EP.1044 รีวิว บ้านเดี่ยว แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ Grandio Ladprao-Kaset Nawamin
สวัสดีค่ะผู้อ่าน Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ Grandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ บ้านเดี่ยวสุดหรูโครงการใหม่ จาก Goldenland ตัวโครงการตั้งอยู่บน ซอยนวมินทร์ 42 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. อยู่ใกล้ CDC, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และ เดอะมอลล์บางกะปิ เดินทางสะดวกใกล้จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และ วงแหวนกาญจนาภิเษก
Grandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ มีเนื้อที่โครงการ 20 ไร่ จำนวนเพียง 81 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้น ขนาด 4 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2-3 คัน ออกแบบบ้านมาในสไตล์อังกฤษ ที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง Goldenland เลยค่ะ บ้านจัดสรรฟังก์ชั่นได้เหมาะสม ลงตัวและใช้ประโยชน์ได้ดีที่สุด กับห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง, Family Room ขนาดใหญ่ และ ชั้นล่างเพิ่มห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ครบทุกการใช้งานของคนในครอบครัว บนเนื้อที่ดินขนาดใหญ่ เริ่มต้นที่ 50.00 ตร.วา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในสิ้นปี 2561 นี้แล้วค่า
สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการเน้นบรรยากาศที่ดูหรูหราสไตล์อังกฤษ ทั้ง คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนสวยภายในโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้นที่ 6.59 ล้านบาท
เชิญติดตามอ่านรายละเอียดแบบเจาะลึกที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
ชื่อโครงการ | แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ Grandio Ladprao-Kaset Nawamin |
เจ้าของโครงการ | โกลเด้นแลนด์ / Goldenland |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | ประมาณ 20 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 81 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 50.00 ตร.วา. |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 151-186 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4 ห้องนอน, 3-4 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2-3 คัน |
โซน | ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยนวมินทร์ 42 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. |
กำหนดการ | เปิดลงทะเบียน (ก.พ.61) |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จในสิ้นปี 2561 |
ราคา | เริ่มต้น 6.59 ล้านบาท* |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | เดือนละ 45 บาท/ตร.วา |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | แกรนดิโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ อาณาจักรแห่งความหรูหรา หนึ่งเดียวใจกลาง ลาดพร้าว & เกษตรนวมินทร์ ใกล้เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ บ้านเดี่ยวหรู สไตล์อังกฤษ 4 ห้องนอน 3 ที่จอดรถ อลังการสโมสร พร้อมสวนสวยรอบโครงการ |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยนวมินทร์ 42 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.
พิกัด : 13.799412, 100.663112
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Grandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 42 หรือที่เรียกอีกชื่อนึงว่า ซอยสุวรรณนิเวศน์ เข้ามาจากถนนนวมินทร์เพียง 1.4 กม. บนช่วงระหว่างแยกเกษตร-นวมินทร์กับแยกบางกะปิ ทำเลของโครงการเป็นทำเลในซอย สภาพแวดล้อมในซอยโดยรวมค่อนข้างเงียบสงบ เพราะส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม มีโรงงานขนาดกลางอยู่บ้าง 1-2 แห่งค่ะ ซึ่งนับว่าเป็นทำเลที่มีทางหนีที่ไล่พอสมควร เพราะสามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง โดยแต่เดิมที่ตั้งโครงการก็คือบึงสำราญ เป็นธุรกิจตกปลาและร้านอาหารขนาดใหญ่
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเข้าถึงโครงการสามารถเข้าได้ทั้งจากถนนหลัก 2 เส้นค่ะ คือ ถนนนวมินทร์ ฝั่งมุ่งหน้าลาดพร้าว เข้ามาทางซอยนวมินทร์ 42 และจากถนนเกษตร-นวมินทร์ หรือ ถนนประเสริฐมนูญกิจ ฝั่งมุ่งหน้างามวงศ์วาน สามารถเข้าซอยทองเปลวโกศล หรือ ซอยประเสริฐมนูกิจ 48 ลัดเข้ามาซอยนวมินทร์ 42 แยก 25 และ แยก 27 ได้ค่ะ
การเดินทางเข้า-ออกเมืองก็ทำได้สะดวก เพราะจากตัวโครงการสามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายสาย จากถนนเกษตร-นวมินทร์ ก็สามารถเชื่อมต่อไปยัง ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วน), ถนนพหลโยธิน, ถนนงามวงศ์วาน และ ถนนวิภาวดี-รังสิตได้ง่าย จากถนนนวมินทร์ ก็สามารถเชื่อมต่อ ถนนลาดพร้าว, ถนนเสรีไทย และ ถนนรามคำแหง เข้าถนนพระราม 9
และยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ด่านเก็บเงินโยธินพัฒนา ที่สามารถพาเราเข้าเมืองไปพระราม 9, พัฒนาการ และสุขุมวิท หรือถ้าจะออกนอกเมืองก็สามารถขึ้นทางด่วนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้าสุขาภิบาลเพื่อไปเชื่อมกับทางด่วนวงแหวนตะวันออกไปได้ถึงปุทมธานีก็ได้เช่นกันค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังอยู่ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษก สามารถเดินทางลงไปแถบ บางนา-สุวรรณภูมิได้สะดวก หรือจะวิ่งขึ้นออกไปทางบางปะอินก็ได้เหมือนกัน
ทางด่วน ให้ดูเวลากันคร่าวๆจากโครงการไปถึงจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ฝั่งมุ่งหน้าเข้าเมือง ระยะทางประมาณ 7.2 กม. ใช้เวลา 15 นาทีค่ะ
หรือวิ่งไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก เพียง 10.0 กม. ใช้เวลาราวๆ 20 นาทีค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินบริเวณโครงการ ถือว่ายังพอมีให้พึ่งพิงได้ ถ้าเดินออกมาจากโครงการมาที่ซอยนวมินทร์ 42 จะมีร้านค้าเล็กๆของชาวบ้าน และถ้าเดินเลยไปอีกหน่อยบนแยก 25 จะเจอ 7-Eleven อยู่ 1 สาขา นอกเหนือจากนั้นก็ต้องอาศัยขับรถออกจากซอยแล้วค่ะ
ถ้ามองในภาพรวมที่กว้างขึ้น โดยออกมาบนถนนใหญ่จะมีความอุดมสมบูรณ์ที่มากขึ้น ทั้งตลาดสด, Hypermarket และร้านอาหาร เช่น บนเส้นเกษตร-นวมินทร์ จะมีร้านอาหารชื่อดังบรรยากาศดีอย่าง Chocolate Ville, Hypermarket ก็จะมี Big C และ Max Value อีกทั้งตลาดนัดขนาดใหญ่อย่าง ตลาดนัดหัวมุม ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับศูนย์การค้า The Walk ถ้าวิ่งลงมาตามเส้นประดิษฐ์มนูธรรม หรือเลียบทางด่วน ที่เด่นๆก็จะมี CDC, The Crystal และ เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ส่วนบนเส้นลาดพร้าวจะมี ตลาดบางกะปิ, Tesco Lotus, Makro, ตะวันนา ห้างใหญ่ๆที่ใกล้โครงการที่สุดคือ The Mall บางกะปิ นอกจากนี้ก็ยังอยู่ไม่ไกลจาก Fashion Island และ The Promanade อีกด้วย
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ค่อนข้างลึกจากถนนใหญ่และไม่มีรถโดยสารใดๆวิ่งผ่าน แต่จะมีวินมอเตอร์ไซค์ และ แท็กซี่ วิ่งผ่านไป-มาอยู่ตลอดเวลา จึงนับว่าไม่ได้ลำบากอะไรค่ะ ส่วนรถเมล์จะมีอยู่หลายสายมากบนถนนนวมินทร์ โดยป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยนวมินทร์ 38 ยกตัวอย่างสายที่ผ่าน เช่น สาย 501 ที่วิ่งไปถึงหัวลำโพงผ่านสยาม พญาไท ฯลฯ หรือ สาย 95ก วิ่งไปบางกะปิ เป็นต้น
ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ, สายสีส้ม ช่วง ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และ สายสีชมพู ช่วง แคราย-มีนบุรี วิ่งผ่านบริเวณโดยรอบโครงการ แต่ที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นสถานี บางกะปิ ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งห่างจากสถานีลำสาลีเพียงสถานีเดียว ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้มค่ะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ Grandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนเกษตร-นวมินทร์ > ถนนวมินทร์ > ซอยนวมินทร์ 42 > ซอยนวมินทร์ 42 แยก 27 > โครงการ Grandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนเกษตร-นวมินทร์ช่วงแยกตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราวิ่งไปตามป้ายถนนนวมินทร์ค่ะ
ตรงไปบนถนนเกษตร-นวมินทร์เรื่อยๆ เราจะเห็นบุญถาวรอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
ตรงไปอีกสักพัก ให้เราชิดขวาที่แยกนวมินทร์-นวลจันทร์ เพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนนวมินทร์ไปทางบางกะปิ
เข้ามาบนถนนนวมินทร์เราวิ่งตรงไปอีกประมาณ 1.6 เมตร ให้ชิดซ้าย
จากนั้นก็ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนวมินทร์ 42 เลยค่า
จากซอยนวมินทร์ 42 ให้เราตรงเข้าไปอีกเป็นระยะ 1.4 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าที่แยก 27 เราก็จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางด้านขวามือเลยค่ะ นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าสู่ตัวโครงการจากถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) ทางซอยประเสริฐมนูกิจ 48 ได้อีกด้วย
เข้ามาภายในซอยนวมินทร์ 42 เป็นซอยขนาด 2 เลน รถสามารถสวนกันได้สะดวก บรรยากาศภายในซอยถือว่าเงียบสงบดีเพราะว่าส่วนมากเป็นที่อยู่อาศัย มีทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมค่ะ
ตรงเข้าไปเรื่อยๆเราจะเห็น 7-Eleven ตรงแยก 25 ให้เราตรงเลยไปอีกหน่อยแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าแยก 27 เป็นแยกสุดท้าย
พอเราเลี้ยวเข้าแยก 27 ไป เราก็จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางด้านขวามือเลยค่ะ ซึ่งภายใน British Avenue นี้จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 โครงการนั่นก็คือ Golden Town 2 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์, Golden Neo ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ และ Grandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์
เข้ามาภายใน British Avenue ที่ฝั่งซ้ายมือของวงเวียนแรกก็คือซุ้มทางเข้าโครงการ Grandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ นั่นเอง
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเดิม ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารที่พักอาศัยแนวราบ บรรยากาศโดยรวมสงบเงียบดีค่ะ ตัวโครงการจะอยู่ภายใน British Avenue ซึ่งมีทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ Golden Neo, Golden Town 2 และ Grandio
สำหรับพื้นที่ที่ติดกับโครงการ ทิศเหนือ ติดกับ โครงการ Golden Town 1 ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ทิศตะวันออก ติดกับ คลองลำรางกุ่ม และ บ้านพักอาศัยข้างเคียง สูง 1-2 ชั้น ทิศใต้ ติดกับ โครงการ Golden Neo ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ และ ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนซอยนวมินทร์ 42 แยก 27
ตอนนี้เราอยู่ที่หน้าทางเข้า British Avenue เดี๋ยวเราจะมาเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการกันก่อนเลย
ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้า British Avenue จะเป็นลานจอดรถโล่งๆค่ะ
ทางฝั่งขวามือจะเป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิมทั้งหมด ถ้าเดินเลยไปหน่อยเราก็จะเจอ Golden Town ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ โครงการที่ 1 ค่ะ
มองออกไปทางซ้ายมือ เราจะเดินไปทางซอยนวมินทร์ 42 นะ
ตรงหัวโค้งพอดีก็คือศูนย์การเรียนชุมชนสุวรรณนิเวศน์ค่ะ ถ้าเลี้ยวขวาเข้าไปจะเป็นซอยตัน
บ้านดั้งเดิมของคนในละแวกนี้ค่ะ ดูหน้าตาน่ารักดี
2 ข้างถนนภายในซอยนวมินทร์ 42 ก็จะมีพวกร้านแผงลอยเปิดขายอาหารกันอยู่บ้าง ทั้งอาหารตามสั่ง และพวกส้มตำไก่ย่าง
ส่วนอีกฝั่งที่เป็นทาวน์เฮ้าส์ ก็ใช้ชั้นล่างของบ้านตัวเองเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวบ้าง เป็นร้านโชห่วยบ้าง
ตรงหัวมุมของแยก 25 จะเจอ 7-Eleven พอดีเลย เดินมาจากหน้าทางเข้าโครงการนิดหน่อยก็ถึงแล้ว ด้านหน้า 7-Eleven ก็จะมีลูกชิ้นทอด และชายสี่บะหมีเกี๊ยวขายด้วยนะ
ตรงตามซอยนวมินทร์ 42 ออกไปประมาณ 1.4 กม. เราก็จะเข้าถนนนวมินทร์แล้วค่ะ
กลับมาที่ทางเข้า British Avenue เราจะเดินเข้าไปดูบรรยากาศภายในด้วยกันเลย
เดินเข้าไปเจอสะพานข้ามคลอง ออกแบบมาได้กลิ่นอายของสถาปัตยกรรมในประเทศอังกฤษ
พอเราข้ามสะพานมาก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือเลยค่ะ
ป้ายโครงการแบบชัดๆ
ตำแหน่งของซุ้มทางเข้าโครงการจะตรงกับวงเวียนแรกพอดี
ผ่านวงเวียนแรกเข้าไปด้านในก็จะมีโครงการ Golden Neo เป็นโครงการบ้านแฝด และ Golden Town 2 เป็นโครงการทาวน์โฮม อีก 2 โครงการค่ะ
ภาพซุ้มทางเข้าโครงการ Grandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ Grandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้น สไตล์อังกฤษ มีทั้งหมด 81 ยูนิตบนที่ดิน 20 ไร่ ออกแบบจัดสรรฟังก์ชั่นได้เหมาะสม ลงตัวและใช้ประโยชน์ได้ดีที่สุด กับห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง Family Room ขนาดใหญ่ ชั้นล่างเพิ่มห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ครบทุกการใช้งานของคนในครอบครัว ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปสำรวจบริเวณภายในโครงการจะขออธิบายผังคร่าวๆเพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ
ทางเข้า-ออกของโครงการหลักจะมีเพียงทางเดียวคือ จากซุ้มทางเข้าโครงการบนถนน British Avenue โดยจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย ประกอบด้วย ป้อมยาม, ระบบ Auto Access Card, กล้อง CCTV และ ประตูรั้วเลื่อน จากถนนซุ้มทางเข้ากว้างถึง 22 เมตร เข้าสู่ถนนหลักกว้าง 12 เมตร ผ่าเข้ามากลางโครงการแล้วเชื่อมด้วยถนนย่อยเป็นซอยเพื่อเข้าสู่ตัวบ้านแต่ละหลังกว้าง 9 เมตร คลับเฮ้าส์และสวนสาธารณะของโครงการถูกวางไว้ส่วนหน้าตรงใจกลางของโครงการ ในปัจจุบันพื้นที่ในคลับเฮ้าส์ยังถูกใช้เป็นสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะจัดให้เป็นฟิตเนสค่ะ
ข้อดีของโครงการก็คือ เป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อย เทียบกับพื้นที่โครงการแล้วไม่แออัด เป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ลูกบ้านหลังหน้าๆจะได้เปรียบในเรื่องของการเข้า-ออก และการเข้าใช้ส่วนกลางเพราะว่าอยู่ใกล้กว่า แต่ส่วนของบริเวณท้ายโครงการจะได้เปรียบในเรื่องของความเป็นส่วนตัว และมลภาวะทางเสียงและอากาศก็จะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับบ้านหลังหน้าๆที่จะต้องมีรถขับผ่านเข้า-ออกค่อนข้างถี่ อีกอย่างก็คือการวางผังโครงการนี้ มีการจัดให้หน้าบ้านหันตามแนวแกนเหนือ-ใต้ ทำให้ตัวบ้านเย็นสบาย สามารถรับลมได้ตลอดทั้งปี
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
แบบบ้านของโครงการจะมีด้วยกัน 3แบบนั่นก็คือ
จุดเด่นของบ้านภายในโครงการนี้ก็คือ เป็นบ้านที่มี Function และพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ฝ้าเพดานภายในบ้านทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ที่สูงโปร่งถึง 2.7 เมตร ทำให้โถงบันไดดูโปร่งโล่งมากขึ้นไปอีก และห้องนอน 2 ที่มีพื้นที่กว้างขวางเทียบเท่ากับห้องนอน Master Bedroom แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าห้องนอน 2 จะทำให้ห้องนอน Master Bedroom ดูด้อยลงไปนะคะ เพราะห้องนอน Master Bedroom ก็จะมีขนาดที่ใหญ่กว้างขวางขึ้นไปอีก เดี๋ยวเราจะมาดูฟังก์ชั่นของแบบบ้านทั้ง 3 กันค่ะ
แบบบ้าน Osborne ขนาด 151 ตร.ม.
แบบบ้าน Lambert ขนาด 182 ตร.ม.
แบบบ้าน Placentia ขนาด 186 ตร.ม.
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
ได้ชมรายละเอียดกันไปหมดแล้ว คราวนี้เรามาดูบรรยากาศภายในโครงการของจริงกันบ้างค่ะ
เริ่มต้นจากบริเวณซุ้มทางเข้าโครงการ เป็นถนนกว้างถึง 22 เมตร ดีไซน์ตัวซุ้มเป็นสไตล์อังกฤษ ด้วยโทนสีครีม-เทา, ซุ้มโค้ง และ หลังคาทรงโดม การเข้า-ออกตัวโครงการจะต้องผ่านรปภ.ประกอบด้วย ป้อมยาม, ระบบ Access Card, กล้อง CCTV และประตูรั้วเลื่อน โดยช่องฝั่งขาเข้าจะแบ่งย่อยออกไปอีก 2 ช่อง
ช่องฝั่งขาเข้า ฝั่งริมซ้ายสุดติดกับทางเดินเท้าจะเป็นช่องของ Resident ที่ถือ Key Card ค่ะ จะสามารถเปิดรั้วเลื่อนขับผ่านเข้าไปได้เลย ส่วนฝั่งขวาจะเป็นช่องของ Visitor พี่รปภ.จะต้องสอบถาม, แลกบัตร และจดบันทึก พร้อมกล้อง CCTV ที่ซุ้มทางเข้าออก เพื่อบันทึกภาพหน้าคนขับและป้ายทะเบียนรถค่ะ
ส่วนฝั่งขาออกจะมีเพียงช่องเดียว อยู่ฝั่งริมขวาสุด
ภาพมองไปที่บริเวณป้อมยาม
กล้อง CCTV เอาไว้จับภาพหน้าคนขับ และทะเบียนรถ
ภาพมุมมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
เข้ามาภายในโครงการแล้วจะมีถนนเมนกว้าง 12 เมตรตัดผ่านด้านหน้า
ใจกลางโครงการเป็นคลับเฮ้าส์และสวนสวยขนาดใหญ่ รายละเอียดเจาะลึกจะอยู่ในหัวข้อถัดไปนะคะ
ถนนเมนกว้าง 12 เมตร จะตัดไปทางซ้ายของตัวคลับเฮ้าส์แล้วเชื่อมด้วยถนนซอยกว้าง 9 เมตร
ตรงเข้าไปตามถนนเมน จะเป็นจุดจอดรถของลูกค้าค่ะ จะมีรปภ.คอยยืนต้อนรับอยู่เพื่อพาเข้าไปภายในสำนักงานขาย ซึ่งปัจจุบันใช้พื้นที่ของคลับเฮ้าส์
จากถนนเมน ซอยแรกจะเป็นที่ตั้งของบ้านตัวอย่างซึ่งเปิดให้เข้าชม 2 หลังด้วยกัน
หลังหน้าสุดก็คือแบบบ้านขนาดกลาง Lambert ขนาด 182 ตร.ม.
ส่วนหลังท้ายคือแบบบ้านขนาดเล็ก Osborne ขนาด 151 ตร.ม.
:::: พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ::::
จากเมื่อสักครู่เราได้เดินชมพื้นที่ภายในโครงการ และสวนสาธารณะกันแล้ว เดี๋ยวเราจะมาดู สวน และ คลับเฮ้าส์ ของโครงการ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกันต่อเลยค่ะ
สวนของโครงการเป็นสวนสไตล์อังกฤษ แบบ Formal Garden หรือจัดให้สวนเป็นแบบ Symmetric ซ้าย-ขวาเท่ากันนั่นเองค่ะ โดยรอบสวนลงต้นปาล์ม, ไม้ดอก และไม้พุ่มเอาไว้อย่างสวยงาม ตกแต่งด้วยกระถางต้นไม้ทรง Doric โดยรอบสวนปูด้วยพื้นคอนกรีตทำเป็นทางเดิน
ใจกลางของสวนมีลานน้ำพุอยู่หน้าคลับเฮ้าส์ เล่นซุ้มโค้งหลายชั้น และหลังคาทรงโดม
พื้นที่สวนจัดวางม้านั่งสำหรับพักผ่อนให้เป็นจุดๆ ตามความสวยงาม
เราจะเดินขึ้นไปดูบนคลับเฮ้าส์กันต่อเลยค่ะ
ภายในคลับเฮ้าส์จะประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
เราจะเริ่มจากพื้นที่ภายในอาคารกันก่อน
พื้นที่ภายในคลับเฮ้าส์มีความโอ่โถงและกว้างขวางมาก ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการ ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้ข้อมูล และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับตัวโครงการรออยู่ค่ะ
บริเวณเคาน์เตอร์ต้อนรับ
พื้นที่นั่งพักคอยภายในคลับเฮ้าส์ ภายหลังการขายจะจัดให้เป็นฟิตเนส และพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน
ภายในฟิตเนสจะเชื่อมต่อไปยังโถงห้องน้ำค่ะ ประตูทางขวามือนี้เลย
ภายในโถงห้องน้ำค่ะ จัดเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักคอยด้วย ฝั่งซ้ายคือห้องน้ำหญิง ส่วนฝั่งขวาคือห้องน้ำชายนะ
เข้าไปดูภายในห้องน้ำด้วยกันต่อเลย
ภายในห้องน้ำจัดบรรยากาศออกมาให้ดูหรูหราน่าใช้งาน ฝ้าเพดานก็สูงโปร่งทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนห้องน้ำทั่วๆ ไป
ฝั่งอ่างล้างมือ เตรียมมาให้ 2 อ่าง
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ
จากโถงห้องน้ำจะสามารถเดินเชื่อมต่อออกไปที่สระว่ายน้ำภายนอกได้
สระว่ายน้ำของโครงการมีขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.2 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ ว่ายบ่อยก็ไม่ต้องกลัวผมเสียผิวเสียด้วยนะ เพราะที่นี่เขาใช้สระระบบเกลือด้วย
บันไดเดินลงสระว่ายน้ำอยู่ที่ฝั่งขวา
มองไปทางฝั่งซ้ายของสระบ้าง
ที่ฝั่งซ้ายของสระจะมีฝักบัวสำหรับล้างตัวก่อนลงสระ และสระเด็กในร่ม
จุดล้างตัวค่ะ เตรียมเอาไว้ให้ 1 จุด
สระเด็กค่ะ มีหลังคาโดมคลุมกันแดด
สระเด็กลึกประมาณ 60 ซม.เท่านั้น ไม่อันตราย แต่ก็ควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองนะ
ภาพบรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำอีกสักภาพค่ะ
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังด้วยกัน ลำดับเป็นแบบบ้าน Osborne ขนาด 151 ตร.ม. และตามด้วย แบบบ้าน Lambert ขนาด 182 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า ?
แบบบ้าน Osborne ขนาด 151 ตร.ม.
มาเริ่มต้นจากแบบบ้าน Osborne ขนาด 151 ตร.ม. กันค่ะ หน้าตาบ้านตกแต่งสไตล์บ้านในยุโรป เล่นขอบคิ้วสีขาว และผิวอาคารลายอิฐบางส่วน ใช้โทนสีครีม-เทา ทั้งหลังเลยค่ะ
ภายในโรงจอดรถจะสามารถจอดรถได้ 2 คัน โครงสร้างเป็นเสาเข็ม-คอนกรีตเสริมเหล็ก และเทพื้นซีเมนต์ขับเรียบ ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าแผ่นเรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้
บริเวณลานจอดรถจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดเข้าตัวบ้านได้ ทำสเต็ปขึ้นมาให้ ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. เวลาฝนตกหรือซื้อของเข้าบ้านก็ไม่ต้องเดินอ้อมไปที่ด้านหน้าผ่านห้องนั่งเล่นให้เลอะเทอะ
มาที่เฉลียงทางเข้าบ้านกันต่อ
พื้นเฉลียงทางเข้าบ้านจะทำยกระดับขึ้นมาจากระดับพื้นดินประมาณ 30 ซม.เป็น 2 สเต็ป พื้นเฉลียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.
ที่ฝ้าติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้
บริเวณด้านข้างเฉลียงทำเป็นม้านั่งเล็กสำหรับนั่งพักคอยหรือใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้านได้
เข้าไปดูภายในตัวบ้านกันต่อเลยค่ะ ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง เพื่อลดปริมาณความร้อนและความเข้มของแสงแดดที่จะส่องเข้าสู่ภายในบ้าน สามารถเลื่อนเปิดได้ตามภาพ
มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นห้องทานอาหาร ทางขวามือจะเป็นโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยัง โถงบันได, ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำ และห้องครัว ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว
ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ภายในบ้านจะใช้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด
มาดูไอเดียการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ
ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวาง สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง หรืออาจจะใหญ่กว่าแบบที่บ้านตัวอย่างจัดก็ยังไหว หรือจะวางเป็นโซฟาเบดก็ได้นะ
ด้านหลังตำแหน่งที่วางโซฟาจะมีหน้าต่างบานเลื่อน UPVC กระจกเขียวตัดแสงให้ ด้านข้างเป็นหน้าต่างบาน Fixed เข้ามุม ได้วิวสวนแบบ 180 องศา
บริเวณชั้นวางทีวี สามารถทำเป็นชั้นแบบ Built-in เพื่อเก็บ DVD หนังเรื่องโปรด, แผ่นเครื่องเสียง หรืออาจจะทำเป็นตู้เก็บของเนียนไปกับผนังตกแต่ง เป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของที่ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น หรือจะตกแต่งด้วยกระจกบนผนังบางส่วนก็จะช่วยทำให้บ้านดูกว้างขวางขึ้นได้ค่ะ
ระยะจากโซฟา ไปจนถึงขั้นวางทีวีเหลือ 2.4 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะสำหรับการดูทีวีขนาดจอ 55 นิ้วได้เลยค่ะ ตรงนี้เรายังสามารถวางโต๊ะกาแฟตัวเล็กๆได้อีก 1 ตัวด้วยนะ
จะเห็นว่าพื้นที่ภายในโถงหลักค่อนข้างกว้างขวางและโปร่งโล่งดีทีเดียว เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ล้อมรอบถึง 3 ด้านเลย
ไปดูในส่วนของห้องทานอาหารกันต่อค่ะ
ภายในห้องจะได้ช่องแสงมาทั้ง 2 ด้าน เป็นหน้าต่างและประตูบานเลื่อน ในส่วนของเนื้อที่ก็ค่อนข้างเหลือเฟือ ขนาดวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งแล้วก็ยังเหลือเนื้อที่โดยรอบอีกเยอะ
บ้านตัวอย่างจัดโต๊ะกลมขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง จริงๆ แล้วจะวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งก็ยังรองรับไหวนะคะ
จะเห็นว่าข้างๆ ยังเหลือพื้นที่จัดเป็นมุมนั่งดื่มเพิ่มเติมได้เลย
ด้านข้างห้องทานอาหารมีประตูบานเลื่อน สามารถเปิดเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้แบบนี้
จริงๆ แล้วตามบ้านมาตรฐานจะปูพื้นกระเบื้องมาให้ค่ะ ทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเพิ่มเติมเป็นพื้นไม้เทียม
จัดเป็น Terrace พร้อมผนังน้ำตกสไตล์อังกฤษให้ดูเป็นไอเดีย
ภาพจากมุม Terrace ย้อนกลับเข้ามาภายในตัวบ้าน
เราจะเข้าไปดูในส่วนของโถงทางเดินฝั่งขวามือกันต่อค่ะ
จากโถงทางเดินจะเชื่อมต่อไปยัง โถงบันได, ห้องน้ำ, ห้องนอนชั้นล่าง และห้องครัว
เราจะเริ่มต้นจากห้องนอนชั้นล่างฝั่งซ้ายมือ ตามด้วยห้องครัวที่อยู่ตรงกลาง ส่วนฝั่งขวามือคือประตูทางเข้าจากทางโรงจอดรถค่ะ
ห้องนอนชั้นล่าง เหมาะสำหรับเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุค่ะ จะได้ไม่ต้องขึ้น-ลงบันไดบ่อย หรือเราจะใช้เป็นห้องอเนกประสงค์แทนก็ได้ จัดเป็นห้องพักผ่อนครอบครัว, ห้องดูหนัง, ห้องทำงาน หรือห้องดูแลเด็กเล็กก็ทำได้หมดค่ะ
ภายในห้องตัวอย่างจัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งแบบนั่งดูหนังเอาไว้ ลงตัวกับพื้นที่ห้องพอดี
ในห้องนี้จะมีหน้าต่างมาให้ 2 บาน ฝั่งซ้ายคือหน้าต่างบาน Fixed รับแสงจากทางห้องโถงใหญ่ของบ้าน ส่วนฝั่งขวาคือหน้าต่างบานเลื่อน รับแสงธรรมชาติจากภายนอก
ผนังอีกด้านทำ Built-in ได้ทั้งหมดเลย แต่ต้องเว้นบางส่วนสำหรับเป็นวงเปิดประตูด้วยนะ
ตามด้วยห้องครัวค่ะ
พื้นห้องครัวจะลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม.
พื้นห้องครัวก็ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ให้เหมือนเดิม ทางบ้านตัวอย่างจัดเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L พอดีกับพื้นที่ห้อง เหลือพื้นที่ยืนปรุงอาหารกว้าง 1.2 เมตร เป็นระยะที่กำลังพอดี
ขนาดของเคาน์เตอร์ที่วางได้ที่ว่าใหญ่เหลือเฟือเลย วางทั้งอ่างล้างจาน และเตาปรุงอาหารได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารอีกด้วย
จากห้องครัวจะมีประตูบานเลื่อน เปิดเชื่อมกับส่วนซักรีดค่ะ
ทั้งความกว้างและความยาวของห้องสามารถติดตั้งราวแขวนเสื้อผ้า และวางพวกเครื่องซักผ้า, เตารีด หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ
ภายในห้องมีหน้าต่างให้ค่อนข้างเยอะค่ะ ห้องครัวก็จะได้แสงสว่างผ่านทางห้องซักรีดไปในตัว
จากห้องซักรีดจะมีประตูเปิดเชื่อมสู่ลานซักล้างภายนอกบ้าน เป็นประตูบานเปิด กรอบ UPVC ติดลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง
มือจับเป็นแบบก้านโยกแบบนี้
พื้นล้างซักล้างทำเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบให้เราแบบนี้ค่ะ เทกว้างประมาณ กว้าง 1.2 x 2 ม.
บริเวณนี้ทางโครงการจะติดตั้งถังเก็บน้ำ, ปั๊มน้ำ, ปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำ และดวงโคมฟลูออเรสเซนต์มาให้ด้วย
กลับเข้ามาภายในตัวบ้าน เราจะเข้าไปดูภายในห้องน้ำชั้นล่างกันต่อ ตำแหน่งอยู่ที่ข้างๆ โถงบันไดค่ะ
จากพื้นโถงทางเดินจะลดระดับลงไป 10 ซม.
และพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปอีก 5 ซม.
ภายในห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 ซม. ผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องตกแต่งแบบต่างๆ มาอย่างสวยงามตามภาพ ห้องน้ำถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน เป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง สุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของ Englefield และ American Standard (หรือเทียบเท่า) นะ
ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้
มาดูสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ อ่างล้างมือเป็นแบบแขวนผนัง มีฝาครอบท่อดักกลิ่นเรียบร้อย มีขนาดกำลังพอดี สามารถวางของใช้ที่ขอบอ่างได้เล็กน้อย
ก๊อกน้ำรูปทรงกระทัดรัด มือจับถนัดมือ
ถัดเข้าไปวางโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้น ระบบ Dual flush ลองนั่งดูแล้วทั้งขนาดที่นั่งและความสูงของตัวโถกำลังดีเลยค่ะ
ระยะการติดตั้งก็กำลังดี แอบชิดฝั่งขวาไปหน่อย ข้างบนมีหน้าต่างบานกระทุ้งกระจกฝ้ามาเป็นช่องแสงและทางระบายอากาศ
สายฉีดชำระน้ำหนักเบามือขนาดกระทัด และที่ใส่กระดาษชำระ
ฝั่งในสุดของห้องน้ำคือโซนอาบน้ำค่ะ
พื้นที่ยืนอาบน้ำขนาดกำลังดี ไม่แคบจนเกินไป พื้นลดระดับลงไปอีกหน่อย เพื่อกันน้ำไหลย้อน ตรงนีี้เราสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมได้อีกค่ะ แนะนำเป็นแบบประตูบานเฟี้ยม 2 ตอนนะ
ภายในติดตั้งฝักบัวอาบน้ำสายอ่อนพร้อมราวปรับระดับมาให้ แต่ชั้นวางสบู่จะต้องหามาติดตั้งเพิ่มเองนะ
หัวฝักบัวก็มีขนาดกำลังดีค่ะ ไซส์กลางๆ ใช้งานได้สะดวก สามารถปรับระดับของสายน้ำได้
ด้านข้างติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้
เราจะเดินขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ด้วยกันต่อเลยค่ะ บันไดมีความกว้าง 1 เมตร พื้นบันไดเป็นไม้ยางพาราอัดประสาน ส่วนราวบันไดเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมัน มือจับเป็นไม้ใช้สีเข้ากันกับบันได
มุมมองขึ้นไปยังโถงบันได สูงโปร่งดีค่ะ มีช่องแสงขนาดใหญ่มาให้ทำให้บริเวณโถงดูสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟเลย
มุมมองลงไปที่ชานพักบันได
มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได
ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นทั้งหมดจะปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าเพดานที่ชั้น 2 สูง 2.7 เมตรค่ะ
ประตูทางซ้ายมือคือห้องนอนใหญ่
ส่วนฝั่งทางขวาจะเป็นห้องน้ำ, ห้องนอน 2 และ ห้องนอน 3
ที่โถงบันไดชั้น 2 จะเป็นจุดที่ติดตู้ Load Center เอาไว้ ใช้ของ Schneider Electric
จะเข้าไปดูภายในห้องนอนใหญ่กันก่อนเลย
ภายในห้องนอนมีขนาดใหญ่และกว้างขวาง สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ห้องนี้จะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือ โซนพักผ่อน และ โซนแต่งตัว ฝ้าเพดานภายในห้องนอนเป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทุกห้อง
เข้าไปดูในโซนพักผ่อนกันก่อนค่ะ ภายในห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้เลย
และยังเหลือพื้นที่โดยรอบเตียงแบบเดินได้สบายๆ
ฝั่งซ้ายวางโต๊ะข้างได้ 1 ตัว
ส่วนฝั่งขวาวางโต๊ะเครื่องแป้งขนาดมาตรฐานได้อีก 1 ตัว
ฝั่งตรงข้ามเตียงนอนสามารถทำเป็นชั้นวางทีวีแบบ Built-in ได้เต็มทั้งผนัง พยายามทำช่องเก็บของเอาไว้บ้างนะคะจะได้สามารถช่วยจัดระเบียบภายในห้องได้
วางชั้นวางทีวีแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงอีกอยู่นะ เดินผ่านได้ไม่เกะกะ
ที่ฝั่งหน้าบ้านของห้องจะมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดออกสู่ระเบียงห้อง
ระเบียงจะเป็นระเบียงแบบแคบๆหน่อย พอจะวางเก้าอี้นั่งได้สักตัว พื้นปูด้วยกระเบื้องแบบเดียวกับเฉลียงทางเข้าบ้านค่ะ
ขนาดระเบียงยาวตามหน้าห้องเลยค่ะ พื้นระเบียงจะลดระดับจากพื้นห้องนอนเล็กน้อย
ภาพมุมมองจากระเบียงย้อนกลับเข้ามาภายในห้องนอน
ในส่วนของโซนแต่งตัวจะอยู่เชื่อมกับห้องน้ำพอดี ตรงนี้เราสามารถกั้นห้องเพิ่มเติมทำเป็น Walk-in Closet ก็ได้เช่นกัน หรือจะเปิดโล่งแบบนี้ก็ทำให้ห้องดูกว้างขวางดีค่ะ
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อย
ภายในห้องน้ำมีการจัดวางสุขภัณฑ์เรียงจากส่วนแห้ง เข้าไปยังส่วนเปียกด้านใน พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม. ผนังกรุด้วยกระเบื้องตกแต่งหลายขนาด ส่วนสุขภัณฑ์ยังใช้ของ Englefield และ American Standard รุ่นเดิมค่ะ
อ่างล้างมือใช้รุ่นที่ใหญ่ขึ้นมาจากห้องน้ำชั้นล่าง ด้านหลังทำ Lower Wall สามารถวางของใช้ภายในห้องน้ำได้เพิ่ม
ถัดมาวางโถสุขภัณฑ์รุ่นเดิม
ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำ ติดฉากกั้นอาบน้ำประตูบานเลื่อนมาให้เรียบร้อย
มือจับเป็นสแตนเลสถนัดมือดีค่ะ
พื้นที่ยืนอาบน้ำข้างในมีขนาดกว้างขวางมากขึ้น
ภายในติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้พร้อมราวปรับระดับเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเจาะผนังทำชั้นวางสบู่เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ภายในโซนอาบน้ำมีหน้าต่างบานเปิดช่วยระบายอากาศมาให้ 1 บานค่ะ
ออกจากห้องนอนใหญ่มาดูห้องทางฝั่งขวาของโถงบันไดกันต่อ เริ่มจากห้องน้ำฝั่งซ้าย, ห้องนอน 2 ฝั่งขวา และห้องนอน 3 ตรงกลางค่ะ
ห้องน้ำนี้จะเป็นห้องที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอน 2 และห้องนอน 3 นะ ภายในจะเหมือนกับห้องนอนในตัวห้องนอนใหญ่ทุกประการค่ะ ต่างกันที่ลวดลายและสีสันของกระเบื้อง จะขอข้ามไปเลยนะคะ
ข้ามาดูภายในห้องนอน 2 กันต่อ พื้นที่ในห้องมีขนาดกว้างขวาง มีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ 2 ฝั่ง
ภายในห้องจะสามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้ วางชิดริมผนังห้อง ทำให้พื้นที่ห้องที่เหลือเหลือค่อนข้างกว้างขวาง
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงยังเหลือ ทำเป็นชั้นวางของเพิ่มเติมได้
ยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้
ฝั่งทางเข้าห้องจะวางตู้เสื้อผ้าเพิ่มเติมอีกตู้ก็ยังได้นะคะ แต่ให้เว้นวงเปิดของประตูเอาไว้ด้วยนะ
เข้ามาภายในห้องนอน 3 มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ห้องนอน 2 เลยค่ะ
ห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องเลี้ยงเด็กให้ดูเป็นไอเดีย
ที่ฝั่งนึงของผนังเราสามารถทำเป็นชั้นวางของหรือตู้เสื้อผ้าได้หมดเลย
ส่วนอีกฝั่งสามารถวางเตียงนอน ขนาด 3 ฟุต หรือ 3 ฟุตครึ่งแทนที่เตียงนอนเด็กได้เลย
นอกจากนี้ทั้งสวิตช์และปลั๊กไฟจะใช้ของ Schneider Electric ทั้งหมดเลยค่ะ
แบบบ้าน Lambert ขนาด 182 ตร.ม.
มาดูแบบบ้าน Lambert ขนาด 182 ตร.ม.กันต่อ หน้าตาบ้านตกแต่งสไตล์บ้านในอังกฤษ เล่นขอบคิ้วสีขาว และผิวอาคารลายอิฐบางส่วน ไม่ต่างจากแบบบ้าน Osborne เลยค่ะ
ภายในโรงจอดรถจะสามารถจอดรถได้ 3 คันเลยนะ โครงสร้างเป็นเสาเข็ม-คอนกรีตเสริมเหล็ก และเทพื้นซีเมนต์ขับเรียบ
ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าแผ่นเรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ มีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดเข้าตัวบ้านได้ ทำสเต็ปขึ้นมาให้เหมือนกันค่ะ ทางฝั่งซ้ายมือจะมีช่องเก็บของเพิ่มมาให้
มาที่เฉลียงหน้าบ้านกันต่อ พื้นเฉลียงทางเข้าบ้านจะทำยกระดับขึ้นมาจากระดับพื้นดินประมาณ 30 ซม.เป็น 2 สเต็ป พื้นเฉลียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง เหมือนเดิมทุกประการ
เข้ามาภายในบ้านมีการจัดวางแปลนบ้านเหมือนกันทุกอย่าง (แต่แปลนบ้านหลังนี้จะ Mirror กับหลังที่แล้วค่ะ) วางห้องนั่งเล่นด้านหน้าสุด ถัดเข้าไปจะเป็นห้องทานอาหาร ทางซ้ายมือจะเป็นโถงทางเดิน เชื่อมต่อกับ โถงบันได, ห้องน้ำ, ห้องนอนชั้นล่าง และห้องครัว ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบ ภายในบ้านจะใช้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด
มาดูการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ
ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวางพอๆ กับบ้านหลังที่แล้ว สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง และยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะข้างได้อีกด้วย ด้านหลังตำแหน่งที่วางโซฟาจะมีหน้าต่างบานเลื่อน UPVC กระจกเขียวตัดแสงให้ 1 บาน
บริเวณชั้นวางทีวี สามารถทำเป็นชั้นแบบ Built-in เพื่อเก็บของได้ค่ะ ตกแต่งด้วยกระจกตามแบบบ้านตัวอย่างจะช่วยให้ภายในบ้านดูกว้างขวางขึ้น
ระยะดูทีวีก็เท่าเดิมค่ะ รองรับทีวีจอขนาด 55 นิ้วได้สบายๆ
จะเห็นว่าพื้นที่ภายในโถงหลักค่อนข้างกว้างขวางดีทีเดียว ตรงกลางห้องสามารถวางชั้นวางของ หรือโต๊ะทำงานเพิ่มได้อีก 1 ตัวเลย
ไปดูในส่วนของห้องทานอาหารกันต่อ
จะเห็นว่าพื้นที่ห้องกว้างมากพอสำหรับจัดบาร์แบบ Island คู่กับโต๊ะทานอาหารได้เลย
ภายในบ้านตัวอย่างวางโต๊ะอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งกำลังเหมาะสมกับพื้นที่เลย แต่ถ้าไม่มีบาร์สามารถวางโต๊ะขนาด 6-8 ที่นั่งเลยก็ยังไหว
พื้นที่บาร์ข้างโต๊ะทานอาหาร จัดเป็นแบบ Island
ด้านข้างห้องทานอาหารมีประตูบานเลื่อน สามารถเปิดเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้ โดยจะปูพื้นกระเบื้องมาให้เหมือนเดิม
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน
เราจะเข้าไปดูในส่วนของโถงบันไดกันต่อ
ภายในโถงทางเดินจะเชื่อมสู่ โถงบันได, ห้องน้ำฝั่งซ้าย, ห้องครัวกลางโถง และห้องนอนชั้นล่างฝั่งขวามือ
เรามาเริ่มที่ห้องน้ำกันก่อนค่ะ
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปจากพื้นโถง 10 ซม.
ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ภายในเหมือนแบบบ้านหลังที่แล้วทุกประการ จะแตกต่างกันที่สีสันและลวดลายของกระเบื้องนะคะ
ตามด้วยห้องนอนชั้นล่าง
ขนาดห้องนี้จะใหญ่กว่าห้องนอนชั้นล่างหลังที่แล้วเล็กน้อยค่ะ จะใช้เป็นห้องอเนกประสงค์แทนก็ได้เหมือนกัน
ภายในจัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งสำหรับนั่งดูหนังให้ดูเป็นตัวอย่างเหมือนเดิม
ฝั่งตรงข้ามวางชั้นวางทีวี
ตามด้วยห้องครัว
เข้ามาภายในห้องครัว มีลักษณะการจัดวางเหมือนบ้านหลังที่แล้วทุกประการค่ะ แต่จะมีพื้นที่กว้างขวางขึ้นเล็กน้อย
ส่วนการจัดวางเคาน์เตอร์ก็สามารถวางได้แบบรูปตัว L เหมือนเดิม แต่มีพื้นที่สำหรับการเตรียมอาหารเพิ่มมากขึ้น
จากห้องครัวจะเชื่อมสู่ห้องซักรีด มีพื้นที่ห้องเท่าๆ เดิม
จากห้องซักรีดจะมีประตูสามารถเปิดเชื่อมสู่ลานซักล้างด้านหลังได้ ที่พื้นเทพื้นซีเมนต์ปาดเรียบให้เราเหมือนเดิม
กลับเข้ามาภายในบ้าน เราจะเดินขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อ บันไดมีความกว้าง 1 เมตร พื้นบันไดเป็นไม้ยางพาราอัดประสาน ส่วนราวบันไดเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมัน มือจับเป็นไม้ใช้สีเข้ากันกับบันได
มุมมองขึ้นไปยังโถงบันได มีช่องแสงขนาดใหญ่มาให้
มุมมองลงไปที่ชานพักบันได
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได
บนโถงบันไดทำเป็นชั้นลอย ได้พื้นที่เพิ่มเป็นห้องพระค่ะ
ขึ้นมาถึงชั้น 2 ฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนนั่งเล่น, ห้องนอน 2 และ 3
พื้นที่ห้องนั่งเล่นภายในโถงบันได
ส่วนฝั่งขวามือติดกับชั้นลอยคือห้องนอนใหญ่
เราจะเข้าไปดูห้องนอน 2 กันก่อนเลย
พื้นที่ภายในห้องนอน 2 มีขนาดกำลังดี ได้จัดเป็นเตียง 2 ชั้นให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ
จัดรูปแบบเตียงเป็นรูปตัว L ใต้เตียงทำเป็นพื้นที่นั่งทำการบ้านน่ารักๆ
บริเวณพื้นที่นั่งทำการบ้านใต้เตียง
ที่นอนวางขนาด 3 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง
ส่วนฝั่งตรงข้ามสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ ฝั่งซ้ายมือคือห้องน้ำในตัวค่ะ
ภายในห้องน้ำทั้งวัสดุ และสุขภัณฑ์ก็จะไม่ต่างจากห้องน้ำห้องอื่นๆ แต่การวางผังห้องจะแตกต่างกันเล็กน้อย
โดยวางโถสุขภัณฑ์ให้หันหน้าไปอีกฝั่ง
ส่วนโซนอาบน้ำจะติดตั้งประตูแบบบานเฟี้ยม 2 ตอนมาให้ ช่วยประหยัดพื้นที่ดี
มาดูห้องนอน 3 กันต่อ
ห้องนี้จะมีขนาดเล็กที่สุด แต่ก็ยังสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างครบครันอยู่นะ
ห้องนี้ก็จะเหมาะกับเตียงนอนขนาด 3 ฟุตครึ่ง
อีกฝั่งนึงสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เลยนะ ส่วนประตูด้านขวาคือห้องน้ำในตัวค่ะ
ห้องน้ำในตัวก็จะเหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆ ทุกประการค่ะ
แต่ขนาดอ่างล้างมือจะใช้แบบที่เล็กลงมาหน่อย เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ของห้อง
ปิดท้ายด้วยห้องนอนใหญ่เป็นห้องสุดท้ายกันค่ะ
ภายในห้องจะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซนแต่งตัว และโซนพักผ่อน เข้ามาถึงเราจะเจอโซนแต่งตัวก่อน ซึ่งจะเชื่อมกับห้องน้ำในตัว พื้นที่กว้างขวางสามารถทำตู้ Built-in ขนาดใหญ่ได้ เว้นที่ว่างตรงหน้าต่างทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัวค่ะ
ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งขวาของห้องแต่งตัว
ภายในห้องน้ำทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ยังคงใช้แบบเดิมทุกประการ
เข้ามาดูภายในส่วนพักผ่อนกันต่อ สามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้อย่างสบายๆ
โดยรวมยังเหลือพื้นที่โดยรอบให้สามารถเดินผ่านได้อย่างสะดวก
โดยที่ฝั่งซ้ายมือของเตียงยังเหลือพื้นที่สามารถวางโซฟาได้อีก 1 ตัว
พื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือมากพอ เดินผ่านได้สะดวก สามารถวางชั้นวางทีวีได้อีก 1 ตัว
ส่วนประตูบานเลื่อนเปิดออกไปเป็นระเบียงห้อง เหมือนบ้านหลังที่แล้วทุกประการ
ขนาดพื้นที่กว้างขึ้นเล็กน้อย
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (มีนาคม 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (มีนาคม 2561) ::::
แบบบ้าน Osborne
พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 50.00 ตร.วา
– ราคา 7,765,000 บาท
แบบบ้าน Lambert
พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 51.40 ตร.วา
– ราคา 8,325,000 บาท
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ที่ตั้งของโครงการ Grandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 42 เข้ามาจากถนนใหญ่ 1.4 กม. สภาพแวดล้อมรอบๆ ส่วนใหญ่เป็นบ้านของคนที่อยู่อาศัยเดิมทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว และมีโรงงานเล็กๆ นอกจากนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษแล้วค่ะ เป็นทำเลที่สงบเงียบเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย แต่ซอยอาจจะเปลี่ยวหน่อยในเวลากลางคืน ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินโดยรอบจะเป็นร้านที่เปิดของชาวบ้านในละแวกนั้น และ 7-Eleven ต้องออกมาจากซอยถึงจะเจอแหล่งความอุดมสมบูรณ์ค่ะ ใกล้ทั้ง เดอะมอลล์บางกะปิ, Fashion Island, The Promanade, CDC, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และอื่นๆอีกมากมาย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สะดวกสบายสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เพราะสามารถเข้า-ออกได้ผ่านทางถนนใหญ่ 2 เส้น นั่นก็คือถนนนวมินทร์ และถนนเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักอื่นๆได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น จากถนนเกษตร-นวมินทร์ไปยัง ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วน), ถนนพหลโยธิน, ถนนงามวงศ์วาน และ ถนนวิภาวดี-รังสิต และ จากถนนนวมินทร์ ก็สามารถเชื่อมต่อ ถนนลาดพร้าว, ถนนเสรีไทย และ ถนนรามคำแหง เข้าถนนพระราม 9 นอกจากนั้นในระยะไม่เกิน 10 กม. ก็มีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และวงแหวนกาญจนาฯให้เลือกใช้ ถึงจะไม่ได้ใกล้กับโครงมากแต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการเข้า-ออกเมืองค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์นั้นก็ถือว่าไม่ลำบากเท่าไหร่ แม้ว่าจะไม่มีรถโดยสารประจำทางวิ่งผ่านหน้าโครงการ แต่ก็จะมีรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านไป-มาเกือบตลอดทั้งวัน ถ้าไม่อยากรอนานเดี๋ยวนี้จะใช้ Application ทั้ง Uber, GrabTaxi หรือจะเป็น GrabBike ก็สะดวกสบายค่ะ
นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ, สายสีส้ม ช่วง ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และ สายสีชมพู ช่วง แคราย-มีนบุรี วิ่งผ่านบริเวณโดยรอบโครงการ แต่ที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นสถานี บางกะปิ ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งห่างจากสถานีลำสาลีเพียงสถานีเดียว ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้มค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ ตัวโครงการเป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้น สไตล์อังกฤษ มีทั้งหมด 81 ยูนิตบนพื้นที่ 20 ไร่ ถือว่าเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อย ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวดีค่ะ โครงการถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางทุกห้อง ฝ้าเพดานที่สูงโปร่งทั้งชั้นบนและชั้นล่าง หน้าต่างขนาดใหญ่รอบบ้านทำให้บ้านดูโปร่งโล่งและทำให้แสงสว่างจากภายนอกสามารถส่องเข้ามาได้ทั่วถึง
ความโดดเด่นของโครงการอีกข้อก็คือวัสดุที่ทางโครงการได้เลือกใช้ ภายในห้องน้ำมีการคัดสรรกระเบื้องหลายชนิดมาใช้ตกแต่งผนังห้องดูสวยงามหรูหรา ซึ่งอีกหลายๆ โครงการจะไม่ค่อยได้ตกแต่งอะไรมาให้สักเท่าไหร่ และภายในโซน Shower มีการก่อธรณีขึ้นมาเพื่อแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันอย่างชัดเจน พร้อมติดฉากกั้นอาบน้ำให้ทุกห้อง
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการเองก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครัน เพียงพอต่อจำนวนยูนิตภายในโครงการ ออกแบบมาได้สวยงามและน่าใช้งาน เป็นสไตล์อังกฤษ ทั้งสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนสาธารณะ ต้องรอดูว่าภายในห้องฟิตเนสทางโครงการจะจัดเครื่องออกกำลังกายอะไรมาให้บ้าง ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยจะมีกล้องวงจรปิดติดรอบโครงการ, การเข้า-ออกโครงการจะต้องผ่านป้อมยาม และระบบ Access Key Card ถือว่าใช้ได้ค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.5 | ในซอยลึกเหมาะสำหรับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินน้อยหน่อย น้อย แต่ได้ความสงบ |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 8.0 | สามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง เดินทางไม่ลำบากสามารถใช้เส้นทางหลักๆและทางด่วนได้ |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7.0 | ไม่มีมีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ แต่อยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง, สายสีส้ม และสีชมพู |
บ้านและวัสดุ | 7.6 | บ้านสไตล์อังกฤษ ออกแบบมาน่าอยู่อาศัย พื้นที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้เข้ากับผู้พักอาศัยได้ วัสดุของบ้านค่อนข้างดี |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.7 | สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันพอดีกับจำนวนยูนิตของโครงการ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.3 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 4-5 คน เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ มีรถส่วนตัวใช้ ต้องการโครงการที่เงียบสงบ ชอบบ้านแนวสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษแบบหรูหรา |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.68 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
สำนักงานขาย : 062 545 6644
WEBSITE : http://www.goldenland.co.th/House/แกรนดิโอ-ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น