EP.1678 รีวิว ทาวน์โฮม อิเธอร์นิตี้ ทาวน์ พริมโรส วัชรพล Eternity Town Primrose Vacharaphol
Written by Aun Chaya
สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกท่านครับ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรีวิวกันที่โครงการ Eternity Town Primrose วัชรพล ของทาง สถาพร เอสเตท โครงการตั้งอยู่ในทำเลวัชรพล ทำเลยอดนิยมของการอยู่อาศัย ติดถนนใหญ่สุขาภิบาล 5 ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งตลาด, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล และโรงเรียนชั้นนำหลายแห่ง รวมถึงในอนาคตมีรถไฟฟ้าให้ใช้งานทั้งทั้งสายสีชมพู และสายสีเขียว
Eternity Town Primrose วัชรพล เป็นโครงการพรีเมี่ยม ทาวน์โฮม 3 ชั้น ในคอนเซปต์ที่ให้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า ความสุขจากการได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวที่มากขึ้น ในกลิ่นอายของบ้านสไตล์บริติช บนพื้นที่โครงการขนาด 7-2-54.6 ไร่ จำนวนบ้านเพียง 86 ยูนิต มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ บนที่ดินเริ่มต้นขนาด 18.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 163-244 ตร.ม. 3-4 ห้องนอน 4-5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมพื้นที่อเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันใกล้พร้อมเข้าอยู่บางส่วน
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ Primrose Central คลับเฮ้าส์หรู ประกอบด้วย Primrose Pool Club สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Fitness Studio, และ Inspire Hub เน้นเรื่องความปลอดภัยสูงสุดด้วยประตูรั้วแบบเหล็กเลื่อนอัตโนมัติ เข้าออกผ่านระบบ Access Card เจ้าหน้าที่รปภ. CCTV 24 ชม. และสัญญาณกันขโมยในบ้านพักอาศัยทุกหลัง ในราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท*
*โปรดตรวจสอบราคากับทางสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัปเดต
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/3bxKPYi
ชื่อโครงการ | อิเธอร์นิตี้ ทาวน์ พริมโรส วัชรพล / Eternity Town Primrose Vacharaphol |
เจ้าของโครงการ | สถาพร เอสเตท / Sathaporn Estate |
ลักษณะโครงการ | ทาวน์โฮม 3 ชั้น สไตล์ British หน้ากว้าง 5 เมตร และ 5.6 เมตร |
พื้นที่โครงการ | 7-2-54.6 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 86 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 18.1-24.6 ตร.ว. |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 163-244 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 3-4 ห้องนอน, 4-5 ห้องนอน |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | วัชรพล, สุขาภิบาล 5, สายไหม |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | ถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220 |
ปีที่สร้างเสร็จ | ปัจจุบันใกล้พร้อมเข้าอยู่บางส่วน |
ราคา | เริ่มต้น 4.39 ล้านบาท* (เม.ย. 2563) |
ค่าส่วนกลาง | 70 บาท/ตร.ว./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | ETERNITY TOWN PRIMROSE วัชรพล จาก Sathaporn Estate ทาวน์โฮม 3 ชั้น สไตล์ British ที่สุดของความภาคภูมิสะท้อนความสำเร็จในทุกการอยู่อาศัย ทำเลเชื่อมต่อทุกการเดินทาง เพียง 10 นาที จากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์พร้อมทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำอีกมากมา |
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220
Google Maps : 13.917472, 100.683128
Eternity Town Primrose วัชรพล เป็นทำเลที่ตั้งอยู่ในโซนวัชรพล-รามอินทรา ทำเลดังกล่าวมีองค์ประกอบส่วนมากเป็นบ้านพักอาศัย ทั้งรูปแบบดั้งเดิมและหมู่บ้านจัดสรรที่มีให้เลือกตั้งแต่ระดับล้านเศษๆ ไปจนถึงหลักสิบล้าน สาเหตุที่ทำเลดังกล่าวเหมาะแก่การอยู่อาศัย เนื่องจากเป็นทำเลที่มีการเดินทางเข้าออกเมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วนรามอินทราและถนนวงแหวนฯ เชื่อมต่อถนนเส้นหลักเส้นอื่นๆได้หลายเส้นทาง แถมในอนาคตมีรถไฟฟ้าให้ใช้งานได้ถึง 2 สายด้วยกัน รวมถึงมีสถานที่อำนวยความสะดวกรองรับการใช้งานอยู่หลายแห่ง
การเดินทางด้วยรถส่วนตัว ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ถนนเส้นสำคัญของย่านนี้ได้หลากหลาย ทั้งถนนเพิ่มสิน, ถนนสายไหม, ถนนวัชรพล และถนนเทพรักษ์ โดยถนนทุกเส้นที่กล่าวมาทำหน้าที่เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักในการเข้าออกเมืองได้ทั้งถนนรามอินทรา, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
สำหรับเส้นทางเข้าเมืองนั้น หากว่าไม่ได้ใช้ทางด่วน เส้นแรกที่นึกถึงคือ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือบางท่านก็เรียกว่าเส้นเลียบด่วน-รามอินทรา เส้นทางดังกล่าวคู่ขนานไปกับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ทางพิเศษฉลองรัช) ที่อยู่ด้านบน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองไปทางฝั่งของสุขุมวิทโซนเอกมัย ระหว่างทางมีจุดตัดกับพระราม 9, เพชรบุรี และลาดพร้าว เลือกใช้งานได้ตามจุดหมาย หรือจะเลือกใช้เส้นทางอื่นก็มีทั้งถนนพหลโยธิน และวิภาวดีรังสิต ที่มุ่งหน้าไปโซน ดินแดง-ลาดพร้าว-จตุจักร ส่วนขาออกนั้นทำเลดังกล่าวมีอาณาเขตติดต่อกับรังสิต ใช้เดินทางไปยังจังหวัดปทุมธานี, อยุธยา และนครนายกได้อย่างง่ายดาย
แต่หากมีต้นทุนในการเดินทางที่สูงหน่อย ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เป็นตัวเลือกที่ช่วยให้การเข้าเมืองนั้นเป็นไปอย่างสะดวกมากที่สุด ซึ่งจุดมุ่งหมายก็จะเหมือนกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพียงแต่จะคู่ขนานอยู่ด้านบน สามารถทำความเร็วได้มากกว่า ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้อย่างมาก
นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก อีกหนึ่งเส้นทางที่เหมาะใช้งานในระยะไกล การเดินทางข้ามโซนต่างๆ ถ้าพูดถึงขาออกจุดสิ้นสุดจะเป็นที่อ.บางปะอิน จ.อยุธยา แต่หากเป็นขาเข้าจากโซนรามอินทรา จะเดินทางไล่จาก บางกะปิ, บางนา, สมุทรปราการ ไปจนถึงพระราม 3, สุขสวัสดิ์ และพระราม 2 ได้เลย ทุกส่วนที่กล่าวมาทำให้ภาพรวมเรื่องการเดินทางด้วยรถส่วนตัวดูมีความหลากหลาย และสะดวกในการใช้งานทีเดียว
ทางด่วนฉลองรัช ด่านสุขาภิบาล 5 หรือชื่อที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่าทางด่วนรามอินทรา ทางด่วนที่เป็นกุญแจสำคัญช่วยให้การเข้าเมืองจากทำเลวัชรพลนี้เป็นเรื่องง่าย จุดขึ้นและลงทางด่วนนั้นจะอยู่บริเวณเดียวกัน โดยห่างจากโครงการเพียง 5.3 กม. ใช้เวลาเดินทางโดยปกติ 8 นาทีเท่านั้น
ถนนกาญจนาภิเษก หรือถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก เป็นถนนที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมในการเข้าใช้งานบางช่วง โดยปกติแล้วมักนิยมใช้สำหรับเดินทางข้ามโซนในระยะไกล ตามที่ได้กล่าวไปแล้วในหัวข้อการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ในส่วนของการไปใช้งานจะมีอยู่ 2 เส้นทาง เส้นทางแรกใช้ทางด่วนฉลองรัชเป็นตัวเชื่อม หรืออีกเส้นทางตามที่แสดงในภาพกราฟิกคือฝั่งของถนนสายไหม ซึ่งเป็นทางลัดเลี่ยงไปยังจุดเข้าถนนกาญจนาภิเษกบริเวณด่านลำลูกกา ระยะทางอยู่ที่ 5.4 กม. ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีเพื่อเข้าถึง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการนั้นอยู่ติดถนนใหญ่ ตัวเลือกนี้จึงค่อนข้างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถเรียกหารถแท๊กซี่ได้จากหน้าโครงการ รวมถึงมีป้ายรถประจำอยู่ด้านหน้าโครงการด้วยเช่นกัน เลือกใช้ได้ทั้งรถประจำทางและรถสองแถวท้องถิ่น ซึ่งมีหลายสายที่ไปเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักด้านนอกได้ทั้งถนนรามอินทรา และถนนพหลโยธิน
แต่จุดที่เป็นความหวังของผู้คนที่อาศัยอยู่ในย่านวัชรพลแห่งนี้คือ รถไฟฟ้า ซึ่งน่าจะเป็นช่องทางหลักของการสัญจรด้วยรถสาธารณะในอนาคต ซึ่งมีให้เราได้ใช้งานกันถึง 2 สาย ได้แก่
ความอุดมสมบูรณ์ โครงการอยู่ตรงข้ามกับทางเข้าตลาดวงศกร เรียกว่าอยู่ในระยะที่สามารถเดินเท้าไปใช้งานได้สบาย ตลาดวงศกรถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงในย่านสายไหมวัชรพล ครบครันทั้งการหาของทานแบบสำเร็จรูปและวัตถุดิบสำหรับการประกอบอาหาร ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ทำให้ในแง่ของความอุดมสมบูรณ์ของโครงการถือว่าดีเยี่ยม
แต่หากมองเป็นภาพรวม ถ้าดูตามแผนที่กราฟิกจะเห็นว่าเป็นทำเลที่มีสถานที่อานวยความสะดวกรายล้อมรอบด้านทั้งฝั่งถนนรามอินทรา, ถนนพหลโยธิน และถนนสายไหม มีให้เลือกอย่างมากมาย แต่ห้างที่คนส่วนใหญ่นิยมไปใช้งานกันในวันหยุดสุดสัปดาห์นั้นแนะนำเป็น ห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์ และ The Promanade ที่อยู่บนเส้นรามอินทรา เนื่องจากเป็นห้างใหญ๋และมีความครบครัน นอกเหนือจากตัวปักหมุดบนแผนที่แล้ว ที่ผมอยากจะนำเสนออีกจุดคือ Central Eastville ห้างระดับแม่เหล็กบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ที่ไม่ได้อยู่ไกลจนเกินไป และสามารถขึ้นทางด่วนรามอินไปใช้งานได้อย่างสะดวก
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อื่นๆ
::: การเดินทาง :::
เส้นทางที่เราใช้เดินไปยังโครงการ Eternity Town Primrose วัชรพล เราใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งหน้าไปยังถนนสุขาภิบาลโดยใช้ทางออกหมายเลข 22 ลงจากทางด่วนเข้าสู่ถนนสุขาภิบาล 5 ฝั่งที่มุ่งหน้าไปถนนสายไหม จากนั้นตัวโครงการจะอยู่ทางขวา จุดสังเกตคืออยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม โดยมีภาพประกอบการเดินทางดังนี้
สรุปการเดินทาง : ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ > ทางออก 22 ถนนสุขาภิบาล 5 > ถนนสุขาภิบาล 5 > Eternity Town Primrose วัชรพล
เริ่มต้นภาพประกอบการเดินทางจากบนทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือชื่ออย่างทางการคือทางพิเศษฉลองรัช มุ่งหน้าขาออกไปยังถนนสุขาภิบาล 5
บนทางด่วนให้เราวิ่งตามป้ายบอกทางไปยังสุขาภิบาล 5
จุดที่เราใช้ลงทางด่วนคือ ทางออก 22 ถนนสุขาภิบาล
พอลงจากทางด่วนมาเราจะเข้าสู่ถนนสุขาภิบาล 5 ให้เลี้ยวซ้ายไปทางฝั่งของถนนสายไหม
มุ่งหน้าตรงไปตามถนนสุขาภิบาล 5
บนถนนสุขาภิบาล 5 ให้เราขับไปตามทางจนถึงโรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม เป็นสัญญาณว่าเราใกล้ถึงโครงการแล้ว เตรียมเปิดไฟเลี้ยวขวาได้เลย
ถึงแล้วครับโครงการ Eternity Town Primrose วัชรพล ตั้งอยู่ทางฝั่งขวามือครับ
::: บริเวณโครงการ :::
ภาพมุมสูง ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ถนนสุขาภิบาล 5 แปลงที่ดินของโครงการตั้งอยู่ระหว่างศูนย์ของ Chevrolet และที่ดินเปล่า บรรยากาศโดยรอบส่วนมากเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ สลับกับร้านค้าตึกแถวพาณิชย์ตลอดทั้งเส้น ส่วนรายละเอียดในเรื่องของ Master Plan สามารถติดตามได้ในหัวข้อถัดไปครับ
หลังจากที่มาถึงโครงการ Eternity Town Primrose วัชรพล กันแล้ว ส่วนต่อไปผมจะพาเดินดูบรรยากาศบริเวณโครงการกัน ตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลางด้านใน
ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนรามอินทราและถนนสายไหม
ลักษณะของถนนนั้นเป็นถนนที่มีความกว้าง 4 เลนไม่มีเกาะกลางถนน มีรถวิ่งสัญจรผ่านไปมาอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถใช้เชื่อมต่อสู่ถนนเส้นสำคัญๆ ของย่านนี้ได้หลายเส้นทาง
พื้นที่ส่วนที่ติดกับถนนใหญ่ ตรงนี้จะเป็นแปลงขายในอนาคต ซึ่งเป็นยูนิตที่เหมาะสำหรับการทำธุรกิจ หรือทำเป็นโฮมออฟฟิศ
ส่วนต่อไปเป็นซุ้มทางเข้าโครงการ สไตล์โมเดิร์นโทนสีขาว-เทา ให้ความรู้สึกที่เรียบหรู
ทางเดินรถแบ่งแยกทางเข้าและทางออก มีห้องพักเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ระหว่างกลาง
ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานสมัยใหม่ เข้าออกผ่านด้วย Access Card มีกล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่รปภ. ประจำการ 24 ชม.
ประตูรั้วโครงการยกระดับความปลอดภัยด้วยรูปแบบรั้วเหล็กเลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งมีความแน่นหนาอุ่นใจกว่าแบบไม้กระดกที่นิยมใช้กันทั่วไป
มุมมองย้อนกลับไปยังซุ้มประตูฝั่งขาออกโครงการ
ผ่านซุ้มประตูเข้ามา ผมจะพาไปดูพื้นที่ส่วนกลางอย่างอาคารคลับเฮ้าส์กันต่อครับ
ยูนิตแรกนั้นเป็นสำนักงานขาย เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 9.00 – 18.00 น.
ทางขึ้นอาคารคลับเฮ้าส์อยู่ที่ด้านในสุดของถนนย่อยซอยแรก
อาคารคลับเฮ้าส์มีชื่อเรียกว่า Primrose Central ที่เหมือนเป็นศูนย์กลางของลูกบ้าน เปิดใช้งานทุกวัน ในเวลา 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น
ภายในอาคารประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องอเนกประสงค์ และสำนักงานของนิติบุคคล
ส่วนแรกผมขอพาไปดูสระว่ายน้ำครับ
สระว่ายน้ำ Primrose Pool Club เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ขนาด 15 x 5 เมตร ระบบน้ำเกลือที่ถนอมผิวและสายตาได้ดีมากกว่าแบบคลอรีน
บรรยากาศโดยรวมดูโปร่งสบายตา และขนาดความยาวของสระ สามารถใช้ว่ายน้ำเพื่อการออกกำลังกายได้จริง
ด้านข้างสระวางโซฟาทรงกลมสำหรับพักผ่อนริมสระ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะร้อน เพราะโครงการมีร่มขนาดใหญ่คอยให้ร่มเงา
จุดล้างตัวก่อนและหลังใช้งานสระว่ายน้ำ อยู่ที่กำแพงใกล้กับจุดขึ้นลงสระว่ายน้ำ ทำให้สะดวกในการใช้งานจริง
กลับเข้ามาโซนด้านในกันต่อ ห้องทางซ้ายคือห้องฟิตเนส และห้องทางขวาเป็นห้องนิติบุคคล
เข้าไปดู Fitness Studio กันครับ
ห้องฟิตเนสเป็นห้องที่ออกแบบให้มีกระจกล้อมรอบ ซึ่งหากใช้งานในช่วงบ่ายแก่ๆ หรือตอนเย็นสามารถเปิดผ้าม่านเพื่อเทควิวได้อย่างปลอดโปร่ง
อุปกรณ์ที่โครงการให้มามีทั้งการคาร์ดิโอ ด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า และจักรยานปั่นอย่างละ 1 เครื่อง
สามารถสร้างกล้ามเนื้อได้พอประมาณด้วยดัมเบล พร้อมเตียงยกที่สามารถปรับระนาบได้
กลับมาที่ทางเดินไปชมด้านในกันต่อครับ
สำหรับห้องน้ำ มีการแยกใช้งานระหว่างชาย-หญิง
ภายในห้องน้ำชาย
ภายในห้องน้ำหญิง
ส่วนสุดท้ายคือ Inspire Hub
ห้องนี้มีลักษณะเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่จะใช้สำหรับประชุมงาน หรือนั่งทำงานส่วนตัวก็ได้ คล้ายกับพื้นที่ Co-working Space ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง
::: แบบบ้าน :::
ภายในโครงการ Primrose Town Eternity วัชรพล มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบด้วยกันได้แก่
*แบบบ้าน Primula ยังไม่เปิดขาย
การออกแบบ Layout ของแบบบ้าน Rose มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายจุดด้วยกัน เริ่มจากชั้นล่างบริเวณโถงหลักมีพื้นที่ที่สามารถกันห้องเพิ่มเติมเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ รวมถึงอาจจะทำเป็นห้องนอนที่ 4 ก็ได้ ส่วนลานหลังบ้านมีการลงเสาเข็มลึก 6 เมตร ช่วยให้สามารถต่อเติมห้องครัวได้อย่างมั่นคงแข็งแรง
ถัดมาที่ชั้นสอง ออกแบบให้ Master Bedroom อยู่ที่ชั้น 2 ซึ่งมีความสมเหตุสมผลมากกว่า เนื่องจากว่าควรให้คุณพ่อคุณแม่นั้นสามารถเข้าถึงห้องพักผ่อนได้ง่าย ในขณะที่ลูกๆ ที่มีความแข็งแรงตามวัย ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 3 แทน และยังเพิ่ม Family Area ให้ครอบครัวมีพื้นที่ได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน
อีกจุดที่น่าสนใจคือห้องนอนทุกห้องทางโครงการออกแบบให้มีห้องน้ำในตัว เพิ่มความปลอดภัยด้วยการติดตั้งสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic Shock Sensor พร้อมแผง Solar Cell ที่ด้านบนหลังคาช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียว
แปลนบ้าน Rose
ชั้น 1 ลานจอดรถหน้าบ้านสำหรับ 2 คัน ภายในบ้านชั้นล่างเป็นพื้นที่แบบ Open Plan ใช้งานเป็น Living Area และ Dining Area ซึ่งในการใช้งานจริงสามารถเพิ่มห้องอเนกประสงค์ได้ด้วยการกั้นห้องเพิ่มเติมอีกหนึ่งฟังก์ชั่น ซึ่งขนาดเพียงพอจะทำเป็นห้องนอนได้เลย ด้านหลังมีลานหลังบ้านลงเสาเข็มรอสำหรับการต่อเติมครัวไทย
ชั้น 2 Master Bedroom อยู่ที่ชั้น 2 เพื่อให้พ่อแม่สามารถเข้าถึงห้องพักผ่อนได้ง่าย ด้านหลังมี Family Area ใช้เป็นห้องนั่งเล่นร่วมกันของคนในครอบครัว
ชั้น 3 มีห้องนอน 2 ห้อง ซึ่งในแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัวให้ โดยส่วนของห้องนอนฝั่งหน้าบ้านถือว่าเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับห้องนอนหลักเลยทีเดียว
การออกแบบ Layout ของบ้าน Prima ฟังก์ชั่นโดยรวมใกล้เคียงกับแบบบ้าน Rose แต่จะเพิ่มขนาดพื้นที่ใช้สอยในแต่ละส่วนให้มากขึ้น จากการหน้ากว้างและความลึกของบ้านมากขึ้น จุดแตกต่างที่เห็นชัดคือ ชั้นล่างมีการกั้นห้องให้เป็นห้องนอนชั้นล่าง ส่วนชั้นสองตรงพื้นที่ Family Area จะมีห้องน้ำเพิ่มเข้ามาอีก 1 ห้อง จึงสามารถปรับเปลี่ยนให้ Family Area สามารถทำเป็นห้องนอนได้ ส่วนชั้นที่ 3 จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้องเพิ่มเติมเข้ามา
แปลนบ้าน Prima
ชั้น 1 ลานจอดรถหน้าบ้านสำหรับ 2 คัน ภายในบ้านแบ่งพื้นที่หลักเป็น Living Area และ Dining Area เพิ่มเติมห้องนอนชั้นล่างเข้ามาอีก 1 ห้องพร้อมห้องน้ำแบบแยกโซนแห้ง-เปียก ด้านหลังมีลานหลังบ้านรอต่อเติมเป็นครัวไทย
ชั้น 2 Master Bedroom อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านมีห้องน้ำในตัว และทางด้านหลังเป็นพื้นที่ Family Area ที่สามารถกั้นห้องทำเป็นมุมนั่งเล่น หรือทำห้องนอนเพิ่มอีกห้องก็ได้ เพราะมีห้องน้ำในตัวเช่นกัน
ชั้น 3 ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ซึ่งผมไม่อยากใช้คำว่าห้องนอนรองเนื่องจากขนาดห้องนอนกว้างขวางรองรับเตียง 5 ฟุตขึ้นไปได้ และมีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง เพิ่มพื้นที่อเนกประสงค์ตรงโถงกลางระหว่างห้องนอนดังกล่าว
Master Plan โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สุขาภิบาล 5 จะเห็นว่ามีการแบ่งประเภทยูนิตออกเป็น 3 แบบด้วยกัน ส่วนแรกที่อยู่ติดถนนใหญ่คือแบบบ้าน Primula ที่ทางโครงการยังไม่เปิดขาย ดูจากแปลนก็พอจะเดาว่ายูนิตดังกล่าวเหมาะแก่การทำธุรกิจ หรือโฮมออฟฟิศเพราะอยู่ติดถนนใหญ่ที่เข้าถึงได้ง่าย
ส่วนด้านในก็แบ่งประเภทยูนิตได้ง่าย สีแดงเป็นแบบบ้าน Rose ส่วนสีเหลืองเป็นแบบบ้าน Prima จุดเด่นสำคัญคือยูนิตทั้งหมดในโครงการมีเพียงแค่ 86 ยูนิต และเป็นโครงการในระดับตลาดด้านบน จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงและสังคมมีคุณภาพ
อีกข้อหนึ่งที่น่าสนใจคือถนนจากหน้าโครงการถึงท้ายโครงการมีความยาวเพียง 165 เมตร ทำให้แม้จะอาศัยอยู่ในยูนิตด้านในสุด ก็สามารถเข้าถึงถนนใหญ่หรือจะไปใช้คลับเฮ้าส์ได้ง่ายเช่นกัน
Solar Rooftop System ทางโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โครงการด้วยการติดตั้ง Solar System ทั้งในบ้านพักอาศัยและในอาคารคลับเฮ้าส์ ซี่งในส่วนของข้อมูลสำคัญที่ทางโครงการได้เก็บสถิติจากการใช้งานจริง ในบ้านพักอาศัยนั้นสามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 8,740 บาท/ปี เฉลี่ยเดือนละ 728 บาท ซึ่งถือว่าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก
::: บ้านตัวอย่าง :::
วันนี้เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่าง 2 แบบด้วยกัน ได้แก่
ผมจะพาไปดูแบบบ้าน Rose กันก่อนครับ ซึ่งเป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินเริ่ม 18.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ตัวบ้านออกแบบในสไตล์โมเดิร์นบริติช มีแนวเส้นต่างๆ เพิ่มมิติลูกเล่นบนตัวบ้านให้ดูสวยงามโดดเด่น สร้างความแตกต่าง
ลานจอดรถหน้าบ้านด้วยความกว้างขนาด 5 เมตร ทำให้สามารถจอดรถขนาด Compact Car ได้ 2 คัน
แผง Solar Cell ของ Panasonic ติดตั้งในบ้านพักอาศัยทุกหลังในโครงการจำนวน 4 แผง ผลิตไฟฟ้าได้ 1,160 วัตต์/หลัง
ทางเข้าบ้านยกเฉลียงสูงขึ้น 1 Step ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ประตูบ้านวัสดุอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง
ผ่านประตูบ้านเข้ามาด้านใน ปกติแล้วจะเจอกับ Living Area แต่เนื่องจากว่าทางโครงการออกแบบให้ชั้น 2 มีฟังก์ชันของ Living Area อีกจุด ด้านล่างนี้ทางโครงการจึงตกแต่งให้ดูเป็นพื้นที่รับแขกและ Dining Area แทน
เปรียบเทียบกับแบบบ้านเปล่าเพื่อให้เห็นวัสดุที่ทางโครงการให้มาอย่างชัดเจน พื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. เพดานชั้นล่างสูง 2.6 เมตร ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบา ซึ่งมีคุณสมบัติที่มั่นคงแข็งแรงกว่าบ้านที่ใช้ระบบ Precast รวมถึงยังสามารถกันความร้อนได้ดีกว่าช่วยให้ประหยัดไฟได้ดีขึ้น รองรับการต่อเติมได้ดีกว่า
อย่างที่บอกไปว่าชั้นล่างทางโครงการตกแต่งตัวอย่างให้ดูเป็น Dining Area ด้วยการวางโต๊ะทานข้าวสำหรับรองรับ 4 ที่นั่ง แต่ในส่วนของการใช้งานจริง เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย พื้นที่ตรงนี้จะทำเป็น Living Area ตามปกติก็สามารถทำได้ วางโซฟาโต๊ะกลางและชั้นวางทีวีตามฟังก์ชันของห้องนั่งเล่น จากนั้นย้าย Dining Area นี้ไปอยู่ที่โซนด้านหลังแทน
ในช่วงระหว่างวันสามารถรับแสงธรรมชาติผ่านทางประตูด้านหน้า ทำให้รู้สึกโปร่งสบายและไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในช่วงกลางวัล
ขยับไปดูที่โซนด้านหลังของตัวบ้านกันบ้างครับ
ชั้นล่างมีห้องน้ำ 1 ห้อง
ภายในห้องน้ำแม้ว่าจะไม่ได้มีการแบ่งแยกโซนแห้ง-เปียก แต่ก็มีการจัดสัดส่วนที่ลงตัวในการใช้งาน มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำได้
อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen อ่างล้างมือติดตั้งบานกระจกเงาพร้อมใช้งาน
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวสายอ่อน และที่วางสบู่ ของแบรนด์ Mogen เช่นกัน
ส่วนต่อไปเป็นห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ซึ่งต้องบอกก่อนว่าจริงๆ แล้วส่วนนี้จะไม่ได้มีการแบ่ง Partition มาให้ แต่จะเปิดโล่งตามแบบในภาพถัดไป
อันนี้ทางโครงการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง สำหรับคนที่อยากได้ห้องทำงานส่วนตัวเพิ่มอีก 1 ฟังก์ชัน
หรือจะเปลี่ยนเป็นห้องนอนชั้นล่าง ขนาดพื้นที่ถือว่าพอเพียงสำหรับรองรับเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้
บ้านมาตรฐานที่ทางโครงการส่งมอบ พื้นที่ตรงนี้ทางโครงการจะให้เป็นเปิดโล่งแบบนี้ ซึ่งหากใช้พื้นที่ส่วนด้านหน้าทำเป็น Living Area ไปแล้ว ส่วนด้านหลังตรงนี้ก็จะเหมาะกับทำเป็น Dining Area และ Pantry
ช่องทางเดินสู่ลานหลังบ้าน สามารถบิวท์เป็นแนวเคาน์เตอร์ Pantry เตรียมอาหาร
ไปดูหลังบ้านกันต่อครับ
หลังบ้านทางโครงการต่อเติมเป็นห้องครัวให้ดูตัวอย่าง ซึ่งพื้นที่หลังบ้านนี้ทางโครงการได้มีการลงเสาเข็มเอาไว้แล้ว จึงสามารถต่อเติมครัวได้อย่างมั่นคงแข็งแรง
ไอเดียหลังคาใช้แบบมีช่องแสงช่วยให้แสงสว่างระหว่างวัน
ห้องครัวไม่ได้ใช้เต็มพื้นที่ซักล้าง แต่จะแบ่งสเปซส่วนนึงเอาไว้สำหรับวางปั๊มน้ำแทงค์น้ำ
แทงค์น้ำที่ทางโครงการให้เป็นแบบมีปั๊มน้ำในตัว ช่วยประหยัดพื้นที่และป้องกัน UV ลดโอกาศเกิดตะไคร่น้ำภายในถัง
ส่วนต่อไปผมจะพาขึ้นชมชั้นบนกันต่อครับ สำหรับโครงสร้างบันไดเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก แข็งแรงทนทาน เดินเงียบไม่มีเสียงรบกวน
ช่วงชั้นพักบันไดมีช่องแสงช่วยให้โถงบันไดสว่าง และสามารถเปิดช่องเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้
ขึ้นบันไดมาถึงชั้น 2 เจอกับห้องโถงชั้นบน ซึ่งทางโครงการจะทำตัวอย่างเป็น Living Area หรือ Family Area พื้นชั้นบนปูด้วยกระเบื้องยางไวนิลลายไม้
พื้นที่ส่วนนี้จะเปิดโล่งไม่มีการแบ่งพาร์ติชั่นแบบในบ้านตัวอย่าง ประตูทางขวามีห้องระเบียงเล็กๆ
ตัวอย่างที่โครงการทำให้ดูเป็นห้องนั่งเล่นสำหรับใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว
หากเห็นว่าขนาดพื้นที่ของฟังก์ชั่นส่วนนี้ที่ทางโครงการทำให้ดู เหมือนว่าสเปซจะน้อยเกินไป อันที่จริงเราสามารถเพิ่มขนาดส่วนนี้ให้กว้างออกไปได้ตามประสงค์
ที่บอกว่าสามารถเพิ่มสเปซภายในห้องนั่งเล่นออกมาได้ เนื่องจากตรงโถงส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้ยืดหยุ่นได้ ลดพื้นที่ตรงนี้ลงหน่อย เพื่อเพิ่ม Family Area ให้กว้างขึ้น
เข้าไปดู Master Bedroom กันครับ
ผ่านประตูห้องเข้ามาด้านใน ส่วนแรกเป็น Walk-in Closet ต่อเนื่องเข้าไปด้านในสู่พื้นที่พักผ่อน
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง เห็นทางเข้าห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งโซนแห้ง-เปียกอย่างเป็นสัดส่วนตามแนวลึกเข้าไปด้านใน
อ่างล้างมือของ Mogen พร้อมบานกระจกเงา
โถสุขภัณฑ์ของ Mogen พร้อมอุปกรณ์ควบคู่ครบครันพร้อมใช้งาน
ส่วนเปียกอาบน้ำมีการลดระดับลงเล็กน้อยกันน้ำไหลไปส่วนแห้ง ทางโครงการเลือกใช้กระเบื้องลายไม้ มีฝักบัวและที่แขวนทิชชู่ และที่สำคัญมีช่องหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับรับแสงและเปิดให้อากาศถ่ายเทได้
เข้าไปดูส่วนพักผ่อนกันต่อครับ
ห้องนอนหลักมีความสูงเพดานอยู่ที่ 2.7 เมตร ซึ่งสูงกว่าชั้นอื่นๆ ที่สูงอยู่ที่ 2.6 เมตร หน้าต่างห้องนอนหลักขนาดใหญ่เป็นพิเศษ และมีรูปทรงการแบ่งช่องที่สวยงาม
พื้นที่ส่วนพักผ่อนทางโครงการแบ่งฟังก์ชั่นเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัว วางโซฟาชั้นวางทีวี มีพื้นที่ระยะสายตากว้างขวางไม่อึดอัด
ส่วนของเตียงนอนขนาดพื้นที่กำลังเหมาะสำหรับวางเตียงไซส์ 5 ฟุต โดยที่ยังเหลือที่วางโต๊ะหัวเตียงทางเดินข้างเตียงซ้ายขวา ผ่านเข้าออกได้อย่างสะดวก
ขึ้นไปชมชั้น 3 กันต่อครับ
ชั้นบนประกอบด้วย 2 ห้องนอน แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว
ผมขอเริ่มจากห้องนอนทางฝั่งหลังบ้านซึ่งนับเป็นห้องนอนที่ 3 ก่อนครับ
ห้องนี้ตกแต่งเป็นห้องนอนในธีมของเด็กวัยประถมที่ดูสดใส ขนาดของห้องสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานได้อย่างครบถ้วนทั้งเตียง และตู้เสื้อผ้า
วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตแล้ว เหลือพื้นที่รอบเตียงและปลายเตียงให้ทำกิจกรรมต่างๆ ในห้องได้อย่างสะดวก
ไปดูห้องน้ำในตัวกันครับ
ในห้องน้ำแบ่งแยกโซนแห้ง-เปียกชัดเจน
สุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen ทั้งเซต มีช่องหน้าต่างรับแสงที่เปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเท
ไปดูห้องนอนรองที่ 2 ตำแหน่งทางฝั่งหน้าบ้านกันต่อครับ
ผ่านประตูห้องเข้ามา มองเห็นห้องน้ำในตัวของห้องนอนนี้ทางซ้ายมือ
ภาพรวมในห้องน้ำทั้งเรื่องขนาดและวัสดุ ไม่แตกต่างจากห้องน้ำเมื่อสักครู่ในห้องนอนที่ 2
ขยับเข้ามายังส่วนพักผ่อน
ขนาดของเตียงนอนเลือกใช้ขนาด 5 ฟุต
ปลายเตียงมีพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัว อันที่จริงขนาดของห้องนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกับ Master Bedroom จึงทำให้ฟังก์ชั่นต่างๆ มีสเปซใช้งานกว้างขวางราวกับว่าได้ Master Bedroom ถึง 2 ห้องด้วยกัน
แบบบ้านถัดไปที่ผมจะพาไปดูกันคือ แบบบ้าน Prima ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.6 เมตร ที่ดินเริ่ม 24.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 229 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ด้วยหน้ากว้างขนาด 5.6 เมตร ลานจอดรถหน้าบ้านจึงสามารถรองรับได้ถึง 2 คันที่มีไซส์ใหญ่ขึ้นกว่าแบบบ้าน Rose โดยอาจเป็นรถ SUV 1 คัน และ Compact Car 1 คัน ทางซ้ายมองเห็นเป็นช่องหน้าต่างให้แสงสู่โถงบันได และช่องเก็บของอยู่ด้านล่าง
เฉลียงหน้าบ้านยกสูงขึ้นเล็กน้อยปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ประตูบ้านบานสไลด์อลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง
เปิดประตูเข้ามาเจอกับพื้นที่เปิดโล่งแบบ Open Plan เชื่อมต่อ Living Area ด้านหน้าสู่ Dining Area ทางด้านหลัง มีห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์อยู่ทางด้านซ้าย
วัสดุโดยรวม พื้นปูด้วยแกรนิตโต้ 60×60 ซม. เพดานชั้น 1 สูง 2.6 เมตร ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟแบบดาวน์ไลท์หลอด LED
ในส่วนของ Living Area นี้ได้รับแสงสว่างธรรมชาติจากบานประตูสไลด์หน้าบ้านเป็นหลัก ซึ่งออกแบบให้มีขนาดใหญ่พิเศษ สามารถรับแสงสว่างได้มากให้ความโปร่งสบาย และสว่างอย่างพอเพียงในช่วงกลางวัน
ห้องนั่งเล่นสามารถจัดวางชุดเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ วางโซฟาเพื่อรองรับประมาณ 5 คนหรือจะเป็นโซฟาตัว L จากนั้นวางโต๊ะกลาง บิวท์อินชั้นวางทีวีที่บริเวณผนังฝั่งบันได ยังคงเหลือพื้นที่กลางบ้านให้สามารถเดินผ่านเข้าออกได้อย่างสะดวกสบาย เป็นผลมาจากหน้ากว้างของบ้านที่มากถึง 5.6 เมตรนั่นเอง
ขยับเข้าไปชมพื้นที่โซนด้านในซึ่งเป็น Dining Area
โซนทานอาหารจะเห็นว่าทางโครงการจัดการใช้งานให้ดูตัวอย่างเอาไว้ 2 รูปแบบคือแบบโต๊ะทานข้าวปกติ และแบบเคาน์เตอร์บาร์
โต๊ะทานข้าวจัดวางขนาด 4 ที่นั่งเอาไว้เพื่อรองรับครอครัวขนาดกลาง แต่หากการอยู่อาศัยจริงมีสมาชิกครอบครัวที่มากกว่า 4 คน อาจจะปรับรูปแบบให้เป็นโต๊ะทานข้าวใหญ่ 6-8 ที่นั่งก็ได้ โดยตัดฟังก์ชั่นเคาน์เตอร์บาร์ออกไป
โต๊ะแบบเคาน์เตอร์บาร์ บิวท์อินต่อเนื่องมาจาก Pantry ครัวที่ดูมีความต่อเนื่องสวยงาม สำหรับนั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ หรือจะใช้เป็นมุมทำงานก็ได้เช่นกัน
หากไม่ต้องการต่อเติมห้องครัวที่ลานหลังบ้านด้าน สำหรับครอบครัวที่ไม่นิยมประกอบอาหารหนัก พื้นที่ภายในก็เพียงพอสำหรับการทำเป็นห้องครัวรูปแบบไฮบริด ที่ใช้เตาไฟฟ้าและฮูดดูดควันเป็นส่วนประกอบ จะเห็นว่ามีสเปซอยู่พอสมควร โดยอาจจะตัดฟังก์ชั่นเคาน์เตอร์บาร์ทางขวาออกไป และเพิ่มเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหารแทนก็จะได้พื้นที่ในการประกอบอาหารเพิ่มขึ้น
ฝั่งตรงข้ามมีมุมสำหรับเก็บอุปกรณ์ครัวและวางตู้เย็นได้อีก การทำโซนนี้เป็นห้องครัวจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ตัวอย่างลานหลังบ้านที่ไม่ได้มีการต่อเติมเป็นห้องครัว อาจทำเป็นสวนหย่อมขนาดเล็ก เป็นพื้นที่ซักผ้า วางเครื่องออกกำลังกาย หรือจะเอาไปทำประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมากมาย
กลับมาที่ด้านในบ้าน ไปดูห้องน้ำชั้นล่างกันต่อครับ
ภายในห้องแบ่งแยกโซนแห้ง-เปียกชัดเจน เพื่อรองรับการใช้งานของห้องนอนชั้นล่างให้สะดวกมากขึ้นเวลาอาบน้ำ
สุขภัณฑ์ของ Mogen อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของที่บริเวณด้านล่าง
พื้นที่สำหรับอาบน้ำกว้างขวาง ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและที่วางสบู่ให้เรียบร้อย
ไปดูห้องถัดไปคือห้องนอนชั้นล่าง โดยสำหรับแบบบ้าน Prima ห้องนอนชั้นล่างนี้เป็นไปตามแบบบ้านมาตรฐานที่ทางโครงการกั้นห้องไว้ให้แบบนี้เลย ต่างจากแบบบ้าน Rose ที่จะเปิดโล่งไม่ได้กั้นห้องให้แบบนี้
อันที่จริงแล้วห้องนี้สามารถใช้งานได้หลากหลายตามแบบฉบับของห้องอเนกประสงค์ แต่หากทำเป็นห้องนอน แนะนำว่าเหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต เพื่อที่จะได้เหลือพื้นที่บางส่วนสำหรับวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเขียนหนังสือ และให้มีสเปซใช้งานเข้าออกได้สะดวก
ด้านหลังมีหน้าต่างบานเลื่อนให้แสงสว่าง จึงช่วยเรื่องความโปร่งได้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก
หากวางเตียง 3.5 ฟุต ก็จะเหลือพื้นที่ให้วางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้แบบนี้ รองรับการอยู่อาศัยสำหรับ 1 คนได้อย่างพอเหมาะ
ขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ สำหรับโครงสร้างบันไดเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก แข็งแรงทนทาน เดินเงียบไม่มีเสียงรบกวน
โถงบันไดมีช่องแสง สามารถเปิดแบบกระทุ้ง ถ่ายเทอากาศได้
บนชั้น 2 ขึ้นบันไดมาส่วนแรกจะเจอกับห้องโถงเปิดโล่ง ที่ทางโครงการมีการกั้นห้องเอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างสำหรับพื้นที่ Family Area
เข้าไปดูห้องอเนกประสงค์ที่ทางโครงการกั้นเพิ่มขึ้นมาเป็นไอเดียกันครับ
ห้องนี้จัดวางอุปกรณ์ไปในทิศทางของ Living Area เพื่อใช้เป็นจุดศูนย์กลางของคนในบ้านที่จะมาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมร่วมกัน
แต่หากว่าเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกในบ้านหลายคน ต้องการเพิ่มห้องนอน ห้องนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะว่ามีห้องน้ำในตัวนั่นเอง
เข้าไปดูในห้องน้ำกันสักหน่อย
เป็นห้องน้ำที่แยกฟังก์ชั่นโซนแห้ง-เปียกครบครัน ใช้งานได้ไม่แตกต่างจากห้องนอนปกติ
ไปดูห้องนอน Master Bedroom ที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านกันต่อครับ
ผ่านประตูห้องเข้ามาเจอกับพื้นที่ Walk-in Closet ลักษณะของพื้นที่ใช้งานเป็นรูปทรงตัว L ที่สามารถจัดฟังก์ชั่นได้อย่างครบถ้วนเป็นสัดส่วน
เปรียบเทียบกับแบบบ้านเปล่าให้เห็นความกว้างก่อนที่จะวางตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ด้าน
ทางด้านในจัดเป็นส่วนของการพักผ่อนที่มีทั้งมุมสำหรับวางเตียงนอน และห้องนั่งเล่นส่วนตัว
หน้าต่างห้องนอนเป็นแบบขนาดใหญ่พิเศษ บวกกับความสูงเพดาน 2.7 เมตรจึงสัมผัสได้ถึงความโปร่งสบาย และแสงสว่างที่พอเพียง
มุมห้องนั่งเล่นส่วนตัว ไม่ได้มาเล่นๆ นะครับ แต่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางจัดอุปกรณ์ Entertainment ได้เต็มรูปแบบ
ส่วนพื้นที่วางเตียงนอน ก็สามารถเลือกใช้เตียงได้ทั้งขนาด 5 หรือ 6 ฟุต ตามความพึงพอใจ
มองย้อนกลับไปที่บริเวณ Walk-in Closet จะเห็นว่าทางโครงการบิวท์อินตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เอาไว้ทั้ง 2 ด้าน หากรู้สึกว่าตู้เสื้อผ้าใหญ่เกินความจำเป็น อาจจะปรับด้านนึงทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้
เข้ามาดูภายในห้องน้ำ เป็นห้องน้ำที่มีความแตกต่างจากทุกห้องที่ได้รับชมมา เนื่องจากมีโซนอาบน้ำที่กว้างกว่า
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมวางบนเคาน์เตอร์ที่สามารถวางของด้านข้างและเก็บของที่ด้านล่างได้
โถสุขภัณฑ์วางเข้ามุมด้านใน ด้านหลังมี Low Wall วางอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มได้เล็กน้อย
เนื่องจากห้องน้ำนี้ไม่มีช่องหน้าต่างระบายอากาศหรือรับแสง ทางโครงการจึงได้ติดตั้งพัดลมดูดอากาศเพื่อทดแทนการถ่ายเทอากาศ ให้มีสุขอนามัยที่ดีขึ้น
ฉากอาบน้ำของโซนเปียกอาบน้ำ ติดตั้งเป็นวัสดุกระจกนิรภัยแบบ Frameless ดูหรูหรามากขึ้นทีเดียว
ติดตั้งฝักบัวสายอ่อน ที่วางสบู่ และวางระบบเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วย
ขึ้นไปชมด้านบนชั้น 3 กันต่อครับ
ขึ้นมาชั้น 3 ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง และมีห้องอเนกประสงค์ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้งสอง
พื้นที่อเนกประสงค์นี้ทางโครงการตกแต่งเป็นห้องเก็บของ ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการใช้งานจริง ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
เปรียบเทียบกับแบบบ้านเปล่า จะเห็นว่าเปิดโล่งไม่ได้แบ่งพาร์ติชั่นใดๆ
ผมขอพาไปดูห้องนอนทางฝั่งหลังบ้านกันก่อนครับ
ทางโครงการตกแต่งห้องนี้เป็นห้องนอนของลูกชายในวัยที่โตขึ้นมาหน่อย เริ่มมีความชอบส่วนตัวมีงานอดิเรก ขนาดของห้องมีสเปซที่กว้างขึ้นเพื่อให้สามารถทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจได้
จะเห็นว่าขนาดของห้องนั้น ถ้าเทียบกับโครงการทั่วไป สามารถจัดว่าเป็นห้อง Master Bedroom ได้อย่างไม่ต้องสงสัย เตียงเลือกใช้ได้ทั้งขนาด 5 ไปจนถึง 6 ฟุต เหลือพื้นที่ใช้งานโดยรอบกว้างขวาง
มุมมองย้อนไปยังทางเข้าห้อง
ด้านในมีห้องน้ำในตัว
พื้นที่หน้าห้องน้ำมีมุม Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วน
ภายในห้องน้ำผมจะขอข้ามรายละเอียดไป เนื่องจากวัสดุและรูปแบบจะเหมือนกันกับห้องน้ำหลายๆ ห้องที่เราได้ชมไปก่อนหน้านี้
ข้ามฝั่งไปดูห้องนอนที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านกันบ้างครับ
ผ่านประตูเข้ามาเจอกับพื้นที่ Walk-in Closet หน้าห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำรูปแบบเหมือนกัน แยกโซนแห้ง-เปียกชัดเจน
ส่วนที่เป็น Walk-in Closet จะเห็นว่าทางโครงการบิวท์อินตู้เสื้อผ้าซ้ายขวาแล้ว ยังคงเหลือช่องทางเดินตรงกลางให้ผ่านเข้าออกได้สะดวก
เข้ามาด้านในยังส่วนพักผ่อนแบ่งการใช้งานเป็นสองฝั่ง พื้นที่วางเตียงนอนสำหรับ 5 ฟุตกำลังดี เพื่อให้มีทางเดินข้างเตียงเพื่อขึ้นลง และเปิดปิดหน้าต่างผ้าม่านได้ง่าย
พื้นที่อีกฝั่งทำเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวได้เช่นกัน จะเห็นว่าฟังก์ชั่นโดยรวมแทบไม่แตกต่างจาก Master Bedroom ที่อยู่ชั้น 2 เลยล่ะครับ
::: ราคา ::: (เม.ย. 2563)
แบบบ้าน Rose : ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท*
ขนาดที่ดินเริ่ม 18.1 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 166 ตร.ม. / 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่จอดรถ 2 คัน
แบบบ้าน Prima : ราคาเริ่มต้น 7.3 ล้านบาท*
ขนาดที่ดินเริ่ม 24.6 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 229 ตร.ม. / 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่จอดรถ 2 คัน
ค่าส่วนกลาง : 70 บาท/ตร.ว./เดือน
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบกับทางสำนักงานขายตามรายละเอียดท้ายรีวิว
::: บทสรุปโครงการ :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ : Eternity Town Primrose วัชรพล เป็นทำเลที่ตั้งอยู่ในโซนวัชรพล ซึ่งเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในระดับ Top 5 ของกรุงเทพเลยทีเดียว มี Demand เฉลี่ยกว่า 2,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งนั่นเป็นผลสะท้อนจากความสะดวกสบายในแง่ของการเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่รอบรับผู้อยู่อาศัยในทำเลแห่งนี้ได้อย่างครบครัน อีกจุดเด่นที่ผมชอบคืออยู่ใกล้กับตลาดวงศกร ตอบโจทย์พื้นฐานปัจจัย 4 ในเรื่องของอาหารการกินได้ในระยะที่สามารถเดินเท้าเข้าถึงอย่างสะดวก
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่สุขาภิบาล 5 เดินทางเข้าเมืองสะดวกเพราะใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญของย่านนี้ได้อย่างง่ายดายทั้ง ถนนรามอินทรา, ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนสายไหม เป็นต้น
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการนั้นอยู่ติดถนนใหญ่ การหารถสาธารณะจึงเป็นเรื่องง่ายหาแท๊กซี่ง่าย และมีสองแถวผ่านหน้าโครงการที่มี่เส้นทางสู่ถนนหลักได้ทั้งสายไหม, พหลโยธิน และรามอินทรา ในอนาคตอยู่ในระยะเข้าถึงรถไฟฟ้าได้จริงถึง 2 สาย รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ และรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวัชรพล ในระยะไม่เกิน 10 กม.
การออกแบบโครงการและวัสดุ : Eternity Town Primrose วัชรพล ออกแบบโครงการโดยเน้นตอบสนองความต้องการจริงของผู้อยู่อาศัย ตามประสบการณ์ที่ทาง สถาพร เอสเตท ได้เก็บข้อมูลมา อย่างห้องนอนหลัก ที่ออกแบบมาให้อยู่ในชั้น 2 แทนที่จะอยู่บนชั้น 3 เหมือนโครงการทั่วไป ก็เพื่อให้คุณพอคุณแม่ที่อายุมากกว่าลูกๆ ไม่ต้องเดินขึ้นไปถึงชั้น 3 เพิ่มฟังก์ชั่นห้องนั่งเล่นที่ชั้น 2 เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอย่างกรณีที่เพื่อนบ้านมาหาคุณพ่อ ส่วนคุณแม่กับลูกๆ ก็ยังสามารถทำกิจกรรมอยู่บนชั้น 2 ได้ นอกจากนั้นในห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว สะดวกสบายใช้งานตามลักษณะส่วนบุคคลได้อย่างเต็มที่
นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มมูลค่าทั้งการติดตั้งสัญญาณกันขโมย ที่ให้ความปลอดภัยสูงสุด เมื่อผิดปกติแจ้งเตือนทั้งโทรศัพท์, ห้องรปภ. และส่งเสียงในบ้าน อีกอย่างนึงคือแผง Solar Cell ที่สามารถลดค่าได้ถึง 8,740 บาท/ปี
ส่วนวัสดุที่ทางโครงการเลือกใช้ในโครงการ โครงสร้างก่อด้วยอิฐมวลเบา ซึ่งมั่นคง แข็งแรง กันความร้อนดี รวมถึงกรณีที่มีการต่อเติมหรือแบ่งห้องเพิ่มเติมก็จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ส่วนวัสดุทั่วไป พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ชั้น 2-3 ปูด้วยกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ โคมไฟดาวน์ไลท์หลอด LED ประตูหน้าต่างบานสไลด์กรอบอลูมิเนียม กระจกเขียวตัดแสง สุขภัณฑ์ของ Mogen ทั้งเซต เพดานบ้านสูง 2.6 เมตร เว้นแต่ชั้น 2 ที่จะสูงถึง 2.7 เมตร โปร่งสบาย
สิ่งอำนวยความสะดวก : มีอาคารคลับเฮ้าส์ Primrose Central ภายในมีฟังก์ชั่นครบครันทั้ง สระว่ายน้ำ Primrose Pool Club สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 15×5 เมตร, Fitness Studio และ Inspire Hub ในขณะที่เรื่องความปลอดภัยให้ความอุ่นใจ ด้วยการเข้าออกด้วยระบบ Access Card ผ่านประตูรั้วเหล็กแบบเลื่อนอัตโนมัติ แน่นหนากว่าแบบไม้กระดก พร้อมเจ้าหน้าที่รปภ. และ CCTV 24 ชม. เสริมด้วยสัญญาณกันขโมย
::: สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :::
Tel : 02-007-5555
Website : https://bit.ly/3bxKPYi
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น