EP.285 รีวิว บ้านพฤกษา สุขสวัสดิ์-กาญจนาภิเษก Baan Pruksa Suksawat-Kanchanapisek

ชื่อโครงการ	บ้านพฤกษา 77 สุขสวัสดิ์-กาญจนาภิเษก Baan Pruksa Suksawat-Kanchanapisek
เจ้าของโครงการ	พฤกษา Pruksa
ลักษณะโครงการ	ทาวน์โฮม 2 ชั้น
พื้นที่โครงการ	16 – 1 – 86.7 ไร่
จำนวนบ้าน	211 ยูนิต
พื้นที่ใช้สอย	83 ตารางเมตร
เนื้อที่บ้าน	16.00 – 53.80 ตารางวา
จำนวนห้อง	3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ห้องรับแขก
ที่จอดรถทั้งหมด	1 คัน
โซน	สมุทรปราการ
ขนส่งสาธารณะ	–
รถโดยสารที่ผ่าน	รถสองแถว, Taxi และวินมอเตอร์ไซด์
ที่ตั้ง	อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ 10290
กำหนดการ	Pre-Sale ก.ย. 57
ปีที่สร้างเสร็จ	2559
ราคา	เริ่มต้น 1.6 ล้านบาท
ค่าส่วนกลางและกองทุน	ตารางวาละ 22 บาท / เดือน ชำระล่วงหน้า 2 ปี
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ป้อมพระจุลจอมเกล้ากองทัพเรือ : 5.7 กม. องค์พระสมุทรเจดีย์ : 3 กม. วัดไตรมิตรวราราม : 500 เมตร จุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก : 10.2 กม. จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร : 15.1 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	– คีย์การ์ด – กล้องวงจรปิด – สวนสาธารณะ – ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ	“ทาวน์โฮมโครงการใหม่ แบบบ้านใหม่ Minimal Style ลงตัวทุกไลฟ์สไตล์ ผสานรอยยิ้มให้ครอบครัว Spaclous Living Room ห้องพักผ่อนกว้างขวาง เพิ่มเสียงหัวเราะให้ยิ่งกว้าง Cozy Bedroom อบอุ่นทุกคืนกับห้องนอนในฝัน ที่ลงตัวทุกสัดส่วน Panty and Dining Room เต็มอิ่มกับพื้นที่ใช้สอย ที่ห้องรับประทานอาหาร”

ที่ตั้งโครงการ

อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ 10290

พิกัด google map: 13.579248, 100.573441

โครงการ บ้านพฤกษา 77 สุขสวัสดิ์ – กาญจนภิเษก ตั้งอยู่เกือบสุดสายถนนสุขสวัสดิ์ เส้นมุ่งหน้าป้อมพระจุล ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการแล้วค่ะ สภาพแวดล้อมโดยรวมของย่านนี้จะเป็นโรงงานขนาดเล็กและขนาดกลาง ปะปนอยู่กับที่อยู่อาศัย ถึงแม้ว่าโครงการจะถือว่าอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์แต่ก็เป็นเส้นที่แบ่งย่อยมาแล้วไม่ใช่ถนนเส้นหลัก ดังนั้นการจราจรและความคึกคักจึงมีน้อยกว่าบนถนนสุขสวัสดิ์เส้นหลักค่ะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ ของโครงการ อาหารการกินบริเวณโครงการค่อนข้างสะดวกทีเดียว เพราะแค่เดินออกมาจากซอยเลี้ยวขวาประมาณ 130 เมตร ก็จะเจอทั้ง Lotus express , BigC และตลาดสด หรือถ้าเดินไปซอยหมอบางก็จะเจอ 7-11 อยู่ต้นซอยเลยค่ะ ไกลออกมาอีกนิดก็จะมีตลาดสดบริเวณสามแยกพระสมุทรค่ะ ส่วนห้างใหญ่ๆบริเวณนี้จะไม่มีเลย ที่ใกล้สุดและใหญ่หน่อยจะเป็น BigC และ Tesco Lotus บนเส้นสุขสวัสดิ์มุ่งหน้าแยกดาวคะนอง แล้วถ้าใครอยาก Shopping ต้องไปเส้นพระราม 2 ถึงจะมี Central Rama II และ The Mall ท่าพระ บนถนนรัชดาภิเษกค่ะ

การเดินทางถึงแม้ว่าจะอยู่ไกลจากเมืองแต่ก็ถือว่ายังสะดวกพอใช้ได้ค่ะ เพราะสามารถใช้ทางด่วนกาญจนาภิเษกวิ่งไปสุขุมวิท, ศรีนครินทร์ และอีกจุดคือทางด่วนเฉลิมมหานครวิ่งตรงไปสาธุประดิษฐ์, พระราม 3

จากโครงการไปจุดขึ้นลงทางด่วนกาญจนาภิเษกประมาณ 13 นาที

หรือจะใช้ทางด่วนเฉลิมมหานครก็ประมาณ 20 นาทีค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เวลาที่เห็นนี่คือช่วงเวลาปกติที่รถไม่ติด ควรเผื่อเวลาการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนกันด้วยนะคะ เพราะเส้นนี้รถจะติดเป็นระยะๆเหมือนกันค่ะ

สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ถือว่าไม่ขี้เหร่เท่าไหร่นะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีรถเมล์วิ่งมาจอดเทียบหน้าโครงการแต่ก็ยังมีรถสองแถวและ Taxi ผ่านหน้าโครงการอยู่บ้าง นอกจากนั้นยังมีพี่วินซึ่งคิวตั้งอยู่ข้าง Lotus Express สามารถนั่งไปที่สามแยกพระสมุทรเพื่อต่อรถเมล์ได้ค่ะ

การเดินทาง

การเดินทางวันนี้เริ่มจากบนทางด่วนเฉลิมมหานครมุ่งหน้าดาวคะนอง ข้ามสะพานพระรามเก้าแล้วชิดซ้ายออกถนนสุขสวัสดิ์ ขับตรงไปเรื่อยๆเข้าเขตสมุทรปราการ ถึงสามแยกพระสมุทรเลี้ยวขวา ขับตรงมาอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ซอยเข้าโครงการจะอยู่ทางขวามือ

สรุปการเดินทาง ทางด่วนเฉลิมมหานครมุ่งหน้าดาวคะนอง > สะพานพระราม 9 > ถนนสุขสวัสดิ์ > สามแยกพระสมุทร > บ้านพฤกษา 77 สุขสวัสดิ์ – กาญจนาภิเษก

ตอนนี้เราอยู่บนทางด่วนเฉลิมมหานครกันนะคะ ขับตามป้ายดาวคะนองไปเลยค่ะ

ขับตามป้ายไปเรื่อยๆ

วิ่งตรงขึ้นสะพานพระราม 9 ขึ้นสะพานแล้วชิดซ้ายได้เลยค่ะ

ลงสะพานมาชิดซ้ายตามป้ายถนนสุขสวัสดิ์ค่ะ

ตอนนี้เราอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์กันแล้วค่ะ

หลังจากนี้เราจะขับตามป้ายป้อมพระจุลจอมเกล้าไปเรื่อยๆ

เข้าเขตสมุทรปราการแล้วค่าา

ตามทางมาเรื่อยๆสักพักจะเห็น BigC ทางซ้ายมือ

ไม่ไกลนักก็จะเจอ BigC mini

ตรงไปเรื่อยๆจะเจอป้ายบอกทางไปพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งจะนำทางเราไปที่สามแยกพระสมุทรที่เป็นแยกก่อนเข้าโครงการของเราค่ะ

ซ้ายมือเป็นทางเบี่ยงไปขึ้นทางด่วนกาญจนภิเษก ส่วนเรายังตรงไปเรื่อยๆ

ขับมาไม่นานจะเจอโรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดงทางขวามือ

เห็นหอนาฬิกาเตรียมเลี้ยวขวา

จุดนี้คือสามแยกพระสมุทรซึ่งซ้ายมือจะเป็นทางไปตลาดสดสามแยกพระสมุทร และวัดพระสมุทรเจดีย์ สามารถแวะไปไหว้พระทำบุญได้นะคะ ส่วนเราจะไปขวามือซึ่งเป็นเส้นที่มุ่งหน้าไปป้อมพระจุลค่ะ

เมื่อเลี้ยวขวาจากสามแยกพระสมุทรมาแล้วถนนจะแคบลงเป็นถนน 2 เลน เราจะต้องขับตรงมาอีกประมาณ 2 กิโลเมตร

ผ่านวัดไตรมิตรวราราม

เห็นป้ายโครงการแล้วเลี้ยวขวาเข้าโครงการเลยค่ะ

ซอยที่ใช้เข้าโครงการจะไม่พลุกพล่านนะคะ เพราะซอยนี้เป็นซอยเฉพาะของโครงการค่ะ

ถึงแล้วค่าาา

พื้นที่โครงการทิศเหนือติดกับหมู่บ้านเอื้ออาทร สุขสวัสดิ์ และที่อยู่อาศัยย่อยๆ ในซอยหมอบางค่ะ ส่วนทิศใต้ติดกับพื้นที่ว่างเปล่าและโรงงานผลิตโคมไฟ ทิศตะวันออกติดกับที่อยู่อาศัย และทิศตะวันตกติดกับที่ดินว่างเปล่าค่ะ

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

• ป้อมพระจุลจอมเกล้ากองทัพเรือ : 5.7 กม.
• องค์พระสมุทรเจดีย์ : 3 กม.
• วัดไตรมิตรวราราม : 500 เมตร
• จุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก : 10.2 กม.
• จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร : 15.1 กม.
• Lotus Express : 100 เมตร
• BigC mini : 140 เมตร

เจาะลึกโครงการ

โครงการนี้มีขนาดประมาณ 16 ไร่ จำนวนบ้านทั้งโครงการ 211 ยูนิต แบ่งเป็น 2 เฟส ซึ่งเฟสที่เปิดขายตอนนี้จะเป็นเฟส 2 ส่วนเฟส 1 ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ จาก Master Plan จะเห็นว่าตัวโครงการต้องเข้าซอยมาประมาณ 100 เมตร เมื่อถึงหน้าโครงการจะมีวงเวียน เป็นตัวแจกทางเข้าของเฟส 1 และ เฟส 2 ซึ่งถนนตรงวงเวียนนี้จะมีความกว้าง 18 เมตรค่ะ ส่วนลักษณะการวางผังในโครงการของตัวเฟส 2 นี้จะดูเหมือนแบ่งออกเป็นโซนด้านหน้าและโซนด้านหลังซึ่งทั้ง 2 โซนจะถูกเชื่อมกันโดยถนนหลักกว้าง 12 เมตร และแจกไปยังถนนย่อยเข้าบ้านแต่ละแปลงกว้าง 8 เมตร

ทางเข้าออกโครงการจะมีทางเดียวคือจากด้านหน้าโครงการ เมื่อเข้ามาจะเจอ Sales Office และนิติบุคคลอยู่ในซอยทางซ้ายมือ ตรงไปตามถนนหลักจะเห็นซอยย่อยที่แจกไปยังตัวบ้านค่ะ ซึ่งตอนนี้มีลูกบ้านเข้าอยู่อาศัยกันค่อนข้างเยอะแล้ว ส่วนโซนด้านหลังมีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วบ้างประปราย สำหรับส่วนกลางจะมีสวนสาธารณะ 1 จุด อยู่บริเวณกลางโครงการ ขนาดประมาณ 200 ตารางวา ไม่มี Club House นะคะ

บริเวณโครงการ

ก่อนจะเข้าไปดูในโครงการเดี๋ยวเราจะลองเดินดูรอบๆโครงการกันสักนิดนะคะ เริ่มด้วยฝั่งตรงข้ามโครงการ เป็นโรงงานผลิตเหล็กและโครงสร้างรูปพรรณ

ซ้ายมือเป็นบ้านพักอาศัยตลอดแนวถนน

เดินมาทางซ้ายอีกนิดจะเป็นซอยหมอบาง ด้านในเป็นที่พักอาศัยของคนแถวนี้และหมู่บ้านเอื้ออาทร สุขสวัสดิ์ …อ้อ ในซอยมี 7 – 11 ด้วยนะคะ

หันมาทางฝั่งขวามือของโครงการกันบ้าง ติดกับซอยโครงการเลยคือโรงงานผลิตโคมไฟ

เดินไปอีกหน่อยเป็นสะพานข้ามคลองไม่มีกลิ่นเหม็นนะคะ

ถัดมาเป็น Lotus Express เปิด 24 ชั่วโมง ดึกๆมีที่ฝากท้องแล้วสินะ ทั้งโลตัสทั้ง 7 – 11 ;P

ถัดมาจากโลตัสอีกหน่อยจะมีพี่วินคอยให้บริการอยู่หน้าซอยธงชัยพัฒนาค่ะ

 

ส่วนฝั่งตรงข้ามโลตัสเป็น BigC ที่ข้างๆกันมีตลาดสดเปิดตั้งแต่ 10 โมงเป็นต้นไป

มาดูบรรยากาศในตลาดกันหน่อย โซนนี้จะขายของสด มีกลิ่นรบกวนบ้างนิดหน่อยตามสไตล์ตลาดสดค่ะ

ส่วนโซนที่ติดกับ BigC จะขายพวกของชำ, ของเล่นเด็ก นอกจากนั้นยังมีพวกถ้วย, ถัง, กะละมัง ทั้งหลาย เรียกได้ว่าครบบ

ดูด้านนอกซอยกันไปแล้วตอนนี้เรามาดูหน้าโครงการเรากันต่อดีกว่าค่ะ เปิดมาด้วยซุ้มด้านหน้าโครงการ เรียบร้อย Minimal

ด้านหน้าเป็นวงเวียนเล็กๆสำหรับลูกบ้านเฟส 1 และเฟส 2

 

ซ้ายมือเป็นกำแพง ลงต้นไม้ไว้ดูร่มรื่นสบายตา หลังกำแพงเป็นที่อยู่อาศัยของคนละแวกนี้ค่ะ

ขวามือเป็นเฟส 1 ที่กำลังก่อสร้างอยู่ และทางเข้าของเฟส 1 จะอยู่ตรงนี้ด้วยค่ะ

ถึงเวลาที่รอคอย เรากำลังจะเข้าไปดูในหมู่บ้านกันแล้วนะค้าา เริ่มด้วยซุ้มทางเข้าหมู่บ้านมีหลังคาคลุมยาว ฝนตกไม่ต้องกลัวเปียกเวลาที่ต้องยื่นมือออกมาแตะ Key Card หรือแลกบัตร ตรงกลางเป็นป้อมยาม ทางเข้าออกกั้นด้วยไม้กระดก และใช้ระบบ Key Card ค่ะ

เครื่องแตะ Key Card และกล้องวงจรปิดด้านละ 2 ตัว ส่องด้านหน้ารถและป้ายทะเบียน

เข้ามาในโครงการจะเจอถนนหลัก กว้าง 12 เมตร รถขับสวนกันได้สบายๆค่ะ

ซอยย่อยซ้ายมือเป็น Sales Office และบ้านตัวอย่าง

ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่ ซึ่งนอกจากบ้านของโครงการแล้วก็จะเป็นนิติบุคคลด้วยค่ะ

กลับมาที่ถนนหลัก จะมีต้นไม้ลงไว้เป็นช่วงๆ ช่วยให้ดูร่มรื่นและเพิ่มความ Privacy ให้กับโครงการค่ะ

นอกกำแพงที่ติดกันเป็นหอพัก อืม.. อาจจะมีความเป็นส่วนตัวลดลงนิดนึงสำหรับแปลงมุม(เฉพาะซอยแรกๆ)ที่ติดกับถนนหลักนะคะ

ในซอยย่อยซอยแรก มีลูกบ้านเข้ามาอยู่เกือบครบแล้วค่ะ

ซอยถัดมาก็มีลูกบ้านเข้าอยู่เยอะแล้วเหมือนกันค่ะ อย่างที่เห็นว่าโครงนี้อนุญาตให้ต่อเติมได้ แต่ก่อนต่อเติมต้องยื่นเรื่องกับนิติก่อนนะคะ

ซอยถัดไปเป็นซอยที่อยู่ติดกับสวนสาธารณะ มีลูกบ้านเข้าอยู่เยอะแล้วเหมือนกันค่ะ

สวนสาธารณะขนาดประมาณ 200 ตารางวา มีม้านั่งให้นั่งชมธรรมชาติด้วยค่ะ

มีที่นั่งให้เป็นจุดๆ พร้อมไฟสวน

สวนค่อนข้างเล็กแต่มีที่นั่งให้หลายจุด สามารถมานั่งชิลล์ได้ประมาณนึงค่ะ

เดินมาสุดมุมถนนหลักเลี้ยวซ้าย ขวามือหลังกำแพงเป็นที่ว่าง ทำให้บ้านหลังที่หันหน้าออกไปด้านกำแพงนี้จะได้ความโปร่งมากกว่าโซนอื่นๆนะ

มาถึงโซนด้านหลังก็มีลูกบ้านเริ่มเข้าอยู่แล้วเหมือนกันค่ะ ถนนโซนนี้จะกว้าง 8 เมตรเท่ากันหมดทุกเส้นนะ

สำหรับที่กลับรถระหว่างแต่ละบล็อคจะเป็นพื้นคสล.ลงต้นไม้ไว้ให้พอเป็นพิธี ที่กลับรถห้ามจอดนะค้าา

กลับมาที่ Sales Office จะใช้บ้าน 2 หลังแรกเป็นที่ประจำการค่ะ

 

บ้านตัวอย่าง

ตัวบ้านมีเพียง 1 แบบ ซึ่งเป็นแบบบ้านใหม่ของพฤกษา คือ

• Hoshi ขนาดที่ดินเริ่มต้น 16.00 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 83 ตร.ม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 1.60 ล้านบาท

แบบบ้าน Hoshi นี้จะมี 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น และ 1 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 5 เมตร และพื้นที่ใช้สอย 83 ตารางเมตร ฝ้าเพดานสูงมาตรฐาน 2.5 เมตร ทางเข้าบ้านมีเพียง 1 ทางคือจากประตูหน้าบ้าน เมื่อเดินเข้าบ้านจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับส่วนรับประทานอาหาร ครัวและห้องน้ำที่เข้าจากในครัว ส่วนลานซักล้างหลังบ้านสามารถออกไปได้จากห้องทานอาหารค่ะ ส่วนบันไดจะอยู่เชื่อมต่อมาจากห้องนั่งเล่นซึ่งบริเวณใต้บันไดนี้จะเป็นที่โล่งไม่มีห้องเก็บของนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่โถงเล็กๆ แจกไปห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง โดยห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องจะอยู่ด้านหลังของบ้าน ส่วนห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom จะอยู่ด้านหน้าของตัวบ้าน เป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะที่สุด สามารถทำเป็น Walk-in closet เล็กๆได้ค่ะ สำหรับห้องน้ำบนชั้น 2 จะมีเพียง 1 ห้องที่สามารถเข้าได้เพียงทางเดียวคือจากห้องโถง ห้องน้ำห้องเดียวแบบนี้เวลาเร่งด่วนอาจจะไม่เพียงพอคงต้องแบ่งกันลงไปใช้ห้องน้ำด้านล่างนะคะ

มาดูของจริงกันค่ะ อย่างที่บอกว่าแบบบ้านนี้เค้ามาในแบบ Minimal Style ฉะนั้นจึงมีความ Minimal ตั้งแต่สีที่ใช้น้อยสี จนถึงหน้าตาโดยรวมที่ตกแต่งมาไม่เยอะ ของบ้านเลยค่ะ

สำหรับสีของตัวบ้านจะมีมาให้เลือก 2 สีคือ สีเทาด้านบนและสีส้มน้ำตาลแบบนี้ค่ะ

มาที่บ้านตัวอย่างกัน หน้าบ้านจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือที่จอดรถและประตูเข้าบ้าน สำหรับที่จอดรถปูกระเบื้องมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

แต่ของจริงจะเป็นพื้นคอนกรีตเทลาดเอียงให้ค่ะ

ที่จอดรถสำหรับจอดได้ 1 คัน กว้างประมาณ 2.6 เมตร ก็พอดีจอดและมีที่เหลือให้เดินอีกนิดหน่อยนะ

ที่จอดรถมีโคมไฟซาลาเปามาให้ 1 ดวง ถ้าอยากให้ที่จอดรถมีแสงสว่างมากกว่านี้เผื่อเวลาถอยจอดตอนกลางคืนแนะนำให้ติดดวงไฟเพิ่มนะ และจากตรงนี้จะเห็นช่องแสง 1 จุดคือช่องแสงสำหรับโถงบันไดด้านในนั่นเองค่ะ

มาที่ทางเข้าบ้านกัน ประดูเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ประตูเข้าบ้านหลักที่เป็นกระจกเต็มบานแบบนี้อาจจะมีความปลอดภัยน้อยกว่ากระจกบานทึบแนะนำให้ติดประตูเหล็กดัดเพิ่มด้านในนะคะ

มือจับจับสะดวกดีค่ะ

บานประตูและหน้าต่างของที่นี่เป็นกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติทั้งหมด ตัวรางของประตูทางเข้าหลักติดตั้งบนพื้นที่ลดระดับไว้แล้ว เวลาเดินจะสะดวกมากขึ้นเพราะไม่มีตัวรางมาเกะกะ

เฉลียงหน้าบ้านกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร เดินเหยียบได้เต็มเท้าแบบสบายๆ ส่วนพื้นที่ส่วนด้านหน้าของจริงจะไม่ได้ลงหญ้าหรือเทคอนกรีตไว้ให้นะคะ แต่จะเป็นดินที่ปรับระดับให้เรียบร้อยแล้ว

เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกที่เราเห็นคือห้องนั่งเล่น จากตรงนี้เราก็จะเห็นห้องทานอาหาร และประตูออกไปหลังบ้าน ขวามือมีบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องครัวติดกัน พื้นชั้น 1 ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร ผนังของจริงจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีทั้งหมด

ห้องนั่งเล่นจะได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว 1 บาน (ที่เราเห็นมีหน้าต่างด้านหลังโซฟาเพราะเป็นแปลงมุมนะคะ ถ้าเป็นบ้านหลังกลางจะไม่มีช่องแสงตรงนี้เป็นกำแพงทึบๆไปตามระเบียบ) และจากประตูหน้าบ้านเต็มๆอีก 1 บาน ตรงนี้ถ้าใครกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดม่านบังสายตาไว้ด้วยนะคะ เพราะบานประตูค่อนข้างใหญ่ใครผ่านไปมามองเข้ามาเห็นแน่นอนเลย

ผนังของด้านที่เราเห็นอยู่นี้ก็กว้างประมาณ 2 เมตร เป็นระยะประมาณจากผนังหน้าบ้านถึงสุดผนังของชั้นวางทีวี การวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งแบบที่เห็นในรูปถือว่าพอดีๆนะ

ระยะนั่งดูทีวีประมาณ 1.2 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมคือ 26″ – 32″

อีกมุมฝั่งชั้นวางทีวี ผนังตรงนี้จะเว้าเข้ามาเพราะด้านนอกเป็นที่จอดรถ ทำให้เราได้ที่วางทีวีพอดีค่ะ

ติดกับที่วางทีวีจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปดูห้องอื่นๆก่อนแล้วจะกลับมาที่บันไดกันค่ะ

ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นสเปซโล่งไม่มีการกั้นผนัง สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่เยอะ ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ การที่ไม่กั้นกำแพงระหว่างห้องแบบนี้จะช่วยให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านดูกว้างขึ้น แถมยังตามสมาชิกในบ้านมาทานอาหารกันได้ง่ายๆด้วยกลิ่นหอมๆเนี่ยล่ะค่ะ แต่ๆๆ ระวังเฟอร์นิเจอร์มีกลิ่นอาหารติดด้วยนะคะ

สำหรับห้องทานอาหารของห้องกลางจะได้ช่องแสงมา 1 จุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

แต่ถ้าเป็นห้องมุมจะได้ช่องแสงเพิ่มมาอีก 1 จุดคือผนังข้างบ้านค่ะ

สำหรับโต๊ะกินข้าวที่วางมาให้ดูอาจจะเล็กไปหน่อย ถ้าใช้งานจริงสามารถวางโต๊ะกินข้าวขนาดประมาณ 4 – 5 ที่นั่งได้

สำหรับหน้าต่างห้องทานอาหารเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

ไม่มีมือจับแต่ตัวกรอบมีหน้ากว้างค่อนข้างเยอะพอให้จับเลื่อนได้ค่ะ ตัวล็อคเป็นแบบก้นหอย

มาดูส่วนครัวกันต่อนะคะ จะเห็นว่าสามารถกั้นเป็นห้องครัวปิดได้ง่ายมากเพราะเค้าออกแบบเผื่อเอาไว้ให้แล้ว โดยต่อเติมผนัง 1 ด้านขึ้นมาก็พอแล้ว ไฟส่องสว่างมีมาให้แค่ 1 ดวงเวลาทำอาหารอาจจะไม่ค่อยถนัดแนะนำว่าติดไฟเพิ่มจะดีกว่า

ประตูออกไปลานซักล้างหลังบ้านอยู่ติดกับครัวและห้องทานอาหาร เป็นประตู PVC สีขาว

ออกไปดูกันสักหน่อย

ที่ลานซักล้างหลังบ้านมีงานระบบเดินมาให้เรียบร้อยรองรับการวางเครื่องซักผ้า

เงยหน้าไปดูด้านบนไม่มีพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ให้ ก็จะต้องติดแบบลอยตัวแบบนี้ เวลาช่างมาล้างแอร์ก็อาจจะต้องปีนจากชั้น 1 แต่ถ้ามีการต่อเติมหลังคาจนเต็มพื้นที่แล้วก็ต้องปีนออกจากห้องนอนชั้น 2 นะ

กลับมาดูที่ครัวกันอีกที จะเห็นว่าติดกับประตูออกไปลานซักล้างและประตูห้องน้ำทางขวามือ

ส่วนครัวจะมีเคาน์เตอร์ลงไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง จะเห็นว่าพื้นที่พอวางได้แค่ซิงค์ล้างจาน และมีที่เตรียมอาหารด้านข้างนิดหน่อย ไม่มีพื้นที่สำหรับวางเตาแล้ว เหมาะสำหรับบ้านไหนที่ไม่ได้ทำครัว เน้นซื้อกลับมาทาน แต่ถ้าใครคิดว่าจะต้องทำครัวจริงๆจังๆแนะนำให้ต่อเติมครัวออกไปด้านหลังบ้านนะคะ

อีกด้านนึงป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นมีเต้าเสียบมาให้

พื้นที่ยืนเตรียมอาหารประมาณ 1 เมตร

สำหรับห้องน้ำใช้บานประตู PVC สีขาวเหมือนกันทั้ง 2 ชั้น

พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 4 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

ผนังกรุกระเบื้องเซรามิค ขนาด 20 x 30 เซนติเมตร ชุดสุขภัณฑ์ครบชุด ไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ แต่แนะนำให้ติดตั้งฝักบัวไว้ด้วยนะคะ เพราะบ้านหลังนี้มี 3 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ ถ้าใช้อาบน้ำได้แค่ห้องเดียวจะไม่เพียงพอ ..จริงๆนะ

อ่างล้างหน้า Cotto ขนาดค่อนข้างเล็ก ไม่มีบ่าวางของ, ชั้นใต้อ่าง หรือเคาน์เตอร์มาให้ ดูจากพื้นที่ที่ได้แล้วก็ไม่น่าจะ Build-in อะไรได้มากเท่าไหร่ ถ้าของเยอะอาจจะต้องหาชั้นวางหรือตู้เก็บของมาใส่ไว้กันเองนะคะ

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto ตำแหน่งติดตั้งอยู่ระยะที่ใช้สะดวก

สายชำระพลาสติกธรรมดา ขนาดมาตรฐาน

เดี๋ยวเราจะขึ้นไปดูชั้นบนกันแล้วนะคะ บริเวณบันไดจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานฟิกมาให้ 1 บาน เป็นบานที่เราเห็นจากลานจอดรถก่อนเข้าบ้านนั่นเองค่ะ

สำหรับบันไดของโครงการนี้เป็นบันไดสำเร็จรูปทำให้มีพื้นที่ใต้บันไดเหลือซึ่งหลายโครงการจะทำเป็นห้องเก็บของให้ แต่สำหรับที่นี่ปล่อยโล่งไว้ เราสามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นตามตัวอย่างได้ค่ะ

ลูกนอนเป็นไม้สีน้ำตาลเข้มเกือบดำกว้าง 24 เซนติเมตร

ราวบันไดเหล็กมือจับเป็นไม้สีเดียวกับลูกนอน

บันไดแบบลูกตั้งโปร่ง เดินไปก็แอบเสียวๆขาไป

ดูโถงบันไดกันหน่อย โถบันไดค่อนข้างสูงนะ นอกจากช่องแสงที่ให้มาด้านล่างและก็มีโคมซาลาเปามาให้อีก 1 จุด แสงสว่างเวลากลางคืนอาจจะไม่เพียงพอแนะนำให้หาโคมไฟเก๋ๆ มาติดเพิ่มนะคะ

ชานพักบันไดสี่เหลี่ยมจตุรัส 2 จุด

พื้นชั้น 2 ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร ทั้งชั้นค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้นสองจะเจอโถงเล็กๆ แจกไปห้องน้ำ ห้องนอนทั้ง 3 ห้อง เดี๋ยวเราจะเริ่มจากห้องนอนเล็กฝั่งหลังบ้านกันก่อนนะคะ

พื้นที่โถงไม่กว้าง เดินสองสามก้าวก็ถึงกันแล้วค่ะ อบอุ่นๆ

หันกลับไปดูโถงบันไดอีกที ตรงนี้ไม่มีราวกันตกนะคะ เพราะโถงไม่กว้างมากจึงไม่มีพื้นที่เหลือที่ต้องกั้นราวกันตกค่ะ

จากโถงมาดูทางขวามือกัน จะแบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง เราจะเข้าไปดูห้องขวามือกันก่อนนะคะ

ห้องนอนห้องแรก ตกแต่งแบบเรียบร้อย ลูกสาวหวานๆ

ให้ดวงไฟโคมซาลาเปามา 1 ดวงกลางห้อง

ห้องนี้มีช่องแสง 1 จุด อาจจะอุดอู้นิดหน่อยเพราะไม่มีทางระบายอากาศ แต่ไม่เป็นไรค่ะเราสามารถพึ่งพาเครื่องปรับอากาศได้

เตียงที่เหมาะสมสำหรับห้องนี้คงจะหนีไม่พ้นเตียงขนาด 3.5 ฟุต เพราะถ้าใหญ่กว่านี้อาจไม่มีที่สำหรับตู้เสื้อผ้านะ

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 90 เซนติเมตรสามารถทำชั้นวางของเล็กๆได้

ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งข้างเตียง ตรงโต๊ะเครื่องแป้งอาจจะวางเก้าอี้เล็กๆได้ 1 ตัวสำหรับไว้นั่งแต่งหน้านะ

พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือหลังวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแล้ว

ผนังฝั่งประตูสามารถวางตู้เก็บของและชั้นวางของเล็กๆได้แบบนี้

มาดูห้องนอนห้องต่อไปที่อยู่ข้างๆกันค่ะ

มีห้องลูกสาวแล้วก็ต้องมีห้องลูกชาย ห้องนี้จัดมาด้วยโทนสีน้ำเงินเทา เรียบๆ

ให้ดวงไฟโคมซาลาเปามา 1 ดวงกลางห้อง

มีช่องแสง 2 จุด สามารถเปิดพร้อมกันเพื่อให้ลมโกรกผ่านหน้าต่าง 2 บาน วันไหนอากาศดีก็ปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดพัดลมก็อยู่ได้แล้ว ประหยัดไฟด้วย

เตียงที่ใช้วางในห้องนี้เป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุต วางเข้ามุมช่วยประหยัดพื้นที่

พื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างน้อย

ห้องนี้เนื้อที่อาจจะน้อย จึงจัดมาให้ได้แค่พอวางตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของนิดหน่อยเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้มีเฟอร์นิเจอร์สำหรับวางในพื้นที่น้อยๆ ปิด – เปิด ปรับแต่งได้มากมายลองไปเลือกกันดูนะคะ

พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือหลังจากวางตู้เสื้อผ้าแล้วค่ะ พอจะเดินได้อยู่

มาที่ Master bedroom ฝั่งหน้าบ้านกันบ้างค่ะ

ห้องนี้เป็นห้องคุณแม่แน่ๆเลย แต่งมาหวานๆเข้ากับห้องลูกสาวเสียจริง ห้องนอนใหญ่ฝั่งเตียงนอนจะมีช่องแสง 1 จุดเป็นหน้าต่างบานฟิกบานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ และจะมีหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวบริเวณหัวเตียงด้วยสำหรับบ้านแปลงมุม

หน้าต่างบานยาวช่วยให้ได้รับแสงส่องมาบนเตียงแนะนำให้ติดม่านกรองแสงด้วยนะคะเผื่อวันไหนแดดแรงแต่ยังอยากนอนตอนกลางวันจะได้ไม่แสบตาเนอะ

ห้องนอนใหญ่ก็มีโคมไฟซาลาเปามาให้ 1 ดวงกลางห้อง อาจจะน้อยไปหน่อย แต่ไม่เป็นไรค่ะเราสามารถติดไฟเพิ่มตามจุดต่างๆเองได้ อย่างบริเวณโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า เพราะแสงจากไฟดวงเดียวคงไม่พอนะ

เตียงนอนวางขนาดคิงส์ไซส์ได้พอดีๆ มีพื้นที่เหลือข้างเตียงทั้ง 2 ด้าน

พื้นที่ข้างเตียงสามารถวางโต๊ะเล็กสำหรับโคมไฟหรือโทรศัพท์ได้ค่ะ

อีกฝั่งเป็นโซนสำหรับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมีช่องแสง 1 จุดเป็นหน้าต่างบานใหญ่ พื้นที่ตรงนี้อาจจะทำเป็น Walk-in closet แบบเล็กๆได้นะ

บานหน้าต่างค่อนข้างใหญ่เป็นบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมแนะนำให้ติดม่านด้วยเหมือนกันค่ะ เพื่อความเป็นส่วนตัว

หน้าต่างบานนี้ก็ใช้บานกรอบเป็นมือจับและตัวล็อคก้นหอยเหมือนบานอื่นๆทั้งหลัง

บ้านหลังนี้ไม่มีพื้นที่ระเบียงนะ ราวเหล็กที่เห็นจากหน้าบ้านเป็นแค่งานตกแต่งเฉยๆค่าา

มาต่อกันที่ห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องนอนใหญ่นะคะ ห้องน้ำบนชั้น 2 จะใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอน และมีทางเข้าเพียงทางเดียวคือจากโถงหน้าห้อง ซึ่งห้องน้ำห้องเดียวอาจจะไม่เพียงพอกับการใช้งานในเวลาที่รีบเร่งนะคะ ต้องแบ่งกันลงไปใช้ห้องน้ำด้านล่างค่ะ

ห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 4 เซนติเมตร พื้นปูกระเบื้องเซรามิค 30 x 30 เซนติเมตร ส่วนผนังกรุกระเบื้องเซรามิคขนาด 20 x 30 เซนติเมตรสีขาว มีช่องแสง 1 จุดเหนือโถสุขภัณฑ์

อ่างล้างมือเหมือนที่ชั้น 1 คือไม่มีบ่าวางของ, เคาน์เตอร์ คงต้องหาชั้นมาวางของกันเองนะคะ

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto ตำแหน่งติดตั้งมีระยะที่พอใช้ แต่ที่วางกระดาษชำระอาจจะเปียกได้ จากน้ำที่กระเด็นมาตอนอาบ แนะนำให้หาที่ครอบมาปิดไว้ด้วยก็ดีนะ

ส่วนอาบน้ำติดตั้งฝักบัวไว้เดี่ยวๆ ไม่ได้แยกส่วนแห้งส่วนเปียก เวลาใช้งานก็คงมีกระเซ็นมาโถสุขภัณฑ์บ้างอะไรบ้าง แต่ถ้าจะติดกระจกกั้นอาบน้ำหรือม่าน อาจจะทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ก็จะเหลือแคบไปนิด ยังไงก็ต้องลองตัดสินใจกันดูนะคะว่าชอบแบบไหน

พื้นที่สำหรับอาบน้ำประมาณ 1.20 x 0.6 เมตร ไม่อึดอัดค่ะ

ฝักบัวอาบน้ำของ Karat ขนาดค่อนข้างเล็กนะ อาบน้ำหน้าร้อนคงไม่สะใจเท่าไหร่

สำหรับประตูในห้องนอนทุกห้องของจริงจะได้เป็นประตู HDF สีขาว พร้อม Stopper กันเปิดประตูแรงๆแล้วกระแทกผนังค่ะ

อุปกรณ์ปลั๊กและสวิตช์ไฟทั้งหลังของ Bticino bamboo

 

ราคา (มกราคม 2559)

** เงินจอง : 3,000 / ทำสัญญา : รวมอยู่ในเงินจอง(โปรโมชั่น)

• แบบ Hoshi ที่ดินเริ่มต้น 16.0 ตร.วา 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ที่จอดรถ | ราคา 1.60 – 2.58 ล้านบาท

**ค่าสาธารณูปโภคในโครงการ : 22 บาท/ตร.ว. ชำระล่วงหน้า 2 ปี

**ที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 38,000 บาท

โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ*

 

บทสรุปโครงการ

ทำเลโดยรอบ

โครงการ บ้านพฤกษา 77 สุขสวัสดิ์ – กาญจนา เป็นโครงการทาวน์โฮมที่อยู่ในเขตสมุทรปราการ มีระยะเข้าซอยสั้นๆแค่ประมาณ 100 เมตร โครงการนี้ถึงแม้จะอยู่ไกลเมืองออกมาถึงสมุทรปราการแล้วแต่ก็ยังเดินทางได้สะดวกเพราะมีเส้นทางขึ้นทางด่วนที่สามารถไปถึงได้ง่าย ทั้งทางด่วนเฉลิมมหานครซึ่งสามารถเชื่อมไปในโซนเมืองอย่างพระราม 3, สาธุประดิษฐ์ และทางด่วนกาญจนาภิเษกที่สามารถเชื่อมไปถึงศรีนครินทร์และสุขุมวิทได้ค่ะ

ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นโรงงานขนาดกลางเป็นส่วนมาก ปะปนอยู่กับ หมู่บ้าน และบ้านของคนในพื้นที่เดิม ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึงมีค่อนข้างหลากหลาย ทั้ง Lotus express, BigC, 7 – 11 และตลาดสด เสียตรงที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆในบริเวณใกล้ๆไม่มีเลย ต้องออกไปไกลถึง Central พระราม 2 หรือ The mall ท่าพระ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางโดยใช้รถยนต์ดูจะเป็นทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ เพราะสามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้ด้วยถนนเส้นหลักๆอย่างถนนสุขสวัสดิ์เพื่อไปขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกและทางด่วนเฉลิมมหานคร สำหรับการจราจรก็สะดวกพอสมควรค่ะ จะมีรถติดบ้างช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น

การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางออกจากโครงการโดยรถสาธารณะสามารถใช้บริการได้ทั้ง Taxi และรถสองแถว หรือถ้ารีบก็มีคิวพี่วินอยู่ข้าง Lotus express ส่วนรถประจำทางอย่างรถเมล์ก็สามารถไปขึ้นที่สามแยกพระสมุทร ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตรค่ะ

แบบบ้าน วัสดุของที่นี่ให้มาแบบมาตรฐาน เฉลียงเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร พื้นทั้งหลังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ผนังบ้านทั้งหลังเป็นคอนกรีตฉาบเรียบทาสีขาวยกเว้นห้องน้ำผนังจะกรุกระเบื้องเซรามิคสีขาวขนาด 20 x 30 เซนติเมตรให้ค่ะ ส่วนประตู, หน้าต่างบานเลื่อนต่างๆใช้อลูมิเนียมสีธรรมชาติ ฝ้าภายในตัวบ้านชั้นล่างเป็นคอนกรีตฉาบเรียบ ทาสี ส่วนฝ้าเพดานชั้นบนและห้องน้ำทุกห้องเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบ ทาสี อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ได้ของ Cotto ฝักบัวและก๊อกน้ำของ Karat แต่ไม่ได้แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกมาให้ ส่วนดวงไฟแบบโคมซาลาเปาทั้งหลัง

สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัยมี Key card access ระยะใกล้ ระบบ CCTV ที่ซุ้มด้านหน้าฝั่งละ 2 ตัว ที่ทางเข้าและทางออกและถนนหลักของโครงการถนนหลักในโครงการกว้าง 12 เมตร และถนนซอยกว้าง 8 เมตร มีระยะที่สามารถขับรถสวนกันได้สบายๆค่ะ เรื่องสาธารณูปโภคถือเป็นจุดด้อยสำหรับโครงการนี้เพราะมีให้แค่สวนสาธารณะและพื้นที่ค่อนข้างน้อย ไม่มี Club house

คะแนน

ทำเลที่ตั้งโครงการ	6.5	เข้าซอยลึก แต่ถือเป็นโซนที่อยู่อาศัยจึงได้ประโยชน์จากความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น
การเดินทาง ใช้รถ	8.0	เข้า – ออกเมืองได้สะดวกด้วยจุดขึ้น – ลงทางด่วน 2 จุด แต่ไกลจากโครงการหน่อย
การเดินทาง ไม่ใช้รถ	7.5	ถึงจะไม่มีรถเมล์มาถึงหน้าโครงการแต่ยังมีรถสองแถว, Taxi, และพี่วินหน้าโครงการ ไปต่อรถที่สามแยกพระสมุทร
บ้านและวัสดุ	7.5	รูปแบบทางสถาปัตยกรรมสอดคล้องกับ Concept ของโครงการดี ฟังก์ชั่นครบ
สิ่งอำนวยความสะดวก	7.5	ระบบรักษาความปลอดภัย Key card ถนนภายในโครงการกว้าง มีสวนสาธารณะแต่ไม่มี Club house
ความคุ้มค่ากับราคา	7.5	ราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท ถือว่ามาตรฐานกับวัสดุที่ได้
คะแนนรวมเฉลี่ย	7.41	พอใช้

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 1739

WEBSITE : คลิกที่นี่