แบบบ้านไม้ชั้นเดียว

บ้านสองปีกกลางป่าไม้และผาหิน มีสะพานเชื่อมกันพร้อมวิวทะเล จากบนยอดเขาในประเทศชิลี วันนี้จะขอนำคุณผู้อ่านชมบ้านในสไตล์ผสมผสานระหว่าง Southern Barn กับสไตล์ Comtemporary กันบ้างนะคะ  ผู้อ่านบางท่านอาจจะงง ๆ ว่ามันคือสไตล์แบบไหนกันน้า?  เดี๋ยวเรามาลองดูกันต่อไปค่ะ แบบบ้านหลังที่นำมาอวดคุณผู้อ่านในวันนี้ เป็นบ้านที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติค่ะ เพราะถูกสร้างไว้ในป่าบนภูเขา ที่มีภูมิประเทศเป็นป่าไม้หนาทึบ และพื้นที่มีหินธรรมชาติก้อนขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่บนพื้นที่ Lago Ranco ในประเทศชิลี  ด้วยความที่เจ้าของบ้านเป็นคนที่รักต้นใหญ่และธรรมชาติในพื้นที่นี้มาก จึงไม่ต้องการให้มีการตัดไม้หรือระเบิดหินออกไปเลย ดังนั้นสถาปนิกผู้ออกแบบจึงคงต้นไม้และหินตามธรรมชาติแบบเดิมไว้ แล้วออกแบบให้บ้านมีลักษณะที่แยกออกเป็นสองปีกแทน บ้านไม้ทั้งสองปีกนี้ถูกเชื่อมไว้ด้วยสะพานเหล็กสีดำ กรุปิดทางเดินไว้ด้วยกระจก ดูคล้ายสะพานเลื่อนในห้างสรรพสินค้า แต่มีวิวด้านข้างสะพานเป็นหินตามธรรมชาติขนาดใหญ่

บ้านไม้สไตล์ดิบ ๆ แบบคาวบอย พร้อมน้ำตกหลังบ้าน ใกล้อุทยานแห่งชาติ Yellow Stone ใน Montana มาถึงบ้านไม้อีกหลังที่สวยงามไม่แพ้บ้านไม้หลังอื่นที่เคยนำเสนอมาแล้วนะคะ พิเศษตรงที่แบบบ้านหลังนี้อยู่ริมน้ำแล้วยังมีน้ำตกเล็ก ๆ อยู่หลังบ้านตัวเองอีกต่างหาก! สวย สดชื่น ทั้งธรรมชาติและตัวบ้านเลย เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบบ้านที่มีโครงสร้างแบบคันทรี่ย้อนยุคแบบดิบ ๆ  แข็งแกร่งและอยู่ได้ยั่งยืน     เจ้าของบ้านหลังนี้คือ Melissa and Todd Thomson แห่ง Yellow stone club ซึ่งก็คือบริเวณที่ปลูกสร้างบ้านชั้นเดียวหลังนี้นี่เอง

กระท่อมน้อยในสวนขวัญ หลังเล็กแค่ 39 ตารางเมตร แต่น่ารักสุด ๆ มาถึงบ้านพักตากอากาศอีกหลังแล้วนะคะ แม้ว่าบ้านหลังนี้จะมีพื้นที่เล็ก ๆ แค่ 39 ตารางเมตร แต่ก็สวยงามน่ารัก มีขนาดเล็กและสามารถปลูกสร้างได้อย่างรวดเร็ว คุณผู้อ่านท่านใดที่ฝันอยากมีบ้านไม้หลังเล็กสำหรับพักผ่อนตากอากาศ หรือสร้างไว้ในสวนหลังบ้านของคุณเอง วันนี้ตามมาดูกันค่ะ กระท่อมหลังนี้มีเจ้าของก็คือคุณ Lone และ คุณ Nels ค่ะ ทั้งสองตั้งใจสร้างกระท่อมน้อยแห่งนี้ไว้สำหรับเป็นที่หลบพักผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานในเมืองใหญ่  พื้นที่โดยรอบสวยงามด้วยธรรมชาติป่าไม้รอบพื้นที่ และใช้ขับรถจากในตัวเมืองเวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น ความจริงแล้วทั้งสองซื้อกระท่อมไม้เก่า ๆ

บ้านไม้สีดำของแฟชั่นดีไซเนอร์ ภายนอกสวยเท่ ภายในอบอุ่นสบาย คุณผู้อ่านอาจจะคิดไม่ถึงว่าเจ้าของบ้านหลังนี้มีอาชีพเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์และสถาปนิก เพราะมองยังไง ๆ บ้านหลังนี้ก็ไม่ได้ดูดหรูหราฟู่ฟ่าแบบอาชีพของเขาทั้งสอง นั่นเป็นเพราะรสนิยมส่วนตัวที่พ้องตรงกันพอดีในเรื่องการมีบ้านที่เงียบสงบ ดูทันสมัยแต่ก็ต้องดูแลรักษาง่ายไปด้วยในเวลาเดียวกัน กระท่อมหรือบ้านไม้สีดำหลังนี้โครงสร้างภายนอกเป็นไม้ค่ะ สีดำดูเท่ดี แปลกตากว่าบ้านทั่วไปในบริเวณเดียวกัน ปลูกสร้างอยู่ในบริเวณตอนเหนือของ Aarhus  ภายในบ้านจะไม่กั้นห้อง แต่จะเป็นลักษณะของการใช้พื้นที่ส่วนรวมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก/ห้องนั่งเล่น โต๊ะรับประทานอาหาร และตลอดไปจนถึงห้องครัว แทบส่วนด้านของผนังติดตั้งประตูเลื่อนหน้าบานกระจกขนาดใหญ่ ที่ทำให้สามารถรับวิวภายนอก และให้แสงสว่างได้สอดส่องเข้ามาถึงด้านในบ้านได้ทุกมุม บริเวณรอบนอกของบ้าน เน้นการปลูกไม้ดอก และเทลาดพื้นด้วยคอนกรีต จึงทำให้มีพื้นที่กว้างขวาง สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ หรือจะนอนอาบแดดอุ่น

บ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่น เรียบง่าย สุขสงบ ในป่าโปร่งของจังหวัด Nagano ประเทศญี่ปุ่น สถาปนิกผู้ออกแบบของบ้านไม้ที่เรียบง่าย และสุขสงบแห่งนี้คือ Yokota Norio และ Kawamura Noriko แห่ง Case Design Studio  เขาทั้งสองได้ออกแบบพื้นที่กว่า 95 ตารางเมตรใน Kitasuku จังหวัด Nagano ประเทศญี่ปุ่น ให้กลายเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวสำหรับครอบครัว ที่ก่อสร้างจากวัสดุหลักก็คือไม้ แซมด้วยกระจกที่ทำให้เสพรับวิวทิวทัศน์ที่แสนเรียบง่ายในป่าโดยรอบ  หลังคาถูกออกแบบให้มีความชันต่ำเพื่อความสันโดษ และไม่รบกวนธรรมชาติ แต่จะปล่อยให้ต้นไม้ภายนอกได้อวดความงดงามแทน

บ้านไม้ซีด้าร์ สีสันกลมกลืน กลางป่า Ontario แน่นอนอยู่ว่า สำหรับบางคนนั้นบ้านไม้ในป่าร่มรื่นดูจะเป็นบ้านในฝันที่สักวันจะต้องมีสักหลังให้ได้ แต่จะเป็นบ้านไม้ในสไตล์คลาสสิกแบบบ้านท่อนซุง Log home ดี หรือบ้านไม้ในสไตล์โมเดิร์นดี  หากคุณลังเลเหมือนเจ้าของบ้านหลังนี้ในตอนแรก  ลองดูแบบบ้านหลังนี้ก่อนดีไหมคะ บ้านไม้ชั้นเดียวที่มีสีสันกลมกลืนกับป่าไม้ร่มรื่นหลังนี้ปลูกสร้างอยู่ใกล้ Bracebridge ใน Ontario ประเทศแคนาดาค่ะ  ด้วยความตั้งใจของเจ้าของบ้านแต่แรกที่ต้องการให้บ้านหลังนี้ไม่สร้างผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและต้องมีราคาประหยัด  สถาปนิกจึงกำหนดให้โครงสร้างของบ้านเป็นไม้ซีด้าร์ และใช้ช่างฝีมือในพื้นที่มาทำการก่อสร้างด้วย ไม้ซีด้าร์นั้นเมื่อผ่านการตากแห้งและย้อมสีแล้ว จะให้สีที่อบอุ่นเหลือบเทาเงินอ่อนโยนเย็นตา จึงไม่ขัดแย้งกับป่าไม้ธรรมชาติโดยรอบมากนัก ออกจะดูเหมือนทำให้บ้านนี้กลายเป็นบ้านลึกลับไปเสียด้วยซ้ำ ทั้งภายในและภายนอกของบ้านก็ล้วนตกแต่งด้วยไม้ซีด้าร์ทั้งสิ้น แต่ก็เป็นไปในรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามแต่ละจุด ผสมผสานกับกระจกที่นำมาใช้เป็นหน้าต่าง บ้านจึงดูสว่างไสว อบอุ่น

บ้านไม้สไตล์ Boathouse แข็งแกร่ง สว่าง สงบ บ้านของสถาปนิก Susanne Nobis โครงสร้างตลาดสะพานปลาท่าเรือในสมัยโบราณนั้นมักจะมีลักษณะเป็นหลังคาหน้าจั่วมีความสูง เพื่อให้อากาศระบายได้ดี เสาและโครงสร้างของอาคารจะมีขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกแข็งแรงบึกบึน ที่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก ยกเว้นตามต่างจังหวัดที่ยังรักษาอาคารเก่าของเมืองเอาไว้ได้  บ้านที่จะนำมาเสนอคุณผู้อ่านในวันนี้ก็มีคอนเซปท์ดังกล่าว  โดยการนำเอาความแข็งแรงของโครงสร้างแบบตลาดสะพานปลาท่าเรือ มาเป็นต้นแบบของโครงสร้างบ้าน  ซึ่งเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นสถาปนิกเธอจึงออกแบบทุกรายละเอียดเองทุกประการเลยค่ะ ในส่วนของหลังที่เป็นสำนักงาน ตกแต่งฝาผนังของบ้านทั้งสองด้านเป็นชั้นหนังสือขนาดใหญ่จากพื้นจรดเพดาน มีชั้นลอยเล็ก ๆ ที่สามารถขึ้นไปเลือกอ่านตำรา หนังสือ และยังเป็นห้องประชุมได้อีกส่วนหนึ่งด้วย สว่าง โปร่งโล่ง ด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่และสูงจากชั้นล่างจนถึงโครงหลังคาด้านบน ในบ้านส่วนที่เป็นที่พักอาศัย ส่วนโถงกลางนั้นจัดเป็นพื้นที่สำหรับทำครัว มีไอส์แลนด์เตรียมอาหาร

บ้านไม้หลังเล็ก อบอุ่นเรียบง่ายและร่มรื่น บ้านในสวนจาก Netherlands บางทีชีวิตเราก็ไม่ต้องการควรหรูหรา หรือเครื่องใช้ไม้สอยอะไรมากมายนักหรอก แค่บ้านไม้หลังเล็ก ๆ สักหลัง มีเฟอร์นิเจอร์แค่พอใช้งาน กับความสบายจากสวนร่มรื่น แค่นี้ก็สุขใจมากพอแล้ว จากคอนเซปท์ของเจ้าของบ้านดังกล่าวจึงกลายมาเป็นบ้านเล็กกลางสวนหลังนี้ค่ะ ผลงานการออกแบบจาก Netherlands architects Onix Architects ที่เน้นความเรียบง่าย และเพียงพอกับการใช้ชีวิตในกลางเมือง บ้านหลังนี้ตกแต่งภายนอกด้วยไม้จึงดูคล้ายกระท่อมที่อบอุ่นและติดดินทั้งภายนอกและภายใน ไม้ที่กรุตกแต่งไว้เข้ากันได้ทั้งหมดจากภายในสู่ภายนอก เลือกใช้ไม้จากธรรมชาติมาตกแต่งทั้งพื้นและเพดานตลอดั้งบ้าน เฟอร์นิเจอร์เพียงชิ้นเดียวที่ดูจะเป็นหลักของบ้าน รวมทั้งเตาผิงให้ความอบอุ่น ซิงค์ล้างจาน และเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารเอาไว้ด้วยกัน ก่อขึ้นไว้บริเวณมุมกลางบ้านพอดิบพอดี ใช้ประโยชน์ได้ทั้งจากภายในบ้านและภายนอกบ้าน หน้าบ้านก็ยังมีลานขนาดใหญ่ไว้สำหรับทำกิจกรรมได้หลากหลายอีกด้วยค่ะ

บ้านไม้ในไร่งาม เด่นแปลกตาด้วยหลังคาไม่เหมือนใคร จากไร่ในออสเตรเลีย จะเรียกว่าบ้าน.. หรือจะเรียกว่าเต็นท์ถาวรดีน้า..?  สำหรับบ้านหลังนี้  แต่จะเรียกอะไรก็แล้วแต่ บ้านหลังนี้แปลกตาด้วยหลังคาทรงที่ไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ  บ้านหลังนี้ชื่อว่า Turon House ค่ะ  สร้างขึ้นไว้ในไร่สำหรับแคมปิ้งและท่องเที่ยวแนวผจญภัย ที่นักท่องเที่ยวไม่ต้องการความสะดวกสบายมากนัก พื้นที่แห่งนี้อยู่ติดริมน้ำธรรมชาติ ในลำห้วย Turon ประเทศออสเตรเลีย มลรัฐนิวเซาท์เวลส์  บ้านหลังนี้เจ้าของบ้านและดีไซเนอร์เลือกที่จะนำเอาความกว้างของบ้านเป็นจุดเด่น จึงได้วางผังให้บ้านมีลักษณะคล้ายเชลเตอร์สำหรับพักแรมหรือแค้มปิ้ง แล้วเลือกใช้ไม้ซึ่งเป็นวัสดุในท้องถิ่นมาก่อนสร้าง  ที่นี่จึงดูน่าอยู่และอบอุ่นน่าเที่ยวทุกฤดูกาลเลย แม้บ้านหลังนี้จะมีงบประมาณการก่อสร้างที่น้อยมาก แต่กลับมีความรับผิดชอบต่อพื้นที่ป่าโดยรอบอย่างสูง เจ้าของบ้านและดีไซเนอร์เลือกใช้โครงสร้างผนังเป็นไม้ และมีโครงสร้างหลังคาแบบหน้าจั่ว และมีความลาดเอียงมองดูคล้ายเต๊นท์กันแดดขนาดยักษ์ เมื่อมุงหลังคาซึ่งเป็นแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตเข้าไป

Pavillion House บ้านไม้สำหรับการพักผ่อนในฤดูร้อนกลางสวนมะกอก หากในฤดูร้อนหรือช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของเราจะมีบ้านพักหลังสบายสักหลังไว้สำหรับเอนกาย ปล่อยจิตใจท่ามกลางบรรยากาศที่แสนสุข เคียงข้างกับคนรู้ใจ.. คงจะดีไม่น้อยเลยนะคะ และหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังมองหาแบบบ้านไม้ ที่มีความยืดหยุ่นสูง ในขณะที่ก็ให้พื้นที่ใช้สอยได้ครบตามความต้องการ ลองดูแบบบ้านหลังนี้สิ บ้านหลังนี้ หรือจะเรียกว่าศาลาพักผ่อนก็ยังได้ เพราะเป็นบ้านที่นำเอาคอนเซปต์ของทั้งบ้านและศาลาพักผ่อนมารวมกัน ถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง เพราะเป็นบ้านที่มีลักษณะ Open Space เปิดโล่ง เพื่อให้สามารถจัดแต่งเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ อีกทั้งผนังทั้งสี่ด้านของบ้านยังออกแบบให้มีช่องเปิดที่สามารถเลื่อนเปิดหรือปิดได้ตามต้องการ การออกแบบเน้นความโปร่งและสว่างสบายเป็นหลัก ด้วยการเปิดช่องโล่งให้ลมผ่านได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  มีระเบียงต่อออกไปทั้งสองด้าน สำหรับพักผ่อนกลางแจ้งได้แบบสบาย ๆ  ด้านหลังของบ้านจะเป็นระเบียงใต้ชายคาที่เป็นระแนงแผงไม้ที่สามารถชมทิวสวนมะกอกได้ในหน้าร้อน โครงสร้างของบ้านเป็นไม้ทั้งหลังทำให้บ้านหลังนี้เย็นสบายแม้จะอยู่ในหน้าร้อน