EP.1011 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ พณา เพชรเกษม-สาย 3 The Pana Petchkasem-Sai 3
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ The Pana เพชรเกษม-สาย 3 จาก ภัทรา เอสเตท จำกัด เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นสูง 2 ชั้น ตัวโครงการตั้งอยู่บน ถ.นครลุง แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. ใกล้ห้างสรรพสินค้ามากมาย สามารถเดินทางสะดวกเข้า-ออกได้หลายทาง ใกล้ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เดินทางสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว
เดอะ พณา เพชรเกษม-สาย 3 มีจำนวน 142 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น ฟังก์ชั่นขนาด 3-4 ห้องนอน 2-4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2-3 คัน เน้นเนื้อที่บ้านกว้างขวาง ขนาดเริ่มต้นที่ 50.0 ตร.วา บนพื้นที่โครงการกว่า 37-1-87.5 ไร่ ภายใต้แนวคิด Best Moment of Life by Nature ช่วงเวลาแห่งการใช้ชีวิตที่ดีที่สุด ท่ามกลางธรรมชาติ ใช้วัสดุคุณภาพจาก SCG ซึ่งสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่กลางปี 2563
สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการครบครันมีมาให้ทั้ง คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องรับรองภายใน, สวนขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ และสวนหย่อมอีก 3 แห่งรอบโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.ด้วย ทั้งกล้อง CCTV และระบบ Key Card Access ราคาเริ่มต้นที่ 4-7 ล้านบาท
พบกันที่งาน Open House Party วันที่ 24-25 ก.พ. นี้ โครงการ เดอะ พณา เพชรเกษม-สาย 3 เปิดเฟสใหม่ติดสวนพิเศษ จอง+ทำสัญญาในงานรับ IphoneX และส่วนลดพิเศษมากกว่าครึ่งล้
อย่ามัวรอช้า เชิญติดตามรายละเอียดของโครงการที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
ชื่อโครงการ | เดอะ พณา เพชรเกษม-สาย 3 The Pana Petchkasem-Sai 3 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท ภัทรา เอสเตท จำกัด |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ |
พื้นที่โครงการ | 37-1-87.5 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 142 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 50.00 ตร.วา. ขึ้นไป |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 161-292 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 3-4 ห้องนอน, 2-4 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2-3 คัน |
โซน | เพชรเกษม-สาย 3 |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนนครลุง แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. 10160 |
กำหนดการ | งาน Open house 24-25 ก.พ. 61 |
ปีที่สร้างเสร็จ | พร้อมเข้าอยู่บางส่วนปี 2560 (คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการปี 2563) |
ราคา | เริ่มต้น 4-7 ล้านบาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ตร.วาละ 25 บาท/เดือน (จ่ายล่วงหน้า 3 ปี) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | The Pana เพชรเกษม-สาย 3 บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น Best Moment of Life by Nature ช่วงเวลาแห่งการใช้ชีวิตที่ดีที่สุด…ท่ามกลางธรรมชาติ บนทำเลศักยภาพ ใกล้ รร.อัสสัมธนฯ และ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โครงการในอนาคต |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนนครลุง แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. 10160
พิกัด : 13.732140, 100.378457
แผนที่จากทางโครงการ จากกราฟฟิคข้างบนนี้จะเห็นว่าตัวโครงการตั้งอยู่บนถ.นครลุง ซึ่งสามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทางจากถนนใหญ่ทั้ง 3 สาย นั่นก็คือ ถ.พุทธมณฑลสาย 3 ทางถ.หมู่บ้านศิริเกษม (ระยะทาง 2.3 กม.) และทางซ.อัสสัมชัญ 14 และ 13 (ระยะทาง 1.7 กม.) ถ.เพชรเกษม ทางซ.หมู่บ้านเศรษฐกิจ (ระยะทาง 3.4 กม.) และ ถ.พุทธมณฑลสาย 2 ทางซ.11 (ระยะทาง 3.2 กม.)
ทำเลที่ตั้ง โครงการ The Pana เพชรเกษม-สาย 3 ตั้งอยู่บนถ.นครลุง อยู่ระหว่างถ.พุทธมณฑลสาย 3 (เข้ามา 1.7 กม.) และถ.พุทธมณฆลสาย 2 (เข้ามา 3.2 กม.) ในฝั่งธนบุรี ภาพรวมของทำเลนี้จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยในแนวราบ ภายในถ.นครลุงจะค่อนข้างเงียบสงบ แต่พอออกมาที่ถ.อัสสัมชัญ (จากตัวโครงการไปเพียง 550 เมตร) ก็จะมีความเป็นลักษณะของชุมชนมากขึ้น มีความคึกคักและการสัญจรที่ขวักไขว่ เพราะถนนเส้นนี้จะมีรร.อัสสัมชัญธนบุรีตั้งอยู่ อีกทั้งยังมีอาคารพาณิชย์ตั้งอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของถนน มีห้างร้านมากมายมาเปิด เรียกว่าเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของโครงการในระยะใกล้ก็ว่าได้ค่ะ
ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ไกลออกมาจากจุดศูนย์กลาง แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสาธารณูปโภคต่างๆ และจะมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากมีแผนการก่อสร้างโครงข่ายรถไฟฟ้ามายังฝั่งธนฯอีกหลายสาย ซึ่งจุดนี้จะทำให้มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็น ทาวน์โฮม, บ้านเดี่ยว รวมถึง คอนโดมิเนียมทั้ง Low rise และ High rise ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ จากทำเลที่ตั้งทำให้การเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างได้เปรียบอยู่พอตัวค่ะ เพราะตัวโครงการนั้นสามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง และสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนใหญ่ได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นถ.พุทธมณฑลสาย 3, ถ.พุทธมณฑลสาย 2 และ ถ.เพชรเกษม โดยถ.พุทธมณฑลสาย 2 และสาย 3 จะเป็นเส้นที่วิ่งคู่ขนานกัน เชื่อมต่อสู่ ถ.บรมราชชนนี และ ถ.เพชรเกษม
ถ.บรมราชชนนี จะสามารถใช้วิ่งตรงไปถึงสะพานธนบุรี ข้ามฝั่งตรงไปถึงอนุสาวรีย์ได้เลย ส่วน ถ.เพชรเกษม ถ้าวิ่งไปฝั่งทิศตะวันออกมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองก็จะสามารถไปถึงวงเวียนใหญ่ได้เลย หรือจะวิ่งเข้าถ.ราชพฤกษ์ข้ามสะพานตากสินไปฝั่งกรุงเทพฯ ก็วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวก
หากวิ่งไปทางตะวันตกถ.เพชรเกษมจะวิ่งยาวผ่านหลายจังหวัด ทั้งนครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี ลงไปทางใต้ ปัจจุบันถ.เพชรเกษมฝั่งขาเข้าตัวเมืองการจราจรจะค่อนข้างหนาแน่นหน่อยเพราะกำลังก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแคกันอยู่ ในช่วง Rush Hour เช้ากับเย็นถ้าใครจะต้องวิ่งผ่านช่วงนั้นก็ขอให้ทำใจและเผื่อเวลากันดีๆนะคะ
จากเส้นเพชรเกษมก็มีถนนเส้นที่ใช้ไปออกถนนพระราม 2 ได้ ทั้งถ.บางบอน 5 และถ.บางแคเชื่อมต่อไปยังถ.บางขุนเทียน ย่านนี้จะเรียกว่าท่าเกษตร สามารถใช้ไปออกถนนกัลปพฤกษ์ตรงสาธรก็ได้เช่นกัน
ส่วนถ.พุทธมณฑลสาย 2 ก็สามารถใช้ทางลัดเลาะเชื่อมต่อไปยังถ.กาญจนาภิเษกได้สะดวกนะ ตรงนั้นก็จะมีจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก สามารถเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างรวดเร็วค่ะ
ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งสามารถใช้เชื่อมต่อไปยังจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกได้ โดยจากตัวโครงการให้เราวิ่งผ่านถ.หมู่บ้านเศรษฐกิจออกมาที่ถ.เพชรเกษม จะมีทางแยกออกไปฝั่งซ้ายเพื่อวิ่งเข้าสู่ถ.วงแหวนกาญจนาฯ สามารถใช้วิ่งไปทางบางใหญ่ หรือ ทางพระราม 2 ก็ได้ แต่ถ้าต้องการเข้าเมือง จะมีทางเชื่อมไปขึ้นทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก โดยทางนั้นจะสามารถไปยัง ปากเกร็ด, สาทร, พระราม 9 จนไปถึงบางนา และชลบุรีได้เลยค่ะ
นอกจากนี้ ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับโครงการถนนเส้นพระเทพตัดใหม่ (พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4) อีกหนึ่งโครงข่ายสำคัญเพื่อรองรับการเดินทางที่สะดวกสบายในอนาคต ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคือ โครงการก่อสร้างถนนบริเวณสามแยกไฟฉายหรือ จรัญสนิทวงศ์ (พรานนก)-วงแหวนกาญจนาภิเษก ขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 8.4 กม. และช่วงที่ 2 จากถ.กาญจนาภิเษก-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม.
สำหรับโครงการช่วง 1 (จรัญสนิทวงศ์-กาญจนาภิเษก ) ได้เปิดให้บริการแล้ว จะช่วยระบายการจราจรออกสู่ถนนกาญจนาภิเษกเพื่อไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องกระจุกตัวบริเวณถ.จรัญสนิทวงศ์, ถ.ปิ่นเกล้า และ ถ.บรมราชชนนี และโครงการช่วงที่ 2 (กาญจนาภิเษก-พุทธมลฑลสาย 4) จะช่วยให้การเดินทางออกนอกเมืองสะดวกรวดเร็วขึ้นโดยไม่มีปัญหาจราจรติดขัดเลยค่ะ (ปัจจุบันโครงการช่วงที่ 2 ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานค่ะ)
ความอุดมสมบูรณ์ ถึงแม้ตัวโครงการจะอยู่ในชานเมืองแต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์รองรับการอยู่อาศัย ใกล้แหล่งช้อปปิ้งทั้งห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, ร้านค้า, ตลาด, โรงพยาบาล, สถานศึกษา และโรงงาน ห้างสรรพสินค้า หลักๆเลยก็จะมีเดอะมอลล์และซีคอนบางแค ใกล้เข้าไปตัวโครงการก็ส่วนมากจะเป็นพวกไฮเปอร์มาร์เก็ต ทั้งแม็คโคร, บิ๊กซี และโฮมโปร นอกจากนั้นก็จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ทั้ง Victoria Garden ภายในมี Foodland, Tulip Square ภายในจะมีทั้งโซน Shopping mall, อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม Low rise, Image Mall และ The Brio Mall ค่ะ
ส่วนภาพรวมภายในถ.นครลุงจะค่อนข้างเงียบสงบ พอมีร้านขายของชำใกล้เคียงอยู่ร้านสองร้านพอจับจ่ายของใช้ภายในบ้านได้เล็กน้อย แต่ถ้าออกมาที่ถ.อัสสัมชัญซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 550 เมตรจะมีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอตัวเลยค่ะ เพราะเป็นย่านของบ้านพักอาศัย เลียบ 2 ฝั่งถนนจะเป็นอาคารพาณิชย์ มีทั้งร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร, ร้านขายยา, ร้านเสริมสวย, สถานบันกวดวิชา รวมถึงคลีนิก นอกจากนี้ยังมีรร.อัสสัมชัญธนบุรีด้วยนะ เวลาช่วงเช้าและบ่าย 3-4 โมง อาจจะต้องหลีกเลี่ยงเส้นนี้นิดนึง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ปัจจุบันที่หน้าโครงการบนถ.นครลุงจะมีรถสองแถวสีแดงวิ่งผ่านไปทางตลาดบางแคค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่เป็นช่วงๆ แต่ถ้าจะให้สะดวกที่สุดก็คือเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น Grab Taxi และ Uber ประกอบกันไปค่ะ
นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วง บางซื่อ-ท่าพระ และ หัวลำโพง-บางแค ซึ่งทั้ง 2 สายนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีหลักสอง ค่ะ จะอยู่บริเวณเดอะมอลล์บางแค ห่างจากโครงการออกไปประมาณ 7 กม. อีกทั้งยังจะมีโครงการในอนาคต ต่อจากสถานีหลักสอง คือช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 อีกด้วยนะ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 ถ้าช่วงนี้เสร็จ คนที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะจะสะดวกสบายขึ้น เพราะสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีทวีวัฒนา ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 3.8 กม.เท่านั้น
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ The Pana เพชรเกษม-สาย 3 โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถ.บรมราชชนนี > ถ.พุทธมณฑลสาย 3 > ซ.อัสสัมชัญ 13 > ถ.อัสสัมชัญ > วงเวียน > ถ.สุขสวัสด > ถ.นครลุง > The Pana เพชรเกษม-สาย 3
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนถ.บรมราชชนนีบริเวณแยกต่างระดับถ.กาญจนาภิเษกกันค่ะ จากจุดนี้ไปถึงตัวโครงการใช้เวลาประมาณ 25 นาที ให้เราวิ่งตรงไปตามป้ายนครปฐมค่ะ
จากนั้นเราจะเห็นป้ายถ.พุทธมณฑลสาย 3 ให้เราชิดซ้าย
จากนั้นให้เราออกสู่ทางคู่ขนานด้านหน้านี้เลยค่ะ
ออกมาที่ถ.คู่ขนานแล้วให้เราขับชิดซ้ายตามป้ายไปเรื่อยๆ ถ้าชิดขวาจะขึ้นสะพานกลับรถนะ
พอขับเลยสะพานกลับรถมาแล้ว เราจะเห็นบุญถาวรที่ฝั่งซ้ายมือ
ให้เราชิดซ้ายเอาไว้นะคะ เดี๋ยวเราจะเลี้ยวเข้าถ.พุทธมณฑลสาย 3 ข้างหน้านี้
เลี้ยวซ้ายเข้าถ.พุทธมณฑลสาย 3
ถ.พุทธมณฑลสาย 3 จะเป็นถนนขนาด 6 เลน มีเกาะกลางแบ่งฝั่งจราจรอย่างชัดเจน ทั้ง 2 ฝั่งของถนนเส้นนี้จะมีอาคารพาณิชย์ขึ้นอยู่เป็นช่วงๆค่ะ
ให้เราขับมุ่งหน้าไปทางเส้นเพชรเกษมนะ
จากถ.บรมราชชนนี เมื่อเลี้ยวเข้าถ.พุทธมณฑลสาย 3 มาแล้ว ให้ขับตรงเข้าไปประมาณ 6.3 กม. จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซ.อัสสัมชัญ 13 ค่ะ
จากซ.อัสสัมชัญ 13 เราจะเลี้ยวเข้าถ.อัสสัมชัญ ตรงเข้าไปจนเจอวงเวียน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถ.นครลุงเพื่อตรงไปถึงตัวโครงการ ระยะจากหน้าปากซอยอัสสัมชัญ 13 จนถึงโครงการรวมเป็น 1.7 กม.พอดีๆ
เราเลี้ยวเข้ามาในซ.อัสสัมชัญ 13 เป็นถนนซอยขนาด 2 เลน รถสามารถวิ่งสวนกันได้สะดวก เราตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆ ที่ฝั่งขวามือเราจะเห็น รพ.ราษฎพิพัฒน์ค่ะ
ขับตรงเข้าไปจนสุดซอยแล้วเลี้ยวซ้าย
พอเราเลี้ยวซ้ายแล้วให้เราเลี้ยวขวาอีกต่อเพื่อเข้าถ.อัสสัมชัญค่ะ
ภายในถ.อัสสัมชัญจะคึกคักทีเดียวค่ะ เพราะตรงนี้จะเป็นแหล่งชุมชน มีโรงเรียน และมีอาคารพาณิชย์ตั้งอยู่เยอะ ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารก็มีอยู่หลายร้าน ทางฝั่งซ้ายของเราจะขับผ่านรร.อัสสัมชัญธนบุรี
เราวิ่งบนถ.อัสสัมชัญเป็นเส้นตรงเข้าไปจนสุดทาง จะเจอวงเวียนให้เราเลี้ยวซ้าย
จากนั้นจะมีซอยทางฝั่งซ้าย ให้เราเลี้ยวเข้าซอยแรกเลย เข้าสู่ถ.สุขสวัสด
จากถ.สุขสวัสดจะมีทางแยกอยู่อีก 2 ทางค่ะ ให้เราเลี้ยวขวาเข้าถ.นครลุง
คราวนี้เราวิ่งตรงในถ.นครลุงอย่างเดียวเลย บรรยากาศจะเงียบสงบกว่าตรงถ.อัสสัมชัญ ตรงไปข้างหน้าจะมีโค้ง ให้เราขับตามเข้าไป
บริเวณโค้งฝั่งขวามือเราจะเห็นป้ายโครงการอย่างชัดเจนค่ะ ให้เราเลี้ยวขวาเข้าไปเลย
นอกจากนี้เรายังมีภาพการเดินทางจากถ.เพชรเกษมเข้าสู่ตัวโครงการผ่านซ.หมู่บ้านเศรษฐกิจด้วยค่ะ โดยเราจะเริ่มต้นที่แยกม.เศรษฐกิจ เลี้ยวซ้ายวิ่งตามซ.หมู่บ้านเศรษฐกิจเข้าไปเรื่อยๆ จะผ่านวงเวียนอยู่ 3 จุดค่ะ จุดสุดท้ายคือวงเวียนจุดเดียวกันกับเส้นทางเมื่อสักครู่ แล้วเข้าสู่ถ.นครลุงตรงสู่ตัวโครงการ รวมระยะทางเป็น 3.4 กม.
จากถ.เพชรเกษมบริเวณแยกม.เศรษฐกิจ ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซ.หมู่บ้านเศรษฐกิจค่ะ
ภายในซอยนี้จะค่อนข้างคึกคักทีเดียว เพราะมีอาคารพาณิชย์, ร้านค้า และร้านอาหาร อยู่ตลอด 2 ฝั่งถนน พอเราตรงเข้าไปเรื่อยๆ ที่ฝั่งขวามือตรงข้ามกับป้ายรถเมล์จะมีธนาคารไทยพาณิชย์ค่ะ
ตรงเข้าไปจนสุดซอย ให้เราเลี้ยวซ้ายที่วงเวียนแรก
พอเข้าสู่ถ.วงเวียนแล้วให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าที่ซอยแรกเลยค่ะ จะมีป้ายโครงการติดอยู่ให้เห็นเป็นระยะๆ
พอเลี้ยวเข้ามาในซอยแล้วฝั่งขวามือจะเห็น Lotus Express และ 7-Eleven อยู่ติดกันเลยค่ะ
เราวิ่งตรงบนถนนซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจเข้าไปเรื่อยๆจะเจอวงเวียนที่ 2 ให้เราขับวนไปทางซ้ายเหมือนเดิม
จากถ.วงเวียนให้เราขับวนตามเข็มนาฬิกาไป แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่ 3 ค่ะ
จากนั้นก็ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆจนไปเจอวงเวียนสุดท้าย
พอมาถึงวงเวียนที่ 3 ให้เราขับวนซ้ายเหมือนเดิม
ให้เราเลี้ยวเข้าซอยที่ 2 เข้าสู่ถ.สุขสวัสด
จากถ.สุขสวัสดจะมีทางแยกอยู่อีก 2 ทางค่ะ ให้เราเลี้ยวขวาเข้าถ.นครลุงเหมือนเดิม
เราวิ่งในถ.นครลุง ตรงไปข้างหน้าจะมีโค้ง ให้เราขับตามเข้าไป
บริเวณโค้งฝั่งขวามือเราจะเห็นป้ายโครงการอย่างชัดเจนค่ะ
ภาพบริเวณหน้าทางเข้าโครงการแบบชัดๆ
ซึ่งซอยทางเข้าตรงนี้คือ ซ.นครลุง 17 นะคะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
โดยรอบตัวโครงการจะเป็นแหล่งชุมชน มีบ้านพักอาศัยส่วนตัวสูงตั้งแต่ 1-3 ชั้นกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ช่วงถ.อัสสัมชัญจะค่อนข้างคึกคักและหนาแน่น เพราะมีโรงเรียน มีร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายยา, คลีนิก และกิจการอื่นๆเปิดอยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนน แต่พอเข้ามาภายในถ.นครลุงจะเงียบสงบมากขึ้น และมีที่ดินเปล่าอยู่เป็นบางส่วนค่ะ ทิศเหนือ ติดกับ ถนนซอย ตรงข้ามมีตึกแถวสูง 4 ชั้น ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า และ ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 1-3 ชั้น
ตอนนี้เราอยู่ที่บริเวณซุ้มทางเข้าโครงการค่ะ เดี๋ยวเราจะมาเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการด้วยกันเลย จะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง
เดินออกมาหน้าโครงการคือถ.นครลุง ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินส่วนบุคคล
มองไปฝั่งซ้ายมือ มุ่งหน้าไปทางถ.อัสสัมชัญ เดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งนี้กันก่อนค่ะ
ติดกับทางเข้าโครงการเป็นบ้านพักอาศัยส่วนตัวค่ะ รั้วสีขาวนี้เลย
บนถ.นครลุงทั้งเส้นจะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมดสูงตั้งแต่ 1-3 ชั้น
ตรงออกไปข้างหน้าจะเข้าสู่ถ.สุขสวัสด ถ้าเลี้ยวซ้ายจะกลับเข้าสู่วงเวียน สามารถใช้ออกถ.พุทธมณฑลสาย 3 และถ.เพชรเกษมได้ค่ะ
กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการเราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งขวามือกันต่อ ทางนี้เราสามารถวิ่งออกไปถ.พุทธมณฑลสาย 2 ได้
ติดกับทางเข้าโครงการเป็นร้านรับซ่อมรถจักรยาน
ถัดมาเป็นร้านขายของชำค่ะ ภายในขายขนมขายเครื่องดื่ม และของเครื่องใช้เล็กๆน้อยภายในบ้าน
มีทั้งร้านตัดผม ร้านเปลี่ยนซิบเปลี่ยนทรงเสื้อก็มีค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล
กลับเข้ามาภายในถนนซอยข้างทางเข้าโครงการ
ฝั่งด้านซ้ายจะมีตึกแถวสูง 4 ชั้น ชั้นบนๆจะเป็นห้องพักอาศัย
ชั้นล่างมี 2 คูหาเปิดเป็นร้านขายของชำค่ะ ขายทั้งขนม, เครื่องดื่ม และของใช้เล็กๆน้อยๆภายในบ้าน
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ The Pana เพชรเกษม-สาย 3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น มีทั้งหมด 142 ยูนิตบนที่ดิน 37 ไร่ ออกแบบด้วยแนวความคิด Best Moment of Life by Nature ช่วงเวลาแห่งการใช้ชีวิตที่ดีที่สุด ท่ามกลางธรรมชาติ ใช้วัสดุคุณภาพ ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปสำรวจบริเวณภายในโครงการจะขออธิบายผังคร่าวๆเพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ
การวางผังของโครงการจะใช้ถนนหลักกว้าง 16 เมตรนำเข้ามาสู่ภายในตัวโครงการ ผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามาจะเจอสวนสาธารณะและคลับเฮ้าส์อยู่ทางฝั่งซ้ายมือเลยค่ะ ถนนเมนจะผ่าเข้าไปภายในโครงการ และแจกด้วยถนนซอยกว้าง 9 เมตรทั้ง 2 ฝั่ง โดยปัจจุบันสำนักขายจะใช้พื้นที่ของคลับเฮ้าส์ค่ะ
ข้อดีของโครงการก็คือ เป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อย เทียบกับพื้นที่โครงการแล้วไม่แออัด เป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ลูกบ้านหลังหน้าๆจะได้เปรียบในเรื่องของการเข้า-ออก และการเข้าใช้ส่วนกลางเพราะว่าอยู่ใกล้กว่า แต่ส่วนของบริเวณท้ายโครงการจะได้เปรียบในเรื่องของความเป็นส่วนตัว และมลภาวะทางเสียงและอากาศก็จะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับบ้านหลังหน้าๆที่จะต้องมีรถขับผ่านเข้า-ออกค่อนข้างถี่ โดยระยะทางจากซอยบ้านหลังสุดท้ายออกมาที่หน้าโครงการโดยประมาณ 410 เมตร ถือว่ายังอยู่ในระยะที่เดินออกมาได้สะดวก ไม่ไกลจนเกินไป
ข้อดีอีกอย่างก็คือการวางผังโครงการนี้ มีการจัดให้หน้าบ้านหันตามแนวแกนเหนือ-ใต้ ทำให้ตัวบ้านเย็นสบาย สามารถรับลมได้ตลอดทั้งปี
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
แบบบ้านของโครงการจะมีด้วยกันทั้งหมด 4 แบบ ถูกดีไซน์ออกมาให้เป็นสไตล์โมเดิร์นในรูปแบบดูทันสมัย สิ่งที่แตกต่างกันของแบบบ้านทั้ง 4 นั่นก็คือพื้นที่ใช้สอยและจำนวนห้องดังนี้ค่ะ
แบบบ้าน Summer
แบบบ้าน Spring
แบบบ้าน Autumn
แบบบ้าน Winter
แบบบ้าน Summer ขนาด 161 ตร.ม.
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แบบบ้าน Spring ขนาด 183 ตร.ม.
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แบบบ้าน Autumn ขนาด 195 ตร.ม.
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แบบบ้าน Winter ขนาด 292 ตร.ม.
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เมื่อสักครู่เราได้ชมบรรยากาศรอบนอกและรายละเอียดของโครงการกันไปแล้ว เดี๋ยวเราไปชมภายในโครงการ, พื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงบ้านตัวอย่างกันค่ะ
ซุ้มทางเข้าโครงการถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น เรียบๆสีขาวตัดด้วยระแนงเหล็กสีน้ำและผนังไม้
การผ่านเข้า-ออกตัวโครงการจะต้องผ่านซุ้มรปภ. ซึ่งจะประกอบด้วย ป้อมยาม, ระบบ Key Card Access ผ่านรั้วไม้กระดก และกล้อง CCTV
Resident ที่ถือ Key Card จะสามารถขับผ่านรั้วเข้าไปได้เลย ส่วน Visitor พี่รปภ.จะต้องสอบถาม, แลกบัตร และจดบันทึก พร้อมกล้อง CCTV ที่ซุ้มทางเข้า-ออก เพื่อบันทึกภาพหน้าคนขับและป้ายทะเบียนรถค่ะ
ด้านข้างของซุ้มทางเข้าทั้ง 2 ฝั่งจะทำเป็นทางเท้าเล็กๆ ยกระดับขึ้นมาจากพื้นถนน สามารถเดินเข้าได้อย่างปลอดภัย
กล้อง CCTV และเครื่องจับสัญญาณ Key Card
ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
เมื่อผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามาสู่ภายในโครงการแล้วก็จะเจอถนนเมนกว้าง 16 เมตรนำเข้าไปสู่ภายในโครงการ
ที่ฝั่งซ้ายมือของเราก็คือส่วนกลางของโครงการค่ะ เป็นสวนขนาดกว้างกว่า 1 ไร่ ใจกลางเป็นที่ตั้งของคลับเฮ้าส์
จากถนนเมนตรงเข้าไปเราจะเจอวงเวียนแบบนี้ มีทางแยกออกไป 2 ฝั่ง
ทางแยกฝั่งซ้ายที่เห็นเป็นถนนย่อยเข้าสู่หน้าบ้าน
ส่วนฝั่งขวาเป็นถนนเมนเพื่อเข้าสู่ซอยย่อยอื่นๆ
ตอนนี้พื้นที่บางส่วนของโครงการยังคงก่อสร้างอยู่นะคะ จึงได้ทำการล้อมรั้วปิดเอาไว้ก่อน
ภายในซอยย่อยถัดมา ถนนซอยจะกว้าง 9 เมตรค่ะ
::: คลับเฮ้าส์ และ สวนสาธารณะ :::
คราวนี้เรามาดูพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกันบ้าง นั่นก็คือ พื้นที่คลับเฮ้าส์และสวนสาธารณะ หน้าตาอาคารเป็นสไตล์โมเดิร์นเรียบๆ แต่สร้างลูกเล่นด้วย Material ที่ใช้และการสร้างมิติของตัวอาคาร
โดยตัวคลับเฮ้าส์จะตั้งอยู่ตรงใจกลางของสวนสาธารณะเลยค่ะ
พื้นที่สวนสาธารณะนี่จะมีขนาดที่กว้างขวางกว่า 1 ไร่
ภายในสวนปูหญ้าให้ทั่วบริเวณ ทำเป็นลายกราฟฟิคเส้นๆสวยดี มีการลงต้นไม้ใหญ่ให้โดยรอบ แต่ต้องให้เวลาต้นไม้โตกว่านี้หน่อยนะคะถึงจะร่มรื่น ที่พื้นที่ทางเดินใช้เป็น Jogging Track ด้วยก็ได้ค่ะ
พื้นที่เดินเล่นภายในสวนอีกมุมนึง
ภาพมองจากสวนกลับไปยังคลับเฮ้าส์
คราวนี้เราจะเข้าไปดูภายในคลับเฮ้าส์กันต่อค่ะ พื้นที่หน้าคลับเฮ้าส์จะสามารถจอดรถได้หลายคัน
ทางเดินเข้าไปสู่ภายใน
ผิวสัมผัสภายในบางส่วนใช้เป็นปูนขัดมัน ให้ความรู้สึกดิบๆเท่ๆ
เดินเข้ามาถึงด้านในจะเป็นพื้นที่พักผ่อนริมสระน้ำค่ะ
มีจัดชุดเก้าอี้นั่งพักผ่อนเอาไว้ให้หลายตัวข้างสระ
คราวนี้เรามาดูที่สระว่ายน้ำกันต่อ
สระว่ายน้ำของโครงการเป็นสระระบบคลอรีน ทำเป็นลักษณะของสระน้ำล้นค่ะ
สระมีขนาดอยู่ที่ 5 x 22 ลึก 1.50 เมตร สามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้สบายๆเลย
ภายในสระจะแบ่งส่วนนึงใช้เป็นสระเด็ก มีความลึกอยู่ที่ 0.4 เมตรเท่านั้น
มีบันไดเดินลงสระให้แยก
ภาพมุมมองจากนอกอาคารเข้ามาที่สระว่ายน้ำ
ภาพมองย้อนกลับไปค่ะ จะเห็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ใต้บันไดเราจะเห็นโถงทางเดินไปยังห้องน้ำ
ภายในโถงทางเดิน ห้องน้ำหญิงจะอยู่ปลายโถง ส่วนห้องน้ำชายจะอยู่ฝั่งขวามือ
เราเข้ามาดูภายในห้องน้ำด้วยกันเลยค่ะ ภายในห้องเราจะเห็นตู้ล็อคเกอร์อยู่ตรงกลาง
ทางฝั่งซ้ายมือเป็นอ่างล้างมือ จัดเอาไว้ให้ 1 อ่าง
ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
จากชั้น 1 เราเดินขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ด้วยกันต่อเลย
เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 เราจะเจอพื้นที่ Court เล็กๆสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได เราจะเห็นประตูอยู่ 2 บานค่ะ ฝั่งซ้ายคือ ห้องรับรองในอนาคต (ปัจจุบันใช้เป็นออฟฟิศของเซลส์) ส่วนฝั่งขวาคือ ห้องฟิตเนสในอนาคต (ปัจจุบันใช้เป็นห้องรับรองลูกค้า)
เข้ามาดูภายในฟิตเนส(ในอนาคต) เป็นห้องที่มีผนังกระจก 2 ฝั่ง สามารถชมวิวสวนและสระว่ายน้ำได้ ปัจจุบันจัดเป็นห้องรับรอง มีเก้าอี้นั่งพักคอยอยู่หลายมุม
ภาพมุมย้อนกลับภายในฟิตเนส
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้จะมีอยู่ 2 หลังด้วยกันนั่นก็คือแบบบ้าน Autumn ขนาดพื้นที่ใช้สอย 195 ตร.ม. และแบบบ้าน Winter ขนาดพื้นที่ใช้สอย 292 ตร.ม. ตามลำดับ ไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ
::: แบบบ้าน Autumn ขนาด 195 ตร.ม. :::
เรามาเริ่มต้นที่แบบบ้าน Autumn ขนาดพื้นที่ใช้สอย 195 ตร.ม.กันก่อนค่ะ เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น มี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องพักผ่อน และที่จอดรถ 2 คัน หลักๆใช้สีขาวและสีเทา เพิ่มความอบอุ่นด้วยไม้ฝาตีแบบบังใบ ตัดกรอบหน้าต่าง, ประตูทางเข้า, หน้าต่างด้วยสีขาว และราวกันตกลูกกรงเหล็กสีดำ
รั้วบ้านมาตรฐานจะเป็นรั้วเลื่อนระแนงเหล็กทาสีดำตอนเดียวค่ะ สามารถเลื่อนเปิดได้แบบนี้
ตรงรั้วบ้านจะมีช่องเก็บขยะให้ เราสามารถทิ้งได้จากภายในบ้าน และทางส่วนกลางจะมาเก็บไป ตรงนี้สะดวกต่อผู้อยู่อาศัยดีค่ะ ไม่ต้องเดินออกมานอกรั้วบ้านเลย
นอกจากนี้ที่รั้วบ้านก็จะติดกริ่งออดเอาไว้ให้ด้วย
บริเวณลานจอดรถและเฉลียงหน้าบ้าน ทางโครงการได้ทำโครงสร้างเป็นเสาเข็ม-คอนกรีตเสริมเหล็ก ลงคานแบบ On Ground พื้นเป็นปูนขัดมัน สามารถจอดรถได้ 2 คัน
ตรงนี้จะได้ดวงโคมแบบดาวน์ไลท์ไฟ LED มา 2 ดวง ฝ้าใช้ยิปซั่มบอร์ดกันชื้นตราช้างค่ะ
บ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นบ้านแปลงมุมค่ะ จะได้เนื้อที่สวนข้างบ้านมาเยอะเลย
โดยพื้นที่ข้างบ้านจะสามารถเดินเชื่อมต่อถึงลานซักล้างหลังบ้านได้ทั้ง 2 ฝั่ง
พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านค่ะ จะเห็นว่าจะเชื่อมไปสู่สวนอีกฝั่งนึงด้วย
บริเวณลานซักล้างจะเป็นจุดที่ติดตั้งถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำ ตรงนี้เราได้แถมมากับตัวบ้านด้วยเลย
กลับมาที่เฉลียงทางเข้าบ้านค่ะ ทำยกระดับขึ้นมาประมาณ 15 ซม. ปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม.
ความกว้างเฉลียงประมาณ 80 ซม.
เข้าไปดูภายในบ้านกันต่อเลยค่ะ ประตูทางเข้าบ้านเข้าจากลานจอดรถ จะเป็นชุดประตูบานเลื่อน UPVC จาก Windsor สีขาว พร้อมกระจกเขียวตัดแสง พื้นบ้านด้านในยกระดับขึ้นมาอีก 10 ซม. ช่วยกันน้ำไหลย้อนเข้าบ้าน
มือจับประตูภายนอกและภายในค่ะ
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอโถงใหญ่เป็นห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหาร ทางขวามือจะเป็นโถงบันได, ห้องน้ำ และห้องครัว ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. จาก Cotto ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาทั้งหลัง และฉาบเรียบทาสีน้ำอะครีลิก
ฝ้าเพดานใช้ฝ้าฉาบเรียบค่ะ สูง 2.7 เมตร ใช้ฝ้ายิปซั่มบอร์ดตราช้างฉาบเรียบ ใช้โคมดาวน์ไลท์และติดหลอดไฟ LED ให้ทั้งหลัง
เรามองกลับไปทางฝั่งทางเข้าบ้าน จะเห็นประตูทางขวามือ นั่นก็คือประตูห้องนอนชั้นล่าง
โดยบานประตูภายในทุกบานจะใช้บาน HDF พร้อมลูกบิดประตูสแตนเลสทั้งหมดค่ะ
เข้ามาภายในห้องนอนชั้นล่าง ขนาดห้องกำลังพอเหมาะสำหรับ 1 คน ซึ่งตรงนี้จะเหมาะสมกับผู้สูงอายุที่เดินขึ้น-ลงบันไดไม่สะดวก เราสามารถใช้ห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์สำหรับการพักผ่อนส่วนตัว หรือใช้เป็นห้องทำงานก็ได้เช่นกัน
ภายในติดริมหน้าต่าง ความยาวเตียงจะพอดีกับความกว้างของห้องค่ะ ตรงนี้เราวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่ง หรือ 4 ฟุตได้เลย
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือสามารถจัดวางโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว
เรามาดูการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในโถงใหญ่กันต่อค่ะ เริ่มจากห้องนั่งเล่น จะจัดวางให้ชุดเฟอร์นิเจอร์อยู่กลางบ้าน หลบจากประตูทางเข้าบ้านเข้ามาประมาณ 1.6 เมตรเพื่อเป็นทางเดิน
เนื่องจากห้องโถงบ้านเป็นห้องโล่งๆ ไม่มีผนังกั้น ทำให้เรามีอิสระในการจัดบ้านได้หลายรูปแบบ โดยรวมแล้วก็จะเห็นว่าเนื้อที่ใช้สอยนี่เหลือๆสบายๆค่ะ
ระยะทีวีตรงนี้แล้วแต่เราชอบเลยค่ะ ใกล้หน่อยสำหรับทีวีจอเล็ก ไกลหน่อยก็ได้จอใหญ่
แต่ด้านหลังโซฟาควรเหลือเป็นพื้นที่ทางเดินและทางขึ้นบันไดด้วยนะ ระยะที่เห็นว่าเหลือไว้ให้อยู่คือราวๆ 1.6 เมตร แต่จริงๆแล้ว 1.2 เมตรก็ถือว่าเพียงพอค่ะ
ผนังอีกด้านเจาะหน้าต่างให้ 2 บาน ตรงกลางเหลือเป็นผนังทึบเพื่อวางทีวีพอดี
หน้าต่างใช้วัสดุเดียวกับประตูทางเข้าค่ะ เป็นชุดหน้าต่างบานเลื่อน UPVC ของ Windsor พร้อมกระจกเขียวตัดแสง
มือจับบานหน้าต่างและตัวล็อคท้ายบานค่ะ
มุมนี้เห็นพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหาร
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปด้านหลังเป็นห้องทานอาหาร
จะเห็นว่าห้องโถงมีหน้าค่อนข้างกว้างจึงสามารถวางโต๊ะทานอาหารโต๊ะใหญ่ๆได้สบายๆ
ที่จัดวางอยู่นี่คือโต๊ะขนาด 6 ที่นั่ง แต่วางโต๊ะขนาด 8 ที่นั่งเลยก็ยังไหวอยู่นะ
จะเห็นว่าบริเวณโต๊ะทานอาหารจะมีช่องแสงมาให้ 2 ฝั่ง ทำให้ทั้งโถงใหญ่สว่างโปร่งโล่งมากขึ้น ฝั่งด้านหลังบ้านคือหน้าต่างบานเลื่อนเปิดคู่แบบนี้
ส่วนฝั่งติดสวนจะมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ค่ะ ตรงนี้เราสามารถเดินเชื่อมต่อไปสู่สวนข้างบ้านได้เลย
โดยพื้นด้านข้างจะทำเป็นเฉลียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 ซม.มาให้แบบนี้
ภาพมุมจากห้องทานอาหารมองออกไปยังสวน
จากเฉลียงข้างบ้านมองกลับเข้ามาภายในบ้าน เราจะเห็นประตูอยู่ 3 บาน จากซ้ายไปขวาคือ ห้องครัว, ห้องน้ำ และห้องเก็บของ ขั้นระหว่างห้องน้ำกับห้องเก็บของด้วยโถงบันไดค่ะ
เรามาเริ่มต้นจากห้องครัวกันก่อน ห้องครัวจะกั้นส่วนจากห้องทานอาหารด้วยประตูบานเลื่อน UPVC เช่นกัน
พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 ซม. จาก Cotto
ภายในห้องจริงๆแล้วเป็นห้องเปล่านะคะ ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางเคาน์เตอร์ครัวเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย และดูพื้นที่ห้อง
ฝ้าภายในเป็นฝ้ายิปซั่มฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์และหลอด LED ให้เหมือนเดิม
ระยะภายในห้องครัวกว้างขวางทีเดียวค่ะ จะเห็นว่าสามารถวางอ่างล้างจาน, Hob&Hood ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเหลือเนื้อที่เพียงพอสำหรับการเตรียมอาหารอีกด้วย
แต่อย่าลืมเหลือพื้นที่สำหรับตู้เย็นด้วยนะคะ ขนาดมาตรฐานก็ราวๆ 0.6 เมตรค่ะ แต่ถ้าเป็นตู้เย็นแบบ 2 ประตูจะต้องเตรียมพื้นที่มากกว่านี้อีกนะ
จากห้องครัวจะมีประตูบานเปิดเชื่อมสู่ลานซักล้างหลังบ้านค่ะ
พื้นครัวทำลดระดับลงไป 1 ขั้นปูด้วยกระเบื้องชนิดเดียวกัน และลดระดับลงไปอีกขั้นเป็นพื้นปูนขัดมัน
เรามาดูห้องน้ำชั้นล่างกันต่อ
พื้นห้องน้ำทำลดระดับลงไปจากพื้นโถงประมาณ 5 ซม. ปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 ซม.
และกรุผนังด้วยกระเบื้องขนาด 25 x 40 ซม. จาก Cotto เหมือนเดิม ภายในใช้สุขภัณฑ์จาก Mogen และ Vegarr จัดเรียงจากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียกด้านใน ส่วนฝ้าเพดานใช้ฝ้ายิปซั่มกันชื้นฉาบเรียบ พร้อมดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED เช่นเดิม
มาดูที่ตัวสุขภัณฑ์กันต่อ อ่างล้างมือและก๊อกน้ำที่ได้เป็นของ Mogen รุ่นแขวนผนัง ติดตั้งมาให้พร้อมกับกระจกเงาแบบนี้เลย
ขนาดอ่างกระทัดรัดดีค่ะ พอจะวางขวดสบู่ได้บ้าง
ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ใช้ของ Mogen ระยะนั่งกำลังดี ไม่อึดอัด
ติดตั้งมาพร้อมกับ Accessories ทั้งสายฉีดชำระ และที่ใส่แกนกระดาษชำระของ Vegarr
ในส่วนของโซนอาบน้ำจะติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกเทมเปอร์มาให้เลยค่ะ ภายในโซนอาบน้ำมีหน้าต่างบานกระทุ้งกระจกฝ้ามาเป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศ
ด้านข้างติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้ของ Vegarr
พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างกำลังดีค่ะ ก่อธรณีขึ้นมาให้ประมาณ 1 นิ้วกันน้ำไหลย้อน
ภายในติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและก๊อกสนามมาให้ ส่วนชั้นวางสบู่ต้องหามาวางเพิ่มเอง
หัวฝักบัวกำลังดีค่ะ ทรงสี่เหลี่ยมจาก Mogen
ก๊อกสนามจาก Vegarr
จากนั้นเรามาดูห้องเก็บของกันต่อ
ภายในปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 ซม.จาก Cotto เช่นกัน
พื้นที่ภายในห้องเก็บของเป็นพื้นที่บริเวณใต้บันไดค่ะ ถือว่ากว้างพอสมควรสำหรับห้องเก็บของ
ภายในติดตั้ง Load Center เอาไว้ให้ ใช้ของ Schneider Electric
คราวนี้เราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลย โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างแข็งแรง เดินแล้วไม่ยวบยาบแน่นอนค่ะ
วัสดุลูกนอนใช้ไม้ตกแต่งบันได Conwood ลูกกรงราวบันไดเหล็กพ่นสีดำ และราวบันไดใช้ไม้ตกแต่งบันได Conwood เช่นกัน
ภาพมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 บันไดเป็นรูปตัว U วนขึ้นไป
มองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได จะเห็นว่าขั้นบันไดเดินง่าย ไม่มีขั้นบันไดทรงสามเหลี่ยมให้เห็นเลย
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได บริเวณโถงมีช่องแสงมาให้ขนาดบานพอประมาณ ทำให้โถงไม่มืดทึบ
ขึ้นมาถึงชั้น 2 พื้นบ้านปูด้วย Vinyl Tile ลายไม้ มีคุณสมบัติทนน้ำ พื้นไม่ยวบยาบ ส่วนผนังเป็นฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบตราช้าง ฝ้าสูงที่ 2.6 เมตร ติดดวงโคมดาวน์ไลท์และหลอด LED ให้หมดทุกห้อง ส่วนหลังคาบ้านใช้โครง SCG Smart Truss มุงด้วยกระเบื้อง CPAC Monier ตราช้าง และฝ้าหลังคาสมาร์ทบอร์ด ตราช้าง
โถงบันไดกลางมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถจัดเป็นห้องพักผ่อนได้อีกห้องเลยค่ะ จากโถงนี้จะเชื่อมสู่ห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำอีก 1 ห้อง
โดยฝั่งซ้ายของโถงคือห้องนอนใหญ่
ฝั่งขวาคือห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง และห้องน้ำอีก 1 ห้อง
เรามาเริ่มต้นจากห้องนอนใหญ่กันก่อนเลยค่ะ
ห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งทางหน้าบ้านค่ะ ขนาดพื้นที่ห้องจะยาวเท่ากับหน้าบ้านเลย จะแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันคือโซนพักผ่อนและโซน Walk-in Closet พร้อมห้องน้ำในตัว บริเวณลายผนังของห้องนอนจะเดินปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้เรียบร้อย
เรามาดูที่ส่วนพักผ่อนกันก่อน
พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้เลย และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่งแบบสบายๆ
โดยพื้นที่ฝั่งขวายังเหลือสามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้สบายๆ
ฝั่งตรงข้ามเตียงนอนสามารถทำชั้นวางทีวีและชั้นเก็บของได้ ประตูที่เห็นฝั่งซ้ายคือ Walk-in Closet นะ
โดยพื้นที่ปลายเตียงก็เหลือเยอะพอสมควรสามารถวางสตูลได้อีกตัว
ภายในห้องนอนใหญ่จะมีประตูบานเลื่อนคู่ เปิดออกสู่ระเบียงได้
พื้นที่ระเบียงไม่กว้างมากค่ะ แต่พอจะออกไปยืนรับลมหน้าบ้านได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 ซม. ติดราวกันตกระแนงเหล็กทาสีดำ
ภาพมองจากระเบียงย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
เราเข้าไปดูภายใน Walk-in Closet กันต่อ
ภายในจะสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้พอสำหรับ 2 คนพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
ภายในจะเชื่อมกับห้องน้ำในตัวค่ะ
พื้นห้องน้ำทำลดระดับลงไปจากพื้นโถงประมาณ 5 ซม. ปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 ซม.
และกรุผนังด้วยกระเบื้องขนาด 25 x 40 ซม. จาก Cotto เหมือนเดิม ภายในใช้สุขภัณฑ์จาก Mogen และ Vegarr จัดเรียงจากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียกด้านใน ส่วนฝ้าเพดานใช้ฝ้ายิปซั่มกันชื้นฉาบเรียบ พร้อมดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED เช่นเดิม
สุขภัณฑ์ภายในเหมือนเดิมทุกประการค่ะ ยกเว้นอ่างล้างมือที่จะเป็นอ่างรุ่นฝังบนเคาน์เตอร์แทน
ขนาดอ่างใหญ่ขึ้น และมีพื้นที่รอบอ่างมากขึ้น
ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์รุ่นเดิม
และด้านในโซนอาบน้ำ ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย พร้อมชุดฝักบัวสายอ่อนและก๊อกสนามค่ะ
จากห้องนอนใหญ่ เรามาดูห้องน้ำชั้น 2 กันต่อ ซึ่งจะเป็นห้องที่ใช้รวมระหว่างห้องนอน 2 และ 3
ภายในห้องน้ำไม่ต่างจากห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ จะขอข้ามไปเลยนะ
คราวนี้เรามาดูห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่เหลือกันต่อ เริ่มจากห้องฝั่งขวาตามด้วยห้องฝั่งซ้าย
ห้องนอนฝั่งขวาคือห้องนอน 2 มีขนาดใหญ่รองลงมาจากห้องนอนใหญ่ มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ทั้ง 2 ด้าน ทำให้ห้องโปร่งและสว่างกำลังดี
ภายในห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้เลย โดยจะต้องวางชิดริมผนังฝั่งซ้ายค่ะ
ผนังอีกฝั่งสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้พอดี จากไซส์ตู้นี้เราวางเพิ่มอีก 1 ตู้เลยก็ได้นะ
พื้นที่ข้างเตียงจะเหลือไม่เยอะมากค่ะ แนะนำใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนแทน เพื่อการประหยัดพื้นที่
ฝั่งปลายเตียงตรงกับประตูทางเข้าจะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือเยอะทีเดียว
วางโต๊ะทำงานได้สบายๆค่ะ เราจะวางชั้นวางทีวีเพิ่มอีกตัวก็มีที่พอ
มาดูห้องนอน 3 กันต่อเป็นห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้ค่ะ ถึงจะมีขนาดเล็กที่สุด แต่ก็สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว
พื้นที่ภายในสามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่ง, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นวางทีวีได้สบายๆ
พื้นที่ก็จะเหลือๆประมาณนี้ ดูสบายๆไม่อึดอัดค่ะ
ฝั่งปลายเตียงจะวางชั้นวางทีวีหรือจะเป็นโต๊ะทำงานเลยก็ได้
ตู้เสื้อผ้าที่วางได้อีกฝั่งก็เป็นตู้ที่มีขนาดกำลังดีเลย ไม่เล็กจนเกินไป
::: แบบบ้าน Winter ขนาด 292 ตร.ม. :::
คราวนี้เรามาดูแบบบ้าน Winter ขนาดพื้นที่ใช้สอย 292 ตร.ม.กันต่อค่ะ เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องพักผ่อน ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว และที่จอดรถ 3 คัน หน้าตาแบบบ้านสไตล์เดียวกับบ้าน Autumn ค่ะ
ประตูรั้วบ้านจะแบ่งออกเป็น 2 ช่องแบบนี้ ฝั่งซ้ายเป็นบานเฟี้ยมจอดรถได้ 1 คัน และฝั่งขวาเป็นบานเลื่อน 1 ตอน จอดรถได้ 2 คันค่ะ
พื้นที่ลานจอดรถโครงสร้างเป็นเสาเข็ม-คอนกรีตเสริมเหล็ก ลงคานแบบ On Ground พื้นเป็นปูนขัดมัน
พื้นที่ข้างบ้านทั้ง 2 ฝั่งสามารถเดินเชื่อมถึงลานซักล้างหลังบ้านได้เลยค่ะ
พื้นที่ฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่สวนข้างบ้าน
เนื่องจากบ้านตัวอย่างเป็นบ้านแปลงมุม จึงได้เนื้อที่ดินมาเยอะ สามารถจัดสวนได้อย่างตามใจชอบ
กลับมาที่เฉลียงทางเข้าบ้านค่ะ ทำยกระดับขึ้นมาประมาณ 15 ซม. ปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม. ฝั่งซ้ายประตูบานทึบสีขาวคือห้องเก็บของ ส่วนทางขวาเป็นประตูทางเข้าบ้าน
ประตูทางเข้าบ้านเป็นบานเปิดคู่ลูกฟักกระจกแบบนี้ค่ะ
มือจับก้านโยกสแตนเลส
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอโถงใหญ่เป็นห้องนั่งเล่น, ห้องทานอาหาร และแพนทรี่ ทางซ้ายมือจะเป็นโถงบันได ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. จาก Cotto ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาทั้งหลัง และฉาบเรียบทาสีน้ำอะครีลิก
ฝ้าเพดานใช้ฝ้าฉาบเรียบค่ะ สูง 2.7 เมตร ใช้ฝ้ายิปซั่มบอร์ดตราช้างฉาบเรียบ ใช้โคมดาวน์ไลท์และติดหลอดไฟ LED ให้ทั้งหลัง
เรามองกลับไปที่ประตูฝั่งทางเข้าบ้าน จะเห็นโถงทางซ้ายมือ
นั่นก็คือประตูห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำค่ะ
เข้ามาดูภายในห้องนอนชั้นล่างกันก่อน ขนาดห้องใหญ่เหมาะสำหรับ 2 คน ซึ่งตรงนี้จะเหมาะสมกับผู้สูงอายุที่เดินขึ้น-ลงบันไดไม่สะดวก เราสามารถใช้ห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์สำหรับการพักผ่อนส่วนตัว หรือใช้เป็นห้องทำงานก็ได้ค่ะ
จะเห็นว่าพื้นที่ห้องกว้างขวางทีเดียวค่ะ วางเตียงขนาด 6 ฟุตก็ยังไหว เหลือพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งวางโต๊ะข้างได้
ฝั่งปลายเตียงสามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงาน Built-in ได้แบบนี้
โดยระยะปลายเตียงก็ยังเหลือแบบสบายๆไม่อึดอัด
ส่วนห้องน้ำชั้นล่างก็จะเหมือนกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการค่ะ
เรากลับมาที่โถงใหญ่ มาดูการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในโถงกันต่อค่ะ เริ่มจากห้องนั่งเล่น จะจัดวางให้ชุดเฟอร์นิเจอร์อยู่กลางบ้านแบบนี้
เนื่องจากห้องโถงมีหน้าห้องที่กว้างขวางทีเดียว จัดวางโซฟาเบดขนาดใหญ่ก็ยังลงตัว
ระยะดูทีวีตรงนี้เราสามารถจัดเองได้ให้เหมาะสมค่ะ ตามที่ทางโครงการจัดมาก็กำลังลงตัว
จากพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อสู่สวนข้างบ้านด้วยประตูบานเลื่อนคู่ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นช่องแสงให้กับห้องโถงด้วย จึงทำให้ภาพรวมของบ้านดูสว่างและโปร่งโล่ง
ประตูบานเลื่อนใช้บาน UPVC และกระจกเขียวตัดแสงของ Windsor เหมือนเดิมค่ะ
ภาพมุมมองออกไปที่สวนข้างบ้าน
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปด้านหลังเป็นห้องทานอาหารและแพนทรี่
จะเห็นว่าห้องโถงมีหน้าค่อนข้างกว้างจึงสามารถวางโต๊ะทานอาหารโต๊ะใหญ่ๆได้สบายๆ
ที่จัดวางอยู่นี่คือโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งค่ะ เราสามารถหมุนโต๊ะวางอีกแกนก็ทำได้เช่นกัน
ด้านหลังโต๊ะทานอาหารก็ยังเหลือพื้นที่มากพอสำหรับจัดเป็นแพนทรี่แบบมี Island
ระยะที่จัดวางได้ก็ได้มาตรฐานค่ะ สามารถยืนเตรียมอาหารได้สะดวก
มองจากบริเวณแพนทรี่ไปฝั่งหน้าบ้าน
ด้านหลังจะมีประตูเข้าสู่ห้องครัว
พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 ซม. จาก Cotto เหมือนเดิม ภายในสามารถจัดวางเคาน์เตอร์ได้อย่างลงตัว
ระยะยืนปรุงอาหารก็สบายๆค่ะ ไม่แคบจนเกินไปสำหรับ 2 คน
จากห้องครัวจะมีประตูบานเปิดเชื่อมสู่ลานซักล้างหลังบ้าน
พื้นครัวทำลดระดับลงไป 1 ขั้นปูด้วยกระเบื้องชนิดเดียวกัน และลดระดับลงไปอีกขั้นเป็นพื้นปูนขัดมัน
พื้นที่ลานซักล้างด้านหลังจะเชื่อมกับห้องแม่บ้านด้วยค่ะ โดยจะมีห้องน้ำของแม่บ้านให้แยกต่างหาก
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้องโถง
คราวนี้เราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลย โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างแข็งแรง วัสดุลูกนอนใช้ไม้ตกแต่งบันได Conwood ลูกกรงราวบันไดเหล็กพ่นสีดำ และราวบันไดใช้ไม้ตกแต่งบันได Conwood เช่นกัน
ภาพมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 บันไดเป็นรูปตัว U วนขึ้นไป
มองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได บานส่วนจะเห็นว่ามีลูกนอนแบบสามเหลี่ยมอยู่ค่ะ ต้องเดินระวังหน่อย ให้เดินชิดขวาเอาไว้
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได บริเวณโถงมีช่องแสงมาให้ขนาดบานพอประมาณ ทำให้โถงไม่มืดทึบ
ขึ้นมาถึงชั้น 2 พื้นบ้านปูด้วย Vinyl Tile ลายไม้ ส่วนผนังเป็นฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบตราช้าง ฝ้าสูงที่ 2.6 เมตร ติดดวงโคมดาวน์ไลท์และหลอด LED ให้หมดทุกห้อง ส่วนหลังคาบ้านใช้โครง SCG Smart Truss มุงด้วยกระเบื้อง CPAC Monier ตราช้าง และฝ้าหลังคาสมาร์ทบอร์ด ตราช้าง
โถงบันไดกลางมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถจัดเป็นห้องพักผ่อนได้อีกห้องล จากโถงนี้จะเชื่อมสู่ห้องนอน 3 ห้อง
โดยฝั่งซ้ายของโถงคือห้องนอนใหญ่
ฝั่งขวาคือห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง
จะเห็นว่าโถงกลางมีช่องแสงขนาดใหญ่เป็นประตูบานเลื่อนคู่ สามารถเปิดออกสู่ระเบียงได้
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 ซม.ค่ะ กว้างพอที่จะวางเก้าอี้นั่งได้
เรากลับเข้ามาดูห้องนอนทั้ง 3 ห้องกันต่อค่ะ โดยทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวให้ทั้งหมด เริ่มจากห้องนอน 2 (ฝั่งซ้ายมือของโถงบันได)
ภายในห้องนอน 2 เข้ามาแล้วจะเจอส่วนของโถงทางเดินเป็น Walk-in Closet ก่อน สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัว
โดยส่วน Walk-in Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวค่ะ
วัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำยังคงเดิมค่ะ แต่การจัดวางจะเปลี่ยนไปตาามพื้นที่ของห้อง
ที่ได้เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือฉากกั้นอาบน้ำพร้อมประตูเปิดเข้าแบบนี้
เราเดินเข้ามาดูส่วนพักผ่อนด้านในกันต่อ ขนาดห้องไม่แพ้ห้องนอนใหญ่เลยค่ะ
เราสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้อย่างสบายๆ พื้นที่โดยรอบห้องก็ยังเหลือ
ฝั่งปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีได้ทั้งผนัง
แล้วจะยังเหลือพื้นที่ปลายเตียง เดินผ่านได้สบายๆ
หันกลับมาอีกฝั่ง ไปดูห้องนอนใหญ่และห้องนอน 3 กันต่อ ซึ่งห้องนอน 2 ห้องนี้จะถูกวางเอาไว้ทางฝั่งหน้าบ้าน
เริ่มจากห้องนอน 3 พอเข้ามาเราก็จะเจอโถงทางเดินแบบนี้ค่ะ
ฝั่งขวาของโถงจะมีประตูทางเข้าห้องน้ำในตัว
ภายในห้องน้ำใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนเดิมทุกประการค่ะ
เดินเข้ามาด้านใน ถึงจะเป็นห้องนอนขนาดเล็กที่สุด แต่ก็ยังถือว่ามีพื้นที่กว้างขวางใช้ได้เลยนะ
พอวางเตียงขนาด 5 ฟุตก็ยังพอเหลือพื้นที่โดยรอบค่ะ เดินผ่านได้และเปลี่ยนผ้าปูเตียงได้สะดวก
ฝั่งขวาเหลือพอสำหรับวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และเพียงพอสำหรับการยืนแต่งตัว
ฝั่งปลายเตียงสามารถทำชั้นวางทีวี หรือจะวางโต๊ะทำงานเพิ่มก็ได้
โดยระยะจากปลายเตียงก็ยังเหลือพอสำหรับระยะนั่งนะ
ห้องนี้เราจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่เป็นประตูบานเลื่อน สามารถเปิดออกสู่ระเบียงได้ ห้องนี้จะเป็นพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านค่ะ
พื้นที่ระเบียงไม่ได้กว้างนะ แต่ออกมายืนรับลมชมวิวได้อยู่ โดยราวกันตกของห้องนี้จะใช้เป็นกระจกเทมเปอร์ค่ะ
คราวนี้เราเข้ามาดูห้องนอนใหญ่กันต่อเป็นห้องสุดท้ายแล้ว เข้ามาภายในห้องเราก็จะเจอส่วน Walk-in Closet ก่อนค่ะ
จะเห็นว่าบริเวณ Walk-in Closet มีพื้นที่ๆกว้างขวางทีเดียว สามารถทำตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ๆได้ฝั่งนึง
ส่วนอีกฝั่งหน้าห้องน้ำวางโต๊ะเครื่องแป้ง
เข้าไปภายในห้องน้ำจะใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนกับบ้านหลังที่ผ่านมา
จะได้อ่างล้างมือแบบฝังบนเคาน์เตอร์
โถสุขภัณฑ์และโซนอาบน้ำเหมือนเดิมค่ะ
เราเข้ามาภายในส่วนพักผ่อนกันต่อ
จะเห็นว่าห้องนี้มีขนาดที่กว้างขวางมาก สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย อีกทั้งยังได้หน้าต่างมาทั้ง 3 ด้านเลยค่ะ
ฝั่งปลายเตียงทำโต๊ะวางทีวีเหมือนห้องอื่นๆ
พื้นที่ปลายเตียงก็เหลือเดินผ่านได้สบาย
ที่ห้องนี้ก็จะมีระเบียงห้องเหมือนกันค่ะ
เปิดออกไปอยู่ฝั่งหน้าบ้าน
นอกจากนี้สวิตช์และปลั๊กไฟก็จะใช้ของ Siemens ทั้งหมด
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (มกราคม 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (มกราคม 2561) ::::
แบบบ้าน Summer
พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น และ 2 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 50.01 ตร.วา
– ราคา 4,110,000 บาท (ส่วนลด 400,000 บาท)
– เงินจอง 20,000 บาท
– เงินทำสัญญา 50,000 บาท
แบบบ้าน Spring
พื้นที่ใช้สอย 183 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น และ 2 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 50.00 ตร.วา
– ราคา 4,910,000 บาท (ส่วนลด 400,000 บาท)
– เงินจอง 20,000 บาท
– เงินทำสัญญา 50,000 บาท
แบบบ้าน Autumn
พื้นที่ใช้สอย 195 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องพักผ่อน และ 2 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 85.27 ตร.วา
– ราคา 6,230,000 บาท (ส่วนลด 400,000 บาท)
– เงินจอง 20,000 บาท
– เงินทำสัญญา 50,000 บาท
แบบบ้าน Winter
พื้นที่ใช้สอย 292 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องพักผ่อน และ 3 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 100.20 ตร.วา
– ราคา 7,660,000 บาท (ส่วนลด 600,000 บาท)
– เงินจอง 50,000 บาท
– เงินทำสัญญา 100,000 บาท
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถ.นครลุง ในย่านที่พักอาศัย มีบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งความอุดมสมบูรณ์ และอยู่ไม่ไกลจากรร.อัสสัมชัญธนบุรี จากตัวโครงการสามารถวิ่งเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง และอยู่ไม่ไกลจากโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากแหล่งช้อปปิ้งทั้งห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, ร้านค้า, ตลาด, โรงพยาบาล, สถานศึกษา และโรงงาน ห้างสรรพสินค้า หลักๆเลยก็จะมีเดอะมอลล์และซีคอนบางแค ใกล้เข้าไปตัวโครงการก็ส่วนมากจะเป็นพวกไฮเปอร์มาร์เก็ตทั้งแม็คโคร, บิ๊กซี และโฮมโปร นอกจากนั้นก็จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ทั้ง Victoria Garden, Tulip Square, Image Mall และ The Brio Mall ค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางโดยรถยนต์ถือว่าสะดวกทีเดียว ถือเป็นทำเลที่ค่อนข้างมีทางหนีทีไล่ เพราะสามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทางจากถนนใหญ่ทั้ง 3 เส้น ได้แก่ ถ.พุทธมณฑลสาย 3, ถ.พุทธมณฑลสาย 2 และ ถ.เพชรเกษม โดยถ.พุทธมณฑลสาย 2 และ 3 จะวิ่งคู่ขนานกันเชื่อมระหว่าง ถ.บรมราชชนนี และ ถ.เพชรเกษมค่ะ โดย ถ.บรมราชชนนี จะสามารถใช้วิ่งตรงไปถึงสะพานธนบุรี ข้ามฝั่งตรงไปอนุสาวรีย์ได้สะดวก ส่วน ถ.เพชรเกษม ก็จะสามารถไปถึงวงเวียนใหญ่ได้เลย หรือจะวิ่งเข้าถ.ราชพฤกษ์ข้ามสะพานตากสินไปฝั่งกรุงเทพฯวิ่งเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวก อีกทั้งยังเป็นเส้นที่วิ่งยาวผ่านหลายจังหวัดลงไปทางใต้อีกด้วย
ส่วนถ.พุทธมณฑลสาย 2 จะสามารถใช้ทางลัดเลาะเชื่อมต่อไปยังถ.กาญจนาภิเษกได้สะดวก ไปได้ทั้งทางบางใหญ่และพระราม 2 อีกทั้งตรงนั้นก็จะมีจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก สามารถเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างรวดเร็วค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ โดยรวมแล้วโครงการนี้จะเหมาะกับผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมากกว่า เพราะบริเวณหน้าโครงการจะมีเพียงรถสองแถวไปตลาดบางแควิ่งผ่าน ซึ่งอาจจะรอนานหน่อย นอกจากนี้จะต้องอาศัยเรียกวินมอเตอร์ไซค์ และ แท็กซี่ ที่พอจะมีวิ่งผ่านไป-มาเป็นช่วงๆ แต่ในอนาคตการเข้า-ออกเมืองสำหรับคนใช้ระบบขนส่งสาธารณะจะสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และ หัวลำโพง-บางแค ซึ่งทั้ง 2 สายนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีหลักสองค่ะ ซึ่งอยู่บริเวณเดอะมอลล์บางแค ห่างจากโครงการออกไปประมาณ 6 กม. อีกทั้งยังจะมีโครงการในอนาคต ต่อจากสถานีหลักสอง คือช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 อีกด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 ถ้าช่วงนี้เสร็จ คนที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะจะสะดวกสบายขึ้น เพราะสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีทวีวัฒนา อยู่ห่างจากโครงการเพียง 3.8 กม.
การออกแบบโครงการ และวัสดุ ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น มีทั้งหมด 142 ยูนิตบนพื้นที่ประมาณ 37 ไร่ ถือว่าเป็นโครงการที่มีขนาดกำลังดี ไม่แออัด โครงการถูกออกแบบด้วยแนวคิดอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีความโดดเด่นที่วัสดุภายในบ้านที่ได้คุณภาพ และพื้นที่ใช้สอยที่โปร่งโล่งและกว้างขวาง ทำให้สามารถจัดการพื้นที่บ้านได้ลงตัวง่าย โครงการออกแบบให้บ้านมีฝ้าเพดานที่สูงโปร่งทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ประตู-หน้าต่างขนาดใหญ่ทำให้บ้านดูโปร่งโล่งและแสงสว่างจากภายนอกสามารถส่องเข้ามาได้ทั่วถึง
วัสดุที่ทางโครงการได้เลือกใช้ ถือว่าได้คุณภาพ ทั้งผนังก่ออิฐมวลเบา ทำให้ง่ายต่อการต่อเติมภายหลัง, กระเบื้องพื้นจาก Cotto ได้มาตรฐาน, ประตู-หน้าต่าง UPVC พร้อมกระจกเขียวตัดแสงจาก Windsor คุณภาพดี, หลังคาโครง Truss จาก SCG, กระเบื้องมุงหลังคา CPAC Monier ตราช้าง, ไฟหลอด LED ทั้งหลังช่วยประหยัดไฟ, ภายในห้องน้ำใช้กระเบื้องตกแต่งผนังดูสวยงามจาก Cotto และ Duragres รวมถึงสุขภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการเองก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างเพียงพอทั้ง คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องรับรองภายใน, สวนสาธารณะ และสวนหย่อม ส่วนกลางของโครงการเมื่อเทียบกับปริมาณยูนิตแล้วก็คือว่าค่อนข้างพอเพียงค่ะ แต่ปัจจุบันห้องฟิตเนสและห้องรับรองยังใช้เป็นสำนักงานขายอยู่ จึงยังไม่เห็นภาพว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยมี ซุ้มรปภ., ระบบ Key Card Access, กล้องวงจรปิด และรั้วไม้กระดก ได้มาตรฐานค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.4 | อยู่ภายในถ.นครลุง เงียบสงบ แต่อยู่ไม่ไกลจากสาธารณูปโภคต่างๆ |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.8 | สามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง อยู่ใกล้ถนนใหญ่, ใกล้ทางด่วน และใกล้วงแหวนรอบนอก |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 6.9 | ไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ แต่พอจะมีวินมอเตอร์ไซค์ใกล้ๆ บริเวณนั้นเองก็มี Garb Taxi รวมถึง Uber ขับผ่าน สามารถเรียกผ่าน Application ให้เข้ามาที่ตัวโครงการได้ไม่ยาก |
บ้านและวัสดุ | 7.7 | บ้านสไตล์โมเดิร์น ฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ วัสดุได้มาตรฐานดี |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.8 | สิ่งอำนวยความสะดวกมี Clubhouse, ห้องสมุด, สระว่ายน้ำ, สวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น และ Jogging Track |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.6 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 3-4 คน หรือครอบครัวขยาย เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ หรือในเมืองปทุมธานี ต้องเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก มีงบประมาณอยู่ประมาณ 2-3 ล้านบาทค่ะ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.53 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
สำนักงานขาย : 061 570 1777
WEBSITE : www.pattra.co.th
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น