EP.1629 รีวิว วีเว่ บางนา VIVE Bangna บ้านเดี่ยว Super Luxury สไตล์ Modern Minimal ใกล้ MEGA บางนา

ติดต่อสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้าชมโครงการ คลิก

---

ชื่อโครงการ	วีเว่ บางนา VIVE Bangna
เจ้าของโครงการ	แลนด์แอนด์เฮ้าส์ / Land & Houses
ลักษณะโครงการ	บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
พื้นที่โครงการ	25-1-77 ไร่
จำนวนบ้าน	49 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 100 และ 120 ตร.ว. ขึ้นไป
พื้นที่ใช้สอย	325 และ 354 ตร.ม.
จำนวนห้อง	4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด	3 คัน
โซน	บางนา
เส้นทางคมนาคม	ถนนบางนา-ตราด ทางพิเศษบูรพาวิถี รถไฟฟ้า BTS บางนา สนามบินสุวรรณภูมิ
รถโดยสารที่ผ่าน	n/a
ที่ตั้ง	88 ตำบล บางแก้ว อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540
กำหนดการ	2563
ปีที่สร้างเสร็จ	สร้างเสร็จพร้อมอยู่บางส่วน ม.ค.2563
ราคา	เริ่มต้น 26.9 ล้านบาท* ม.ค.63
ค่าส่วนกลาง	ค่าส่วนกลาง 56 บาท/ตร.ว./เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ห้างสรรพสินค้า MEGA บางนา : 1.8 กม. Big C ศรีนครินทร์ : 7.7 กม. ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ : 9 กม. Index บางนา : 9 กม. เซ็นทรัลบางนา : 9.1 กม. Foodland ศรีนครินทร์ : 9.2 กม. Jas Urban : 9.4 กม. Makro บางพลี : 11.2 กม. Makro ศรีนครินทร์ : 11.5 กม. HomePro & Tesco Lotus บางพลี (Market Village) : 13 กม. Big C บางพลี : 13.1 กม. ตลาดกุนธร : 13.8 กม. Lotus Plus Mall ศรีนครินทร์ : 14.4 กม. สถานศึกษา รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน : 1.4 กม. รร.ราชวินิตบางแก้ว : 1.7 กม. รร.ลาซาล : 8.1 กม. ม.รามคำแหง 2 : 9.2 กม. รร.นานาชาติบางกอกพัฒนา : 9.3 กม. รร.เซนโยเซฟ บางนา : 10.5 กม. รร.นานาชาติเบิร์คลีย์ : 10.6 กม. ม.หัวเฉียว : 16.7 กม. ศูนย์การแพทย์ รพ.ปิยมินทร์ : 3.2 กม. รพ.บางนา 1 : 6.8 กม. รพ.ศิครินทร์ : 7.3 กม. รพ.ไทยนครินทร์ : 9.7 กม. รพ.บางนา 5 : 12.3 กม. รพ.บางพลี : 12.7 กม. รพ.จุฬารัตน์ : 13.1 กม. รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์เนชั่นแนล : 14.2 กม. รพ.เปาโล : 14.2 กม. ศาสนสถาน วัดบางพลีใหญ่ : 13.6 กม. สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ สนามกอล์ฟเมืองแก้ว : 3.1 กม. สนามกอล์ฟ Summit Windmill : 11.9 กม. สนามบินสุวรรณภูมิ : 25.1 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 60 เมตร ฟิตเนส สวนหย่อม ระบบ Key Card Access แบบ Easy Pass ระบบ CCTV รปภ. 24 ชม. สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor & Motion Detector
จุดเด่นของโครงการ	โครงการใหม่ VIVE บางนา นิยามใหม่ของคำว่า “บ้าน” ที่ไม่ซ้ำใคร บนทำเลที่เป็นหนึ่งแห่งศักยภาพ

---

---

โครงการโดยรอบ

• นันทวัน บางนา กม.7
• เศรษฐสิริ บางนา-วงแหวน
• VIVE บางนา กม.7
• Indy 3 บางนา กม.7
• Indy 2 บางนา กม.7
• มัณฑนา บางนา กม.7
• มัณฑนา 2 บางนา กม.7
• Indy บางนา กม.7
• ลัดดารมย์ บางนา
• Casa City บางนา
• Magnolias บางนา-ตราด กม.7
• ชัยพฤกษ์ บางนา กม.7
• Pleno สุขุมวิท-บางนา
• The City บางนา กม.7
• Centro บางนา กม.7
• สุริยา เพลส บางนา กม.5
• พฤกษา ปูริ ชานบัว บางนา กม.5
• พฤกษา ทาวน์ เน็กซ์ บางนา กม.5
• Natura บางนา กม.5
• VIVE บางนา

---

ที่ตั้งโครงการ

88 ตำบล บางแก้ว อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540

พิกัด Google Maps : https://g.page/VIVE-Bangna?share

โครงการ VIVE บางนา ตั้งอยู่ในซอยเมืองแก้ว หรือซอยราชวินิตบางแก้ว (ซอยบางนา – ตราด 66) เข้ามาจากถนนบางนา-ตราดประมาณ 2.4 กม. สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการเป็นย่านที่อยู่อาศัย มีหมู่บ้านใหญ่ๆหลายโครงการ ทำให้บรรยากาศในการอยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความอุดมสมบูรณ์สูง ถ้าออกมาที่ซอยเมืองแก้วก็จะมีความคึกคัก มีร้านค้า ร้านอาหารเยอะ

ภาพรวมย่านนี้เป็นทำเลฝั่งตะวันออกที่ถือเป็น New Central Business District ส่วนต่อขยายของตัวเมืองกรุงเทพฯอีกแห่งหนึ่ง อยู่ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี, ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และวงแหวงกาญจนาฯ ซึ่งสามารถเดินทางเข้า-ออก ตัวเมืองกรุงเทพฯได้สะดวก

พื้นที่ส่วนใหญ่โดยรอบจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบที่กำลังพัฒนา ซึ่งมีแนวโน้มว่าในอนาคต ความคึกคักในย่านนี้จะมีมากขึ้นตามไปด้วย

การเดินทางด้วยรถยนต์ เส้นการเดินทางหลักๆเลยก็จะเป็นถนนบางนา-ตราด ที่เป็นเส้นที่เดินทางได้สะดวก เพราะเป็นถนนใหญ่ขนาด 8 – 14 ช่องจราจร เป็นเส้นที่เชื่อมไปยังถนนกิ่งแก้วและถนนตำหรุ-บางพลี ซึ่งเป็นถนนเส้นอุตสาหกรรมเหมือนกัน จึงมีโรงงานและอาคารของบริษัทเอกชนอยู่เป็นระยะๆ ดังนั้นบนถนนเส้นนี้จะมีรถบรรทุกและรถใหญ่วิ่งกันค่อนข้างเยอะค่ะ

โดยถนนบางนา-ตราดจะเป็นถนนเส้นที่ขนานกับแกนตะวันออก-ตะวันตก จะวิ่งไปตัดกับถนนสายสำคัญอีกหลายสายอย่างถนนกาญจนาภิเษกช่วงฝั่งใต้ เป็นเส้นที่มีความคล่องตัวสูง สามารถเดินทางไปยังพระราม 2 – บางปะอินได้สะดวก

ถนนศรีนครินทร์ที่วิ่งไปตัดกับเส้นเทพารักษ์และอุดมสุข สามารถขึ้นไปถึงเส้นอ่อนนุช, รามคำแหง และลาดพร้าวได้ ถัดจากศรีนครินทร์ไปก็จะไปเชื่อมกับถนนสุขุมวิทวิ่งขึ้นไปยังแถบปทุมวันจนถึงอโศกได้เลย

ส่วนอีกด้านหนึ่งทางทิศตะวันออก ถนนบางนา-ตราดจะวิ่งไปผ่านฉะเชิงเทราไปถึงชลบุรีเลยค่ะ ตรงนั้นจะไปบรรจบกับถนนสุขุมวิทที่ทางแยกต่างระดับหนองไม้แดงเรียกได้ว่าที่ตั้งโครงการนั้นสามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง แต่จะต้องรู้ช่วงเวลาด้วยว่าช่วงไหนรถติดตรงไหน เพื่อที่จะได้หลบหลีกเส้นทางเอาค่ะ

ข้อดีของทำเลที่ตั้งโครงการคือสามารถเข้าและออกได้หลายเส้นทาง จากตัวโครงการยังมีซอยลัดเข้า MEGA และ IKEA บางนา จากทางซอยราชวินิตบางแก้ว เพียง 2 กม.ถึงเลยตามเส้นสีเลือดหมู ถ้าเลี้ยวซ้ายตามเส้นสีทอง จะสามารถขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีเพื่อเข้าเมืองได้ ในระยะ 3.5 กม.จากหน้าโครงการ แต่ถ้าเลี้ยวขวาไปตามเส้นสีฟ้า ไปกลับรถใต้ถนนกาญจนาภิเษก จะสามารถขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก เพื่อมุ่งหน้าไปพระราม 2 ได้ ระยะทางจากหน้าโครงการประมาณ 6 กม.ค่ะ

จุดขึ้นทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษกจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.6 กม. หรือใช้เวลาขับประมาณ 10 นาทีค่ะ

ทางด่วน นอกจากทางลัดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี และกาญจนาภิเษกแล้ว ก็ยังมีจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครอยู่ห่างออกไปเพียง 10.7 กม. หรือใช้เวลาขับประมาณ 15 – 25 นาที ถึงจุดขึ้นทางด่วนค่ะ

สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

• ถนนกาญจนาภิเษก : 2.0 กม.
• ถนนบางนา-ตราด : 2.4 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ : 6.4 กม.
• ถนนเทพารักษ์ : 8.2 กม.
• ถนนกิ่งแก้ว : 10.9 กม.
• ถนนตำหรุ-บางพลี : 11.9 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้นอาจจะยังไม่สะดวกเท่าการมีรถยนต์ส่วนตัวนะ เพราะในซอยราชวินิตบางแก้วเป็นซอยตัน และภายในซอยส่วนมากจะเป็นหมู่บ้านที่กำลังพัฒนาอยู่ จึงไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน แต่ยังพอมีเห็นรถแท็กซี่ขับผ่านอยู่พอสมควรค่ะ เพราะถนนหน้าโครงการเป็นทางเชื่อมลัดหนีการจราจรไปยังถนนเส้นอื่นๆได้ หรือถ้าจะให้สะดวกก็ใช้ Grab หรือ Line ส่วนมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ก็ขอเบอร์ไว้โทรเรียกเข้ามารับ – ส่ง ก็สะดวกเช่นกันค่ะ

ส่วนในอนาคตจะมีตัวเลือกมากขึ้น โดยบนเส้น บางนา-ตราด จะมี รถไฟฟ้าสายสีเขียว วิ่งผ่าน ช่วง บางนา-สุวรรณภูมิ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีบางแก้ว อยู่ห่างจากหน้าโครงการออกไปประมาณ 2.4 กม. และเส้น ศรีนครินทร์ จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง วิ่งผ่าน ช่วง พัฒนาการ-สำโรง สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีศรีลาซาล ตรงแยกพอดี อยู่ห่างจากหน้าโครงการออกไปประมาณ 3.5กม. ค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ อย่างที่บอกว่าภายในซอยราชวินิตบางแก้วจะเป็นย่านที่พักอาศัยค่ะ มีโครงการบ้านจัดสรรแนวราบหลายโครงการ ในซอยเลยมีทั้งร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ ทั้ง 7-Eleven และ Family Mart แต่จะไม่ได้อยู่ในระยะเดินนะ อาจจะต้องใช้ปั่นจักรยานจะสะดวกกว่า

จุดเด่นอีกอย่างคือ Mega และ Ikea บางนา ใกล้โครงการมาก ห่างออกไปเพียง 1.8 กม. ที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์การค้าแนวราบที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนแล้ว และตอนนี้ยังมีประกาศเดินหน้าโครงการ Mega city ซึ่งเป็นโปรเจคอสังหาฯแบบมิกซ์ยูส ครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย, ออฟฟิศสำนักงาน, แหล่งช้อปปิ้ง, ร้านอาหารชื่อดัง และสถานที่ให้ได้ใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์อันหลากหลายอย่างครบวงจร

ถัดออกไปอีกหน่อย บนเส้นบางนา-ตราด ก็จะมีเซ็นทรัลบางนา และ Index living mall ในอนาคตจะมี Bangkok mall มาเปิดตรงแยกบางนาอีกด้วย มี Hypermarket อย่าง Makro และ Tesco Lotus ออกไปทางถนนศรีนครินทร์ มีทั้ง Lotus, Jas Urban เป็นศูนย์การค้า, Foodland, Big C, Makro ผ่านแยกบางนา-ศรีนครินทร์ขึ้นไปก็มี Paradise Park, Seacon Square และตลาดนัดรถไฟ ขายของสไตล์วินเทจ ส่วนบนเส้นสุขุมวิทก็จะมีทั้งตลาดสด, Big C สำโรง และอิมพีเรียลสำโรง

นอกจากนั้นยังใกล้กับสถานศึกษา อย่าง รร.ราชวินิตบางแก้ว, ม.รามคำแหง 2, ม.อัสสัมชัญ, ม.หัวเฉียว, ร.ร.นวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ, รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุทรปราการ ในส่วนของโรงพยาบาล ใกล้กับ รพ. บางบ่อ, รพ.บางนา 2, รพ.รวมชัยประชารักษ์, รพ.จุฬารัตน์ 5 ถ้าห่างออกไปหน่อยก็จะมี รพ.เซ็นทรัลปาร์ค และรพ.บางพลี ค่ะป่วยไข้สบายใจ เพราะขับรถไปเพียงไม่กี่กิโลก็ถึงค่ะ

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

ห้างสรรพสินค้า

• MEGA บางนา : 1.8 กม.
• Big C ศรีนครินทร์ : 7.7 กม.
• ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ : 9 กม.
• Index บางนา : 9 กม.
• เซ็นทรัลบางนา : 9.1 กม.
• Foodland ศรีนครินทร์ : 9.2 กม.
• Jas Urban : 9.4 กม.
• Makro บางพลี : 11.2 กม.
• Makro ศรีนครินทร์ : 11.5 กม.
• HomePro & Tesco Lotus บางพลี (Market Village) : 13 กม.
• Big C บางพลี : 13.1 กม.
• ตลาดกุนธร : 13.8 กม.
• Lotus Plus Mall ศรีนครินทร์ : 14.4 กม.

สถานศึกษา

• รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน : 1.4 กม.
• รร.ราชวินิตบางแก้ว : 1.7 กม.
• รร.ลาซาล : 8.1 กม.
• ม.รามคำแหง 2 : 9.2 กม.
• รร.นานาชาติบางกอกพัฒนา : 9.3 กม.
• รร.เซนโยเซฟ บางนา : 10.5 กม.
• รร.นานาชาติเบิร์คลีย์ : 10.6 กม.
• ม.หัวเฉียว : 16.7 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.ปิยมินทร์ : 3.2 กม.
• รพ.บางนา 1 : 6.8 กม.
• รพ.ศิครินทร์ : 7.3 กม.
• รพ.ไทยนครินทร์ : 9.7 กม.
• รพ.บางนา 5 : 12.3 กม.
• รพ.บางพลี : 12.7 กม.
• รพ.จุฬารัตน์ : 13.1 กม.
• รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์เนชั่นแนล : 14.2 กม.
• รพ.เปาโล : 14.2 กม.

ศาสนสถาน

• วัดบางพลีใหญ่ : 13.6 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

• สนามกอล์ฟเมืองแก้ว : 3.1 กม.
• สนามกอล์ฟ Summit Windmill : 11.9 กม.
• สนามบินสุวรรณภูมิ : 25.1 กม.

การเดินทาง

การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา – ตราด ฝั่งมุ่งหน้าฉะเชิงเทราขับตรงมาตามทางเรื่อยๆ ผ่านแยกศรีนครินทร์ ขึ้นสะพานกลับรถเข้า Mega Bangna กลับรถมาที่ฝั่งถนนบางนา – ตราดมุ่งหน้าถนนสุขุมวิท ขับตรงต่อไปจนถึงซอยราชวินิตบางแก้ว เลี้ยวเข้าซอย จากนั้นขับต่อไปประมาณ 1.3 กม. ถึงถนนเข้าโครงการ และขับตามทางต่อไปประมาณ 1.1 กม. จะถึงที่ตั้งโครงการทางขวามือค่ะ

สรุปการเดินทาง  ถนนบางนา – ตราด > แยกศรีนครินทร์ > สะพานกลับรถ > ซอยราชวินิตบางแก้ว > ถนนเข้าโครงการ > โครงการ VIVE บางนา

เริ่มการเดินทางกันบนถนนบางนา – ตราด วิ่งเส้นใต้ทางด่วนมุ่งหน้าชลบุรี

ระหว่างทางจะผ่านทั้ง Central, Big C, SB Design Square บางนา

ขับตรงมาเรื่อยๆให้สังเกตป้ายกลับรถเข้า Mega บางนา หรือป้ายไปสนามกอล์ฟเมืองแก้ว เห็นป้ายแล้วชิดซ้าย

เบี่ยงซ้ายออกเพื่อขึ้นสะพานกลับรถ ผ่าน Tesco Lotus ทางซ้ายมือ

ขึ้นสะพานกลับรถ ชิดเลนขวาค่ะ

ลงจากสะพานกลับรถมาแล้วขับตรงต่อไปเรื่อยๆ

พอช่วงใกล้ถึงซอยราชวินิตบางแก้ว เราจะเห็นป้ายโครงการทางซ้ายมือ ให้เราเตรียมชิดเลนซ้าย

ถึงซอยราชวินิตบางแก้วเราเลี้ยวซ้าย

เข้าซอยมาแล้วเราขับตรงต่อไปประมาณ 1.3 กม. จะถึงถนนทางเข้าโครงการ เราเลี้ยวขวา จากนั้นขับต่อไปประมาณ 1.1 กม. จะถึงที่ตั้งโครงการทางขวามือค่ะ

เข้าซอยมาแล้วจะผ่าน สน.บางแก้ว

ถัดมาเป็นตลาดบางแก้ว

และรร.ราชวินิตบางแก้ว

ในซอยจะมีร้านสะดวกซื้อทั้ง 7 – 11 และ Family Mart รวมถึงร้านอาหารระหว่างทางหลายร้าน

เข้าซอยมาประมาณ 1.3 กม. จะถึงถนนทางเข้าโครงการทางขวามือ จุดสังเกตคือป้ายโครงการ หน้าทางเข้าค่ะ

เข้ามาแล้วขับตรงมาจนสุดทาง เราเลี้ยวซ้าย

ขับตามป้ายโครงการต่อไปเรื่อยๆค่ะ

ระหว่างทางจะผ่านโครงการหมู่บ้านหลายโครงการ

จากซอยราชวินิตบางแก้วเข้ามาประมาณ 1.1 กม. ก็จะถึงที่ตั้งโครงการ VIVE บางนา แล้วค่า

รอบๆโครงการ

ถนนทางเข้าโครงการเป็นถนนเส้นขนาด 4 เลน เป็นถนนภาระจำยอมที่ใช้ร่วมกับโครงการอื่น สามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่สายต่างๆโดยรอบได้ โดยรอบของโครงการเป็นบ้านพักอาศัยเป็นโครงการบ้านจัดสรร ทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว ทำให้การอยู่อาศัยในบริเวณนี้จะรู้สึกค่อนข้างเป็นส่วนตัวและยังไม่แออัด

• ทิศเหนือ ติดกับ โครงการ Pruksa Town Natura Nexts
• ทิศใต้ ติดกับ ถนนภาระจำยอม เป็นถนนทางเข้าโครงการที่ใช้ร่วมกับโครงการอื่นๆข้างเคียง ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการบ้านมัณฑนา บางนา กม.7
• ทิศตะวันออก ติดกับ โครงการ Indy บางนา กม.7 และมาัณฑนา 2 บางนา กม.7
• ทิศตะวันตก ติดกับ โครงการ Indy บางนา กม.7

บรรยากาศจริงหน้าโครงการ ติดถนนภาระจำยอม ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นรั้วหมู่บ้านมัณฑนา บางนา กม.7

บรรยากาศทางฝั่งซ้ายและขวาของถนนภาระจำยอมหน้าโครงการ จัดบรรยากาศร่มรื่น มีต้นไม้ลงติดริมถนนไว้ทั้ง 2 ข้างทาง

ตัวโครงการ

โครงการ VIVE บางนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จุดเด่นคือตัวบ้านที่มาในสไตล์ Modern Minimal สีขาวทั้งหลัง พร้อมพื้นที่สวนกลางบ้าน โดยในบ้านสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวได้จากหลายจุดในตัวบ้าน และมีการเล่นแสงเงารับแสงธรรมชาติเข้าในตัวบ้าน นอกจากนั้นยังมีความเป็นส่วนตัวสูง จำนวนยูนิตทั้งโครงการเพียงแค่ 49 ยูนิต ที่ดินทั้งโครงการ 25 – 1 – 77 ไร่

แปลนโครงการจะมีทางเข้าติดถนนภาระจำยอม พื้นที่ด้านหน้าจะเป็นสวนหย่อมเล็กๆ และ Main Gate ขนาดใหญ่ แยกทางเข้า – ออก ถัดจาก Main Gate เข้ามาเป็นถนนหลัก กว้าง 12 ม. ที่แยกไปเป็นถนนซอยกว้าง 9 ม.

ส่วนกลางภายในโครงการจัดส่วนกลางไว้ติดถนนหลักเลยค่ะ โดยจุดแรกหลังผ่าน Main Gate เข้ามาจะเป็นพื้นที่สวนหย่อม ถัดเข้าไปเป็นส่วนกลางหลัก ขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีทั้งสวนหย่อม, สระว่ายน้ำ และคลับเฮ้าส์ ภายในคลับเฮ้าส์จะมี Lounge, ห้องน้ำแยกชาย – หญิง พร้อมห้องอาบน้ำ และ Fitness ชั้น 2 วิว Panorama และส่วนกลางอีกจุดจะเป็นสวนหย่อมตรงสุดถนนหลักค่ะ

ส่วนรั้วรอบโครงการแบ่งเป็นกำแพงทึบ 2.8 ม.และต่อรั้วโปร่ง 2.3 ม. รวมสูงประมาณ 4.1 ม. ถือว่าสูงมากเลยทีเดียวค่ะ

มาดูบรรยากาศโครงการของจริงกันเลยค่ะ เริ่มจากด้านหน้าโครงการเป็น Main Gate สีขาว Minimal ขนาดใหญ่ เล่นเส้นสายตรงชายคา ดึงสายตาให้เหมือนเป็นกล่องxx แยกทางเข้า – ออก ตรงกลางเป็นป้อมรปภ. พื้นถนนปูคอนกรีตสแตมป์ Slope ลงมาที่ถนนภาระจำยอม

ประตูทางเข้า – ออก แต่ละฝั่งเป็นประตูอัตโนมัติ ใช้ระบบ Easy Pass แยกทางคนเดิน

แต่ละฝั่งติดกล้อง CCTV ฝั่งละ 3 ตัว

ผ่าน Main Gate เข้ามาเป็นสวนหย่อมทางขวามือ จัดลงต้นไม้และหญ้ามาให้แน่นๆ

พร้อมจัดทางเดินภายในสวน และม้านั่ง ในอนาคตต้นไม้จะแผ่กิ่งก้านให้ร่มเงามากขึ้น สามารถมาเดิรเล่น พักผ่อนได้

ถัดเข้ามาเป็นถนนหลัก กว้าง 12 เมตร ฝั่งขวามือเป็นยูนิตพักอาศัยซอยแรก และซ้ายมือเป็นส่วนกลางหลัก

โซนแรกของ Main Facility เป็นสวนหย่อม มีทางเดินริมสวนติดถนนยาวไปถึงคลับเฮ้าส์

ภายในสวนก็มีจัดลงหญ้า ไม้พุ่ม และต้นไม้ใหญ่ และทางเดินกลางสวน พร้อมม้านั่งให้พักผ่อนชิลล์ๆ ในบรรยากาศร่มรื่น

เดินตามทางเดินในสวนมาเรื่อยๆก็จะถึงสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นสระแบบ Free Form ยาวถึง 60 เมตร ว่ายออกกำลังกายได้สบายๆเลยค่ะ เป็นสระระบบน้ำเกลือ ตัวสระเป็นแบบน้ำล้น รอบสระโรยกรวดใหญ่

ภายในสระจะแบ่งพื้นที่เป็นโซนพื้นที่นั่งเล่น จัดวางเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ และ Sunbed ไว้ให้มานั่งเล่นพักผ่อนริมสระ หรือนอนอาบแดดได้เต็มที่

ติดกับสระว่ายน้ำก็จะเป็นอาคารคลับเฮ้าส์ 2 ชั้น หน้าตาโมเดิร์น มีส่วนที่ล้ำเข้ามาในสระทำให้เหมือนตัวอาคารเหมือนลอยอยู่ในสระว่ายน้ำ บวกกับการที่มีพื้นที่สีเขียวแทรกในสระด้วยทำให้ได้บรรยากาศเหมือนรีสอร์ท

สำหรับทางเข้าคลับเฮ้าส์จะอยู่ด้านหลังนะ ตรงนี้จะมีที่จอดรถรองรับไว้ให้ประมาณ 3 คัน เผื่อใครขี้เกียจเดินก็ขับรถมาใช้งานคลับเฮ้าส์ได้

ที่ชั้น 1 จะแบ่งเป็นพื้นที่ Outdoor คือ ตัว Terrace ติดกับสระว่ายน้ำซึ่งตรงนี้จะเป็นสระเด็กค่ะ จัดชุดเก้าอี้นั่งพักไว้ให้เผื่อผู้ปกครองมานั่งดูแลเด็กๆได้

ถัดจากโซนสระเด็กไปด้านในจะเป็นสระปกติ และจุดที่เป็นโซนน้ำตื้น จัด Sunbed ไว้ให้นั่งพักผ่อน เท้าจุ่มน้ำได้สบายๆ

อีกฝั่งจะเป็นโซนในร่มค่ะ ซึ่งจะแบ่งเป็นพื้นที่ Semi – Oudoor ด้านนอก และห้องกระจกสีชาที่จัดเป็น Lobby Lounge ไว้ให้นั่งพักผ่อน

โซน Semi – Outdoor ด้านนอกมีโซฟายาวมาให้ 1 ชุด

เข้ามาด้านในจะเป็นห้องน้ำ แยกชาย – หญิง

ภายในห้องน้ำหญิง จะตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว ดูสะอาดตา เข้ากันกับการออกแบบภายนอก

อ่างล้างมือจัดเป็นอ่างแบบ Slope ติดตั้งก๊อก 2 จุด หน้าตาโมเดิร์น

อีกฝั่งแบ่งเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้แบบ Automatic ส่วนห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวพร้อมถาดวางสบู่มาให้พร้อมใช้งาน

ภายในห้องน้ำชาย หน้าตาเหมือนกับที่ห้องน้ำหญิงค่ะ

มีห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง

แยกโซนโถปัสสาวะมาให้ 2 โถ

บรรยากาศภายใน Lobby Lounge จะได้วิวสระว่ายน้ำ บรรยากาศโปร่งโล่งสบายๆ บวกกับฝ้าเพดานที่ใช้วัสดุที่ค่อนข้างเงา ทำให้ห้องแอบดูกว้างขึ้นนิดหน่อย

เฟอร์นิเจอร์ที่จัดมาให้ก็มีทั้งโซฟายาวไว้นั่งพัก และโต๊ะสำหรับคนที่อยากหิ้ว Notebook มาเปลี่ยนบรรยากาศนั่งทำงาน

จุดล้างตัวก่อนลงสระจะอยู่อีกฝั่ง ติดกับฝั่งห้องน้ำค่ะ

ทางลงสระแบบปกติจะอยู่ติดกับจุดล้างตัว

วิวจากจุดนั่งพักในสระมองย้อนไปทางอาคารคลับเฮ้าส์ก็สวยอีกมุม

เราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อ

พื้นที่บนชั้น 2 ทั้งหมดจะเป็นห้อง Fitness ที่ผนังรอบด้านจัดมาเป็นกระจกเต็มบาน สูงจรดฝ้าเลยค่ะ สามารถมองเห็นวิวสวยๆในโครงการได้ทุกฝั่ง

วิวจากห้องฟิตเนสจะเห็นบรรยากาศสวยๆประมาณนี้

อุปกรณ์ที่จัดมาให้ในฟิตเนสจะมีโต๊ะบาร์สำหรับนั่งพัก หรือนั่งคอยบัดดี้ที่มาออกกำลังกายด้วยกัน จัดมา 4 ที่นั่ง และมีบอลโยคะ 2 ลูก

อุปกรณ์ออกกำลังกายมี Cable crossover machine 1 ชุด

ลูวิ่ง 3 เครื่อง, Elliptical 1 เครื่อง และจักรยานไฟฟ้า 1 เครื่อง

โซนเวทเทรนนิ่งมีบาร์เบลคละน้ำหนัก 20 ชิ้น พร้อมเบาะปรับระดับได้

และส่วนกลางอีกจุดเป็นสวนหย่อมที่อยู่สุดทางถนนหลักค่ะ เป็นสวนหย่อมเล็กๆ จัดทางเดินสั้นๆและม้านั่งไว้ภายในสวน

ส่วนบรรยากาศในซอยของโซนพักอาศัยก็จะลงต้นไม้ฝั่งติดถนนซอยไว้ให้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยถนนซอยกว้าง 9 เมตร รถขับสวนได้สบายๆนะคะ

แบบบ้าน

โครงการนี้เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern Minimal สีขาวล้วน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาได้ยากในโครงการจัดสรรทั่วๆไป โดยการออกแบบตัวบ้านโครงการนี้จะเป็น Design ใหม่ ที่เน้นความแตกต่างทั้ง Layout ในบ้านและนอกบ้าน โดยมีแบบบ้าน 2 แบบ คือ

• VERVE พื้นที่ใช้สอย 325 ตร.ม. ที่ดินมาตรฐาน 100 ตร.วา 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ

• VIBE พื้นที่ใช้สอย 354 ตร.ม. ที่ดินมาตรฐาน 120 ตร.วา 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ

ทั้ง 2 แบบจะใช้แนวคิดการออกแบบ

• Nature Touch Concept Design : ที่จัดทุกฟังก์ชั่นให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่และมองเห็นพื้นที่สีเขียวของ Court กลางบ้านได้
• Green Panorama Opening Plan & Green Double Volume : เน้นความเชื่อมต่อของพื้นที่สีเขียวนอกบ้านในสวน Court กลางบ้าน กับส่วนโถงที่เป็นศูนย์รวมของสมาชิกในบ้านคือส่วน Living, Dining, Pantry ภายในบ้าน บวกกับความสูงฝ้าเพดาน Double Volume 6.5 เมตร ทำให้ส่วน Living ดูกว้าง โปร่งโล่ง และอยู่สบาย
• Double Connecting Courtyard : ในตัวบ้านมี Court 2 จุด คือ Active Court หน้าบ้าน และ Green Private Court กลางบ้าน ที่ทั้ง 2 ส่วนนี้จะใช้งานแบบแยกกันก็ได้ห รือจะเชื่อมต่อกันให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่เพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆของคนในครอบครัว และเพื่อนๆที่มาเยี่ยมเยียนก็ได้เช่นกัน
• Customized Facade : ปรับ Facade ตามทิศทางแดดเองได้ เพราะฉะนั้นหน้าตาแต่ละหลังจะไม่เหมือนกันเลยค่ะ
• (สำหรับแบบบ้าน VIBE) Double View Master Bedroom : ห้องนอนใหญ่ได้วิวสวนทั้ง 2 ฝั่ง (Active Court หน้าบ้าน และ Green Private Court กลางบ้าน )

บ้านตัวอย่าง

บ้านตัวอย่างที่เราจะพาชมวันนี้เป็นแบบบ้านหลังใหญ่นะคะ คือ

• VIBE พื้นที่ใช้สอย 354 ตร.ม. ที่ดินมาตรฐาน 120 ตร.วา 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ

การออกแบบหน้าตาภายนอกเป็นสไตล์ Modern Minimal ใช้สีขาวล้วน ตั้งแต่รั้วหน้าบ้าน ไปจนถึงตัวบ้านด้านใน และจุดที่ทำให้บ้านทุกหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้คือ Facde ที่เราเห็นบนชั้น 2 เป็นจุดที่สามารถปรับตามทิศทางแดดเพื่อรับแสงแดดหรือบังแดด เกิดเป็นแสงเงาที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละหลัง

ประตูหน้าบ้านได้เป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ สามารถเปิด-ปิดผ่าน Application หรือจะกดเปิดจากสวิทช์ในบ้านก็ได้ ตัวรั้วประตูได้รางเลื่อนฉลุ กึ่งทึบกึ่งโปร่ง ทำให้ภายในบ้านได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่ดูทึบเกินไป

มีประตูทางเข้าคนเดินแยกมาให้ด้านข้าง พร้อมติดตั้งช่องเก็บขยะ, กล่องจดหมาย มาให้เรียบร้อย

เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกเป็น Active Courtyard ที่ทำหน้าที่เป็น Buffer ระหว่างตัวบ้านกับถนนหน้าบ้าน ช่วยให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และยังสามารถใช้เป็นลานกิจกรรมอเนกประสงค์ได้หลากหลาย เช่น เป็นพื้นที่จอดรถเพิ่มเติม, เป้นสนามบาส/บอล เล็กๆ หรือไว้สอนเด็กๆขี่จักรยานก็ปลอดภัยค่ะ ส่วนโครงสร้างพื้นตรงนี้ก็ถือว่าแข็งแรงพอสำหรับลานกิจกรรม โดยใช้เป็นแบบลงเสาเข็มสั้นปูพรม ระยะ 1 เมตร

ติดกับ Active Courtyard เป็นพื้นที่โรงจอดรถมีหลังคากันแดด/ฝน สามารถจอดได้ 3 คัน และการวางแปลนแบบนี้ก็ยังช่วยในเรื่องของความเป็นส่วนตัวอีกอย่างคือ เวลามองจากด้านนอกก็จะไม่เห็นรถของเราอีกด้วยค่ะ

จากที่จอดรถเข้ามาทางฝั่งข้างบ้านจะเป็นโซน Maid หรือห้องพักของแม่บ้าน มีห้องพักผ่อนและห้องน้ำมาให้เรียบร้อย โดยจะแยกจากตัวบ้านค่อนข้างชัดเจน มีทางเข้าจากข้างบ้านเท่านั้น ส่วนในบ้านก็จะเชื่อมที่ห้องครัวไทยเท่านั้นค่ะ

พื้นที่ตรงนี้ก็ถือเป็นลานซักล้างในร่มอีกจุด สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าได้

กลับมาที่ตัวบ้าน จาก Active Courtyard จะเชื่อมไปยังตัวบ้าน โดยตรงกลางจะมี Connecting Court ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง Court หน้าบ้านและกลางบ้าน ทำให้การใช้งานพื้นที่สวนในบ้านยืดหยุ่นขึ้น เวลามีปาร์ตี้ก็สามารถขยายพื้นที่รวมทั้ง 2 Court ให้กว้างขึ้นได้

พอเราเดินผ่าน Connecting Court เข้ามาด้านในก็จะเจอกับ Passive Green Court ที่เป็นสวนส่วนตัวในบ้าน มีขนาดพื้นที่กว้าง ใช้งานได้จริง สมาชิกในบ้านสามารถออกมานั่งเล่นพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวได้ แถมยังเป็นจุดที่เป็นหัวใจของบ้าน คือจากในตัวบ้านจะสามารถมองเห็นพื้นที่สวนนี้ได้ทุกห้อง ยกเว้นห้องนอน 3 ที่จะมองเห็นฝั่ง Active Courtyard เท่านั้น

ภายใน Court นี้ทางโครงการจะจัดสวนมาให้ รวมถึง Sunken Seat ไล่ระดับแบบนี้เลย ยกเว้นน้ำพุตกแต่งด้านหลังค่ะ

มองจากสวนย้อนไปฝั่งตัวบ้านจะเห็นว่ามีการออกแบบให้สวนนี้ถูกใช้ประโยชน์ได้อย่างสุงสุด ทั้งเป็นพื้นที่พักผ่อนนอกบ้าน และเชื่อมต่อความเป็นพื้นที่สีเขียวผ่านเข้าไปด้านในตัวบ้านด้วยช่องแสงขนาดใหญ่หลายบาน ที่เชื่อมทั้งส่วน Living, Double Volume ชั้น 2, ห้องนอนชั้นบน 2 ห้องและเรือนอเนกประสงค์ ที่ชั้นล่าง (Identity Room)

เราเข้ามาดูตัวเรือนอเนกประสงค์ หรือ Identity Room กันต่อค่ะ

ประตูเข้าบ้านทั้งฝั่งบ้านหลักและเรือนอเนกประสงค์แยกจะใช้เป็นบานของ Tostem ที่จะเห็นได้ในหลายๆโครงการของ Land & House นะคะ มีคุณสมบัติคือน้ำหนักเบาแต่ทนทาน, ช่วยกันเสียง และ มือจับใช้งานง่าย ที่เพิ่มเติมมาคือด้านล่างมีตัวล็อคสำหรับ Constuction คือเป็นกุญแจสำหรับทีมก่อสร้าง ใช้ไขเข้าออกได้ แต่เมื่อประตูมีการใช้งานจริงแล้วก็จะถูกล็อค ใช้งานไม่ได้ทันทีค่ะ

สำหรับเรือนอเนกประสงค์หรือที่ทางโครงการเรียกว่า Identity Room นี้จะเป็นห้องที่สามารถบอก Lifestyle ของเจ้าของบ้านได้เลย คือเราจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องสำหรับกิจกรรมต่างๆที่เราสนใจได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน, ห้องอ่านหนังสือ, ห้องซ้อมดนตรี

ซึ่งวิวห้องนี้จะสามารถมองเห็นสวนในบ้านได้อย่างเต็มที่ มีทั้งกระจกเข้ามุมและหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้ จะจัดฟังก์ชั่นอะไรก็น่าใช้งานค่ะ

ส่วนระบบ Air Plus ในโครงการนี้ก็ยังติดตั้งมาให้เช่นเคยค่ะ สามารถเปิดระบายอากาศทิ้งไว้ให้บ้านไม่ร้อนได้

สำหรับในบ้าตัวอย่างจัดมาให้ดูเป็นห้องจิบชา สบายๆ ได้วิวสวนด้านนอก

ในห้องนี้จะมีหน้าจอควบคุม Home Automation ติดตั้งมาให้ ติดกับประตูทางเข้าค่ะ

ด้านในจะเป็นห้องน้ำในตัว หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะหรือตู้เก็บของ ถ้าใครจะปรับเป็นห้องนอนรับแขกก็สามารถวาโต๊ะเครื่องแป้งไว้ตรงนี้ได้ค่ะ

ภายในห้องน้ำจะกั้นแยกส่วนแห้งส่วนเปียก ออกแบบมาในโทนเทาๆ สุขภัณฑ์ที่ใช้หน้าตาโมเดิร์นเข้ากับตัวบ้าน

อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard และ Cotto

โซนห้องอาบน้ำมีฉากกั้นกระจกนิรภัยติดตั้งมาให้ เป็นบานสไลด์

ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัว American Standard พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย นอกจากนั้นก็จะมีก๊อกน้ำ และทำม้านั่งมาให้ ส่วนช่องแสงได้เป็นบานใหญ่เลยค่ะ ตัวบานเป็นกระจกฝ้า รับแสงเข้ามาให้ห้องสว่างพอสมควร และบานกระทุ้งก็สามารถเปิดช่วยระบายอากาศในห้องได้ดีทีเดียว

ขนาดห้องาอบน้ำกว้างพอให้ยืนอาบได้สบายๆค่ะ

กลับออกมาที่ตัวบ้านหลักกันต่อ

หน้าประตูทางเข้าจะมีตู้เก็บของบานสูงติดตั้งมาให้ ไว้เก็บอุปกรณ์ล้างรถ หรือทำสวนได้

เข้ามาในบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer หรือโถงรับก่อนเข้าบ้าน โดยพื้นที่ตรงนี้จะเป็นจุดที่เราใส่และถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านค่ะ

ซึ่งทางโครงการก็คิดมาให้แล้ว จึง Built – in ตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่มาให้ตามนี้เลย

ส่วนสวิทช์ข้างประตูทางเข้าหน้าบ้านก็จะมีทั้งเปิดปิดไฟในบ้าน, เปิดปิดรั้วหน้าบ้าน พร้อมหน้าจอควบคุม Home Automation ภายในตัวบ้านค่ะ

จุดที่ทำให้ Foyer ตรงนี้ดูกว้างและสว่างขึ้นคือช่องแสงที่เป็นบานกระจกแบบเข้ามุม ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่ตรงตู้รองเท้าไม่อับด้วยค่ะ

ถัดจาก Foyer เราเข้าไปดูภายในตัวบ้านกันต่อเลย

เข้ามาปุ๊ปจะเจอพื้นที่โถงกว้าง สว่าง และดูโปร่งโล่งสุดๆ โดยพื้นที่ตรงนี้จะเรียกว่าเป็น Common Area เลยก็ได้นะ เพราะรวมพื้นที่ห้องนั่งเล่น, ห้องทานอาหาร และ Pantry ไว้ด้วยกัน

Highlight ของห้องนี้คือความสูงฝ้าเพดาน Double Volume ที่สูงถึง 6.5 เมตร พร้อมช่องแสงที่เปิดรับขึ้นไปถึงชั้น 2 เชื่อมพื้นที่ Court ด้านนอกให้เข้ามาในตัวบ้านได้แบบลงตัวมากๆ ทำให้บ้านสว่างและโปร่งโล่งขึ้นจริงๆ

จะเห็นว่ามีการออกแบบให้มีช่องแสงมากที่สุดนะคะ ตั้งแต่ Foyer เข้ามาในโซน Living ยาวไปถึง Pantry ที่เป็นประตูให้เปิดออกไปยังสวนกลางบ้านได้ด้วย

การจัดฟังก์ชั่นในตัวบ้านจริงๆแล้วก็แล้วแต่ Lifestyle แต่ละคนเลยนะ เพราะของจริงจะเป็นโถงกว้างๆ แต่ที่ทางโครงการจัดมาให้ดู ก็จะวางห้องนั่งเล่นไว้ติดกับ Foyer เป็นห้องรับแขก กั้นโซนด้วยตัวเฟอร์นิเจอร์เอง

ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นห้องน้ำรับรอง

มีโถงแยกเล็กๆ ช่วยให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น และไม่ลืมที่จะเพิ่มช่องแสงเข้าไปอีกจุด ให้ตัวบ้านโปร่งขึ้น

ห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเป็นแบบ Powder Room คือมีเฉพาะส่วนแห้งไว้รับแขกค่ะ

ติดตั้งอ่างล้างมือแบบลอยตัวมาให้ ยี่ห้อ American Standard

สุขภัณฑ์แบบ Automatic ยี่ห้อ American Standard เช่นกัน

มีช่องแสงเพื่อระบายอากาศให้ห้องน้ำไม่อับ เป็นหน้าต่างบานยาวพร้อมบานกระทุ้งและมุ้งลวด

ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นห้องเก็บของใต้บันได มีไฟติดมาให้ 1 ดวง

ถัดมาจากโซนห้องนั่งเล่น จัดเป็นพื้นที่ทานอาหาร วางโต๊ะ 6 – 8 ที่นั่งได้ กำลังดี มองออกไปทางฝั่ง Court กลางบ้านก็เห็นวิวสวนเต็มๆ

ติดกับพื้นที่ทานอาหาร ทางโครงการจัด Pantry มาให้เป็นมาตรฐานเลยค่ะ ทั้งชุดเคาน์เตอร์ครัวและ Island โดยของจริงจะคล้ายๆแบบในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ อาจจะมีวัสดุบางตัวที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานจริง

ตัว Island จะมีพื้นที่เก็บของมาให้เยอะมาก เหมาะกับคนชอบทำครัวเลยค่ะ ฝั่งด้านหน้ามีลิ้นชักเก็บของตามนี้

อีกฝั่ง Built-in Microwave + Oven จาก Kuppersbusch และแบ่งเป็นลิ้นชักเก็บช้อน/ส้อม พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง

บน Top มีเจาะช่องเก็บเต้าเสียบมาให้ พร้อมช่อง USB สะดวกมากๆ

เคาน์เตอร์ด้านหลังก็ได้มาชุดใหญ่แบบนี้เลยค่ะ Top เป็นหิน Quartz

ติดตั้งซิ้งค์ล้างจานใช้ของ Teka เคาน์เตอร์กว้างมากก ทำอาหารได้สนุกเลยค่ะ ส่วนด้านล่างก็แบ่งเป็นลิ้นชัก, ตู้เก็บของและมีถังขยะซ่อนมาให้เรียบร้อย

ติดกับ Pantry เป็นห้องครัวไทย ที่ออกแบบมาให้ดูเชื่อมต่อกับส่วน Pantry และโถงด้านนอกด้วยกระจกแบบเข้ามุม ซึ่งนอกจากจะดูสวยแล้ว เวลาทำครัวอยู่ด้านในก้ยังสามารถมองเห็นวิวสวนด้านนอกได้อีกด้วยค่ะ

ประตูห้องครัวใช้เป็นบานกระจก รับกับผนังกระจกเข้ามุม ช่วยให้ดูโปร่งขึ้นไปอีก

ภายในห้องครัวจะมีชุดเคาน์เตอร์ครัว Built – in มาให้ตามนี้เลย ครบชุด หน้าตาเข้ากันกับส่วน Pantry ด้านนอก

ซิ้งค์ล้างจานและเตาไฟฟ้า พร้อมเครื่องดูดควัน ใช้ของ Teka

ตู้ด้านบนแบ่งเป็นช่องเก็บของมาให้ตามนี้

เคาน์เตอร์ด้านล่างก็มีที่เก็บของเยอะค่ะ

เวลาทำครัวก็สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้หมดเลย

ประตูอีกฝั่งจากในห้องครัวจะเชื่อมออกไปยังลานซักล้างนอกบ้าน ตรงนี้ก็ใช้เป็นประตูที่สามารถเป็นหน้าต่างได้ในตัวเพื่อช่วยในการระบายอากาศให้ห้องครัวไม่อับ และระบายกลิ่นอาหารได้ดีขึ้นด้วยค่ะ

ตัวบานหน้าต่างมีลักษณะการใช้งานแบบเลื่อนขึ้นลงแบบนี้ พร้อมมุ้งลวดที่ติดตั้งมาให้เพื่อกันแมลงในกรณีที่เราเปิดระบายอากาศนานๆ

เราขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ ตัวบันไดเป็นโครงสร้าง คสล. โดย 3 ขั้นแรกจะทำให้เข้ากับพื้นชั้น 1 โดยจะปูด้วยแกรนิตโต้ลายหินอ่อน ส่วนบันไดที่เหลือจะใช้ไม้สักสีอ่อน เข้ากับสีแกรนิตโต้ชั้นล่าง ดูสว่างๆ พร้อมราวกันตกและไฟซ่อน

พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนแรกเป็น Multi – Purpose Space ที่สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อน, ห้องพระ หรือมุมอ่านหนังสือเงียบๆได้ โดยพื้นที่มุมเล็กๆตรงนี้ทางโครงการก็ยังออกแบบมาให้มีพื้นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ Pocket Garden ภายนอก โดยการทำระเบียงเล็กๆ ให้สามารถปลูกต้นไม้กระถาง เพิ่มสีเขียวให้กับพื้นที่ในบ้าน

โดยพื้นที่ด้านนอกจะมีก๊อกน้ำติดตั้งมาให้ รองรับการปลูกต้นไม้

ส่วนบันไดด้านนอกตรงนี้คือจุดที่จะขึ้นไป Service บนหลังคาค่ะ

ด้านบน Pocket Garden จะเปิดโล่ง รับแสงธรรมชาติ

ติดกับมุม Multi – Purpose Space จะเป็นจุดติดตั้งหน้าจอควบคุม Home Automation และระบบ Airplus ของตัวบ้าน

กลับออกมาที่จุด Highlight อีกจุดบนชั้น 2 คือ Bridge Corridor ที่เชื่อมต่อกับ Double Volume ด้านล่าง ทำให้มีความโปร่งโล่ง ทุกจุดสามารถมองเห็น Court กลางบ้านได้

มองลงไปเห็นพื้นที่โถงด้านล่างทั้งหมด รวมไปถึงช่องแสงขนาดใหญ่ที่รับแสงเข้ามาถึงชั้น 2 ด้วยค่ะ

ถัดมาเราจะไปดูในส่วนของห้องนอนกันต่อเลยนะคะ โดยฝั่งที่ติดกับโถงบันไดจะมีห้องนอน 2 ห้อง คือห้องนอน 3 และห้อง Master Bedroom

เราไล่ดูกันตั้งแต่ห้องนอนรอง 3 ค่ะ

ห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำและมีพื้นที่ทำ Walk – in Closet ในตัวทุกห้องนะคะ โดยห้องนี้จะมีจุดเด่นที่เป็นห้องฝั่งหน้าบ้าน ให้ช่องแสงบานใหญ่มากๆ และสามารถ Costomized Facade เพื่อปรับทิศทางแสงแดดที่จะเข้ามาในห้องได้

พื้นที่ในห้องถือว่ากว้างอยู่นะคะ วางเตียงคิงส์ไซส์ได้สบายๆเลย

พื้นที่อีกฝั่งสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานตัวเล็กๆได้

ติดกันด้านในเป็นพื้นที่สำหรับทำเป็น Walk – in Closet หน้าห้องน้ำ ขนาดตู้เสื้อผ้าไซส์กลางๆกำลังเหมาะค่ะ

ในห้องน้ำค่อนข้างกว้าง แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกมาให้ชัดเจน สุขถัณฑ์ใช้ของ American Standard และ Cotto จุดเด่นคือมีช่องแสงบานใหญ่ ทำให้ห้องน้ำสว่าง และระบายความชื้นได้ดี

พื้นที่โซนแห้งมีระยะการใช้งานพอดีๆค่ะ

ฝั่งห้องอาบน้ำกั้นฉากกั้นอาบน้ำนิรภัยมาให้แบบบานสไลด์ ในห้องน้ำติดตั้งฝักบัวพร้อมม้านั่ง และมีช่องแสงที่ช่องระบายอากาศอีกบาน

ขนาดห้องอาบน้ำพอให้ยืนอาบได้สบายๆ

ถัดมาเป็นห้อง Master Bedroom

ห้อง Master Bedroom ของบ้านแบบนี้จะมีจุดเด่นคือเป็นหอ้ง Double Green View คือสามารถมองเห็นวิวสวนได้ทั้ง 2 ฝั่ง คือ Active Courtyard หน้าบ้านและ Green Passive Court กลางบ้าน

ขนาดห้องก็กว้างขวางค่ะ วางเตียงคิงส์ไซส์ได้สบายๆ

ฝั่งปลายเตียงมีพื้นที่เหลือเฟือ จะวาง Benchbed อีกตัวก็ได้

ฝั่งนี้เป็นช่องแสงฝั่งหน้าบ้าน ได้วิว Active Courtyard พร้อม Facade ที่สามารถปรับได้ด้วยระบบ Home Automation

ส่วนช่องแสงอีกฝั่งจะเป็นระเบียง ที่เชื่อมต่อออกไป Green Passive Court กลางบ้าน ซึ่งพื้นที่ระเบียงก็ไม่ได้เล็กๆนะคะ สามารถวางชุดโต๊ะทานกาแฟเล็กๆได้ชุดนึงสบายๆ

วิวจากห้องนอน สบายตามาก

ถ้ามองไปอีกฝั่งก็เห็น Common Area

จากโซนห้องนอนเข้าไปด้านใน จะเป็นห้องน้ำและ Walk – in Closet

Walk – in Closet กว้างเลยค่ะ ใครเสื้อผ้าเยอะๆไม่ต้องห่วง

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ ได้ประตูกระจกสีชา

ห้องน้ำกว้างมาก แยกพื้นที่โซนแห้ง โซนเปียก ได้ตามนี้เลย

อ่างล้างมือได้เป็นอ่างยาว มีเคาน์เตอร์และตู้เก็บของใต้อ่าง

Highlight อยู่ตรงพื้นที่อ่างอาบน้ำ ที่จะเชื่อมต่อกับ Pocket Garden และฝ้าเพดานโปร่งแสงรับ Skylight ส่วนตัวอ่างได้ทรง Sculpture Design ที่สั่งทำพิเศษ ยี่ห้อ Kasch

ส่วนห้องส้วมและห้องอาบน้ำจะกั้นแยกไว้อีกฝั่งค่ะ

ในห้องส้วมก็จะได้วิวตรง Pocket Garden เหมือนกัน

ในห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ Automatic ส่วนในห้องอาบน้ำก็ติดตั้งฝักบัวทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower มาให้พร้อมม้านั่งอาบน้ำ ทั้งหมด ยี่ห้อ American Standard

กลับออกมาที่พื้นที่โถงด้านนอก อีกฝั่งของชั้น 2 จะเป็นห้องนอนรอง 2

ขนาดพื้นที่ของห้องนี้ก็จะกว้างกว่าห้องนอน 3 นิดหน่อยค่ะ แต่ห้องนี้จะมีจุดเด่นที่ได้วิวสวนกลางบ้าน

พื้นที่การใช้งานสามารถวางเตียงคิงส์ไซส์ได้สบายๆ

ปลายเตียงกว้าง วางโต๊ะทำงานได้เลยค่ะ ส่วนอีกฝั่งของห้องจะเป็นช่องแสงที่ทำเป็น Pocket Garden ส่วนตัวเล็กๆ ที่เชื่อมอยู่กับห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ

เราเข้าไปดู Walk – in Closet และห้องน้ำในตัวกันต่อ

พื้นที่ Walk – in Closet กว้างพอสมควรค่ะ ใช้งานได้สบายๆ

ในห้องน้ำก็มีพื้นที่ใช้งานกว้างพอสมควร

อ่างล้างมือมีพื้นที่วางของและเก็บของค่อนข้างเยอะ ส่วนโถสุขภัณฑ์ใช้แบบ Dual Flush

จุดเด่นคือช่องแสงที่เชื่อมกับ Pocket Garden ที่เราเห็นข้างเตียง ที่เราสามารถเปิดระบายอากาศได้เลยอีกด้วย เพราะด้านนอกมองเข้ามาไม่เห็นค่ะ

ห้องอาบน้ำอีกฝั่งก็กั้นแยกมาให้เป็นสัดส่วนเช่นกัน

ภายในติดตั้งฝักบัวมาให้ สเปคเหมือนห้องนอนรอง 3 จุดเด่นคือ Green View ที่สามารถเชื่อมกับ Pocket Garden ได้

ขนาดห้องอาบน้ำพอให้ยืนอาบได้สบายๆค่ะ

---

ราคา(ม.ค.2563)

• แบบบ้าน Verb พื้นที่ใช้สอย 325 ตร.ม. ที่ดิน 102.4 ตร.วา ราคา 26.9 ล้านบาท
  • จอง 300,000 บาท
  • ทำสัญญา 5,080,000 บาท
• แบบบ้าน Vibe พื้นที่ใช้สอย 354 ตร.ม. ที่ดิน 123.8 ตร.วา ราคา 32 ล้านบาท 
  • จอง 300,000 บาท
  • ทำสัญญา 6,100,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 56 บาท/ตร.วา/เดือน (ล่วงหน้า 20 เดือน)

ติดต่อสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้าชมโครงการ คลิก

---

 สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการตั้งอยู่ในซอยราชวินิต เข้ามาจากถนนบางนา-ตราดประมาณ 2.4 กม.เป็นทำเลที่มีโครงการใหญ่ๆรอบๆเยอะ ถือเป็นโซนที่อยู่อาศัยที่มีบรรยากาศโครงการค่อนข้างสงบ เป็นส่วนตัว

แต่ในขณะเดียวกันก็หาของกินของใช้ได้สะดวก ออกมาที่ซอยราชวินิตก็มีทั้งร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อ และที่สำคัญคือมีห้างใหญ่ใกล้ๆ คือ MEGA และ IKEA บางนา ในวงกว้างถือเป็นทำเลที่รับการขยายของตัวเมืองกรุงเทพฯ มีความเจริญ เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกอยู่ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี, ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และวงแหวงกาญจนาฯซึ่งสามารถเดินทางเข้า-ออก ตัวเมืองกรุงเทพฯได้สะดวก มีห้างใหญ่ๆ โรงเรียน และโรงพยาบาลครบครัน

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ถือว่าสะดวกสบายเพราะสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทางจากถนนใหญ่ถึง 5 เส้นทาง นับว่ามีทางหนีทีไล่พอสมควร ทั้งเส้นบางนา – ตราด, เส้นศรีนครินทร์ และเส้นเทพารักษ์ จะเข้าออกเมืองก็สะดวกค่ะ สามารถเดินทางได้หลายเส้นทางทีเดียว นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับทางพิเศษบูรพาวิถี, ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดได้

การเดินทางโดยรถสาธารณะ : สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้นจะยังไม่สะดวกเท่าการมีรถยนต์ส่วนตัว แนะนำให้ขอเบอร์พี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างไว้ ให้เข้ามารับ-ส่งถึงหน้าโครงการได้ หรือหันไปพึ่ง Grab หรือ Line Man  ก็สะดวกดีค่ะ

ถ้ารอให้สะดวกขึ้นจริงๆก็มี รถไฟฟ้าสายสีเขียว วิ่งผ่าน ช่วง บางนา-สุวรรณภูมิ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีบางแก้ว อยู่ห่างจากหน้าโครงการออกไปประมาณ 2.4 กม. และเส้น ศรีนครินทร์ จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง วิ่งผ่าน ช่วง พัฒนาการ-สำโรง สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีศรีลาซาล ตรงแยกพอดี อยู่ห่างจากหน้าโครงการออกไปประมาณ 3.5 กม.  ซึ่งตรงนี้จะเป็นตัวช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นอีกเยอะค่ะ

การออกแบบโครงการ และวัสดุ : โครงการนี้เป็นโครงการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ ทำเป็นสไตล์ Modern Minimal เข้ามาจับคนกลุ่มที่มองหาความแตกต่าง ซึ่งไม่ได้ออกแบบมาดูดีแค่หน้าตาภายนอกเท่านั้น ฟังก์ชั่นในตัวบ้านก็ทำมาได้ดี คือบ้านระดับราคานี้แน่นอนว่าควรจะต้องได้ความเป็นส่วนตัวของจำนวนยูนิตอยู่แล้ว แต่ที่มากไปกว่านั้นคือการออกแบบในตัวบ้านให้มีการหลบมุมการมองเห็นจากภายนอก ทั้งโรงจอดรถและภายในตัวบ้าน ทำให้คนที่อยู่มั่นใจได้ว่ามีความเป็นส่วนตัวสุดๆ

ที่ชอบอีกอย่างคือการที่จัดให้พื้นที่ในบ้านแทบทั้งหมด สามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวได้ ไม่ว่าจะเป็นจาก Court กลางบ้านหรือสวนหน้าบ้าน แม้แต่ในมุมเล็กๆที่ต้องปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวอย่างในห้องนำ้ก็ยังทำ Pocket Garden แทรกไว้ให้ด้วย

ส่วนวัสดุก็เป็นอีกจุดเด่นของเจ้านี้อยู่แล้ว คือให้ของดี มีดีเทลที่ทำให้บ้านอยู่จริงแล้วสบาย ซื้อเฟอร์นิเจอร์ก็เข้าอยู่ได้เลยไม่ต้องมากังวลในเรื่องเล็กๆน้อยที่ต้องทำเพิ่ม อย่างมุ้งลวด ฉากกั้นอาบน้ำ ห้องครัว คือมีมาให้หมดแล้ว มีครัวไทย + Pantry + Island รวมไปถึงระบบ Airplus ระบายอากาศในตัวบ้าน และ Home Automation

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย : ส่วนกลางสำหรับโครงการนี้เทียบกับจำนวนยูนิตแล้วใช้งานได้เหลือๆค่ะ ทำบรรยากากาศโครงการออกมาได้ร่มรื่นดีมาก ถึงแม้บ้านทุกหลังจะมีสวนส่วนตัวอยู่แล้วแต่ก็ยังมีพื้นที่สีเขียวในโครงการมาให้พอสมควร

โซนอาคารคลับเฮ้าส์และสระว่ายน้ำออกแบบมาสวย น่าใช้งาน มีจุดนั่งพักผ่อนได้สบายๆหลายจุดเลย และที่ชอบคือได้สระว่ายน้ำใหญ่ดีค่ะ ยาว 60 เมตร แต่ถ้าว่ายออกกำลังกายอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่เพราะตัวสระเป็นรูป Freeform ส่วนฟิตเนสจัดเครื่องออกกำลังกายมามาตรฐาน แต่จุดเด่นคือวิวจากห้องฟิตเนสที่เห็นส่วนกลางในโครงการแทบทั้งหมด ทำให้ได้บรรยากาศในการออกกำลังกายที่ดีค่ะ

---

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1198

Website : www.lh.co.th

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ