EP.1662 รีวิว เดอะ มิราเคิล เพชรเกษม 63 โครงการ 3 The Miracle Phetkasem 63 Project 3
Written by Gift Pannida
สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกคน วันนี้ทีมงาน HOMENAYOO จะขอพาไปชมโครงการทาวน์โฮมใหม่ ฝั่งเพชรเกษมกันบ้างค่ะ กับโครงการ The Miracle เพชรเกษม 63 โครงการ 3 จาก AKRA Land and House ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม.
เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนเพชรเกษม, ถนนเอกชัย, ถนนกัลปพฤกษ์ และ ทางด่วนได้ง่าย เชื่อมต่อสู่สาทร เพียง 20-30 นาที
รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ The Mall บางแค, BigC เพชรเกษม, Victoria Gardens เพชรเกษม 69, รร.สารสาสน์วิเทศ บางบอน, รร.กรพิทักษ์ศึกษา, รพ.เกษมราษฎร์ บางแค และ สวนสาธารณะบางแคภิรมย์ 70 ไร่
เดอะ มิราเคิล เพชรเกษม 63 โครงการ 3 เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์อังกฤษ หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่โครงการขนาด 27-0-92.3 ไร่ จำนวนบ้าน 272 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 146 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 22.1 ตร.วา เพิ่มพื้นที่แห่งความสุขให้มากกว่า ด้วยฟังก์ชั่นครบครัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท(มีนาคม 2563)
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ V Smart Club ฟิตเนสครบวงจร, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่, สวนสาธารณะภายในโครงการ ขนาด 1 ไร่, เข้า-ออกโครงการระบบ Easy Pass, CCTV รอบโครงการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ประมาณ ธันวาคม 2564
ชื่อโครงการ | เดอะ มิราเคิล เพชรเกษม 63 โครงการ 3 The Miracle Phetkasem 63 Project 3 |
เจ้าของโครงการ | AKRA Land and House |
ลักษณะโครงการ | ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร |
พื้นที่โครงการ | 27-0-92.3 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 272 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 22.1 ตร.วา |
พื้นที่ใช้สอย | 146 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | บางแค |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. |
กำหนดการ | บ้านตัวอย่างพร้อมเข้าชม |
ปีที่สร้างเสร็จ | ธันวาคม 2564 |
ราคา | เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* (มีนาคม 63) |
ค่าส่วนกลาง | 28 บาท/ตร.วา/เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | ใหม่! ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น เพิ่มพื้นที่แห่งความสุขให้มากกว่า ด้วยฟังก์ชั่นครบครัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ พร้อมการเดินทางที่สะดวกเข้า-ออกได้หลากหลายเส้นทาง และการเดินทางหลากหลายรูปแบบ
สะดวกทั้งการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เรือ รถสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัวเชื่อมถนนสายหลัก กัลปพฤกษ์-กาญจนาภิเษก ซอยเพชรเกษม 63 ซอยเพชรเกษม 69 เติมเต็มช่วงเวลาความสุขไปอีกขั้น เพราะติด V Smart Club ฟิตเนสครบวงจร และสวนสาธารณะบางแคภิรมย์ 70 ไร่ เพื่อให้คุณได้ทำกิจกรรมกับครอบครัวในช่วงเวลาที่ดีที่สุด |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม.
พิกัด : 13.684079, 100.390747
โครงการ The Miracle โครงการ 3 ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 63 หรือซอยวัดม่วง โดยพื้นที่ของตัวโครงการจะใช้ทางเข้าหลักร่วมกับ โครงการ The Miracle Plus โครงการ 2 และตัวโครงการ 3 นี้ จะอยู่ถัดเข้ามาจากโครงการ 2 ค่ะ
ถ้าวัดระยะจากซอยเพชรเกษม 63 เข้ามาถึงโครงการก็จะอยู่ที่ประมาณ 350 เมตร พื้นที่รอบๆในระยะใกล้กับตัวโครงการ จะเป็นที่ที่ดินเปล่าและบ้านดั้งเดิมแถวนี้ไม่กี่หลัง ทำให้บรรยากาศรอบๆโครงการมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่ในขณะเดียวกันบรรยากาศในซอยเพชรเกษม 63 กลับคึกคัก หาของกินของใช้ได้ง่าย เป็นย่านพักอาศัย มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า, ตลาดสด, สถานศึกษา และโรงพยาบาล เดินทางได้หลายเส้นทาง วิ่งเข้าถนนเพชรเกษม, ถนนเอกชัย และถนนพระราม 2 ได้ไม่ยาก และไม่ไกลจาก BTS สายสีน้ำเงิน และวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวก จากซอยเพชรเกษม 63 เอง จะเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นถนนเส้นหลัก วิ่งเข้าออกเมืองได้สะดวก นอกจากนั้นในซอยเพชรเกษม 63 เองก็จะมีซอยย่อยที่วิ่งเชื่อมไปออกได้ทั้ง ซอยเพชรเกษม 69 , ถนนบางบอน 3 และ ถนนกาญจนาภิเษก
สำหรับคนที่เข้า – ออกเมืองบ่อยๆ ตัวถนนเพชรเกษมเป็นเส้นที่ตัดมาจากวงเวียนใหญ่ สามารถวิ่งเข้าและออกเมืองยาวไปจนถึงต่างจังหวัดได้เลย และยังมีถนนสายสำคัญต่างๆที่ตัดผ่าน เช่น ถนนรัชดาภิเษก, ถนนจรัญสนิทวงศ์, ราชพฤกษ์, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนพุทธมณฑลสาย 1 , 2 , 3 , 4 , 5 นอกจากนี้ยังมีซอยย่อมเพชรเกษมที่เชื่อมไปออกเส้นอื่นๆได้อีก ส่วนถ้าจะไปยังถนนเอกชัย ก็วิ่งไปทางซอยเพชรเกษม 69 จะสะดวกกว่าเพราะไม่ต้องลัดเลาะมากมาย และถนนจะกว้างกว่า
ถนนเพชรเกษมนั้น เป็นถนนหลักเส้นยาวที่เป็นเส้นที่ขนานกับถนนบรมราชชนนี เส้นนี้ตรงไปยังนครปฐมได้ และตรงเข้าเมืองไปยังถนนตากสิน อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะไปพระราม 2 ตรงไปยังสาทรได้ และถ้าวิ่งขึ้นทางเหนือก็ยังเป็นเส้นที่สามารถตรงไปยังนนทบุรี เพราะถนนกาญจนาภิเษกเป็นเส้นวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ทำให้วิ่งออกไปต่างจังหวัดได้ไม่ยากค่ะ จากนนทบุรี ตรงไปอีกก็ไปปทุมธานี, อยุธยาได้
ส่วนเส้นที่วิ่งขนานเพชรเกษมคือถนนบรมราชชนนีนั้น ถ้าจะเข้าเมืองกรุงเทพไปทางปิ่นเกล้าก็วิ่งตามเส้นบรมราชชนนีได้เลย หรือจะวิ่งขึ้นคู่ขนานลอยฟ้าก็จะลงตรงใกล้สะพานปิ่นเกล้า เรียกได้ว่าเลี่ยงรถติดตามแยกต่างๆได้ถือว่าสะดวกเลยค่ะ
ทางด่วน เส้นที่เชื่อมต่อกับทางด่วนคือวงแหวนรอบนอกกาญจนา เป็นเส้นที่วิ่งรอบนอกกรุงเทพ เชื่อมต่อกับทางด่วนหลายสาย จุดขึ้นลงวงแหวนจะอยู่ตรงเส้นเพชรเกษมตัดกับกาญจนา ห่างจากโครงการประมาณ 8.9 กม.ค่ะ
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ปัจจุบันการเดินทางด้วยรถสาธารณะของโซนนี้สะดวกสบายขึ้นมาก โดยมีรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จและเปิดใช้งานแล้ววิ่งมาถึงตรง The Mall บางแค คือ MRT หลักสอง และกำลังดำเนินการก่อสร้างไปถึงสถานีปลายทางคือ สถานีพุทธมณฑล สาย 4 ซึ่งจะมีสถานีที่อยู่ใกล้ซอยเพชรเกษม 63 เลย นั่นคือ สถานีพุทธมณฑล สาย 2 ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 3.6 กม.ค่ะ สามารถนั่งไป interchange กับ BTS ได้ที่สถานี บางหว้า ที่วิ่งตรงไปยัง สยาม และสนามกีฬาแห่งชาติ และเชื่อมไปยังเส้นหมอชิต-แบริ่งได้ และมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สีลม โดยลง BTS ที่สถานีศาลาแดงค่ะ
ส่วนตัวเลือกการเดินทางอื่นๆ ไม่ไกลจากโครงการ ตรงวัดม่วงจะมีท่าเรือของคลองภาษีเจริญ ซึ่งเป็นเรือที่ตรงไปยัง BTS สถานีบางหว้าได้เลยค่ะ ถือว่าสะดวกมาก สำหรับรถโดยสารประจำทางสามารถมาขึ้นได้ตรงเส้นเพชรเกษม เส้นนั้นจะมีรถโดยสารหลายสายวิ่งผ่าน สะดวกทั้งขาเข้าและออกโดยตรงปากซอยเพชรเกษม 63 จะมีป้ายรถโดยสารอยู่พอดีค่ะ และมีสะพานลอยเพื่อข้ามไปอีกฝั่งได้สะดวกด้วย โดยรถโดยสารประจำทางที่ผ่านจะมี 7, 80, 80ก, 84, 91, 123, 157, 163, 165, 183, 547
อีกทั้งยังเลือกเดินทางด้วยรถสองแถวได้ เป็นรถสองแถวที่วิ่งจาก BTS บางหว้า ไปสุดสายที่พุทธมณฑลสาย 4 หรือเรียก Taxi วินมอเตอร์ไซค์ได้ไม่ยาก เรียกหน้าโครงการได้เลย
นอกจากนี้ตรงสถานี BTS บางหว้ายังมีจุดเชื่อมต่อเรือโดยสารคลองภาษีเจริญ โดยมีทางเดินเชื่อมมาที่ท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม โดยโครงการเดินเรือในคลองภาษีเจริญของกรุงเทพมหานคร มีจุดเริ่มต้นเส้นทางจากท่าเทียบเรือประตูน้ำภาษีเจริญถึงท่าเทียบเรือเพชรเกษม 69 รวมระยะทาง 11.5 กม. พร้อมด้วยท่าเทียบเรือจำนวน 15 ท่า ซึ่งประชาชนสามารถเชื่อมต่อการเดินทางจากรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ที่สถานีบางหว้า โดยเปิดให้บริการ 2 ช่วงเวลา คือ ระหว่างเวลา 06.00-09.00 น. และระหว่างเวลา 16.00-19.30 น. ของทุกวัน ถ้าจะนั่งมาโครงการก็ก็มาลงที่ท่าเรือเพชรเกษม 31
ความอุดมสมบูรณ์ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าในซอยเพชรเกษม 63 นี้จะมีร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้ออยู่พอสมควร หน้าโครงการเองก็จะมี 7-11 และกลุ่มร้านอาหารทานง่ายๆ ราคาเบาๆ 3 – 4 ร้าน ให้พึ่งพาในชีวิตประจำวันได้สบายๆ หรือถ้าเบื่อร้านหน้าโครงการก็ขับออกมาต้นซอย หรือมาทางส้นเพชรเกษม 69 ก็จะมีตลาดสด, ตลาดนัด อีกทั้งยังมีสถานศึกษา และโรงพยาบาลหลายแห่งค่ะ
ถ้าพูดถึงความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้าง จะเห็นชัดว่าส่วนใหญ่อยู่บนถนนเพชรเกษม จะมีตลาดสดและห้างร้านมากมายค่ะ มีสถานศึกษา, โรงพยาบาล, คอมมูนิตี้มอลเช่น Victoria Garden, และห้างใหญ่อย่าง Big C, The Mall บางแค, Season บางแค ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยในย่านนี้เลยค่ะ วันหยุดหรือช่วงเย็นก็มาเดินเล่น จับจ่ายและทานอาหารได้ หรือถ้าตลาดสดใหญ่ๆก็จะมี ตลาดสดบางแค โดยเส้นนี้จะมีโรงพยาบาล และสถานศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยสยามด้วย
ลัดเลาะออกไปที่เส้นกาญจนาฯ ก็จะมี The Explace ภายในมีร้านค้าร้านอาหารชั้นนำหลานแบรนด์ รวมถึง Tops Market, Watson และ Ocean Fitness Club ฟิตเนสที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ ข้างๆ กับ The Explace ก็จะมี Mc Donald ที่เปิดตลอด 24 ชม.ด้วยนะ
สรุปสถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้ เราใช้ถนนเส้นหลักคือถนนเพชรเกษม วิ่งตรงไปทางอ้อมน้อย ผ่าน The Mall บางแค และขับตรงต่อมาเรื่อยๆ เข้าซอยเพชรเกษม 63 แล้วขับตรงเข้าซอยไปประมาณ 2.6 กม. จะถึงทางเข้าหลักโครงการค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนเพชรเกษม > ซอยเพชรเกษม 63 > โครงการ The Miracle เพชรเกษม 63 โครงการ 3
เริ่มการเดินทางกันถนนเพชรเกษมฝั่งมุ่งหน้านครปฐม ตรงตามทางมาเรื่อยๆ ผ่านเดอะมอลล์บางแคทางขวามือ ตอนนี้เส้นเพชรเกษมจะติดหน่อยนะเพราะว่ากำลังสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – บางแคกันอยู่
จากนั้นให้สังเกตป้ายนครปฐม วิ่งตรงตามเส้นเพชรเกษมต่อไปค่ะ ถ้าออกซ้ายจะไปทางบางบัวทอง
ขับตรงกันมายาวๆ จะผ่านปั๊มน้ำมันทั้งปั๊ม Shell และ ปั๊มบางจาก
ขับตรงมาเรื่อยๆ จะถึงซอยเพชรเกษม 63 เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยค่ะ
พอเราเข้าซอยมาแล้ว เราจะขับตรงตามทางซอยมาเรื่อยๆเลย ระหว่างทางจะผ่าน 7-11 และ วัดม่วง พอเราขับมาประมาณ 2.6 กม. ก็จะเห็นป้ายทางเข้าโครงการทางขวามือ แล้วเราขับเข้าไปต่ออีกประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการค่ะ
เข้ามาในซอย บรรยากาศในซอยจะเป็นที่อยู่อาศัยไล่ยาวไปตลอดทาง หน้าปากซอยมีคิวพี่วินอยู่ สามารถขอเบอร์ไว้โทรเรียกเข้าไปรับได้
ระหว่างทางเราจะผ่านร้านอาหารหลายร้าน
นอกจากร้านอาหารแล้วก็ยังมีร้านสะดวกซื้อ 7-11
เข้ามาในซอยเรื่อยๆ จะเห็นป้ายโฆษณาโครงการ เราก็ขับตามทางไปเรื่อยๆ
ผ่าน 7-11 อีกสาขา
ขับมาเรื่อยๆ เราจะผ่านวัดม่วง
เข้ามาอีกหน่อยจะมีโครงการอาคารพาณิชย์ คือโครงการ The Miracle Plus เพชรเกษม 63 โครงการ 1 ที่มีร้านอาหารด้านในด้วย หลายร้านค่ะ
ผ่านเพื่อนบ้าน โครงการพฤกษา เพชรเกษม 63 – วงแหวน(2)
ขับต่อมาอีกสักพัก ให้เราสังเกต 7-11 ทางขวามือ พอเจอแล้วให้เตรียมชะลอเพื่อเลี้ยวเข้าโครงการทางขวามือ
ติดกับ 7-11 ก็จะถึงทางเข้าโครงการ The Miracle Plus เพชรเกษม 63 โครงการ 2 และ The Miracle เพชรเกษม 63 โครงการ 3 แล้วค่า
ขับเข้าถนนภายในโครงการมา ระหว่างทางจะลงต้นไม้ไว้ให้ ทำให้บรรยากาศร่มรื่น
เข้ามาในพื้นที่โครงการ จุดแรกจะเป็นอาคาร 4 ชั้น V Smart Club ที่ลูกค้าสามารถมาใช้บริการรายเดือน ในราคาพิเศษสุดๆได้ ที่มีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ สตรีม ซาวน่า และคลาสเรียนอื่นๆ อีกมากมาย
ด้านหน้าอาคารฟิตเนสจะมีที่จอดรถรองรับหลายคัน
ถัดเข้ามาจะเป็นโครงการรุ่นพี่ The Miracle Plus เพชรเกษม 63 โครงการ 2
เราเลี้ยวซ้ายตามป้ายเพื่อเข้าไปยังโครงการ 3 ที่เราจะรีวิวกันวันนี้ค่ะ
เข้ามาแล้วเราขับตามถนนไปแล้วเลี้ยวซ้าย
เลี้ยวซ้ายมาปุ๊ป เราก็จะถึงที่ตั้งโครงการ The Miracle เพชรเกษม 63 โครงการ 3 แล้วค่า
ตัวโครงการ
ตัวโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาด้านในที่ดินโครงการ ลึกเข้ามาจากซอยเพชรเกษม 63 ประมาณ 350 เมตร สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการจะเป็นที่ดินเปล่าทั้ง 3 ทิศ ยกเว้นด้านหลังโครงการที่จะติดกับคลองบางอ้าย ทำให้บรรยากาศโครงการมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก แต่ถ้าจะหาของกินของใช้ ก็ออกไปหน้าทางเข้าโครงการจะมี 7-11 และร้านอาหารรองรับให้ใช้ชีวิตประจำวันได้สบายๆค่ะ
ออกมาดูบรรยากาศหน้าทางเข้าโครงการกันก่อนค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านชั้นเดียวและเพิงร้านอาหาร
ติดกับทางเข้าโครงการทางฝั่งขวามือ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยว
ฝั่งตรงข้ามก็มีเปิดเป็นร้านต่างๆ
ติดกับโครงการทางฝั่งซ้ายมือเป็น 7-11
ถัดมามีกลุ่มร้านอาหาร 3 ร้าน มีทั้งข้าวราดแกง, อาหารตามสั่ง และก๋วยเตี๋ยว
มาตรงที่ดินโครงการกันบ้าง ติดกับโครงการ ทางขวามือเป็นที่ดินเปล่ากว้างๆ
ซ้ายมือก็เช่นกัน เป็นที่ดินเปล่าค่ะ
มีบ้านของชาวบ้านแถวนี้อยู่บ้าง 2 – 3 หลัง
ออกมาก็จะเจอ The Miracle Plus เพชรเกษม 63 โครงการ 2
ตัวโครงการ
ตัวโครงการ The Miracle เพชรเกษม 63 โครงการ 3 จะอยู่ถัดเข้ามาจาก The Miracle Plus เพชรเกษม 63 โครงการ 2โครงการนี้เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์อังกฤษ หน้ากว้าง 5.7 ม. มีทั้งหมด 271 ยูนิต + บ้านเดี่ยว 1 ยูนิต บนที่ดินทั้งโครงการ 27 – 0 – 92.3 ไร่
จาก Master Plan จะเห็นว่าตัวโครงการมีทางเข้าออกทางเดียว ด้านหน้าทางเข้าจะมี Main Gate พร้อมป้อม รปภ. และใช้ระบบ Key Card Access ในการเข้า – ออกโครงการ ส่วนถนนหลักในโครงการ กว้าง 12 ม. และถนนซอยกว้าง 9 ม. เป็นระยะที่สามารถขับรถสวนกันได้สบายๆ ถึงแม้จะมีรถจอดหน้าบ้านก็ยังสามารถขับสวนกันได้อยู่ค่ะ
ส่วนกลางภายในโครงการเองจะมีเฉพาะสวนสาธารณะ ขนาดประมาณ 1 ไร่ ส่วนส่วนกลางหลักของโครงการนี้สามารถออกไปใช้บริการ ฟิตเนสและสระว่ายน้ำได้ที่ V Smart Club บริเวณหน้า The Miracle Plus เพชรเกษม 63 โครงการ 2 ซึ่งลักษณะของตัวฟิตเนสนี้จะมีค่าบริการรายเดือน และคนนอกเข้ามาใช้งานเป็นสมาชิกคลับได้ แต่ลูกบ้านโครงการจะได้สิทธิพิเศษในส่วนของราคาค่าบริการรายเดือนที่ถูกกว่า (จากปกติ 1,800 บาท เหลือ 1,500 บาทค่ะ)
เรามาดูในตัวฟิตเนสกันก่อนนะคะ ที่ตั้งจะอยู่ก่อนถึงตัวโครงการ บริเวณด้านหน้า The Miracle Plus เพชรเกษม 63 โครงการ 2 เป็นตึกสูง 4 ชั้น
เข้ามาภายในอาคาร ส่วนแรกเป็นเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่
ถัดเข้ามาจะเป็นสำนักงานขาย พร้อมโมเดลโชว์โครงการอื่นๆของ Akralandandhouse
ออกมาด้านนอกตัวอาคารจะเป็นสระว่ายน้ำ มีแยกสระเด็กมาให้เรียบร้อย
ชั้น 2 จะเป็นห้องกว้าง ชั้นนี้เป็นโซนคาดิโอ มีลู่วิ่งเยอะมากๆค่ะ
นอกจากลู่วิ่งแล้วก็ยังมีจักรยานไฟฟ้า และ Elliptical พร้อมเซตออกกำลังกายแบบ Functional ชุดใหญ่
ติดกันจะเป็นห้องสำหรับคลาสปั่นจักรยาน
ชั้น 3 เป็นโซนเวทเทรนนิ่ง อุปกรณ์แน่นมากๆ
มีครบทั้ง Machine และ Free Weight
โซนดัมเบลชุดใหญ่
ติดกันจะแยกเป็นห้องสำหรับคลาสต่างๆ
มีอุปกรณ์เตรียมไว้ให้พร้อมใช้งาน
ด้านหน้าโครงการทำบรรยากาศทางเข้ามาน่ารักดีค่ะ สไตล์อังกฤษเบาๆ
ขวามือเป็นป้ายชื่อโครงการ ผนังใช้โทนเทาอ่อน ต้นไม้ประดับใช้ต้นไม้ที่มีฟอร์มชัดเจน
Main Gate แยกทางเข้า – ออก ฝั่งทางเข้ามีแยกทางคนเดินไว้ให้ด้วย ตรงกลางเป็นป้อม รปภ. ส่วนประตูใช้เป็น Double Security เป็นรั้วกั้นไม้กระดก และรั้วรางเลื่อน พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV ฝั่งละ 1 ตัว
เข้ามาภายในโครงการตอนนี้จะมีบ้านตัวอย่างพร้อมให้เข้าชมแล้วค่ะ
แบบบ้าน
แบบบ้านในโครงการจะมีแบบเดียว คือ
บ้านตัวอย่าง
มาชมบ้านตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ หน้าตาบ้านทั้งโครงการจะมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้สีโทนเทาอ่อน เข้ากับเฟรมประตู หน้าต่าง และประตูรั้วสีขาวทั้งหมด
ประตูรั้วหน้าบ้านได้เป็นบานพับ เหล็กซี่ สีขาว เปิดได้เต็มหน้ากว้างบ้าน ส่วนรั้วข้างบ้านของแปลงมุมจะได้เป็นรั้วเหล็กซี่ และทึบบางส่วน พร้อมติดตั้งกริ่งหน้าบ้านมาให้ทุกหลัง
เข้ามาในตัวบ้าน ส่วนแรกเป็นที่จอดรถ 2 จอด พื้นในบ้านมาตรฐานเป็นคอนกรีตปาดเรียบ On Ground โดยจะเทแยกจากตัวบ้าน
ถัดเข้ามาด้านในเป็นประตูทางเข้า และเฉลียงหน้าบ้านที่กว้างพอสมควร สามารถที่จะวางชั้นวางรองเท้าได้
จากหน้าบ้านตรงนี้เราจะเห็นช่องแสงที่เชื่อมกับโถงบันได ที่จะช่วยให้โถงบันไดได้รับแสงธรรมชาติ ดูโปร่ง ไม่ทึบ ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องเก็บของ ใช้พื้นที่ใต้บันได สามารถเก็บอุปกรณ์สำหรับทำสวนหรือซ่อมรถได้ และมีเต้าเสียบติดตั้งมาให้ 1 จุด
ประตูทางเข้าหน้าบ้านเป็นบานสไลด์ บานเปิดคู่ 2 ฝั่ง พร้อมบานฟิกซ์ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้าตัวบ้านได้มากขึ้น
มือจับประตูแบบเซาะร่อง และตัวล็อคมาตรฐานด้านใน
เข้ามาภายในตัวบ้าน ส่วนแรกเป็นพื้นที่โถงกว้างๆ เชื่อมฟังก์ชั่นจากห้องนั่งเล่นไปยังห้องทานอาหาร โดยความสูงฝ้าเพดาน 2.6 ม. พื้นปูกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบเรียบทาสีพื้นทั้งหลัง
ภายในห้องนั่งเล่นจะได้แสงธรรมชาติ 2 ฝั่ง จากประตูทางเข้าหลักหน้าบ้าน และหน้าต่างบานสไลด์ฝั่งข้างบ้าน ทำให้ห้องนี้รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และสามารถเปิดพร้อมๆกันเพื่อระบายอากาศได้ดี แต่ถ้าเป็นแปลงมาตรฐานก็จะไม่มีหน้าต่างข้างบ้านนะคะ
พื้นที่ในห้องนี้สามารถวางโซฟาขนาด 4 – 5 ที่นั่งได้สบายๆ
ฝั่งตรงข้ามพื้นที่วางโซฟาเป็นพื้นที่สำหรับทำชั้นวางทีวี หรือตู้โชว์ของสวยๆ ได้ ส่วนระยะดูทีวีประมาณ 2.5 เมตร เหมาะกับทีวีขนาดประมาณ 47″ – 50″ ค่ะ
ติดกับพื้นที่ชั้นวางทีวี จะเป็นห้องน้ำชั้น 1
ภายในห้องน้ำจะมีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย เพื่อรองรับการปรับฟังก์ชั่นห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนค่ะ
สุขภัณฑ์ที่ติดตั้งมาให้ เริ่มที่อ่างล้างมือแบบลอยตัว ติดตั้งมาพร้อมก๊อกน้ำเย็น ยี่ห้อ American Standard ขนาดอ่างค่อนข้างกว้างค่ะ
ส่วนพื้นที่โซนอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ American Stadard เช่นกัน โดยจะติดตั้งมาพร้อมถาดวางสบู่เซรามิค สีขาว ถ้าบ้านไหนมีอุปกรณ์อาบน้ำเยอะหน่อยก็จะต้องหาชั้นวาง หรือทำเคาน์เตอร์ใต้อ่างล้างมือเพิ่มนะ
พื้นที่สำหรับยืนอาบน้ำพอให้ยืนอาบได้พอดีๆ ถ้าไม่อยากให้โถสุขภัณฑ์เปียกก็สามารถกั้นม่านอาบน้ำเพิ่มได้ค่ะ
ติดกับที่อาบน้ำจะเป็นโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ American Standard แบบ Dual Flush พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ
ถัดเข้ามาจากส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่ห้องทานอาหาร
พื้นที่ตรงนี้สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 – 6 ที่นั่ง ได้ กำลังดีค่ะ ส่วนช่องแสงสำหรับแปลงมาตรฐานในห้องจะเป็นหน้าต่างฝั่งหลังบ้าน
ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะมีประตูเชื่อมออกไปสวนข้างบ้านด้วย ทำให้บ้านดูโปร่งขึ้นมากๆ และยังสามารถต่อเติมห้องเพิ่มที่สวนด้านนอกได้แบบในบ้านตัวอย่างอีกด้วยค่ะ
ติดกับห้องทานอาหารจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ตัวห้องมีหน้าต่างเป็นกระจกเข้ามุม ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น ทั้งจากในห้องและจากโซน Living ด้านนอกค่ะ
ซึ่งห้องอเนกประสงค์ของบ้านโครงการนี้ ถือว่ามีพื้นที่ใช้สอยในห้องที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง สามารถปรับเป็นห้องนอนได้
พื้นที่ในห้องวางเตียงเดี่ยวได้สบายๆ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ห้องนอน เช่น ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ครบ
อีกฝั่งทางโครงการทำมาให้ดูเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
จะเห็นว่ามีระยะการใช้งานได้สบายๆ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ ก็อาจจะต้องยอมลดขนาดตู้เสื้อผ้า และอาจจะไม่มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งนะคะ
กลับออกมาที่ห้องทานอาหาร ติดกันฝั่งหลังบ้านจะเป็นลานซักล้าง
พื้นที่ลานซักล้างในบ้านมาตรฐานจะมีลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน พร้อมเทพื้นและก่อกำแพงมาให้เรียบร้อย เพราะฉะนั้นถ้าใครจะมาต่อเติมครัวเพิ่มก็สามารถทำได้ง่ายเลยค่ะ
ลานซักล้างในบ้านมาตรฐานหน้าตาแบบนี้เลย เทพื้นปูนมาให้เต็มพื้นที่ พร้อมลงเสาเข็มมาให้เรียบร้อย
ให้ดูตัวอย่างการตกแต่ง Built – in ห้องครัว จะเห็นว่ามีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ทำครัวใหญ่ๆได้เลย
ติดกับครัวฝั่งซ้ายมือ ถ้าเป็นบ้านมาตรฐานแปลงมุมก็จะเชื่อมออกไปยังพื้นที่สวนข้างบ้าน
ทางโครงการทำมาให้ดูเป็นไอเดียว่าถ้ามีพื้นที่สวนกว้างหน่อย ก็สามารถทำ Glasshouse เก๋ๆ แบบนี้ได้เลย เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นได้อีกจุดนึง แต่สำหรับเมืองไทยต้องลองคำนวนความคุ้มค่ากับค่าไฟที่เราต้องใช้สำหรับเครื่องปรับอากาศเพิ่มด้วยนะ
กลับเข้ามาในครัว อีกฝั่งของห้องครัว ทางโครงการแบ่งพื้นที่กั้นห้องซักรีดไว้ให้ดูเป็นไอเดีย
ถ้าเราแบ่งพื้นที่ดีๆก็จะได้ห้องซักรีดสำหรับเก็บเสื้อผ้าของสมาชิกในครอบครัว พร้อมพื้นที่นั่งรีดผ้าได้เป็นสัดส่วนค่ะ
สำหรับบันไดเป็นบันไดสำเร็จรูป บริเวณโถงบันไดมีช่องแสงที่เราเห็นจากที่จอดรถ ช่วยให้โถงบันไดได้แสงธรรมชาติ ช่วยประหยัดค่าไฟ และทำให้บ้านดูโปร่งขึ้น
ส่วนราวจับบันไดก็จะมีติดตั้งมาให้ตั้งแต่ขั้นแรกเลย เดินขึ้นลงได้สะดวก
ชานพักบันไดแบ่งเป็น 2 ช่วง เป็นชานพักแบบสามเหลี่ยม
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีพื้นที่โถงหน้าห้องนิดหน่อย สามารถวางเก้าอี้นั่งพักผ่อน หรือวางตู้เก็บของได้อีก 1 จุด
ส่วนพื้นชั้น 2 ก็จะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทั้งชั้น เหมือนที่ชั้น 1 ค่ะ
เรามาดูในห้อง Master Bedroom กันก่อนค่ะ
ห้องนี้จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ได้พื้นที่หน้ากว้างของบ้านไปทั้งหมด ทำให้ห้องนี้มีพื้นที่การใช้งานกว้างขวางมาก สามารถแบ่งโซน Walk – in Closet ได้ และมีห้องน้ำ และระเบียงในตัว
พื้นที่การใช้งานในห้องสามารถวางเตียงคิงส์ไซส์ได้สบายๆ และยังมีพื้นที่ข้างเตียง สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงหรือโต๊ะทำงานได้
พอวางโต๊ะทำงานแล้วก็ยังมีพื้นที่ให้ใช้งาน เลื่อนเก้าอี้ เข้า-ออก ได้สบายๆ
ส่วนฝั่งปลายเตียงก็สามารถทำเป็นห้องแต่งตัว หรือ Walk – in Closet ได้ โดยในบ้านตัวอย่างเค้าก็จะกั้นห้องมาให้ดูแบบนี้ แต่จริงๆเราสามารถเลือกได้เองเลยค่ะ ว่าจะมาต่อเติมแบบไหน อาจจะใช้แต่ฉากกั้นโปร่งๆก็ได้ จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น
ภายใน Walk – in Closet สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าไซส์ใหญ่ๆได้เลย ใครแต่งตัวเก่งหน่อยก็ไม่ต้องห่วงนะ
ติดกันจะเป็นระเบียง มีประตูบานสไลด์ กระจกใส ที่ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง ที่นอกจากช่วยให้ห้องสว่างแล้ว ยังช่วยให้สาวๆแต่งหน้าง่ายขึ้นอีกด้วยนะ
ตัวระเบียงจะมีขนาดไม่กว้างมาก พอให้ปลูกไม้กระถางเล็กๆ เพื่อเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นบนชั้น 2 ได้
ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กดัด สีขาว รูปทรงมาตรฐานของทางโครงการ
กลับเข้ามาในห้อง อีกฝั่งของ Walk – in Closet จะเป็นห้องน้ำในตัว
ภายในห้องน้ำใช้วัสดุดูดีเลยค่ะ อุปกรณ์ติดตั้งมาให้ตามนี้ โดยผนังจะกรุกระเบื้องสีขาว พื้นใช้สีเทาเข้ม
สุขภัณฑ์ที่ติดตั้งมาให้ มีอ่างล้างมือขนาดใหญ่ ยี่ห้อ American Standard พร้อมโถสุขภัณฑ์ และสายชำระ, ที่วางกระดาษชำระ
ในโซนห้องอาบน้ำจะกั้นฉากกั้นกระจกแยกให้เป็นสัดส่วน พร้อมติดตั้งฝักบัว, ที่วางสบู่ และเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อย
พื้นที่สำหรับยืนอาบน้ำกว้างพอสมควร สามารถยืนอาบได้สบายๆ
กลับออกมาที่โถงชั้น 2 เราไปดูในส่วนห้องน้ำ และห้องนอนรองอีก 2 ห้อง กันต่อค่ะ
ติดกับห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องน้ำที่ห้องนอนรองทั้ง 2 ใช้แชร์กัน ภายในห้องน้ำติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานมาให้ครบ เหมือนในห้อง Master Bedroom เลย โดยจะใช้ของ American Standard ทั้งหมด
ในห้องอาบน้ำติดฉากกั้นกระจกนิรภัยมาให้ พร้อมติดตั้งฝักบัวและเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาพร้อม
ขนาดห้องอาบน้ำ กว้าง พอยืนอาบได้สบายๆ
เรามาดูในห้องนอนรองกันต่อ
เริ่มที่ห้องแรก พื้นที่ใช้งานในห้องกว้างเลยนะ สามารถจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆในห้องนอนได้ครบ ไม่อึดอัด ส่วนช่องแสงจะมีมา 2 ฝั่ง สามารถเปิดระบายอากาศพร้อมๆกันได้ดี
พื้นที่ในห้องสามารถวางเตียงควีนไซส์ได้สบายๆ หรือจะวางคิงส์ไซส์ก็ยังได้อยู่ค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงเหลือพอให้เดินผ่านได้สบายๆ มีเดินช่องสัญญาณทีวีมาให้พร้อม สามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังได้
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่ง สามารถวางโต๊ะทำงานตัวยาว หรือ Daybed ตัวเล็กๆได้ มีระยะใช้งานกำลังดี ไม่แคบค่ะ
อีกฝั่งก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ มีระยะให้ยืนเลือกเสื้อผ้าได้สบายๆ
มาต่อที่ห้องนอนรองอีกห้อง
ห้องนี้จะมีขนาดกระทัดรัดกว่าห้องที่แล้ว แต่พื้นที่ใช้งานยังถือว่ากว้างขวาง อยู่คนเดียวได้สบายๆค่ะ สามารถวางเตียงเดี่ยวได้
ถ้าวางเตียงเดี่ยว แล้วก็จะเหลือพื้นที่ให้จัดวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ระยะการใช้งานสบายๆ
ราคา(มีนาคม 2563)
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : The Miracle เพชรเกษม 63 โครงการ 3 ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 63 ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่ในย่านฝั่งธน พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่พักอาศัย ริมสองฝั่งทางถนนเพชรเกษมจะเป็นอาคารพาณิชย์ตึกแถว มีอาคารสำนักงานบ้าง ส่วนในซอยย่อยก็จะเป็นบ้านพักอาศัยของชุมชนย่านนี้
ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการออกแนวชุมชน มีร้านค้าร้านอาหารริมสองฝั่งทางถนนเพชรเกษมเป็นระยะๆ ตลาดสดใกล้ๆมีตลาดบางแค ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมี Seacon บางแค, The Mall, Tesco Lotus, Big C ส่วนร้านอาหารแนวๆนั่งชิวจะอยู่ฝั่งเส้นราชพฤกษ์ หลายร้านให้เลือก รวมไปถึงคอมมูนิตี้มอลล์ด้วยค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยเพขรเกษม 63 ซึ่งมีเส้นทางลัดเลาะไปออกทั้งซอยเพชรเกษม 69 และถนนกาญจนาภิเษก แต่การเดินทางหลักๆก็จะอยู่ที่ถนนเพชรเกษม ที่เป็นถนนหลักเส้นยาว วิ่งขนานกับถนนบรมราชชนนี เส้นนี้ตรงไปยังนครปฐมได้ และตรงเข้าเมืองไปยังถนนตากสิน อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะไปพระราม 2 ตรงไปยังสาทรได้ และถ้าวิ่งขึ้นทางเหนือก็ยังเป็นเส้นที่สามารถตรงไปยังนนทบุรี เพราะถนนกาญจนาภิเษกเป็นเส้นวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ทำให้วิ่งออกไปต่างจังหวัดได้ไม่ยากค่ะ จากนนทบุรี ตรงไปอีกก็ไปปทุมธานี, อยุธยาได้
ส่วนเส้นที่วิ่งขนานเพชรเกษมคือถนนบรมราชชนนีนั้น ถ้าจะเข้าเมืองกรุงเทพไปทางปิ่นเกล้าก็วิ่งตามเส้นบรมราชชนนีได้เลย หรือจะวิ่งขึ้นคู่ขนานลอยฟ้าก็จะลงตรงใกล้สะพานปิ่นเกล้า เรียกได้ว่าเลี่ยงรถติดตามแยกต่างๆได้ถือว่าสะดวกเลยค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ที่ตั้งโครงการเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวมากกว่า เพราะหน้าโครงการไม่มีรถโดยสารประจำทางวิ่งผ่าน ส่วนแท็กซี่พอมีให้เรียกเป็นระยะ แต่ไม่ไกลกันนั้นตรงวัดม่วงจะมีท่าเรือของคลองภาษีเจริญ ซึ่งเป็นเรือที่ตรงไปยัง BTS สถานีบางหว้าได้เลยค่ะ ถือว่าสะดวกมาก สำหรับรถโดยสารประจำทางสามารถมาขึ้นได้ตรงเส้นเพชรเกษม เส้นนั้นจะมีรถโดยสารหลายสายวิ่งผ่าน สะดวกทั้งขาเข้าและออกโดยตรงปากซอยเพชรเกษม 63 จะมีป้ายรถโดยสารอยู่พอดี และตรงหน้าโครงการจะมีวินมอเตอร์ไซค์ สามารถเรียกให้ไปส่งหน้าปากซอยได้ไม่ยากค่ะ
สำหรับรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ MRT หลักสอง ที่สามารถเชื่อมกับ BTS บางหว้าได้ ถือว่าไม่ไกลจากโครงการมากนัก ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางเข้าเมืองได้ และโครงการในอนาคตก็จะมีต่อขยายมาจนถึงพุทธมณฑลสาย 4 ค่ะ
การออกแบบโครงการและแบบบ้าน : โครงการนี้เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์อังกฤษ ที่เน้นตัวบ้านหน้ากว้าง และพื้นที่ในตัวบ้านที่สามารถใช้งานได้จริง จุดเด่นคือมีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ที่มีพื้นที่ใช้งานที่สามารถปรับเป็นห้องนอนรองรับสมาชิกในบ้านที่เป็นผู้สูงอายุได้
และจุดเด่นอีกอย่างคือ ลานซักล้างหลังบ้านมีลงเสาเข็มมาให้เท่าตัวบ้าน พร้อมเทพื้นและมีกำแพงมาให้เรียบร้อย ทำให้สะดวกในการต่อเติมเป็นห้องครัว, ห้องซักรีด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัวค่ะ
ส่วนสเปควัสดุที่ให้มาถือว่ามาตรฐาน พื้นชั้น 1 และ 2 ปูกระเบื้องเซรามิค, ผนังฉาบเรียบทั้งหลัง, สุขภัณฑ์ American Standard พร้อมเดินระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
สิ่งอำนวยความสะดวก : สวนกลางภายในตัวโครงการจะมีเฉพาะสวนสาธารณะ ขนาด 1 ไร่ ส่วน Facility หลักคือ ฟิตเนสและสระว่ายน้ำ จะใช้ร่วมกับโครงการ 2 คือ V Smart Club ที่จะมีค่าบริการเพิ่มเติม เหมือนเวลาเราไปสมัครยิมข้างนอกค่ะ แต่มีข้อดีกว่าคือ ยิมที่นี่มีอุปกรณ์ครบมาก ที่สำคัญคือใกล้บ้าน และได้ราคาพิเศษ ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษของลูกบ้าน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 087-2222-922, 098-902-4499
Website : http://www.akralandandhouse.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น