EP.1490 รีวิว ทาวน์โฮม พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ Pruksa Ville Theparak-Srinakarin

---

พฤกษา วิลล์ ทำเลอื่นๆ
พฤกษาวิลล์ ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ 78
พฤกษา วิลล์ 93 นครอินทร์ – ราชพฤกษ์
พฤกษา วิลล์ 98 นครอินทร์-สิรินธร
พฤกษา วิลล์ 88 ศาลายา
พฤกษา วิลล์ 91 ศาลายา ซอย 5/8
พฤกษา วิลล์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์
พฤกษา วิลล์ วงแหวน-อ่อนนุช
พฤกษา วิลล์ เทพารักษ์-บางนา(ซอย ส.มณีรัตน์)
พฤกษา วิลล์ 99 เพชรเกษม 91-93
พฤกษา วิลล์ พุทธสาคร
พฤกษา วิลล์ 85 เลียบคลองทวีวัฒนา

---

---

ชื่อโครงการ	พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ / PruksaVille Theparak-Srinakarin
เจ้าของโครงการ	บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท / Pruksa
ลักษณะโครงการ	ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 มตร
พื้นที่โครงการ	45ไร่
จำนวนบ้าน	495 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 18.1 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย	116-117 ตร.ม.
จำนวนห้อง	3-4 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด	1 คัน
โซน	สมุทรปราการ
ขนส่งสาธารณะ	ถนนศรีนครินทร์ ถนนเทพารักษ์ ถนนแพรกษา ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศรีนครินทร์ สนามบินสุวรรณภูมิ
ที่ตั้ง	ซ.ทรัพย์พัฒนา ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270
กำหนดการ	Grand Opening 29-30 มิ.ย. 2562
ปีที่สร้างเสร็จ	พร้อมเข้าอยู่อาศัยบางส่วน ก.ย. 2562
ราคา	เริ่มต้น 2.65 ล้านบาท (ส.ค.62)
ค่าส่วนกลาง	40 บาท/ตร.ว./เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ตลาดและห้างสรรพสินค้า ตลาดสมุทรปราการ : 8.2 กม. Robinson สมุทรปราการ : 7.3 กม. Big C สมุทรปราการ : 8.1 กม. Tesco Lotus ศรีนครินทร์ : 8.0 กม. Jas Urban ศรีนครินทร์ : 7.4 กม. Foodland ศรีนครินทร์ : 7.2 กม. Big C ศรีนครินทร์ : 9.5 กม. Makro ศรีนครินทร์ : 9.5 กม. Central Plaza บางนา : 12.6 กม. Mega & IKEA บางนา : 9.7 กม. Tesco Lotus บางนา : 14.1 กม. Big C บางพลี : 9.3 กม. สถานศึกษา รร.ประภามนตรี 2 : 6.1 กม. รร.สมุทรปราการ : 8.3 กม. รร.สตรีสมุทรปราการ : 6.9 กม. รร.สารสาสน์วิเทศ สมุทรปราการ : 7.9 กม. รร.ปทุมคงคา สมุทรปราการ : 10.3 กม. สถานพยาบาล รพ.เปาโล สมุทรปราการ : 5.2 กม. รพ.สมุทรปราการ : 9.4 กม. รพ.สินแพทย์ เทพารักษ์ : 3.4 กม. รพ.ศิครินทร์ : 9.4 กม. รพ.ไทยนครินทร์ : 13.8 กม. อื่นๆ ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ : 7.2 กม. ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ : 9.9 กม. พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ : 12.0 กม. ไบเทคบางนา : 13.7 กม. สนามบินสุวรรณภูมิ : 26.1 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	Clubhouse สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนส สวนสาธารณะ Main Gate กว้างขวาง รับธรรมชาติอย่างลงตัว เข้า-ออก โครงการ ด้วยระบบ Auto Access Card ระบบประตูล็อก 2 ชั้น กล้องวงจรปิด CCTV ที่ทางเข้าหลัก รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ	พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ โครงการใหม่จาก พฤกษา เรียลเอสเตท “บ้านหลังใหม่ สุข.. ทุกการเริ่มต้น” บนทำเลศักยภาพ ใกล้ทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์, สนามบินสุวรรณภูมิ และ MEGA บางนา

---

---

::: ที่ตั้งโครงการ :::

ซ.ทรัพย์พัฒนา ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270

พิกัด : 13.599527, 100.644247

ทำเลที่ตั้งโครงการ PruksaVille เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ภายในซอยทรัพย์พัฒนา เรียกว่าเป็นทำเลที่อยู่ใกล้ใจกลางเมืองสมุทรปราการ มีจุดเด่นอยู่หลายเรื่องทั้งเรื่องของการเชื่อมต่อเข้าออกสู่ถนนหลักได้หลายทาง ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวในระยะที่สามารถไปใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ประกอบกับมีสถานที่อำนวยความสะดวกให้เลือกใช้งานได้หลายแห่ง ซึ่งผมจะลงรายละเอียดในแต่ละส่วนที่กล่าวมาให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นในภาพลำดับต่อไปครับ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองจังหวัดสมุทรปราการ ภายในซอยทรัพย์พัฒนา สามารถเข้าออกจากถนนใหญ่ได้ถึง 3 เส้นทางด้วยกันได้แก่ ถนนศรีนครินทร์, ถนนแพรกษา และถนนเทพารักษ์ การที่สามารถเข้าออกได้หลายทางทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ส่งผลให้ภาพรวมการเดินทางถือว่าสะดวกเพราะอยู่ใกล้ถนนเส้นสำคัญของจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนั้นยังมีทางด่วนกาญจนาภิเษกเป็นตัวเลือกสำคัญให้การเดินทางมีประสิทธิภาพและประหยัดเวลา

สำหรับการใช้งานถนนเส้นต่างๆ ถนนศรีนครินทร์ใช้ขึ้นทางเหนือสู่ถนนพัฒนาการ-บางกะปิ ถนนเทพรักษ์ใช้เข้าเมืองไปทางสุขุมวิท-แบริ่ง ส่วนถนนแพรกษาเป็นตัวเชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและตำหรุ-บางพลี ส่วนทางด่วนกาญจนาฯใช้งานทางฝั่งตะวันตกไปยัง พระราม 2, พระราม 3 และสุขสวัสดิ์ ส่วนทางเหนือใช้ไปยังบางปะอิน-อยุธยา ซึ่งตรงบริเวณถนนบางนา-ตราด มีจุดตัดกับทางด่วนสำคัญอีกสายคือทางด่วนบางนา ที่สามารถใช้สำหรับเข้าเมืองไปเชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครสู่เครือข่ายทางด่วนตัวเมืองชั้นใน หรือจะออกนอกเมืองเพื่อไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ จังหวัดชลบุรีก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย

ทางด่วนกาญจนาภิเษก หรือถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันฝั่งใต้ ถนนที่ผมถือว่าเป็นกุญแจสำคัญ ช่วยยกระดับเรื่องของการเดินทางให้โครงการได้เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเรามาดูเรื่องการเดินทางไปใช้งานกันหน่อยว่าเราไปใช้งานกันอย่างไรได้บ้าง เริ่มจากจุดขึ้นลงนั้นมีให้เลือกใช้งานได้ 2 จุดด้วยกัน ได้แก่

• ด่านเทพารักษ์ ด่านนี้ห่างจากโครงการประมาณ 3.2 กม. โดยเข้าออกผ่านทางซอยเทพารักษ์ 96
• ด่านบางเมือง ด่านนี้ห่างจากโครงการประมาณ 6.5 กม. โดยเข้าออกผ่านทางซอยทรัพย์บุญชัย อีกทั้งยังใช้ซอยบางปิ้งเป็นตัวเลี่ยงรถติดแทนถนนศรีนครินทร์ได้อีกด้วย

แน่นอนว่าหากดูจากระยะทางเท่านั้น ด่านเทพารักษ์จะมีระยะทางที่ใกล้กว่า แต่ในการใช้งานการเดินทางจริง หากเรามีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้นนั้นส่งผลให้เราสามารถยืดหยุ่น เพิ่มแผนการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงรถติดได้ดีกว่านั่นเองครับ ผมขอยกตัวอย่างเช่นหากเราต้องการเดินทางไปยังฝั่งพระราม 3 ด้านซ้ายมือของแผนที่ ถ้าเลือกใช้จุดขึ้นทางด่วนด่านเทพารักษ์ นั้นหมายความว่าเราจะต้องเดินทางบนถนนกาญจนาภิเษกย้อนกลับมาเพื่อผ่านด่านบางเมือง เพราะฉะนั้นบางทีการขึ้นทางด่วนที่ด่านบางเมืองที่มีจุดขึ้นลงไกลกว่า แต่โดยรวมอาจจะใช้เวลาน้อยกว่าเพื่อให้ถึงจุดหมายก็เป็นไปได้ครับ

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ถนนศรีนครินทร์ (ปากซอยทรัพย์บัญชัย) : 5.0 กม.
• ถนนเทพารักษ์ (ปากซอยเทพารักษ์ 96) : 2.3 กม.
• ถนนแพรกษา (ปากซอยทองนพคุณ 1) : 3.8 กม.
• ถนนสุขุมวิท (แยกการไฟฟ้าสมุทรปราการ) : 5.7 กม.
• แยกเทพารักษ์ : 5.1 กม.
• แยกตำหรุ-บางพลี : 12.8 กม.
• แยกบางนา : 16.9 กม.
• แยกต่างระดับวัดสลุต : 8 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ตัวเลือกนี้มีความเป็นไปได้เพราะสามารถใช้งานได้จริง เนื่องจากหน้าโครงการมีรถสองแถววิ่งผ่าน ขึ้นจากหน้าโครงการไปได้ถึงรถไฟฟ้าเลยครับ โดยระยะทางจากโครงการถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศรีนครินทร์ อยู่ที่ 6.2 กม. นั่งรถสองแถวประมาณ 10-15 นาทีถึง นอกเหนือจากตัวเลือกดังกล่าวน่าจะมีเพียงการใช้งานรถแท๊กซี่ โดยอาศัยการใช้แอพพลิเคชั่นเรียกอย่าง Grab Taxi เท่านั้น เนื่องจากภายในซอยหวังให้มีรถแท๊กซี่วิ่งผ่านเข้ามาเป็นไปได้ค่อนข้างยาก

ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะใกล้ที่ใช้การเดินเท้าหรือปั่นจักรยานไปนั่นไม่มีจุดน่าสนใจ จุดที่ใกล้ที่สุดคงต้องเป็นบริเวณกลางซอยทรัพย์บุญชัยที่มีตลาดทรัพย์บุญชัย รอบข้างมีร้านอาหารริมทางแผงลอยให้เลือกหลากหลายรวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 และโลตัสเอ๊กซ์เพรส

แต่พอเป็นภาพรวมที่กว้างขึ้น ถือว่าเป็นทำเลที่มีสถานที่อำนวยความสะดวกอยู่รอบทิศทาง โดยจะเน้นไปตรงเส้นศรีนครินทร์ และสุขุมวิท-สมุทรปราการเป็นหลัก ซึ่งมีทั้ง Robinson, Big C, Tesco Lotus, Makro, Foodland และ Jas Urban หรือจะมองไปบนเส้นบางนา-ตราด ก็มี Central Plaza บางนา, Mega และ IKEA บางนา ห้างขนาดใหญ่ที่น่าจะใหญ่และครบวงจรที่สุดบนทำเลย่านนี้ครับ

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

ตลาดและห้างสรรพสินค้า

• ตลาดสมุทรปราการ : 8.2 กม.
• Robinson สมุทรปราการ : 7.3 กม.
• Big C สมุทรปราการ : 8.1 กม.
• Tesco Lotus ศรีนครินทร์ : 8.0 กม.
• Jas Urban ศรีนครินทร์ : 7.4 กม.
• Foodland ศรีนครินทร์ : 7.2 กม.
• Big C ศรีนครินทร์ : 9.5 กม.
• Makro ศรีนครินทร์ : 9.5 กม.
• Central Plaza บางนา : 12.6 กม.
• Mega & IKEA บางนา : 9.7 กม.
• Tesco Lotus บางนา : 14.1 กม.
• Big C บางพลี : 9.3 กม.

สถานศึกษา

• รร.ประภามนตรี 2 : 6.1 กม.
• รร.สมุทรปราการ : 8.3 กม.
• รร.สตรีสมุทรปราการ : 6.9 กม.
• รร.สารสาสน์วิเทศ สมุทรปราการ : 7.9 กม.
• รร.ปทุมคงคา สมุทรปราการ : 10.3 กม.

สถานพยาบาล

• รพ.เปาโล สมุทรปราการ : 5.2 กม.
• รพ.สมุทรปราการ : 9.4 กม.
• รพ.สินแพทย์ เทพารักษ์ : 3.4 กม.
• รพ.ศิครินทร์ : 9.4 กม.
• รพ.ไทยนครินทร์ : 13.8 กม.

อื่นๆ

• ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ : 7.2 กม.
• ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ : 9.9 กม.
• พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ : 12.0 กม.
• ไบเทคบางนา : 13.7 กม.
• สนามบินสุวรรณภูมิ : 26.1 กม.

---

::: การเดินทาง :::

เส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังตัวโครงการในวันนี้ ผมใช้ถนนกาญจนาภิเษกมาจากฝั่งของพระราม 3 มุ่งหน้าไปทางโซนบางนา จากนั้นลงทางด่วนที่ทางออก 17 ถนนศรีนครินทร์ พอลงทางด่วนผมใช้ซอยบางปิ้งเป็นทางลัดเพื่อเข้าซอยทรัพย์บุญชัย จากนั้นวื่งไปตามทางผ่านซอยทรัพย์พัฒนาจนถึงตัวโครงการครับ

สรุปการเดินทาง : ถนนกาญจนาภิเษก > ทางออก 17 ถนนศรีนครินทร์ > ถนนศรีนครินทร์ > ซอยบางปิ้ง > ซอยทรัพย์บุญชัย > ซอยทรัพย์พัฒนา > พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์

เริ่นต้นภาพประกอบการเดินทางจากบนถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าไปยังบางนา

ขับไปตามทางจนถึงทางออก 17 ถนนศรีนครินทร์ ให้ออกซ้ายเพื่อลงทางด่วน

ตรงบริเวณทางออก 17 จะมีทางแยกย่อย ให้เลือกไปทางฝั่งสมุทรปราการด้านขวา

ลงมาเจอกับด่านเก็บเงินบางเมือง อัตราค่าบริการจะขึ้นอยู่กับระยะทาง โดยผมขึ้นที่ด่านปู่เจ้าฯ เสียค่าธรรมเนียม 25 บาท

ออกจากด่านเก็บเงินเป้นทางบังคับเลี้ยวขวา เข้าสู่ถนนศรีนครินทร์

พอเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ให้ชิดซ้ายเอาไว้เลยครับ เพื่อไปทางลัดซอยวัดบางปิ้ง หลีกเลี่ยงรถติดบนถนนศรีนครินทร์

ทางเข้าซอยวัดบางปิ้งมีป้ายบอกทางอยู่ครับ ให้เลี้ยวขวาไป

ขับไปตามทางจนถึงซอยทรัพย์บุญชัยให้เลี้ยวซ้าย ซึ่งในขณะที่ขับมาจะมีป้ายบอกทางของโครงการ พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ คอยบอกอยู่ตลอดทาง

มุ่งหน้าไปตามทางผ่านตลาดทรัพย์บุญชัยทางซ้ายมือ

จากตลาดทรัพย์บุญชัยเลยไปประมาณ 200 เมตร ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยทรัพย์พัฒนา โดยให้สังเกตที่ป้ายบอกทางของโครงการขนาดใหญ่ สังเกตง่ายไม่ต้องกลัวขับเลย

ภายในซอยทรัพย์พัฒนา แม้จะเป็นทางที่คดเคี้ยวก็จริง แต่ให้เราขับไปตามทางโดยดูเส้นสีเหลืองกลางถนนเป็นหลัก

ผ่าน 7-11 เป็นสัญญาณว่าเราขับมาตามทางได้อย่างถูกต้อง

ตรงบริเวณสะพานข้ามคลองนี้จะมีทางแยก ให้เราขับตรงไป ส่วนทางขวาจะเป็นเส้นทางไปสู่ถนนแพรกษา

ขับไปตามทางอีกไม่ไกลนัก จนเริ่มสังเกตเห็นว่าข้างหน้ามีทางยกระดับกาญจนาภิเษก ให้ตีไฟเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่โครงการได้เลยครับ

ถึงแล้วครับ พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ ซุ้มทางเข้าหน้าตาสวยงามอลังการ

---

::: บริเวณโครงการ :::

ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ ทางเข้าออกโครงการอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของผืนที่ดินทางซอยทรัพย์พัฒนา พื้นที่โดยรอบเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนาเกือบทั้งหมด ด้านเหนือติดกับทางยกระดับกาญจนาภิเษก ในระยะที่เดินเท้าได้ไม่มีอะไรที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน ขยับเข้ามาด้านในโครงการผ่านซุ้มประตูเข้ามาเจอกับพื้นที่ส่วนกลาง อันประกอบไปด้วยสวนสาธารณะและอาคารคลับเฮ้าส์ ซึ่งเดี๋ยวผมจะพาไปเดินสำรวจพร้อมๆ กันครับ

มาเริ่มต้นกันที่ถนนด้านหน้าโครงการ

ถนนด้านหน้าโครงการคือซอยทรัพย์พัฒนา ขนาดถนนกว้าง 2 เลนรถวิ่งสวนกันได้ มีรถวิ่งผ่านน้อยไม่พลุกพล่าน

ซอยทรัพย์พัฒนาเป็นซอยที่สามารถเชื่อมต่อถนนได้หลายสายทั้งถนนศรีนครินทร์, ถนนเทพารักษ์ และถนนแพรกษา จากบริเวณช่วงหน้าโครงการสามารถมองเห็นทางยกระดับกาญจนาภิเษก

ซุ้มทางเข้าโครงการออกแบบมาในสไตล์ Renaissance ที่เป็นสถาปัตยกรรมในแถบยุโรป ดูอลังการสวยงามโดดเด่นไม่ต่างจากซุ้มทางเข้าโครงการหรูในระดับบ้านเดี่ยว

องค์ประกอบของซุ้มทางเข้าทางด้านซ้ายและขวา เป็นป้ายชื่อบอกโครงการที่มีการเก็บรายละเอียดได้อย่างปราณีตเสริมสไตล์นีโอคลาสสิคที่ใช้เป็นคอนเซปต์ในการออกแบบโครงการให้เด่นชัดขึ้น

ฝั่งขาเข้าโครงการแบ่งช่องทางเดินรถระหว่างลูกบ้าน และแขกผู้มาเยือน ได้ทั้งเรื่องของความปลอดภัย และความสะดวกมากขึ้น อย่างเช่นเวลาที่มีบุคคลภายนอกกำลังทำการติดต่อแลกบัตรเจ้าหน้าที่ทางช่องขวา ลูกบ้านก็สามารถขับผ่านเข้าไปได้เลยโดยไม่ต้องต่อคิวรอให้เสียเวลาที่ช่องทางซ้าย

รูปแบบการเปิดไม้กระดกใช้แบบ Easy-Pass เหมือนกับบนทางด่วนที่ไม่ต้องหยิบบัตรเปิดกระจกออกมาแตะที่แท่น ยกระดับความสะดวกทันสมัย

ซุ้มตรงกลางเป็นห้องพักของเจ้าหน้าที่รปภ. ประจำการตลอด 24 ชม.

บริเวณทางเข้าออกติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้หลายจุด ตรวจจับทั้งหมายเลขทะเบียนและใบหน้าของผู้ที่ผ่านซุ้มนี้ทุกคัน

ฝั่งขาออกโครงการแตกต่างจากฝั่งขาเข้าตรงที่ไม่ได้แยกช่องทางเดินรถระหว่างลูกบ้านกับบุคคลภายนอก แต่โดยปกติแล้วขั้นตอนในฝั่งขาออกนี้จะใช้เวลาน้อยกว่าฝั่งขาเข้าครับ

นอกจากไม้กระดกแล้ว ทางโครงการยังเสริมความปลอดภัยด้วยประตูรั้วเหล็กอีกชั้นหรือที่เรียกว่า Double Gate

ผ่านซุ้มประตูเข้ามาด้านในดครงการ มุมมองแรกเข้าไปเจอกับถนนเมนที่มีเกาะต้นไม้กลางถนน ทางซ้ายมือมีซอยย่อยบ้านพักอาศัยซอยแรก

ซอยย่อยบ้านพักอาศัยกว้าง 9 เมตร

ผมขอแวะดูบ้านพักอาศัยจริงเพื่อดูบริเวณหน้าบ้านที่ทางบ้านตัวอย่างไม่มีให้เราชมกันครับ เริ่มจากประตูหน้าบ้านเป็นแบบบานพับเหล็กสีดำแบบฝั่งละ 3 ตอน

ไฟกิ่งหน้าบ้านและกริ่ง

ลานจอดรถหน้าบ้านมีช่องจอดรถสำหรับ 1 คันในช่องจอด

หากเป็นบ้านแปลงมุมจะได้รั้วข้างบ้านลักษณะนี้

กลับมาที่ถนนเมนของโครงการเพื่อเข้าไปชมด้านในกันต่อครับ

จากซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามาประมาณ 20-30 เมตร เจอกับสวนสาธารณะโครงการตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ

เราเดินเข้าไปชมด้านในสวนสาธารณะกันครับ

บรรยากาศภายในสวนสาธารณะดูสวยงามเขียวขจีน่าใช้งาน

พื้นสวนปูด้วยหญ้าจริงตกแต่งความสูงของหญ้าเป็นระเบียบ พร้อมกับโดยรอบสามารถมองเห็นต้นไม้ใหญ่ได้ตลอดรอบสวน

ภายในสวนมีการปูทางเดินพร้อมทั้งแยกเป็นจุดพักที่มีแนวม้านั่งสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนดื่มด่ำธรรมชาติ

เดินเข้ามาด้านในของสวนเห็นอาคารกระจกรอบด้านหลังคาทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่วตั้งอยู่โดดเด่นภายในสวนแห่งนี้

ภายในอาคารคือห้องสนามเด็กเล่น ซึ่งต้องบอกว่าจุดนี้เป็นจุดที่ผมชอบมากอย่างนึงภายในโครงการ

ปกติแล้วสนามเด็กเล่นจะเป็นแบบ outdoor ซึ่งสามารถให้เด็กมาเล่นได้ก็แค่ตอนเช้าตรู่หรือไม่ก็ช่วงเย็นๆ แต่พออยู่ในอาคารแบบนี้ทำให้ต้องเปลี่ยนความคิดเพราะสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน แถมยังติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำสบายตัวอีกด้วย

ลานด้านนอกใกล้กับอาคารเมื่อสักครู่มีลานกว้างพื้นลายตัวอักษรภาษาอังกฤษและตัวเลข ช่วยเสริมพัฒนาการในเด็กได้เป็นอย่างดี โดยตัวพื้นเป็นแบบสัมผัสนุ่มเพิ่มความปลอดภัยให้กับเจ้าตัวเล็กอีกด้วย

ขยับเข้ามาทางด้านในสวนช่วงที่อยู่หลังอาคารคลับเฮ้าส์ มีลักษณะเหมือนเป็นลานปาร์ตี้กลางแจ้ง มีซิงค์และเตรียมติดตั้งอุปกรณ์เตา เพื่อให้ลูกบ้านสามารถติดต่อเพื่อขอจัดกิจกรรมได้

ส่วนต่อไปผมจะพาไปชมอาคารคลับเฮ้าส์กันคลับ ซึ่งตัวอาคารเองก็ถูกออกแบบมาได้อย่างสวยงามในสไตล์นีโอคลาสสิคเช่นกัน

ในคลับเฮ้าส์เรามาเริ่มที่สระว่ายน้ำกันก่อนเลยครับ

สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ สามารถใช้ว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกายได้จริง น้ำใสแจ๋วมองเห็นพื้นสระสะท้อนกับแสงแดดทำให้น้ำเป็นประกายสีฟ้าสวยงาม

บันไดทางลงสระเป็นแบบขั้นบันได ขึ้นลงสะดวกกว่าแบบโครงเหล็ก พร้อมแยกสระเด็ก โดยความลึกของสระเด็กอยู่ที่ 75 ซม. ส่วนสระผู้ใหญ่ลึก 130 ซม.

ด้านข้างสระว่ายน้ำมีจุดที่เป็นม้านั่งแช่จากุซซี่ บริเวณใต้ร่มไม้ให้ด้วย บรรยากาศผ่อนคลายฟินสุดๆ

บริเวณโดยรอบสระน้ำมีต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย รวมถึงได้ความเป็นส่วนตัวช่วยบังสายตาในขณะที่เรากำลังว่ายน้ำอีกด้วย

มองย้อนกลับไปยังฝั่งอาคารคลับเฮ้าส์

จุดล้างตัวก่อนและหลังใช้งานสระว่ายน้ำ

ห้องน้ำของคลับเฮ้าส์แยกห้องชาย-หญิง

ขึ้นไปชมด้านบนของอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องฟิตเนสกันครับ

ห้องฟิตเนสเปิดใช้งาน 10.00 – 20.00 น. ซึ่งสระว่ายน้ำก็เปิดปิดเวลานี้เช่นเดียวกัน

ห้องฟิตเนสมีอุปกรณ์พื้นฐานให้ลูกบ้านได้แก่

มุมสร้างกล้ามเนื้อด้วยดัมเบลหลากหลายขนาดพร้อมเตียงยก

อีกด้านนึงมีลู่วิ่ง และจักรยานปั่นสำหรับการคาร์ดิโอ และอุปกรณ์ทางซ้ายของภาพคือเครื่องบริหารหน้าท้องเพื่อสร้างซิกแพ็ค

หลังจากที่เดินชมบรรยากาศบริเวณพื้นที่ส่วนกลางกันไปแล้ว ต่อไปผมจะพาไปดูบ้านตัวอย่างกันต่อครับ

---

::: แบบบ้าน :::

ภายในโครงการมีแบบบ้าน 2 แบบด้วยกัน ได้แก่

• แบบบ้าน Neo Classic II : ทาวน์โฮม 2 ชั้น / หน้ากว้าง 5.7 เมตร / พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม. /ขนาด 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
• แบบบ้าน Neo Classic III : ทาวน์โฮม 2 ชั้น / หน้ากว้าง 5.7 เมตร / พื้นที่ใช้สอย 116 ตร.ม. /ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

• แบบบ้าน Neo Classic II
• ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร
• พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม.
• ขนาด 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

แปลนบ้าน Neo Classic II

ชั้นล่าง หน้าบ้านมีลานจอดรถสำหรับ 1 คัน ภายในบ้านเป็นแปลนบ้านมาตรฐานนิยม เปิดประตูเข้ามาเจอกับห้องนั่งเล่นเปิดโล่งเชื่อมต่อสู่พื้นรับประทานอาหาร ทางขวาของแปลนเป็นบันไดขึ้นชั้นบน ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องนอนที่ 4 ตามลำดับ หลังบ้านเป็นลานซักล้าง

ชั้นบน แบ่งเป็น 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โดยห้องนอนรอง 2 ห้องอยู่ทางฝั่งหลังบ้านแบ่งขนาดห้องใกล้เคียงกัน ห้องนอนหลักอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านความกว้างเท่ากับหน้ากว้างบ้าน 5.7 เมตร ไม่มีระเบียง ห้องน้ำ 1 ห้องอยู่บริเวณกลางโถง มีฟังก์ชั่นเข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากโถงและห้องนอนหลัก

• แบบบ้าน Neo Classic III
• ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร
• พื้นที่ใช้สอย 116 ตร.ม.
• ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

แปลนบ้าน Neo Classic III

ชั้นล่าง หน้าบ้านมีลานจอดรถสำหรับ 1 คัน ภายในบ้านเป็นแปลนบ้านมาตรฐานนิยม เปิดประตูเข้ามาเจอกับห้องนั่งเล่นเปิดโล่งเชื่อมต่อสู่พื้นรับประทานอาหาร ทางขวาของแปลนเป็นบันไดขึ้นชั้นบน ห้องน้ำชั้นล่าง และพื้นที่อเนกประสงค์ ตามลำดับ หลังบ้านเป็นลานซักล้าง

ชั้นบน แบ่งเป็น 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โดยห้องนอนรอง 2 ห้องอยู่ทางฝั่งหลังบ้านแบ่งขนาดห้องใกล้เคียงกัน ห้องนอนหลักอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านความกว้างเท่ากับหน้ากว้างบ้าน 5.7 เมตร ไม่มีระเบียง ห้องน้ำ 1 ห้องอยู่บริเวณกลางโถง มีฟังก์ชั่นเข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากโถงและห้องนอนหลัก

---

::: บ้านตัวอย่าง :::

เรามาเริ่มกันที่แบบบ้าน Neo Classic II ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern Neo Classic โดยใช้โทนสีส้มอ่อนๆเป็นพื้นหลัก ที่ให้อารมณ์เหมือนบ้านในแถบยุโรป เน้นการใช้ช่องแสงขนาดใหญ่เพื่อรับแสงสู่ห้องนอนชั้นบน เนื่องจากเป็นแบบบ้านที่ไม่มีระเบียงทดแทนการรับแสงจากประตูระเบียง

ลานจอดรถสำหรับ 1 คันจอดในช่องจอดใต้ชายคาไม่โดนแดดโดนฝนถูกใจคนรักรถ ไฟลานจอดรถโคมสี่เหลี่ยม มีช่องเก็บของใช้พื้นที่ใต้บันได และเพิ่มช่องแสงบานฟิกซ์ 1 ช่องตรงกับบริเวณทางขึ้นโถงบันได

ทางเข้าบ้านเป็นแบบประตูบานสไลด์ วัสดุอลูมิเนียมสีดำ เพิ่มลูกเล่นเป็นแนวเส้นตรงภายในลูกฟักเสริมดีไซน์บ้านสไตล์ยุโรป กระจกที่ใช้เป็นแบบสีเขียวตัดแสงช่วยกรองรังสี UV ช่วยให้ในบ้านเย็นสบาย ตัวบ้านยกสูงเล็กน้อย ก่อเฉลียง 1 สเตปเป็นทางขึ้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

มือจับประตูขนาดใหญ่จับถนัดมือมีที่ล็อคในตัว

ผ่านประตูเข้ามาส่วนแรกเจอกับห้องนั่งเล่นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อเข้าไปด้านในที่เป็นโซนทานอาหาร บรรยากาศด้านในโปร่งสบายด้วยความสูงเพดานชั้นล่าง 2.6 เมตร พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว

ภาพเปรียบเทียบกับแบบบ้านเปล่าให้เห็นพื้นที่โดยรวมและวัสดุได้ชัดเจน

โคมไฟส่องสว่างภายในบ้านฝังโคมเหลี่ยมแบบดาวน์ไลท์หลอด LED ช่วงกลางของบ้านมีดรอประดับเพดานลงเพื่อเป็นงานระบบประปา ใช้เป็นการเล่นระดับเพดานไปในตัว ดูสวยงามมีมิติไปอีกแบบ

ภาพรวมห้องนั่งเล่นในมุมย้อนกลับไปยังฝั่งประตูบ้าน สำหรับการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นั้นเป็นเพียงการตกแต่งให้ดูเป็นแนวทางเท่านั้น ของจริงให้เป็นแบบบ้านเปล่า

ห้องนั่งเล่นได้รับแสงสว่างหลักมาจากประตูทางเข้าบ้าน แต่หากเป็นบ้านแปลงมุมจะได้ชุดหน้าต่างด้านหลังโซฟาเข้ามาอีกจุด ช่วยเสริมความโปร่งสบายของบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี

ความกว้างของพื้นที่ห้องนั่งเล่น มีระยะสายตาระหว่างโซฟากับทีวีราวๆ 3 เมตร กำลังดีต่อการถนอมสายตา

ขยับเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่เชื่อมต่อสู่โซนรับประทานอาหาร

ช่วงระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องทานข้าว ทางโครงการลองจัดวางเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ให้ดูเป็นตัวอย่าง มีสเปซที่กว้างขวางไม่อึดอัดเวลาใช้งาน

บริเวณปลั๊กไฟ โครงการเพิ่มปลั๊กแบบ USB รองรับการใช้งานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ สื่อถึงความทันสมัยของโครงการ

พื้นที่โซนด้านในนอกจากห้องทานข้าวแล้ว ยังมีห้องน้ำอยู่ด้านข้างบันได ห้องนอนที่ 4 และทางออกสู่ลานซักล้าง

เข้าไปดูด้านในห้องน้ำกันครับ

ห้องน้ำมีการแบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งไม่ใช่การแยกโซนแห้ง-เปียก แต่จะเป็นการแยกการใช้งานของอ่างล้างมือ กับห้องด้านในที่เป็นโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ

อ่างล้างมือจะอยู่ด้านนอกไม่ต้องผ่านประตูห้องน้ำเข้าไป ซึ่งแปลนแบบนี้มีความสะดวกในการใช้งานอย่างเช่น ก่อนทานอาหารจะต้องล้างมือก็สามารถล้างได้แม้จะมีคนใช้ห้องน้ำอยู่ด้านในก็ตาม อ่างล้างหน้าเป็นแบบแขวนผนังของ Cotto

ด้านหลังติดตั้งบานกระจกเงาพร้อมแท่นวางของ

ภายในห้องน้ำใช้งาน 2 ส่วนคือวางโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมอุปกรณ์ควบคู่ทั้งสายชำระและที่แขวนทิชชู่

ฝักบัวสายอ่อนของ Cotto รวมถึงที่วางสบู่ก็ใช้ของ Cotto เช่นกัน

พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อย ป้องกันน้ำไหลเวลาอาบน้ำไปยังภายในบ้าน

ไฟห้องน้ำดาวน์ไลท์ พร้อมพัดลมดูดกาศป้องกันกลิ่นไปพึงประสงค์ และลดความอับชื้น

กลับออกมาที่โถงหลักไปดูโซนทานข้าวกันต่อครับ

พื้นที่โซนทานข้าว ทางโครงการวางโต๊ะทานข้าวขนาด 6 ที่นั่งให้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อแสดงให้เห็นพื้นที่ใช้สอยของโซนนี้ว่ามีขนาดกว้าง โดยหลังจากวางโต๊ะแล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินได้โดยรอบแบบหลวมๆ เข้าออกโต๊ะอาหารสะดวก

แบบบ้าน Neo Classic II ที่เราดูกันอยู่นี้มีความแตกต่างกับแบบบ้าน Neo Classic III คือจำนวนห้องนอน ซึ่งห้องนอนที่ 4 ของแบบบ้านหลังนี้อยู่ที่ชั้นล่างนี้เอง ประตูห้องใช้เป้นแบบบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง พร้อมกระจกเข้ามุมช่วยเสริมความโปร่งภายในห้อง

แน่นอนว่าห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ ไม่จำเป็นต้องทำห้องนอนเท่านั้น แต่หากว่าเป็นบ้านที่มีผู้สูงอายุอยากแนะนำว่าให้ท่านนอนอยู่ที่ชั้นล่างนี้ดีกว่า หลีกเลี่ยงการเดินขึ้นลงบันได ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมาก

ขนาดของห้องเหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต เพื่อให้เหลือพื้นที่ใช้งานทางเดินเข้าออกได้สบาย

ด้านข้างยังมีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้า

ตรงมุมหน้าห้องยังใช้เป็นมุมวางโต๊ะอเนกประสงค์ได้อีกหนึ่งฟังก์ชั่น

ส่วนต่อไปผมขอพาออกไปดูลานซักล้างด้านหลังกันต่อครับ ประตูหลังบ้านใช้บานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำเช่นเดียวกับแบบหน้าบ้าน ด้านข้างติดตั้งถังดับเพลิงเอาไว้ให้ด้วยนะ อุ่นใจเซฟๆ

ลานซักล้างหลังบ้านของโครงการถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น เนื่องจากโครงการเข้าใจลักษณะนิสัยคนไทยที่มักต่อเติมครัวเต็มรูปแบบหลังบ้านกันแทบทุกครัวเรื่อน จึงมีการลงเสาเข็มให้ความยาวเท่าตัวบ้าน พร้อมก่อกำแพงสูงให้พร้อม แถมปูกระเบื้องให้ด้วย แค่ปิดหลังคาก็ใช้งานได้แล้ว ประหยัดเงินได้มากทีเดียว

ด้วยตัวบ้านที่หน้ากว้าง 5.7 เมตร ทางโครงการเลยแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 2 ส่วนคือห้องครัวกับห้องซักรีดให้ดูเป็นตัวอย่าง

ส่วนที่เป็นห้องครัวหลังจากที่ติดตั้งเคาน์เตอร์แล้ว เหลือสเปซทำครัวกว้างขวางถูกใจคุณแม่บ้าน น่าใช้งานมีความสุขเวลาประกอบอาหารให้คนในครอบครัวทานอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นบ้านแปลงมุมได้สวนข้างบ้านเพิ่มเข้ามา ติดตั้งเป็นประตูกระจกรับแสงได้อีกทางยิ่งโปร่งสบายขึ้นไปอีก

พื้นที่อีกฝั่งทำเป็นมุมซักรีด วางอุปกรณ์ได้ครบทั้งเครื่องซักผ้า ที่รีดผ้า ชั้นวางเสื้อผ้า และราวแขวนผ้าที่แนะนำแบบพับได้ช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดี

ส่วนต่อไปผมขอพาขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ

โครงสร้างบันได Precast แข็งแรงกว่าโครงบันไดทั่วไปถึง 3 เท่า รวมถึงการส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน และเพื่อนบ้านรบกวนเราที่น้อยกว่า ช่องแสงตรงนี้ตรงกับลานจอดรถที่ได้กล่าวถึงไปช่วงต้น เพิ่มแสงสว่างโถงบันได

นอกจากช่องแสงเมื่อสักครู่แล้ว ยังเสริมความสว่างของโถงบันไดด้วยหลังคา Skylight เพื่อรับแสงอีกหนึ่งทาง ช่วงระหว่างวันไม่ต้องเปิดไฟก็สามารถใช้งานพื้นที่ส่วนนี้ได้ ประหยัดไฟช่วยโลกได้อีกหน่อย

ชั้นพักบันไดกว้างขวางขึ้นลงสบาย

ชั้นบนประกอบด้วย 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นปูด้วยลามิเนต 8 มม.

มุมมองย้อนกลับไปยังโถงบันได

ผมขอเริ่มจากห้องนอน 2 และ 3 ที่อยู่ทางฝั่งหลังบ้านก่อนครับ โดยจะเริ่มจากห้องทางซ้ายใกล้บันได

ห้องนี้โครงการไม่ได้ทำเป็นห้องนอน แต่ใช้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องเด็กเล่นอเนกประสงค์ ได้แสงส่างจากหน้าต่างหลังบ้าน 1 บาน

ซึ่งจะทำเป็นห้องนอนก็ได้ โดยเหมาะกับเตียงขนาด 3.5 ฟุต

พื้นที่อีกฝั่งวางเป็นชั้นวางของ ชั้นวางทีวี หรือตู้เสื้อผ้าได้ตามลักษณะการใช้งาน

มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง

กลับมาที่ห้องโถงชั้นบน เพื่อไปดูห้องนอนรองฝั่งทางขวากันบ้าง

ห้องนี้ทางโครงการทำเป็นห้องนอนเด็กแบบวางเตียง Bunk Bed สำหรับเจ้าตัวเล็ก 2 คน โดยหากเป็นบ้านแปลงมุมห้องนี้จะได้หน้าต่างเพิ่มเป็น 2 บาน

ขนาดของห้องจะเห็นว่าหลังจากวางเตียงแล้ว ยังเหลือพื้นที่ทางเดินกลางห้องอีกด้วย โดยทางขวาบิวท์อินตู้เสื้อแล้วด้วย

มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง

กลับมาที่ห้องโถงเพื่อไปดูห้องนอนหลักกันต่อครับ โดยห้องนอนหลักตั้งอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน

ห้องนอนหลักหรือ Master Bedroom มีความชัดเจนมากคือเรื่องของขนาด ที่กว้างเท่ากับหน้าบ้าน 5.7 เมตร พร้อมช่องแสง 2 ช่อง โดยช่องแสงทางซ้ายเป็นหน้าต่างขนาดใหญ่ เพิ่มลูกฟักด้านหลังให้ความรู้สึกที่โปร่งสบายกว่าหน้าต่างแบบปกติอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าห้องนี้จะไม่มีระเบียงก็ตาม

ด้วยห้องที่มีความกว้างจึงสามารถแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อให้เป็นโซนพักผ่อนด้านนึง และ walk-in closet อีกด้านนึง

ฝั่งพักผ่อนวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตเป็นตัวอย่าง อันที่จริงจะขยายเป็น 6 ฟุตก็ได้ แต่สเปซข้างเตียงจะเหลือน้อยลงหน่อย

มองไปทางฝั่งปลายเตียง เห็นอีกโซนของห้องนอนคือ walk-in closet

ทางโครงการแนะไอเดียก่อเป็นแนวกำแพง เพื่อใช้เป็นตัวแบ่งพาร์ติชั่นให้ชัดเจนเพิ่มความเป็นส่วนตัวเวลาแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า รวมถึงผนังดังกล่าวยังใช้เป็นจุดแขวนทีวีได้อีกด้วย

เปรียบเทียบกับแบบบ้านเปล่าให้เห็นโซน walk-in closet และด้วยห้องน้ำที่มีความพิเศษตรงฟังก์ชั่นเข้าออก 2 ทางจึงคล้ายกับว่าห้องนอนหลักนั้นมีห้องน้ำในตัว แม้ว่าชั้นบนจะมีเพียงห้องน้ำห้องเดียวก็ตาม

สเปซของโซน walk-in closet กว้างขวาง ผนังด้านในวางได้ทั้งตู้เสื้อผ้า และยังเหลือช่องด้านข้างสำหรับโต๊ะเครื่องแป้ง

ห้องน้ำชั้นบนอย่างที่ผมได้เกริ่นไปว่าเป็นห้องน้ำแบบเข้าออกได้ 2 ทาง Double Access คือเข้าได้จากทั้งห้องนอนหลัก และโถงชั้นบน

ห้องน้ำชั้นบนมีการแยกโซนแห้ง-เปียกที่ชัดเจน ด้วยการติดตั้งฉากอาบน้ำ

อ่างล้างหน้า Cotto วางบนเคาน์เตอร์ลายไม้ ทำให้มีพื้นที่วางของได้โดยรอบอ่าง

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto แบบประหยัดน้ำ พร้อมสายชำระและที่แขวนทิชชู่

โซนเปียกอาบน้ำให้ฉากแบบ Shower Box ประตูบานเลื่อน 2 ด้าน ฝักบัวสายอ่่อนของ Cotto แขวนบนราวปรับระดับความสูงได้ อีกทั้งยังเจาะช่องเดินระบบเครื่องทำน้ำอุ่นให้แล้วด้วย

หากเป็นบ้านแปลงมุมจะได้หน้าต่างบานกระทุ้งที่นอกจากรับแสงแล้วยังเปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ด้วย แต่ในบ้านแปลงปกติจะได้เพียงหลังคา Skylight เพิ่มความสว่างในระหว่างวัน

พามาต่อกับที่แบบบ้านที่ 2 แบบบ้าน Neo Classic III ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 116 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ฟังก์ชั่นของบ้านโดยรวมคล้ายคลึงกับแบบบ้าน Neo Classic II ที่เพิ่งได้รับชมกันไป มีเพียงห้องนอนชั้นล่าง ที่เปลี่ยนเป็นพื้นเปิดอเนกประสงค์ และหน้าตาภายนอกที่ใช้โทนสีขาวครีมเป็นพื้นหลัก

ช่องจอดรถสำหรับ 1 คันใต้ชายคา

อีกส่วนที่มีความแตกต่างคือประตูกับหน้าต่าง ที่แบบบ้านนี้จะใช้บานประตูหน้าต่างเป็นอลิเนียมสีขาว เพื่อให้เข้ากับสีพื้นของบ้าน

เปิดประตูเข้ามาเจอกับพื้นที่โถงหลักเปิดโล่งเชื่อมต่อสู่ด้านในแบบ open plan

ส่วนแรกทำเป็นห้องนั่งเล่นความกว้างระหว่างโซฟาถึงผนังฝั่งทีวีกว้างประมาณ 3 เมตร

ได้รับแสงสว่างหลักมาจากประตูหน้าบ้าน และถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะได้หน้าต่างหลังโซฟาเพิ่มอีกชุด

ขยับเข้าไปด้านในสู่โซนรับประทานอาหาร

สเปซระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องทานอาหาร เหลือพื้นที่ใช้งานอเนกประสงค์จะวางตู้โชว์ วางโต๊ะทำงานก็ได้

โซนทานอาหารวางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง จะอัพเป็น 6 ที่นั่งก็ทำได้ไม่มีปัญหาอะไร

ด้านข้างทางฝั่งขวาคือทางเข้าห้องน้ำ และพื้นที่อเนกประสงค์

ฟังกชั่นห้องน้ำแยกส่วนเช่นกัน ด้านนอกแขวนอ่างล้างมือพร้อมติดตั้งบานกระจกเงา ด้านในเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำวางโถสุขภัณฑ์ และมีพื้นที่สำหรับยืนอาบน้ำ สุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของ Cotto

ฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือพื้นที่ส่วนนี้ สำหรับแบบบ้านนี้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์แบบเปิดโล่งไม่มีประตู

พื้นที่ส่วนนี้ทำเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อน ซึ่งสามารถปรับเปลียนการใช้งานได้ตามจินตราการและไลฟ์สไตล์ เช่น อ่านหนังสือ ห้องดูหนัง ห้องเก็บของ หรือห้องทำงาน

ออกไปดูลานหลังบ้านกันต่อครับ

บ้านตัวอย่างยังคงแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นห้องครัวและห้องซักรีดให้ดูเป็นตัวอย่าง

ห้องครัวใช้แบบครัวไฮบริดที่ติดตั้งเตาไฟฟ้าและฮูดดูดควัน

ห้องซักรีดวางอุปกรณ์ได้ครบชุดจัดเต็ม

ขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ

โถงบันไดได้รับแสงธรรมชาติจากช่องแสงบานฟิกซ์ตรงลานจอดรถ และหลังคา Skylight

ชั้นบนประกอบด้วย 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นปูด้วยลามิเนต 8 มม.

ผมขอพาไปดูห้องนอนรองที่อยู่ทางฝั่งขวาของภาพกันก่อนครับ

ห้องนี้ทางโครงการแต่งให้ดูเป็นห้องพักผ่อนอเนกประสงค์ด้วยการวาง Daybed ไว้กลางห้อง ซึ่งแน่นอนว่าทำเป็นห้องนอนได้เช่นกัน ซึ่งเหมาะกับเตียงขนาด 3.5 ฟุต

มุมมองย้อนกลับไปยังฝั่งทางเข้าห้อง

ห้องนอนรองอีกห้องที่อยู่ติดกัน หากเป็นบ้านแปลงมุมจะได้ช่องแสงจากหน้าต่าง 2 บาน

เตียงนอนวางขนาด 3.5 ฟุตชิดผนังเป็นตัวอย่าง เหลือพื้นที่รอบเตียงให้เดินผ่านเข้าออกได้ ช่วงปลายเตียงอาจจะกว้างไม่พอสำหรับวางไซดบอร์ดแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน

อีกฝั่งของห้องวางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานได้ครบถ้วนทั้งตู้เสื้อผ้า และโต๊ะอเนกประสงค์

มุมมองย้อนกลับไปยังปลายเตียง

กลับมาที่ห้องโถง ข้ามฝั่งไปดูห้องนอนหลักฝั่งหน้าบ้านกันต่อครับ

ห้องนอนหลักขนาดใหญ่ กว้างเท่าหน้ากว้างของบ้านขนาด 5.7 เมตร แบ่งพื้นที่ด้านซ้ายเป็นห้องนอน และทางขวาเป็น walk-in closet

ฝั่งเตียงนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุต เหลือพื้นที่ขางเตียงทั้งสองด้านให้วางโต๊ะหัวเตียงได้

มองไปทางด้านปลายเตียง ซึ่งเป็นโซน walk-in closet และทางเข้าห้องน้ำ

กลางห้องทางโครงการติดตั้งเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแบ่งพาร์ติชั่นในตัวให้ walk-in closet มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน

โซน walk-in closet วางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานทั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง เหลือพื้นที่เปลี่ยนเสื้อผ้าได้สบาย กางแขนกางขาได้เต็มที่

ห้องน้ำฟังก์ชั่น Double Access เข้าออกได้ 2 ทาง

ห้องน้ำแบ่งโวนแห้ง-เปียกชัดเจน โดยการติดตั้ง Shower Box สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto ทั้งเซต

ภายในห้องน้ำติดตั้งหลังคา Skylight ช่วงระหว่างวันสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเปิดไฟ ส่วนบ้านแปลงมุมจะได้หน้ต่างรับแสงและระบายอากาศเพิ่มอีก 1 ช่อง

---

::: สรุปรายการวัสดุ ::: (ส.ค. 2562)

วัสดุโดยรวม

• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
• พื้นชั้น 2 : ไม้ลามิเนต
• พื้นเฉลียงทางเข้า, พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.
• พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 ซม.
• พื้นลานจอดรถ : พื้นซีเมนต์ปาดเรียบ
• พื้นครัวไทย : กระเบื้องเซรามิค 30 x 30 ซม.
• ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
• ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. และกระเบื้องตกแต่ง
• ประตูภายนอก : ประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม กระจกเขียวตัดแสง
• ประตูภายใน : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลส
• หน้าต่างภายนอก : บานเลื่อนอลูมิเนียม

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

• สุขภัณฑ์ และ Accessories : Cotto หรือเทียบเท่า

งานไฟฟ้า

• ตู้ Load Center, สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Philips
• ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
• ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์

*รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า*

---

::: ราคา ::: (ส.ค. 62)

แบบบ้าน Neo Classic II : ราคาเริ่มต้น 2,720,000 บาท
ที่ดินขนาด 18.1 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม. / 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

แบบบ้าน Neo Classic III : ราคาเริ่ม้ตน 2,650,000 บาท
ที่ดินขนาด 18.1 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 116 ตร.ม. / 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 40 บาท/เดือน

*สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุด*

---

::: บทสรุปโครงการ :::

ทำเลที่ตั้งโครงการ : PruksaVille เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ภายในซอยทรัพย์พัฒนา เรียกว่าเป็นทำเลที่อยู่ใกล้ใจกลางเมืองสมุทรปราการ มีจุดเด่นอยู่หลายเรื่องทั้งเรื่องของการเชื่อมต่อเข้าออกได้หลายทาง ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวในระยะที่สามารถไปใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ประกอบกับมีสถานที่อำนวยความสะดวกให้เลือกใช้งานได้หลายแห่ง ซึ่งผมจะลงรายละเอียดในแต่ละส่วนที่กล่าวมาให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นในภาพลำดับต่อไปครับ

ความอุดมสมบูรณ์ : ในระยะใกล้ที่ใช้การเดินเท้าหรือปั่นจักรยานไปนั่นไม่มีจุดน่าสนใจ จุดที่ใกล้ที่สุดคงต้องเป็นบริเวณกลางซอยทรัพย์บุญชัยที่มีตลาดทรัพย์บุญชัย รอบข้างมีร้านอาหารริมทางแผงลอยให้เลือกหลากหลายรวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 และโลตัสเอ๊กซ์เพรส แต่พอเป็นภาพรวมที่กว้างขึ้น ถือว่าเป็นทำเลที่มีสถานที่อำนวยความสะดวกอยู่รอบทิศทาง โดยจะเน้นไปตรงเส้นศรีนครินทร์ และสุขุมวิท-สมุทรปราการเป็นหลัก ซึ่งมีทั้ง Robinson, Big C, Tesco Lotus, Makro, Foodland และ Jas Urban หรือจะมองไปบนเส้นบางนา-ตราด ก็มี Central Plaza บางนา, Mega และ IKEA บางนา ห้างขนาดใหญ่ที่น่าจะใหญ่และครบวงจรที่สุดบนทำเลย่านนี้ครับ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองจังหวัดสมุทรปราการ ภายในซอยทรัพย์พัฒนา สามารถเข้าออกจากถนนใหญ่ได้ถึง 3 เส้นทางด้วยกันได้แก่ ถนนศรีนครินทร์, ถนนแพรกษา และถนนเทพารักษ์ การที่สามารถเข้าออกได้หลายทางทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ส่งผลให้ภาพรวมการเดินทางถือว่าสะดวกเพราะอยู่ใกล้ถนนเส้นสำคัญของจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนั้นยังมีทางด่วนกาญจนาภิเษกเป็นตัวเลือกสำคัญให้การเดินทางมีประสิทธิภาพและประหยัดเวลา

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ตัวเลือกนี้มีความเป็นไปได้เพราะสามารถใช้งานได้จริง เนื่องจากหน้าโครงการมีรถสองแถววิ่งผ่าน ขึ้นจากหน้าโครงการไปได้ถึงรถไฟฟ้าเลยครับ โดยระยะทางจากโครงการถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศรีนครินทร์ อยู่ที่ 6.2 กม. นั่งรถสองแถวประมาณ 10-15 นาทีถึง นอกเหนือจากตัวเลือกดังกล่าวน่าจะมีเพียงการใช้งานรถแท๊กซี่ โดยอาศัยการใช้แอพพลิเคชั่นเรียกอย่าง Grab Taxi เท่านั้น เนื่องจากภายในซอยหวังให้มีรถแท๊กซี่วิ่งผ่านเข้ามาเป็นไปได้ค่อนข้างยาก

การออกแบบโครงการและวัสดุ : พฤกษาวิลล์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น บนที่ดินขนาด 45 ไร่ บ้านพักอาศัย 495 ยูนิต ขนาดที่ดินเริ่มต้น 18.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 116-117 ตร.ม. 3-4 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 คัน โครงการออกแบบสไตล์ Renaissance สะท้อนสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ออกแบบตัวบ้านให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตาม Lifestyle

ฟังก์ชั่นบ้านมีให้เลือก 2 แบบ โดยจุดแตกต่างที่เห็นชัดคือเรื่องห้องนอนที่ 4 ที่อยู่ชั้นล่าง หากเป็นครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ การมีห้องนอนชั้นล่างเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นไม่ต้องขึ้นลงบันได รวมถึงการออกแบบห้องนอนชั้นล่างใช้ประตูบานเลื่อนกระจก ช่วยให้สามารถมองเห็นได้จากภายนอกดูแลได้อย่างใกล้ชิด หรือจะเลือกแบบที่ไม่มีห้องนอนชั้นล่างก็ได้ โดยจะได้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ปรับแต่งการใช้งานได้ตามความต้องการ

วัสดุทางโครงการให้เป็นมาตรฐานบ้านทาวน์โฮมสมัยใหม่ เริ่มจากประตูบ้านและหน้าต่างเป็นกระจกเขียวตัดแสง บานกรอบอลูมิเนียมสีขาวและดำตามแบบบ้าน พื้นลานจอดรถเทพื้นคอนกรีตปาดเรียบ ลานซักล้างหลังบ้านปูกระเบื้องพร้อมลงเสาเข็มก่อกำแพงสูงต่อเติมครัวไทยได้ง่าย พื้นบ้านชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นบนปูลามิเนตหนา 8 มม. พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่น 60 x 60 ซม. บันไดเป็นโครงสร้างPrecast แข็งแรงทนทาน ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟทรงเหลี่ยมฝังดาวน์ไลท์ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ Cotto

สิ่งอำนวยความสะดวก : โดดเด่นด้วยคลับเฮ้าส์หรูหราท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติเขียวขจี มีให้ครบครันทั้งฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สนามเด็กเล่น และสวนสาธารณะ พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสมัยใหม่ เข้าออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass ประตู Double Gate พร้อมเจ้าหน้าที่รปภ. และ CCTV 24 ชม.

---

::: คะแนน :::

ทำเลที่ตั้งโครงการ	7.6	ทำเลเมืองสมุทรปราการ เข้าออกได้หลายทาง
การเดินทางใช้รถ	7.8	ใกล้ถนนเส้นสำคัญในย่านนี้ทั้งถนนศรีนครินทร์, ถนนเทพารักษ์, ถนนแพรกษา และทางด่วนกาญจนาภิเษก
การเดินทางไม่ใช้รถ	7.7	หน้าโครงการมีรถสองแถวผ่าน ใช้งานต่อยอดไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศรีนครินทร์ได้โดยตรง
บ้านและวัสดุ	8.0	หน้าตาบ้านทันสมัย ฟังก์ชั่นครบครัน คุ้มค่า สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลายรูปแบบ วัสดุเกรดมาตรฐาน
สิ่งอำนวยความสะดวก	8.2	พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ซุ้มประตูอลังการ คลับเฮ้าส์หรูหรา พร้อมสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และระบบความปลอดภัยสมัยใหม่ เข้าออก Easy Pass และประตู Double gate
ความคุ้มค่ากับราคา	7.9	โครงการทาวน์โฮม ส่วนกลางครบครัน เดินทางได้หลากหลาย ใกล้ทางด่วน รองรับครอบครัวขนาด 3-5 คน
คะแนนรวมเฉลี่ย	7.86	ดี

---

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 085-253-5441 / 089-0177239 / Call Center 1739
Website : https://pruksaville.pruksa.com/23015/pruksa-ville-เทพารักษ์-ศรีนครินทร์-ทาวน์โฮม-ทาวน์เฮ้าส์-แพรกษา-ทรัพย์บุญชัย

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ