ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 หรือซอยเศรษฐบุตร มีทางเข้า-ออกอีกทางตรงซอยเอกมัย 1 ใกล้ถนนสุขุมวิทเพียง 850 ม. และถนนเอกมัยเพียง 160 ม. ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนฉลองรัช ใกล้ BTS เอกมัย เพียง 1 กม. มีบริการ Shuttle Service รับ-ส่ง และยังใกล้ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ห้องพักอาศัยเป็นแบบ Studio, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 30.75 – 156.93 ตารางเมตร ขายแบบ Fully Furnished ด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าเรียบหรูยกชุดจาก Chanintr, ชุดสุขภัณฑ์ จาก Villeroy & Boch แบรนด์เดียวกับที่ทำสุขภัณฑ์ส่งพระราชวังแวร์ซาย โดยเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เคลือบสาร Anti Bacteria ในตัว และชุดครัวของ Gorenje จากดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกอย่าง Philippe Starck โครงการสร้างเสร็จ พร้อมเข้าอยู่แล้ววันนี้
คอนโด The Reserve ทำเลอื่นๆ ทีน่าสนใจ…
The Reserve เกษมสันต์ 3
The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์
The Reserve สุขุมวิท 61
The Reserve 61 Hideaway
The Reserve สาทร
ชื่อโครงการ
เดอะ รีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61 The Reserve Sukhumvit 61
เจ้าของโครงการ
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) | Pruksa Real Estate
เนื้อที่ทั้งหมด
3-0-34.6 ไร่
จำนวนตึก
2 อาคาร
จำนวนชั้น
7 ชั้น
จำนวนห้อง
182 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
Studio 30.75 – 30.87 ตร.ม.
1 Bedroom 35.91 – 49.53 ตร.ม.
1 Bedroom Plus 47.61 – 48.55 ตร.ม.
2 Bedrooms 61.62- 138.8 ตร.ม.
3 Bedrooms 157.60 ตร.ม.
Duplex 113.32 – 132.11 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
100% หรือ 186 คัน รวมจอดซ้อนคัน
จำนวนลิฟต์
อาคารละ 2 ตัว
โซน
เขตวัฒนา
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า BTS เอกมัย
ถนนสุขุมวิท
ถนนเอกมัย
ถนนเพชรบุรี
ถนนพระรามสี่
ทางด่วนเฉลิมมหานคร
ทางด่วนฉลองรัช
รถโดยสารที่ผ่าน
ปอ. 501, 508, 511, 513, AB3 และ ปอพ.19.30
ที่ตั้ง
ซอยสุขุมวิท 61 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.
กำหนดการ
เริ่มก่อสร้าง : กุมภาพันธ์ 2561
ปีที่สร้างเสร็จ
ธันวาคม 2563
ราคา
1 ห้องนอนเริ่ม 8.9 ล้านบาท* (ม.ค.64)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
ทั้งโครงการประมาณ 230,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 85 บาท/ตร.ม.
ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า
Donki Mall ทองหล่อ : 400 ม.
Parklane Ekamai : 600 ม.
Major Ekamai : 900 ม.
Gateway Ekamai : 1.2 กม.
Big C Ekamai : 1.9 กม.
Tops : 1.9 กม.
Rain Hill : 2.1 กม.
Summer Hills : 2.1 กม.
J Avanue Thonglor : 2.6 กม.
Emquartier : 2.7 กม.
Emporium : 2.8 กม.
The Common : 3.2 กม.
Tesco Lotus พระราม 4 : 3.5 กม.
Big C พระราม 4 : 3.5 กม.
K-Village Sukhumvit : 24 3.7 กม.
สวนสาธารณะเบญจสิริ : 3.9 กม.
Terminal 21 : 3.9 กม.
สถานศึกษา
ม.กรุงเทพ : 2.9 กม.
มศว : 3.9 กม.
Wells International school : 1.9 กม.
Ekamai International school : 3.6 กม.
St.Andrews International school : 3.8 กม.
โรงพยาบาล
รพ.สุขุมวิท : 1.4 กม.
รพ.สมิติเวช : 2.9 กม.
รพ.กรุงเทพ : 4.6 กม.
รพ.ปิยะเวท : 6.3 กม.
รพ.พระราม 9 : 7.4 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Double Volume Lobby
สวนพักผ่อน
สระว่ายน้ำระบบเกลือ
Jacuzzi
ฟิตเนส
ห้องซาวน่า และ ออนเซ็น
Smart Locker
Shuttle Service
EV Charger
Auto Parking
ประตูระบบสแกนใบหน้า และคีย์การ์ด
Access Card Control
CCTV
จุดเด่นของโครงการ
“The Reserve สุขุมวิท 61″ คอนโดใหม่ ระดับพรีเมียม บนทำเลศักยภาพ โซนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย และ ทางด่วน
คอนโด BTS เอกมัย / คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS เอกมัย
คอนโดใกล้ BTS เอกมัย
คอนโดใกล้ BTS เอกมัย ฝั่งสุขุมวิทเลขคู่
ที่ตั้งโครงการ
ถซอยสุขุมวิท 61 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.
พิกัด Google โดยประมาณ : 13.729165, 100.584254
The Reserve สุขุมวิท 61 อยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ที่มีความสงบและสะดวกสบายสูงและมีจุดแข็งที่น่าสนใจหลายอย่าง ตัวโครงการสามารถเข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากซอยสุขุมวิท 61 และซอยเอกมัย 1 ใกล้ถนนหลักสำคัญทั้งถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรี ถนนพระรามสี่ ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนฉลองรัช ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย และ สถานีทองหล่อ และยังใกล้ห้างและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้ง Donki Mall ทองหล่อ, เวิ้งโบราณ, Parklane Ekkamai, Gateway Ekkamai, Major เอกมัย, Big C, Emporium, Emquartier, Terminal 21 ในระยะตั้งแต่เดินถึงไปจนถึงนั่ง BTS ไปเพียง 2-3 สถานีเท่านั้น
ที่ตั้งโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 หรือซอยเศรษฐบุตร ตัวโครงการอยู่ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 850 ม. ซึ่งเป็นเส้นหลักสำคัญในการเดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวก นอกจากนี้ตัวโครงการยังมีจุดเด่นคือสามารถเข้าออกได้จากซอยเอกมัย 1 โดยอยู่ห่างจากถนนเอกมัยเพียง 160 ม. ซึ่งเป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรี และถนนประดิษฐ์มนูธรรม นอกจากนี้ซอยย่อยเอกมัยยังสามารถเชื่อมไปออกทองหล่อ และสุขุมวิท 71(ปรีดีพนมยงค์)
การเดินทางเข้าเมือง หลักๆก็ใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองอย่างเดียวไป ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก สยามได้เลย ถ้าไปโซนพระรามสี่จากถนนสุขุมวิทเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 40 เชื่อมออกถนนพระรามสี่ได้ จากนั้นก็วิ่งไปเข้าสวนลุม สาทร สีลม สามย่าน หัวลำโพง เชื่อมต่อไปเยาวราชได้เลย จากถนนพระรามสี่จะมีจุดเชื่อมขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครได้ ระยะห่างจากโครงการประมาณ 3.7 กม. ไปได้หลายที่ทั้ง พระรามเก้า ดาวคะนอง พระรามสอง แจ้งวัฒนะ ดินแดง วิภาวดีรังสิต
ถ้าจะไปในเอกมัยจากโครงการก็ไปออกทางซอยเอกมัย 1 เชื่อมออกถนนเอกมัยได้เลย หรือวิ่งเชื่อมไปถนนเพชรบุรี จากนั้นวิ่งเข้าเมืองไปเชื่อม อโศกมนตรี นานา ชิดลม ประตูน้ำ ราชเทวี หรือเชื่อมไปออกถนนพระรามเก้าได้
การเดินทางออกนอกเมือง ถ้าไปโซนพระโขนง อ่อนนุช บางนา ใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งตามแนว BTS ยาวไปจนถึงสมุทรปราการได้เลย ตรงแถวๆแยกพระโขนงมีจุดขึ้นทางด่วนฉลองรัช ไปโซนรามอินทรา ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ หรือตรงแยกบางนาตัดเข้าถนนบางนาตราด วิ่งออกฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยา มีทางด่วนบูรพาวิถีให้ขึ้นสะดวกดี ถ้าไปออกเส้นเพชรบุรีวิ่งไปเข้าพัฒนาการ ศรีนครินทร์ ลาดกระบังได้ ซอยเอกมัยวิ่งยาวไปออกถนนพระรามเก้าเชื่อมออกมอเตอร์เวย์ และเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมได้
ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนฉลองรัชห่างจากโครงการประมาณ 3.5 ม. จากโครงการมาออกถนนสุขุมวิท จากนั้นวิ่งมาทางพระโขนงจะเจอป้ายบอกไปขึ้นทางด่วน
ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนเฉลิมมหานครห่างจากโครงการประมาณ 3.7 กม. จากโครงการมาออกถนนสุขุมวิทและมาเข้าซอยสุขุมวิท 40 เชื่อมมาออกถนนพระรามสี่และมาเข้าถนนกล้วยน้ำไทจากนั้นจะเจอป้ายบอกไปขึ้นทางด่วน
การเดินทางโดยสาธารณะ ตัวโครงการอยู่ห่างจาก BTS เอกมัยประมาณ 1 กม. ถ้าคนชอบเดินก็พอเดินได้ในซอยมีทางเท้าเดินได้สะดวก สำหรับคนไม่ชอบเดินทางโครงการมี Shuttle Service บริการรับ-ส่งฟรี หรือจะเรียกใช้วินมอเตอร์ไซค์ก็ได้ครับ จาก BTS เอกมัยนั่งไปลง BTS อโศกเพียง 3 สถานีจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท นอกจากนี้ถ้าออกมาตรงเส้นสุขุมวิท และเอกมัยจะมีทั้ง Taxi วินมอเตอร์ไซค์ และรถเมล์วิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง วิ่งเกือบทั้งคืน ภาพรวมค่อนข้างสะดวกดี
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
แยกพระโขนง : 2.1 กม.
แยกอโศก : 3.8 กม.
แยกคลองตัน : 4.9 กม.
แยกเพชรบุรี : 6.3 กม.
ถนนสุขุมวิท : 800 ม.
ซอยเอกมัย (สุขุมวิท 63) : 1.1 กม.
ซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) : 1.4 กม.
ซอยปรีดีพนมยงค์ (สุขุมวิท 71) : 2.1 กม.
ถนนพระราม 4 : 2.2 กม.
ถนนรัชดาภิเษก : 3.8 กม.
ถนนอโศก-ดินแดง (สุขุมวิท 21) : 3.8 กม.
ถนนเพชรบุรี : 3.8 กม.
โครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ห่างจากถนนใหญ่สุขุมวิทประมาณ 850 เมตร โครงการนี้มี 2 เฟสครับ มีรั้วแบ่งกั้นโครงการเฟส 1 และ 2 ออกจากกัน มีซุ้มทางเข้าออกโครงการแยกกัน แต่ใช้ถนนภาระจำยอมเพื่อเข้าออกจากซอยสุขุมวิท 61 และซอยเอกมัย 1 ร่วมกัน รอบๆโครงการปัจจุบันแทบทุกทิศเป็นอาคารที่พักอาศัยแนวราบแทบทั้งหมด ยกเว้นทิศเหนือในอนาคตที่จะเป็นที่ดินโครงการเฟส 2
ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ในซอยสุขุมวิท 61 จะมีแหล่งรวมร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก และ Maxvalue อย่าง Parklane อยู่ห่างจากโครงการเพียง 600 เมตรเท่านั้น จะไปซื้อหนังสือ ซื้อของกินของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือรับประทานอาหารก็เดินไปได้สบายๆ ภายในมีร้านอาหารและร้านนั่งชิลล์สำหรับแฮงก์เอ้าท์กับเพื่อนๆให้เลือกมากมายหลายร้าน หรือออกมาตรงปากซอยจะมี Major เอกมัยดูหนังรอบดึกได้สบายๆ
หรือจะเดินเชื่อมไปอีกฝั่งจะมี Gateway เอกมัย มีร้านอาหาร ร้านขนมและร้านค้าเยอะมาก ส่วนมากเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ถ้าเดินไปในซอยเอกมัยใกล้ๆเพียง 400 ม. จะมี Donki Mall เปิดให้บริการ 24 ชม. ภายในประกอบด้วยร้านค้าต่าง ๆ กว่า 30 แบรนด์ ทั้งสปอร์ต เอนเทอร์เทนเมนต์, ร้านอาหาร, คาราโอเกะสัญชาติญี่ปุ่น, พื้นที่จัดกิจกรรมภายนอก ฯลฯ
นอกจากนี้แหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่สุขุมวิทซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมายเดินทางไปได้สะดวก หรือจะเข้าไปในทองหล่อ เอกมัย เองก็มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพอยู่แล้วเรื่องผับ บาร์ และร้านอาหารอีกเป็นร้อยร้าน เปิดทั้งกลางวันกลางคืน มีทั้งโรงพยาบาล,โรงหนัง, วัด, ห้างสรรพสินค้า, Community mall ผุดขึ้นมามากมาย ใครมีไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยว ชอบแฮงก์เอาท์นัดเจอกันร้านอาหารสวยๆก็น่าจะถูกใจกัน
หรือจะขึ้น BTS ไปไม่กี่สถานีเท่านั้นก็สามารถเข้าถึงห้างใหญ่และแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองได้มากมาย ทั้ง Emporium, Emquartier, Terminal 21, Central Embassy, Central ชิดลม, Central World, Siam Square One, Siam Paragon, Siam Center, Siam Discovery, MBK
ห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ใกล้ๆมี Terminal 21 , Emporium , Emquartier , Rain Hill , Gateway เอกมัย , J Avanue , Market Place , Maze , The Commons , 72 Courtyard , The Taste , 9:53 Art Mall , 49 Terrace , ตึก Eight , Donki Mall , Major เอกมัย , K-Village , Big C เอกมัย , Lotus พระรามสี่ , Big พระรามสี่
นอกจากนั้นก็ยังมีสถานศึกษาที่อยู่ในโซนนี้ อย่าง มศว. และโรงเรียนนานาชาติอีกหลายแห่ง เช่น Bangkok Prep , Wells International School, The American School of Bangkok, Ekkamai International School เป็นต้น และโรงพยาบาลชั้นนำในโซนนี้ก็มี รพ.คามิลเลียน และ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท, รพ.กรุงเทพ, รพ.ปิยะเวท, รพ.สุขุมวิท, รพ.กล้วยน้ำไท เป็นต้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า
Donki Mall ทองหล่อ : 400 ม.
Parklane Ekamai : 600 ม.
Major Ekamai : 900 ม.
Gateway Ekamai : 1.2 กม.
Big C Ekamai : 1.9 กม.
Tops : 1.9 กม.
Rain Hill : 2.1 กม.
Summer Hills : 2.1 กม.
J Avanue Thonglor : 2.6 กม.
Emquartier : 2.7 กม.
Emporium : 2.8 กม.
The Common : 3.2 กม.
Tesco Lotus พระราม 4 : 3.5 กม.
Big C พระราม 4 : 3.5 กม.
K-Village Sukhumvit : 24 3.7 กม.
สวนสาธารณะเบญจสิริ : 3.9 กม.
Terminal 21 : 3.9 กม.
สถานศึกษา
ม.กรุงเทพ : 2.9 กม.
มศว : 3.9 กม.
Wells International school : 1.9 กม.
Ekamai International school : 3.6 กม.
St.Andrews International school : 3.8 กม.
โรงพยาบาล
รพ.สุขุมวิท : 1.4 กม.
รพ.สมิติเวช : 2.9 กม.
รพ.กรุงเทพ : 4.6 กม.
รพ.ปิยะเวท : 6.3 กม.
รพ.พระราม 9 : 7.4 กม.
การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนสุขุมวิทตรงแยกอโศกมุ่งหน้าบางนา ขับตามแนวรถไฟฟ้า BTS ผ่านแยกทองหล่อ จากนั้นเตรียมชิดซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 61 เข้าซอยและตรงไปสุดซอยประมาณ 850 ม. จะเจอพื้นที่โครงการตรงหน้า
สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > ซอยสุขุมวิท 61 > The Reserve สุขุมวิท 61
เริ่มจากตรงแยกอโศกบนถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปทางเอกมัย
จากนั้นจะผ่านแยกสวัสดี ขวามือจะเป็น Emsphere อยู่ในช่วงก่อสร้างอยู่
ถัดมาหน่อยจะเป็น BTS พร้อมพงษ์ ซ้ายมือเป็น EmQuartier ฝั่งขวาจะเป็น Emporium
ถัดมาอีกซ้ายมือเป็น Rain Hill
ถัดมาจะเป็น BTS ทองหล่อ
และจะเจอแยกทองหล่อ
จากนั้นจะเจอซอยสุขุมวิท 61 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย ปากซอยมี FamilyMart และ Major เอกมัย ถ้าเลยซอยสุขุมวิท 61 ไปอีกประมาณ 200 ม. จะเป็นที่ตั้งของ BTS เอกมัยครับ
จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 61 ตรงเข้าไปประมาณ 850 ม. จะเจอพื้นที่โครงการ
เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 61 มา ก็ตรงไปสุดซอย ในซอยจะเป็นถนนขนาด 2 เลนรถวิ่งสวนกันได้
ช่วงปากซอยจะมีร้านค้าร้านอาหารหลายร้าน
ถัดมาขวามือจะเป็น Park Lane เอกมัย เป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 600 เมตร
ภายใน Parklane เอกมัย มี MaxValu ขนาดใหญ่ที่เปิด 24 ชั่วโมง เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่จากโครงการเดินมาช้อปได้สบายๆ รวมถึงภายใน Parklane มีร้านอาหาร, บาร์ และร้านขนมต่างๆเยอะมาก รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะสปาเสริมสวย, ร้านทำเล็บ, ร้านตัดผม, ร้านหนังสือ และตู้ ATM
ถัดเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียม และบ้านพักอาศัย
จากนั้นจะเจอพื้นที่โครงการตรงหน้า ฝั่งขวาที่เห็นล้อมรั้วจะเป็นพื้นที่ของโครงการ IMPRESSION เอกมัย
มองไปฝั่งซ้ายจะติดกับบ้านพักอาศัย
เดินตรงเข้ามาจะเป็นถนนภาระจำยอม ใช้งานร่วมกัน 2 โครงการคือ The Reserve สุขุมวิท 61 และ The Reserve 61 Hideaway ริมสองฝั่งทางจะมีแนวต้นไม้ปลูกไว้
และจะเจอด้านหน้าโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61
จากหน้าโครงการผมจะพาเดินไปออกซอยเอกมัย 1 ครับ
เดินตรงเข้ามาขวามือเป็นเป็นซอยเอกมัย 1 ตรงหน้าจะเป็นโครงการ The Reserve 61 Hideaway จะติดกับพื้นที่โครงการด้านข้าง ถ้าโครงการแล้วเสร็จทางทีมงาน Homenayoo จะพาเข้ามาชมกันอีกครับ
เดินออกไปทางซอยเอกมัย 1 ต่อครับ ระยะถึงปากซอยเพียง 160 ม. เท่านั้น แต่เดิมซอยเอกมัย 1 จะเป็นซอยตันแต่ทางพฤกษาได้เข้ามาจัดสรรที่ดินและเปิดเชื่อมมายังพื้นที่โครงการ เพื่อให้สามารถเชื่อมเข้าออกระหว่างถนนเอกมัย และถนนสุขุมวิทได้สะดวกนั่นเองครับ โดยผู้ที่สามารถใช้ถนนภาระจำยอมนี้ได้จะต้องเป็นลูกบ้าน The Reserve 2 โครงการนี้เท่านั้นครับ
ในซอยเอกมัย 1 ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย
ช่วงเกือบถึงปากซอยจะมีร้านอาหารตามสั่ง
บริเวณปากซอยเอกมัย 1 มีร้านอาหาร สบายใจ ออล เดย์ หน้าร้านมีป้ายรถเมล์ ฝั่งตรงข้ามเป็นซอยเอกมัย 10 ตรงปากซอยมี Health Land เอกมัย และเวิ้งโบราณใครที่เป็นสายปาร์ตี้น่าจะทราบดีว่าในนี้มีร้านดังอยู่ด้วยครับ เดินมาเที่ยวได้เลย
เดี๋ยวผมพาเดินไปดูต่อว่าในซอยเอกมัยมีอะไรน่าสนใจอีก ปากซอยเอกมัย 1 ฝั่งนี้จะเป็นโครงการ Rhythm Ekkamai Estate
ถัดมาฝั่งตรงข้ามมี 7-11
ผ่านซอยเอกมัย 3 มีอาคาร Modern Town
ถัดมามีป้ายรถเมล์
ถัดมามีร้านอาหาร ฝั่งตรงข้ามก็มีร้านอาหารอร่อยๆ หลายร้านเลยครับ
ถัดมาจะเจอ 7-11 อยู่ตรง 4 แยก
สี่แยกไฟแดงตรงนี้เป็นแยกสำคัญของซอยเอกมัยครับ เนื่องจากถ้าเลี้ยวไปซอยเอกมัย 12 สามารถเชื่อมไปออกถนนสุขุมวิท 71 (ปรีดีพนมยงค์)ได้ และถ้ามาทางซอยเอกมัย 5 จะเชื่อมไปออกถนนทองหล่อ(สุขุมวิท 55)ได้นั่นเองครับ นอกจากนี้ใกล้ๆแยกนี้ยังมีร้านแฮงค์เอาท์ดังๆหลายร้านเลย เดินจากโครงการมาได้เช่นกันครับสะดวกดีไม่ต้องขับรถมาให้เสียเวลา
เดินเข้ามาในซอยเอกมัย 5 จะเจอ DONKI Mall ทองหล่อ เปิดให้บริการ 24 ชม. ภายในประกอบด้วยร้านค้าต่าง ๆ กว่า 30 แบรนด์ ทั้งสปอร์ต เอนเทอร์เทนเมนต์, ร้านอาหาร, คาราโอเกะสัญชาติญี่ปุ่น, พื้นที่จัดกิจกรรมภายนอก ฯลฯ ห่างจากโครงการประมาณ 400 ม. เท่านั้นครับ
Floor Plan
มาดูผังโครงการกันครับ เริ่มจากชั้น 1 หรือ Master Plan กันก่อน โครงการจะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร เป็นอาคารรูปตัว L หันหน้าเข้าหากัน ล้อมสวนและพื้นที่ส่วนกลางตรงกลางเอาไว้เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว และวิวฝั่งด้านในอาคารที่สวยงามจากพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าวิวนอก (สังเกตได้จากการจัดยูนิตที่มีขนาดห้องใหญ่กว่าหันไปทางวิวสวนภายในโครงการ) เนื่องจากโครงการเป็นอาคารสูง 7 ชั้น วิวรอบๆจึงมองออกไปไม่ได้ไกลเหมือนอาคารสูงที่มักเน้นวิวเมืองมากกว่า
จากถนนสุขุมวิท 61 เข้ามาในโครงการ ผ่านซุ้มโครงการเข้ามาจะเป็นส่วน Drop-Off ซึ่งมีทางเดินเชื่อมไปยังทางเข้า Lobby อาคาร A และ B สำหรับที่จอดรถ ที่อาคาร A มีที่จอดรถอัตโนมัติให้จอดรถแล้วเข้า อาคารได้เลย ส่วนที่จอดรถปกติจะอยู่ที่ชั้นใต้ดิน โดยทางลงอยู่ที่อาคาร B และมีจุด EV Charger มาให้ 2 จุดด้วยกัน
สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง ที่หน้าอาคาร B จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบเกลือขนาด 38 x 5.8 เมตร อยู่ อาคาร B จะมีวิวสระ พร้อมมียูนิตแบบ Pool Access หรือยูนิตที่เดินลงสระ 4 ยูนิตด้วยกัน และห้องพักอาศัยฝั่งวิวนอกในชั้นล่างสุดล้อมรอบด้วยวิวสวนที่ปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่น และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าวิวใน ทำให้ชั้นล่างนี้จัดว่าน่าอยู่ทั้งวิวนอกและวิวในครับ
ส่วนอาคาร A จะเป็นวิวสวนส่วนกลาง และพื้นที่ส่วนกลางหลักๆอยู่ภายในอาคาร A เกือบทั้งหมด ประกอบด้วย ห้องโยคะ, ห้องฟิตเนส และมี Onsen มาด้วย เอาใจผู้เช่าญี่ปุ่นที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของย่านนี้ คนที่อยู่อาคาร A จึงสามารถเข้าถึงส่วนกลางหลักๆได้ง่ายกว่า แต่มีการแยกส่วนทางเข้าโถงลิฟต์ และส่วนยูนิตที่พักอาศัยมา โดยต้องสแกนหน้าผ่านเข้าไปไม่ปะปนกันเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของคนในอาคาร A นั่นเอง
ผังอาคารชั้น 2 จะมีความหนาแน่นยูนิตต่ำกว่าชั้นบน เนื่องจากมีพื้นที่ส่วนที่เว้นไว้สำหรับ Lobby เพดานสูงของชั้น 1 นั่นเอง อาคาร A มีจำนวนยูนิตอยู่เพียง 9 ยูนิต ทำให้ยูนิตฝั่งทิศตะวันออก หันไปทางฝั่งซอยเอกมัยมีจุดขายหลายอย่าง คือนอกจากความหนาแน่นต่ำ ไม่เจอวิวตึกสูงบังเพราะหันไปทางถนนภาระจำยอมของโครงการ ถัดไปก็เป็นกลุ่มบ้าน 1-2 ชั้น แถมยังได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor และมีสวนหย่อมคั่นกลางระหว่าง 2 ยูนิตอีกด้วย ส่วนอีกฝั่งทางทิศเหนือของอาคาร A เป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้นเพราะใช้รับวิวสระและสวนของโครงการได้
อาคาร B มีจำนวนยูนิต 14 ยูนิต วิวนอกเป็นห้องขนาดเล็ก เน้นเป็นห้อง 1 Bedroom (ยูนิตสีเทา) โดยยูนิตฝั่งทิศใต้ของอาคาร B ได้โถงทางเดินเป็นแบบ Single Corridor เช่นกัน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวและสามารถมองวิวจากสระว่ายน้ำได้จากโถงทางเดิน ส่วนยูนิตวิวด้านในหรือวิวสระมีห้อง Duplex หรือห้องแบบ 2 ชั้นอยู่ 3 ห้อง ล้วนหันเข้าหาวิวสระว่ายน้ำ
ผังอาคารชั้น 3, 6, 7 นั้นจัดผังเหมือนกัน โดยจุดเด่นคือมีห้อง Penthouse หรือห้องหน้ากว้างถึง 20 ม. เป็นยูนิตไฮไลท์ ซึ่งห้อง Penthouse ทั้ง 4 ห้องหันมาทางวิวด้านในที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ส่วนห้องขนาดเล็กส่วนใหญ่เป็นวิวด้านนอกครับ โถงทางเดินจัดผังแบบ Double Corridor หรือแจกเข้าห้องทั้งสองฝั่ง
ผังอาคารชั้น 4-5 มียูนิตพิเศษคือมีห้องกระจกทรงโค้งที่รับวิวสระและสวนได้กว้างขวาง ตรงกลางระหว่างกระจกทรงโค้งเป็นสวนบนอาคาร จะเห็นว่าปลูกต้นไม้ใหญ่มาด้วย ให้เราได้พักผ่อนท่ามกลางสวนที่ร่มรื่นอย่างเต็มที่
โครงการ
The Reserve สุขุมวิท 61 ออกแบบภายใต้แนวคิด RESERVE YOUR EXCLUSIVITY ตกแต่งมาในสไตล์ Modern Classic Luxury ที่มาพร้อมความหรูหราและอบอุ่น เหนือระดับในทุกรายละเอียด รูปแบบโครงการเป็นคอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินโครงการขนาด 3-0-34.6 ไร่ ชั้นพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 1-7 Facility จะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด ทั้งภายในอาคารและพื้นที่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ที่จอดรถจะเป็นแบบ Auto Parking 130 คัน และแบบ Conventional 46 คัน จอดซ้อนคันได้ 10 คัน รวมทั้งโครงการจอดได้ 186 คัน หรือคิดเป็น 100% รวมซ้อนคัน
เริ่มจากด้านหน้าโครงการจะมีประตูแยกสำหรับคนเดิน และประตูสำหรับรถเข้าออก ตรงกลางมีป้อม รปภ.พร้อมป้ายชื่อโครงการชัดเจน
ด้านหน้าจะเราจะเห็นส่วนของอาคาร A
ด้านหน้าทางเข้าออกสำหรับคนเดิน มีประตูกั้นต้องใช้ Key Card
ถัดมาจะเป็นทางสำหรับรถเข้าออก
มีไม้กระดกแยกทางเข้าออก ใช้ระบบแบบ Easy Pass ส่วนผู้ที่มาติดต่อต้องแลกบัตรก่อน
ผ่านเข้ามาจะเห็นวงเวียนต้นไม้ตรงหน้า เป็นจุด Drop Off ถ้าตรงไปลงชั้นใต้ดินอาคาร B จะเป็นที่จอดรถ ซ้ายมือใต้อาคาร B จะมีจุดจอดรถพลังงานไฟฟ้า EV Charger
จุด Drop Off ของโครงการ มีทางเดินเชื่อมเข้าไปยังทั้ง 2 อาคาร ส่วนขวามือจะเป็น Auto Parking
ลงไปดูที่จอดรถชั้นใต้ดินอาคาร B กันต่อ
ที่จอดรถชั้นใต้ดินจะมีให้ 2 ชั้น เป็นถนนตรงกลางและแบ่งช่องจอดซ้ายขวา
กลับขึ้นมาตรงจุด Drop Off
วนมาอีกฝั่งที่อาคาร A จะมี Auto Parking แบ่งเป็น 2 ช่อง ซ้ายมือจะเป็นทางเดินเชื่อมเข้าไปด้านใน
ทางโครงการมี Shuttle Service บริการรับ-ส่ง ฟรี
จากจุด Drop Off เดินเข้าไปดูด้านในกันต่อครับ ด้านในจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร
เดินมาขวามือจะเป็นฝั่งอาคาร A
มุมนี้จะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนแบบ Outdoor วางชุดโต๊ะนั่งมาให้หลายชุดเลย ขวามือจะเป็นทางเดินเชื่อมไปยังห้องนิติบุคคล ถัดมาที่เป็นห้องกระจกจะเป็น Lobby
มองไปฝั่งอาคาร B
จากพื้นที่นั่งเล่นมองออกไปยังพื้นที่สวนตรงกลาง
พื้นที่สีเขียวของโครงการออกแบบโดย t.r.o.p บริษัทออกแบบ Landscape ชื่อดังที่ทำโครงการระดับประเทศมามากมาย สวนของโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากสวนใน Manhattan จาก New York ซึ่งเป็นสไตล์คลาสสิคที่ดูหรูหราและร่มรื่น มีไม้ใหญ่และไม้พุ่มตกแต่งมาให้เยอะ
ต้นไม้ใหญ่สูงขึ้นไปถึงชั้น 3
เดินไปดูฝั่งอาคาร B กันต่อครับ ตามทางเดินจะมีต้นไม้ในกระถางตัดแต่งเป็นทรงกรวย
เดินมาตรงหน้าจะเป็นสระว่ายน้ำ ซ้ายมือจะมี Sunken Seat เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน
บริเวณส่วน Sunken Seat ล้อมรอบด้วยต้นไม้
ที่ชั้น 4-5 ฝั่งด้านในของทั้ง 2 อาคาร จะมียูนิตพิเศษแบบ Sky Courtyard เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 69.15 ตร.ม. ตรงห้องนอนจะยื่นออกมาจากตัวอาคารพร้อมผนังกระจกโค้ง เปิดรับวิวพื้นที่สวนและสระส่วนกลางได้กว้างขวางกว่าห้องแบบอื่น ตรงกลางระหว่างกระจกทรงโค้งจะมี Pocket Garden จะเห็นว่าปลูกต้นไม้ใหญ่มาให้ด้วย
ถัดมาจะเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบเกลือขนาด 38 x 5.8 ม. วาง Day Bed ไว้ริมสระ 2 ฝั่ง
ฝั่งปลายสระด้านในจะมีน้ำพุตกแต่งสร้างเสียงเพื่อเพิ่มบรรยากาศได้ดี
มองกลับไปอีกฝั่ง พื้นสระกรุด้วยหินธรรชาติ Silver gray ที่ส่องประกายระยิบระยับเพราะมีส่วนเงาวาวแบบ Glitter ในเนื้อหิน นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรงทนทานไม่สึกกร่อนง่ายๆ
ที่อาคาร B ชั้น 1 จะมียูนิตพิเศษ 4 ยูนิต เป็นห้องแบบ Duplex 3 ห้อง และห้องปกติ 1 ห้อง ทั้ง 4 ห้องนี้จะเป็น Pool Access ตรงระเบียงเปิดเชื่อมออกมาสระว่ายน้ำได้เลย
มองจากปลายสระอีกฝั่ง
จากมุมปลายสระ
จากปลายสระเงยหน้ามองไปยังตัวอาคาร B
จากสระว่ายน้ำมีทางเดินเชื่อมไปยังอาคาร A ขวามือจะมี Jacuzzi
บริเวณ Jacuzzi วิวมองออกไปที่สวนตรงกลาง นอนแช่ตัวพร้อมชมวิวธรรมชาติเพื่อความผ่อนคลาย
ทางเดินจะเชื่อมมายังใต้อาคาร A ซึ่งจะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่
เดินเข้ามาด้านในจะมีพื้นที่นั่งพักผ่อน
วิวมองออกไปที่สวนและสระ
ถัดมาซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำแยกชายหญิง ด้านในจะเป็นห้องฟิตเนส
ภายในห้องน้ำชาย ฝั่งนี้จะเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า มีไดร์เป่าผมมาให้ด้วย
ฝั่งนี้จะเป็นตู้ Locker
ด้านเข้ามาจะมีโถปัสสาวะ และห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำ
อีกฝั่งจะมีห้องอาบน้ำ และห้องซาวน่า ห้องออนเซ็น
ภายในห้องอาบน้ำ
ภายในห้องซาวน่า
ภายในห้องออนเซ็นแบ่งเป็นโซนนั่งอาบน้ำแบบญี่ปุ่น
และด้านในเป็นบ่อออนเซ็น
กลับออกมาด้านใน ถัดมาจะเป็นห้องฟิตเนส ประตูใช้ระบบสแกนหน้า หรือ Key Card ครับ
ภายในห้องฟิตเนสจะวางเครื่องออกกำลังกายมาหลากหลายของ Technogym แบรนด์ดังจากอิตาลี
มีลู่วิ่ง เครื่องเดิน และเครื่องปั่นจักรยาน พร้อมจอระบบสัมผัส ดูหนัง ฟังเพลงพร้อมออกกำลังกายไปด้วย
อีกฝั่งมีม้านั่งออกกำลังกาย ดัมเบล
มีเครื่องบริหารกล้ามเนื้อ
วิวจากห้องฟิตเนสมองออกไปที่สวนด้านนอก
จากห้องฟิตเนสจะมีประตูเดินเชื่อมไปยังห้องโยคะ
เปิดประตูออกมาขวามือจะเป็นห้องโยคะ
ภายในห้องโยคะจะเป็นพื้นที่โล่งๆ มีเสื่อโยคะ และลูกบอลออกกำลังกาย
กลับออกมาตรงด้านหน้า Lobby อาคาร A ตัว Lobby ฝ้าแบบ Double Volume สูงถึงชั้น 2 ที่ผนังจะเห็นว่าเป็นกระจกสูงตีเฟรมสไตล์คลาสสิค มีประตูเป็นแบบบานเปิด ซ้ายมือมีประตูเข้าอาคาร A ขวามือเป็นทางเดินไปยังห้องนิติ
ภายใน Lobby จะวางชุดโซฟาไว้ตามมุมต่างๆ
ใน Lobby จะมีจอของ Auto Parking เราสามารถเรียกรถจากในนี้และนั่งรอได้เลย
มุมนั่งพักผ่อนใน Lobby
จาก Lobby มีประตูเดินเชื่อมออกมายังโถงโล่งตรงนี้ ซ้ายมือจะเป็น Mail Box ขวามือเป็นห้องน้ำ
ติดกับห้องน้ำจะมี Smart Locker
อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ ตรงหน้าจะเป็นห้องสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็น
ด้านในจะเป็นห้องน้ำแยกชายหญิง
ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Mail Room
ภายใน Mail Room
มีทางเดินเชื่อมมายังทางเข้าอาคาร A ขวามือ
ด้านหน้าประตูทางเข้าอาคาร A
ทางเข้าอาคารใช้ระบบสแกนหน้า และ Key Card และมี VDO Door Phone สำหรับให้ผู้มาเยี่ยมใช้กดเลขห้องที่มาเยี่ยม โดยเชื่อมต่อกับ VDO Door Phone ภายในห้องพักอาศัย ซึ่งเราสามารถกดเปิดประตูล็อบบี้ชั้นล่างเพื่อรับแขกที่มาเยี่ยมให้เข้ามารอภายในอาคารได้ แต่ผู้มาเยี่ยมไม่สามารถเดินขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องของลูกบ้านได้ เพราะลิฟต์ในโครงการเป็นลิฟต์ล็อกชั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคนในโครงการอีกชั้นนึงนั่นเอง
เดินเข้ามาด้านในจะเป็นโถงลิฟต์ ตกแต่งสไตล์เรียบหรู ด้านในจะมีประตูเชื่อมไปยังส่วนพักอาศัย และเชื่อมไปยัง Facility
มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
ภายในลิฟต์โดยสาร ลิฟต์เป็นระบบล็อคชั้นใช้ระบบสแกนหน้า และ Key Card มีการติดตั้งหลอดฆ่าเชื้อ UV โดยจะทำงานในเวลาที่ไม่มีคนใช้ลิฟต์ ซึ่งนิติบุคคลจะเป็นผู้ดูแลระบบครับ
บริเวณโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัย
บริเวณโถงทางเดินส่วนพักอาศัย จะมีรูปตกแต่งตามทางเดิน
กลับมาตรงด้านหน้าทางเข้าอาคาร B
เดินเข้ามาในอาคาร ส่วนแรกจะเป็น Lobby มีเคาน์เตอร์ต้อนรับ ฝ้าสูงถึงชั้น 2
ด้านในจะมีชุดโซฟาจุดไว้ตามมุมต่างๆ
วิวมองออกไปเห็นสระว่ายน้ำด้านนอก
ด้านในจะเป็นประตูเชื่อมเข้าไปยังโถงลิฟต์
ภายในโถงลิฟต์ มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
อีกฝั่งมีทางเดินไปยัง Mail Room และส่วนพักอาศัยชั้น 1
ภายใน Mail Room
บริเวณทางเข้าส่วนพักอาศัยชั้น 1
Units Type
โครงการมีห้องให้เลือกหลักๆ 6 แบบ ดังนี้
Studio ขนาด 30.75 – 30.87 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 35.91 – 49.53 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 47.61 – 48.55 ตร.ม.
2 Bedrooms ขนาด 61.62- 138.8 ตร.ม.
3 Bedrooms ขนาด 157.60 ตร.ม.
Duplex 113.32 – 132.11 ตร.ม.
Studio – A1 30.75 ตร.ม. / Studio – A2 30.87 ตร.ม.
1 Bedroom-B1 : 35.91 ตร.ม.
Exclusive 1 Bedroom-B2 : 48.54 ตร.ม.
Exclusive 1 Bedroom Plus-B3 : 47.61 ตร.ม. / Exclusive 1 Bedroom Plus-B4 : 48.55 ตร.ม.
Exclusive 2 Bedrooms-C2 : 62.61 ตร.ม.
Sky Courtyard-C6 : 69.15 ตร.ม.
Penthouse-C16 : 125.44 ตร.ม.
Villa-D1 : 157.60 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 2 แบบ
Studio ขนาด 30.75 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 48.54 ตร.ม.
โครงการขายแบบ Fully Furnished ด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าเรียบหรูยกชุดจาก Chanintr, ชุดสุขภัณฑ์ จาก Villeroy & Boch แบรนด์เดียวกับที่ทำสุขภัณฑ์ส่งพระราชวังแวร์ซาย โดยเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เคลือบสาร Anti Bacteria ในตัว และชุดครัวของ Gorenje จากดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกอย่าง Philippe Starck
แบบแรก ที่พามาชมเป็น Studio A1 ขนาด 30.75 ตร.ม. ส่วน A2 จะเป็นห้อง Mirror กันครับ เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อน จะได้เป็นครัวปิดมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดปิดแยกส่วนได้ ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน ภายในมีพื้นที่มาให้พอสมควร วางเตียง 5 ฟุต และโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้ ด้านข้างเตียงมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานหรือวางโซฟาได้ ติดกันจะเป็นระเบียง ฝั่งด้านในจะเป็นห้องน้ำและพื้นที่สำหรับ Walk in closet เล็กๆ
เริ่มจากประตูห้องมีดีเทลที่สวยใช้ได้เลย และเป็น Ventilation Door หรือประตูระบายอากาศได้ มีตาแมวไว้ส่องคนมาเคาะพร้อม Digital Doorlock ติดตั้งมาให้เรียบร้อยของ Yale
แถบอลูมิเนียมสีน้ำตาลที่ประตูทางเข้า เป็นการออกแบบให้เป็นประตูที่สามารถระบายอากาศได้ ทำให้กลายเป็นประตูแบบ Ventilation Door ที่สามารถเปิดปิดช่องระบายอากาศได้จากด้านในห้องได้ และมีผลให้ช่วยระบายอากาศได้ดีกว่าห้องพักโดยทั่วไป
ซึ่งก็ช่วยระบายอากาศ และถ่ายเทความร้อนออกจากห้องพักได้ดีขึ้นเยอะ แถมเวลาเปิดแอร์ก็ปิดช่องระบายอากาศไว้ได้ด้วย
เหนือประตูห้องด้านใน จะมีไฟ Welcome Light เปิด-ปิดเองอัตโนมัติ เมื่อมีการเปิด-ปิดประตูห้อง ประตูจะมีโช๊คอัพติดตั้งมาให้ด้วย
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อน ด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอน พื้นส่วนครัวจะเป็นกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน พื้นส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นพื้นไม้ Engineering Wood โดยปูเป็นลายแบบก้างปลาแบบที่เรียกว่าลาย Herringbone ซึ่งเป็นลายที่ใช้เทคนิคในการปูยากกว่าการปูพื้นแบบปกติ เป็นอีกดีเทลที่เพิ่มความหรูหราและพิเศษให้กับตัวห้อง ไฟจะได้แบบดาวน์ไลท์หลอด LED เพดานห้องสูง 2.7 เมตร แต่ส่วนครัวจะดรอปฝ้าลงมาประมาณ 2.4 เมตร
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้
ที่ผนังใกล้ๆประตูจะจะมี VDO Door Phone จาก Bticino โดยเชื่อมต่อกับ VDO Door Phone ที่ประตูทางเข้าโถงลิฟต์ชั้นล่างสำหรับให้ผู้มาเยี่ยมใช้กดเลขห้องที่มาเยี่ยม ซึ่งเราสามารถกดเปิดประตูชั้นล่างเพื่อรับแขกที่มาเยี่ยมให้เข้ามาตรงโถงลิฟต์ได้ หรือบอกให้ไปนั่งรอตรง Lobby ก็ได้ครับ
ติดกับประตูห้องฝั่งนี้จะเป็นตู้เก็บของ เก็บรองเท้า เป็นตู้บานเปิด 2 บาน สูงจากพื้นถึงฝ้า
ถัดมาจะเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัวจะได้ตามนี้เลย มีเว้นช่องสำหรับวางตู้เย็น
ชุดตู้ด้านบนเป็นแบบบานเปิด 4 บาน หน้าบานตู้จะเป็นกระจกลอนดูสวยงาม ในตู้จะมีชั้นที่สามารถยกขึ้นลงเพื่อให้การหยิบของใช้งานได้สะดวก
ชุดตู้ด้านล่างเป็นลิ้นชัก และบานเปิด หน้าบานจะเป็น High-Gloss
ลิ้นชักตรงกลางที่เป็นช่องถังขยะจะมีเซ็นเซอร์ด้านล่าง ที่ไฟสีขาวส่องลงมา เพียงแค่เราใช้เท้ายื่นเข้าไปตรงตำแหน่งไฟถังขยะก็จะเปิดอัตโนมัติออกมาเองครับ
ใต้อ่างล้างจานจะติดตั้ง Food waste Disposer หรือเครื่องกำจัดเศษอาหารมาให้ อันนี้ไม่ค่อยเห็นในไทยใช้กันเท่าไหร่ ต่อให้เป็นโครงการระดับซุปเปอร์ลักซัวรี่ก็ไม่ค่อยเห็นฟังก์ชั่นนี้มากนัก ข้อดีคือเศษอาหารที่ตกลงไปในท่ออ่างล้างจานนี่ปกติเราต้องเขี่ยออกมาใส่ถุงขยะต่างหาก แต่พอมีเครื่องนี้เราไม่ต้องเขี่ยเศษอาหาร แต่สามารถเขี่ยลงท่อไปเลยจากนั้นกดสวิชต์เครื่องกำจัดเศษอาหารที่ด้านล่างอ่างจานได้เลย
เมื่อเศษอาหารผ่านตัวเครื่องกำจัดเศษอาหารแล้วทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงเศษผุยผงขนาดเล็กที่นอกจากจะทำให้ท่อไม่อุดตันแล้ว เมื่อปล่อยลงไปตามท่อน้ำทิ้งต่างๆแล้วแทบจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เลย และยังแก้ปัญหาการที่เราจะต้องเทเศษอาหารที่เหลือทิ้งในถุงหรือในวัสดุอื่นเพื่อนำไปทิ้งในถังขยะหรือในแหล่งต่างๆที่ทั้งยุ่งยากและสกปรกเลอะเทอะอยู่เสมอได้ด้วยนั่นเอง
อ่างล้างจานแบรนด์ Blanco วัสดุทำจากหินแกรนิต ที่มีความทนทานสูงต่ออุณหภูมิทั้งร้อนและเย็น พื้นที่ด้านข้างอ่างเซาะร่องเพื่อให้น้ำไหลลงอ่างได้ และก็อกน้ำโครเมียมทรงโค้งที่มีความพิเศษคือเปิดปิดด้วยระบบสัมผัสตรงหัวก๊อกด้านบน สะดวกกว่าหมุนเปิดหรือผลักก้านโยกเปิดไปอีกขั้น
ใต้ตู้ด้านบนมีไฟ LED เปิดปิดอัตโนมัติ เพียงแค่ใช้มือปัดผ่านเซ็นเซอร์ก็สามารถเปิดปิดไฟได้เลย
ถัดมาเป็นชุด Hob & Hood มีดีไซน์เข้าชุดเรียบง่ายแต่ดูล้ำยุคอย่างมีระดับจากแบรนด์ Gorenje (ออกเสียงว่า โก-เอน-ย่า ในภาษาสโลวีเนียน) ที่ออกแบบโดย Philippe Starck นักออกแบบระดับโลกชาวฝรั่งเศส
ด้านล่างเป็นเตาอบไมโครเวฟ (Microwave oven) ใช้ได้ทั้งแบบไมโครเวฟอุ่นอาหาร หรือเตาอบปรุงอาหาร โดยฝังเข้ากับเคาน์เตอร์ให้เรียบร้อย จากแบรนด์ Gorenje โดย Philippe Starck เช่นกัน ซึ่งหน้าบานเตาอบเป็นกระจกเข้าชุดกันกับเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน
ส่วนครัวจะได้เป็นครัวปิดมีประตูกระจกเลื่อนเปิดปิดแยกส่วนได้
ผ่านเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน ฝ้าด้านในจะสูง 2.7 ม.
พื้นส่วนครัวจะเป็นกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน พื้นส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นพื้นไม้ Engineering Wood ปูแบบHerringbone
จะได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียง และโซฟาขนาด 2 ที่นั่งวางปลายเตียง
ระยะดูทีวีจากเตียงนอนประมาณ 4.4 ม.
ระยะดูทีวีจากโซฟาปลายเตียงประมาณ 2 ม.
ได้ชุดโต๊ะวางทีวี และโต๊ะวางของด้านข้าง
ถัดไปซ้ายมือจะมีมุมวางโต๊ะรับประทานอาหาร หรือโต๊ะทำงาน มีหน้าต่างแบบบานเปิด 4 บาน ขวามือจะเป็นระเบียง ที่ฝ้าจะทำกล่องซ่อนรางม่านมาให้พร้อมไฟซ่อน
ได้โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง หรือเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ พื้นที่ตรงนี้มีขนาดประมาณ 2.5 x1.3 ม.
วิวจากห้องตัวอย่างชั้น 6 ฝั่งทิศตะวันออก มองออกไปทางถนนเอกมัย วิวจะเห็นบ้านพักอาศัยในซอยเอกมัย ขวามือที่เห็นก่อสร้างอยู่คือโครงการ Rhythm Ekkamai Estate ตรงปากซอยเอกมัย 1
มองกลับไปฝั่งด้านใน ในห้องจะได้แอร์แบบฝังฝ้า
ถัดไปเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเปิด 1 บาน
ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 1 x 0.90 ม. ราวกันตกเป็นกระจก
ด้านข้างเป็นพื้นที่วางคอมเพลสเซอร์แอร์ ติดระแนงบังสายตามมาให้เป็นประตูเปิดปิดได้
ด้านล่างมีส่วนซักล้างเดินระบบน้ำและปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบมาให้
มองกลับเข้ามาในห้อง ฝั่งด้านในจะเป็นห้องน้ำและพื้นที่ Walk in closet ประตูประจกบานเลื่อนสามารถใช้งานได้ 2 ฝั่ง เลื่อนปิดฝั่งส่วนครัว หรือปิดฝั่งที่เป็น Walk in closet ได้
ภายในส่วน Walk in closet จะแบ่งตู้เสื้อผ้าออกเป็น 2 ฝั่ง ด้านในจะเป็นห้องน้ำ
ตู้เสื้อผ้าฝั่งนี้จะเป็นตู้บานเปิด ภายในแบ่งช่องเก็บเสื้อผ้าและเก็บของ หน้าบานตู้เป็นกระจกสีชา
ตู้เสื้ออีกฝั่งก็เป็นบานเปิดเช่นกัน
ถัดไปด้านในจะเป็นห้องน้ำ ประตูห้องน้ำจะเป็นบานเลื่อน หน้าบานเป็นกระจกสีชา
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง ชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะได้ตามนี้เลย หลังกระจกเงาเป็นตู้บานเปิด ใต้อ่างล้างหน้าจะมีตู้เก็บของและเป็นตำแหน่งติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน
ชุดอ่างล้างมือขนาดใหญ่ ก๊อกน้ำแยกน้ำร้อนน้ำเย็น ของ Villeroy & Boch แบรนด์เดียวกับที่ทำสุขภัณฑ์ส่งพระราชวังแวร์ซาย
ติดกันวางโถสุขภัณฑ์ของ Villeroy & Boch และจะมีปุ่มสั่งการติดตั้งให้หลังโอนกรรมสิทธิ์ ควบคุมตั้งแต่การเปิดและปิดฝาสุขภัณฑ์, ระบบฉีดชำระด้วยน้ำ, เป่าลม และด้านข้างโถสุขภัณฑ์จะมีโทรศัพท์ Emergency call ต่อตรงไปที่นิติบุคคลของโครงการได้อีกด้วย ผนังด้านหลังทำ Low wall ไว้ให้วางของได้
อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์สีชาแบบบานเปิด ด้านในติดตั้ง Rain Shower & Hand Shower ของ Villeroy & Boch มีความพิเศษคือเป็นแบบ Thermostat ที่สามารถปรับและผสมอุณหภูมิน้ำร้อนเย็นได้ตามต้องการ ผนังมีส่วนที่ตกแต่งด้วยหินอ่อน Black Forrest พร้อมไฟซ่อนที่เพดาน
ชุดปลั๊กและสวิทซ์ไฟของ schneider ตรงหัวเตียงจะมีช่องเสียบ USB
แบบที่สอง 1 Bedroom-B2 ขนาด 48.54 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนได้เป็นครัวเปิด พื้นที่เปิดเชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหาร ถัดไปด้านในจะมีมุมวางโต๊ะทำงานหรือโซฟานั่งเล่น ติดกันเป็นระเบียง ฝั่งขวาจะเป็นห้องนอน ภายในห้องนอนมีพื้นที่มาให้พอสมควร วางเตียง King Size ได้สบายๆ มีพื้นที่สำหรับ Walk in closet มีห้องน้ำในห้องนอน ห้องน้ำจะมีทางเข้าออก 2 ทางคือจากในห้องนอนและจากส่วนครัว
ห้องตัวอย่งจะ Mirror กับแปลนด้านบนครับ เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อน พื้นที่เปิดเชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร พื้นส่วนครัวจะเป็นกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน พื้นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นพื้นไม้ Engineering Wood ปูแบบ Herringbone ฝ้าสูง 2.7 ม. ตรงส่วนครัวสูง 2.4 ม.
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูห้อง
ติดกับประตูห้องจะมีตู้เก็บของ และตู้เก็บรองเท้าเป็นตู้บานเปิด ซ้ายมือที่ผนังติดตั้ง VDO Door Phone
ชุดเคาน์เตอร์ครัวจะได้เหมือนกันตามนี้เลย แต่จะมีพื้นที่มากกว่าห้องแรก
ตู้ด้านบนเป็นแบบบานเปิด 6 บาน
ด้านล่างเป็นตู้บานเปิด และลิ้นชัก
ถัดไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารใช้พื้นที่ร่วมกัน
ได้โซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมสตูลวางเท้า และโต๊ะกลาง
ฝั่งนี้จะได้โต๊ะวางทีวี
ฝั่งด้านในริมหน้าต่างจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง หรือจะไว้วางโต๊ะทำงานก็ได้ครับ
มองกลับไปฝั่งด้านในจะเห็นแบบนี้ แอร์จะได้แบบฝังฝ้า
ด้านหลังโซฟาจะได้โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว
จากโต๊ะรับประทานอาหารใช้งานทีวีตรงส่วนห้องนั่งเล่นได้
ฝั่งด้านนอกจะเป็นระเบียงมีประตูกระจกบานเปิด
ตรงระเบียงด้านข้างมีพื้นที่ไว้วางคอมเพลสเซอร์แอร์ พร้อมระแนงบังสายตา
มองกลับเข้ามาในห้อง
ถัดไปด้านในซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ขวามือจะเป็นห้องนอน
ภายในห้องนอนมีพื้นที่มาให้พอสมควร ได้เตียงนอน King Size
ได้โต๊ะวางทีวีปลายเตียง
หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นแบบบานเปิด
วิวจากห้องตัวอย่างชั้น 6 ทิศตะวันออก
มองกลับไปในห้อง ด้านในจะเป็นห้องน้ำและส่วน Walk in closet แอร์ในห้องนอนจะเป็นแบบฝังฝ้า
ตรงส่วน Walk in closet จะแบ่งตู้เสื้อผ้าออกเป็น 2 ฝั่ง มีโต๊ะทำงานมาให้พร้อมเก้าอี้
โต๊ะทำงานปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้
ตู้เสื้อผ้าฝั่งนี้จะเป็นแบบบานเปิด หน้าบานตู้เป็นกระจกสีชา
ตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งก็เช่นกัน
ถัดไปด้านในจะเป็นห้องน้ำ ประตูจะเป็นแบบบานเลื่อน
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง สุขภัณฑ์ที่ได้ของ Villeroy & Boch
ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นมาให้แบบบานเปิด ภายในติดตั้ง Rain Shower & Hand Shower ของ Villeroy & Boch มีความพิเศษคือเป็นแบบ Thermostat ที่สามารถปรับและผสมอุณหภูมิน้ำร้อนเย็นได้ตามต้องการ ผนังมีส่วนที่ตกแต่งด้วยหินอ่อน Black Forrest
และจะได้อ่างอาบน้ำของ Lavenz พร้อมก๊อกน้ำและฝักบัวด้านข้าง
ห้องน้ำมีทางเข้าออก 2 ทาง คือจากในห้องนอน และจากตรงส่วนครัว
ราคา (ม.ค.64)
1 Bedroom ขนาด 35.91 – 49.53 ตร.ม. ราคาเริ่ม 8.9 ล้านบาท*
ค่าส่วนกลางเดือนละ 85 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม
เงินจอง 100,000 บาท และเงินทำสัญญา 200,000 บาท
***โปรโมชั่นพิเศษ ฟรี! ทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอน
ลงทะเบียนเพื่อรับ ON-TOP Discounts 100,000 บาท คลิก : https://bit.ly/2XPne07
***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ – The Reserve สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในย่านเอกมัย รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม ในซอยมีความเงียบสงบน่าอยู่อาศัย ถึงแม้จะอยู่ใจกลางเมือง เป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง อยู่ห่างจาก Donki Mall เพียง 400 ม. เปิดให้บริการ 24 ชม. ภายในประกอบด้วยร้านค้าต่าง ๆ กว่า 30 แบรนด์ ทั้งสปอร์ต เอนเทอร์เทนเมนต์, ร้านอาหาร, คาราโอเกะสัญชาติญี่ปุ่น, พื้นที่จัดกิจกรรมภายนอก ฯลฯ
และห่างจาก Parklane เพียง 600 เมตรเท่านั้น จะไปซื้อหนังสือ ซื้อของกินของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือรับประทานอาหารก็เดินไปได้สบายๆ ภายในมีร้านอาหารและร้านนั่งชิลล์สำหรับแฮงก์เอ้าท์กับเพื่อนๆให้เลือกมากมายหลายร้าน หรือออกมาตรงปากซอยจะมี Major เอกมัยดูหนังรอบดึกได้สบายๆ หรือจะเดินเชื่อมไปอีกฝั่งจะมี Gateway เอกมัย มีร้านอาหาร ร้านขนมและร้านค้าเยอะมาก ส่วนมากเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น
นอกจากนี้แหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่สุขุมวิทซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมายเดินทางไปได้สะดวก หรือจะเข้าไปในทองหล่อ เอกมัย เองก็มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพอยู่แล้วเรื่องผับ บาร์ และร้านอาหารอีกเป็นร้อยร้าน เปิดทั้งกลางวันกลางคืน มีทั้งโรงพยาบาล,โรงหนัง, วัด, ห้างสรรพสินค้า, Community mall ผุดขึ้นมามากมาย ใครมีไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยว ชอบแฮงก์เอาท์นัดเจอกันร้านอาหารสวยๆก็น่าจะถูกใจกัน
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการมีจุดเด่นคือมีทางเข้าออก 2 ทาง คือจากฝั่งถนนสุขุมวิทเข้าซอยสุขุมวิท 61 และจากฝั่งถนนเอกมัยเข้าซอยเอกมัย 1 ทำให้การเดินทางเข้าออกได้สะดวก ถ้าใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองอย่างเดียวไป ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก สยามได้เลย ถ้าไปโซนพระรามสี่จากถนนสุขุมวิทเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 40 เชื่อมออกถนนพระรามสี่ได้ จากนั้นก็วิ่งไปเข้าสวนลุม สาทร สีลม สามย่าน หัวลำโพง เชื่อมต่อไปเยาวราชได้เลย และอยู่ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร
ถ้ามาออกเอกมัยวิ่งเชื่อมไปถนนเพชรบุรี จากนั้นวิ่งเข้าเมืองไปเชื่อม อโศกมนตรี นานา ชิดลม ประตูน้ำ ราชเทวี หรือเชื่อมไปออกถนนพระรามเก้าได้ นอกจากนี้ซอยย่อยเอกมัยยังสามารถเชื่อมไปออกสุขุมวิท 71 หรือไปทองหล่อ จากทองหล่อก็มีซอยย่อยลัดเลาะยาวไปถึงอโศกได้เลยโดยที่ไม่ต้องออกไปใช้เส้นหลักสุขุมวิท
ถ้าไปโซนพระโขนง อ่อนนุช บางนา ใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งตามแนว BTS ยาวไปจนถึงสมุทรปราการได้เลย ตรงแยกบางนาตัดเข้าถนนบางนาตราด วิ่งออกฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยา มีทางด่วนบูรพาวิถีให้ขึ้นสะดวกดี ถ้าไปออกเส้นเพชรบุรีวิ่งไปเข้าพัฒนาการ ศรีนครินทร์ ลาดกระบังได้ ซอยเอกมัยวิ่งยาวไปออกถนนพระรามเก้าเชื่อมออกมอเตอร์เวย์ และเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมได้ และใกล้จุดขึ้นทางด่วนฉลองรัชใช้เดินทางไปโซนรามอินทรา ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ –ตัวโครงการอยู่ห่างจาก BTS เอกมัยประมาณ 1 กม. ในซอยมีทางเท้าเดินได้สะดวก สำหรับคนไม่ชอบเดินทางโครงการมี Shuttle Service บริการรับ-ส่งฟรี หรือจะเรียกใช้วินมอเตอร์ไซค์ก็ได้ครับ จาก BTS เอกมัยนั่งไปลง BTS อโศกเพียง 3 สถานีจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท นอกจากนี้ถ้าออกมาตรงเส้นสุขุมวิท และเอกมัยจะมีทั้ง Taxi วินมอเตอร์ไซค์ และรถเมล์วิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง วิ่งเกือบทั้งคืน
การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด RESERVE YOUR EXCLUSIVITY ตกแต่งมาในสไตล์ Modern Classic Luxury ที่มาพร้อมความหรูหราและอบอุ่น เหนือระดับในทุกรายละเอียด รูปแบบโครงการแบ่งเป็น 2 อาคาร สูง 7 ชั้น บนที่ดินขนาด 3-0-34.6 ไร่ ชั้นพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 1-7 Facility จะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด ทั้งภายในอาคารและพื้นที่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ที่จอดรถจะเป็นแบบอัตโนมัติจอดได้ และมีที่จอดรถปกติที่ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ทั้งโครงการจอดได้ 186 คัน หรือคิดเป็น 100% รวมซ้อนคัน
การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือก 5 แบบ ดังนี้ Studio ขนาด 30.75 – 30.87 ตร.ม. , 1 Bed ขนาด 35.91 – 49.53 ตร.ม. , 1 Bed Plus ขนาด 47.61 – 48.55 ตร.ม. , 2 Bed ขนาด 61.62- 138.8 ตร.ม. , 3 Bed ขนาด 157.60 ตร.ม. , Duplex 113.32 – 132.11 ตร.ม. ห้องออกแบบมาดูโปร่ง ฝ้าสูง 2.7 ม. โครงการขายแบบ Fully Furnished ด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าเรียบหรูยกชุดจาก Chanintr, ชุดสุขภัณฑ์ จาก Villeroy & Boch แบรนด์เดียวกับที่ทำสุขภัณฑ์ส่งพระราชวังแวร์ซาย โดยเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เคลือบสาร Anti Bacteria ในตัว
และชุดครัวของ Gorenje จากดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกอย่าง Philippe Starck ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่นอกจากจะมีระดับไม่ซ้ำใครแล้ว ยังใช้งานได้ดี ทำให้ชีวิตประจำวันมีความสะดวกสบายขึ้นไปอีก สเป็คพื้นเป็น Engineering wood ไม้โอ้คสีอ่อนปูแบบ Herringbone ส่วนครัวและห้องน้ำปูด้วยกระเบื้อง Porcelain Tile ลายหิน ติดไฟดาวน์ไลท์ แอร์จะได้แบบฝังฝ้า สเป็ควัสดุภาพรวมทำออกมาได้พิเศษ ใส่ใจรายละเอียด สบายตา และทนทานในแง่การใช้งาน มีความพรีเมี่ยมสมราคา
สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 ให้มาเยอะถึง 1 ใน 3 ของที่ดินโครงการ โดยมีพื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 1 ไร่ หลักๆจะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร มีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 38 x 5.8 ม. มีส่วนที่เป็น Jacuzzi พร้อมพื้นที่พักผ่อนริมสระ มี Sunken Seat ไว้นั่งพักผ่อนริมสระ มีสวนที่ตกแต่งมาได้ร่มรื่น มีทั้งไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม มีสนามหญ้าโล่งๆไว้ทำกิจกรรมต่างๆ พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อน ที่อาคาร A จะมี Lobby , Smart Locker , Mail Room , ห้องฟิตเนส , ห้องโยคะ , ห้องน้ำแยกชายหญิงพร้อมห้องซาวน่าและออนเซ็น และที่อาคาร B จะมี Lobby , Mail Room
ลิฟต์โดยสารมีให้อาคารละ 2 ตัวที่จอดรถจะเป็นแบบอัตโนมัติมี 2 ช่อง และมีที่จอดรถปกติที่ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ทั้งโครงการจอดได้ 186 คัน หรือคิดเป็น 100% ไม่รวมซ้อนคัน มีที่จอดสำหรับ EV Charger ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบสแกนหน้า และ Key Card Access
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1739
Website : www.pruksa.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น