EP.1694 รีวิว บ้านเดี่ยว สีวลี ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ใกล้ถนนตัดใหม่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า เพียง 3 กม.

---

บ้าน สีวลี ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
สีวลี เพชรเกษม 69
สีวลี ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า
สีวลี สุวรรณภูมิ
สีวลี บางนา
สีวลี รามคำแหง-วงแหวน
สีวลี ปิ่นเกล้า-สาทร
สีวลี รังสิต 1
สีวลี รังสิต 2

---

---

ชื่อโครงการ	สีวลี ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า Sivalee Srinakarin-Romklao
เจ้าของโครงการ	บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ / Land & Houses
ลักษณะโครงการ	บ้านเดี่ยว 2 ชั้น / แบบบ้าน 4 แบบ
พื้นที่โครงการ	ประมาณ 70 ไร่
จำนวนบ้าน	260 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 50 ตร.ว. ขึ้นไป
พื้นที่ใช้สอย	134 – 202 ตร.ม.
จำนวนห้อง	3 – 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด	2 – 3 คัน
โซน	เขตมีนบุรี
ขนส่งสาธารณะ	ถนนตัดใหม่ ศรีนครินทร์ ร่มเกล้า รถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี Airport Link ลาดกระบัง
ที่ตั้ง	6 แยก 2 ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510
กำหนดการ	รอข้อมูลจากทางโครงการ
ปีที่สร้างเสร็จ	คาดว่าแล้วเสร็จปี 2564
ราคา	เริ่มต้น 6 – 15 ล้านบาท* (พ.ค. 63)
ค่าส่วนกลางและกองทุน	รอข้อมูลจากทางโครงการ
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ห้างสรรพสินค้า ตลาดบวรร่มเกล้า : 450 ม. ตลาดกลางนครร่มเกล้า : 1.2 กม. ตลาดเกรียงไกร : 1.9 กม. Big C Market เคหะร่มเกล้า : 2.5 กม. Big C ร่มเกล้า : 6.2 กม. ไทวัสดุ รามคำแหง : 6.3 กม. The Paseo : 9.4 กม. Robinson Lifestyle ลาดกระบัง : 9.7 กม. Big C สุขาภิบาล 3 : 10.4 กม. Pure Place : 10.6 กม. Golden Place : 10.7 กม. ตลาดสัมมากร : 11.1 กม. Amorini Boutique Lifestyle Mall : 12.2 กม. The Paseo Town : 13.1 กม. Home Pro รามคำแหง : 14.1 กม. The PARK : 14.3 กม. Siam Premium Outlet : 18.5 กม. สถานศึกษา ม.เกษมบัณฑิต ร่มเกล้า : 5.1 กม. รร.เทพศิรินทร์ ร่มเกล้า : 6.2 กม. รร.นานาชาติ RIS : 6.4 กม. รร.นานาชาติสบายใจ : 7.9 กม. รร.นานาชาติบรอมส์โกรฟ : 8.1 กม. รร.เตรียมอุดมฯ น้อมเกล้า : 8.4 กม. ร.ร.สารสาสน์วิเทศร์ร่มเกล้า : 9.5 กม. รร.นานาชาติ Wellington : 12.3 กม. รร.นานาชาติ RAIS : 12.5 กม. NIDA : 14.0 กม. ม.อัสสัมชัญ หัวหมาก : 14.0 กม. ม.รามคำแหง : 18.0 กม. ศูนย์การแพทย์ รพ.การุญเวช : 10.2 กม. รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ : 13.2 กม. รพ.รามคำแหง : 14.0 กม. รพ.ศิรินธร : 14.4 กม. รพ.เวชธานี : 14.9 กม. อื่น ๆ สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ : 1.7 กม. วัดบางเพ็งใต้ : 9.4 กม. สนามบินสุวรรณภูมิ : 9.4 กม. สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน สถานีตำรวจนครบาลร่มเกล้า : 1.4 กม. สำนักงานที่ดินสาขาบึงกุ่ม : 4.5 กม. สำนักงานเขตสะพานสูง : 8.7 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	คลับเฮ้าส์สไตล์ Cottage สระว่ายน้ำระบบเกลือ สระว่ายน้ำเด็ก ฟิตเนส สวนพักผ่อน สนามเด็กเล่น สัญญาณกันขโมย Magnetic ในตัวบ้าน กล้องวงจรปิด CCTV รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ	สีวลี ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า บ้านเดี่ยวใหม่จาก LH บนทำเลใกล้ถนนเส้นตัดใหม่ ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า เพียง 3 กม.

---

---

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

6 แยก 2 ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.

พิกัด : 13.776181, 100.734129

 

ทำเลที่ตั้ง สีวลี ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า ตั้งอยู่บนถนนเคหะร่มเกล้า บนทำเลศักยภาพที่มีทั้งความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับการพักผ่อนอยู่อาศัยและการสร้างครอบครัว และยังง่ายต่อการใช้ชีวิต เพราะเป็นทำเลใจกลางระหว่างรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ทั้ง Airport Link ลาดกระบัง, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และ สายสีส้ม เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู สามารถเดินทางเข้า – ออกผ่านถนนใหญ่ 4 เส้น คือ ถนนร่มเกล้า, ถนนตัดใหม่ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า, ถนนรามคำแหง และถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก จึงเชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้ง่าย

และมีสาธารณูปการครบครัน ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า, สถานศึกษาที่สำคัญ และโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง ยกตัวอย่างเช่น Big C ร่มเกล้า, The Paseo ลาดกระบัง, The PARK, Robinson Lifestyle ลาดกระบัง, Siam Premium Outlet, รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์, รร.สารสาสน์วิเทศน์ร่มเกล้า, ม.เกษมบัณฑิตร่มเกล้า และ รร.เทพศิรินทร์ ร่มเกล้า รวมถึงสนามบินสุวรรณภูมิด้วยค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ โครงการตั้งอยู่บนถนนเคหะร่มเกล้า เป็นทำเลที่เดินทางได้สะดวกนะคะ เพราะตัวโครงการก็มีข้อได้เปรียบ นั่นก็คือ สามารถเข้า – ออกได้ถึง 4 ทางจากถนนหลัก ทั้ง ถนนร่มเกล้า 1.6 กม., ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า 2.7 กม., ถนนรามคำแหง 7 กม. และถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก 7 กม.

สำหรับการเดินทางเข้าเมืองนั้น สามารถออกถนนร่มเกล้าทางซอยร่มเกล้า 24 แล้วตรงลงไปทางแยกต่างระดับร่มเกล้าเพื่อขึ้นมอเตอร์เวย์ไปทางพระราม 9 หรือถ้าจะวิ่งข้างล่างก็ให้ออกถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า วิ่งเชื่อมถนนกรุงเทพกรีฑาและศรีนครินทร์ สามารถวิ่งต่อไปยังพระราม 9 และตัวเมืองชั้นในได้สะดวกมาก ๆ หรือถ้าออกถนนรามคำแหงทางถนนราษฎร์พัฒนาก็สามารถใช้วิ่งตรงยาว ๆ เข้าเพชรบุรีได้เลย และยังสามารถใช้เส้นร่มเกล้ากับเส้นกาญจนาภิเษก วิ่งขึ้นไปทางรามคำแหง – มีนบุรี – รามอินทรา หรือใช้ตรงเข้าสุวรรณภูมิได้เลยค่ะ

ทางด่วน จากโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นมอเตอร์เวย์เพียง 10 นาทีเท่านั้น อย่างที่บอกว่าให้วิ่งออกมาที่ถนนร่มเกล้า ตรงลงไปจนทางแยกต่างระดับร่มเกล้าแล้วม้วนขึ้นมอเตอร์เวย์ค่ะ

ขากลับมายังโครงการจากในตัวเมืองก็สะดวกไม่ต่างจากขาออก ถ้าเวลาไหนที่เส้นร่มเกล้าติด เราจะลัดเข้าถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้าเพื่อเข้าถนนเคหะร่มเกล้าได้

:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::

• ถนนร่มเกล้า : 1.6 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า : 2.7 กม.
• ถนนราษฎร์พัฒนา : 5.0 กม.
• แยกต่างระดับร่มเกล้า : 6.6 กม.
• ถนนรามคำแหง : 7.0 กม.
• ถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก : 7.0 กม.
• แอร์พอร์ตลิงค์ลาดกระบัง : 10.1 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ภายในถนนเคหะร่มเกล้ามีรถสองแถวสาย เคหะร่มเกล้า – รถไฟฟ้า (ลาดกระบัง) – แยกกิ่งแก้ว, รถตู้มีนบุรี – เคหะร่มเกล้า และ รถเมล์ ปอ.92 วิ่งผ่าน คิววินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่ก็มีวิ่งผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอดทั้งวัน หรือสะดวกที่สุดแนะนำให้เรียก Grab Taxi และ Line Taxi ค่ะ

ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุดตอนนี้ก็คือ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีลาดกระบัง สามารถใช้เดินทางเชื่อมต่อไปยัง BTS สถานีพญาไท หรือใช้เข้าสุวรรณภูมิที่ห่างออกไปเพียง 1 สถานีได้สะดวก

ในอนาคตบนเส้นรามคำแหงจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (Underground) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วิ่งผ่าน และบนเส้นศรีนครินทร์ ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ( Monorail) ช่วงลาดพร้าว – สำโรง อีกเช่นกัน โดย 2 สายนี้มีจุด Interchange ร่วมกันที่ สถานีลำสาลี เรียกได้ว่าเมื่อรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายได้เปิดใช้งานแล้วนั้น การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในย่านนี้ก็จะเป็นไปได้อย่างสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปสนามบิน, เข้าสู่ใจกลางเมือง, ไปฝั่งหมอชิต – สำโรง เรียกว่าครอบคลุมทั้งหมดแล้วค่ะ

รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน ทั้ง สนามบินดอนเมือง – สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินอู่ตะเภา และการขยายสนามบินสุวรรณภูมิขึ้นอีกเฟส เพื่อที่จะสามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น, ขอบคุณภาพประกอบจาก HOME

ความอุดมสมบูรณ์ ตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ ในถนนเคหะร่มเกล้าถือว่ามีความคึกคักมากด้วยร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ และตลาดสด เช่น ตลาดบวรร่มเกล้า, ตลาดกลางนครร่มเกล้า, ตลาดสดเกรียงไกร, Big C Market เคหะร่มเกล้า แถมยังมีสวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สำหรับไปนั่งเล่นพักผ่อนหรือวิ่งออกกำลังกาย อยู่ในจุดที่สามารถเดินไปถึงได้หรือขับรถไปไม่เกิน 5 นาที

ในวงกว้างของทำเลนี้ก็ถูกล้อมรอบด้วยสาธารณูปโภคอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า, Community Mall, สถานศึกษา และโรงพยาบาล อย่างบนถนนร่มเกล้า ขึ้นไปจนเกือบถึงรามคำแหงก็มี Big C ร่มเกล้า อยู่ติดกับ ไทวัสดุ และ Tops Superkoom Wholesale มีนบุรี

ถนนลาดกระบัง มี The Paseo เป็น Community Mall ขนาดใหญ่ มีร้านอาหาร, ร้านขายเสื้อผ้า, ธนาคาร, ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านขายต้นไม้, ร้านดูแลสัตว์, ติวเตอร์สอนพิเศษ, ตอนช่วง 4 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม มีตลาดนัดขายของขายเสื้อผ้ามาเปิดเพิ่ม รวมถึง Robinson Lifestyle ลาดกระบัง ที่อยู่ติดกัน ถือเป็นจุดศูนย์รวมของคนในย่านนี้ รวมทั้งพนักงานของสายการบินต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ของสนามบินสุวรรณภูมิ เส้นนั้นจะมีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอตัวนะ เพราะเป็นแหล่งสถานศึกษาคือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังค่ะ โดยรอบจะมีทั้ง รพ.ลาดกระบัง, รพ.จุฬารัตน์ 7, ร้านอาหารขนาดเล็ก – ใหญ่ และตลาดนัดขนาดใหญ่ คือตลาดนัดสุวรรณภูมิ นั่นเอง

(ที่มาภาพ : https://www.smeleader.com/, https://the-park-shopping-center.business.site/)

ถนนกรุงเทพกรีฑา มี The PARK เป็น Feel Good Mall ที่เป็นแหล่งนัดพบแหล่งใหม่ในย่านศรีนครินทร์ – กรุงเทพกรีฑา ภายใต้แนวคิด The Greenery Merging Living ได้วิวสนามกอล์ฟ ภายในมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ฟิตเนส และสตูดิโอพิลาทิส – โยคะ มาเปิดอย่างหลากหลาย ไม่ไกลกันก็จะมี รพ.สมิติเวช และ รร.นานาชาติ Wellington ด้วยค่ะ

(ที่มาภาพ : https://mgronline.com, https://th.wikipedia.org, http://www.painaidii.com, https://www.wongnai.com)

เส้นศรีนครินทร์ มี Seacon Square, ตลาดนัดรถไฟ และ Paradise Park ส่วน เส้นรามคำแหง ก็มี Pure Place, ตลาดสัมมากร, Golden Place, Tops Market, The Paseo Town, HomePro และ Big C จนไปถึงแยกลำสาลี ตรงนั้นจะมี The Mall บางกะปิ เป็นห้างใหญ่ค่ะ จากตรงนั้นจะอยู่ไม่ไกลจากสถานศึกษาชื่อดังอย่าง ม.รามคำแหง ม.อัสสัมชัญ และ NIDA ถ้าเราขึ้นวงแหวนกาญจนาฯ ไปลงที่เส้นรามอินทรา ตรงนั้นก็จะมีห้างใหญ่ทั้ง Fashion Island และ The Promanade อยู่ข้างกัน ตรงนั้นจะใกล้กับ รพ.สินแพทย์อีกด้วย

:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::

ห้างสรรพสินค้า

• ตลาดบวรร่มเกล้า : 450 ม.
• ตลาดกลางนครร่มเกล้า : 1.2 กม.
• ตลาดเกรียงไกร : 1.9 กม.
• Big C Market เคหะร่มเกล้า : 2.5 กม.
• Big C ร่มเกล้า : 6.2 กม.
• ไทวัสดุ รามคำแหง : 6.3 กม.
• The Paseo : 9.4 กม.
• Robinson Lifestyle ลาดกระบัง : 9.7 กม.
• Big C สุขาภิบาล 3 : 10.4 กม.
• Pure Place : 10.6 กม.
• Golden Place : 10.7 กม.
• ตลาดสัมมากร : 11.1 กม.
• Amorini Boutique Lifestyle Mall : 12.2 กม.
• The Paseo Town : 13.1 กม.
• Home Pro รามคำแหง : 14.1 กม.
• The PARK : 14.3 กม.
• Siam Premium Outlet : 18.5 กม.

สถานศึกษา

• ม.เกษมบัณฑิต ร่มเกล้า : 5.1 กม.
• รร.เทพศิรินทร์ ร่มเกล้า : 6.2 กม.
• รร.นานาชาติ RIS : 6.4 กม.
• รร.นานาชาติสบายใจ : 7.9 กม.
• รร.นานาชาติบรอมส์โกรฟ : 8.1 กม.
• รร.เตรียมอุดมฯ น้อมเกล้า : 8.4 กม.
• ร.ร.สารสาสน์วิเทศร์ร่มเกล้า : 9.5 กม.
• รร.นานาชาติ Wellington : 12.3 กม.
• รร.นานาชาติ RAIS : 12.5 กม.
• NIDA : 14.0 กม.
• ม.อัสสัมชัญ หัวหมาก : 14.0 กม.
• ม.รามคำแหง : 18.0 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.การุญเวช : 10.2 กม.
• รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ : 13.2 กม.
• รพ.รามคำแหง : 14.0 กม.
• รพ.ศิรินธร : 14.4 กม.
• รพ.เวชธานี : 14.9 กม.

อื่น ๆ

• สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ : 1.7 กม.
• วัดบางเพ็งใต้ : 9.4 กม.
• สนามบินสุวรรณภูมิ : 9.4 กม.

สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน

• สถานีตำรวจนครบาลร่มเกล้า : 1.4 กม.
• สำนักงานที่ดินสาขาบึงกุ่ม : 4.5 กม.
• สำนักงานเขตสะพานสูง : 8.7 กม.

---

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก > ถนนศรีนครินทร์ > ถนนเคหะร่มเกล้า > สีวลี ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า

เราเริ่มต้นการเดินทางจากถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนร่มเกล้า – ศรีนครินทร์ไปทางร่มเกล้าค่ะ

ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้าเป็นถนนตัดใหม่ขนาด 8 เลน โดยมีเกาะกลางแบ่งช่องการจราจรอย่างชัดเจน เป็นถนนอีกเส้นที่สามารถใช้เดินทางไปยังโครงการได้สะดวก โดยเรามุ่งหน้าตามป้ายเคหะร่มเกล้าไป

ตรงไปเรื่อย ๆ จะมีทางยกระดับข้ามถนนพัฒนาชนบท 3 ให้เราชิดซ้ายวิ่งทางคู่ขนานไปค่ะ

จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเคหะร่มเกล้า ถ้าเราขึ้นสะพานยกระดับเมื่อสักครู่จะไม่สามารถออกทางคู่ขนานได้ทันนะ

ถนนเคหะร่มเกล้านั้นเป็นถนนขนาด 4 – 6 เลนที่มีความคึกคักตลอดทั้งเส้น ไม่ว่าจะเป็น อาคารพาณิชย์, ร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ และตลาดสด อย่างทางฝั่งซ้ายมือก่อนถึงสี่แยกจะมีตลาดสดเกรียงไกร

ขับตรงไปเรื่อย ๆ ทางฝั่งซ้ายมือเราจะผ่านสวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

ไม่ไกลกันเราก็จะเห็นสถานีตำรวจนครบาลร่มเกล้า

และตลาดกลางนครร่มเกล้าค่ะ

พอถึงทางสามแยกให้เราเลี้ยวขวาตามป้ายร่มเกล้าค่ะ

จากสามแยกเราตรงไปประมาณ 200 เมตร เราจะเห็นปั๊มบางจากอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ด้านหลังปั๊มนี้เองคือทางเข้าโครงการของอาณาจักร Land&House

ภายในนี้เองจะมีโครงการของ Land&House อยู่ด้วยกันทั้งหทด 3 โครงการ นั่นก็คือ มัณฑนา, Indy และ สีวลี ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า

ถนนทางเข้าโครงการมีขนาดกว้างขวาง ร่มรื่นด้วยต้นจามจุรีทั้ง 2 ฝั่งของถนน

เราขับตรงตามถนนทางเข้าโครงการเข้ามาแล้วจะเห็นโครงการ สีวลี ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า อยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่า

ภาพบรรยากาศบริเวณทางเข้าโครงการ สีวลี ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า

---

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

โครงการตั้งอยู่ในถนนเคหะร่มเกล้า เข้ามาจากทางเข้าโครงการประมาณ 300 เมตร โครงการถูกห้อมล้อมด้วยสังคมบ้านพักอาศัยคุณภาพที่เป็นส่วนตัว ทิศเหนือ ติดกับ บ่อน้ำ ทิศใต้ ติดกับ คลองลำนายโส ทิศตะวันออก ติดกับ Indy ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า และ ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินบุคคลอื่น

ตอนนี้เรามาอยู่กันที่บริเวณหน้าโครงการกันแล้ว เดี๋ยวเรามาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการภายในถนนทางเข้าโครงการของ Land&House กันค่ะ

ที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการก็คือโครงการบ้านเดี่ยวมัณฑนา

ฝั่งทางซ้ายมือหรือฝั่งในสุดของถนนคือโครงการทาวน์โฮม Indy

ทางฝั่งขวามือของโครงการจะตรงออกสู่ถนนเคหะ – ร่มเกล้าค่ะ จะเห็นว่าบรรยากาศโดยรอบโครงการดูสงบ ปลอดภัย น่าอยู่มากจริง ๆ

เราเดินออกมาที่ถนนเคหะร่มเกล้ากันแล้วค่ะ สังเกตว่าถนนเส้นนี้ค่อนข้างคึกคักมากทีเดียว การที่ Land&House ทำทางเข้าโครงการเข้าไปเพื่อสร้าง Gap ทิ้งระยะห่างจากถนนนั้นช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวและลดมลภาวะทางเสียงและฝุ่นควันได้เป็นอย่างดี ที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการนี้คืออาคารพาณิชย์และหอพักค่ะ

จากทางเข้าโครงการ ถ้าเราตรงออกไปทางซ้ายมือจะออกสู่ถนนร่มเกล้า เป็นเส้นทางสำหรับเวลาต้องการไปขึ้นมอเตอร์เวย์เพื่อเข้าเมือง

ถ้าเราออกทางขวาจะสามารถไปออกถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า, ถนนรามคำแหง และถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษกได้

ติดกับทางเข้าโครงการคือปั๊มบางจากค่ะ ภายในปั๊มมีร้าน Kerry ใครทำธุรกิจค้าขายออนไลน์คือสะดวกมากเลย

ถัดจากปั๊มจะเป็นลักษณะของห้องแถวยาว เปิดเป็นร้านค้าและร้านอาหาร อย่างตรงนี้ก็มีร้านขายเสื้อผ้าและร้านทำเล็บ

อาหารมีขายหลายอย่างเลยค่ะ เลือกทานได้ตามใจชอบ

เดินตรงไปจนเกือบถึงช่วงสามแยก เราจะเห็น รร.อรรถญาสาธิต อยู่ไกล ๆ

---

:::: ตัวโครงการ ::::

สีวลี ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในสไตล์ California Coastal บนพื้นที่โครงการขนาดกว่า 70 ไร่ จำนวนบ้าน 260 ยูนิต ที่ได้บรรยากาศเหมือนการพักผ่อนในรีสอร์ตในสังคมคุณภาพ เริ่มจากทางเข้าโครงการกว้าง 23 เมตร พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานของ Land&House เชื่อมต่อกับถนนหลักขนาด 16 เมตรตัดผ่าน ทะเลสาบ, สวนพักผ่อน และคลับเฮ้าส์ ที่อยู่บริเวณหน้าโครงการ เชื่อมต่อด้วยถนนหลักขนาด 12 เมตร และถนนซอยขนาด 9 เมตร ผ่านหน้าบ้านทุกหลัง

โดยรวมแล้วโครงการมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีบ้านจำนวนหลายยูนิต แต่สามารถจัดผังได้ดี และบ้านแต่ละหลังก็มีเนื้อที่ดินค่อนข้างกว้างขวาง ทำให้ตัวบ้านมีระยะห่างระหว่างกันจึงไม่ทำให้รู้สึกว่าแออัด อีกทั้งยังมีการหันหน้าบ้าน – หลังบ้านตามแนวทิศเหนือ – ใต้ ช่วยทำให้บ้านเย็นเพราะสามารถรับลมได้ตลอดทั้งปี

สวนพักผ่อน, ทะเลสาบ และคลับเฮ้าส์ ถูกจัดเอาไว้อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ เพื่อให้มุมทางเข้าโครงการดูสบายตา ปรับบรรยากาศเวลาเหนื่อยล้าจากการทำงานให้เข้าสู่โหมดของการพักผ่อน ซึ่งตำแหน่งอาจจะไกลจากลูกบ้านหลังท้ายโครงการ แต่ถ้าเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินมาเป็นการปั่นจักรยานแทนก็จะรู้สึกว่าไม่ได้ไกลอย่างที่คิดค่ะ

---

:::: แบบบ้านของโครงการ ::::

บ้านภายในโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์ Urban Cottage แบบตะวันตก ที่ดูน่ารักและอบอุ่น ได้บรรยากาศเหมาะสมกับการพักผ่อน ด้วยเอกลักษณ์จาก Weather Wind Vane มาตรแสดงเส้นทางลมและบอกทิศ, Triangle Gable Vent & Corbel เกร็ดประดับหน้าจั่วและค้ำยันชายคา, Attic Window ช่องหน้าต่างประดับหน้าบ้าน, Siding Accented & Corner Trim ผนังกรู๊ฟร่องตกแต่งพร้อมบัวประดับมุม, Mulit – Panes ช่องหน้าต่างแบบพิเศษ และ Window Shutters บานเกร็ดประดับตกแต่งหน้าต่าง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 แบบ คือ

• Gable พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน (เนื้อที่ดินเริ่มต้น 52 ตร.วา)
• Pottery พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน (เนื้อที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา)
• Shelter พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน (เนื้อที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา)
• Cobely พื้นที่ใช้สอย 202 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน (เนื้อที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา)

แบบบ้าน Gable พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน

แบบบ้าน Pottery พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน

แบบบ้าน Shelter พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน

---

:::: บริเวณภายในโครงการ ::::

::: ทางเข้าโครงการ :::

บริเวณหน้าทางเข้าโครงการมีป้ายด้านหน้าอย่างชัดเจน ออกแบบให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของโครงการที่เป็นสไตล์ California Coastal เหมือนรีสอร์ตตากอากาศติดริมทะเล ที่มีความกว้างถึง 23 เมตร

การเข้า – ออกโครงการจะต้องผ่านซุ้ม รปภ. ซึ่งประกอบด้วย ป้อมยาม, กล้อง CCTV, รั้วไม้กระดก และระบบ Access Card แบบ Easy Pass

โดยที่ทั้งฝั่งทางเข้าและทางออกนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่องทาง ฝั่งซ้ายเป็นช่องของ Resident ที่ถือ Key Card สามารถเปิดรั้วไม้กระดกแล้วขับผ่านเข้าไปด้านในโครงการได้เลยโดยไม่เสียเวลา ส่วนฝั่งทางขวาเป็นช่องของ Visitors ที่ต้องทำการแลกบัตรและตรวจความปลอดภัยตามมาตรฐานของโครงการ

และที่ฝั่งทางเข้าและทางออกจะมีทางเดินยกระดับขึ้นมาจากพื้นถนนให้ลูกบ้านสามารถเดินเข้า – ออกจากตัวโครงการได้อย่างปลอดภัย

ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ อาคารทางฝั่งขวาที่เชื่อมกับซุ้มทางเข้า – ออกนั้นก็คืออาคารนิติบุคคลนั่นเองค่ะ

::: บริเวณภายในโครงการ :::

จากซุ้มทางเข้าโครงการเชื่อมต่อด้วยถนนหลักขนาด 16 – 23 เมตรตัดเข้าไปด้านในโครงการ

โดยตัดผ่านทะเลสาบ, สวนพักผ่อน และคลับเฮ้าส์ที่อยู่บริเวณหน้าโครงการฝั่งขวา ได้บรรยากาศเหมือนกำลังเข้ามาพักผ่อนในรีสอร์ตเลยค่ะ

ภาพบรรยากาศหน้าบ้านยูนิตที่ติดกับถนนหลักและใกล้ทางเข้า – ออก ทางโครงการจัด Landscape ด้วยไม้พุ่มมีดอกคลุมดินและต้นก้ามปูซึ่งจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่สร้างร่มเงาได้ดี ช่วยเพิ่มความร่มรื่นน่าอยู่ของโครงการและเป็น Buffer ระหว่างรั้วบ้านและทางเดินเท้าค่ะ

จากถนนหลักขนาด 16 เมตรจะเชื่อมต่อด้วยถนนหลักขนาด 12 เมตร และถนนซอยขนาด 9 เมตรตัดผ่านหน้าบ้านทุกหลัง

ภาพบรรยากาศภายในถนนซอยกว้าง 9 เมตร จะเห็นว่าที่หน้าบ้านแต่ละหลังยังคงมีทางเดินเท้าตัดผ่านจนไปถึงบ้านหลังท้ายสุด เพื่อให้ลูกบ้านสามารถเดินภายในโครงการจนกระทั่งออกไปถึงหน้าโครงการได้อย่างปลอดภัย

ภาพมองย้อนกลับออกไปที่ถนนหลัก

ภาพบรรยากาศภายในถนนซอยระหว่างบ้านตัวอย่างและคลับเฮ้าส์ค่ะ

ทางฝั่งซ้ายมือคือบ้านตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งให้ดูเป็นไอเดีย 2 แบบด้วยกัน

หลังแรกคือแบบบ้าน Pottery ขนาด 161 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน

หลังถัดไปคือแบบบ้าน Gable ขนาด 134 ตร.ม. มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ทางโครงการตกแต่งสวนหย่อมหน้าบ้านตัวอย่างได้น่ารักมากเลย เป็นสไตล์ Cottage Garden เข้ากันดีกับดีไซน์ของบ้านในโครงการ ใครที่ชอบสวนสไตล์นี้สามารถนำไปจัดในสวนบ้านตัวเองได้เลยนะ

::: คลับเฮ้าส์, สวนพักผ่อน และสนามเด็กเล่น :::

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะมีทางเข้าอยู่ 2 ทางด้วยกัน ทางแรกคือจากบริเวณถนนหลักหน้าโครงการ เชื่อมต่อจากสวนพักผ่อนเข้าไปด้านในคลับเฮ้าส์

อีกทางคือบริเวณซอยบ้านตัวอย่างเมื่อสักครู่ จะมีทางเดินตัดผ่านสวนสวยไปยังหน้าคลับเฮ้าส์

คลับเฮ้าส์ของโครงการจะมี 2 อาคารด้วยกัน ประกอบด้วย สำนักงานขาย, สระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนส

เราเดินเข้าไปดูพื้นที่ด้านในคลับเฮ้าส์ด้วยกันเลยค่ะ

อาคารด้านหน้าเป็นส่วนของสำนักงานขาย ภายหลังการขายทางนิติบุคคลจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้ลูกบ้านใช้ประโยชน์จากอาคารนี้อย่างไร

ชุดโต๊ะนั่งพักผ่อนรับลมชมสวนแบบสบาย ๆ

ส่วนแรกของอาคารคือ Foyer เป็นจุดพักคอยก่อนเข้าสู่ฟังก์ชันอื่น ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ด้านในคลับเฮ้าส์

ทางฝั่งซ้ายมือนี้เป็นห้องรับรองสำหรับลูกค้าที่มาเยี่ยมชมโครงการ ลูกบ้านก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อนได้ค่ะ บรรยากาศภายในก็ตกแต่งในสไตล์ Urban Cottage ใช้โทนสีที่ดูอบอุ่นเหมาะสำหรับการพักผ่อน ออกแบบให้ฝ้าเพดานสูงโปร่งเป็นฝ้าตีตามแนวลาดของหลังคา Gable โชว์โครงสร้าง ประดับด้วยโคมไฟเหล็กดัดดูสวยงาม พื้นที่ห้องถูกปิดล้อมด้วยผนังกระจก ทำให้ได้รับวิวจากสวนพักผ่อนและสระว่ายน้ำด้วย

พื้นที่ภายในห้องมีการชุดโซฟาและชุดโต๊ะเก้าอี้หลายมุมเพื่อรองรับคนได้หลายกลุ่ม อย่างตรงนี้จัดเป็นโซฟารูปตัว L ขนาดใหญ่พร้อมจอทีวี นอนเอนดูหนังได้สบาย

อีกมุมที่จัดเป็นชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและอาร์มแชร์พร้อมฉากกั้น สร้างมุมพักผ่อนที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นส่วนตัว

มุมผนังฝั่งหนึ่งของห้องจะมี Staff Room เป็นห้องของเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย และประตูทางออกไปยังโถงทางเดินที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำและทางออกไปยังสระว่ายน้ำกับห้องฟิตเนสค่ะ

ภาพบรรยากาศภายในโถงทางเดิน ส่วนปลายโถงนี้คือประตูทางออกไปยังสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนส ส่วนโถงด้านข้างคือประตูทางเข้าห้องน้ำหญิง

บริเวณโถงทางเข้าห้องน้ำหญิง

เดินเข้าไปด้านใน ส่วนแรกของห้องน้ำจะมีตู้ล็อกเกอร์สำหรับเก็บเสื้อผ้าและกระเป๋าเวลาลูกบ้านมาว่ายน้ำหรือออกกำลังกาย

การตกแต่งของห้องน้ำดูสวยงามน่าใช้งานเหมือนห้องน้ำในรีสอร์ตเลยค่ะ ฝ้าเพดานก็สูงโปร่ง แถมยังมีกระจกฝ้าขนาดใหญ่ด้านหลังอ่างล้างมือรับแสงธรรมชาติ ทำให้ห้องน้ำไม่มืดทึบหรืออับชื้น

ภายในห้องอาบน้ำ

ภายในห้องน้ำใช้โถสุขภัณฑ์ที่ติดตั้งฝารองนั่งอัจฉริยะด้วย

ส่วนอีกฝั่งของโถงคือห้องน้ำชายค่ะ

เดินเข้าไปในส่วนแรกจะมีตู้ล็อกเกอร์ให้เหมือนกัน

การตกแต่งห้องน้ำชายจะเหมือนห้องน้ำหญิงทุกประการเลยค่ะ ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือโถสุขภัณฑ์ของผู้ชายเท่านั้นเอง

คราวนี้เราเดินออกไปที่สระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสกันต่อ

ออกมาจากอาคารคลับเฮ้าส์อาคารแรกจะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำและอาคารคลับเฮ้าส์ด้านหลังหรือก็คือห้องฟิตเนสนั่นเอง ทางโครงการตกแต่งพื้นทางเดินด้วยทรายล้างและโรยหินกรวดแม่น้ำสีดำโดยรอบ เวลาพื้นเปียกก็จะไม่ลื่นหกล้มค่ะ

ฝั่งซ้ายมือของเราจะมีส่วน Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงว่ายน้ำ

พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนข้างสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำของโครงการเป็นสระระบบเกลือ มีขนาดใหญ่ถึง 210 ตร.ม. เลยค่ะ สามารถใช่ว่ายน้ำออกกำลังกายได้แบบจริงจังเลย พื้นสระและผนังภายในสระตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนดูสวยงามดี

ทางโครงการจัด Landscape โดยรอบสระด้วยต้นลีลาวดี เป็นต้นไม้ที่มีดอกให้กลิ่นหอม ช่วยลดความตึงเครียดสร้างความผ่อนคลายได้ดี ซึ่งต้นลีลาวดีนี่เหมือนสัญลักษณ์ของต้นไม้ในรีสอร์ตไปแล้วค่ะ

พื้นที่ข้างสระมีทางเดินเป็นเหมือนระเบียงพักผ่อนชมสวนอยู่ติดกับทะเลสาบหน้าโครงการ ได้บรรยากาศดีมาก

พื้นที่ใต้อาคารคลับเฮ้าส์ถูกจัดเป็น Pool Deck และสระเด็ก ส่วนพื้นที่ชั้น 2 คือห้องฟิตเนสค่ะ

บริเวณ Pool Deck มี Day Bed สำหรับนอนพักผ่อนชมวิวให้ 2 ตัว

นี่คือวิวที่ได้จากส่วน Pool Deck ค่ะ บรรยากาศที่ทางโครงการออกแบบขึ้นมาคือเหมือนกำลังพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตจริง ๆ ซึ่งสระว่ายน้ำก็ถูกออกแบบให้เป็น Infinity Edge Pool ดูเชื่อมต่อกับทะเลสาบหน้าโครงการ

ด้านในคือพื้นที่สระเด็กที่ถูกแบ่งส่วนออกจากสระใหญ่ไปเลยเพื่อความปลอดภัย มีขนาดถึง 23.8 ตร.ม.

เราเดินขึ้นมาบนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องฟิตเนสทั้งชั้นเลยค่ะ การเข้าใช้งานพื้นที่ส่วนนี้จะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูด้วยนะ

ห้องฟิตเนสก็ถูกตกแต่งในสไตล์ Urban Cottage เหมือนกันค่ะ ออกแบบให้ฝ้าเพดานสูงโปร่งเป็นฝ้าตีตามแนวลาดของหลังคา Gable ประดับด้วยโคมไฟเหล็กดัดดูน่ารักดี ออกแบบให้ผนังฝั่งสระว่ายน้ำและทะเลสาบเป็นผนังกระจกทั้งแถบ ทำให้ห้องสว่างเหมาะสำหรับการออกกำลังกาย เวลาเดินหรือวิ่งก็สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้

พื้นที่ผนังทึบอีกฝั่งวางม้านั่งสำหรับนั่งพักผ่อน มุมใกล้กระจกเงาวางชุดดัมเบลคละน้ำหนักพร้อมม้านั่งราบ ให้สามารถเช็กท่าทางเวลาออกกำลังกายได้

มุม Cardio จะหันหน้าออกฝั่งผนังกระจกทั้งหมดค่ะ มีลู่วิ่งไฟฟ้า 4 เครื่อง, เครื่องเดินวงรี 1 เครื่อง และจักรยานไฟฟ้าอีก 1 เครื่อง

ผนังในสุดมี Multi – Function Machine อีก 1 เครื่องค่ะ

เราเดินออกมาจากคลับเฮ้าส์มาดูที่สวนพักผ่อนกันบ้าง

บริเวณกลางสวนมีศาลาพักผ่อนอยู่ค่ะ เป็นไปได้ว่าทางโครงการจะจัดชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งชมสวนในให้ในอนาคต เพราะ ณ วันที่ผู้เขียนเข้าไปรีวิวโครงการยังไม่เปิดขายเลยนะคะ แต่สภาพโดยรวมของโครงการคือเรียบร้อยมากเกือบจะพร้อมเข้าอยู่ได้แล้ว

จากศาลาพักผ่อนมองออกไปทางฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่ สามารถใช้เป็นพื้นที่นันทนาการระหว่างครอบครัวและเพื่อนบ้านได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการตีแบตมินตัน เล่นโยคะ รำไทเก๊กกลางแจ้ง

ภาพบรรยากาศบริเวณสนามหญ้าหน้าคลับเฮ้าส์ มีพื้นทางเดินโดยรอบเชื่อมต่อมาจากบริเวณถนนหลักหน้าโครงการ

จากศาลาพักผ่อนมองออกไปทางฝั่งขวามือกันบ้าง ฝั่งนี้เป็นสวนของสนามเด็กเล่นค่ะ ทางโครงการออกแบบให้มีพื้นที่สนามหญ้าสำหรับวิ่งเล่นและเครื่องเล่นต่าง ๆ เพื่อพัฒนาการของกล้ามเนื้อและการเข้าสังคมของเด็กเล็กมาเป็นอย่างดี สำหรับพื้นสนามหญ้าทางโครงการเลือกใช้พื้นหญ้าจริง

ส่วนบริเวณเครื่องเล่นทางโครงการเลือกใช้พื้นหญ้าเทียมและพื้นยาง รองรับแรงกระแทกจากการล้มและช่วยกันไม่ให้เกิดแผลถลอกได้ดี ใช้สีสันสดใส ดูน่าสนใจและกระตุ้นการทำงานของสมองเด็ก

เครื่องเล่นที่ทางโครงการออกแบบให้มีทั้งเนินสำหรับปีนป่าย, ม้าลื่น, ชิงช้า และบ้านม้าลื่นขนาดใหญ่

รอบ ๆ บ้านม้าลื่นก็มีม้านั่งให้เด็ก ๆ สามารถนั่งพัก เดินทรงตัว หรือทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ได้

---

:::: บ้านตัวอย่าง ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านไปชมรายละเอียดของบ้านตัวอย่างแบบเจาะลึกเหมือนเช่นเคย นั่นก็คือ แบบบ้าน Gable พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน และ แบบบ้าน Pottery พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ไปชมกันเลยค่า

::: แบบบ้าน Gable พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. :::

แบบบ้าน Gable เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ออกแบบมาในสไตล์ Urban Cottage ในสีสันโทนพาสเทล ใช้สีฟ้าและสีขาวเป็นหลักและใช้วงกบสีขาว ดูน่ารักและอบอุ่น

แปลนชั้น 1 เริ่มจากหน้าบ้านเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คัน ก่อนเข้าบ้านมีพื้นเฉลียงยกระดับขึ้นมา ภายในบ้านจะเป็นพื้นที่โถง Living Area ขนาดใหญ่เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารต่อกันแบบเปิดโล่ง และเชื่อมสู่ ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง, โถงบันได และห้องครัวแบบปิด ซึ่งบริเวณหลังห้องครัวมีประตูสามารถเปิดเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ

แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของเจ้าของบ้านทั้งชั้น ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ฝั่งหน้าบ้านเป็นส่วนของ Master Bedroom ส่วนฝั่งหลังบ้านเป็นส่วนของห้องนอนรอง โดยห้องนอนชั้นบนทั้ง 2 ห้องนี้มีห้องน้ำให้ใช้ในตัวเลยค่ะ

รั้วบ้านบ้านมาตรฐานจะได้ประตูทางเข้าบ้านแบบบานเลื่อน 2 ตอนเป็นระแนงเหล็กทาสีขาว ที่รั้วหน้าบ้านติดตั้งไฟกิ่ง, Mailbox สกรีนเลขที่บ้าน, กริ่งออด และมีช่องสำหรับเก็บขยะให้

เข้ามาในพื้นที่บ้านส่วนแรกเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คันในร่ม ใช้พื้นคอนกรีตเสริมเหล็กปาดเรียบเซาะร่องและลงเข็มให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนฝ้าเพดานติดไฟ LED ให้ 1 ดวง

ทางโครงการจัดสวนให้ตามมาตรฐานอย่างสวยงามโดยเลือกใช้ไม้มงคลนานาชนิด บางส่วนก็ตกแต่งด้วยแผ่นทางเดินและโรยหินกรวดแม่น้ำให้ แม้จะเป็นพันธุ์ไม้ของเมืองร้อนก็ทำบรรยากาศให้มีกลิ่นอายแบบ Cottage Garden ได้

เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านแปลงมุมจึงมีพื้นที่สวนด้านข้างยื่นออกไปด้านหน้าด้วยค่ะ

พื้นที่สวนข้างบ้านเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร และสามารถเดินทะลุไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้

พื้นที่สวนอีกฝั่งมีก๊อกสนามให้สำหรับการรดน้ำทำสวนและการล้างรถ

เราตัดมาที่บ้านตัวอย่างที่ทางโครงการได้ตกแต่งเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียกันต่อเลยค่ะ บริเวณเฉลียงหน้าบ้านถูกยกระดับขึ้นไป 2 สเต็ปรวมเกือบ 30 ซม. พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. มีพื้นที่กว้างพอสามารถวางม้านั่งเพื่อนั่งพักผ่อนหรือเปลี่ยนรองเท้าได้ โดยที่มีฝ้าเพดานยื่นออกมาคลุมกันแดดฝน เวลาฝนตกก็สามารถเดินจากที่จอดรถขึ้นมาที่เฉลียงได้โดยไม่เปียกฝน

ประตู – หน้าต่างภายนอกทั้งหมดเป็นชุดประตูบานเลื่อน UPVC สีขาวของ Amigo ค่ะ ผิวสัมผัสจะดูละมุนนุ่มนวลกว่าอะลูมิเนียมเหมาะกับบ้านสไตล์ Urban Cottage ส่วนกระจกใช้กระจกเขียวตัดแสง ช่วยป้องกันรังสี UV ได้ดี

ด้านในตัวบ้านเป็นส่วนโถง Living Area เชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารแบบเปิดโล่ง และเชื่อมต่อไปยัง ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง, โถงบันได และห้องครัว พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม. (แต่บ้านตัวอย่างตกแต่งด้วยพื้นลามิเนตเพื่อคุมโทนสีและสไตล์ของบ้าน) ส่วนผนังบ้านเป็นผนัง Precast ฉาบเรียบทาสีขาว ทำการติดตั้งอย่างดี ตรงรอยต่อน้ำไม่รั่วซึม

สังเกตที่ผนังข้างบ้านจะได้หน้าต่างและประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่มาด้วย ทำให้ภายในตัวบ้านสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวันก็ได้ และยังได้ความรู้สึกที่เชื่อมต่อกับสวนข้างบ้าน ฝ้าเพดานภายในบ้านก็สูงโปร่งถึง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมติดดวงโคมดาวน์ไลต์ LED มาให้ทั้งหลัง

เรามาดูไอเดียการจัดตกแต่งบ้านด้วยกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากห้องนั่งเล่นกันก่อน ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะข้าง, โต๊ะกาแฟ และอาร์มแชร์อีก 1 ตัวมาให้ดูเป็นไอเดีย

เราสามารถเพิ่มพื้นที่นั่งพักผ่อนดูทีวีด้วยโซฟารูปตัว L ขนาดใหญ่แทนก็ได้นะคะ ยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลือตรงจุดที่วางชั้นวางของค่ะ

ระยะการดูทีวีจากโซฟาเกือบ 3 เมตร สามารถดูทีวีจอใหญ่ ๆ ขนาด 60 – 70 นิ้วได้เลย ซึ่งบริเวณผนังฝั่งนี้เราสามารถวางชั้นวางทีวีแบบลอยตัวหรือทำชั้น Built – In สำหรับเก็บของเพิ่มเติมได้

ภาพบรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นย้อนออกไปที่ฝั่งหน้าบ้าน

จากห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร ทางฝั่งซ้ายมือคือประตูห้องครัว ส่วนฝั่งขวามือคือประตูเชื่อมกับสวนข้างบ้าน

บ้านตัวอย่างวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง โดยที่ปลายโต๊ะเป็นตู้สำหรับเก็บของ ถ้ารวมขนาดแล้วคือสามารถวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งแทนได้เลยค่ะ จากห้องรับประทาอาหารมองผ่านประตูหน้าต่างออกไปก็ได้บรรยากาศของสวนสีเขียว ๆ ที่เราตั้งใจจัดเอง

เปิดประตูบานเลื่อนออกไปจะมีสเต็ปปูกระเบื้องให้ 1 ขั้นก่อนลงสู่พื้นดิน

ภาพบรรยากาศภายในห้องรับประทานอาหารอีก 1 มุม

จากโถงใหญ่เชื่อมต่อกับ ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง, โถงบันได และห้องครัว เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา

เพื่อความต่อเนื่องของฟังก์ชัน เราจะพาไปดูห้องครัวกันต่อเลยค่ะ เราได้ห้องครัวปิดโดยกั้นส่วนจากโถงใหญ่ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก สังเกตที่มุมผนัง ทางโครงการเพิ่มกระจกบานเข้ามุมให้อีก 1 บาน เพื่อให้ห้องครัวสามารถใช้แสงจากโถงกลางได้อีก 1 ทางค่ะ

พื้นห้องครัวลดระดับจากพื้นชั้น 1 ประมาณ 10 ซม. ปูด้วยกระเบื้องผิวด้านกันลื่นขนาด 40 x 40 ซม.

พื้นที่ภายในห้องครัวมีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ ทางโครงการวางเคาน์เตอร์ครัว, ตู้เย็น และเครื่องซักผ้ามาให้ดูพื้นที่ใช้สอยของห้อง

ซึ่งทางโครงการจะเตรียมเคาน์เตอร์แบบก่อปิดผิวด้วยกระเบื้องมาให้ในบ้านเปล่าแล้วด้วยนะ หน้าตาจะเป็นเหมือนกับในบ้านตัวอย่างเลย ส่วนที่วางเตาแก๊สทำลดระดับลง 10 ซม. เพื่อระยะการใช้งานที่สะดวกสบาย พร้อมติดเครื่องดูดควันมาให้แล้ว สิ่งที่ไม่ได้ให้มาก็คือตัวบานเปิดใต้เคาน์เตอร์ที่ลูกบ้านจะต้องทำเพิ่มเองในสไตล์ที่ตัวเองชอบค่ะ

ฝั่งที่ติดริมหน้าต่างบานเกล็ดเป็นจุดที่ทางโครงการวางอ่างล้างจานมาให้

จากห้องครัวมีประตูบานเปิด UPVC ติดลูกฟักกระจกยาว สามารถออกสู่ส่วนซักล้างได้ค่ะ

พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านก็มีขนาดใหญ่ทีเดียวนะ เพียงพอสำหรับซักล้างและตากผ้า โดยทางโครงการใช้พื้น คสล. ปาดเรียบ โครงสร้างเป็นคานคอดินแยกจากตัวบ้าน

พื้นที่หลังบ้านนี้ ทางโครงการได้เตรียมถังเก็บน้ำขนาด 1,000 ลิตรของ DOS และปั๊มน้ำ 200 วัตต์ของ Hitachi มาให้แล้วด้วยค่ะ

ภาพจากห้องครัวมองย้อนออกไปที่ห้องโถงใหญ่

ก่อนจะขึ้นไปดูชั้น 2 เรามาดูห้องน้ำและห้องนอนชั้นล่างกันก่อนค่ะ ซึ่งพื้นโถงทางเข้าทั้ง 2 ห้องนี้จะลดระดับลงไป 10 ซม.

พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปอีก 5 ซม.เพื่อกันน้ำไหลย้อน

ภายในห้องน้ำชั้นล่างวางแปลนจากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก ใช้สุขภัณฑ์จาก American Standard ทุกชิ้น ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม. ผิวด้านกันลื่น ผนังกรุด้วยกระเบื้องสีขาวและกระเบื้องลายทางตกแต่ง

ส่วนแรกคืออ่างล้างมือแบบแขวนผนังพร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยกและกระจกเงา ด้านหลังก่อ Lower Wall ให้ สามารถวางของได้มากขึ้น ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน

ด้านในติดริมหน้าต่างเป็นโซนอาบน้ำ ด้านข้างมีราวแขวนผ้าเช็ดตัวติดตั้งมาให้ แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจก Tempered Glass เพิ่มเติมเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

โดยที่พื้นส่วนอาบน้ำจะลดระดับลงไป 1 นิ้ว

ที่ผนังติดตั้งชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับและจานวางสบู่ อีกทั้งยังเตรียมสายสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้เรียบร้อย

เราเข้าไปดูในห้องนอนชั้นล่างกันต่อค่ะ สำหรับครอบครัวเริ่มต้นที่ยังมีสมาชิกไม่เยอะมากก็สามารถใช้ห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ อย่างที่บ้านตัวอย่างนี้ก็จัดให้เป็นห้องสำหรับทำงานอดิเรกของบรรดาเหล่าแม่บ้านที่ชอบการเย็บปักถักร้อย แต่ถ้าจัดให้เป็นห้องนอนก็สามารถรองรับเตียงขนาด 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และโต๊ะเครื่องแป้งได้ลงตัวเลย

นอกจากจะวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ตรงกลางห้องได้แล้ว ฝั่งผนังด้านข้างก็ทำเป็นโซฟาสำหรับนั่งพักอ่านหนังสือ และมีตู้เสื้อผ้าสำหรับแขวนเตรียมงานที่ต้องการทำต่อได้

สังเกตที่มุมผนังด้านบนจะมีพัดลมดูดอากาศ ทำงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ นวัตกรรมจาก Land and Houses ทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศภายในบ้าน โดยจะทำหน้าที่ดูดอากาศเก่าภายในห้องให้ระบายออกไปภายนอกบ้าน โดยจะติดตั้งเอาไว้ภายในห้องนอนทุกห้องค่ะ

บันไดทางขึ้นชั้น 2 ใช้โครงสร้าง คสล. มีความแข็งแรง ลูกตั้งเป็นผิวฉาบเรียบทาสี ลูกนอนปิดผิวด้วยไม้ยางอัดประสาน ฝั่งซ้ายราวจับบันไดเป็นผนังทึบปิดผิวตรงมือจับด้วยไม้ยางอัดประสานเช่นกัน ส่วนฝั่งขวาเป็นราวจับแบบโครงเหล็กฝังผนัง

ภาพมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 มีช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้โถงบันไดสว่างและโปร่งโล่ง

ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได จะมีพื้นที่ด้านข้างเหลือเล็กน้อยให้สามารถวางชั้นวางของหรือชั้นหนังสือได้

ขึ้นมาถึงชั้น 2 เราเจอกับโถงบันไดซึ่งเป็นทางเชื่อมสู่ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ฝั่งขวาเป็นฝั่งหน้าบ้านคือห้อง Master Bedroom และฝั่งซ้ายคือห้องนอนรองค่ะ ที่พื้นบนชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดตั้งดวงโคมดาวน์ไลต์ LED ให้เหมือนเดิม

เรามาดูภายใน Master Bedroom กันก่อนค่ะ พื้นที่ห้องมีขนาดกว้างขวางมากทีเดียว ยิ่งตกแต่งห้องด้วยโทนสีสว่างยิ่งทำให้ห้องดูโปร่ง เหมาะสำหรับการพักผ่อน

พื้นที่ห้องสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้เลยค่ะ ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียง 2 ข้างเพื่อวางโต๊ะข้างได้

ฝั่งปลายเตียงนอนสามารถวางชั้นวางทีวีและชั้นวางของขนาดใหญ่ได้สบาย โดยยังเหลือระยะเป็นทางเดินผ่านได้สะดวก

ส่วนพื้นที่อีกฝั่งของห้องสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ จะวางอาร์มแชร์หรือหมอนถั่วสำหรับนั่งเล่นเพิ่มอีกก็ได้ค่ะ

ภายในห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำให้ในตัว วัสดุและสุขภัณฑ์ที่ใช้จะแตกต่างจากห้องน้ำชั้นล่างเล็กน้อย

อ่างล้างมือและก๊อกน้ำใช้รุ่นเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ ด้านหลังอ่างมี Lower Wall ก่อเอาไว้ให้วางของเพิ่มได้ ส่วนกระจกเงาจะได้เป็นบานยาวเต็มผนังห้องน้ำเลย

ส่วนโถสุขภัณฑ์นั้นถูกอัปเกรดขึ้นมาโดยติดตั้งฝารองนั่งอัจฉริยะให้

ส่วนพื้นที่อาบน้ำด้านในก็มีขนาดใหญ่มากขึ้น จุดที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือฉากกั้นอาบน้ำกระจกบานเลื่อนและม้านั่งก่อสำหรับนั่งอาบน้ำค่ะ

ส่วนผนังด้านในก็ติดตั้งชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับและจานวางสบู่มาให้เหมือนเดิม

เข้ามาดูภายในห้องนอนรองกันต่อค่ะ จริง ๆ แล้วพื้นที่ของห้องนอนรองนั้นแทบไม่ต่างจาก Master Bedroom ได้เลยนะ แต่ว่ามีพื้นที่เล็กกว่านิดหน่อยค่ะ พอเปิดเข้ามาในห้องส่วนแรกที่เราเจอก็คือห้องน้ำ

วัสดุและสุขภัณฑ์ที่ใช้แทบจะเหมือนห้องน้ำชั้นล่างทุกประการ แตกต่างกันที่ลายกระเบื้องที่ใช้ตกแต่ง และกระจกเงาก็ได้บานยาวมาเต็มผนัง

อ่างล้างมือและก๊อกน้ำใช้รุ่นเดิมค่ะ

โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบการใช้งานก็ใช้รุ่นเดิม

พื้นที่อาบน้ำด้านในจะกว้างขึ้นมาหน่อย และมีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้แล้ว

ส่วนผนังด้านในก็มีชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับชุดเดิม ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือก็อกสนามค่ะ

ถัดจากห้องน้ำเข้าไปเป็นส่วนพักผ่อนภายในห้อง สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัวเหมือนกัน

บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตมาให้ดูพื้นที่ใช้สอย แต่จริง ๆ แล้วพื้นที่ของห้องนอนรองสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ค่ะ ต้องวางชิดผนังฝั่งขวานะ

พื้นที่ปลายเตียงนอนสามารถวางชั้นวางทีวีและโต๊ะเขียนหนังสือได้ ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินเดินผ่านได้สบาย พื้นที่ผนังด้านข้างก่อนถึงวงเปิดประตูยังเหลือระยะอีกหน่อย อาจจะวางชั้นวางของตัวเล็ก ๆ หรือราวแขวน Accessories แต่งตัวก็ได้ค่ะ

ส่วนพื้นที่ตรงผนังห้องน้ำก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ลงตัวพอดี

นอกจากนี้ ภายในโถงบันไดชั้น 2 จะติดตั้งแผงควบคุมสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic และ แผงควบคุมระบบ Air Plus ที่เรียกว่า LH Smart Home เป็นระบบที่แสดงถึงความเอาใจใส่ในด้านการอยู่อาศัยในระยะยาวของลูกบ้านอย่างแท้จริงจาก Land&House

โดยระบบ LH Smart นี้จะทำงานอัตโนมัติ จากพลังงานโซลาเซลล์ เป็นระบบถ่ายเทอากาศโดยภายในบ้านจะมีท่อพัดลมดูดอากาศ (ภายในห้องนอนทุกห้อง) แล้วผ่านทางท่อลมออกสู่ชายคาภายนอกบ้าน ช่วยลดความร้อน – ความชื้น, กลิ่นอับ ภายในบ้าน รวมถึงเป็นการช่วยถ่ายเทอากาศเก่าออกไป และดึงอากาศบริสุทธิ์เข้ามาภายในบ้าน

ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟที่ใช้ภายในบ้านจะเป็นของ Siemens ค่ะ

::: แบบบ้าน Pottery พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. :::

แบบบ้าน Pottery เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ออกแบบมาในสไตล์ Urban Cottage ในสีสันโทนพาสเทล ใช้เทาอมฟ้าและสีขาวเป็นหลักและใช้วงกบสีขาว

แปลนชั้น 1 เริ่มจากหน้าบ้านเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คัน ก่อนเข้าบ้านมีพื้นเฉลียงยกระดับขึ้นมา ภายในบ้านจะเป็นพื้นที่โถง Living Area ขนาดใหญ่เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารต่อกันแบบเปิดโล่ง และเชื่อมสู่ ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง, โถงบันได และห้องครัวแบบปิด ซึ่งภายในห้องนอนชั้นล่างมีประตูเปิดเชื่อมกับห้องน้ำชั้นล่างได้ และบริเวณหลังห้องครัวก็มีประตูสามารถเปิดเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านค่ะ

แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของเจ้าของบ้านทั้งชั้น ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ฝั่งหน้าบ้านเป็นส่วนของ Master Bedroom ส่วนฝั่งหลังบ้านเป็นส่วนของห้องนอน 2 และห้องนอน 3 โดย Master Bedroom มีห้องน้ำให้ในตัว ส่วนห้องนอน 2 และ 3 ใช้ห้องน้ำชั้นบนตรงกลางโถงบันไดร่วมกันค่ะ

รั้วบ้านบ้านมาตรฐานจะได้ประตูทางเข้าบ้านแบบบานเลื่อน 2 ตอนเป็นระแนงเหล็กทาสีขาว ที่รั้วหน้าบ้านติดตั้งไฟกิ่ง, Mailbox สกรีนเลขที่บ้าน, กริ่งออด และมีช่องสำหรับเก็บขยะให้

เข้ามาในพื้นที่บ้านส่วนแรกเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คันในร่ม ที่พื้นใช้คอนกรีตเสริมเหล็กปาดเรียบเซาะร่องและลงเข็มให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนฝ้าเพดานติดไฟ LED ให้ 1 ดวง

ทางโครงการจัดสวนให้ตามมาตรฐานอย่างสวยงาม บางส่วนก็ตกแต่งด้วยแผ่นทางเดินและโรยหินกรวดแม่น้ำ โดยรวมยังคงได้ Feeling ของความเป็น Cottage Garden ที่ใช้พันธุ์ไม้ที่เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยแทน

พื้นที่สวนข้างบ้านเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร และสามารถเดินทะลุไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้

พื้นที่สวนอีกฝั่งมีก๊อกสนามให้สำหรับการรดน้ำทำสวนและการล้างรถ

เราตัดมาที่บ้านตัวอย่างที่ทางโครงการได้ตกแต่งเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียกันต่อเลยค่ะ บริเวณเฉลียงหน้าบ้านถูกยกระดับขึ้นไป 2 สเต็ปรวมเกือบ 30 ซม. พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. มีพื้นที่กว้างพอสามารถวางม้านั่งเพื่อนั่งพักผ่อนหรือเปลี่ยนรองเท้าได้ โดยที่มีฝ้าเพดานยื่นออกมาคลุมกันแดดฝน

ประตู – หน้าต่างภายนอกทั้งหมดเป็นชุดประตูบานเลื่อน UPVC สีขาวของ Amigo ค่ะ ผิวสัมผัสจะดูละมุนนุ่มนวลกว่าอะลูมิเนียมเหมาะกับบ้านสไตล์นี้ ส่วนกระจกใช้กระจกเขียวตัดแสง ช่วยป้องกันรังสี UV ได้ดี

ด้านในตัวบ้านเป็นส่วนโถงใหญ่ Living Area เชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารแบบเปิดโล่ง และจะเชื่อมต่อไปยัง ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง, โถงบันได และห้องครัว พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม. (แต่บ้านตัวอย่างตกแต่งด้วยพื้นลามิเนตเพื่อคุมโทนสีและสไตล์ของบ้าน) ส่วนผนังบ้านเป็นผนัง Precast ฉาบเรียบทาสีขาว ทำการติดตั้งอย่างดี ตรงรอยต่อน้ำไม่รั่วซึม

สังเกตที่ผนังข้างบ้านจะได้หน้าต่างและประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่มาด้วย ทำให้ภายในตัวบ้านสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวันก็ได้ และยังได้ความรู้สึกที่เชื่อมต่อกับสวนข้างบ้าน ฝ้าเพดานภายในบ้านก็สูงโปร่งถึง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมติดดวงโคมดาวน์ไลต์ LED มาให้ทั้งหลัง

เรามาดูไอเดียการจัดตกแต่งบ้านด้วยกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากห้องนั่งเล่นกันก่อน ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะข้าง 2 ฝั่ง, โต๊ะกาแฟ, สตูล และอาร์มแชร์อีก 1 ตัวมาให้ดูเป็นไอเดีย ออกมาเป็นห้องนั่งเล่นที่ดูโปร่งสบาย ระยะของเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นไม่เบียดกันจนเกินไป หรือเราจะวางโซฟา L Shape แทนก็ได้นะคะ

ระยะการดูทีวีจากโซฟากว้างกว่า 3 เมตรอีกค่ะ สามารถดูทีวีจอขนาด 70 นิ้วขึ้นไปได้เลย ซึ่งบริเวณผนังฝั่งนี้เราสามารถวางชั้นวางทีวีแบบลอยตัวหรือทำชั้น Built – In สำหรับเก็บของเพิ่มเติมได้ ทางฝั่งซ้ายมือของผนังชั้นวางทีวีคือโถงทางเดินเข้าไปยังห้องครัว, ห้องน้ำ และโถงบันได ส่วนทางขวามือคือประตูห้องนอนชั้นล่าง

เราเข้ามาดูภายในห้องนอนชั้นล่างกันต่อ เป็นห้องที่เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้สูงอายุที่เดินขึ้น – ลงบันไดไม่สะดวกแล้ว พื้นที่ห้องมีขนาดใหญ่มากพอที่จะรองรับเตียงขนาด 5 ฟุตและชุดเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ สำหรับครอบครัวไหนที่ไม่ได้มีสมาชิกในครอบครัวหลายคนหรือไม่มีผู้สูงอายุ ก็สามารถปรับฟังก์ชันห้องนี้ใช้ได้ตามความเหมาะสม ถือเป็นห้องอเนกประสงค์ห้องหนึ่งเลยก็ได้ค่ะ

บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดีย พื้นที่ข้างเตียงนอนก็ยังเหลือสามารถวางโต๊ะข้างได้

โดยทางฝั่งขวาทำเป็นม้านั่งเล่นมุมติดหน้าต่างดูน่ารักดีค่ะ

พื้นที่ปลายเตียงนอนสามารถวางชั้นวางทีวีและโต๊ะเขียนหนังสือได้ โดยยังเหลือระยะปลายเดียงนอนที่เดินผ่านได้สะดวก

ส่วนพื้นที่ผนังหน้าห้องน้ำก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้พอดี

เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างนี้สามารถเข้าได้จาก 2 ฝั่งคือฝั่งห้องนอนชั้นล่างและฝั่งโถงภายนอก ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ที่ใช้ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการ ต่างกันตรงที่การวางแปลนของห้องเท่านั้น

ฝั่งซ้ายวางอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์รุ่นเดิม

ส่วนฝั่งขวาเป็นโซนอาบน้ำพร้อมชุด Hand Shower พื้นทำลดระดับลง 1 นิ้ว ตรงนี้แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเหมือนเดิมค่ะ

เราออกมาจากห้องนอนชั้นล่างมาดูห้องรับประทานอาหารกันต่อ สังเกตทางฝั่งซ้ายมือจะมีประตูเชื่อมกับสวนข้างบ้าน ถ้าครอบครัวไหนต้องการขยายครอบครัวหรือเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ก็สามารถทำห้องเพิ่มต่อจากประตูนี้ออกไปได้เลย

ส่วนทางฝั่งขวามือจะอยู่ติดกับโถงทางเดินที่เชื่อมไปยังห้องครัว, ห้องน้ำชั้นล่าง และโถงบันไดได้ โดยที่ห้องครัวมีช่องเปิดที่ผนังให้สามารถส่งต่ออาหารออกมาได้โดยตรง ไม่ต้องเดินอ้อมออกมา

ขนาดโต๊ะที่วางอยู่นี้เป็นโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งนะคะ สามารถเพิ่มเก้าอี้ได้อีกฝั่งละตัว ที่หัวโต๊ะก็เพิ่มได้อีก 1 ตัว

เราเดินเข้ามาด้านในโถง ทางฝั่งซ้ายคือห้องครัวปิด กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ส่วนฝั่งขวาคือทางเข้าห้องน้ำชั้นล่างจากฝั่งโถง

ห้องครัวของบ้านหลังนี้มีขนาดกว้างขวางมากขึ้นไปอีกค่ะ ช่วยกันทำครัวประมาณ 3 คนแบบสบาย ๆ ได้เลย

ฝั่งซ้ายทางโครงการวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าใต้เคาน์เตอร์เตรียมอาหาร ข้างกันวางตู้เย็นขนาดมาตรฐานแบบ 1 ประตูได้

ทางโครงการจะเตรียมเคาน์เตอร์แบบก่อปิดผิวด้วยกระเบื้องมาให้ในบ้านเปล่า หน้าตาเหมือนกับในบ้านตัวอย่างเลย ส่วนที่วางเตาแก๊สก็จะลดระดับลงให้ 10 ซม. เพื่อระยะการใช้งานที่สะดวกสบาย พร้อมติดตั้งเครื่องดูดควันและอ่างล้างจานมาให้แล้ว สิ่งที่ไม่ได้ให้มาก็คือตัวบานเปิดใต้เคาน์เตอร์ที่ลูกบ้านจะต้องทำเพิ่มเอง

จากห้องครัวสามารถออกสู่ส่วนซักล้างได้ พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านก็มีขนาดใหญ่ เพียงพอสำหรับซักล้างและตากผ้า โดยทางโครงการใช้พื้น คสล. ปาดเรียบ โครงสร้างเป็นคานคอดินแยกจากตัวบ้าน และมีสเต็ปจากตัวบ้านปูกระเบื้องให้อีก 1 ระดับ

สำหรับพื้นที่หลังบ้านนี้ ทางโครงการได้เตรียมถังเก็บน้ำขนาด 1,000 ลิตรของ DOS และปั๊มน้ำ 200 วัตต์ของ Hitachi มาให้แล้วด้วยค่ะ

บันไดทางขึ้นชั้น 2 ใช้โครงสร้าง คสล. มีความแข็งแรง ลูกตั้งเป็นผิวฉาบเรียบทาสี ลูกนอนปิดผิวด้วยไม้ยางอัดประสาน ฝั่งซ้ายติดราวจับบันไดเป็นโครงเหล็กฝังผนัง ตรงมือจับใช้ไม้ยางอัดประสานเช่นกัน

มองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 ที่ผนังฝั่งซ้ายมือมีช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้โถงบันไดสว่างและโปร่งโล่ง

ก่อนขึ้นชั้น 2 มีชั้นเล็ก ๆ ที่สามารถวางของตกแต่งบ้านได้ เป็นดีเทลที่น่ารักดีนะ

ขึ้นมาถึงชั้น 2 เราเจอกับโถงบันไดซึ่งเป็นทางเชื่อมสู่ห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ฝั่งซ้ายเป็นฝั่งหน้าบ้านคือห้อง Master Bedroom ตรงกลางโถงคือห้องน้ำชั้นบน และฝั่งขวาคือห้องนอน 2 และ 3 ค่ะ ที่พื้นบนชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดตั้งดวงโคมดาวน์ไลต์ LED ให้เหมือนเดิม

ภาพมองย้อนกลับไปที่ส่วนโถงบันได มีพื้นที่เล็ก ๆ เหลืออยู่บริเวณหน้าห้องนอน 3 เราอาจจะวางของตกแต่งห้องวางหิ้งพระขนาดเล็กก็ได้ค่ะ

เราเข้าไปดู Master Bedroom กันก่อน สังเกตที่หน้าห้องจะมีแผงควบคุมสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic และ แผงควบคุมระบบ Air Plus ติดให้อยู่

สิ่งที่โดดเด่นขึ้นมาจากบ้านหลังที่แล้วก็คือ ภายใน Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและมี Walk In Closet เพิ่มขึ้นมาค่ะ

เรามาดูพื้นที่ส่วนพักผ่อนกันก่อน

เราสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง แล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือโดยรอบอีกค่ะ

สำหรับพื้นที่ฝั่งปลายเตียงนอนสามารถวางโต๊ะทำงานและชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เหลือพื้นที่ทางเดิน

พื้นที่ด้านข้างวางอาร์มแชร์และโต๊ะตัวเล็ก ๆ ได้อีกตัว เป็นมุมอ่านหนังสือจิบกาแฟยามเช้าได้เลย

แล้วก็ยังเหลือพื้นที่อีก 1 มุมที่สามารถวางชั้นเก็บของหน้า Walk In Closet พอดี ตรงนี้เราจะเปิดโล่งให้พื้นที่เชื่อมต่อกัน หรือจะติดตั้งประตูบานเลื่อนเพื่อแยกส่วนก็ได้ค่ะ

พื้นที่ใน Walk In Closet มีขนาดใหญ่กำลังดี เราสามารถทำตู้ Built In ได้เต็มผนัง 1 ฝั่ง

ห้องน้ำของ Master Bedroom จะมีการอัปเกรดสุขภัณฑ์ขึ้นมาให้เหมือนบ้านหลังที่แล้ว

อย่างอ่างล้างมือก็ได้เป็นอ่างฝังครึ่งเคาน์เตอร์ และยังเหลือพื้นที่บนเคาน์เตอร์สำหรับวางของใช้อีกเยอะเลยค่ะ

โถสุขภัณฑ์นั้นถูกอัปเกรดขึ้นมาโดยติดตั้งฝารองนั่งอัจฉริยะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำด้านในก็มีขนาดใหญ่มากขึ้น จุดที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือฉากกั้นอาบน้ำกระจกบานเลื่อนและม้านั่งก่อสำหรับนั่งอาบน้ำ

ผนังด้านในก็ติดตั้งชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับและจานวางสบู่มาให้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเจาะผนังทำเป็นชั้นวางสบู่เพิ่มให้ 1 ช่องค่ะ

ห้องนอน 2 มีขนาดใหญ่มากเหมือนกัน แต่ว่าจะไม่มีห้องน้ำในตัวให้เหมือนบ้านหลังที่แล้ว พื้นที่ในห้องสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ได้ลงตัวแน่นอน

ส่วนบ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาค่ะ จะได้เหลือพื้นที่ในห้องสำหรับการทำอย่างอื่นมากขึ้น

ปลายเตียงนอนก็ยังสามารถวางชั้นเก็บของหรือชั้นวางทีวีได้ แต่ควรเลือกชั้นที่มีหน้าแคบหน่อยนะคะไม่งั้นจะเดินผ่านไม่สะดวก

พื้นที่อีกฝั่งของห้องสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนังได้ไม่แพ้ห้องนอนใหญ่ อีกทั้งยังวางโต๊ะทำงานได้สบายเลยค่ะ

สำหรับพื้นที่ห้องนอน 3 ก็ถือว่าไม่เล็กเลยนะคะ จัดเป็นห้องนอนก็ได้สบาย ๆ แต่บ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อนแทน

ตกแต่งด้วย Day Bed ขนาดใหญ่ นอนเอนอ่านหนังสือหรือนอนกลางวันสบาย ๆ

ตรง Built In สามารถทำเป็นชั้นวางของหรือชั้นหนังสือแทนได้

และยังเหลือพื้นที่วางโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัวขนาดมาตรฐาน

ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และการวางผังของห้องน้ำชั้นบนจะเหมือนกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการ

---

:::: ราคา (พฤษภาคม 2563) ::::

• Gable พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน (เนื้อที่ดินเริ่มต้น 52 ตร.วา) ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท
• Pottery พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน (เนื้อที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา) ราคาเริ่มต้น 7 – 8 ล้านบาท
• Shelter พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน (เนื้อที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา) ราคาเริ่มต้น 8 – 9 ล้านบาท
• Cobely พื้นที่ใช้สอย 202 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน (เนื้อที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา) ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท

• เงินจอง n/a บาท
• เงินทำสัญญา n/a บาท

• ที่ดินเพิ่ม – ลด ตร.วาละ n/a บาท
• ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ n/a บาท/เดือน (ชำระล่วงหน้า n/a ปี)

ลงทะเบียนรับสิทธิ์ VIP คลิก https://bit.ly/37eToW0

***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

---

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ สีวลี ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า ตั้งอยู่บนถนนเคหะร่มเกล้า เป็นทำเลใจกลางระหว่างรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ทั้ง Airport Link ลาดกระบัง, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และ สายสีส้ม เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู สามารถเดินทางเข้า – ออกผ่านถนนใหญ่ 4 เส้น คือ ถนนร่มเกล้า, ถนนตัดใหม่ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า, ถนนรามคำแหง และถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก จึงเชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้ง่าย

อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ไม่ว่าจะเป็นตลาดสด, ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านอาหาร ที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการในระยะเดินหรือขับรถไม่เกิน 5 นาที รวมถึงห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และโรงพยาบาล ที่สามารถขับรถไปได้สะดวก เช่น Big C ร่มเกล้า, The Paseo ลาดกระบัง, The PARK, Robinson Lifestyle ลาดกระบัง, Siam Premium Outlet, รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์, รร.สารสาสน์วิเทศน์ร่มเกล้า, ม.เกษมบัณฑิตร่มเกล้า และ รร.เทพศิรินทร์ ร่มเกล้า รวมถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ได้ความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยและสร้างครอบครัวในสังคมคุณภาพ จะเดินทางไปไหนก็สะดวก จะหาอาหารอร่อย ๆ รับประทาน ซื้อของกินของใช้ก็ง่ายค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เพราะจากถนนเคหะร่มเกล้าสามารถเชื่อมต่อถนนหลักทั้ง 4 เส้นได้ ไม่ว่าจะเป็น ถนนร่มเกล้า, ถนนตัดใหม่ศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า, ถนนรามคำแหง และถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก จึงสามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้สะดวก เพราะถนน 4 เส้นนี้ก็ไปเชื่อมต่อกับถนนสายหลักเส้นอื่น ๆ ซึ่งมีสถานที่สำคัญได้เช่นกัน ถ้าจะเข้าเมืองคือใช้เส้นร่มเกล้าวิ่งไปขึ้นมอเตอร์เวย์ได้เลย หรือจะออกเส้นศรีนครินทร์ – ร่มเกล้าไปเชื่อมกับกรุงเทพกรีฑาและศรีนครินทร์มุ่งหน้าพระราม 9 ได้ จะใช้เส้นรามคำแหงวิ่งไปเพชรบุรีก็ได้อีก หรือถ้าจะไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ใช้เส้นร่มเกล้าวิ่งตรงเข้าสุวรรณภูมิได้เลยค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ บนถนนเคหะร่มเกล้าจะมีทั้งรถสองแถว, รถเมล์ และรถตู้วิ่งผ่าน อาจไม่ได้มีหลายสายมาก แต่ว่าแต่ละสายนั้นก็จะพาไปยังจุดเปลี่ยนรถโดยสารใหญ่ ๆ ที่มีรถให้เลือกอีกหลายสาย ถ้าจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์หรือรถแท็กซี่ให้ไปส่งตามสถานีรถไฟฟ้าก็ง่ายค่ะ มีผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอด โดยลูกบ้านสามารถให้ยามหน้าโครงการเรียกรถให้ได้ หรือใช้ Application Grab Taxi & Line Taxi ก็จะช่วยประหยัดเวลาได้อีกเยอะ

สำหรับรถไฟฟ้าที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุดตอนนี้ก็คือ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีลาดกระบัง สามารถใช้เดินทางเชื่อมต่อไปยัง BTS สถานีพญาไท หรือใช้เข้าสุวรรณภูมิที่ห่างออกไปเพียง 1 สถานีได้สะดวก

ในอนาคตบนเส้นรามคำแหงจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (Underground) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี วิ่งผ่าน และบนเส้นศรีนครินทร์ ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ( Monorail) ช่วงลาดพร้าว – สำโรง อีกเช่นกัน โดย 2 สายนี้มีจุด Interchange ร่วมกันที่ สถานีลำสาลี เรียกได้ว่าเมื่อรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายได้เปิดใช้งานแล้วนั้น การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในย่านนี้ก็จะเป็นไปได้อย่างสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปสนามบิน, เข้าสู่ใจกลางเมือง, ไปฝั่งหมอชิต – สำโรง เรียกว่าครอบคลุมทั้งหมดแล้วค่ะ

การออกแบบโครงการ และวัสดุ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ที่ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมในยุโรปแถบชนบท หรือ Urban Cottage ผสานความทันสมัยเข้ากับกลิ่นอายของศิลปะร่วมสมัยอย่างกลมกลืน เน้นโทนสีแนว Pastel ให้ความรู้สึกอบอุ่น อ่อนหวาน และน่าอยู่

ฟังก์ชันในบ้านเน้นการใช้ประโยชน์อย่างเต็มพื้นที่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ลงตัวทุกการใช้งาน วัสดุที่ให้มาก็อยู่ในระดับดีสมราคา พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนมีความลงตัวดี มีระยะใช้งานสบาย ๆ ไม่อึดอัด บ้านทุกหลังมีเพดานสูงเฉลี่ย 2.6 เมตร และหน้าต่างบานใหญ่ช่วยนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้มาก และช่วยให้บ้านโปร่ง อากาศถ่ายเทดี

ส่วนวัสดุที่เราได้มากับบ้านมาตรฐานนั้นก็คือ ผนังบ้านฉาบปูนเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว ติดโคมไฟดาวน์ไลต์ LED, ลานจอดรถเป็นซีเมนต์ฉาบเรียบลงเสาเข็ม, พื้นบ้านชั้นล่างปูกระเบื้อง ขนาด 60 x 60 ซม. ชั้นบนปูพื้นลามิเนตหนา 8 มม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard ให้ชักโครกไฟฟ้าในห้องน้ำ Master Bedroom ประตูและหน้าต่างภายในบ้านบานใหญ่ กรอบ UPVC สีขาวของ Amigo ติดกระจกเขียวตัดแสง พร้อมสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic ที่ชั้นล่าง และระบบ Air Plus ภายในบ้าน

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ออกแบบออกมาได้ดี สวยงาม มีขนาดใหญ่เหมาะสมกับขนาดของโครงการ และสามารถใช้งานได้จริงตามมาตรฐานของ Land&House โดยออกแบบมาในสไตล์ Urban Cottage เข้ากับบริบททั้งหมดของโครงการ ประกอบด้วย อาคารคลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดมาตรฐาน พร้อมสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก, ห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน, พื้นที่สวนพักผ่อน และ สนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่น ที่ออกแบบให้เสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก

---

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 1198

WEBSITE : https://www.lh.co.th/

หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ