ตกแต่งบ้าน

บ้านสีครีมเรียบง่าย  ภายในตกแต่งครบ น่าอยู่มาก ชอบบ้านเรียบง่ายกันใช่ไหมล่ะ?  งั้นดูบ้านหลังนี้กัน  ข้างในแต่สวยปิ๊งละลายใจเลยด้วยล่ะ ชมกันเลย บ้านสีครีมหลังนี้เป็นบ้านที่ผสมผสานกันทั้งโครงสร้างไม้และปูนค่ะ แต่ภายนอกของบ้านตกแต่งด้วยไม้ตีเกล็ดทาสีครีมอบอุ่นอ่อนโยนทั้งหลัง เข้ากันได้ดีกับหลังคามุงกระเบื้องสีโทนเทา  รอบบ้านปลูกสนามหญ้าไว้โดยรอบ หล่อพื้นปูนโค้งเข้าสู่ทางขึ้นบ้าน ด้านหน้ามีเฉลียงไม้เล็ก ๆ เอาเก้าอี้มานั่งเล่นจิบชาได้ ภายในบ้านตกแต่งสวยงดงาม พื้นปูด้วยไม้ขัดเงาวับในส่วนของห้องรับประทานอาหารและห้องครัว  เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชุดครัวหน้าบานสีขาวสะอาดสไตล์คลาสสิก  มีโต๊ะรับประทานอาหารอยู่ในบริเวณเดียวกันนี้ ด้านข้างเปิดประตูออกสู่สวนข้างบ้านได้  บริเวณห้องนั่งเล่นปูพรมขนาดใหญ่ไว้กลางพื้นที่สีพรมนุ่มตาเข้ากันดีกับโซฟาสีครีมและหมอนอิงสีพาสเทล ด้านหน้าเป็นส่วนของห้องนอนค่ะ ตกแต่งเรียบง่ายเน้นความสดใสจากหน้าต่างทั้งสองมุม  ด้านหลังของบ้านนั้นมี Deck ไม้อีกจุดหนึ่งไว้สำหรับนั่งพักผ่อน มีโซฟากลางแจ้งนั่งสบาย จะรับแขกบริเวณนี้ก็ทำได้อย่างสะดวกด้วย Credit Picture

บ้านสไตล์ Barn House น่าอยู่อารมณ์คันทรี่ Barn House คือบ้านที่มีลักษณะโครงสร้างเหมือนโกดังหรือยุ้งฉางสำหรับเก็บเมล็ดพืชนั่นเองค่ะ สวยแบบคันทรี่ อบอุ่นเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปอยู่บ้านนอกกับคุณตาคุณยายเลย Barn House หลังนี้เป็นบ้านเก่าตั้งแต่ยุค 1970 ค่ะ เดิมทีก็เป็นทั้งบ้านและโรงเรือนเก็บอุปกรณ์การเกษตรด้วย  ปัจจุบันได้ถูกนำมารีโนเวทใหม่ให้กลายเป็นบ้านพักกลางฟาร์มสวย ๆ  ภายนอกอบอุ่นน่าอยู่ตกแต่งด้วยไม้งามทั้งหลังเลยด้วย  โครงสร้างของบ้านจะใช้โครงสร้างเดิมของบ้านค่ะ แต่ตกแต่งภายนอกและภายในเสียใหม่ สำหรับภายในนั้นนำมารีโนเวทให้สวยสไตล์คันทรี่  ใช้ประตูบานทรงหนาแข็งแกร่งแบบบ้านฟาร์ม  พื้นบ้านมีทั้งส่วนที่ปูด้วยไม้และปูนขัดมัน  ชั้นล่างของบ้านเป็นห้องพักผ่อนรวมของครอบครัว มีห้องนั่งเล่นและห้องอ่านหนังสือ รวมทั้งมุมโต๊ะรับประทานอาหาร สำหรับชั้นบนนั้นจัดเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ เปิดเพดานสูงและลาดเอียงตามไปตามโครงสร้างหลังคา ด้านหน้าสุดติดตั้งช่องแสงกระจกขนาดใหญ่ไว้ช่วงกลาง จัดวางโซฟาสำหรับพักผ่อนเบา

คืนชีวิตให้บ้านเก่า 100 ปี สวยดูดีสุดประทับใจ ยืนยันว่าภาพ Before และ After นี้เป็นบ้านหลังเดียวกันจริง ๆ ค่ะ ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ.. อย่างนี้ต้องมาพิสูจน์กันทีละมุมเลยนะ บ้านหลังนี้อยู่ในแถบ Location: Grant Park neighborhood of Atlanta ค่ะ มีพื้นที่กว่า 246 ตารางเมตร เมื่อปรับปรุงใหม่แล้วทำให้มีห้องนอนถึง 4 ห้องและห้องน้ำ 3 ห้อง  ก่อนปรับปรุงใหม่นั้นก็ได้มีการสำรวจโครงสร้างของบ้านก่อน

บ้านตากอากาศสีส้ม สดใสต้อนรับฤดูร้อน ทั้งสดใสและสวยหวานในเวลาเดียวกันเลยนะคะบ้านหลังนี้  เหมาะกับฤดูร้อนเอามาก ๆ เลยค่ะ  ใครชอบต้องคลิกชมดีเทลภายในต่อเลยนะ บ้านหลังนี้อยู่ใกล้กับชายหาด Pardise Key South Beach ใน Florida ค่ะ เป็นผลงานการออกแบบและก่อสร้างของ Glenn Layton Homes  ตัวบ้านออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนของครอบครัว เป็นบ้านปูนสองชั้นตกแต่งผนังภายนอกด้วยสีส้มอ่อนหวานตัดกับสีขาวของรั้วและชายคาบ้านเพิ่มความน่ารักขึ้นไปอีก  ด้านหน้าบ้านมีเฉลียงไม้เล็ก ๆ ไว้สำหรับนั่งเล่นรับอากาศดี ๆ หรือนั่งทานข้าวยามเย็นก็ได้อีก ภายในบ้านตกแต่งได้อย่างสดใสสมกับเป็นบ้านพักตากอากาศชายทะเล  ช่วงกลางของบ้านซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นนั้นปูพื้นด้วยไม้ตลอดทั้งโซน จัดวางโซฟาสีครีมโครงสร้างเรียบง่ายสไตล์ Beach

บ้านแบบ American Cottage ขาว สวย รวยความสุข วันนี้นำเอาแบบบ้านที่ผสมผสานสไตล์อเมริกัน คันทรี่ และ Beach Cottage เข้ากันได้อย่างกลมกลืนมาฝากคุณผู้อ่านค่ะ  ทั้งสวยน่าดู น่าอยู่ ภายในสวยอบอุ่นได้อีกค่ะ ตัวบ้านนั้นเป็นบ้านไม้แบบอเมริกัน คันทรี่ค่ะ  ทาสีขาวทั้งหลัง ด้านหน้ามีเฉลียงเล็ก ๆ สำหรับจัดเป็นพื้นที่นั่งรับลมตากอากาศสบายได้  พื้นที่บ้านกว้างขวางไม่น้อยและยังมีชั้นสองอีกด้วย  เมื่อเข้าไปภายในจะพบกับห้องรับแขกกว้าง ๆ ที่ปูพื้นด้วยไม้สวย จัดวางโซฟาย้อนยุคดูคลาสสิกสีโทนครีมสบายตา  ใกล้เคียงกันเป็นมุมของห้องครัวซึ่งก็กว้างใหญ่ไม่แพ้กันเลย  ทั้งยังออกแบบให้มีหน้าต่างรอบด้านรับแสงอาทิตย์สดใสได้เต็มพื้นที่  ตัวเคาน์เตอร์และตู้ครัวเลือกใช้หน้าบานสีขาวซึ่งเข้าคู่กันได้อย่างลงตัวกับ ท๊อปไอสแลนด์หินสีดำหรู

บ้าน Beach Cottage สวย ๆ แต่งชิงเกิ้ลไม้สีครีมตัดฟ้า บ้านหลังนี้อยู่ใกล้หาด  Jacksonville Beach ใน Florida ค่ะ ตัวบ้านจึงออกแบบมาให้ดูสบายสมกับเป็นบ้านพักตากอากาศ ภายในแต่งสวยเนี๊ยบ ๆ  มีไอเดียน่าแต่งตามหลายจุดด้วย คลิกดูกันเลยนะคะ บ้านหลังนี้เป็นบ้านโครงสร้างไม้ค่ะ ตกแต่งผนังภายนอกด้วยไม้ชิงเกิ้ลสีโทนครีม ตัดด้วยสีฟ้าของประตูและไม้ชายคา แซมด้วยสีขาวของโครงสร้างเสาและระเบียงหน้าบ้าน สวยลงตัวน่าพักผ่อนมาก หน้าบ้านมีเฉลียงเล็กไว้สำหรับจัดเก้าอี้นั่งรับลมทะเลเบา ๆ ได้อีก ส่วนภายในบ้านต้องขอบอกเลยว่าสวยเนี๊ยบมาก แม้จะเป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์คันทรี่กับบีชคอทเทจก็ตาม  สว่างไสวและคลาสสิกทุกจุด  ในห้องครัวตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกสีเหลือบครีมอมส้มนิด ๆ 

Cottage สีฟ้าอ่อน สำหรับคุณแม่ ในบั้นปลายชีวิต – ลักษณะบ้านชั้นเดียว 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พร้อมห้องพักผ่อน ห้องรับแขก ครัว ห้องรับประทานอาหาร และระเบียง – พื้นที่ใช้สอย 80 ตร.ม.  ราคาประมาณ 8 แสนบาท ลูกกตัญญูทั้งหลายคะ  หาบ้านไว้ให้คุณพ่อคุณแม่กันหรือยัง  ถ้ายังหาแบบบ้านไม่ได้ ลองดูแบบบ้านแสนอบอุ่นหลังนี้ดูสิ คุณพ่อคุณแม่ต้องรักแน่ ๆ เลย บ้านหลังนี้ความจริงแล้วเป็นบ้านเก่าค่ะ 

บ้านขาวพราวเสน่ห์ มีโรงเรือนหลังบ้าน ดัดแปลงเป็นออฟฟิศได้ – ลักษณะบ้านชั้นเดียว 5 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมห้องพักผ่อน ห้องรับแขก ห้องทำงาน  ครัว ห้องรับประทานอาหาร และระเบียง – พื้นที่ใช้สอย 234 ตร.ม.  ราคาประมาณ 2.8 ล้านบาท เรียบ  ๆ แต่ดูสวยพราวเสน่ห์ไปทั้งหลังเลยไหมคะคุณผู้อ่าน  ภายในยังตกแต่งสวย สวนหลังบ้านก็สดชื่นน่าพักผ่อนด้วยล่ะ ตัวบ้านเป็นแบบบ้านชั้นเดียวที่ก่อสร้างจากไม้ทั้งหลังค่ะ  ผนังภายนอกตกแต่งด้วยไม้ตีเกล็ดทาสีขาวอมเทานิด ๆ

The Cherry บ้านคันทรี่ผสมฟาร์มเฮ้าส์ มีหลายโทนสี พร้อมแบบแปลน อาจจะมีภาพภายในให้ดูน้อยไปสักหน่อย แต่มีตัวอย่างให้ชมกันหลายโทนสีเลยนะคะ มาพร้อมแบบแปลนด้วยล่ะ  ต้องชมนะ สวยมากเลย สำหรับคนที่มีหัวใจรักในสไตล์คันทรี่ ที่ดูโปร่งสบายแบบบ้านฟาร์มเฮ้าส์ ต้องหลังนี้เลยค่ะ เป็นส่วนผสมที่ออกแบบมาอย่างลงตัวกันเลย  ภายนอกตกแต่งได้หลายโทนสีดังภาพที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นโทนสีอ่อนอย่างสีครีมหรือสีเทากลาง ๆ  หรือจะเป็นโทนสีเข้มอย่าง น้ำเงิน แดงเชอรี่ หรือเทาเข้ม ก็สวยเท่ไปอีกอารมณ์ โครงสร้างของบ้านนั้นจะเป็นบ้านไม้สองชั้นค่ะ ผนังภายนอกตกแต่งด้วยไม้กระดานตีเกล็ดและแผ่นไม้ชิงเกิ้ล  มุงหลังคาด้วยกระเบื้องยางมะตอยแผ่นบางสีเทา  ภายในบ้านแต่งสวยอบอุ่นด้วยการปูพื้นด้วยไม้สีโทนน้ำตาลทั้งหลัง   แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอนได้ถึง 4 ห้องด้วยกัน ชั้นล่างนั้นมีทั้งห้องรับแขก

Fritz Art Studio แบบโฮมออฟฟิศ & อาร์ตสตูดิโอสวย ๆ มาพร้อม Deck ไม้กว้าง เอาไอเดียของโฮมออฟฟิศ และอาร์ตสตูดิโอสวย ๆ มาฝากกันค่ะ เผื่อฟรีแลนซ์คนไหนอยากได้สำนักงานสวย ๆ ปลูกไว้หลังบ้านทำงานชิล ๆ   เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริงและสวยจนคุณอยากอวดเพื่อนเลยล่ะ ดูกันเลย สำหรับสตูดิโอหลังนี้ต้องบอกว่าปลูกอยู่บนที่ดินที่ทำเลดีมาก ๆ เลยค่ะ  อยู่บนเนินเขาพอดี จึงรับลมเย็น ๆ ได้ตลอดทั้งปี  แต่หากคุณผู้อ่านไม่ได้มีที่ทางบนเขา ก็ปลูกบนพื้นที่ราบธรรมดาได้เช่นกันนะคะ  จะเห็นได้ว่าส่วนประกอบของออฟฟิศนี้มีแค่ส่วนของห้องสตูดิโอโล่ง