ทุบประวัติศาสตร์บริษัทร่วมทุน 10 ปี AP x MITSUBISHI ESTATE พาชมอาคารสำนักงานในญี่ปุ่น TOKYO TORCH Tokiwabashi Tower และคอนโดมิเนียมที่สูงสุดในย่านชินจูกุ THE PARKHOUSE NISHI SHINJUKU TOWER 60
AP x MITSUBISHI ESTATE ประกาศความสำเร็จทุบประวัติศาสตร์บริษัทร่วมทุนทางธุรกิจเป็นรายแรกและรายเดียวที่จับมือเหนียวแน่นและยาวนานถึง 10 ปี พร้อมเดินหน้าต่ออย่างมั่นคงภายในโรดแมป From Strength To Strength ผ่านทุนจดทะเบียนบริษัทร่วมทุนที่มากถึง 12,619,408,010 บาท ชูความจริงใจ ดันดีลธุรกิจยั่งยืนมากกว่าเรื่องของผลตอบแทน แต่คือแนวทางการทำธุรกิจที่เชื่อใจกันและกันในทุกมิติ
Homenayoo ได้ร่วมทริปพิเศษ From Strength To Strength กับทาง AP Thai ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พาชมอาคารสำนักงานในญี่ปุ่น TOKYO TORCH Tokiwabashi Tower และคอนโดมิเนียมที่สูงสุดในย่านชินจูกุ THE PARKHOUSE NISHI SHINJUKU TOWER 60 ที่พัฒนาโดย Mitsubishi Estate ภายในแนวคิด INCLUSIVE LIVING การออกแบบ…เพื่อทุกคน เราจึงได้เก็บภาพมาให้ทุกท่านได้ชมว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ติดตามกันต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยครับ
TOKYO TORCH Tokiwabashi Tower อาคารสำนักงานโดยจะแบ่งเป็น 2 อาคาร โดยอาคารที่แล้วเสร็จเมื่อปี 2021 คือ Tokiwabashi Tower 38 ชั้น สูงถึง 212 เมตร และอีกอาคารที่จะแล้วเสร็จในปี 2028 คือ TOKYO TORCH 62 ชั้น สูงถึง 390 เมตร ซึ่งจะกลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น
Tokiwabashi Tower มีพื้นที่ใช้สอยถึง 140,000 ตร.ม. มีพนักงานรวมกว่า 8,000 คน ตัวอาคารออกแบบให้รองรับกับการเกิดแผ่นดินไหว หรือพายุ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในญี่ปุ่น และโดดเด่นในการออกแบบ Public Space พื้นที่ส่วนกลางได้น่าสนใจ ภายในแนวคิด INCLUSIVE LIVING เพื่อการใช้งานร่วมกันของทุกคน คำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานให้ตอบโจทย์กับทุกช่วงวัยมากที่สุด รวมถึงผู้พิการอีกด้วย
การคิดและการออกแบบในส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดสัดส่วนพื้นที่เน้นความโปร่งโล่ง ขนาดของทางเดิน วัสดุ ราวจับ ฟังก์ชันในส่วนต่าง ๆ ไปจนถึงการดีไซน์สัญลักษณ์ที่สื่อสารเข้าใจง่าย ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย ตามแนวคิด INCLUSIVE LIVING
Ground Floor การออกแบบทางเข้าหลัก พร้อมวัสดุปูพื้นเบรลล์บล็อก (Braille Block) และวัสดุปูพื้นแผ่นปูกันลื่น Basement Floor ดีไซน์ทางลาดพร้อมติดตั้งราวจับพื้นที่เชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Landscape พื้นที่สีเขียวดีไซน์พิเศษ พร้อมดีไซน์ทางลาดและราวจับ ด้วยสัดส่วนที่กว้างขวางเพียงพอเพื่อความสะดวกในการใช้งานรถเข็นทุกประเภท เป็นต้น ห้องน้ำสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ราวจับ อุปกรณ์ฉุกเฉิน รวมถึงลิฟต์โดยสารขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับรถเข็น และปุ่มกดระดับพิเศษที่สามารถกดเรียก และเลือกชั้นได้อย่างสะดวกสำหรับทุกคน เป็นต้น และยังพัฒนาพื้นที่ใต้ดินในแนวกว้าง สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสถานที่ อาคารต่าง ๆ และรถไฟฟ้าใต้ดินได้อย่างสะดวก
บริเวณโถงต้อนรับชั้นล่าง เน้นความโปร่งโล่ง ฝ้าเพดานสูง ที่พื้นมี Braille Block ที่ปูเชื่อมต่อมาจากพื้นที่ด้านนอกอาคารผู้พิการเชื่อมเข้าสู่ตัวอาคารได้สะดวก
บริเวณทางเข้าโถงลิฟต์ต้องใช้ Kaycard แตะตัวกั้นจะเปิดออก และจะมีจอแสดงสถานะว่าให้เราไปขึ้นลิฟต์ตัวไหนได้เลย
ป้ายชื่อองค์กร บริษัทต่าง ๆ ในอาคาร จะออกแบบให้อยู่ในระดับที่ ผู้พิการที่นั่งรถเข็นสามารถมองเห็นได้ชัด
หุ่นยนต์ตัวนี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยสามารถตั้งค่าให้เดินตรวจดูความเรียบร้อย ถ้าเห็นว่ามีคนล้มเป็นลม หุ่นยนต์จะส่งสัญญาณเตือนทันที คนญี่ปุ่นเค้าใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยมาก ๆ
มีพื้นที่นั่งพักผ่อนพร้อมวิวสวย ๆ กระจายในทุกชั้น ไว้นั่งพักคลายเครียด หรือคิดไอเดียใหม่ ๆ
ภายในอาคารมีส่วนที่เป็นชั้นโซนร้านอาหาร ที่เปิดไว้เพื่อรองรับพนักงานในอาคารเท่านั้น
ร้านอาหารก็จะมีให้เลือกหลากหลาย พร้อมชุดโต๊ะนั่งหลายชุด จะนั่งเป็นกลุ่มหรือนั่งแยกเดี่ยวก็มีไว้รองรับ
มุมนั่งจิบกาแฟ มุมนี้ก็น่านั่งดีนะครับ
ป้ายแสดงสัญลักษณ์ที่สื่อสารเข้าใจได้ง่ายในทุกคน
บริเวณโถงทางเดินขนาดใหญ่เน้นความโปร่งโล่ง
IoT Restroom ห้องน้ำอัจฉริยะ หน้าห้องน้ำจะมีจอแสดงแผนผังในห้องน้ำ พร้อมแสดงสถานะการใช้งานว่ามีคนใช้งานอยู่ หรือปิดปรับปรุง แค่ดูหน้าจอไม่ต้องเข้าไปเปิดดูแต่ละห้องว่ามีคนใช้งานอยู่รึป่าว
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันครบ จัดวางตำแหน่งให้มองเห็นได้ง่าย
ภายในห้องน้ำยังรองรับผู้สูงอายุอีกด้วย
ในห้องน้ำแต่ละห้องมีออุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ครบครัน และที่สำคัญเวลาที่มีคนใช้งานจะมีเสียงเพลงดังขึ้นให้เองอัตโนมัติ โดยการวิเคราะห์จาก AI
และนี่คือห้องน้ำสำหรับทุกคนทั้งผู้สูงอายุ เด็ก คนท้อง ผู้พิการ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับการใช้งานกับทุกคนจริง ๆ ครับ
ตัวอาคารจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า มีทางเชื่อมเข้าออกอาคารได้เลยสะดวกมาก ที่สำคัญคือมีราวจับ และปูพื้น Braille Block เชื่อมต่อกับภายในอาคารอีกด้วย
บันไดทางขึ้นลงระดับขั้นออกแบบมาไม่ให้สูงมาก เพื่อการใช้งานได้ง่ายกับทุกคน ที่ราวจับมีรายละเอียดบอกรวมถึงอักษรเบรล์อีกด้วย
ลิฟต์โดยสารยังออกแบบให้ใช้งานได้กับผู้ที่ใช้รถเข็น ระดับปุ่มกดจะอยู่ต่ำในระดับนั่งพอดี และภายในลิฟต์มีราวจับ และด้านบนมีกระจกเงา เวลาผู้ที่ใช้รถเข็นจะถอยหลังออกสามารถมองผ่านกระจกได้เลยว่าทางสะดวกมั้ย
THE PARKHOUSE NISHI SHINJUKU TOWER 60 คอนโด High Rise สูง 60 ชั้น สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2017 ตั้งอยู่ห่างจากสถานี Shinjuku ประมาณ 1.2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในย่านชินจูกุ ประกอบด้วยห้องชุดจำนวน 953 ยูนิต
รูปแบบห้องพักมีให้เลือกตั้งแต่ ห้องแบบ Studio ขนาด 34 ตร.ม. ไปจนถึง 3 Bedroom ขนาด 157 ตร.ม. ที่นี่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วยนะครับ ราคาตอน Pre-Sale เฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 250,000 บาท/ตร.ม. ปัจจุบัน Re-Sale ประมาณ 400,000 บาท/ตร.ม.
ความโดดเด่นที่น่าสนใจ คือ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง (Facilities) เพื่อให้ทุกคนได้มีสภาพแวดล้อม การใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้โดยไม่เกิดอุปสรรคในการใช้ชีวิต นอกเหนือจากการออกแบบทางเดินในพื้นที่ส่วนกลาง ลิฟต์
หนึ่งในฟังก์ชันที่น่าสนใจคือ การนำแนวคิด ENGAWA-MULTI GENERATION FACILITY การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง ที่มุ่งเน้นถึงการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันภายในโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่นี้ พื้นที่ส่วนกลางเพื่อใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน ให้ทุกวันของการพักอาศัยเป็น Community ของการอยู่อาศัยที่มีความสุข ที่นี่จึงพัฒนาให้สามารถรองรับบุคคลได้ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงคุณพ่อคุณแม่ ตอบรับกับพฤติกรรมการใช้งานที่เหมาะสมกับการใช้งานร่วมกันของทุกคน
ยกตัวอย่าง การออกแบบพื้นที่ Common Area ที่เชื่อมโยงพื้นที่ทุก ๆ ส่วนให้มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน จากการวางสเปซฟังก์ชันต่าง ๆ อาทิ Wooden Kid’s Plaza, Reading Corner, Library โดยที่ทุก ๆ ส่วนแทรกผสานพื้นที่สำหรับการใช้งานร่วมกันและพื้นที่สำหรับมุมส่วนตัวไว้ให้สลับไปมา ทำให้ผู้อาศัยสามารถสัมผัสถึงการอยู่ร่วมกันในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้ และเปิดแสงธรรมชาติเข้ามาสร้างความโปร่งโล่งภายในตัวอาคาร เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดแนวคิดต่าง ๆ เหล่านี้ ทาง AP ได้นำมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยอีกด้วย
ตัวอาคารดูสูงเด่น ชั้นล่างฝั่งนี้มีส่วนที่เป็นร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ลูกบ้านมาใช้งานได้สะดวก คนภายนอกก็เข้ามาใช้บริการได้
ในโครงการมีพื้นที่สวนพักผ่อนขนาดใหญ่ และยังเป็นพื้นที่หลบภัยเวลาเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งทางโครงการได้คำนวณแล้วว่าบริเวณนี้จะปลอดภัยจากอาคารโดยรอบ
ในสวนมีต้นไม้หลากหลายชนิด
และยังมีกำแพงน้ำตก และลำธารที่ช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี
ทางเข้าออกรถจะเชื่อมกับจุด Drop Off
Drop Off แวะจอดรับส่งได้สะดวก
และสามารถวนออกได้เลย ขวามือจะเป็นทางเข้าที่จอดรถในอาคาร
มีทางคนเดินแยกเข้าออกเป็น Coverway แยกเป็นสัดส่วน ที่พื้นปู Braille Block เชื่อมจากด้านนอกเข้ามาสู่ตัวอาคาร ซึ่งอาคารในญี่ปุ่นจะต้องปู Braille Block ตามกฎหมายครับ
ทางเข้า Lobby จะมี Video Door Phone
ประตูทางเข้าที่นี่เป็นบานไม้ทึบแบบเลื่อนอัตโนมัติ
ตามทางเดินเข้าไปด้านในจะมีช่องแสงขนาดใหญ่แทรกอยู่ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน
มุมนี้มองออกไปเห็นสวนส่วนกลางด้านนอก
ภายใน Lobby ขนาดใหญ่ เพดานสูงโปร่ง ซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์ของพนักงาน
โทนการตกแต่งก็จะดูอบอุ่นตามสไตล์ญี่ปุ่น เหมาะกับการพักผ่อน
การจัดวางโซฟาเค้าจะเว้นระยะให้เดินเข้าออกได้สะดวก
มุมนั่งพักผ่อนด้านใน
Lobby จะเปิดช่องแสงขนาดใหญ่มองเห็นสวนด้านนอก
ถัดมาเป็นประตูกั้นแยกเข้าโถงลิฟต์อีกชั้น ด้านหน้าประตูมี Video Door Phone อีกจุด
ลิฟต์โดยสารในโครงการนี้แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป, สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ออกแบบมาให้รองรับการใช้งาน และลิฟต์สำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งห้องที่เลี้ยงสัตว์จะต้องพาขึ้นลงในลิฟต์ที่กำหนดเท่านั้น และสัตว์เลี้ยงห้ามปล่อยเดินในพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ต้องอุ้ม หรือใส่รถเข็นครับ
มีห้อง Creative Space วันที่เข้าไปชมมีลูกบ้านใช้งานกันเยอะเลยครับ
ถัดมาเป็นห้อง ENGAWA เป็นห้องที่ออกแบบเพื่ออยากให้ทุกคนในครอบครัวมาทำกิจกรรมร่วมกัน โซนนี้จะเป็นพื้นไม้บรรยากาศดูอบอุ่น มีของเล่นเด็ก ๆ ให้เลือกหลากหลาย
มีโต๊ะนั่งหลายชุด พร้อมชั้นวางหนังสือ เด็ก ๆ มานั่งทำการบ้านในนี้ก็ได้
ด้านนอกมีระเบียงที่เปิดเชื่อมออกไปได้ ระเบียงจะมองเห็นสวนชั้นล่างพอดี
ถัดมาเป็นห้องเสื่อ Tatami มีฉากกั้นที่ให้อารมณ์เหมือนเราอยู่บ้านในญี่ปุ่นเลย มานั่งพักนอนพัก ทำกิจกรรมร่วมกันได้
และยังมีตู้กดน้ำ อ่างล้างจาน และเตาไฟฟ้าให้ทำอาหารนั่งทานในห้องนี้ได้ด้วย จะเห็นได้ว่าการออกแบบเข้าค่อนข้างให้ความใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการใช้งานร่วมกันได้กับทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน รวมไปถึงความสะดวกสบายและเรื่องความปลอดภัย ซึ่งทาง AP Thai ก็ได้นำมาปรับใช้กับโครงการในไทยหลายโครงการ และก็ยังปรับเปลี่ยนให้ดีมากขึ้นในโครงการใหม่ ๆ อีกด้วยครับ
AP x MITSUBISHI ESTATE ทุบประวัติศาสตร์บริษัทร่วมทุน รายแรกและรายเดียวที่จับมือเหนียวแน่นยาวนานร่วม 10 ปี ชูความจริงใจ คีย์ซักเซสดันดีลธุรกิจยั่งยืน มากกว่าเรื่องของผลตอบแทน แต่คือแนวทางการทำธุรกิจที่เชื่อใจกันและกันในทุกมิติ
From Strength To Strength ผสาน 2 จุดเด่นกลายเป็นจุดแข็งสร้างการเติบโตที่ไม่สิ้นสุด แกร่งกว่าทุกการร่วมทุนในอุตสาหกรรมด้วยเม็ดเงินลงทุน ผ่านทุนจดทะเบียนบริษัทร่วมทุนที่มากถึง 12,619 ล้านบาท
AP Thai ผู้นำอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้พันธกิจ EMPOWER LIVING กับคำมั่นสัญญาสำคัญ ‘ ชีวิตดี ๆ ที่เลือกเองได้’ เดินหน้าทำงานอย่างทุ่มเทในการนำแนวคิดการพัฒนาพื้นที่รูปแบบใหม่ในการดำเนินชีวิต (New layout of Life) ภายใต้แนวคิด ‘INCLUSIVE LIVING’ การออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อทุกคนในโครงการคอนโดมิเนียม ที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงามในการดีไซน์ แต่มีฟังก์ชันการใช้งานที่เป็นมิตรกับทุกคน รองรับทุกความต้องการและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ก้าวแรกเข้าสู่โครงการ ที่ทุกคนจะสามารถ ‘เลือกสร้างความสุขในแบบที่ตนเองต้องการ’
ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปี แห่งความร่วมมือทางธุรกิจในการพัฒนาคอนโดมิเนียมในประเทศไทย AP Thai ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรอย่าง MITSUBISHI ESTATE พันธมิตรจากญี่ปุ่น ประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐานที่ดี และแนวคิดในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นถึง ‘ การออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานของคนทุกกลุ่ม ’ โดยเฉพาะการดีไซน์พื้นที่สาธารณะ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะอาคาร โรงแรม โครงการที่พักอาศัย สถานที่สำคัญต่างๆ ฯลฯ ที่เข้มข้นและจริงจัง
AP Thai ได้นำหลากหลายแนวคิดจาก พันธมิตรอย่าง MITSUBISHI ESTATE มาพัฒนาเป็นแนวทางที่สามารถนำไปสู่การสร้างสรรค์ ‘การออกแบบ…เพื่อทุกคน’ มีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ ในการใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียมเอพี เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพในทุกมิติ และตอบสนองความต้องการให้กับผู้อยู่อาศัยโดยแท้จริง
พนักงานทีมไทย-ทีมญี่ปุ่นทำงานผสานเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้บริษัท พรีเมี่ยม เรสซิเดนซ์ จำกัด บริษัทร่วมทุนจัดตั้งในไทย 10 ปีกับผลงานชิ้นโบว์แดง 24 โครงการร่วมทุน มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ควบคู่กับนวัตกรรมดีไซน์ที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนเมือง
โครงการร่วมทุน Sold Out ไปแล้ว 13 โครงการ และ Ongoing Condo Projects อีก 11 โครงการ เตรียมโชว์ 2 ผลงานสุดมาสเตอร์พีซ The Address Siam-Ratchathewi และ RHYTHM Charoennakhon Iconic ที่สุดของความภาคภูมิใจแห่งปี
เตรียมเปิดตัวโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ THE ADDRESS สยาม-ราชเทวี โครงการสุดหรูใจกลางเมือง ห่างจาก BTS ราชเทวีประมาณ 150 ม.* ในราคาเริ่มต้น 8.29 ล้านบาท*
ลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติมคลิก : https://bit.ly/3wPtmGR
และอีกโครงการใหม่ล่าสุดที่ร่วมทุน RHYTHM Charoennakhon Iconic คอนโด High Rise ย่านเจริญนคร ตรงข้ามกับ ICONSIAM ใกล้รถไฟฟ้าสายสีทอง จะเปิดขายช่วงปลายปีนี้ ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะรอชมโครงการนี้กันอยู่ว่าน่าสนใจแค่ไหน
ลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติมคลิก : https://wow.in.th/J5P5W หรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 1623 หรือ LINE : @apthai 
แสดงความคิดเห็น