ชื่อโครงการ
แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ Chapter One Shine Bangpo
เจ้าของโครงการ
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) | Pruksa
เนื้อที่ทั้งหมด
3-1-40 ไร่
จำนวนตึก
อาคารชุดพักอาศัย สูง 33 ชั้น 1 อาคาร
อาคารจอดรถ สูง 5 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนชั้น
33 ชั้น
จำนวนห้อง
607 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
Studio : 22.45-23.35 ตร.ม.
1 Bedroom : 28.80-29.30 ตร.ม.
1 Bedroom Exclusive : 48.90 ตร.ม.
1 Bedroom Riverfront : 44.85 ตร.ม.
2 Bedroom Riverfront : 56.80 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
คิดเป็น 46% หรือ 251 คัน รวมจอดซ้อนคัน
จำนวนลิฟต์
ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
ลิฟต์บริการ 1 ตัว
โซน
บางโพ-เขตบางซื่อ
ขนส่งสาธารณะ
MRT บางโพ
Shuttle Bus รับส่ง MRT เตาปูน
ทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก
เรือด่วนเจ้าพระยา
รถโดยสารที่ผ่าน
n/a
ที่ตั้ง
ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
กำหนดการ
สร้างเสร็จพร้อมอยู่
ปีที่สร้างเสร็จ
สร้างเสร็จพร้อมอยู่ พ.ศ. 2562
ราคา
เริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* Fully Furnished
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
ประมาณ 112,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม./ ชำระครั้งเดียว
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้าและตลาด
ตลาดสดศรีเขมา 230 เมตร
ฃเกตเวย์บางซื่อ 1 กม.
ตลาดเตาปูน 1.7 กม.
เทสโก้ โลตัสประชาชื่น 2 กม.
แม็คโครสามเสน 2.7 กม.
สุพรีมคอมเพล็กซ์ 2.8 กม.
บิ๊กซีวงศ์สว่าง 3 กม.
jj mall 6.3 กม.
The Mall งามวงศ์วาน 6.7 กม.
เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว 8.4 กม.
สถานศึกษา
รร.โยธินบูรณะ 150 เมตร
รร.กุลวรรณศึกษา 170 เมตร
ม.เทคโนโลยีพระนครเหนือ 1.5 กม.
รร.ราชินีบน 2.9 กม.
รร.สามเสนวิทยาลัย 4.5 กม.
รร.เซนต์คาเบรียล 4.6 กม.
โรงพยาบาล
รพ.บางโพ 750 เมตร
รพ.ยันฮี 3 กม.
รพ.วิชัยยุทธ 4.5 กม.
สถานที่ราชการ
สน.บางโพ 1.5 กม.
รัฐสภาแห่งใหม่ 1.7 กม.
สนง.เขตบางซื่อ 2.5 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Lobby & Outdoor Lobby
Infinity Edge Pool
Sky Fitness
Sunset Deck
Sky Lounge
Sky Garden
Walking Track
Zen Chamber
Play Yard
Private Court
Yoga Yard
Co-Working Space
Meditation Area
ระบบ CCTV / Access Card
ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ
แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ ปรากฏการณ์ใหม่ในย่านคลาสสิค กับคอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการใหม่ล่าสุดจาก “พฤกษา เรียลเอสเตท” ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท*
ที่ตั้งโครงการ
ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
พิกัด : 13.812520, 100.521559
โครงการ Chapter One Shine บางโพ ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์ สาย 1 ระยะทาง 700 ม.จากแยกบางโพ ซึ่งเป็นติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงโค้งน้ำพอดี ซึ่งทำเลจัดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพตอนเหนือ ใกล้กับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก และอยู่ไม่ไกลจากแยกบางโพ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบางโพ ช่วงต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ในอนาคต ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2562 ค่ะ
ตัวโครงการสามารถเชื่อมต่อกับตัวเมืองจ.นนทบุรีได้ เนื่องจากอยู่ใกล้กับสะพานพระราม 7 ข้ามฝั่งไปก็สามารถวิ่งออก ถ.ราชพฤกษ์-บางกรวย-ไทรน้อยได้ค่ะ หรือจะวิ่งเข้าตัวเมืองกรุงเทพมหานครชั้นใน โซนดุสิต หรือวิ่งออกตัวเมืองในโซนจตุจักร กำแพงเพชร ถึงห้าแยกลาดพร้าวได้เช่นกัน
การเดินทางด้วยรถยนต์ ตัว โ ครงการอยู่ติดถนนประชาราษฏร์สาย 1 สามารถเชื่อมต่อกับถนนสายหลักเส้นอื่นๆ อย่างเช่น ถนนวงศ์สว่าง ที่สามารถวิ่งสู่ตัวเมืองนนท์ได้, ถ.ประชาราษฏร์สาย 2 วิ่งสู่โซนจตุจักร, ถ.ทหาร บริเวณแยกเกียกกาย ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งใหม่แล้ว ในอนาคตจะมีโครงการสะพานเกียกกาย ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมต่อกับ ถ.จรัญสนิทวงศ์ เพื่อรองรับเมกะโปรเจครัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงการขยายถนนประชาราษฏร์สาย 1 ต่อไปยังถนนทหาร และสร้างถนนคู่ขนานสามเสน , สร้างถนนเชื่อมสะพานเกียกกาย กับถนนกำแพงเพชรอีกด้วย ซึ่งก็ล้วนเป็นถนนเส้นหลัก ที่ใช้เดินทางในละแวกโครงการแทบทั้งสิ้นค่ะ
และยังใกล้กับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวน ซึ่งเป็นตัวช่วยให้สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกกว่าเดิม จากที่ต้องวิ่งไปขึ้นบริเวณประชาชื่น แยกประชานุกูล
ภาพหน้าตาของสะพานเกียกกาย เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ตำแหน่งของโครงการรัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงสะพานเกียกกาย และอาคารสูงในอนาคต ซึ่งถึงแม้โครงการจะอยู่ใกล้รัฐสภาแห่งใหม่ระยะ 700 เมตร ก็ตาม แต่การผุดขึ้นของคอนโด High Rise แบบโครงการเราในย่านบางโพคงจะต้องกระเถิบออกมานะคะ เนื่องจากติดข้อกฏหมายจำกัดความสูงของโครงการโดยรอบรัฐสภา
จุดขึ้นทางด่วน จากโครงการสามารถวิ่งขึ้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ที่เพิ่งเปิดใหม่ให้ใช้งานปีนี้ค่ะ ซึ่งสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ซึ่งแต่ก่อนจะต้องวิ่งผ่าน ถ.วงศ์สว่าง ขึ้นที่ด่านประชาชื่นเพียงทางเดียวเท่านั้น ส่วนจากโครงการ ก็สามารถวิ่งออกสู่ดอนเมืองโทลเวย์ได้นะคะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบๆโครงการ
แยกบางโพ 700 เมตร
แยกประชาราษฏร์ 800 เมตร
สะพานพระราม 7 1.2 กม.
แยกเกียกกาย 1.7 กม.
แยกเตาปูน 1.8 กม.
ถนนจรัญสนิทวงศ์ 1.9 กม.
แยกประชาชื่น 2 กม.
แยกสะพานแดง 2.8 กม.
แยกวงศ์สว่าง 3 กม.
แยกประดิพัทธ์ 3.6 กม.
แยกประชานุกูล 3.6 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ตัวโครงการอยู่ใกล้ MRT บางโพ ในระยะทางประมาณ 700 เมตร ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ได้ใช้บริการ มีนาคม พ.ศ.2563 ค่ะ นั่งไปเพียง 1 สถานี ก็เชื่อมต่อกับสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วเรียบร้อย สามารถนั่งจาก MRT เตาปูน เชื่อมต่อไปยังย่านบางซื่อ-ลาดพร้าว-รัชดาภิเษกได้เลยค่ะ ซึ่งหากดูจากแผนที่โครงข่าย จะเห็นว่าสายสีน้ำเงินนี้ เป็นสายที่วิ่งวน Loop ตัดรถไฟฟ้าทุกสาย เหมือนรถไฟฟ้า JR YAMANOTE LINE ในญี่ปุ่น ที่วิ่งวนเป็น Loop รอบโตเกียวค่ะ ส่วนในตอนนี้ก็สามารถใช้ Shuttle Bus ของทางโครงการ ที่มีรับส่งถึง MRT เตาปูน ไปก่อนได้ สะดวกเหมือนกันค่ะ
รวมถึงในอนาคต สถานีบางซื่อ ก็นับว่าเป็น Hub ของการเดินทางทั้งด้วยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะอื่นๆในกรุงเทพมหานคร ซึ่งห่างจากสถานีบางโพเพียง 2 สถานีเท่านั้น (ระยะห่างจากโครงการประมาณ 2.6 กม.) ซึ่งก็จะเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) และ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน : ก่อสร้างเสร็จแล้ว แต่ยังไม่เปิดให้บริการ ซึ่งในอนาคตหากสร้างเสร็จทั้งหมดจะเดินทางสะดวกสบายอย่างแน่นอน
ส่วนรถสาธารณะอื่นๆ บริเวณโดยรอบโครงการก็มีให้เลือกเยอะเลย มีทั้งป้ายรถเมล์ ห่างจากโครงการไปประมาณ 300 เมตร ถ้ารีบๆก็เรียกวินมอเตอร์ไซค์ฝั่งตรงข้ามได้ หรือจะข้ามถนนไปที่ปากซอยประชาราษฏร์สาย 1 32 หรือชุมชนศรีบุญยืน ก็มีพี่วินนั่งรอให้บริการอยู่ใต้ต้นไม้ตลอดทั้งวันค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ทำเลย่านบางโพที่ตั้งโครงการนี้ ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากค่ะ แต่เดิมเป็นย่านชุมชนเมืองในแนวราบที่ก็อุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งโรงเรียน ซึ่งติดโครงการของเราก็จะเป็น รร.โยธินบูรณะ, ตลาดสดศรีเขมา และโรงพยาบาล ที่ครบครันอยู่แล้ว เพราะก็เชื่อมต่อกับตัวเมืองกทม.ชั้นใน รวมถึงใกล้แม่น้ำและตัวเมืองนนทบุรีอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันก็ได้อานิสงศ์ของการมาถึงของรถไฟฟ้า ทำให้ราคาที่ดินถีบตัวสูงขึ้นและเป็นอีกทำเลที่น่าสนใจในการอยู่อาศัยหรือลงทุนค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่คอนโดใหม่ๆจะไปอยู่ที่ฝั่งใกล้สถานีเตาปูน บริเวณ ถ.ประชาราษฏร์สาย 2 เสียเป็นส่วนมาก เพราะเป็นสถานี Interchange จุดเปลี่ยนกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่อยู่ถัดจากสถานีบางโพไป 1 สถานี
แต่ทำเลบางโพนี้โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม High Rise นอกจากจะได้วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของโค้งน้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังเป็นแหล่งค้าขายของชาวจีนแต่ดั้งเดิมอีกด้วยค่ะ ซึ่งพื้นที่โดยรอบหากเดินเท้าสำรวจจะเป็นโกดังไม้ ร้านค้าไม้ต่างๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ และค่อนข้างหนาแน่นค่ะ ทำให้ถึงจะมีร้านค้าให้เลือกมาก แต่ไม่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เลย จะมีก็แต่ Hypermarket ในระยะใกล้ๆ อย่าง Tesco Lotus ประชาชื่น, Big C วงศ์สว่าง และ Supreme Complex
ส่วนห้างขนาดใหญ่จะอยู่ในระยะขับรถประมาณ 5-10 กม. มี Central ลาดพร้าว และ The Mall งามวงศ์วาน ในอนาคตที่บริเวณ ถ.ประชาราษฏร์สาย 2 ก็จะมีโครงการ Gateway บางซื่อ มาเพิ่ม ไม่ไกลจากโครงการค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดิน นอกจากรร.โยธินบูรณะที่กล่าวไป จากหน้าโครงการสามารถเดินข้ามสะพานลอย สู่ตลาดศรีเขมา ซึ่งทั้งสองฝั่งถนนตั้งแต่หน้าโครงการเราก็จะเป็นร้านค้าอาคารพาณิชย์ค่ะ หน้าตลาดมี 7-11 ถึงสองฝั่งถนน และ Family Mart รวมถึง White Mall คอมมูนิตี้มอลล์ที่มี Max Valu อยู่ภายในให้สามารถชอปปิ้งซื้ออาหารของใช้ในบ้านได้
สรุปสถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
ห้างสรรพสินค้าและตลาด
ตลาดสดศรีเขมา 230 เมตร
ฃเกตเวย์บางซื่อ 1 กม.
ตลาดเตาปูน 1.7 กม.
เทสโก้ โลตัสประชาชื่น 2 กม.
แม็คโครสามเสน 2.7 กม.
สุพรีมคอมเพล็กซ์ 2.8 กม.
บิ๊กซีวงศ์สว่าง 3 กม.
jj mall 6.3 กม.
The Mall งามวงศ์วาน 6.7 กม.
เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว 8.4 กม.
สถานศึกษา
รร.โยธินบูรณะ 150 เมตร
รร.กุลวรรณศึกษา 170 เมตร
ม.เทคโนโลยีพระนครเหนือ 1.5 กม.
รร.ราชินีบน 2.9 กม.
รร.สามเสนวิทยาลัย 4.5 กม.
รร.เซนต์คาเบรียล 4.6 กม.
โรงพยาบาล
รพ.บางโพ 750 เมตร
รพ.ยันฮี 3 กม.
รพ.วิชัยยุทธ 4.5 กม.
สถานที่ราชการ
สน.บางโพ 1.5 กม.
รัฐสภาแห่งใหม่ 1.7 กม.
สนง.เขตบางซื่อ 2.5 กม.
การเดินทางสู่โครงการ
สรุปการเดินทาง ถนนทหาร > แยกเกียกกาย > ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 > โครงการ Chapter One Shine บางโพ
เริ่มการเดินทางกันบนถนนทหาร มุ่งหน้าแยกเกียกกาย
ขับตรงมาจนถึงแยกเกียกกายแล้วเลี้ยวขวา ผ่านกรมอุตสาหกรรมทหาร
ขับตรงมาเรื่อยๆผ่านอาคารสำนักงานเกียกกาย
ขับมายาวๆผ่านปั๊ม Shell ทางขวามือ
พอขับถึงแยกบางโพจะผ่าน MRT บางโพ ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ
ผ่านแยกบางโพมาแล้ว ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ ผ่านวัดบางโพโอมาวาส
ถัดมาจะผ่าน รร.กุลวรรณศึกษา
ขับต่อมาอีกนิดก็จะถึง โครงการ Chapter One Shine บางโพ ทางซ้ายมือแล้วค่า
รอบๆโครงการ
ทิศเหนือ ติดกับกลุ่มบ้านพักอาศัย 7 ชั้น และอาคารพาณิชย์
ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพาณิชย์และโกดังไม้
ทิศตะวันตก ติดกับ โกดังไม้และชุมชนพักอาศัย
ทิศใต้ ติดกับ ประชาราษฎร์ สาย 1 ซอย 25
มาชมภาพมุมสูงจากโครงการกันบ้างค่ะ ภาพนี้เป็นมุมมองจากโครงการไปยังทางฝั่งทิศตะวันตก ซึ่งหากอยู่บนที่สูงก็จะมองเห็นโค้งงามเจ้าพระยาและสะพานพระราม 7 รวมถึงทางด่วนศรีรัชฝั่งทิศเหนือ ส่วนทิศใต้ก็จะเป็นวิวของสะพานเกียกกายเมื่อสร้างเสร็จแล้วและอาจจะมองเห็นถึงรัฐสภาแห่งใหม่ซึ่งเป็น Mega project ในโซนนี้ค่ะ
ฝั่งทิศเหนือ ติดกับพื้นที่โครงการจะติดกับพื้นที่ว่าง เลยถัดไปเป็นอาคารของกรมราชองครักษ์ รร.โยธินบูรณะ และทางพิเศษศรีรัชที่เห็นเป็นแสงไฟตัดผ่านอยู่
ส่วนฝั่งทิศใต้ ก็ยังได้วิวโค้งน้ำเจ้าพระยาอยู่เช่นกันค่ะ จะเป็นวิวที่มองไปเห็นในโซนแยกบางโพ หรือสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งพื้นที่ติดกับโครงการเราทั้งหมดเป็นชุมชนในแนวราบ ไม่มีอาคารรสูงมาบังวิวแต่อย่างใด
ส่วนภาพนี้คือ วิวทางฝั่งทิศตะวันออก หรือฝั่งทางเข้าโครงการติดถนนประชาราษฎร์ สาย 1 ไปยังฝั่งตรงข้ามค่ะ
เรามาเดินดูรอบๆโครงการกันต่อ เริ่มจากหน้าโครงการฝั่งซ้ายมือ เป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3.5 ชั้น เปิดเป็นร้านขายประตู วัสดุไม้ต่างๆ
ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นร้านค้าไม้ และโกดังไม้ทั้งหมดค่ะ ข้าง Aree Wood Mart ก็จะเป็นร้าน เอเชียค้าไม้
ถัดมาเป็นอาคารพักอาศัยเป็นอาคารสูง 7 ชั้น
ติดกันเป็นคลองวัดเสาหินก็จะเป็นอาคารกรมราชองครักษ์สูง 27 ชั้น ถัดไปก็จะเป็น รร.โยธินบูรณะแห่งใหม่ ที่ย้ายมาจากแยกเกียกกายค่ะ
ตรงต่อมาเรื่อยๆ ก็จะเจอป้ายรถเมล์ ถัดไปก็จะเป็นสะพานลอยข้ามสู่ตลาดสดศรีเขมา
ขึ้นมาบนสะพานลอย ซึ่งสะพานลอยนี้อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 150 เมตรค่ะ มองไปทางตลาดศรีเขมา ฝั่งซ้ายมือคือโรงเรียนโยธินบูรณะ ตรงไปก็จะเป็นทางแยกบังคับเลี้ยวซ้าย เพื่อตรงสี่แยกประชาราษฎร์ ฝั่งตรงข้ามโค้งด้านหน้าทั้ง 2 ฝั่งมีเซเว่นอีเลฟเว่นค่ะ
มองกลับมาอีกฝั่ง เป็นฝั่งมุ่งหน้าไปทางสี่แยกบางโพ สู่โครงการของเราทางฝั่งขวามือค่ะ
เมื่อลงสะพานลอยมาแล้วก็จะเจอกับตลาดศรีเขมา ซึ่งมีอาหารการกินมากมายให้เลือกรับประทาน ตลอดวัน
มีร้านค้าต่างๆมากมายค่ะเป็นแนวอาคารพาณิชย์ ยาวตลอดฝั่ง มี Family Mart ตั้งอยู่
กลับมาที่โครงการ มาลองเดินดูทางฝั่งขวามือกันบ้างค่ะ เป็นอาคารพาณิชย์
เปิดเป็นร้านค้าไม้
ถัดมาเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น
ถัดมาเป็นร้านทำเฟอร์นิเจอร์สแตนเลส
และฟิตเนส
เดินมาประมาณ 170 เมตร ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงเรียนกุลวรรณศึกษา
ส่วนทางฝั่งเดียวกับโครงการเป็นวัดอนัมนิกายาราม
ตัวโครงการ
โครงการ Chapter One Shine บางโพ มี 2 อาคาร เป็นอาคารจอดรถ 5 ชั้น และอาคารพักอาศัยสูง 33 ชั้น บนที่ดิน 3 – 1 – 40 ไร่ มีทั้งหมด 607 ยูนิต และที่จอดรถ 280 คัน หรือ 46% รวมซ้อนคัน ส่วนการออกแบบสไตล์ของโครงการนี้เค้าเรียกว่า Modern Chinese เรียบง่าย คลาสสิค และโปร่งสบาย เนื่องจากย่านบางโพตรงนี้จะเป็นย่านคนจีนค้าไม้เก่าแก่นั่นเองค่ะ
มาดูบรรยากาศโครงการของจริงกันเลย เริ่มที่ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนประชาราษฎร์ สาย 1 พื้นถนนด้านหน้าปูคอนกรีตสแตมป์ แยกทางเข้าสำหรับคนเดินไว้ทางฝั่งซ้ายมือ
เข้ามาด้านในโครงการ ตอนนี้จะอยู่ในช่วงก่อสร้างนะคะ เราจะเห็นว่าทางเข้าจะใช้ร่วมกับโครงการ Chapter One Flow ข้างๆ ด้วย เพราะฉะนั้นป้อมรปภ. ของโครงการ Chapter One Shine บางโพ จึงอยู่ถัดเข้าไปจากตรงนี้นิดนึงค่ะ
ผ่านป้อมรปภ.เข้ามาแล้ว จะเป็นถนนหลักของโครงการ ซึ่งถนนในโครงการจะเป็นเลนรถวิ่งแบบสวนกัน
ถัดเข้ามาจะเป็นจุด Drop Off ในร่ม และทางเข้า Lobby
ติดกับประตูทางเข้า Lobby จะเป็นห้องสำนักงานขาย ใครที่ตั้งใจเข้ามาเยี่ยมชมโครงการก็สามารถติดต่อที่ห้องนี้ก่อนได้เลยค่ะ
ถัดเข้ามาจากจุด Drop Off จะเป็นรั้วกั้นไม้กระดก ซึ่งเป็นจุดรักษาความปลอดภัยก่อนเข้าที่จอดรถ โดยจะใช้เป็นรั้วกั้นไม้กระดก และ Access Card ระยะใกล้
ผ่านรั้วกั้นไม้กระดกเข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่สวนหย่อมทางซ้าย และถัดเข้าไปเป็นอาคารจอดรถ 5 ชั้น
ภายในสวนหย่อมจัด Landscape สวยๆไว้ให้เดินเล่น พักผ่อน
มีม้านั่งตัวยาวสำหรับนั่งพัก 1 จุด
ติดกับสวนหย่อมจะมีบ่อน้ำ พร้อม Sunken Seat ซึ่งจะมีต้นไม้กั้นเหมือนเป็นม่านต้นไม้แบ่งพื้นที่ และบังสายตาจากส่วน Lobby
บรรยากาศด้านในบ่อน้ำและ Sunken Seat ที่จัดมาให้ 2 จุด
บรรยากาศอีกฝั่งนึงค่ะ
ติดกันจะเป็น Lobby ที่ใช้ผนังเป็นกระจก ทำให้ได้วิวจากสวนด้านนอก ช่วยให้บรรยากาศภายใน Lobby โปร่ง โล่ง สบายตา
ติดกับบ่อน้ำและสวนหย่อมจะมีประตูทางเข้าอาคาร สามารถเดินไปยังโถงลิฟต์และ Lobby ได้
ทางเข้าอาคารจอดรถจะจำกัดความสูงรถที่ 2.10 เมตร
ภายในอาคารจอดรถแบ่งช่องจอดมาตรฐาน ผนังด้านนอกแบบเปิดโล่ง เพื่อการระบายอากาศ พร้อมที่จอดรองรับสำหรับมอเตอร์ไซค์
เราเข้าไปดูด้านในอาคารกันต่อ
เข้ามาใน Lobby จะเจอเคาน์เตอร์ต้อนรับ โคมไฟที่ใช้ตกแต่งจะออกสไตล์จีนๆ
ติดกับเคาน์เตอร์ฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่นั่งพักรับรอง
ภายในโถงจัดชุดโซฟาชุดใหญ่มาให้ 1 ชุด บรรยากาศโปร่งโล่ง สบายๆ
ทางฝั่งซ้ายมือของ Lobby จะเชื่อมไปยังโถงนั่งรับรองอีกฝั่ง และโถงลิฟต์
พื้นที่นั่งรับรองทางฝั่งนี้ก็จะจัดชุดโซฟาใหญ่มาให้ 1 ชุด
ถัดเข้ามาเป็นโถงทางเดินเชื่อมไปยังโถงลิฟต์, ห้องนิติฯ และ Mail Room ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นประตูเชื่อมออกไปสวนหย่อมด้านนอก และลิฟต์เซอร์วิส
เข้ามาด้านในจะผ่านห้องนิติฯ
ถัดมาเป็น Mail Room
ภายในห้อง Mail Room ใช้สีขาวทอง สะอาดตา และทำให้ดูเรียบร้อยขึ้นด้วยการแบ่ง Mail Box เป็นชุดๆไว้ในตู้
ด้านในตู้แบ่งเป็น Mail Box แบบนี้ค่ะ
ติดกับ Mail Room เป็นห้องน้ำรับรอง แยกชาย – หญิง
เข้ามาดูภายในห้องน้ำหญิง จะตกแต่งมาในสไตล์จีน โมเดิร์น ใช้สีเหลืองเป็นจุดเด่น ติดตั้งอ่างล้างมือ 2 อ่าง พ้รอมกระจกเงา
อีกด้านเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง
ด้านในติดตั้งโถสุขภัณฑ์ พร้อมมีช่องแสงระบายอากาศ
ภายในห้องน้ำชาย ตกแต่งมาในสไตล์เดียวกัน เพิ่มโถปัสสาวะชาย 2 โถ
ด้านในมีห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องแม่บ้าน 1 ห้อง
ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในอาคารถือว่าแน่นหนาเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่โถงลิฟต์ จะมีประตูกั้น ต้องใช้คีย์การ์ดในการแตะเข้า – ออก
จุดแตะคีย์การ์ดทั้งขาเข้าและขาออกโถงลิฟต์
เข้ามาภายในโถงลิฟต์ทำออกมาดูเรียบๆแต่สวยเลยค่ะ โดยจะมีลิฟต์โดยสารมาให้ทั้งหมด 3 ตัว
ภายในลิฟต์โดยสารใช้วัสดุปิดผิวเป็นไม้ๆ เพื่อสื่อถึงความเป็นชุมชนคนจีนที่นิยมค้าไม้มาเป็นระยะเวลานาน เป็นลิฟต์แบบล็อคชั้น พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV
ขึ้นมาถึงชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วนพักอาศัย ซึ่งชั้นนี้จะมีทางเดินเชื่อมไปยังส่วนกลางที่อาคารจอดรถด้วย เพราะฉะนั้นทางโครงการจึ้งทำประตูทางเข้าออกแยกไว้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยในรูปนี้จะเป็นประตูทางเข้าฝั่งห้องพักอาศัย ต้องใช้คีย์การ์ดแตะเข้า – ออก
ส่วนฝั่งซ้ายมือก็จะเป็นประตูเชื่อมออกไปที่อาคารจอดรถชั้น 2 ต้อใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเข้า – ออก เช่นกันค่ะ
พอเราออกมาจากโถงลิฟต์แล้วจะเจอพื้นที่โถง ที่เค้าจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ติดกับพื้นที่โถงตรงนี้เราจะเห็นบันไดด้านหลัง ตรงนั้นจะเป็นทางเดินเชื่อมไปที่อาคารจอดรถค่ะ
เราข้ามฝั่งมาที่อาคารจอดรถเพื่อไปดูส่วนกลางที่ชั้น 5 ของอาคารจอดรถกันต่อ โดยทางเชื่อมนี้จะไปเชื่อมกับโถงลิฟต์ของอาคารจอดรถพอดี เราก็สามารถกดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้น 5 ได้เลย
ขึ้นมาถึงชั้น 5 ของอาคารจอดรถ เค้าก็จะทำโถงลิฟต์ออกมาให้ดูดีหน่อย ฝ้าเพดานสูง และใช้สีขาวสะอาดตา ส่วนประตูเข้าออกส่วนกลางตรงนี้ก็จะต้องใช้คีย์การ์ดแตะเข้า – ออก เหมือนส่วนกลางหลักอื่นๆค่ะ
ออกมาจากโถงลิฟต์จะเจอทางเดินโปร่งๆ และฉากกั้นบังสายตาจากส่วนกลางหลักด้านใน
ติดกับโถงลิฟต์ ส่วนกลางแรกที่เราเจอ จะเป็น Court ทำเป็นม้านั่งรอบๆ ตรงกลางเปิดโล่ง ปลูกต้นไม้ไว้ตรงกลาง ซึ่งผนังรอบๆตรงนี้จะสูงแบบ Double Volume เท่าโถงลิฟต์เลยนะคะ จึงทำให้รู้สึกว่ามีความเป็นส่วนตัวอยู่พอสมควร
ติดกันอีกฝั่งทำเป็นทางเดินเชื่อมไปยังส่วนกลางหลักด้านใน
เข้ามาด้านในจะเป็นทางเดินเชื่อมไปยังอาคารส่วนกลางหลักที่เป็น Co – Working Space และพื้นที่ส่วนที่ทำเป็น Court เปิดโล่งใหญ่ๆ
Court ตรงนี้ จะลงต้นไม้ตรงกลางและรอบๆ พร้อมทางเดินเป็นสเต็ปไล่ลงมาจากส่วน Co – Working Space ได้บรรยากาศที่ร่มรื่นมากๆ โดยส่วนตัวชอบตรงนี้ที่สุดค่ะ เหมือนไม่ได้อยู่บนอาคารจอดรถเลย
ข้างๆทำเป็นที่นั่งพักผ่อน หรือมานั่งทานขนมเบาๆได้ พื้นจะยกระดับขึ้นมาจากตัว Court พอสมควร
ขึ้นมาที่ตัวอาคารบ้าง ตรงนี้จะเป็นส่วนของห้อง Co – Working Space และมีทางเดินเชื่อมยาวไปสนามเด็กเล่นและสวนอีกฝั่ง
เราเข้ามาดูในห้อง Co – Working Space กันก่อนค่ะ ตรงนี้จะต้องใช้คีย์การ์ดแตะเช่นกันนะ ทั้งขาเข้าและขาออก
เข้ามาด้านในเป็นห้อง Co – Working Space ตกแต่งมาโดยใช้สีโทนไม้ๆ เขียวๆ ฝ้าเพดานสูงโปร่ง ผนังกระจกโดยรอบ บรรยากาศน่านั่งทำงาน
อีกฝั่งมีชั้นลอย
โดยพื้นที่ชั้นล่างจะเป็นโต๊ะไว้นั่งคุยงาน 6 – 8 ที่นั่ง หรือเอาคอมมานั่งทำงานก็ได้
ส่วนชั้นบน เป็นชุดโต๊ะเตี้ย ไว้นั่งคุยหรือนั่งอ่านหนังสือสบายๆ
ภาพรวมของ Co – Working Space ทั้งหมดค่ะ
ออกมาจาก Co – Working Space ติดกันเป็นห้องน้ำ แยกชาย – หญิง และห้องน้ำสำหรับผู้ที่ใช้วีลแชร์หรือผู้สูงอายุ
ภายในห้องน้ำก็จะกว้างกว่า ใช้งานได้สะดวกกว่า
ด้านในห้องน้ำหญิง ติดตั้งอ่างล้างมือ 2 อ่าง พร้อมกระจกยาวๆ
อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ 3 ห้อง
ภายในห้องน้ำค่ะ
ในห้องน้ำชาย มีอ่างล้างมือ 2 อ่าง และโถปัสสาวะชาย 2 โถ
อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ 3 ห้อง
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นสนามเด็กเล่น เป็นพื้นหญ้าเทียม พร้อมกระดานลื่นบนพื้นทรายละเอียด
ด้านหลังสนามเด็กเล่นเป็นสวน Meditation Area ที่จัดมาโดยการแบ่งพื้นที่ให้เหมาะกับการทำสมาธิแบบสงบๆ
มีทางเดินภายในสวน ยกระดับขึ้นมาจากพื้นหญ้าเทียม
ให้ดูอีกฝั่งว่าเค้าทำเป็นผนังกั้นบางส่วน ไม่ได้เปิดโล่งๆ ทำให้ได้ Space ที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น
ด้านในทำเป็นฉากกั้นเป็นโซนๆ พื้นหญ้าเทียมด้านล่างก็สามารถเอาเสื่อโยคะหรือผ้ามาปูเพื่อนั่งทำสมาธิได้
ขึ้นมาที่ส่วนกลางชั้น Top Floor คือชั้น 32 – 33 ตัวโถงลิฟต์ใช้เป็นลายหินอ่อนสีขาวเทาทั้งหมด จากโถงลิฟต์จะมีประตู 2 ฝั่ง ฝั่งนึงจะเชื่อมออกไปส่วนกลางหลักคือสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และ Sky Lounge วิวแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วนอีกฝั่งเป็นสวนหย่อมเล็กๆ ซ฿่งทั้ง 2 ฝั่งนี้ก็จะต้องใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อออกไปใช้งานค่ะ
เราออกมาดูส่วนกลางหลัก ส่วนแรกที่เราออกมาเจอจะเป็นพื้นที่โล่งๆ เหมือนพื้นที่อเนกประสงค์ในร่มนะ อาจจะใช้เป็นที่จัดกิจกรรมของคอนโดในอนาคตได้
ฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำแยกชาย – หญิง
มาดูในห้องน้ำชายก่อน มีติดตั้งอ่างล้างมือมาให้ 2 อ่าง
อีกด้านเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้อง Steam 1 ห้อง
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำติดตั้งอุปกรณ์มาให้พร้อมใช้งาน
ในห้อง Steam เข้าใช้งานพร้อมกันได้มากสุด 2 คน
โถปัสสาวะชาย 2 โถ พร้อมล็อคเกอร์ที่แบ่งเป็นช่องย่อยๆไว้ในตู้ แบบเดียวกับที่ Mail Room ค่ะ
ด้านในล็อคเกอร์มาพร้อมกุญแจ รวมทั้งหมด 12 ช่อง
ส่วนในห้องน้ำหญิง เข้ามาจะเจอล็อคเกอร์ก่อน มีให้ใช้ 12 ช่อง เช่นกัน
ด้านในติดตั้งอ่างล้างมือ 3 อ่าง, ห้องน้ำ 2 ห้อง, ห้องอาบน้ำ 2 ห้อง และห้อง Steam 1 ห้อง
พอเราออกมาด้านนอกจะเจอพื้นที่นั่งพักริมสระก่อน ตรงนี้จะอยู่ในร่ม จัดชุดโต๊ะ เก้าอี้ไว้ให้นั่งพัก ทานขนม หรือนั่งดูเด็กๆเล่นน้ำได้
ออกมาด้านนอกจะเป็นสระว่ายน้ำ Outdoor วิวแม่น้ำเจ้าพระยา
อีกฝั่งจัดเป็นที่นั่งริมสระที่วาง Sunbed ไว้บนพื้นที่มีน้ำปริ่มๆ ด้านหลังจริงๆจะเป็นต้นไม้ฟูๆกว่านี้นะ ทำให้สระดูไม่ร้อนมาก
ด้านหลัง Sunbed ทำเป็นทางเดินยาวไปจนเกือบถึงริมสระอีกฝั่ง สำหรับเด็กๆก็เดินไปเล่นที่สระตื้นด้านใน หรือใครอยากดูวิวแต่ไม่อยากเปิดก็เดินไปทางนี้ได้เลย
สุดทางเดินเป็นน้ำพุตกแต่งดูมีลูกเล่น
วิวจากสระว่ายน้ำทางฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มองเห็นโค้งน้ำและรัฐสภาแห่งใหม่
วิวอีกด้าน เห็นสะพานพระราม 7
จากชั้น 32 เราขึ้นไปดูบนชั้น 33 กันต่อ
ทางขึ้นไปยังส่วนกลางที่ชั้น 33 จะทำเป็นสเต็ปให้เดินขึ้นไป แต่แทนที่เค้าจะทำเป็นบันไดเฉยๆ ก็เพิ่มพื้นที่นั่งชมวิวแทรกไปด้วย ซึ่งตรงนี้ดีมากเลย ช่วยเน้นจุดขายของโครงการเพิ่มขึ้นมาอีก เหมาะกับคนที่ชอบมานอนอาบแดด หรือถ้าหลัวร้อนก็มานั่งๆนอนๆตอนเย็นๆหน่อยก็ได้ค่ะ ตรงนี้ลมโกรกดีเลย
วิวจากด้านบนก็จะประมาณนี้ มองเห็นสระว่ายน้ำและวิวเจ้าพระยากับเมืองฝั่งธนฯ ซึ่งปกติจะสวยกว่านี้นะ บังเอิญวันที่ไปเก็บข้อมูลมีฝุ่นลงหนาพอดี เลยบังทัศนียภาพไปพอสมควร
นอกจากที่นั่งบนสเต็ปแล้วก็จะมีเป็นระเบียงเสริมเข้ามาอีกจุด ตรงนี้จัดเป็นชุดโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่งพักผ่อน เอาอาหารมาทานเล่นได้
วิวจากตรงระเบียงชมวิวก็สวยเหมือนกันนะ
ถ้ามายืนตรงมุมฝั่งทิศใต้จะเห็นวิวโค้งแม่น้ำกับรัฐสภาใหม่ชัดๆเลย
ขึ้นไปดูชั้น 33 กันต่อเลยค่ะ
ขึ้นมาที่ส่วนแรกจะเป็นห้องฟิตเนส ส่วนประตูทางซ้ายมือเป็นโถงลิฟต์นะ ถ้าใครขี้เกียจเดินขึ้นบันไดก็ใช้ลิฟต์ได้เหมือนกัน
ในส่วนของห้องฟิตเนสก็จะต้องใช้คีย์การ์ดเข้า – ออกเหมือนส่วนอื่นๆ ในห้องจะมีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แต่ดูน่าใช้งานเพราะทำเป็นผนังกระจกใสทุกด้าน ดูโปร่ง และสามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ ช่วยให้ไม่เบื่อเวลาออกกำลังกาย
ผนังอีกด้านในวัสดุเงาๆ แทนกระจก เพื่อเช็คท่าทางในการออกกำลังกาย
อุปกรณ์ที่จัดมาให้มีดัมเบลคละนำ้หนัก 20 ชิ้น พร้อมเบาะปรับระดับได้ 2 ตัว
Multi Machine 1 เครื่อง
จักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง และ Elliptical 1 เครื่อง
ลู่วิ่ง 2 เครื่องและบอลโยคะ 2 ลูก
วิวจากลู่วิ่งมองเห็นมุมได้กว้างมากๆ
โถงลิฟต์ในชั้นพักอาศัยปกติจะทำมาเป็นแบบเรียบๆ แยกทางเดินซ้ายและขวา
บรรยากาศในโถงทางเดินเรียบๆ มีช่องแสงสุดทางเดินแต่ละฝั่ง ช่วยระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติ
ขึ้นจากฟิตเนสไปอีก 1 ชั้น เป็นห้อง Sky Lounge
ภายในห้องจัดชุดโซฟาขนาดกลาง 2 ชุด บรรยากาศเงียบๆ เหมาะมานั่งพักผ่อน, อ่านหนังสือ หรือจะมานั่งทำงานก็ได้ค่ะ
แบบห้อง
สำหรับแบบห้องทั้งหมดจะมี 5 แบบ คือ
Studio : 22.45-23.35 ตร.ม.
1 Bedroom : 28.80-29.30 ตร.ม.
1 Bedroom Exclusive : 48.90 ตร.ม.
1 Bedroom Riverfront : 44.85 ตร.ม.
2 Bedroom Riverfront : 56.80 ตร.ม.
ซึ่งเกือบทุกห้องสามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้หมด เพียงแค่จะเลือกฝั่ง Riverfront ทางทิศตะวันออก หรือ River View ทางทิศเหนือ-ใต้ เท่านั้นค่ะ
Studio : 22.45-23.35 ตร.ม.
ห้องไซส์เล็กที่สุดของโครงการ Studio พื้นที่ใช้สอย 22.45-23.35 ตร.ม. ลักษณะเป็นห้องหน้าแคบลึก เข้ามาจะเป็นส่วนครัวและห้องน้ำก่อน ตรงกลางเป็นพื้นที่เตียงนอน และดันพื้นที่นั่งเล่นอยู่ติดกับภายนอก ทำให้พื้นที่นั่งเล่นได้วิวและแสงสว่างจากด้านนอกเต็มที่ ส่วนระเบียงซักล้างนั้นอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น เพียงแต่ทางเข้า-ออกจะอยู่ติดกับโซนเตียงนอนแทน ข้อดีคือทำให้ฝั่งตรงข้ามของโซฟา ได้เป็นผนังทึบสามารถแขวนทีวีได้ รวมไปถึงบริเวณหัวเตียงได้ช่องเปิดด้วย จึงสามารถมองวิวภายนอกได้จากบนเตียงเลยค่ะ
1 Bedroom : 28.80-29.30 ตร.ม.
ถัดมาก็จะเป็นห้องขนาด 1 Bedroom 28.80-29.30 ตร.ม. ซึ่งจะเป็นแบบที่มีมากที่สุดของโครงการค่ะ แปลนห้องจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนห้องครัว เข้าไปจะเป็นห้องนั่งเล่น และฝั่งขวามือเป็นส่วนห้องนอนที่ภายในเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ซึ่งจะถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อน สามารถเลือกความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ ข้อดีคือหากต้องการทำครัว กลิ่นจากครัวจะไม่เข้าสู่ภายในห้องนอนเหมือนห้องที่ผ่านมา
1 Bedroom Exclusive : 44.90 ตร.ม.
สำหรับห้อง 1 Bed Exclusive นี้ จะเป็นห้องที่เหมือนเอาแปลนห้อง Studio 2 ห้องมารวมกัน และตัดห้องน้ำออกไปห้องนึงค่ะ ซึ่งจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือห้องนั่งเล่นและห้องครัว อีกฝั่งจะเป็นโซนห้องนอน และห้องอเนกประสงค์ค่ะ ซึ่งจะเป็นห้องที่มีระเบียง 2 จุด ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน ส่วนภายในห้องอเนกประสงค์สามารถวางเตียงขนาด 3.5 * 5 ฟุตได้
1 Bedroom Riverfront : 44.85 ตร.ม.
มาถึงห้องแบบ Riverfront กันบ้าง สำหรับห้องนี้เมื่อเข้าไปก็จะเจอกับ โซนครัวขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่นค่ะ ซึ่งในห้องนั่งเล่นก็จะมีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่สามารถใช้งานหนักได้เช่นกัน อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นประตูทางเปิดเข้าสู่ห้องนอน ที่สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ และเป็นกระจกแบบเข้ามุมสามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้โดยกว้าง ซึ่งห้องท้ายนี้จะมีแค่ชั้นละ 1 ห้องเท่านั้นค่ะ อยู่ฝั่งหันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาทิศตะวันตกพอดี
2 Bedroom Riverfront : 56.80 ตร.ม.
ห้องขนาด 2 Bedroom 56.80 ตร.ม. ลักษณะห้องเป็นห้องหน้ากว้าง ซึ่งข้อดีเลยคือมีพื้นที่รับแสงจากภายนอกเยอะ มีหลายห้องได้วิวภายนอก รวมไปถึงภายในดูกว้างข้างมากกว่าห้องหน้าแคบลึกที่มีพื้นที่ใช้สอยที่เท่ากัน ตัวห้องแบ่งโซนพื้นที่การใช้งานหลักๆเป็น 5 โซน คือ ห้องนอน 2 ห้อง , ห้องน้ำ 2 ห้อง , ห้องนั่งเล่น , ส่วนครัว และระเบียง เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวก่อนซึ่งแยกโซนพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วน แต่จะได้เป็นครัวเปิด ที่ยังเหมาะกับการทำอาหารเบาๆ มากกว่าการทำอาหารหนักนะคะ ส่วนขนาดพื้นที่ครัวนี้ค่อนข้างกว้างขวางใช้งานได้สะดวก และติดกันมีพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารขนาดที่นั่ง 4 คนได้กำลังดี
เชื่อมต่อไปส่วนห้องนั่งเล่นที่มีกระจกบานใหญ่สามารถมองวิวแบบมุมกว้าง ส่วนระเบียงจัดพื้นที่มาค่อนข้างกว้างสามารถใช้งานได้จริง ในส่วนห้องนอนแบ่งเป็น Master Bedroom และห้องนอนเล็ก อยู่กันคนละฝั่ง ในฝั่งห้องนอนใหญ่จะเป็นห้องมุมที่ได้วิวจาก 2 ทิศ มีขนาดใหญ่กว้างขวางกว่า พร้อมทั้งมีพื้นที่สำหรับจัด Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้ ส่วนห้องนอนเล็กนั้นมีขนาดเล็กลงมา แต่ข้อดีคือได้ห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกับห้องนอนใหญ่เลยค่ะ ซึ่ง Type นี้ก็จะมีแค่ชั้นละ 1 ห้องเช่นเดียวกันกับแบบที่แล้วค่ะ และเป็น River Front เช่นกัน
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เราจะพาชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือ
แบบ Studio ขนาดประมาณ 22 ตร.ม.
แบบ 1 Bedroom ขนาดประมาณ 44 ตร.ม.
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องได้เป็นบานสำเร็จสีขาว มือจับก้านโยก พร้อมล็อคมาตรฐาน เราสามารถติด Digital Door Lock เพิ่มเพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นได้
พื้นห้องจบขอบธรณีประตูด้วยไม้สำเร็จรูป ส่วนพื้นในห้องใช้เป็นพื้นลามิเนตสีอ่อนช่วยให้ภายในห้องดูสว่างขึ้น
เข้ามาภายในห้องส่วนแรกเป็นพื้นที่ครัวเปิด ซึ่งจะเป็นโถงยาวต่อเนื่องไปยังห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่น ตามแบบแปลน Studio มาตรฐาน
หลังประตูทางเข้าจะมีตัว Stopper ติดตั้งมาให้ กันเปิดประตูกระแทกตู้ด้านหลัง
ชุดเคาน์เตอร์ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้จะได้ตามนี้เลย ทั้งเคาน์เตอร์หลักตัวล่างและตู้ลอยชั้นบน เป็นครัวเปิด ไม่ได้กั้นพื้นที่ไว้ชัดเจน เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นทำอาหารหนักมากนัก แต่มักจะซื้อมาอุ่น หรือทำอาหารเบาๆ มากกว่า
Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ ติดตั้งซิ้งค์ล้างจานมาให้อย่างเดียว ถ้าใครที่ปกติทำอาหารทานเองบ้างก็ใช้เตาไฟฟ้าที่สามารถถอดปลั๊กเก็บได้ก็เหมาะค่ะ ด้านหลังเคาน์เตอร์ติด Backsplash มาให้ ช่วยให้เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย
ด้านล่างเคาน์เตอร์แบ่งเป็นตู้และลิ้นชักเก็บของ หน้าบานลามิเนต และเป็นบานปิด Soft Close ทั้งหมด พร้อมช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ซึ่งดีมากเลยที่เค้าจัดพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้ในห้อง ทำให้เรามีพื้นที่เหลือตรงระเบียงไว้วางราวตากผ้าได้แบบสบายๆ
ตู้ด้านบนแบ่งเป็นตู้บานเปิดตามนี้ พร้อมช่องสำหรับวางไมโครเวฟ
ระยะสำหรับยืนเตรียมอาหารพอให้ใช้งานได้สะดวก ไม่แคบจนเกินไป
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวมีตู้เสื้อผ้า Biult – in มาให้ หน้าบานเป็นกระจกใสสีดำ ภายในแบ่งเป็นราวแขวนและชั้นวางของด้านล่างและด้านบน พร้อมลิ้นชัก 2 ช่อง
ถัดจากพื้นที่ครัวก็จะเป็นพื้นที่โถงโล่งๆ เชื่อมไปยังห้องน้ำและห้องนอน
เรามาดูห้องน้ำกันก่อนค่ะ ประตูได้เป็นบานทึบสีขาว
ธรณีประตูใช้กระเบื้องเพื่อลดปัญหาการบวมน้ำในอนาคต
ภายในห้องน้ำมาตรฐานได้ตามนี้เลย ยกเว้นฉากกั้นอาบน้ำ
สุขภัณฑ์ที่ได้จะใช้ของ Cotto และ Prema เป็นหลัก ตัวอ่างล้างมือได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม Lavenz พร้อมก๊อกน้ำ Prema ขนาดอ่างค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่วางของเหนืออ่างนิดหน่อย
ใต้อ่างเป็นตู้เก็บของ ไว้เก็บพวกอุปกรณ์อาบน้ำเล็กๆน้อย หน้าบานกรุเมลามีน ลายไม้สีอ่อน
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Cotto แบบ Dual Flush พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ พื้นที่ระยะใช้งานพอดีๆ
สายชำระแบบชุบโครเมียมมาตรฐาน
ในพื้นที่ห้องอาบน้ำจะมีธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม. แยกพื้นที่ไว้ให้ แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำ ซึ่งถ้าใครจะติดตั้งเอง ใช้เป็นบานสไลด์ 3 ตอนแบบนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ เปิดได้กว้างขึ้น
ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ American Standard ขนาดกำลังดี พร้อมถาดวางสบู่ และเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
พื้นที่ยืนอาบน้ำพอดีๆ สามารถยืนอาบได้สะดวก
ถัดจากห้องน้ำเป็นส่วนห้องนอนและมุมพักผ่อน
ช่องแสงหลักในห้องเป็นประตูบานเลื่อนจากระเบียง และหน้าต่างตรงมุมพักผ่อน
ตัวบานหน้าต่างเป็นบานฟิกซ์และบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้ โดยบานกรอบจะได้เป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติทั้งหมด
พื้นที่ในห้องนอนจะได้เตียงขนาดควีนไซส์ค่ะ
ยังมีพื้นที่เหลือข้างเตียงให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ และสามารถขึ้นลงเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนปลายเตียงจะให้เป็นชั้นวางทีวีหน้าตาแบบนี้เลย ดูโปร่งๆใช้งานง่าย และมีระยะเหลือปลายเตียงให้เดินผ่านได้สบายๆ
โต๊ะวางทีวีมีลิ้นชักเก็บของให้ 2 ช่อง แบบนี้
ติดกันเป็นมุมนั่งพักผ่อน ติดกับช่องแสงในห้อง ตรงนี้ทางโครงการก็จะมีโซฟามาให้
พื้นที่การใช้งานกระทัดรัดตามขนาดห้อง มุมนี้จะใช้นั่งทำงานก็ได้หรือจะไว้นั่งทานอาหารก็ได้ มองวิวได้เพลินๆ ที่สำคัญคือห้องสตูดิโอฝั่งทิศใต้ จะได้วิวไฮไลท์ คือโค้งน้ำเจ้าพระยากับรัฐสภาใหม่ด้วยค่ะ
ส่วนระเบียงจะใช้เป็นประตูบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติเหมือนกัน
ขนาดระเบียงจะไม่กว้างมาก พอวางราวตากผ้าหรือปลูกไม้กระถางได้ พร้อมติดตั้งก๊อกน้ำมาให้ 1 จุด และดีที่ทางโครงการทำพื้นที่วางเครื่องซักผ้าไว้ในห้องแล้ว ตรงนี้เลยใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆได้เต็มที่
ราวกันตกเป็นเหล็กทำสีเทาอ่อน และมีกริลล์ข้างๆเพื่อบังสายตาจากตัวคอมเพรสเซอร์แอร์ ช่วยให้ตัวอาคารดูเรียบร้อยขึ้น
ภาพรวมภายในห้อง Studio จริงๆคือเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่เยอะมากนะ แต่เค้าจัดแปลนออกมาได้ดูโล่งพอสมควรเลย แล้วฟังก์ชั่นต่างๆก็จัดมาได้ครบดี อยู่คนเดียวได้สบายๆค่ะ
ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 44 ตร.ม. เข้ามาในห้องส่วนแรกเป็น Foyer เล็กๆ เชื่อมไปยังพื้นที่โถงด้านใน
เข้ามาด้านในห้องจะเป็นโถงกว้างๆ ที่รวมพื้นที่ครัวเปิด, มุมทานอาหารและห้องนั่งเล่น ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 ม. ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น โดยเค้าทำมาให้เป็นครัวเปิด เหมาะสำหรับเตรียมอาหารเบาๆ แต่ถ้าอยากกั้นเป็นครัวปิดก็ทำได้นะเพราะพื้นที่ค่อนข้างกว้าง แต่ต้องเลือกวัสดุดีๆค่ะ ไม่งั้นห้องจะดูทึบได้ค่ะ
ชุดเคาน์เตอร์ครัวได้ตามนี้เลย Top หินสังเคราะห์ ด้านหลังติด Backsplash มาให้ เช็ดทำความสะอาดง่าย อุปกรณ์ที่มีจะติดตั้งมาให้แค่ซิ้งค์ล้างจานค่ะ ถ้าใครชอบทำอาหารก็จะต้องหาเตาไฟฟ้ามาติดตั้งเพิ่มเองนะ ส่วนตู้ก็แบ่งเป็นลิ้นชัก ชั้นวางไมโครเวฟ เก็บของต่างๆได้พอสมควร ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อนทั้งหมด บานเปิดเป็น Soft close ข้างๆก็ทำเป็นตู้ชั้นวางเก็บรองเท้าหรือของอื่นๆได้
พื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ครัวกระทัดรัดนิดนึง ถ้าวางเตาไฟฟ้าแล้วจะมีที่วางอุปกรณ์ทำอาหารไม่เยอะมาก
ส่วนพื้นที่ติดกับครัวจัดเป็นพื้นที่ทานอาหาร มีโต๊ะ 4 ที่นั่งมาให้ และมีพื้นที่เหลือรอบๆกว้างพอสมควร
ระยะการใช้งานพอให้ใช้งานได้สะดวก สามารถเลื่อนเก้าอี้ทานอาหารเข้า – ออก ได้สะดวก
ติดกันเป็นห้องนั่งเล่น ทางโครงการให้โซฟาผ้า 2 – 3 ที่นั่ง พร้อมชั้นวางทีวีขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้ว
ระยะจัดวางโซฟาขนาดพอดีกับผนังด้านหลังเลย
ส่วนระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.2 เมตร วางทีวีขนาด 42″ – 47″ ได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นระเบียง ประตูเป็นบานกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักกระจกซึ่งเป็นช่องแสงหลักของห้อง
ส่วนพื้นที่ระเบียงจะมีขนาดค่อนข้างกว้าง ราวกันตกเหล็กซี่ ติดก๊อกน้ำมาให้ ด้านข้างทำกริลบังสายตามาให้เรียบร้อย
ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ก็ติดตั้งแบบลอยตัวก็จะสามารถวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าได้
มุมมองจากระเบียงย้อนมาดูภาพรวมภายในห้อง
ถัดมาเราไปดูในห้องนอนกันต่อค่ะ
พื้นห้องนอนจะปูลามิเนต มีตัวจบติดตั้งมาให้เรียบร้อย
ห้องนอนมีขนาดกว้างและมีห้องน้ำในตัว สามารถแบ่งพื้นที่เป็นโซนพักผ่อน กับ Walk – in Closet ได้
ส่วนพื้นที่ในห้อง สามารถวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์ที่ทางโครงการแถมมาให้ได้สบายๆ มีพื้นที่เหลือรอบๆเตียงให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนปลายเตียงก็สามารถติดทีวีแบบแขวนผนังได้ มีเดินช่องสัญญาณมาให้เรียบร้อย ส่วนระยะก็พอให้เดินผ่านได้สบายๆ
จุดเด่นอีกอย่างของห้องนี้ คือได้ช่องแสงเป็นหน้าต่างเข้ามุม สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากห้องนอนได้เลย และมีบานกระทุ้ง 2 บาน ไว้เปิดระบายอากาศได้
อีกฝั่งของห้องเป็นส่วน พื้นที่ยืนแต่งตัวและห้องน้ำ
ทางโครงการมี Built – in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ได้แบบนี้เลย บานเปิดเป็นกระจกสีดำ
ในตู้แบ่งเป็นราวแขวน 2 ชั้น, ลิ้นชัก และช่องเก็บของ จุเสื้อผ้าได้พอสมควร
อีกฝั่งให้โต๊ะเครื่องแป้งเข้าชุด มีระยะการใช้งานสบายๆ
เข้าไปดูด้านในห้องน้ำกันต่อ
ห้องน้ำจะได้มาตรฐานตามนี้เลย แยกส่วนแห้งส่วนเปียก พื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้าง
สุขภัณฑ์จะได้อ่างล้างมือพร้อมตู้เก็บของ ยี่ห้อ Lavenz ติดตั้งมาพร้อมก๊อกน้ำเย็น Prema ส่วนโถสุขภัณฑ์ Cotto พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
มีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดระบายอากาศ ลูกฟักกระจกฝ้า ไม่ต้องกังวลว่าข้างนอกจะเห็นภายในห้องน้ำ
ส่วนพื้นที่ห้องอาบน้ำแยกเป็นสัดส่วนแต่ไม่ได้ Shower Box นะ ด้านในติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower พร้อมถาดวางสบู่ ยี่ห้อ American Standard พร้อมเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ
พื้นที่ยืนอาบน้ำพอให้ยืนอาบได้สบายๆ
ราคา(ตุลาคม 2562)
Studio ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
One Bedroom ราคาเริ่มต้น 2.65 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย 112,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง ตร.ม. ละ 55 บาท/เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
ค่ากอลทุน 500บาท/ตร.ม.
Promotion**(ตุลาคม 2562)
ส่วนลดสูงสุด 600,000 แยกเป็น Room Type ดังนี้
– สตูดิโอ 100,000
– 1 ห้องนอน , 1 ห้องนอน Exclusive 200,000
– 1 ห้องนอน (RF) 400,000
– 2 ห้องนอน (RF) 600,000
* ฟรีค่าทำสัญญาสูงสุด 100,000
* ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน 7 รายการ
1. ค่าส่วนกลาง 2 ปี 55 บาท/ตร.ม.
2. เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม.
3. ค่าธรรมเนียมการโอน 1%
4. ค่าประกันมิเตอร์น้ำ
5. ค่าประกันมิเตอร์ไฟ
6. ค่าจดทะเบียนนิติกรรม
7. ค่าเบี้ยประกันอาคาร 14 บาท/ตร.ม.
**ข้อมูลราคาและ โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และข้อมูลที่อัพเดทที่สุดค่ะ
ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลและสิทธิพิเศษ คลิก*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Chapter One Shine บางโพ ตั้งอยู่บน ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 พื้นที่ติดกับ ซ.ประชาราษฏร์1 ซอย 25 และ รร.โยธินบูรณะ ค่ะ ซึ่งอยูฝั่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มุ่งหน้าสู่สะพานพระราม 7 ซึ่งทำเลจัดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพตอนเหนือ ย่านบางโพ ที่ใกล้กับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ทางด่วนเปิดใหม่ และอยู่ไม่ไกลจากแยกบางโพ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบางโพ ช่วงต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ในอนาคต ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2562 ค่ะ ทำเลย่านบางโพ ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก แต่เดิมเป็นย่านชุมชนเมืองในแนวราบที่ค่อนข้างครบครันอยู่แล้ว เพราะก็เชื่อมต่อกับตัวเมืองกทม.ชั้นใน รวมถึงใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาและตัวเมืองนนทบุรีอีกด้วย วิ่งข้ามสะพานพระราม 7 ไปก็สามารถออกสู่ ถ.ราชพฤกษ์-บางกรวย-ไทรน้อยได้ค่ะ หรือจะวิ่งเข้าตัวเมืองกรุงเทพมหานครชั้นใน โซนดุสิต หรือวิ่งออกตัวเมืองในโซนจตุจักร กำแพงเพชร ถึงห้าแยกลาดพร้าวได้เช่นกัน
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินก็ครบครันค่ะ โครงการติดรร.โยธินบูรณะ จากหน้าโครงการสามารถเดินข้ามสะพานลอย สู่ตลาดศรีเขมา ซึ่งทั้งสองฝั่งถนนตั้งแต่หน้าโครงการเราก็จะเป็นร้านค้าอาคารพาณิชย์ค่ะ หน้าตลาดมี 7-11 ถึงสองฝั่งถนน และ Family Mart รวมถึง White Mall คอมมูนิตี้มอลล์ที่มี Max Valu อยู่ภายในให้สามารถชอปปิ้งซื้ออาหารของใช้ในบ้านได้ และอยู่ห่างจากแยกบางโพประมาณ 700 เมตร ค่ะ ส่วนห้างสรรพสินค้า จะอยู่ถัดออกไปในระยะ 1.5 กม. ขึ้นไปค่ะ ใกล้ที่สุดก็จะเป็น Tesco Lotus ประชาชื่น, ฺBig C วงศ์สว่าง และ Supreme Complex ส่วนห้างขนาดใหญ่จะอยู่ในระยะขับรถประมาณ 5-10 กม. ค่ะ นั่นก็คือ Central ลาดพร้าว และ The Mall งามวงศ์วานนั่นเอง ในอนาคตที่บริเวณ ถ.ประชาราษฏร์สาย 2 ก็จะมีโครงการ Gateway บางซื่อ ที่อยู่ติดกับ The Tree Interchange Condo ของพฤกษาไม่ไกลจากโครงการของเราค่ะ
ข้อดีของทำเลนี้คือเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัยเองด้วย เนื่องจากความครบครันและสภาพแวดล้อมโครงการรวมถึงวิวทิวทัศน์ที่ดีมาก ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ เพราะคอนโดมิเนียม High Rise เจ้าอื่นส่วนใหญ่จะไปสร้างอยู่บริเวณใกล้สถานีเตาปูน และบางซื่อเสียมากกว่า เพราะเป็นสถานี Interchange อาจจะเดินทางสะดวกกว่าแต่สภาพแวดล้อมโครงการเราวิวดีกว่ากันเยอะค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าเดินทางสะดวกสบายค่ะ เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนประชาราษฏร์สาย 1 ที่อยู่ใกล้กับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวน ซึ่งเป็นตัวช่วยให้สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกกว่าเดิมที่ต้องวิ่งไปขึ้นบริเวณประชาชื่น แยกประชานุกูล รวมถึงถนนประชาราษฏร์สาย 1 นี้ยังเชื่อมต่อกับถนนสายหลักเส้นอื่นๆ อย่างเช่น ถนนวงศ์สว่าง ที่สามารถวิ่งสู่ตัวเมืองนนท์ได้, ถ.ประชาราษฏร์สาย 2 วิ่งสู่โซนจตุจักร, ถ.ทหาร บริเวณแยกเกียกกาย ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งใหม่แล้ว ในอนาคตจะมีโครงการสะพานเกียกกาย ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมต่อกับ ถ.จรัญสนิทวงศ์ เพื่อรองรับเมกะโปรเจครัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงการขยายถนนประชาราษฏร์สาย 1 ต่อไปยังถนนทหาร และสร้างถนนคู่ขนานสามเสน , สร้างถนนเชื่อมสะพานเกียกกาย กับถนนกำแพงเพชรอีกด้วย ซึ่งก็ล้วนเป็นถนนเส้นหลัก ที่ใช้เดินทางในละแวกโครงการแทบทั้งสิ้นค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ รถสาธารณะก็ค่อนข้างสะดวกสบายค่ะ มีรถผ่านสามารถเรียกได้ตลอดเวลาและหลากหลายประเภท มีป้ายรถเมล์ ห่างจากโครงการไปประมาณ 300 เมตรเท่านั้น บริเวณหน้าตลาดศรีเขมา รวมถึงวินมอเตอร์ไซค์ฝั่งตรงข้าม เพียงแค่ข้ามถนนไปที่ปากซอยประชาราษฏร์สาย 1 32 หรือชุมชนศรีบุญยืน ก็มีพี่วินนั่งรอให้บริการอยู่ใต้ต้นไม้ตลอดทั้งวันแล้วค่ะ อีกทั้งยังอยู่ห่างจากแยกบางโพ 700 เมตร ที่เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบางโพ และอยู่ห่างจากสถานีเตาปูน และบางซื่อ ที่เป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง, แดง และแดงอ่อน อีกด้วย
การออกแบบโครงการและวัสดุ เ ป็นคอนโด High Rise สูง 33 ชั้น บนพื้นที่ 3 – 1 – 40 ไร่ จำนวน 607 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 อาคาร คือ ส่วนอาคารพักอาศัย 33 ชั้น และ อาคารจอดรถ 5 ชั้น ซึ่งเน้นการออกแบบสไตล์ Modern Chinese ที่ดึงเสน่ห์ของคนในพื้นที่ ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนมาค้าขายในย่าน มาออกแบบให้ผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 22 ยูนิต/ชั้น
มีห้องทั้งหมด 5 แบบ ตั้งแต่ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Exclusive, 1 Bedroom Riverfront และ 2 Bedroom Riverfront ขนาดห้องเริ่มต้น 22.5 – 56.8 ตร.ม. ที่จัดพื้นที่ใช้สอยมาค่อนข้างลงตัวค่ะ ได้ระเบียงภายนอกที่ใช้งานได้จริง โครงการขายแบบ Fully Furnished ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ตกแต่งภายในพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ แต่ข้อเสียคือพื้นที่ห้องครัวของห้องทุกแบบไม่ได้เป็นครัวปิดค่ะ จะเป็นครัวที่เชื่อมต่อกับ Living Area ทั้งหมด ซึ่งลูกบ้านสามารถหาฉากกั้นมาติดตั้งเองได้ตามใจชอบ
สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย ข้อดีของที่นี่คือทำอาคารจอดรถแยกกันกับอาคารพักอาศัย ซึ่งทำให้จอดรถได้ค่อนข้างมาก และส่วนกลางทุกจุดต้องใช้คีย์การ์ดทั้งหมดค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางก็ให้มาค่อนข้างหลากหลาย โดยแบ่งเป็นชัดๆ 3 ส่วนด้วยกันคือพื้นที่ชั้น 1, พื้นที่อาคารจอดรถด้านบนเป็น Sky Garden, ดาดฟ้าอาคารจอดรถ และบนดาดฟ้าอาคารพักอาศัย ซึ่งเบื้องต้นออกแบบมาได้ดีทีเดียวค่ะ ชั้นดาดฟ้ามี Infinity Edge Pool, Sky Fitness, Sunset Deck, Sky Lounge และ Sky Garden
ถัดขึ้นไปอีกชั้นก็จะเป็นห้อง Fitness พร้อม Co-Working Space , Zen Chamber , Play Yard , Private Court , Yoga Yard และ Meditation Area ค่ะ ซึ่งจะได้เรื่องวิวแม่น้ำเช่นเดียวกันกับห้องพัก
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
7.8
อยู่ติด ถ.ประชาราษฏร์สาย 1 สาธารณูปโภคครบครัน มีแนวโน้มจะขยายตัวสูงในอนาคต
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
8.5
เดินทางสะดวกด้วยถนนหลายสาย และทางพิเศษศรีรัช-วงแหวน
การเดินทางโดยรถสาธารณะ
7.7
โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ สามารถเรียกรถสาธารณะได้ไม่ยาก มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงข้ามโครงการ และอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบางโพ 700 เมตร
บ้านและวัสดุ
7.8
ชอบ Concept โครงการที่ออกแบบโดยใช้สไตล์ Modern Chinese ลดทอนความละเอียดของเอกลักษณ์จีนให้คนรุ่นใหม่สัมผัสได้ง่าย ตกแต่งอุปกรณ์มือจับเฟอร์นิเจอร์ในห้องได้คอนเสปที่ดูไม่เยอะจนเกินไป มีห้องหลากหลาย ฟังก์ชั่นลงตัว
สิ่งอำนวยความสะดวก
8
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและมีให้เลือกเยอะ ขนาดพอดีกับจำนวนยูนิต
ความคุ้มค่ากับราคา
7.8
โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง ผู้ที่ต้องการหาคอนโดสำหรับอยู่อาศัยหรือลงทุน วิวแม่น้ำเจ้าพระยา เดินทางบ่อยในโซนกรุงเทพตอนเหนือ
คะแนนรวมเฉลี่ย
7.93
ดี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
CALL CENTER : 1739
WEBSITE : https://chapterone.pruksa.com/th/13493/chapter-one-บางโพ
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
*** ขายดาวน์ห้อง Two Bedroom – Riverfront ขนาด 56.80 ตร.ม ชั้นกลางวิวหน้าแม่น้ำเต็มๆ ราคาพิเศษติดต่อได้เลยครับ 061-8249556
กลุ่มเฟสบุ๊ค และ ชุมชนลูกบ้านและผุ้สนใจ Chapter One Shine ค่ะ
http://www.facebook.com/groups/chapteroneshine/