Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo มีรีวิวโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูระดับ Flagship จาก Major Development มาให้คุณผู้อ่านได้ชมกันค่ะ และนั่นก็คือโครงการ Malton Gates กรุงเทพกรีฑา บนถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กทม.
เดินทางสะดวกเชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้หลายสาย ใกล้มอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ Market Place กรุงเทพกรีฑา, The Park, รร.นานาชาติ Brighton College Bangkok, รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ เป็นต้น
มอลตัน เกทส์ กรุงเทพกรีฑา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury Wellness Residence สไตล์ Modern Classic 3 ชั้น เอกสิทธิ์พิเศษเพียง 49 ครอบครัว บนพื้นที่ขนาดประมาณ 21 ไร่ พร้อมแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ บนแปลงที่ดินขนาด 71-385 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 403-554 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้าน 4-5 ห้องนอน, 4-5 ห้องน้ำ, 1 ห้องน้ำรับแขก, 2 ห้องนั่งเล่น, 1-2 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3-5 คัน พร้อมลิฟต์ส่วนตัว*
โดดเด่นด้วยพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารแบบ Double Volume พื้นที่อเนกประสงค์ Multi-Function Space รองรับการใช้ชีวิตในอนาคต และ Courtyard ส่วนตัว
ภายใต้แนวคิด The Gates to Well-Living โดยร่วมพัฒนากับสถาบันชั้นนำด้านสุขภาพ (Wellness Institution) เพื่อให้เป็นบ้านที่ตอบโจทย์สุขภาพแบบองค์รวม ทุกพื้นที่เน้นการออกแบบให้รับแสงธรรมชาติ พร้อมระบบหมุนเวียนอากาศ และใช้วัสดุปลอดสารพิษ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน มี Clubhouse A กับฟังก์ชัน Main Lobby Lounge, Study Room, Meeting Room, Private Spa, Fitness Room และ Private Gym และ Clubhouse B กับฟังก์ชัน Co-Kitchen และ Co-Working Space นอกจากนี้ยังมี Swimming Pool ยาวกว่า 25 เมตร, พร้อมพื้นที่สวนพักผ่อน และสนามเด็กเล่น อุ่นใจกับ Double Gate Security ระบบรักษาความปลอดภัยสุดพรีเมียมตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 38-80 ล้านบาท* (พ.ย. 65)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก http://bit.ly/3hNDTi0
เราไปดูกันเลยค่ะว่าโครงการนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ชื่อโครงการ | มอลตัน เกทส์ กรุงเทพกรีฑา Malton Gates Krungthep Kreetha |
เจ้าของโครงการ | บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น ระดับ Super Luxury |
พื้นที่โครงการ | ประมาณ 21-0-8 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 49 หลัง |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 71-385 ตร.ว. |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 403-554 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4-5 ห้องนอน, 4-5 ห้องน้ำ, 1 ห้องน้ำรับแขก, 2 ห้องนั่งเล่น, 1-2 ห้องแม่บ้าน |
ที่จอดรถทั้งหมด | 3-5 คัน |
โซน | กรุงเทพกรีฑา |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กทม. |
กำหนดการ | Presale พ.ย. 65 |
ปีที่สร้างเสร็จ | n/a |
ราคา | 38-80 ล้านบาท* (พ.ย. 65) |
ค่าส่วนกลาง | 70 บาท/ตร.ว./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
Tel |
02-116-1111 |
Website | http://bit.ly/3hNDTi0 |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กทม.
พิกัด : 13.754815, 100.687991
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Malton Gates กรุงเทพกรีฑา ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ภายในซอยบางกอกแลนด์ประมาณ 350 เมตรจากถนนใหญ่ค่ะ ถ้าดูจากสภาพแวดล้อมของทำเลแล้ว จะเห็นว่าช่วงหลัง ๆ นี้มีโครงการบ้านเดี่ยวระดับ High-End ราคาหลักสิบล้านขึ้นไป ได้ถูกนำมาพัฒนาอยู่บนทำเลนี้อีกหลายสิบโครงการ
เนื่องจากบรรดา Developer ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลที่ขยับขยายมาจาก CBD ที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญได้หลายสาย เช่น ถนนศรีนครินทร์, ถนนรามคำแหง, ถนนพระราม 9, มอเตอร์เวย์ และถนนกาญจนาภิเษก ทำให้เชื่อมต่อกับตัวเมืองชั้นในได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นทำเลที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟฟ้าถึง 3 สายอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ เป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก เพราะเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้ง่าย โดยทำเลของโครงการนั้นสะดวกทั้งการเดินทางเพื่อเข้าตัวเมืองชั้นใน และการเดินทางเพื่อออกไปทางจังหวัดโซนตะวันออก
สำหรับขาเข้าเมือง ให้กลับรถจากถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า มุ่งหน้าแยกกรุงเทพกรีฑา-หัวหมาก ผ่านถนนศรีนครินทร์ แล้วเชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 9 เพื่อเข้า CBD หรือเชื่อมต่อถนนพัฒนาการ เพื่อตรงเข้าถนนเพชรบุรี จากนั้นจะไปถนนสุขุมวิท หรือถนนเส้นอื่น ๆ ในเมืองก็ง่ายแล้วค่ะ
หรือใช้ทางด่วนศรีรัชวิ่งเข้าเมืองไปเลยก็ประหยัดเวลาดีในชั่วโมงที่เร่งรีบ โดยจุดขึ้นทางด่วนจะอยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนพระราม 9 และถนนศรีนครินทร์ โดยวิ่งจากโครงการไปราว ๆ 10 กม.
สำหรับขาออกนอกเมือง เราสามารถใช้ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า วิ่งไปเข้าถนนร่มเกล้า แล้ววิ่งลงไปทางสุวรรณภูมิ หรือเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ ใช้ออกไปทางฉะเชิงเทรา-ชลบุรีได้สะดวก โดยจุดขึ้นมอเตอร์เวย์จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 11 กม.
นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ทางคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษก ในการวิ่งลงไปทางบางนา เชื่อมต่อสุวรรณภูมิ หรือวิ่งขึ้นไปเชื่อมสู่ ถนนรามคำแหง, ถนนเสรีไทย และ ถนนประเสริฐมนูกิจ ได้โดยไม่ต้องไปกลับรถไกลอีกด้วย เพราะจากซอยบางกอกแลนด์ จะเชื่อมต่อกับซอยกาญจนาภิเษก 12 ใช้วิ่งออกทางคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษกได้เลยค่ะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บนถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าสามารถเรียกแท็กซี่ผ่าน Application ต่าง ๆ ได้สะดวก ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดตอนนี้ก็คือ Airport Link สถานีลาดกระบัง นั่งรถไปประมาณ 10.8 กม. ถึง สามารถใช้เดินทางเชื่อมต่อไปยัง BTS สถานีพญาไท หรือใช้เข้าสุวรรณภูมิที่ห่างออกไปเพียง 1 สถานีได้สะดวกค่ะ
ในอนาคตบนเส้นรามคำแหงจะมี โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (Underground) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วิ่งผ่าน และบนเส้นศรีนครินทร์ก็จะมี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (Monorail) ช่วงลาดพร้าว-สำโรง อีกเช่นกัน โดย 2 สายนี้มีจุด Interchange ร่วมกันที่ สถานีลำสาลี เรียกได้ว่าเมื่อรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายได้เปิดใช้งานแล้วนั้น การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในย่านนี้ก็จะเป็นไปได้อย่างสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปสนามบิน, เข้าสู่ใจกลางเมือง, ไปฝั่งหมอชิต-สำโรง เรียกว่าครอบคลุมทั้งหมดแล้วค่ะ
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน ทั้ง สนามบินดอนเมือง-สนามบินสุวรรณภูมิ–สนามบินอู่ตะเภา และการขยายสนามบินสุวรรณภูมิขึ้นอีกเฟส เพื่อที่จะสามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น ยิ่งทำให้ทำเลนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น
ความอุดมสมบูรณ์ ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า เป็นถนนเส้นที่ตัดใหม่ก็จริง แต่ว่าตอนนี้ช่วงที่ใกล้กับแยกกรุงเทพกรีฑา-หัวหมาก จะมีพวก Shopping Mall ใหม่ ๆ ขึ้นอยู่หลายแห่งเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น Market Place, The Park, Market Today, Kurve 7, Marche ในระยะ 5 กม. มีแล้วถึง 5 แห่งที่ให้ไปเดินเล่นชอปปิงกันได้
(ที่มาภาพ : https://www.smeleader.com/, https://the-park-shopping-center.business.site/)
หรือถ้าออกไปเส้นลาดกระบังก็จะมี The Paseo เป็น Community Mall ขนาดใหญ่ รวมถึง Robinson Lifestyle ลาดกระบัง ที่อยู่ติดกัน ถือเป็นจุดศูนย์รวมของคนในย่าน รวมทั้งพนักงานของสายการบินต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ของสนามบินสุวรรณภูมิ
(ที่มาภาพ : https://th.wikipedia.org, http://www.painaidii.com, https://www.wongnai.com)
โซนข้างเคียงอย่าง เส้นศรีนครินทร์ มี Seacon Square, ตลาดนัดรถไฟ และ Paradise Park ส่วน เส้นรามคำแหง ก็มี Sammakorn Place, ตลาดสัมมากร, Golden Place, Market Place, The Paseo Town, Home Pro และ Big C จนไปถึงแยกลำสาลี ตรงนั้นจะมี The Mall บางกะปิ เป็นห้างขนาดใหญ่
นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษาและโรงพยาบาลชั้นนำอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น รร.นานาชาติ Brighton College Bangkok, รร.นานาชาติ Wellington, รร.นานาชาติ ASCOT, รพ.สมิติเวช, รพ.วิภาราม, รพ.รามคำแหง เป็นต้นค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
เรามาดูการเดินทางไปสู่ตัวโครงการกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนกรุงเทพกรีฑา > ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) > ซอยบางกอกแลนด์ > Malton Gates กรุงเทพกรีฑา
เราเริ่มต้นการเดินทางบนถนนกรุงเทพกรีฑา มุ่งหน้าไปทางฝั่งร่มเกล้า โดยจุดที่เราเริ่มเดินทางจะอยู่เลยมาจากทางต่างระดับข้ามถนนศรีนครินทร์ค่ะ
ตรงไปเรื่อย ๆ สังเกตป้ายร่มเกล้าเอาไว้
ให้เราชิดขวาแล้วลงอุโมงค์ทางลอดกรุงเทพกรีฑาค่ะ
ขึ้นมาจากทางอุโมงค์เราจะเชื่อมสู่ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่แล้ว
ตรงไปเรื่อย ๆ เราจะผ่าน Market Place ทางฝั่งซ้ายมือ
ตรงไปเรื่อย ๆ ก่อนออกถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เราจะเห็นปั๊มน้ำมัน ปตท. อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ให้เราชิดซ้ายเลยค่ะ
ติดกับปั๊มน้ำมัน เราจะเห็นป้ายโครงการ Malton Gates กรุงเทพกรีฑา ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยบางกอกแลนด์ได้เลย
จากซอยบางกอกแลนด์ เราตรงเข้าไปประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงโครงการ Malton Gates กรุงเทพกรีฑา แล้ว
ทางเข้าโครงการ Malton Gates กรุงเทพกรีฑา จะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของเราแล้วค่า
ภาพบรรยากาศหน้าโครงการ Malton Gates กรุงเทพกรีฑา
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ที่ดินของโครงการ Malton Gates กรุงเทพกรีฑา จะตั้งอยู่ภายในซอยบางกอกแลนด์ เข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 350 เมตร ทำให้ได้ความเงียบสงบมากกว่า และพื้นที่ส่วนใหญ่ภายในซอยจะเป็นโครงการบ้านจัดสรรในระดับใกล้เคียงกัน นอกจากนั้นยังคงเป็นผืนที่ดินเปล่า ทำให้บรรยากาศภายในซอยมีความน่าอยู่ เป็นส่วนตัว และไม่มีความจอแจค่ะ
และนี่ก็คือภาพบรรยากาศภายในซอยบางกอกแลนด์บริเวณด้านหน้าโครงการค่ะ ภายในซอยเป็นถนนขนาด 2 เลนที่มีความกว้างขวางพอสมควร รถขับสวนกันได้สะดวก ถนนก็ดูสะอาดสะอ้านดี
จากหน้าโครงการมองตรงออกไปก็จะเห็นถนนใหญ่ ใกล้นิดเดียว ใช้เวลาขับออกไปไม่ถึงครึ่งนาที แต่ก็เป็นระยะที่ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากรถที่วิ่งบนถนนใหญ่แล้ว
:::: ตัวโครงการ ::::
สำหรับโครงการ Malton Gates กรุงเทพกรีฑา นั้นจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูระดับ Super Luxury ที่ใช้เรื่องความเป็น Wellness Residence มาเป็นตัวชูโรงของโครงการ โดยชื่อของแบรนด์ Malton นั้นมาจากชื่อของเมือง Malton ที่อยู่ใน North Yorkshire ของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นเมืองที่น่าอยู่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก (ในปี 2017-2019) และยังเป็นเมืองที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามอีกด้วย
ทางโครงการเลยได้ถ่ายทอดความเป็นเมืองที่น่าอยู่นี้ ผ่านออกมาเป็นโครงการระดับพรีเมียม บนที่ดินโครงการขนาดประมาณ 21 ไร่ โดยมีบ้านภายในโครงการเพียง 49 หลังเท่านั้น
และยังสื่อออกมาผ่านทางงานสถาปัตยกรรมในสไตล์ Modern Classic ได้กลิ่นอายความหรูหราแบบอังกฤษที่เรียกได้ว่าเป็น Timeless Design โดยใช้รูปทรงอาคารที่เรียบง่ายดู Modern แต่เก็บรายละเอียดของงานสถาปัตยกรรมในแบบอังกฤษ อย่างพวกบัวผนัง และการแบ่งลูกฟักกระจก มาใช้เป็นดีเทลในการตกแต่ง โดยสีหลัก ๆ ที่ทางโครงการเลือกใช้จะเป็นสีขาวดูสะอาดตา ตัดกับพวกระแนงเหล็กและกรอบหน้าต่างสีดำทำให้ดูเนี้ยบแบบผู้ดี
สำหรับการเข้า-ออกโครงการนั้นจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาแบบ Double Gate Security แยกโซน Guest Area และ Residence Area ลูกบ้านของโครงการจะสามารถขับรถผ่านประตูทุกชั้นเข้าไปด้านใน Residence Area ด้วยระบบกล้องอ่านป้ายทะเบียน LPR หรือ License Plate Recognition ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ส่วนบุคคลจากภายนอกจะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อผ่าน Gate แรก แล้วเข้าไปพักคอยในส่วน Guest Area ที่ทางโครงการจัดเอาไว้ให้เท่านั้น จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะติดต่อกับลูกบ้านให้ออกมาพบที่ Guest Area เพื่อความปลอดภัยค่ะ
โดย Gate ที่แรกนี้จะต้องผ่านป้อม รปภ. กล้อง CCTV และรั้วอัตโนมัติสูงแบบนี้
นอกจากนี้ โครงการนี้ยังมี VDO Door System บริเวณประตูรั้วสำหรับคนเดินเข้า-ออก ที่เชื่อมตรงเข้ากับระบบ Home Automation ภายในบ้าน สามารถใช้งานโดยการกดหมายเลขติดต่อของบ้านแต่ละหลัง แล้วพูดคุยกันแบบเห็นหน้า ก่อนที่ลูกบ้านจะกดเปิดประตูรั้วให้เข้าในโครงการได้จากในบ้านเลย หรือต้องให้ รปภ. เป็นคนกดเปิดให้ค่ะ
หลังจากผ่าน Gate แรกเข้ามาแล้วจะเป็นเสมือน Guest Area ที่มีวงเวียนเป็นจุด Drop Off ให้เข้าสู่อาคารคลับเฮาส์ เป็นพื้นที่รองรับบุคคลจากภายนอก หรือใช้เป็นพื้นที่สำหรับรับรองแขกของลูกบ้าน ในกรณีที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องการรับแขกภายในบ้าน และถัดจาก Gate ที่ 2 เข้าไปก็จะเป็นส่วนของ Residence Area แล้วค่ะ
สำหรับคลับเฮาส์ของโครงการจะมีอยู่ด้วยกัน 2 อาคาร เป็นคลับเฮาส์ A ที่อยู่ในบริเวณ Guest Area ภายในจะประกอบด้วยฟังก์ชัน Main Lobby Lounge, Study Room, Meeting Room, Private Spa, Fitness Room และ Private Gym ส่วนคลับเฮาส์ B จะอยู่อีกฝั่ง ประกอบด้วยฟังก์ชัน Co-Kitchen และ Co-Working Space ค่ะ
ภายในคลับเฮาส์ A ถูกออกแบบมาโดยใช้โทนสีขาว-ดำ-น้ำเงิน ตัดกับโทนสีส้ม ให้เป็นธีมที่ดู Formal ดูหรูหราเป็นหน้าเป็นตาตามฟังก์ชันการใช้งาน โดยพื้นที่ชั้นล่างส่วนแรกจะเป็น Main Lobby Lounge เป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านสามารถใช้นั่งพักผ่อนพักคอย และใช้รองรับแขกจากภายนอกโครงการได้
นอกจากนี้ยังมี Study Room อีก 2 ห้อง รองรับได้ประมาณ 3-4 ที่นั่ง และ Meeting Room อีก 2 ห้อง รองรับการประชุมคุยงานได้ ตั้งแต่ 6-12 ที่นั่งเลยค่ะ
จุดเด่นอย่างนึงภายในคลับเฮาส์ A ก็คือตัว Staircase ออกแบบเป็นบันไดโค้ง และประดับด้วยหินอ่อนลาย Panda White ต่อลาย Bookmatch ให้เส้นสายดูเชื่อมต่อกันอย่างสวยงาม ทำให้พื้นที่โถงดูแกรนด์มากยิ่งขึ้น
สำหรับฟังก์ชันบนชั้น 2 นี้จะเป็นส่วนของ Fitness Room, Private Gym และ Private Spa ค่ะ
เริ่มจาก Fitness Room เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ผนังโดยรอบเป็นประตู-หน้าต่างกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ทำให้ห้องดูโปร่งและรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ บรรยากาศเหมาะสำหรับการออกกำลังกาย
ภายในห้องมีอุปกรณ์ออกกำลังกายจัดมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Cardio Machine และ Weight Training Machine ทั้ง Treadmill, Elliptical Machine, Stationary Bike, Recumbent Stationary Bike, Shoulder Press Machine
Cable Row & Lat Pull Down Machine, Smith Machine รวมไปถึงโซน Free Weight มีชุด Dumbbell แบบคละน้ำหนัก และมีกระจกเงาติดตั้งมาให้สำหรับเช็กท่าทางในการออกกำลังกาย
พวกอุปกรณ์อื่น ๆ อย่าง Gym Ball, Kettlebell และ Yoga Mat ก็มีเตรียมเอาไว้ให้พร้อมค่ะ
ข้าง ๆ กันนี้เองคือ Private Gym เป็นห้องที่สามารถรองรับคลาสออกกำลังกายต่าง ๆ อย่างคลาสเล่นโยคะหรือคลาสเต้นได้ ซึ่งเราก็สามารถทำการ Booking ห้องเพื่อการใช้งานส่วนตัว และเชิญครูจากภายนอกเข้ามาสอนได้ค่ะ
และอีกฟังก์ชันก็คือ Private Spa จัดเอาไว้ให้ 2 ห้องด้วยกัน
เป็นอีกห้องที่เราสามารถทำการ Booking เพื่อการใช้งานส่วนตัว และเชิญ Masseur จากภายนอกเข้ามาให้บริการได้ จะทำการ Booking แบบเป็นคู่แล้วเข้าใช้งานพร้อมกันก็ได้นะคะ เพราะว่าห้อง Spa ทั้ง 2 ห้องจะมีประตูสามารถเปิดเชื่อมกันได้
ภายใน Spa ก็จะมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำเตรียมเอาไว้ให้พร้อมค่ะ
ภายในห้องน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำ
คราวนี้เราออกมาที่พื้นที่ส่วนกลางโซน Outdoor กันบ้างนะคะ โดยพื้นที่ด้านข้างคลับเฮาส์ A จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำของโครงการจะเป็นสระระบบเกลือ Half Olympic ที่มีความยาวกว่า 25 เมตร รองรับการว่ายน้ำออกกำลังกายได้แบบจริงจัง
พื้นที่ด้านข้างสระมีโซน Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระ และมีโซน Pool Bed สำหรับนอนพักผ่อนตากลมได้สบาย ๆ
นอกจากนี้ภายในสระยังมีโซนสระเด็ก และมีโซนสระ Spa (Jacuzzi) สำหรับนั่งแช่น้ำนวดตัว
ส่วนบริเวณด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีมุม Pool Garden Lounge สำหรับนั่งพักผ่อนสบาย ๆ ช่วงเย็นแดดร่มลมตกน่าจะกำลังดีค่ะ
ถัดมาจากมุมสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่สวนพักผ่อน
ภายในสวนจะมี Gates Pavilion มีชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งสบาย ๆ ให้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจในร่ม ใช้รองรับแขกก็ได้เช่นกันค่ะ
ถัดมาจาก Gates Pavilion จะมีพื้นที่สนามเด็กเล่นให้ด้วย ออกแบบมาให้ทิ้งระยะจากฟังก์ชันอื่น ๆ เพื่อให้เสียงไม่ไปรบกวนการพักผ่อนในโซนผู้ใหญ่
ในพื้นที่ของสนามเด็กเล่นจะมีเครื่องเล่นสำหรับเด็กเล็กจัดเอาไว้ให้ พื้นปูด้วยแผ่นยางกันกระแทก ออกแบบมาให้มีสีสันสดใส ช่วยป้องกันการเกิดการบาดเจ็บได้ดีค่ะ
ด้านข้างสนามเด็กเล่นยังมีมุม Pocket Garden Court สำหรับนั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้ได้ และยังเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับผู้ปกครองมาดูแลเด็ก ๆ ที่เล่นกันที่สนามเด็กเล่นอีกด้วย
ส่วนคลับเฮาส์ B จะถูกออกแบบมาให้บรรยากาศดู Relax เหมาะสำหรับการสังสรรค์กับเพื่อน ๆ และคนในครอบครัวมากขึ้น ทั้งในส่วนของ Co-Working Space และ Co-Kitchen ซึ่งเราก็สามารถทำการ Booking เพื่อจัดปาร์ตี้ส่วนตัวได้อีกเช่นกัน ทั้งหมดนี้แชร์กันภายใน 49 ครอบครัวเท่านั้นนะคะ รวมแล้วเป็นพื้นที่ถึง 1,100 ตร.ม. เลย
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
บ้านภายในโครงการจะเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น มีมาให้เลือกทั้งหมดด้วยกัน 3 แบบ ดังนี้ค่ะ
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 3
แปลนชั้น 1
แปลนชั้น 2
แปลนชั้น 3
แปลนชั้น 1
แปลนชั้น 2
แปลนชั้น 3
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน เป็น แบบบ้าน SMITHSON พื้นที่ใช้สอย 403 ตร.ม. และ แบบบ้าน LIVINGSTON พื้นที่ใช้สอย 544 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า
::: แบบบ้าน SMITHSON พื้นที่ใช้สอย 403 ตร.ม. :::
แปลนบ้านชั้น 1 บริเวณหน้าบ้านส่วนโรงจอดรถสามารถจอดรถได้ 3 คันในร่ม เข้าไปด้านในบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer เชื่อมต่อกับ Living & Dining Area เป็นโถงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นหัวใจของชั้นนี้ จากโถงนี้เชื่อมไปฝั่งข้างบ้านจะเป็นโซน Service เป็นส่วนของครัวไทย โดยจะมีประตูเชื่อมออกที่ไปลานซักล้างและห้องแม่บ้านได้ ส่วนฝั่งหลังบ้านจะเป็นส่วนของโถงลิฟต์, โถงบันได, ห้องน้ำรับแขก และห้องนอนชั้นล่างค่ะ
แบบบ้าน SMITHSON พื้นที่ใช้สอย 403 ตร.ม. เป็นแบบบ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการ ตัวบ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic ใช้สีขาวเป็นหลัก ตัดกับกรอบประตู-หน้าต่างและระแนงเหล็กสีดำ
ด้านหน้าบ้านมีรั้วบ้านติดตั้งมาให้ ใช้พื้นสีขาวตัดขอบด้วยสีดำเช่นกัน แบ่งเป็นรั้วเลื่อนระแนงเหล็กแบบ 2 ตอน และ Gate สำหรับคนเดินเข้า-ออก โดยออกแบบมาให้ตรงกับประตูทางเข้าบ้าน นอกจากนี้ยังมีกริ่งออด, ตู้จดหมาย และตู้เก็บขยะติดตั้งมาให้เรียบร้อยค่ะ
ที่โรงจอดรถสามารถจอดรถได้ถึง 3 คันในร่ม พื้นลงเสาเข็มให้เท่ากับตัวบ้าน แต่ว่าจะทำแยกโครงสร้างกับตัวบ้านให้ พื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนสีเทา
ภายในโรงจอดรถยังมีตู้สำหรับเก็บของเก็บของให้ ใช้เก็บพวกอุปกรณ์ซ่อมบำรุงหรือพวกถุงกอล์ฟก็ได้ รวมไปถึงมีการติดตั้ง EV Charger รองรับการใช้งานพวกรถยนต์ Hybrid หรือรถยนต์ไฟฟ้าได้อีกด้วย
จากโรงจอดรถจะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังเฉลียงทางเข้าบ้านได้ โดยจะมีหลังคาคลุมทั้งหมด และที่สำคัญเลย บ้านของโครงการยังมีแนวคิดการออกแบบของ Universal Design เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุและคนพิการ ด้วยการออกแบบทางลาดขึ้นสู่พื้นต่างระดับ ใช้เข็น Wheel Chair, รถเข็นเด็ก หรือ Grocery Cart ก็สะดวกค่ะ
สำหรับประตูทางเข้าบ้านจะใช้เป็นของแบรนด์ Tostem เป็นแบรนด์ขึ้นชื่อของทางญี่ปุ่น ที่เห็นว่าเป็นลายไม้จริง ๆ แล้วคือเป็นบานอะลูมิเนียมนะคะ ทำให้มีความทนทานสูง
ที่บานประตูมี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้ สามารถใช้งานได้ 4 ระบบ ทั้งการใช้ Passcode, Key Card, Finger Scan และการใช้กุญแจไข
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกเราจะเจอกับโถงต้อนรับหรือ Foyer ก่อนค่ะ เป็นพื้นที่สำหรับพักคอยแขกก่อนพาเข้าบ้าน
และเป็นจุดที่เราสามารถทำ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้า เก็บร่ม และวางม้านั่งสำหรับนั่งพักคอยและนั่งเปลี่ยนรองเท้าได้เลย เหมือนกับเป็น Shoes Room ขนาดย่อม ๆ
จาก Foyer เข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยแล้วค่ะ บ้านมาตรฐานปูพื้นด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนขนาด 60 x 120 ซม. ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบ ทาด้วยสีปลอดสารพิษ ส่วนฝ้าเพดานทุกชั้นจะมีความสูงอยู่ที่ 3 เมตร ซึ่งก็ถือว่าออกแบบมาให้สูงโปร่งทีเดียว
นอกจากนี้ภายในบ้านยังมียังมี Air Filter เป็นระบบการกรองอากาศภายในบ้านจากทาง Sol-N Tech ด้วยการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ โดยมี Air Filter หน้าตาแบบนี้ ติดตั้งเอาไว้อยู่บนฝ้าในทุก ๆ ส่วนของบ้าน พร้อมกับเติม O2 เข้ามาภายในบ้านเพื่อเพิ่ม Fresh Air เสริมความเป็น Well Being Residence ทำให้สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพที่ดีกันมากขึ้น
โดยจะมีตัว Control Panel ติดตั้งเอาไว้ให้บริเวณโถงทางเดินภายในบ้านแต่ละชั้น
สำหรับฟังก์ชันหลัก ๆ ส่วนแรกก็คือ Living & Dining Area ซึ่งถือว่าเป็น Highlight ของพื้นที่ชั้นล่างเลยค่ะ
นั่นก็เป็นเพราะว่าพื้นที่ส่วนนี้ถูกออกแบบมาให้มีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume สูงถึง 6 เมตร ทำให้บ้านดูแกรนด์มากยิ่งขึ้น และยังมีการออกแบบช่องแสงให้สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ อย่างพวกชุดประตู-หน้าต่างภายในบ้านทั้งหมดจะใช้ของแบรนด์ Tostem เช่นกัน โดยที่บริเวณบ้านชั้น 1 นี้จะมีระบบ Shock Sensor ติดตั้งเอาไว้ให้ เพื่อป้องกันการโจรกรรม ได้ความปลอดภัยของบ้านเพิ่มอีก 1 ชั้น
แล้วก็ยังเป็นพื้นที่ที่สามารถเชื่อมต่อกับโถงทางเดินและพื้นที่นั่งพักผ่อนบนชั้น 2 ได้อีกด้วย ทำให้สมาชิกในครอบครัวที่นั่งเล่นอยู่บนชั้น 2 สามารถมองลงมาและพูดคุยกับคนที่อยู่ชั้นล่างได้ เป็นเทคนิคการออกแบบของบ้านหลังใหญ่ ๆ ที่ทำให้สมาชิกในครอบครัวได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น
ด้วยพื้นที่ที่มีความกว้างขวาง ทำให้เราสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบ Center ได้ ในส่วนของชุดโซฟาก็วางขนาดใหญ่รองรับ 5-6 ที่นั่งได้สบาย พื้นที่ผนังฝั่งตรงข้ามก็ Built-in เป็นชั้นวางของ และติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังได้ค่ะ
ส่วนโต๊ะรับประทานอาหารวางขนาด 6-8 ที่นั่งจะกำลังพอดี
อีกอย่างที่ทำให้พื้นที่ Living & Dining ดูว้าวมากขึ้น ก็คือการที่พื้นที่ส่วนนี้สามารถเชื่อมต่อกับ Courtyard ส่วนตัวได้แบบเปิดกว้าง
เราเปิดประตูบานเลื่อนออกมาก็จะเชื่อมต่อกับ Courtyard แล้วค่ะ เราได้เป็นพื้นที่ดินขนาดใหญ่ที่เราสามารถจัดสวนเองได้ตามใจชอบ โดยทางโครงการจะมีการปูหญ้าและลงต้นไม้มาให้ตามมาตรฐานมาบ้างแล้ว
ไอเดียการจัดพื้นที่สวนของโครงการ เป็นโต๊ะบาร์สำหรับนั่งพักผ่อนน่ารัก ๆ
กลับเข้ามาภายในบ้าน ทางฝั่งซ้ายมือของบ้านจะเป็นส่วนของห้องครัว ส่วนห้องที่อยู่ทางฝั่งซ้ายมือจากห้องครัวจะเป็นห้องเก็บของ และประตูห้องทางขวามือจากห้องครัวจะเป็นโถงลิฟต์
พื้นที่ภายในห้องเก็บของมีขนาดใหญ่พอสมควร ทางโครงการ Built-in เป็นชั้นสำหรับเก็บของให้ดูเป็นไอเดีย เก็บพวกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ๆ ก็ได้ค่ะ
สำหรับบ้านหลังนี้ทางโครงการจะมีการเตรียมช่อง Shaft สำหรับติดตั้งลิฟต์โดยสารมาให้นะคะ ขนาดที่สามารถติดตั้งได้จะเป็น Home Lift รองรับผู้โดยสารได้ 2-3 คน/เที่ยว แต่ถ้าครอบครัวไหนยังไม่อยากติดตั้งลิฟต์ ก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องเก็บของได้ทั้ง 3 ชั้นเลย
ในส่วนของพื้นที่ด้านหน้าห้องครัวจะมีการออกแบบให้เป็นหน้าต่างบานเลื่อน ใช้เป็นช่องทางสำหรับส่งอาหารออกมาจากห้องครัวได้ โดยไม่ต้องเปิดประตูเดินออกมา เพราะฉะนั้นถ้าเราตกแต่งด้านหน้าให้เป็นเคาน์เตอร์สำหรับวางอาหารด้วย ก็จะทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้นค่ะ
พื้นที่ภายในห้องครัวมีขนาดใหญ่กำลังดี และที่เราเห็นเคาน์เตอร์ครัวรูป U Shape นี้ก็คือทางโครงการ Built-in มาให้กับบ้านแบบนี้เลย ได้ Top เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิต มีพวกลิ้นชักตู้เก็บของติดตั้งเอาไว้ให้เรียบร้อย
บน Top เคาน์เตอร์ฝังอ่างล้างจานขนาด 2 หลุมมาให้
พร้อมเตาแก๊สปรุงอาหารและเครื่องดูดควัน เซ็ตนี้ใช้ของแบรนด์ Teka
และที่ใต้เคาน์เตอร์ก็มีเตาอบติดตั้งมาให้ค่ะ ใช้ของแบรนด์ Kuppersbusch
จากห้องครัวจะมีประตูเปิดออกไปยังโซน Service ข้างบ้าน โดยประตูนี้จะมีความพิเศษตรงที่ สามารถใช้เป็นช่องแสงของห้อง และสามารถใช้เป็นทางระบายอากาศได้ด้วย โดยจะมีมุ้งลวดกันแมลงติดตั้งเอาไว้ในตัว
พื้นที่ด้านหลังจะเป็นส่วนของลานซักล้าง รวมไปถึงห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้านแยกส่วนจากเจ้าของบ้าน ถ้าเราสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าห้องนอนของแม่บ้านจะอยู่ค่อนข้างเยื้องไปทางฝั่งหน้าบ้าน ข้อดีก็คือทำให้แม่บ้านสามารถ Service เราได้ดีมากยิ่งขึ้น อย่างเวลาที่มีแขกมาหน้าบ้าน มีคนส่งพัสดุ หรือเวลาเราซื้อของกลับเข้ามาภายในบ้าน ก็สามารถเรียกให้แม่บ้านออกไปรับได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
โดยฝั่งด้านหลังบ้านจะมีห้องสำหรับวางเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้ มีประตูปิดให้เรียบร้อย ส่วนช่องประตูบานเล็ก ๆ ทางฝั่งขวาจะเป็นช่อง Service แก๊ส เวลาที่มีคนมาส่งแก๊สก็สามารถให้จัดการผ่านช่องนี้ได้เลย โดยที่ไม่ต้องให้เดินผ่านเข้าไปด้านในบ้านค่ะ
คราวนี้เราเข้าไปดูฟังก์ชันทางฝั่งหลังบ้านกันบ้าง
พื้นที่ส่วนนี้จะมีความ Private มากยิ่งขึ้น โดยจะเป็นส่วนของ ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำรับแขก และโถงบันได สังเกตที่บนฝ้าเพดาน บริเวณโถงทางเดินของบ้านแต่ละชั้น จะมีกล้อง CCTV ติดตั้งมาให้ชั้นละ 1 จุด เวลาที่เราไม่อยู่บ้าน ก็ยังสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านผ่านทางกล้อง CCTV นี้ได้
สำหรับห้องนอนชั้นล่างนั้นเหมาะสำหรับการจัดเป็นห้องของผู้สูงอายุ เพราะพื้นภายในห้องจะปูด้วย Absorption Floor ช่วยลดแรงกระแทกเวลาที่เกิดการหกล้มได้ นอกจากนี้ก็ยังใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้เหมือนกัน อย่างบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องสำหรับออกกำลังกายส่วนตัวค่ะ
พื้นที่ห้องจะเหมาะสำหรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุต วางแล้วก็จะเหลือพื้นที่รอบ ๆ ห้องเป็นทางเดิน วางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง และวางชั้นวางทีวีฝั่งปลายเตียงได้ อาจจะเพิ่มพวกโต๊ะทำงานเข้าไปอีกสักตัวก็ยังได้ ข้อดีของห้องนี้อีกอย่างก็คือเป็นห้องที่สามารถเปิดเชื่อมต่อกับ Courtyard ชมวิวสวนส่วนตัวของบ้านได้อีกด้วย
นอกจากนี้ห้องนอนทุกห้องของบ้านที่นี่จะเป็นแบบ En Suite Bedroom คือมีห้องน้ำส่วนตัวให้ทุกห้อง โดยบริเวณโถงด้านหน้าห้องจะเป็นส่วนที่เราสามารถทำตู้เสื้อผ้า Built-in ได้ค่ะ
การออกแบบห้องน้ำของห้องนอนผู้สูงอายุจะเป็นแบบ Stepless พื้นผิวของพื้นทั้งหมดจะทำเสมอกัน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ
พื้นที่ภายในห้องน้ำมีความกว้างขวางเป็นพิเศษ เป็นระยะที่รองรับการใช้งานรถเข็นได้ด้วย โดยพื้นและผนังจะตกแต่งด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของแบรนด์ Kohler นอกจากนี้ภายในห้องน้ำยังมีระบบ Motion Sensor ติดตั้งเอาไว้ให้ทุกห้องเพื่อความสะดวกสบาย
มีอ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์ ใต้เคาน์เตอร์มีตู้สำหรับใช้เก็บของได้ ติดตั้งมาพร้อมกระจกเงา
ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน รวมไปถึงมีราวจับช่วยพยุงสำหรับผู้สูงอายุ และปุ่ม SOS ติดตั้งมาให้ ซึ่งปุ่ม SOS นี้จะลิงก์กับมือถือของสมาชิกในครอบครัวและ รพ.สมิติเวช เมื่อกดปุ่มก็จะมีสัญญาณเตือนแสดงขึ้นมา ทำให้สามารถทำการช่วยเหลือได้ทันท่วงที
พื้นที่โซน Shower มี Hand Shower, ราวปรับระดับ และจานวางสบู่ติดตั้งมาให้แบบนี้ สังเกตด้านข้างโซน Shower จะมีหน้าต่างบานใหญ่ติดตั้งมาให้เป็นช่องแสงและทางระบายอากาศ เป็นอีกเรื่องที่ทางโครงการให้ความใส่ใจ ทำให้ห้องน้ำไม่เกิดความอับชื้น และมีแสงสว่างเข้าถึงได้อย่างเต็มที่
สำหรับห้องน้ำรับแขกจะอยู่ด้านข้างโถงบันไดค่ะ
ห้องน้ำรับแขกนั้นจะถูกออกแบบมาให้เป็น Powder Room รองรับการใช้งานระหว่างวันและใช้รองรับแขกที่มาเยือนได้ พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อน ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler เช่นกันค่ะ มีอ่างล้างมือฝังครึ่งเคาน์เตอร์ ด้านข้างกระจกเงามีหน้าต่างติดตั้งมาให้
อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อม Low Wall สำหรับวางของตกแต่ง
สำหรับตัวบันไดใช้โครงสร้าง คสล. ปิดผิวลูกนอนด้วย Engineering Wood มีการออกแบบ Flight ของบันได และขั้นบันไดให้กว้างเป็นพิเศษทำให้เดินได้ง่าย โดยขั้นบันไดแต่ละขั้นจะมีความกว้างถึง 27.5 ซม. ส่วนราวมือจับใช้เป็นกระจก Tempered ปิดผิวมือจับด้วยไม้สีเข้ากัน
แปลนบ้านชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอน 2 ห้อง วางเอาไว้ที่ปีกบ้านทั้ง 2 ฝั่ง เป็น En Suite Bedroom โดยมีพื้นที่นั่งเล่นตรงกลางบ้านขั้นกลาง ซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับ Living & Dining Area ที่ชั้นล่างค่ะ
จากโถงบันไดขึ้นมาบนชั้น 2 เราจะเจอกับห้องนอน 3 ก่อนค่ะ อีกฝั่งคือห้องนอน 2 โดยพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปจะปูด้วย Engineering Wood ทั้งหมด
เข้ามาภายในห้องนอน 3 ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ที่เราสามารถทำตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in ขนาดใหญ่ได้
ห้องน้ำจะอยู่บริเวณด้านหน้าห้องเช่นกัน ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม ขนาดพื้นที่ของห้องใช้งานได้สะดวก
มีอ่างล้างมือฝังครึ่งเคาน์เตอร์และโถสุขภัณฑ์
โซน Shower จะมีฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered ติดตั้งมาให้ ภายในมีชุด Hand Shower และเพิ่มม้านั่งสำหรับอาบน้ำให้ พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
ส่วนพื้นที่พักผ่อนภายในห้องอย่างน้อย ๆ จะต้องมีหน้าต่างขั้นต่ำ 2 ฝั่ง
พื้นที่ภายในห้องจะเหมาะสำหรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุตนะคะ วางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยรอบห้องเหลือพื้นที่เป็นทางเดิน สามารถเดินผ่านได้สะดวก
จากห้องนอน 3 จะมีพื้นที่โถงทางเดินขั้นส่วนก่อนถึงห้องนอน 2 การออกแบบแบบนี้ทำให้ห้องนอนแต่ละห้องได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
โดยพื้นที่โถงทางเดินนี้จะเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับ Living & Dining Area ที่อยู่ชั้น 1
และมีพื้นที่นั่งเล่นบนชั้น 2 รองรับ เป็น Space ที่ได้ความรู้สึกที่ Cozy และเป็นส่วนตัวมากกว่า เวลาที่มีการรองรับแขกอยู่ที่ชั้นล่าง สมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ก็สามารถนั่งเล่นบนชั้น 2 แทนได้
สำหรับห้องนอน 2 นั้นจะเป็นเหมือนกับ Second Master Bedroom เลยนะคะ เพราะนอกจากจะเป็น En Suite Bedroom แล้ว ยังมี Walk-in Closet ให้ในตัวด้วย
โดยทางฝั่งหน้าบ้านนี้จะเป็นส่วนพักผ่อน พื้นที่ห้องรองรับเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบาย แล้วยังเหลือพื้นที่สามารถจัดเป็น Living Area ส่วนตัว หรือจัดเป็นมุมสำหรับนั่งทำงานก็ได้ ส่วนบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องทำงานค่ะ
มีมุมสำหรับผ่อนคลายริมระเบียงให้ด้วย จัดเป็น Day Bed ทรงกลมดู Relax ดี
พื้นที่ระเบียงสามารถเดินออกไปได้นะคะ ได้บรรยากาศแบบระเบียงในบ้านสไตล์อังกฤษเลย อย่างพวกราวกันตกนี่ก็จะใช้เป็นเหล็ก Wrought Iron ค่ะ
ส่วนฝั่งหลังบ้านนั้นเราจัดเป็นโซน Walk-in Closet ได้แบบนี้ โดยปกติแล้วพวก Walk-in Closet จะมีช่องแสงค่อนข้างน้อย แต่ดูจากพื้นที่ห้องนี้คือรับแสงธรรมชาติได้เยอะมาก คุณผู้หญิงแต่งหน้าแต่งตัวได้สนุกเลยค่ะ สีไม่เพี้ยนแน่นอน
ภายในห้องน้ำส่วนตัว ตกแต่งอย่างสวยงาม ใช้งานได้สะดวกสบาย
มีอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และโซน Shower ครบรองรับการใช้งาน
แปลนบ้านชั้น 3 หลัก ๆ เป็นส่วนของห้องนอน Master Bedroom ฝั่งหน้าบ้าน พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว และยังมีห้องอเนกประสงค์ให้อีก 1 ห้องอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน โดยพื้นที่ทั้ง 2 ห้องนี้จะมี Balcony ขั้นอยู่ตรงกลาง สามารถเปิดประตูเชื่อมต่อออกมาได้จากทั้ง 2 ห้องเลยค่ะ
เราขึ้นมาบนชั้น 3 กันต่อแล้วนะคะ
ห้องที่อยู่ทางฝั่งหลังบ้านติดกับโถงบันไดจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านเลย จะใช้เป็นห้องพักผ่อนส่วนตัว หรือจะใช้เป็น Study Room ก็ได้ โดยบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็น Studio สำหรับแต่งหน้าแต่งตัว
ความเก๋ของห้องบนชั้น 3 ก็คือสามารถเปิดเชื่อมต่อกับ Balcony ขนาดใหญ่ได้ โดยห้องนี้จะเชื่อมต่อพื้นที่ด้วยประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่
เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนรับลมชมวิว ตอนค่ำ ๆ คือมานอนดูดาวก็ได้นะคะ เห็นได้จากพื้นที่คือวาง Day Bed ได้ถึง 2 ตัวเลย
คราวนี้เราไปดูห้อง Master Bedroom กันต่อ
สำหรับห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด พื้นที่ห้องมีความโปร่งโล่งด้วยช่องแสงถึง 3 ฝั่ง
โดยขนาดของห้องแล้วเราวางเป็นเตียงแบบ Oversize ได้เลยนะคะ ส่วนบ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างมาให้ดูเป็นไอเดีย พื้นที่ด้านข้างยังสามารถตกแต่งเป็นชั้นวางของและโต๊ะเขียนหนังสือได้
ฝั่งปลายเตียงวางสตูล และอาร์มแชร์ ทำเป็นมุมนั่งพักผ่อนดูทีวีได้อีกมุม
บ้านตัวอย่างกั้นพื้นที่ห้องส่วนนึงออกไปทำเป็น Walk-in Closet ส่วนบ้านมาตรฐานจริง ๆ จะไม่มีผนังส่วนนี้กั้นมาให้นะคะ
ภาพบรรยากาศภายใน Walk-in Closet ที่ทางโครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย เราทำ Built-in ได้โดยรอบห้อง และยังสามารถวางม้านั่งกลางห้องได้อีกด้วย
พื้นที่ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว โดย Master Bathroom จะเป็นห้องน้ำแบบ Full Function พวกวัสดุและสุขภัณฑ์จะมีการอัปเกรดมาให้เป็นรุ่นที่ดีมากขึ้น และดูสวยงามมากขึ้น
มีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือแบบ His & Her พวก Accessories ในห้องน้ำของบ้านตัวอย่างใช้รุ่นสีทอง บ้านมาตรฐานก็จะได้รุ่นเดียวกันแบบนี้นะคะ แต่ว่าจะได้เป็นสีโครเมียมแทน
มีฉากกั้นกระจก Tempered กั้นส่วนระหว่างพื้นที่โถสุขภัณฑ์และโซน Shower มาให้อย่างเป็นสัดส่วน
โดยโถสุขภัณฑ์จะอัปเกรดมาให้เป็นรุ่นอัตโนมัติ พร้อม Remote Control ติดตั้งเอาไว้ด้านข้าง
ในโซน Shower ได้ชุด Rain Shower เพิ่มขึ้นมา
นอกจากนี้ก็ยังได้อ่างอาบน้ำแบบ Stand Alone ของแบรนด์ Kasch มาด้วยกลางห้อง ขนาดนอนแช่ได้ 1 คนพอดี
::: แบบบ้าน LIVINGSTON พื้นที่ใช้สอย 544 ตร.ม. :::
แปลนบ้านชั้น 1 บริเวณหน้าบ้านส่วนโรงจอดรถสามารถจอดรถได้ 5 คันในร่ม เข้าไปด้านในบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer และ Living Area เป็นโถงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นหัวใจของบ้าน ซึ่งเชื่อมต่อกับ Dining Area และ Pantry แบบเปิดโล่ง ด้านข้างบ้านเป็นส่วนของโถงลิฟต์, โถงบันได ห้องน้ำชั้นล่าง และครัวไทย โดยจากครัวไทยจะมีประตูเชื่อมออกที่ไปลานซักล้างและห้องแม่บ้านได้ ส่วนห้องนอนชั้นล่างจะอยู่ด้านข้าง Dining Area ค่ะ
แบบบ้าน LIVINGSTON พื้นที่ใช้สอย 544 ตร.ม. เป็นบ้านขนาดใหญ่ของโครงการ หน้าตาของบ้านจะดูแกรนด์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากขนาดที่ดินและขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่มากขึ้นนั่นเองค่ะ
โดยบ้านหลังนี้เรายังสามารถจอดรถได้มากถึง 5 คันในร่ม
แต่ถ้าครอบครัวไหนต้องการเพิ่มที่จอดรถ ก็สามารถทำการต่อเติมพื้นที่จอดรถเข้าไปในบริเวณ Courtyard ส่วนตัวได้ จะสามารถเพิ่มที่จอดรถได้ถึง 3 ที่จอดเลยค่ะ
ในส่วนของห้องกระจกที่เราเห็นอยู่ด้านข้างนี้ จะเป็นส่วนต่อเติมของบ้านตัวอย่างออกไปที่พื้นที่สวนนะคะ ทำเป็นลักษณะของห้องโชว์ของสะสม อย่างเช่น รถจักรยานยนต์ บ่งบอกถึงรสนิยมและงานอดิเรกของเจ้าของบ้าน
จากโรงจอดรถจะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังเฉลียงทางเข้าบ้านได้ โดยจะมีหลังคาคลุมทั้งหมด
โดยที่บริเวณเฉลียงทางเข้าบ้านก็จะมีทางลาดเตรียมเอาไว้ให้ รองรับการใช้ Wheel Chair หรือรถเข็นเด็กได้เช่นกัน
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกเราจะเจอกับโถงต้อนรับหรือ Foyer ก่อนค่ะ เป็นพื้นที่สำหรับพักคอยแขกก่อนพาเข้าบ้าน
บ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็น Shoes Room ไปด้วยในตัว สามารถเก็บรองเท้าได้เยอะมาก
จาก Foyer ตรงเข้ามาเราจะเจอโถงลิฟต์กับโถงบันไดก่อน ซึ่งบ้านตัวอย่างทำการกั้นส่วนพื้นที่ Living Area ออกไปด้วยประตูกระจก ทำให้บ้านดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น
สำหรับแบบบ้าน MIDDLETON และ LIVINGSTON จะมี Home Lift ของ Hitashi ติดตั้งมาให้เลยค่ะ รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 3 คน/เที่ยว
ในส่วนของโถงบันได บ้านตัวอย่างตกแต่งพื้นที่ด้านข้างเป็นสวนหินและ Art Object สังเกตราวบันไดจะเปลี่ยนจากการใช้กระจก Tempered มาเป็น Wrought Iron ทำให้บ้านดูหรูมีรสนิยมมากขึ้น
ถัดเข้ามาภายใน Living Area ซึ่งเป็น Highlight ของบ้านเพราะได้ฝ้าเพดานมาสูงแบบ Double Volume เลยค่ะ จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นและรับแขกได้แบบเต็มพื้นที่
เพราะฉะนั้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เลยสามารถทำได้แบบอิสระมาก สามารถรองรับคนได้ 8-10 คนแบบสบาย ๆ เลย
แล้วก็ยังเป็นพื้นที่ที่สามารถเชื่อมต่อกับโถงทางเดินบนชั้น 2 ได้แบบนี้
จาก Living Area เราเปิดประตูออกไปก็จะเชื่อมต่อกับ Courtyard ส่วนตัว
ด้วยขนาดของพื้นที่ดินบ้านที่ได้มาเยอะพอสมควร เราสามารถทำสระว่ายน้ำและศาลาพักผ่อนภายในสวนได้เลย
กลับเข้ามาภายในบ้าน จาก Living Area จะเชื่อมต่อกับ Dining Area โดยระดับของฝ้านั้นจะมีความต่างกัน ทำให้ฟังก์ชันถูกแบ่งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วนมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องมีผนังกั้นส่วน
บ้านตัวอย่างจัดโต๊ะรับประทานอาหารมาเป็นทรงกลมขนาด 6 ที่นั่งให้ดูเป็นไอเดีย แต่ดูจากพื้นที่แล้วถ้าเราต้องการโต๊ะที่รองรับจำนวนคนได้มากกว่านี้สัก 8-10 ที่นั่ง ก็สามารถวางได้เช่นกัน
จาก Dining Area จะเชื่อมต่อกับ Pantry และห้องครัวค่ะ โดยบ้านหลังนี้ก็จะมีเคาน์เตอร์พร้อม Island เตรียมมาให้เราแบบนี้เลย เพียงแต่ว่าตัว Island จะได้มาเป็นทรงเหลี่ยมนะ
โดยที่เคาน์เตอร์ก็จะมี Hob, Hood และ Sink ติดตั้งมาให้ โดยใช้ Top เคาน์เตอร์เป็นหินควอทซ์
เตาเซรามิกขนาด 4 หัวของ Kuppersbusch
อ่างล้างจานขนาด 1 หลุม
รวมไปถึงเตาอบของ Kuppersbusch อีกเช่นกัน
ถัดเข้ามาภายในครัวไทย เราก็จะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวมาด้วยเหมือนเดิม
จากห้องครัวเชื่อมต่อออกไปยังลานซักล้างและห้องแม่บ้าน
ทาง Major Development ก็ยังไม่ทิ้งความเป็น Pet Friendly ไป โดยมีการออกแบบพื้นที่สำหรับอาบน้ำน้องหมาให้ด้วยนะคะ
ด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับวางพวกเครื่องซักผ้า มีประตูบานเลื่อนปิดให้เรียบร้อย
ส่วนห้องแม่บ้านจะเตรียมมาให้ถึง 2 ห้องเลยค่ะ พร้อมห้องน้ำแยกส่วนจากเจ้าของบ้าน
รวมไปถึงมีช่องสำหรับ Service แก๊สให้เช่นกัน
สำหรับห้องน้ำรับแขกหรือว่า Powder Room จะอยู่ด้านข้างครัวไทยค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำแขก
สำหรับห้องนอนชั้นล่างจะอยู่ด้านข้าง Dining Area นะคะ
อย่างที่บอกไปว่าห้องนอนชั้นล่างนั้นเหมาะสำหรับการจัดเป็นห้องของผู้สูงอายุ เพราะพื้นภายในห้องจะปูด้วย Absorption Floor โดยเป็นห้องที่สามารถเชื่อมต่อกับ Courtyard ของบ้านได้ เนื่องจากว่าบ้านตัวอย่างได้ทำสระว่ายน้ำส่วนตัวเอาไว้ เลยจัดห้องนอนชั้นล่างให้กลายเป็น Private Spa บรรยากาศดูเข้ากันดีไปหมด
ส่วนบริเวณโถงทางเข้าห้องก็จะมีห้องน้ำส่วนตัวอยู่ด้านหน้า
ภายในห้องน้ำออกแบบให้เป็น Stepless Bathroom เช่นกัน รวมไปถึงติดตั้งราวช่วยพยุง และปุ่ม SOS เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุค่ะ
แปลนบ้านชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน โดยฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้องนอน 2 และห้องนั่งเล่น ส่วนฝั่งหลังบ้านจะเป็นห้องนอน 3 และห้องนอน 4 ซึ่งเป็น En Suite Bedroom ทั้งหมดค่ะ
เราขึ้นมาบนชั้น 2 กันต่อ ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่โถงทางเดินที่เชื่อมต่อกับ Living Area ชั้นล่าง ได้ Space มาสวยเลยค่ะ
เรามาดูห้องนอน 3 และ 4 ทางฝั่งหลังบ้านกันก่อน
บ้านตัวอย่างตกแต่งให้ห้องนี้เป็นห้องนอนเด็ก โดยพื้นที่ห้องแล้วเราสามารถวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตพร้อมเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ อย่างโต๊ะข้าง ชั้นวางทีวี หรือโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัว และแม้ว่าห้องนี้จะมีหน้าต่างเพียงฝั่งเดียว แต่ก็ได้มาบานใหญ่แบบเต็มผนัง
พื้นที่อีกฝั่งทำ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้ารูป L Shape ด้านหน้าห้องน้ำได้
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนตัว
พื้นที่อีกห้องจะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยค่ะ บ้านตัวอย่างทำ Built-in บริเวณประตูทางเข้าห้องให้กลายเป็นชั้นวางของและ Walk-in Closet
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนตัว
พื้นที่ส่วนพักผ่อนวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตกับโต๊ะข้างได้ลงตัวพอดี
ฝั่งปลายเตียงนอนยังติดตั้งชั้นวางทีวีและวางโต๊ะทำงานเพิ่มได้อีก 1 ตัวแบบสบาย ๆ
คราวนี้เรามาดูฟังก์ชันฝั่งหน้าบ้านกันต่อ
สำหรับห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 จะเชื่อมต่อกับพื้นที่โถงทางเดิน ในบ้านมาตรฐานจะไม่มีประตูกั้นส่วนนะคะ ส่วนบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องทำงานของห้องนอน 2 ไปเลย
พื้นที่ด้านในยังมีห้องเก็บของเตรียมเอาไว้ให้ด้วยนะ ใครที่ใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องทำงาน จะใช้ห้องเก็บของเป็นห้องเก็บเอกสารแทนก็ได้ค่ะ
ส่วนพื้นที่ห้องนอน 2 จริง ๆ จะเริ่มต้นจากประตูบานนี้
ตรงเข้าไปภายในห้องเป็นโถงทางเดินยาว บ้านตัวอย่างเลยทำ Built-in ให้กลายเป็นตู้เสื้อผ้ายาว ๆ ไปเลย และแบ่งพื้นที่อีกส่วนของห้องมาทำเป็น Walk-in Closet กับโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้
สำหรับห้องน้ำส่วนตัวจะอยู่บริเวณด้านหน้าห้องเลยค่ะ พื้นที่ภายในจะมีความกว้างขวางและดูโปร่งมากขึ้น
แม้ว่าบ้านตัวอย่างจะมีการแบ่งพื้นที่บางส่วนออกไปทำ Walk-in Closet แล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่ในการจัดโซนพักผ่อนได้แบบกว้าง ๆ
จุดเด่นของห้องนี้ก็คือพื้นที่ริมหน้าต่าง เพราะล้อมด้วยกระจกถึง 3 ด้านเหมือนเป็นพื้นที่ระเบียงแบบ Semi Outdoor เหมาะมากสำหรับการทำเป็นมุมนั่งพักผ่อนส่วนตัว
แปลนบ้านชั้น 3 หลัก ๆ จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ทั้งหมด พร้อม Balcony ส่วนตัว และมีห้องอเนกประสงค์มาให้อีก 1 ห้องค่ะ
จากโถงบันไดจะเชื่อมต่อกับ Master Bedroom และห้องอเนกประสงค์ แต่ว่าบ้านตัวอย่างได้ปรับพื้นที่ โดยเอาพื้นที่ห้องอเนกประสงค์มาเป็นส่วนหนึ่งของห้องนอนแล้ว
Master Bedroom เป็นห้องนอนที่ดูแกรนด์มากที่สุดในบ้านแล้วค่ะ เพราะมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้โดยรอบด้าน ส่วนพื้นที่ของห้องก็คือมีขนาดใหญ่กินพื้นที่ของทั้งชั้นไปแล้ว เพราะฉะนั้นการจัดพื้นที่ห้องจึงสามารถทำได้อิสระมาก ใส่ฟังก์ชันส่วนตัวเพิ่มเข้าไปได้แบบเต็มที่
พื้นที่ส่วนแรกจัดเป็นส่วนพักผ่อน วางเตียงนอนขนาดใหญ่พร้อมสตูลและชั้นวางทีวี
ในห้องนี้ก็จะมีพื้นที่ที่ล้อมด้วยกระจกถึง 3 ด้านเหมือนกับเป็นเรือนกระจก จัดเป็นมุมสำหรับนั่งพักผ่อนแล้วเหมาะมาก ๆ เลยค่ะ
สำหรับพื้นที่อีกฝั่งจริง ๆ แล้วจะเป็นห้องอเนกประสงค์ เราสามารถจัดฟังก์ชันได้ตามใจชอบเลย จะใช้เป็น Study Room ก็ทำได้เหมือนกัน แต่สำหรับคุณผู้หญิงที่ชื่นชอบการแต่งตัวเป็นพิเศษ ก็สามารถเปลี่ยนพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็น Walk-in Closet ได้
จากโซนพักผ่อนจะมีโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยังโซน Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว โดยพื้นที่ส่วนนี้เราสามารถเพิ่ม Pantry เป็นมุม Snacks และเครื่องดื่มของห้องได้
โดยประตูด้านข้างโถงทางเดิน เปิดออกไปก็จะเชื่อมต่อกับ Balcony ส่วนตัว หยิบ Snacks และเครื่องดื่มเย็น ๆ มานั่งพักผ่อนรับลมชมวิวกับบรรยากาศดี ๆ ภายในโครงการได้
และนี่ก็คือพื้นที่ Walk-in Closet หลัก ๆ ของห้องที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำค่ะ ถือว่าได้พื้นที่มาเยอะพอสมควรแล้ว ขนาดที่ว่าทำลิ้นชักเก็บ Accessories กลางห้องเพิ่มได้ด้วย
แน่นอนว่า Master Bathroom ก็จะต้องมีความแกรนด์มากขึ้น เราได้เป็นห้องน้ำแบบ Full Function ที่ได้อ่างอาบน้ำล้อมด้วยกระจกพร้อมวิวจากพื้นที่สีเขียว
ได้อ่างล้างมือแบบ His & Her
อ่างอาบน้ำได้มาเป็นอ่างขนาดใหญ่ทรงกลมพร้อมระบบน้ำวน
มีการแบ่งโซนโถสุขภัณฑ์และโซน Shower ให้เรียบร้อย
โดยจากภายในโซน Shower จะมีประตูกระจก อาบน้ำไปก็ได้วิวของพื้นที่สีเขียวเช่นกันค่ะ
:::: ราคา (พฤศจิกายน 2565) ::::
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก http://bit.ly/3hNDTi0
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ตั้งอยู่ภายในซอยบางกอกแลนด์ ประมาณ 350 เมตร จากถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ทำให้ได้ความเป็นเงียบสงบและส่วนตัว และด้วยบริบทโดยรอบโครงการนั้นเองก็จะเป็นบ้านเดี่ยวหรูหลักสิบล้านด้วยอยู่แล้วค่ะ แต่ก็ยังเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายเพราะว่าเชื่อมต่อถนนหลักที่ใช้เข้าเมืองได้ง่าย แล้วก็ยังมีสิ่งอำความสะดวกอยู่ใกล้ ๆ กับโครงการ รองรับการใช้ชีวิตได้ครบทุกด้าน
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้านั้นสามารถใช้เชื่อมต่อเข้าตัวเมืองได้สะดวก ผ่านทางถนนศรีนครินทร์ และถนนรามคำแหง เชื่อมต่อถนนพระราม 9 และถนนเพชรบุรี เข้าสู่ CBD ได้ หรือจะใช้ออกไปทางจังหวัดทางตะวันออกก็สบาย โดยจะมีจุดขึ้นมอเตอร์เวย์อยู่ไม่ไกลให้ใช้งานกันได้
การเดินทางโดยรถสาธารณะ เป็นทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากโครงข่ายรถไฟฟ้า โดยปัจจุบันจะอยู่ใกล้กับ Airport Link สถานีลาดกระบังมากที่สุด พอมีรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีเหลืองตามมา ก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบรางมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
การออกแบบโครงการ และวัสดุ นับว่าเป็นโครงการที่อยู่ใน Segment ระดับ Super Luxury โดยมีจุดเด่นเป็นการชูเรื่องของ Well Being Community เพื่อให้ลูกบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่มีสุขภาพกายและใจที่ดี เริ่มตั้งแต่จำนวนบ้านพักอาศัยภายในโครงการ จะมีเพียง 49 หลังเท่านั้น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้ใช้ถึง 1,100 ตร.ม. โดยออกแบบมาเป็นอย่างดี
การออกแบบบ้านทำมาในสไตล์ Modern Classic ซึ่งถือว่าเป็น Timeless Design ทำให้มีความสวยงามอยู่ในทุกยุคสมัย ไม่เก่าหรือไม่เชย หัวใจของบ้านนั้นจะเป็นการออกแบบพื้นที่ Living Area ให้มีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 ได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาโดยรอบบ้าน แม้กระทั่งในห้องน้ำ ทำให้แต่ละพื้นที่ได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติอย่างเต็มที่ มีการออกแบบตามแบบ Universal Design เพื่อรองรับผู้สูงอายุและสมาชิกทุกเพศทุกวัยของบ้านได้
ที่สำคัญคือภายในบ้านใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ ปลอดสารพิษ มีการใช้ระบบระบายอากาศและเติม Fresh Air เข้ามาภายในบ้าน รวมไปถึงมีระบบ Home Automation, ที่ชั้น 1 มีระบบ Shock Sensor ป้องกันขโมย, มีกล้อง CCTV ติดตั้งในทุก ๆ ชั้น และมี Motion Sensor ติดตั้งเอาไว้ภายในห้องน้ำทุกห้อง รวมไปถึงระบบ SOS ในห้องน้ำของผู้สูงอายุอีกด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการจัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้ลูกบ้านใช้กันถึง 1,100 ตร.ม. มีทั้ง Lobby Lounge, Study Room, Meeting Room, Private Spa, Fitness Room และ Private Gym รวมไปถึง Co-Kitchen, Co-Working Space และที่โซน Outdoor จะมีทั้งสระว่ายน้ำขนาด Half Olympic และพื้นที่สวนพักผ่อน รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. แบบ Double Gate Security ดูแลเพียง 49 ครอบครัว ถือว่าให้มีดีมาก ๆ ค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
TEL : 02-116-1111
WEBSITE : http://bit.ly/3hNDTi0
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2510 รีวิว ธนาเรสซิเดนซ์ บรมฯ-ปิ่นเกล้า / Thana Residence Borom-Pinklao บ้านเดี่ยวหรู ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. ทุกแบบ บนทำเลติดถนนใหญ่บรมราชชนนี ใกล้ทางคู่ขนานลอยฟ้าและทางด่วน เริ่ม 16.9 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Homenayoo วันนี้เราขอพาทุกท่านไปชมบ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ ที่ดินเริ่มต้น 100
EP.2509 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ แยกเขางู SUPALAI Park Ville Yaek Khao Ngu บ้านเดี่ยวฟังก์ชันใหญ่ กลางเมืองราชบุรี พร้อมระบบ Home Automation เริ่ม 5.19 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้ผมพามาชมโครงการ SUPALAI Park Ville
EP.2508 รีวิว ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ท ราชพฤกษ์ The Article North Ratchaphruek บ้านหรู 3.5 ชั้น ดีไซน์สวยฟังก์ชันใหญ่ พร้อม Double Volume Living ใกล้ Robinson ราชพฤกษ์ เพียง 200 ม.* เริ่ม 15.9-28 ล้านบาท* Written by :
EP.2507 รีวิว โกลเด้น นีโอ ศิริราช-ราชพฤกษ์ Golden Neo Siriraj-Ratchapruek บ้านหรูสไตล์อังกฤษ ฟังก์ชันครบ ทำเลต้นราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า 5 นาที* ถึงทางด่วน เริ่ม 9.59-25 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ ‘Golden Neo
EP.2506 รีวิว สราญสิริ รังสิต 2 Saransiri Rangsit 2 บ้านเดี่ยว 4 นอน สไตล์ Modern Farmhouse บรรยากาศริมน้ำ ใกล้จุดลงทางด่วนเพียง 1 กม.* และรถไฟฟ้าสถานีรังสิต ราคา 7.99-20 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาคุณผู้อ่านไปชมบ้านเดี่ยวโครงการใหม่กับ
EP.2505 รีวิว ศุภาลัย วิลล์ ราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก / Supalai Ville Ratchaphruek-Kanchanapisek บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด สไตล์ Tropical Modern เดินทางสะดวก เพียง 1 กม. จาก ถ.กาญจนาภิเษก เริ่ม 3.69-8.29 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดี เพื่อน ๆ
EP.2504 รีวิว อัลพีน่า พระราม 2 ALPINA Rama 2 คฤหาสน์หรู 6 นอน 6 น้ำ 4 จอด สไตล์ยุโรป บนที่ดิน 100 ตร.ว.* พร้อม Private Pool ติดถนนใหญ่พระราม 2 เริ่ม 19 ล้านบาท* Written by :
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
แสดงความคิดเห็น