EP.1622 รีวิว บ้าน เลอ นีโอ ไพร์ม แพรกษา-เทพารักษ์ Le Neo Prime Praksa-Theparak
Written by : Aun Chaya
สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกท่านครับ รีวิวฉบับนี้ผมจะพาไปชมโครงการ Le Neo Prime แพรกษา-เทพารักษ์ ของทาง น้อมบุญ เรียล เอสเตท ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยแพรกษา 11 ที่สามารถเข้าออกได้ทั้งจากถนนแพรกษา, ถนนเทพารักษ์ และถนนศรีนครินทร์ เชื่อมต่อสู่ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้สะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีแพรกษาเพียง 10 นาที มี 7-11 ในระยะแค่ 50 เมตร รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
เลอ นีโอ ไพร์ม แพรกษา-เทพารักษ์ เป็นโครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น พื้นที่โครงการขนาด 25-0-18 ไร่ จำนวนบ้าน 154 ยูนิต มีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 35 ตร.ว. และ 50 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 131-169 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 3-4 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ออกแบบโครงการด้วยแนวคิด “Happiness.. you can live. Good value.. you can reach. จุดเริ่มต้นของความสุข ครบทุกความคุ้มค่า“ เน้นการใช้สอยทุกส่วนให้เกิดประโยชน์ ช่วยประหยัดค่าต่อเติมด้วยห้องครัวไทยพร้อมใช้งาน ประหยัดค่าไฟจากช่องแสงรับความสว่างจากธรรมชาติ
พื้นที่ซัก-ตากผ้าแยกให้โดยเฉพาะเพื่อความเป็นระเบียบ เสริมด้วยระบบ Eco Air Flow ช่วยให้บ้านเย็นสบาย และระบบ Smart Home สะดวกในการใช้ชีวิตมากขึ้น ปัจจุบันพร้อมเข้าอยู่อาศัยแล้วบางส่วน
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คลับเฮ้าส์หรูหราทันสมัย พร้อมสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และ Co-working space สวนสาธารณะที่ตอบโจทย์คนในทุกช่วงวัยทั้งสนามเด็กเล่น, ลานกีฬา Extreme และ เครื่องออกกำลังกายผู้สูงอายุ ซุ้มทางเข้าขนาดใหญ่
ยกระดับความปลอดภัยด้วยประตูรั้วเหล็กบานเลื่อน ระบบ Easy Pass รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร พร้อมรปภ. และ CCTV บริเวณทางเข้า-ออกและในโครงการ ทั้งยังติดตั้งสัญญาณกันขโมยให้ในบ้านทุกหลัง ในราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท* (ม.ค.63)
แคมเปญพิเศษวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์นี้
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, บ้านตัวอย่าง และ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ
ชื่อโครงการ | เลอ นีโอ ไพร์ม แพรกษา-เทพารักษ์ / Le Neo Prime Praksa-Theparak |
เจ้าของโครงการ | น้อมบุญ / Normboon Real Estate |
ลักษณะโครงการ |
|
พื้นที่โครงการ | 25-0-18 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 154 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 35 ตร.ว. ขึ้นไป |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 131-169 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 3-4 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | แพรกษา, เทพารักษ์, สมุทรปราการ |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | ซ.แพรกษา 11 ถ.แพรกษา ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง สิงหาคม 2561 |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่อาศัยแล้วบางส่วน |
ราคา | เริ่มต้น 3.49 ล้านบาท (ม.ค. 63) |
ค่าส่วนกลาง | 30 บาท/ตร.ว./เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ตลาดและห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
อื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | เลอ นีโอ ไพร์ม แพรกษา-เทพารักษ์จุดเริ่มต้นของ..ความสุข ครบทุก..ความคุ้มค่า
|
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ซ.แพรกษา 11 ถ.แพรกษา ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
พิกัด : 13.582800, 100.648388
ทำเลที่ตั้งโครงการ Le Neo Prime แพรกษา-เทพารักษ์ ตั้งอยู่ภายในซอยแพรกษา 11 หรือถ้าเป็นคนแถวนั้นจะเรียกกันว่าซอยพุฒสี โครงสร้างภายในส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยทั้งรูปแบบชุมชนดั้งเดิมและหมู่บ้านจัดสรร มีความอุดมสมบูรณ์สูงโดยเฉพาะในระยะที่เดินเท้าได้จากโครงการ มีทั้งร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทำเลดังกล่าวถือว่าเป็นทำเลที่มีการเดินทางสะดวกดีทีเดียว ทั้งการเชื่อมต่อสู่ถนนใหญ่เลือกได้หลายเส้นทาง ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก และยังสามารถไปใช้งานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในระยะที่เข้าถึงได้จริง ซึ่งผมจะลงรายละเอียดแต่ละส่วนที่กล่าวมาในลำดับถัดไปครับ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว อันดับแรกที่ทำให้เรื่องการเดินทางน่าสนใจคือ สามารถเข้าออกเชื่อมต่อสู่ถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง ซึ่งแต่ละทางล้วนเป็นถนนเส้นสำคัญของโซนนี้ทั้งสิ้น ซอยแพรกษา 5 และแพรกษา 11 ใช้เชื่อมต่อสู่ถนนแพรกษา, ซอยเทพารักษ์ 104 และเทพารักษ์ 114 ใช้สำหรับไปยังถนนเทพารักษ์, ส่วนซอยทรัพย์บุญชัยเป็นซอยที่สามารถลัดเลาะเพื่อไปออกสู่ถนนศรีนครินทร์ได้อีกเส้นทาง
ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยยกระดับในเรื่องของการเดินทางได้เป็นอย่างดี เนื่องจากจุดขึ้นลงทางด่วนดังกล่าวอยู่ในระยะที่เข้าถึงได้สะดวกผ่านทางซอยเทพารักษ์ 104 และเทพารักษ์ 114 ทางด่วนดังกล่าวเป็นช่องทางการเข้าเมืองที่สำคัญ เพราะสามารถเชื่อมต่อกับทางด่วนบูรพาวิถีก็ได้ หรือจะวิ่งไปทางตะวันตกสู่ย่านพระราม 3 ไปยังโซนสาทร-สีลมก็ทำได้เช่นกัน
สำหรับการใช้งานถนนแต่ละเส้นมีความสำคัญแตกต่างกันออกไป ถนนเทพารักษ์ใช้เข้าเมืองไปทางสุขุมวิท-แบริ่ง ถนนแพรกษาเป็นตัวเชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและตำหรุ-บางพลี, ทางด่วนกาญจนาฯใช้งานทางฝั่งตะวันตกไปยัง พระราม 2-พระราม 3-สุขสวัสดิ์ ส่วนทางเหนือใช้ไปยัง รามอินทรา-ลำลูกกา-อยุธยา, ถนนบางนา-ตราด อีกหนึ่งเส้นทางสำคัญสำหรับการเข้าเมือง ด้านบนมีทางด่วนบางนา(บูรพาวิถี)คู่ขนานกันไป สามารถใช้สำหรับเข้าเมืองไปเชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครสู่เครือข่ายทางด่วนตัวเมืองชั้นใน หรือจะออกนอกเมืองเพื่อไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ จังหวัดชลบุรีก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย
จุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก หลังจากที่ผมพูดถึงประโยชน์ของถนนกาญจนาภิเษกไปแล้ว เรามาดูเส้นทางและระยะทางในการเข้าถึงกันครับ เริ่มจากขาขึ้นทางด่วนเราจะใช้ซอยเทพารักษ์ 114 เป็นเส้นทางเชื่อมต่อสู่ทางด่วนดังกล่าว ซึ่งมีระยะทางอยู่ที่ 5.4 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
จุดลงทางด่วนกาญจนาภิเษก เราดูขาขึ้นทางด่วนไปแล้ว ต่อไปมาดูฝั่งขาลงเพื่อกลับเข้าบ้านกันบ้างครับ จากบนทางด่วนให้ลงที่ทางออกถนนเทพารักษ์ พอลงจากทางด่วนมาแล้วก็ให้ชิดซ้ายเข้าสู่ซอยเทพารักษ์ 104 ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าสู่โครงการได้สะดวกที่สุด ในระยะ 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเช่นกัน
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ตัวเลือกนี้มีความเป็นไปได้เพราะสามารถใช้งานได้จริง เนื่องจากโครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ จึงทำให้สามารถหารถสาธารณะได้ง่าย เบื้องต้นอาจจะใช้วินมอไซค์เป็นตัวช่วยส่งสู่ถนนแพรกษา โดยค่าบริการจากโครงการถึงปากซอยแพรกษา 5 อยู่ที่ 15 บาท พอถึงถนนใหญ่ปกติแล้วคนแถวนี้มักจะใช้รถสองแถวกันเป็นหลัก เพราะสองแถวแต่ละสายจะมีจุดหมายสู่พื้นที่สำคัญของสมุทรปราการทั้งสิ้น โดยจุดที่น่าสนใจคือบริเวณต้นถนนแพรกษา ที่ตั้งของห้างโรบินสันสมุทรปราการ และสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีแพรกษา
สำหรับระยะทางจากโครงการถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีแพรกษาอยู่ที่ 5.8 กม. นั่งรถสองแถวประมาณ 10-15 นาที นอกเหนือจากตัวเลือกดังกล่าวน่าจะมีเพียงการใช้งานรถแท๊กซี่ โดยอาศัยการใช้แอพพลิเคชั่นเรียกอย่าง Grab Taxi เป็นหลัก
ความอุดมสมบูรณ์ เบื้องต้นในระยะที่เดินเท้าได้จากโครงการ มี 7-11 อยู่ห่างเพียงแค่ 50 เมตร เรียกว่าเดินเหงื่อยังไม่ทันซึมก็ถึงแล้วครับ แถมบริเวณโดยรอบยังมีร้านขายอาหารอยู่อย่างหลากหลายเพียงพอให้เราเลือกทานได้ในชีวิตประจำวัน ส่วนตลาดและซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้ที่สุดมี Tesco Lotus ตลาด และตลาดแพรกษาให้เดินจับจ่ายใช้สอยได้ที่บริเวณปากซอยแพรกษา 5 อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม.เท่านั้น
แต่ถ้ามองเป็นภาพรวมที่กว้างขึ้น ถือว่าเป็นทำเลที่มีสถานที่อำนวยความสะดวกอยู่รอบทิศทาง ห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดแนะนำเป็น Robinson สมุทรปราการ ที่มีระยะทาง 6.7 กม. นอกเหนือจากนี้ก็จะมีอยู่ 2 จุดที่อยู่ในระยะใช้งานจริงคือเส้นศรีนครินทร์-แพรกษา
มีทั้ง Robinson, Big C, Tesco Lotus, Makro, Foodland และ Jas Urban อีกจุดจะอยู่บนเส้นบางนา-ตราด ที่มี Central Plaza บางนา, Mega และ IKEA บางนา ห้างขนาดใหญ่ที่น่าจะใหญ่และครบวงจรที่สุดบนทำเลย่านนี้ครับ
ส่วนโรงเรียนก็มีอยู่หลายแห่งบนถนนแพรกษา ยกตัวอย่างเช่น รร.แพรกษาวิเทศศึกษา, รร.ปทุมคงคา สมุทรปราการ และรร.สารสาสน์วิเทศ สมุทรปราการ เป็นต้น โรงพยาบาลแถวนี้ก็มีหลายแห่งแต่ที่อยากแนะนำได้แก่ รพ.เปาโล สมุทรปราการ และรพ.สินแพทย์ ที่การให้บริการค่อนข้างมีชื่อเสียงเชื่อถือได้
IKEA และ MEGA บางนา ห้างชั้นนำของโซนบางนา-สมุทรปราการ, สนามบินสุวรรณภูมิ และ Robinson สมุทรปราการ
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
อื่นๆ
::: การเดินทาง :::
เส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังโครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม แพรกษา-เทพารักษ์ ผมเริ่มจากบนถนนสุขุมวิท บริเวณรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศรีนครินทร์ ฝั่งมุ่งหน้าขาออกไปยังบางปู ก่อนถึงห้างโรบินสัน สมุทรปราการ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนแพรกษา จากนั้นเข้าซอยแพรกษา 5 ซึ่งก่อนถึงซอยจะมี เทสโก้ โลตัส ตลาดที่เป็นสาขาขนาดกลางให้เป็นจุดสังเกต ขับเข้าไปภายในซอยประมาณ 2 กม. ก็จะถึงตัวโครงการครับ
สรุปการเดินทาง : ถนนสุขุมวิท บริเวณรถไฟฟ้าสถานีศรีนครินทร์ > ถนนแพรกษา > ซอยแพรกษา 5 > เลอ นีโอ ไพร์ม แพรกษา-เทพารักษ์
เริ่มต้นภาพประกอบการเดินทางบนถนนสุขุมวิท จากบริเวณรถไฟฟ้า สถานีศรีนครินทร์ ฝั่งมุ่งหน้าขาออกไปทางบางปู
เลยจากสถานีมาเล็กน้อย ให้ชิดซ้ายเพื่อเตรียมเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนแพรกษา
เลี้ยวซ้ายที่สามแยกแพรกษา ซึ่งหากเลยไปหน่อยจะเป็นที่ตั้งของห้างโรบินสัน สมุทรปราการ และรถไฟฟ้าสถานีแพรกษา
มุ่งหน้าตรงต่อไปบนถนนแพรกษา
ระหว่างทางให้เราสังเกตทางด้านซ้ายมือ เมื่อเจอกับเทสโก้ โลตัส ตลาด ซึ่งเป็นสาขาขนาดกลาง ให้เราชิดซ้าย
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแพรกษา 5
กราฟิกเพิ่มเติมภายในซอยแพรกษา 5 ขับเข้าไปด้านในประมาณ 2 กม. มีทางแยกอยู่ประมาณ 2-3 ครั้ง แต่ไม่ซับซอนเท่าไรนัก ลองไปดูภาพประกอบการเดินทางกันต่อครับ
ขับเข้ามาด้านในซอยแพรกษา 5 ช่วงต้นซอยเป็นบ้านพักอาศัย 2 ข้างทาง
ขับเข้ามาจนสุดทางเจอ 3 แยก T ตันให้เลี้ยวขวา หากเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางลัดไปยังซอยทรัพย์บุญชัย ที่สามารถออกสู่ถนนศรีนครินทร์ได้
จากนั้นจะมี 3 แยกอีกหนึ่งจุด ให้เราตรงไป
จากนั้นจะมีทางแยกอีกเล็กน้อย แต่ให้เราวิ่งตามทางหลัก โดยยึดหลักการดูเส้นเหลืองตรงกลางถนนเอาไว้
ผ่านหน้า 7-11 เป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงโครงการแล้ว เพราะ 7-11 สาขานี้ห่างจากโครงการเพียง 50 เมตร
เลี้ยวซ้ายที่ 3 แยกบริเวณหน้า 7-11
จาก 7-11 ขับต่อมาตามทางอีก 50 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการ เลอ นีโอ ไพร์ม แพรกษา-เทพารักษ์ เรียบร้อยครับ
::: บริเวณโครงการ :::
ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ พื้นที่โดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย ทางทิศเหนือหรือด้านหลังติดกับคลองบ่อทอง คลองที่ช่วยทำหน้าที่เหมือนเป็นปราการธรรมชาติป้องกันการบุกรุก ประกอบกับรั้วรอบโครงการที่สูงถึง 3 เมตร จึงเป็นโครงการที่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้ครับ ในละแวกใกล้เคียงมีจุดเด่นตรงที่อยู่ใกล้กับร้านสะดวกซื้อ 7-11 เพียงแค่ 50 เมตร ประกอบกับโดยรอบมีร้านอาหารเปิดให้อยู่หลายร้านหลายรูปแบบ ให้ลูกบ้านสามารถฝากท้องในชีวิตประจำวันได้จริง
ในส่วนของตัวโครงการ ทางเข้าออกจะอยู่ทางทิศใต้ ผ่านซุ้มประตูเข้ามา ทางด้านซ้ายมือเป็นที่ตั้งของอาคารคลับเฮ้าส์ บ้านตัวอย่างและสำนักงานขาย นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สวนสาธารณะอยู่ทางด้านใน ขนาดกว่า 1 ไร่ ที่มีทั้งสนามเด็กเล่น ลานออกกำลังกายกลางแจ้งสำหรับผู้สูงอายุ และโซน Extreme ที่มีสนามบาส และลานสเก็ตบอร์ด ทำให้สวนแห่งนี้ตอบโจทย์ในทุกช่วงวัยได้อย่างครบถ้วน
ส่วนต่อไปผมจะพาไปเดินดูบรรยากาศบริเวณโครงการกันครับ
ซุ้มทางเข้าโครงการ มุมมองจากด้านนอก มีความโดดเด่น สวยงาม สะดุดตา เนื่องจากว่าตัวซุ้มประตูนั้นออกแบบมาให้มีความเขื่อมโยงต่อเนื่องกับอาคารคลับเฮ้าส์ จึงสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตอลังการในรูปแบบที่ดูโมเดิร์นทันสมัย
ถนนด้านหน้าโครงการ คนแถวนั้นจะเรียกกันว่าซอยพุฒสี เป็นถนนขนาดกว้าง 2 เลน บวกกับไหล่ทางรถจึงวิ่งผ่านสวนกันได้สะดวก ถนนดังกล่าวสามารถเข้าออกได้จากหลายทางทั้งฝั่งถนนแพรกษา, ถนนเทพารักษ์ และถนนศรีนครินทร์
ด้านหน้ามีการตกแต่งเป็นสวนสวย เสริมสร้างบรรยากาศความร่มรื่นที่ไม่ใช่เพียงแต่ลูกบ้านเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับสภาพแวดล้อมให้แก่ชุมชนคนแถวนั้นที่สัญจรผ่านไปผ่านมาได้อีกด้วย
ส่วนต่อไปเราไปดู 7-11 กันครับ
ที่ตั้งของ 7-11 อยู่ใกล้โครงการในระยะเดินเท้าสบาย สังเกตได้จากในภาพ ทางขวาคือพื้นที่รั้วของโครงการ ส่วนทางซ้ายจะเป็นทางเข้าลานจอดรถของ 7-11
7-11 สาขานี้มีลานจอดรถที่กว้างขวางโล่งสบาย โดยรอบมีร้านค้าอยู่หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะคึกคักในช่วงเย็น
บริเวณหัวมุมมีวินมอไซค์ ซึ่งมีความสำคัญสำหรับการเข้าออกซอยสำหรับลูกบ้านในโครงการที่ไม่ใช่รถส่วนตัว
อัตราค่าบริการมอไซค์รับจ้างวินพุฒสี ตัวอย่างราคาที่คนใช้บ่อยคือไปบริเวณปากซอยสู่ถนนใหญ่แพรกษา 15 บาท ไปรถไฟฟ้า BTS สถานีแพรกษา 50 บาท
กลับมาที่บริเวณทางเข้าโครงการ เพื่อเข้าไปชมด้านในกันต่อครับ
ซุ้มทางเข้าโครงการแบ่งแยกทางเข้าออกโครงการคนละฝั่ง ตัวหลังคาซุ้มขนาดใหญ่สามารถช่วยบังแดดบังฝนได้จริง
เรื่องความปลอดภัยของโครงการ เป็นจุดเด่นที่สำคัญ นอกจากรั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร ที่ผมพูดถึงไปแล้ว การผ่านประตูเข้าออกโครงการยังใช้รูปแบบของรั้วเหล็กที่มีความแข็งแรงมากกว่า ต่างจากโครงการทั่วไปที่นิยมใช้เป็นแบบไม้กระดก ด้านข้างแบ่งแยกช่องทางเดินเท้า พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำการตลอด 24 ชม.
นอกจากนั้นยังมีกล้อง CCTV บริเวณทางเข้าออก รวมถึงภายในโครงการที่กระจายอยู่ตามจุดสำคัญต่างๆ
นอกจากความปลอดภัยแล้ว ยังยกระดับความสะดวกสบายด้วยระบบ Easy Pass สแกนบัตรอัตโนมัติระยะไกล
พอประตูเลื่อนเปิดแล้ว เราเข้าไปชมด้านในกันต่อครับ
ผ่านซุ้มประตูเข้ามาเจอกับถนนเมนของโครงการ
ผมจะขอแวะไปดูที่ตัวอาคารคลับเฮ้าส์ที่อยู่ด้านซ้ายมือกันก่อนครับ
คลับเฮ้าส์ ออกแบบตัวอาคารมาในรูปแบบโมเดิร์น ฟังก์ชั่นภายในอาคารครบครันทั้งสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และ Co-working space
ทางขึ้นอาคารออกแบบ Universal Style รองรับการใช้งานของผู้ใช้วีลแชร์
ขึ้นไปชมด้านบนอาคารกันครับ
ส่วนแรกหลังจากที่ขึ้นอาคารมา เจอกับ Co-working space ทางด้านขวามือ
บรรยากาศภายในห้อง Co-working space เน้นเรื่องของความโปร่งสบายด้วยฝ้าเพดานสูงแบบ Double Space ผนังเปิดช่องแสงด้วยบานหน้าต่างขนาดใหญ่
วางโซฟาสไตล์หรูหรา รองรับการใช้งานได้หลายคนพร้อมกัน เสมือนเป็นห้องรับแขกที่ 2 สำหรับต้อนรับเพื่อนหรือญาติที่แวะเวียนมาหา
มุมด้านในเป็น Kids Space ตกแต่งผนังด้วยภาพวาดสีสันน่ารักสดใส เสริมด้วยเบาะนั่งรูปสัตว์ และช่องนั่งเล่นเข้ามุมแบบิวท์อิน สร้างบรรยากาศดึงดูดให้เจ้าตัวเล็กมีมุมกิจกรรม เพื่อมานั่งอ่านหนังสือ หรือเล่นเกมกับเพื่อนๆ
หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน สามารถขึ้นมาใช้งานพื้นที่ด้านบน ด้วยรูปแบบของโต๊ะและความเป็นส่วนตัว มุมนี้จึงเหมาะกับการทำงานหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิมากกว่าด้านล่าง
จาก Co-working space ฝั่งตรงข้ามเป็นสระว่ายน้ำ
แต่จากด้านนี้เราไม่สามารถเข้าสระว่ายน้ำได้โดยตรง แต่จะต้องใช้งานผ่านทางห้องน้ำ
มุมนี้วางสไลเดอร์ และม้านั่ง สำหรับเด็กเล็ก
ห้องน้ำและทางขึ้นชั้นบนอยู่ด้านในอาคาร
จะไปสระว่ายน้ำ ต้องผ่านห้องน้ำที่แยกหญิงและชาย ทางด้านนี้
ภายในห้องน้ำหญิง วัสดุที่ใช้ให้ความรู้สึกหรูหรา ทางเดินกว้างขวาง และมีแสงสว่างจากช่องแสงธรรมชาติ
ภายในห้องน้ำชาย
ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
ทางโครงการ ออกแบบให้การที่จะใช้สระว่ายน้ำต้องผ่านห้องน้ำ ด้วยเหตุผลที่ดีหลายประการ เช่นเรื่องของความเป็นส่วนตัว เรื่องของการป้องกันพื้นเปียกในส่วนอื่น
เข้าสู่พื้นที่ของสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำแยกพื้นที่สระเด็ก และสระผู้ใหญ่
สระว่ายน้ำระบบเกลือ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ทางโครงการเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยแนวแผ่นไม้
พื้นที่สระเด็ก แยกออกจากพื้นที่สระผู้ใหญ่ชัดเจน
ด้านบนเป็นห้องฟิตเนส ที่เราจะไปชมกันเป็นส่วนถัดไปครับ
เดินย้อนกลับไปทางขึ้นชั้นสอง บริเวณด้านหน้าห้องน้ำ
บรรยากาศภายในห้องฟิตเนส ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของความโปร่งสบาย ด้วยช่องแสงเต็มผนัง มีอุปกรณ์ให้ลูกบ้านใช้งานหลายแบบ เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ลู่วิ่งไฟฟ้า 2 เครื่อง
เครื่องเดินวงรี 1 เครื่อง และจักรยานปั่น 2 เครื่อง
มุมด้านในสุดวางดัมเบลหลากหลายขนาด และเตียงยกแบบปรับระนาบได้ เสริมด้วยเสื่อโยคะและลูกบอลแอโรบิค เพิ่มรูปแบบการออกกำลังกายให้มีความหลากหลายมากขึ้น
หลังจากที่สำรวจคลับเฮ้าส์กันไปแล้ว ผมจะพาเดินเข้าไปด้านในกันต่อ เพื่อดูบรรยากาศโซนพักอาศัยกันบ้างครับ
ถนนโครงการช่วงต้น แบ่งช่องทางซ้ายขวา ตรงกลางมีเกาะกลางถนนเพิ่มความร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงา
ทางม้าลายของโครงการ ไม่ได้เป็นแค่แถบสีขาว แต่วาดเป็นลายสีขาวดำบนตัวม้าลายดูสวยงาม
ถนนเมนของโครงการกว้าง 12 เมตร
ซอยย่อยกว้าง 9 เมตรตามมาตรฐาน
แวะดูบ้านในโซนพักอาศัยจริงกันเล็กน้อยครับ เนื่องจากว่าในบ้านตัวอย่างจะไม่มีรั้วบ้านให้เราดู
รั้วบ้านเป็นแบบรั้วเหล็กเลื่อนทาสีเทา
แยกช่องทางเดินเท้าเป็นสัดส่วน มีกริ่งและไฟหน้าบ้านตรงบริเวณเสาประตู
มุมของรั้วบ้านติดตั้งถังขยะบิวท์อิน และกล่องจดหมาย
ทางโครงการตกแต่งสวนด้วยการปูหญ้า ลงต้นไม้ใหญ่ให้ตามแบบมาตรฐาน
เดินต่อไปตามถนนเส้นเมน ของโครงการ สองข้างทางเน้นบรรยากาศสีเขียวทั้งรั้วต้นไม้ ปูหญ้า และไม้ยืนต้น
มาชมพื้นที่สวนสาธารณะกันต่อครับ
ขนาดของสวนสาธารณะพื้นที่กว่า 1 ไร่ แบ่งแยกโซนต่างๆ ออกเป็น 3 โซนด้วยกัน
โซนแรกเป็น Elderly Exercise Zone ลานออกกำลังกายกลางแจ้งสำหรับผู้สูงอายุ
อุปกรณ์จะเป็นการออกกำลังกายส่วนต่างๆ ของร่างกายแบบที่มีแรงต้านน้อยเหมาะกับผู้สูงอายุ อย่างเครื่องนี้ช่วยบริหารช่วงขา
เครื่องบริหารช่วงแขน หน้าอก และหัวไหล่
เครื่องนี้จำลองเหมือนเครื่องเดินวงรี
เครื่องนี้บริหารช่วงแขนด้วยการหมุนวงล้อ
เตียงซิตอัพ และบริหารต้นขา
ขยับไปโซนที่ 2 โซนนี้เป็นโซน Family Fun Art Park มีบ้านต้นไม้เป็นแลนด์มาร์คที่น่าสนใจ
บริเวณด้านล่างของบ้านต้นไม้ มีกิจกรรมปีนหน้าผาจำลอง แต่จะเน้นปีนป่ายไปทางแนวด้านกว้าง ไม่ได้เน้นความสูงเพื่อความปลอดภัย
ขยับขึ้นไปด้านบน พื้นของส่วนนี้ปูด้วยแผ่นยางที่มีความนุ่มช่วยซับแรงกระแทก
บันไดทางขึ้นบ้านต้นไม้
ลานกิจกรรมตรงนี้ นอกจากเสริมสร้างพลานามัยแล้ว ยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการของสมองด้วย พื้นสอนการนับเลข และตัวอักษรภาษาอังกฤษ
ล้านม้าหมุน ม้าโยก
ส่วนต่อมาเป็นลานม้าโยก และของเล่นขวัญใจเด็กๆ อย่างสไลเดอร์ พื้นด้านล่างเป็นพื้นทรายส่วนพื้นทางด้านบนนั้นเป็นแผ่นยางกันกระแทก แสดงให้เห็นว่าทางโครงการ ไม่ละเลยในเรื่องความปลอดภัยของเจ้าตัวเล็ก
เดินต่อไปตามช่องทางเดิน ซึ่งอาจใช้เป็นลู่วิ่งจ๊อกกิ้งก็ได้ ส่วนสุดท้ายเข้าสู่ Extreme Zone
หลักจากที่เราเดินชมพื้นที่กันมาแล้ว 2 โซน ซึ่งเป็นโซนที่เหมาะกับเด็ก และผู้สูงอายุ มาถึงส่วนสุดท้ายที่เป็น Extreme Zone นี้จะเหมาะกับวัยรุ่น
สนามบาสแบบครึ่งสนามสำหรับ 3 on 3
สำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬา Extreme อย่างสเก็ตบอร์ด ในสนามมีเนินกระโดด เพิ่มความท้าทายไปอีกขั้น
::: แบบบ้าน :::
ภายในโครงการมีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ได้แก่
แบบบ้าน Pearl (Type A) บ้านแฝดเล็ก ออกแบบให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า เพียบพร้อมไปด้วยประโยชน์ใช้สอยอย่างลงตัว เช่น ห้องครัวขนาดใหญ่ พร้อมเคาน์เตอร์อ่างล้างจาน ประหยัดกว่า ไม่ต้องเสียเงินต่อเติมภายหลัง หมดปัญหาการทรุดตัว , เตรียมระเบียง ซัก/ตาก ผ้า ใช้สอยสะดวกไม่ต้องนำผ้าไปตากที่โรงจอดรถหรือหน้าบ้าน ซึ่งไม่เป็นระเบียบ
แปลนบ้าน Pearl (Type A)
แบบบ้าน Jade (Type B) บ้านแฝดใหญ่ พร้อมห้องนอนล่าง ออกแบบให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า เพียบพร้อมไปด้วยประโยชน์ใช้สอย และฟังก์ชั่นที่ลงตัว เช่น ห้องครัวขนาดใหญ่ พร้อมเคาน์เตอร์อ่างล้างจาน ประหยัดกว่า ไม่ต้องเสียเงินต่อเติมภายหลัง หมดปัญหาการทรุดตัว, เตรียมระเบียง ซัก/ตาก ผ้า ใช้สอยสะดวกไม่ต้องนำผ้าไปตากที่โรงจอดรถหรือหน้าบ้าน ซึ่งไม่เป็นระเบียบ
แปลนบ้าน Jade (Type B)
แบบบ้าน Sapphire (Type C) บ้านเดี่ยวเล็ก พร้อมห้องนอนล่างห้องน้ำในตัว ที่ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย
สำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ Double Master Bedroom พร้อม walk-in closet และห้องน้ำในตัวทุกห้อง
แปลนบ้าน Sapphire (Type C)
แบบบ้าน Diamond (Type D) บ้านเดี่ยวใหญ่ พื้นที่กว้างขวาง ออกแบบให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า เพียบพร้อมไปด้วยประโยชน์ใช้สอย และฟังก์ชั่นที่ลงตัว หรูหรา สวยงาม สำหรับครอบครัวที่มีสไตล์ที่เป็นของตนเอง ทุกห้องนอนมีขนาดที่เหมาะสม รองรับการอยู่อาศัยได้ระยะยาว
แปลนบ้าน Diamond (Type D)
Prime Innovation
การทำงานของระบบ Eco Air Flow
ระบบ Home Automation ยกระดับความปลอดภัยด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย ควบคุมได้ง่ายผ่านทาง Smartphone
::: บ้านตัวอย่าง :::
สำหรับบ้านตัวอย่างที่ผมจะพาไปชมวันนี้มี 2 แบบด้วยกันได้แก่
ซึงเป็นแบบบ้านแฝดเล็กไซส์เริ่มต้น และแบบบ้านเดี่ยวใหญ่ไซส์ใหญ่สุดในโครงการ
ผมขอเริ่มที่แบบ Pearl บ้านแฝดเล็กไซส์เริ่มต้นของโครงการ หน้าตาของบ้านออกแนวโมเดิร์น ใช้โทนสีขาวและเทาเป็นพื้นหลัก เพิ่มความอบอุ่นด้วยลายไม้ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 35 ตร.ว.
เรามาดูแปลนบ้านกันหน่อยครับ เริ่มที่ชั้นล่าง ลานจอดรถสำหรับ 2 คัน เปิดประตูบ้านเข้ามาเจอกับห้องรับแขก เปิดโล่งเชื่อมต่อเข้าไปสู่ห้องรับประทานอาหารด้านในเป็นรูปแบบพื้นที่ตัว L ห้องน้ำชั้นล่างมีการแบ่งแย่งโซนแห้ง-เปียก และด้านในสุดเป็นห้องครัวไทยที่แยกส่วนเชื่อมต่อสู่ลานซักล้างด้านหลัง
ชั้นบน บริเวณโถงบันไดมีทางออกสู่พื้นที่ฟังก์ชั่นพิเศษ เหมาะทำเป็นพื้นที่ซักผ้า ขยับขึ้นไปต่อด้านบนมี 3 ห้องนอน แบ่งเป็นห้องนอนรอง 2 ห้องทางฝั่งหลังบ้าน และฝั่งด้านหน้าเป็นห้องนอนหลัก มีห้องน้ำ 1 ห้องอยู่ตรงกลางรูปแบบ Double Access เข้าออกได้ 2 ทางทั้งจากโถงและห้องนอนใหญ่ ทำให้คล้ายกับว่าห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว
พื้นที่ด้านหน้าบ้านเป็นลานจอดรถสำหรับ 2 คัน มีแนวหลังคาช่วยบังแดดให้รถจอดในที่ร่ม ไม่ต้องตากแดดตากฝน
ด้วยแบบบ้านที่เป็นบ้านแฝด จึงมีส่วนนึงที่ติดกับเพื่อนบ้านหลังข้างๆ โดยในบ้านหลังตัวอย่างนี้ส่วนที่ติดกับเพื่อนบ้านคือด้านซ้าย
ส่วนที่ติดกับเพื่อนบ้านจะเป็นส่วนของห้องครัว และพื้นที่พิเศษชั้นบน
ในรูปแบบของบ้านจริง จะมีแนวกำแพงแบ่งพื้นที่แบบนี้
ด้านเมื่อสักครู่เป็นส่วนที่ติดกับเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้นอีกด้านจึงเป็นพื้นที่สวน ซึ่งขนาดของสวนนั้นก็จะแตกต่างกันตามขนาดที่ดินในแต่ละแปลง
นอกจากประตูทางเข้าหน้าบ้านแล้ว ด้านข้างของตัวบ้านมีประตูเพิ่มอีก 1 บาน เชื่อมต่อสู่สวนโดยตรง
โครงการตกแต่งสวนแห่งนี้เป็นลานพักผ่อนปิ้งย่าง สไตล์ลานบาร์บีคิว ซึ่งของจริงจะให้เป็นสวนปูพื้นด้วยหญ้าจริง
ทางด้านหลังบ้านมีทางเดินได้โดยรอบ
หลังบ้านเทพื้นคอนกรีตเป็นลานซักล้างให้บางส่วน เชื่อมต่อเข้าสู่ด้านในบ้านช่วงห้องครัว
กลับมาที่หน้าบ้านเพื่อเข้าไปชมด้านในบ้านกันต่อครับ ประตูบ้านเป็นวัสดุอลูิเนียมสีขาว กระจกสีเขียวตัดแสง ขนาดช่องใหญ่กว่าปกติด้วยการเพิ่มช่องแสงด้านข้าง ให้แสงธรรมชาติผ่านเข้าสู่ด้านในตัวบ้านได้มากขึ้น
มือจับประตูขนาดใหญ่ จับถนัดมือเปิดปิดง่ายมีที่ล็อคในตัว
ผ่านประตูบ้านเข้ามาส่วนแรกเป็นห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น เปิดโล่งเชื่อมต่อเข้าไปด้านในสู่พื้นที่ทานอาหาร เลี้ยวซ้ายเข้าไปต่อสู่ห้องครัว
เปรียบเทียบกับแบบบ้านเปล่าให้เห็นชัดเจน วัสดุพื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ผนังสีขาวฉาบเรียบ บัวพื้นสำเร็จรูปลายไม้ เพดานบ้านสูง 2.6 เมตร โคมไฟให้แบบดาวน์ไลท์ ติดตั้ง Fresh Air Filter ให้อากาศไหลผ่านเข้าบ้านซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Eco Air Flow
ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ที่กว้างขวาง ตามแบบบ้านตัวอย่างที่จัดวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว ยังเหลือพื้นที่ทางเดินในระยะที่สามารถผ่านเข้าไปด้านในสู่โซนทานอาหาร ได้สะดวก
นอกจากประตูบ้านที่เป็นไซส์ใหญ่พิเศษแบบเพิ่มช่องแสงด้านข้างแล้ว ใกล้กันยังมีประตูที่ใช้เชื่อมต่อสู่สวนข้างบ้านที่เป็นช่องทางรับแสงได้อีกทาง เป็นแบบ Double Corner Entry Door ส่งผลในเรื่องของความโปร่งสบาย มุมมองไปยังสวนสีเขียวที่กว้างขึ้น อากาศถ่ายเท และช่วยความสว่างภายในตัวบ้านได้เป็นอย่างมาก
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้าบ้าน
ภาพมุมนี้สามารถยืนยันในเรื่องของความโปร่งสบายและความสว่างที่ผมกล่าวถึงได้เป็นอย่างดี ช่วงระหว่างวันไม่จำเป็นต้องเปิดไฟบริเวณนี้ก็มีแสงอย่างพอเพียงในการใช้ชีวิตประจำวัน
ขยับเข้าไปสู่โซนรับประทานอาหาร
ด้วยรูปแบบพื้นที่ชั้นล่างเป็นรูปทรงตัว L ห้องทานอาหารจึงได้สเปซที่กว้าง ทางบ้านตัวอย่างจึงทำออกมาให้ดูด้วยการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง และแบ่งพื้นที่อีกด้านเป็นเคาน์เตอร์ Pantry
เปรียบเทียบกับแบบบ้านเปล่า ด้านหลังมีช่อง Fresh Air Filter อีกหนึ่งจุด ตรงหน้าต่างส่วนที่เป็นห้องครัวให้เป็นแบบบานเลื่อน
ในส่วนของ Pantry นี้อันที่จริงสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้หลายรูปแบบ อย่างเช่นมุมทำงาน อ่านหนังสือ หรือทำเป็นมุม Pantry ชงชา จิบกาแฟ สไตล์เคาน์เตอร์บาร์ก็ดูดีน่าใช้งานครับ
จาก Pantry กลับหลังหันมาเจอกับห้องน้ำชั้นล่าง
ห้องน้ำชั้นล่าง แบ่งแยกพื้นที่โซนแห้ง-เปียกเป็นสัดส่วนชัดเจน
โถสุขภัณฑ์ของ Mogen ติดตั้งพร้อมที่แขวนทิชชู่ และสายชำระเอาไว้เรียบร้อย
อ่างล้างหน้าของ Mogen หัวก๊อกของ Cotto
ด้านหลังติดตั้งบานกระจกเงา และช่องระบายอากาศ ที่ช่วยรับแสงสว่างไปในตัว
ส่วนเปียกอาบน้ำ ลดระดับพื้นลงเล็กน้อยเป็นตัวแบ่งพื้นที่ แต่งลายผนังด้วยแผ่นกระเบื้องสีดำเสริมมิติให้ดูสวยงามมากขึ้น ติดตั้งฝักบัวสายอ่อน ที่แขวนสบู่ และวางระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นไว้พร้อม
ไปดูในส่วนของห้องครัวกันต่อครับ ในบ้านจริงมีประตูปิด และหน้าต่างแบบบานเลื่อนติดตั้งให้
ห้องครัวทางโครงการบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวให้ มีพื้นที่ใช้งานกว้างขวาง พร้อมลงเสาเข็มป้องกันบ้านทรุด
ห้องครัวทางฝั่งที่เชื่อมต่อสู่หน้าบ้าน ในแบบบ้านจริงจะเปิดโล่งแบบนี้ ไม่ได้มีฉากบานเลื่อนให้
ด้านหลังครัวออกสู่พื้นที่ซักล้างด้านหลัง
ทางออกสู่หลังบ้านไม่ได้ติดตั้งฉากบานเลื่อนให้ แต่จะเปิดโล่งให้แบบนี้ ส่วนเคาน์เตอร์ครัวก็จะบิวท์ให้ตามแบบในภาพ มีซิงค์ล้างจานให้ ไม่จำเป็นต้องต่อเติมอะไรมากมายก็สามารถใช้งานได้แล้ว ช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลา
ขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ
บริเวณชั้นพักบันไดส่วนแรก มีหน้าต่างทางฝั่งหน้าบ้านเป็นตัวให้แสงสว่างแก่โถงทางเดินในช่วงกลางวัน ช่วยประหยัดไฟ หน้าต่างดังกล่าวสามารถเปิดให้ลมไหลผ่านเข้าสู่ตัวบ้านได้อีกทาง
ระหว่างทางขึ้นบันไดมีการสอดแทรกฟังก์ชั่นสำหรับวางของ
โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก แข็งแรงทนทาน
ก่อนถึงชั้นบน ตรงชั้นพักบันไดมีประตูทางออกไปยังพื้นที่พิเศษ บานประตูไม่ได้ปิดทึบซะทีเดียว แต่มีช่องแสงที่ช่วยรับแสงเข้าสู่โถงได้อีกทาง
ฟังก์ชั่นพิเศษที่ผมพูดถึงก็คือพื้นที่ระเบียง ซึ่งทางโครงการจัดเป็นห้องซักผ้า
การใช้พื้นที่ส่วนนี้สำหรับซักผ้าตากผ้า มีข้อดีหลายข้อด้วยการ โดยเฉพาะปัญหาที่เรามักพบเจอคือ คนบางส่วนชอบตากผ้ากันที่ลานจอดรถ แล้วนำรถมาจอดเอาไว้ที่ถนนของโครงการแทน ฟังก์ชั่นนี้จะช่วยตัดปัญหาดังกล่าวออกไป และอีกเรื่องคือลม พื้นที่ตรงนี้ลมค่อนข้างดี เหมาะแก่การตากผ้าเป็นที่สุด ช่วยให้ผ้าแห้งไวไม่อับชื้น
เปรียบเทียบกับแบบบ้านเปล่า ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งหลังคาเอาไว้ให้ แต่มีการเดินระบบน้ำดีน้ำทิ้ง และปลั๊กไฟเอาไว้ให้แล้ว
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่น่าสนใจที่ทางโครงการทำให้ดู คือเป็นมุมของสัตว์เลี้ยง ช่วยให้เขามีห้องเป็นของตัวเองเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง ที่เราสามารถมานั่งเล่นรับลมกับเขาได้อย่างใกล้ชิด
กลับมาที่ชั้น 2 กันต่อครับ พื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. แบ่งเป็น 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
บนเพดานของโถงชั้น 2 มีการเสริมด้วยหลังคา Skylight รับแสง และพัดลมดูดอากาศในระบบ Eco Air Flow ที่ช่วยดูดลมร้อนในตัวบ้านออกไป
ไปดูห้องนอนรอง 2 ห้องที่อยู่ทางฝั่งหลังบ้าน เริ่มจากห้องทางซ้ายก่อนครับ
ห้องนี้ตกแต่งเป็นห้องนอนในธีมสีสันสดใสสำหรับเจ้าตัวเล็ก บิวท์อินเตียงขนาด 3.5 ฟุต
ในบ้านเปล่าจะเห็นชัดว่ามีช่องแสงอยู่สองด้าน ช่วยให้ภายในห้องปลอดโปร่ง
ด้านข้างเตียงมีพื้นที่เหลือสำหรับทำเป็นมุมโต๊ะอเนกประสงค์
ปลายเตียงมีพื้นที่อีกพอสมควรสำหรับทำเป็นตู้เก็บเสื้อผ้า
ไปดูห้องนอนรองอีกห้องที่อยู่ทางขวากันบ้างครับ
ห้องนี้จะเป็นห้องนอนในธีมของลูกคนโตที่เป็นวัยรุ่นวัยเรียนรู้ ด้วยผนังแผนที่โลก
ด้านข้างหัวเตียงเหมาะทำเป็นมุมเขียนหนังสือเนื่องจากมีหน้าต่างให้แสงเพิ่มเติมอีกหนึ่งบาน
หน้าต่างดังกล่าวเป็นหน้าต่างทรงสูง เปิดปิดแบบบานกระทุ้ง
มุมมองไปทางด้านปลายเตียง
ช่วงปลายเตียงเหลือสเปซกว้างเพียงพอสำหรับชั้นวางทีวี หรือจะเพิ่มชั้นวางของเก็บของก็ตามแต่การใช้งาน
กลับมาที่โถงเพื่อข้ามฝั่งไปดูห้องนอนหลักกันต่อครับ ด้านซ้ายเป็นประตูห้องน้ำ ที่สังเกตเห็นได้จากจุดนี้เลยว่าเป็นห้องน้ำแบบเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องโถงและห้องนอนหลัก
ห้องนอนหลักทางโครงการลองวางเตียงขนาด 5 ฟุตเอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง
หน้าต่างบริเวณข้างเตียง เป็นหน้าต่างไซส์สูงกว่าปกติ และเพิ่มช่องแสงแบบเข้ามุม Corner Window ให้สามารถเทควิวออกไปด้านนอกได้กว้างขึ้น โปร่งสบายมากกว่าปกติ
ด้านข้างเตียงฝั่งขวาเว้นระยะทางเข้าออกสู่มุมอเนกประสงค์
สามารถจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมได้อย่างลงตัว
ทางด้านปลายเตียงเป็นโซน walk-in closet
ทางโครงการเสริมไอเดียด้วยแผ่นผนัง เหมาะสำหรับทำเป็นมุมวางทีวี และช่วยแบ่งพาร์ติชั่นระหว่างห้องนอนกับ walk-in closet ให้เป็นสัดส่วน
ห้องแต่งตัวด้านหลังที่หากมีผนังกั้นแบบบ้านตัวอย่างนี้ จะช่วยให้มีความเป็นส่วนตัวในการเปลี่ยนเสื้อผ้ามากขึ้น
เข้ามาดูภายในห้องน้ำชั้นบน ซึ่งมีเพียงห้องเดียวใช้งานร่วมกัน
เข้าออกได้แบบ double access ทั้งจากห้องโถงและห้องนอน
โถสุขภัณฑ์ของ Mogen
อ่างล้างหน้าของ Mogen เช่นกัน
ด้านหลังติดตั้งบานกระจกเงา พร้อมช่องแสงระบายอากาศที่เปิดปิดได้
มุมอาบน้ำด้านในติดตั้งฝักบัวสายอ่อนแขวนบนราวฝักบัวปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อมที่วางสบู่และเดินระบบเครื่องทำน้ำอุ่นไว้พร้อม
มาดูแบบบ้าน Diamond ซึ่งเป็นแบบบ้านไซส์ใหญ่สุดกันต่อครับ พื้นที่ใช้สอย 169 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
แปลนบ้าน Diamond ชั้น 1 ลานจอดรถสำหรับ 2 คัน เข้าบ้านได้ 2 ทาง จากลานจอดรถ และทางเข้าหลักหน้าบ้าน ผ่านประตูหลักเข้าไปในบ้านเจอกับห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อสู่โซนทานข้าว กั้นห้องครัวให้แบบครัวปิด ห้องน้ำอยู่บริเวณก่อนถึงทางขึ้นบันได
ชั้น 2 ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีห้องนอนรอง 2 ห้องทางฝั่งหลังบ้าน ใช้ห้องน้ำร่วมกันที่บริเวณโถงกลาง ส่วนห้องนอนหลักที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านมีห้องน้ำในตัวและระเบียง
เริ่มจากลานจอดรถสำหรับจอด 2 คันในช่องจอดใต้ชายคาบ้าน
จากลานจอดรถสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวบ้านได้ บริเวณ foyer นี้มีสเปซด้านข้างที่สามารถใช้เป็นพื้นที่วางตู้เก็บของได้
ด้วยแบบบ้านเดี่ยวจึงมีพื้นที่โดยรอบตัวบ้าน ทางฝั่งขวาของบ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นพื้นที่สวน
มีทางเข้าสู่ตัวบ้านได้จากประตูด้านข้างแบบบานสไลด์
เชื่อมต่อไปยังสวนหลังบ้านได้โดยรอบ
อีกด้านของตัวบ้านเป็นช่องทางเดินที่สามารถเดินลึกเข้าไปสู่สวนหลังบ้านได้เช่นกัน
มุมด้านหลังบ้านฝั่งนี้แบ่งพื้นที่เข้ามุมเอาไว้สำหรับวางปั๊มน้ำแทงค์น้ำ
ลานซักล้างหลังบ้านก่อเป็นเฉลียงซักล้างปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา 30×30 ซม.
ย้อนกลับมาที่ทางเข้าหน้าบ้าน เฉลียงหน้าบ้านก่อสูง 1 สเตปปูด้วยกระเบื้องเซรามิคเช่นเดียวกัน
ด้านข้างก่อเป็นแนวม้านั่ง สำหรับนั่งเล่นชมสวนหรือสวม-ถอดรองเท้า
ประตูทางเข้าบ้านหลักให้เป็นบานสไลด์อลูมิเนียมสีขาว กระจกสีเขียวตัดแสง
ผ่านประตูเข้ามาส่วนแรกเจอกับห้องนั่งเล่น โปร่งสบาย วัสดุพื้นฐานปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ 60×60 ซม. เพดานสูง 2.6 เมตร โคมไฟดาวน์ไลท์ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ไม่ได้ปูวอลล์เปเปอร์ให้เหมือนบ้านตัวอย่าง
มองย้อนไปยังฝั่งประตูทางเข้าบ้าน ระยะสายตาจากโซฟาไปยังชั้นวางทีวีกว้างขวางถนอมสายตา เดินผ่านเข้าออกได้สบาย
ขยับเข้าไปยัง Dining Zone
วางโต๊ะทานข้าวขนาดรองรับ 6 ที่นั่งไว้เป็นตัวอย่าง ด้านหลังมีประตูเชื่อมต่อออกไปยังพื้นที่สวนข้างบ้านได้
มุมทานข้าวนี้มีระยะที่กว้างตามแนวสันของตัว L จึงได้สเปซที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น
อย่างในบ้านตัวอย่างทางโครงการบิวท์อินเป็น Pantry เตรียมอาหารเพิ่มเติม สำหรับห้องครัวของแบบบ้านหลังนี้ให้เป็นแบบครัวปิด กั้นส่วนด้วยฉากบานสไลด์ ป้องกันกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารลอยฟุ้งเข้ามาด้านในตัวบ้าน
ภายในมีการบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวให้ แต่แบบมาตรฐานจะต่างจากในภาพเล็กน้อย คือไม่มีบานปิดด้านล่างให้ และไม่รวมตู้เก็บของด้านบน บรรยากาศในครัว มีแสงสว่างอย่างเพียงพอด้วยหน้าต่าง 2 ฝั่งที่นอกจากให้แสงสว่างแล้วยังสามารถเปิดเพื่อช่วยระบายกลิ่นระบายควันได้อีกทาง
ประตูหลังบ้านเป็นทางออกสู่ลานซักล้าง
กลับมาที่โถงชั้นล่าง เพื่อไปยังช่องทางเดินสู่บันได
ประตูทางซ้ายบานแรกเป็นทางออกสู่ลานจอดรถ ถัดไปเป็นห้องน้ำ
ห้องน้ำชั้นล่าง ไม่ได้แบ่งแยกโซนแห้ง-เปียก แต่มีฝักบัวสำหรับอาบน้ำให้ และพื้นที่ในการยืนอาบน้ำก็ไม่ได้แคบจนเกินไป สามารถยืนอาบน้ำได้จริง ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen เช่นกัน
ขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ
ช่วงชั้นพักบันได ด้านหลังมีช่องรับแสงช่วยให้พื้นที่ส่วนนี้มีแสงสว่างตลอดทั้งวัน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟทิ้งไว้
เสริมด้วยแนววางของตกแต่งได้อย่างมีสไตล์สวยงาม
ชั้นบนประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นชั้นบนปูลามิเนต 8 มม.
ห้องนอนรอง 2 ห้องอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน เริ่มที่ห้องด้านซ้ายก่อน
ห้องนี้เป็นห้องนอนรอง แต่ว่าขนาดพื้นที่ใช้สอยให้ความรู้สึกไม่แตกต่างจากห้องนอนหลักเลยทีเดียว เพราะสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้เลย โดยที่ไม่อึดอัดจนเกินไป และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงซ้ายขวาให้เข้าออกได้สะดวก ในห้องนี้ให้หน้าต่างสำหรับรับแสงธรรมชาติถึง 3 จุด
ฝั่งปลายเตียงมีช่องสำหรับชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้า
ไปดูห้องนอนรองถัดไปทางขวามือ
ห้องนี้ขนาดจะเล็กกว่าห้องเมื่อสักครู่เล็กน้อย โดยจัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตเป็นตัวอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับธีมห้องนอนเด็ก แต่จะเลือกใช้ไซส์ 5 ฟุต ก็พอทำได้เช่นกัน
อีกด้านของห้องสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานได้ตามปกติ
ฝั่งหัวเตียงยังพอวางโต๊ะเขียนหนังสือได้อีกหนึ่งฟังก์ชั่น
ห้องน้ำชั้นบนมี 2 ห้องด้วยกัน ห้องแรกจะอยู่ที่บริเวณโถงกลางสำหรับใช้งานร่วมกันของห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง
ภายในแบ่งแยกโซนแห้งโซนเปียก ด้วยแนวกำแพงที่เป็นตัวแบ่งพาร์ติชั่นชัดเจน
ห้องอาบน้ำด้านในมีช่องแสงเปิดปิดได้แบบบานกระทุ้ง เพื่อให้อากาศถ่ายเทลดความอับชื้น
สุดท้ายเป็นห้องนอนหลักที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน
สำหรับห้องนอนหลักจะได้ห้องนอนขนาดใหญ่ที่กว้างเท่ากับหน้ากว้างของตัวบ้าน และมีห้องน้ำในตัว
ด้วยพื้นที่ที่กว้างขวาง จึงสามารถแบ่งการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน ทางด้านนี้จัดวางเป็นพื้นที่ห้องนอน
ขนาดเตียงนอนเลือกใช้เตียงคิงส์ไซส์ 6 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง
ปลายเตียงมีพื้นที่ทางเดิน และมีสเปซเข้ามุมสำหรับชั้นวางทีวี
อีกด้านของห้องเป็นโซน walk-in closet
ทางด้านซ้ายเป็นระเบียงห้องนอน ทางขวาเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ และมุมด้านในบิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้ง
ประตูระเบียงห้องนอนแบบบานสไลด์ กระจกเขียวตัดแสง
พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิค ราวกันตกเลือกใช้แบบกระจกใส ที่ให้ความหรูหราสวยงามกว่าแบบระแนงเหล็กทั่วไป
เข้าไปดูในห้องน้ำกันอีกนิดครับ
รูปแบบของห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom จะมีความแตกต่างกันพอสมควร
สุขภัณฑ์ของ Mogen เช่นกัน แต่สเปคและดีไซน์จะดูพรีเมี่ยมมากขึ้น อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมวางบนเคาน์เตอร์ช่วยให้มีพื้นที่วางของโดยรอบ
ส่วนเปียกอาบน้ำแบ่งพาร์ติชั่นด้วยแนวกำแพง ฝักบัวแขวนบนราวปรับระดับได้ พร้อมวางระบบเครื่องทำน้ำอุ่น ตรงส่วนเปียกอาบน้ำ มีประตูบานเลื่อนที่เปิดสู่สวนเล็กๆ
พื้นที่ตรงนี้ใช้เป็นจุดตกแต่งสวนเล็กๆ ที่ปิดรอบด้านมิดชิด ยังคงให้ความเป็นส่วนตัวปลอดภัยเวลาใช้งานแม้จะเปิดประตูทิ้งไว้
::: ราคา (ม.ค. 63) :::
แบบบ้าน Pearl (Type A) : ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท
บ้านแฝด ที่ดิน 35.25 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. / 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Jade (Type B) : ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท
บ้านแฝด ที่ดิน 40.13 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 147 ตร.ม. / 3 ห้องนอน 1 ห้องนอนชั้นล่าง 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Sapphire (Type C) : ราคาเริ่มต้น 5.1 ล้านบาท
บ้านเดี่ยว ที่ดิน 51.2 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. / 3 ห้องนอน 1 ห้องนอนชั้นล่าง 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Diamond (Type D) : ราคาเริ่มต้น 5.25 ล้านบาท
บ้านเดี่ยว ที่ดิน 51.1 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 169 ตร.ม. / 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ค่าส่วนกลาง : 30 บาท/ตร.ว./เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบกับทางสำนักงานขายตามรายละเอียดท้ายรีวิว
::: บทสรุปโครงการ :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ทำเลที่ตั้งของโครงการนับว่าเป็นทำเลที่ดี เพราะมีองค์ประกอบที่ครบเครื่องทั้งเรื่องของการเข้าซอยที่ไม่ได้ลึกมากใช้เวลาเข้าออกไม่เกิน 5 นาที มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งในระยะใกล้ไกล จากบ้านเดินไป 7-11 และหาของกินแถวๆ หน้าโครงการได้เลย การเดินทางที่มีความสะดวกเชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญของโซนนี้ได้ทั้งหมด มีทางด่วนกาญจนาภิเษกให้ใช้ในระยะ 10 นาที และยังเดินทางไปใช้รถไฟฟ้าได้จริงในชีวิตประจำวัน
การเดินทางด้วยรถส่วนตัว : ตามที่ได้กล่าวไปว่าการเดินทางของย่านนี้มีความสะดวก เพราะสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง เชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญได้ทั้งถนนแพรกษา, ถนนเทพารักษ์ และถนนศรีนครินทร์ คนทำงานในเมืองมีตัวช่วยในการเดินทางอย่างถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก และทางด่วนบูรพาวิถีที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายทางด่วนชั้นใน ประหยัดเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างมาก
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : แม้ว่าตัวโครงการจะตั้งอยู่ในซอยที่ไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน แต่ก็ยังพอมีช่องทางในการใช้รถสาธารณะได้อย่างไม่ลำบากนัก เริ่มต้นออกจากซอยด้วยบริการของพี่วิน ในราคา 15 บาทเพื่อมาส่งที่ปากซอย พอถึงถนนใหญ่ก็สามารถหาเรียกรถสาธารณะประเภทอื่นได้ง่าย
โดยที่นิยมของคนแถวนี้เป็นรถสองแถว มีสายที่ผ่านหน้าปากซอยแพรกษาไปยังสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีแพรกษา ใช้เวลาเดินทางโดยรวม 20-30 นาทีถึงรถไฟฟ้าถือว่าเป็นตัวเลขที่รับได้สำหรับโครงการในแนวราบ
การออกแบบโครงการ : เลอ นีโอ ไพร์ม แพรกษา-เทพารักษ์ เป็นโครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น พื้นที่โครงการขนาด 25-0-18 ไร่ จำนวนบ้าน 154 ยูนิต มีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 35 ตร.ว. และ 50 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 131-169 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 3-4 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ตัวบ้านมีการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยฟังก์ชั่นพิเศษ อย่างเช่นพื้นที่ซักผ้า-ตากผ้า ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 2 เป็นพื้นที่ที่ลมโกรก หมดปัญหาผ้าเหม็นอับ ข้อดีที่แฝงมาด้วยในส่วนนี้ คือไม่ต้องไปตากผ้าที่ลานจอดรถ ช่วยลดปัญหาการจอดรถที่ถนนหน้าบ้าน ป้องกันความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี แถมบิวท์ห้องครัวไทยมาให้พร้อมใช้งาน ลงเสาเข็มให้พร้อม ประหยัดทั้งเงินทั้งเวลา ไม่ต้องเสี่ยงกับปัญหาบ้านทรุด
นอกจากนั้นยังเสริมด้วยระบบที่มีเฉพาะในโครงการระดับสูงอย่าง Eco Air Flow ระบบที่ช่วยลดความร้อนในบ้าน ลดการสะสมของเชื้อโรค ทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น พร้อมระบบ Smart Home และ Home Automation System ให้ความปลอดภัยสูงสุดผ่านการควบคุมทาง Smartphone สะดวกสบาย
สิ่งอำนวยความสะดวก : โดดเด่นด้วยซุ้มทางเข้าโครงการขนาดใหญ่หรูหรา ที่ช่วยสร้างความภาคภูมิใจเวลามีเพื่อนหรือญาติแวะมาหา พร้อมอาคารคลับเฮ้าส์หน้าตาทันสมัยน่าใช้งาน ภายในมีครบทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ Co-working space เสริมด้วยสวนสาธารณะขนาดเกือบ 1 ไร่ ที่แบ่งเป็น 3 โซนรองรับการใช้งานทุกช่วงวัยตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ
และสุดท้ายคือเรื่องความปลอดภัยที่โครงการใส่ใจเป็นพิเศษ ด้วย 5 ระบบได้แก่ ประตูทางเข้าแบบรั้วเหล็กบานเลื่อน ควบคุมด้วยระบบ Easy Pass, กล้องวงจรที่ไม่ได้มีแค่ซุ้มทางเข้าออก แต่กระจายให้ทั่วโครงการ, สัญญาณกันขโมยเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่มีให้ในบ้านทุกหลัง, รั้วโครงการสูง 3 เมตร ยากที่หัวขโมยจะข้ามผ่าน และเจ้าหน้าที่รปภ. ประจำการดูแลลูกบ้านตลอด 24 ชม.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
Tel : 092-550-5959
Website : https://www.normboon.com/property-item/le-neo-prime/
หากเพื่อนๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
EP.2510 รีวิว ธนาเรสซิเดนซ์ บรมฯ-ปิ่นเกล้า / Thana Residence Borom-Pinklao บ้านเดี่ยวหรู ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. ทุกแบบ บนทำเลติดถนนใหญ่บรมราชชนนี ใกล้ทางคู่ขนานลอยฟ้าและทางด่วน เริ่ม 16.9 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Homenayoo วันนี้เราขอพาทุกท่านไปชมบ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ ที่ดินเริ่มต้น 100
EP.2509 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ แยกเขางู SUPALAI Park Ville Yaek Khao Ngu บ้านเดี่ยวฟังก์ชันใหญ่ กลางเมืองราชบุรี พร้อมระบบ Home Automation เริ่ม 5.19 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้ผมพามาชมโครงการ SUPALAI Park Ville
EP.2508 รีวิว ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ท ราชพฤกษ์ The Article North Ratchaphruek บ้านหรู 3.5 ชั้น ดีไซน์สวยฟังก์ชันใหญ่ พร้อม Double Volume Living ใกล้ Robinson ราชพฤกษ์ เพียง 200 ม.* เริ่ม 15.9-28 ล้านบาท* Written by :
EP.2507 รีวิว โกลเด้น นีโอ ศิริราช-ราชพฤกษ์ Golden Neo Siriraj-Ratchapruek บ้านหรูสไตล์อังกฤษ ฟังก์ชันครบ ทำเลต้นราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า 5 นาที* ถึงทางด่วน เริ่ม 9.59-25 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ ‘Golden Neo
EP.2506 รีวิว สราญสิริ รังสิต 2 Saransiri Rangsit 2 บ้านเดี่ยว 4 นอน สไตล์ Modern Farmhouse บรรยากาศริมน้ำ ใกล้จุดลงทางด่วนเพียง 1 กม.* และรถไฟฟ้าสถานีรังสิต ราคา 7.99-20 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาคุณผู้อ่านไปชมบ้านเดี่ยวโครงการใหม่กับ
EP.2505 รีวิว ศุภาลัย วิลล์ ราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก / Supalai Ville Ratchaphruek-Kanchanapisek บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด สไตล์ Tropical Modern เดินทางสะดวก เพียง 1 กม. จาก ถ.กาญจนาภิเษก เริ่ม 3.69-8.29 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดี เพื่อน ๆ
EP.2504 รีวิว อัลพีน่า พระราม 2 ALPINA Rama 2 คฤหาสน์หรู 6 นอน 6 น้ำ 4 จอด สไตล์ยุโรป บนที่ดิน 100 ตร.ว.* พร้อม Private Pool ติดถนนใหญ่พระราม 2 เริ่ม 19 ล้านบาท* Written by :
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
แสดงความคิดเห็น