง
ภายใน Walk-in closet จะสามารถทำตู้เสื้อผ้า Built-in ได้เต็มผนัง ส่วนพื้นที่ข้างๆประตูระเบียงจะสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก 1 ตัว
จาก Walk-in closet จะมีประตูระเบียงสามารถเดินออกไปสูดอากาศข้างนอกได้เหมือนบ้านหลังที่แล้วค่ะ
จากห้องนอนใหญ่ แล้วมาดูที่ห้องน้ำ 1 กันต่อ
ภายในห้องน้ำ 1 ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ก็จะใช้แบบเดียวกันกับห้องน้ำหลังที่แล้วเลย จะขอข้ามไปเลยนะคะ
เราจะไปดูห้องนอนฝั่งขวาของโถงบันไดกันต่อ เริ่มจากห้องนอน 3 ตามด้วยห้องนอน 2
ห้องนอน 3 เป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของบ้าน แต่ก็ยังสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างครบครันค่ะ
ภายในก็ยังสามารถวางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตครึ่งได้
และยังเหลือพื้นที่ยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าอยู่อีกพอสมควร
อีกฝั่งที่วางตู้เสื้อผ้า วางตู้อย่างเดียวก็เต็มแล้วค่ะ คงวางโต๊ะทำงานเพิ่มไม่ได้แล้ว
เข้าไปภายในห้องนอน 2 จะไม่แตกต่างจากแบบบ้านหลังที่แล้วเลย แต่มีขนาดที่เล็กกว่าหน่อย
ภายในห้องนี้จะวางเป็นที่นอนขนาด 3 ฟุตครึ่ง
เหลือพื้นที่สำหรับโต๊ะข้างหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าขนาดกลางๆได้อย่างละตัว
ส่วนฝั่งปลายที่นอนจะเหลือพื้นที่นิดหน่อย สามารถทำชั้น Built – in เป็นชั้นวางของและโต๊ะทำงานเพิ่มได้ หาเก้าอี้มาวางเพิ่มตัวนึงก็ครบแล้วค่ะ
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (พฤศจิกายน 2560) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (พฤศจิกายน 2560) ::::
แบบบ้าน Saint James
พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
– ราคา 2,650,000 บาท
แบบบ้าน Windsor Plus
พื้นที่ใช้สอย 113 ตรม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
– แปลงมาตรฐานขนาด 19.20 ตร.วา
– ราคา 3,100,000 บาท
แบบบ้าน Kensington
พื้นที่ใช้สอย 130 ตรม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ
– แปลงมาตรฐานขนาด 21.20 ตร.วา
– ราคา 3,500,000 บาท
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ที่ตั้งของโครงการ Golden Town 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 42 เข้ามาจากถนนใหญ่ 1.4 กม. สภาพแวดล้อมรอบๆ ส่วนใหญ่เป็นบ้านของคนที่อยู่อาศัยเดิมทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว และมีโรงงานเล็กๆ นอกจากนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษแล้วค่ะ เป็นทำเลที่สงบเงียบเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย แต่ซอยอาจจะเปลี่ยวหน่อยในเวลากลางคืน ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินโดยรอบจะเป็นร้านที่เปิดของชาวบ้านในละแวกนั้น และ 7-Eleven ต้องออกมาจากซอยถึงจะเจอแหล่งความอุดมสมบูรณ์ค่ะ ใกล้ทั้ง เดอะมอลล์บางกะปิ, Fashion Island, The Promanade, CDC, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และอื่นๆอีกมากมาย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สะดวกสบายสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เพราะสามารถเข้า-ออกได้ผ่านทางถนนใหญ่ 2 เส้น นั่นก็คือถนนนวมินทร์ และถนนเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักอื่นๆได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น จากถนนเกษตร-นวมินทร์ไปยัง ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วน), ถนนพหลโยธิน, ถนนงามวงศ์วาน และ ถนนวิภาวดี-รังสิต และ จากถนนนวมินทร์ ก็สามารถเชื่อมต่อ ถนนลาดพร้าว, ถนนเสรีไทย และ ถนนรามคำแหง เข้าถนนพระราม 9 นอกจากนั้นในระยะไม่เกิน 10 กม. ก็มีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และวงแหวนกาญจนาฯให้เลือกใช้ ถึงจะไม่ได้ใกล้กับโครงมากแต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการเข้า-ออกเมืองค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์นั้นก็ถือว่าไม่ลำบากเท่าไหร่ แม้ว่าจะไม่มีรถโดยสารประจำทางวิ่งผ่านหน้าโครงการ แต่ก็จะมีรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านไป-มาเกือบตลอดทั้งวัน ถ้าไม่อยากรอนานเดี๋ยวนี้จะใช้ Application ทั้ง Uber, GrabTaxi หรือจะเป็น GrabBike ก็สะดวกสบายค่ะ
นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ, สายสีส้ม ช่วง ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และ สายสีชมพู ช่วง แคราย-มีนบุรี วิ่งผ่านบริเวณโดยรอบโครงการ แต่ที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นสถานี บางกะปิ ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งห่างจากสถานีลำสาลีเพียงสถานีเดียว ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้มค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น สไตล์อังกฤษ มีทั้งหมด 335 ยูนิตบนพื้นที่ 33 ไร่เศษ โครงการถูกออกแบบด้วยแนวคิด Extra Function & Extra Spec มีความโดดเด่นที่ Function และพื้นที่การใช้สอยที่ใหญ่กว่าทาวน์โฮมทั่วๆไป โครงการออกแบบให้บ้านมีฝ้าเพดานที่สูงโปร่งทั้งชั้นบนและชั้นล่าง หน้าต่างขนาดใหญ่รอบบ้านทำให้บ้านดูโปร่งโล่งและแสงสว่างจากภายนอกสามารถส่องเข้ามาได้ทั่วถึง โดยรวมแล้วการวางแปลนก็ไม่ได้ต่างจากโครงการอื่นมากมายนักตามสไตล์ทาวน์โฮม แต่มีจุดที่ดีคือพื้นที่ชั้นลอยเป็น Multi-function บนโถงบันไดชั้น 2 เป็นการใช้พื้นที่ในแนวตั้งให้เกิดประโยชน์ด้วย
ความโดดเด่นของโครงการอีกข้อก็คือวัสดุที่ทางโครงการได้เลือกใช้ ภายในห้องน้ำมีการคัดสรรกระเบื้องหลายชนิดมาใช้ตกแต่งผนังห้องดูสวยงาม ซึ่งอีกหลายๆโครงการจะไม่ค่อยได้ตกแต่งอะไรมาให้สักเท่าไหร่
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการเองก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครันทั้งสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนสาธารณะ โดยบรรยากาศถือว่าทำออกมาได้สวยงามดี ส่วนกลางของโครงการเมื่อเทียบกับปริมาณยูนิตแล้วก็คือว่าค่อนข้างพอเพียงค่ะ ต้องรอดูว่าภายในห้องฟิตเนสทางโครงการจะจัดเครื่องออกกำลังกายอะไรมาให้บ้าง ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยจะมีกล้องวงจรปิด, การเข้า-ออกโครงการจะต้องผ่านป้อมยาม และระบบ Access Key Card
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.5 | อยู่ในซอยวัดหนามแดงใน Pruksa Avenue มีความเงียบสงบ สาธารณูปโภครองรับพื้นที่อยู่อาศัยในซอยลึกเหมาะสำหรับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินน้อยหน่อย น้อย แต่ได้ความสงบ |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 8.0 | สามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง เดินทางไม่ลำบากสามารถใช้เส้นทางหลักๆและทางด่วนได้ |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7.0 | ไม่มีมีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ แต่อยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง, สายสีส้ม และสีชมพู |
บ้านและวัสดุ | 7.4 | บ้านสไตล์อังกฤษ ฟังก์ชั่นมีความกระชับตามสไตล์ทาวน์โฮม วัสดุได้มาตรฐาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.5 | สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันพอดีกับจำนวนยูนิตของโครงการ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.7 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 3 – 5 คน เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.52 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 065 535 4790
WEBSITE : http://goldenland.co.th
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
ห้อง 96 ตร.ม. มีให้ชมห้องตัวอย่างมั้ยค่ะ
สอบถามราคา พอดีเห็นป้าย 1.99 ล้าน
ตอนนี้เปลี่ยนแล้ว ช่ายไหมครับ หรือเป็นราคาโปรโมชั่นครับ
ราคา 1.99 ราคาจับฉลากวันงาน pre-sale ค่ะ เริ่ม 2.5 นะ ถ้าจำไม่ผิดค่ะ