Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมกับคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในย่านใจกลางเมือง กับโครงการ Galileo รัชดา 32 จาก บริษัท กาลิเลโอ จำกัด กันค่ะ โดยโครงการตั้งอยู่ภายใน ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-6 ซึ่งสามารถเข้า-ออกได้หลายทาง และเชื่อมต่อถนนสำคัญได้หลายเส้นทั้ง ถนนรัชดาภิเษก, ถนนลาดพร้าว, ถนนพหลโยธิน และ ถนนลาดพร้าว-วังหิน รวมถึงใกล้กับรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว, MRT รัชดา และ BTS รัชโยธิน อีกด้วย
ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ เช่น The JAS วังหิน, Plaza Lagoon, Lotus’s วังหิน, Central Plaza ลาดพร้าว, รพ.เปาโล โชคชัย 4, ม.เกษตรศาสตร์, ม.ราชภัฎจันทรเกษม และ รร.หอวัง เป็นต้น
กาลิเลโอ รัชดา 32 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 195.65 ตร.ว. เป็นส่วนตัวด้วยห้องพักอาศัยเพียง 63 ยูนิต เป็นแบบห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ที่มีให้เลือกถึง 10 แบบ ขนาดเริ่มต้น 22.64-35.43 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Fully Furnished พร้อมเทคโนโลยี Home Automation ที่ทันสมัย ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานภายในโครงการครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Lobby, Co-Working Space, Fitness Room, Swimming Pool, Multi-Purpose Room, Rooftop Garden, Telescope, Playground, Shuttle Bus Service พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 2.39 ล้านบาท* (ก.ค.65)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก https://bit.ly/3m4NQ9K
ไปดูกันเลยค่ะว่าคอนโดโครงการนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
| ชื่อโครงการ | กาลิเลโอ รัชดา 32 / Galileo Ratchada 32 |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท กาลิเลโอ จำกัด |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 0-1-95.65 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 63 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง | 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ขนาด 22.64-35.43 ตร.ม. |
| ที่จอดรถทั้งหมด | 23 คัน หรือ 35% ของห้องพักอาศัย (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) |
| จำนวนลิฟต์ | ลิฟต์โดยสาร 1 ตัว |
| โซน | รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว |
| เส้นทางคมนาคม |
|
| ที่ตั้ง | ซอยรัชดา 36 แยก 19-6 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. |
| กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง กุมภาพันธ์ ปี 2563 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | แล้วเสร็จ ตุลาคม ปี 2564 |
| ราคา | เริ่มต้น 2.39 ล้านบาท* (ก.ค.65) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 86,000 บาท/ตร.ม.* (ก.ค.65) |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ตลาดและห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
สถานที่ราชการและสำนักงาน
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| Tel | 093-946-4655 |
| Website | galileoratchada32.com |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยรัชดา 36 แยก 19-6 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.
พิกัด : 13.817776, 100.587326
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Galileo รัชดา 32 นั้นเป็น Low Rise Condominium ที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพในโซนรัชดา ด้วยความที่โครงการนั้นตั้งถัดเข้ามาภายในซอยรัชดาภิเษก 32 ประมาณ 1.4 กม. จึงเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เพราะจากซอยรัชดาฯ 32 นั้นสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้หลายเส้น ยกตัวอย่างเช่น ถนนรัชดาภิเษก, ถนนลาดพร้าว, ถนนลาดพร้าววังหิน และถนนเกษตร-นวมินทร์ จะเดินทางไปขึ้นทางด่วนก็สะดวกค่ะ
และจุดขายของทำเลนี้ก็คือ อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 3 สายด้วยกันเลย ทั้งรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง (อนาคต) รวมไปถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์ และร้านอาหารให้เลือกมากมาย
การเดินทางด้วยรถยนต์ หลัก ๆ แล้วซอยรัชดาฯ 32 จะเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้ 2 เส้น คือ ถนนรัชดาภิเษก และถนนลาดพร้าววังหิน โดยถนนรัชดาภิเษกนั้นถือเป็นถนนสายธุรกิจสายสำคัญ ที่คนเมืองอย่างเรา ๆ รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะสามารถใช้ตรงเข้าสู่ NCBD อย่างโซนพระราม 9 ได้เลย และต่อเนื่องไปได้ถึงโซนอโศก, สุขุมวิท และพระราม 4 ได้ไม่ยาก ส่วนอีกฝั่งของถนนรัชดาภิเษกก็จะไปเชื่อมต่อกับถนนพหลโยธินค่ะ
สำหรับถนนลาดพร้าววังหินนั้นจะถือเป็นถนนเส้นรอง แต่ก็ถือว่าเป็นถนนเส้นสำคัญของทำเลนี้ เพราะนอกจากจะมีความอุดมสมบูรณ์ในตัวครบอย่างที่รู้กันแล้ว ถนนเส้นนี้ยังเชื่อมต่อกับถนนหลักเส้นอื่น อย่าง ถนนลาดพร้าว, ถนนโชคชัย 4 และยังเชื่อมต่อกับถนนโชคชัย 4, ถนนสังคมสงเคราะห์ จนไปออกถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา (ประดิษฐ์มนูธรรม) ได้เลย จึงถือว่าเป็นทำเลที่มีทางหนีทีไล่ ใช้ลัดเลาะเลี่ยงรถติดได้ดีเลยค่ะ
ทางด่วน นอกจากนี้ตัวโครงการก็อยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ด้วยนะคะ โดยทางที่ไปขึ้นทางด่วนสะดวกก็ให้คือลัดเลาะไปทางซอยสตรีวิทยา 2 ไปออกถนนเกษตร-นวมินทร์แถว ๆ ตลาดนัดหัวมุม แล้วเลี้ยวขวาขึ้นทางด่วนค่ะ
ส่วนอีกจุดหนึ่งก็คือทางด่วนศรีรัช มีจุดขึ้น-ลงอยู่แถว ๆ แยกประชานุกูลค่ะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จุดแข็งของทำเลนี้ก็คือ มีรถไฟฟ้าผ่านถึง 3 สายด้วยกันตามที่เล่าให้ฟังเลยค่ะ สายแรกสุดเลยที่เราใช้กันมานานแล้ว ก็คือรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ที่สถานีลาดพร้าว อยู่ใกล้โครงการประมาณ 2.4 กม. ถัดมาคือ รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (ช่วงหมอชิต-คูคต) ที่สถานีรัชโยธิน อยู่ใกล้โครงการประมาณ 3.3 กม. ซึ่งทั้ง 2 สถานีนี้เราสามารถเรียกรถไปถึงได้ในเวลาเพียง 3-5 นาทีเท่านั้น
และสำหรับสายในอนาคตที่ใกล้จะเปิดทดลองให้บริการกันแล้ว ก็คือรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) ที่สถานีรัชดา จะเป็นสถานีที่ Interchange กับสถานีลาดพร้าวค่ะ แต่ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือช่วง รัชโยธิน-รัชดา ที่อาจจะมีสถานีเพิ่มเติมมาอีก 2 สถานี ตรงนี้สำคัญเลย เพราะจะทำให้การอยู่อาศัยที่นี่สะดวกมากขึ้น โดยตัวสถานีจะตั้งอยู่แถว ๆ หน้าปากซอยรัชดาฯ 32 หรือก็คืออยู่ใกล้กับโครงการเพียง 1.4 กม. เท่านั้น ตอนนี้กำลังรอลุ้นการตกลงกันระหว่าง BTS และ MRT อยู่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
และทางโครงการยังมีบริการ Shuttle Bus Service จากโครงการถึงสถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว และอาจจะเพิ่มเติมไปยังสายอื่น ๆ ในอนาคตตามมติเห็นชอบจากทางลูกบ้านผ่านทางนิติบุคคลอีกด้วย
ความอุดมสมบูรณ์ ภายในซอยในระยะเดินแบบสบาย ๆ จะมี 7-11, คาเฟ่ และร้านอาหารให้ฝากท้องได้หลายร้าน แต่ห่างออกไปแค่ 1 กม. ที่เส้นลาดพร้าววังหิน ถือเป็นไฮไลต์ของทำเลนี้ เพราะว่ามีความอุดมสมบูรณ์มาก ๆ มีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์, ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมไปถึงร้านอาหารเด็ด ๆ และร้านนั่งชิลในตอนกลางคืน ตัวเลือกเยอะมากเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น Lotus’s, Town Square, Makro Food Service, The JAS, Plaza Lagoon และ Green Plaza จะซื้อของเข้าบ้านเอยอะไรเอยก็คือครบแล้ว ถือเป็นถนนเส้นที่เป็นปากเป็นท้องของคนที่อยู่อาศัยในทำเลนี้เลยค่ะ
แต่คนไทยยังไงก็แพ้ห้างใหญ่ ๆ ที่สามารถเดินเล่นตากแอร์ได้ทั้งวัน ทำเลนี้ก็ใกล้ทั้ง Central Plaza ลาดพร้าว, Central Festival Eastville, แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นราคาย่อมเยาอย่าง Union Mall, The Crystal, CDC และรัชดาไนท์บาซ่าร์ หรือถ้าจะนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองไปโซนจตุจักรหรือโซนสยามก็ไปได้ไม่ยากเลย
นอกจากนี้ยังมีสถานศึกษาและโรงพยาบาลอยู่ไม่ไกล ยกตัวอย่างเช่น รพ.เปาโล โชคชัย 4, รพ.เปาโล เกษตร, ม.ราชภัฎจันทรเกษม, ม.เกษตรศาสตร์, รร.สตรีวิทยา 2 และ รร.หอวัง เป็นต้นค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
สถานที่ราชการและสำนักงาน
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
เราจะเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนพหลโยธิน > แยกรัชโยธิน > ถนนรัชดาภิเษก > ซอยรัชดาภิเษก 32 > โครงการ Galileo รัชดา 32
เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนพหลโยธินบริเวณ BTS สถานีรัชโยธิน กันค่ะ โดยเราจะมุ่งหน้าไปทางฝั่งแยกรัชโยธิน
พอผ่านตัวสถานีมาแล้ว จะเห็น Major รัชโยธินอยู่ทางฝั่งขวามือเลย ตรงนี้ให้เราชิดซ้ายเพื่อไปทางลาดพร้าว
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษกที่แยกรัชโยธินค่ะ
เราขับตรงบนถนนรัชดาภิเษกไปเรื่อย ๆ เราจะเห็นศาลยุติธรรมทางฝั่งขวามือ โดยอาคารแรกจะเป็นศาลอาญาค่ะ
จากนั้นให้เราชิดซ้ายเพื่อไปทางลาดพร้าว-วังหิน
ข้างหน้าของเราจะมีป้ายบอกเส้นทางลัด จะเป็นซอยรัชดาภิเษก 32 ให้เราเลี้ยวเข้าซอย
จากถนนรัชดาภิเษกเลี้ยวเข้ามาภายในซอยรัชดาฯ 32 แล้วจะตรงเข้าสู่ซอยรัชดาฯ 36 แยก 19 จากนั้นให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยรัชดาฯ 36 แยก 19-6 โครงการจะอยู่ทางฝั่งขวามือของเรา รวมระยะทางจากหน้าปากซอยรัชดาฯ 32 ไปจนถึงตัวโครงการ จะมีระยะทางประมาณ 1.4 กม. ค่ะ
ภายในซอยรัชดาฯ 32 ถือเป็นซอยที่มีความคึกคักพอสมควร เพราะว่าเป็นซอยที่เชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าววังหินได้ และยังใช้เป็นทางลัดไปเชื่อมต่อกับถนนรามอินทราได้อีกด้วย
ในซอยเลยมีพวกร้านค้าและร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะ พวกร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ก็จะมีอยู่เป็นระยะ ๆ อย่างบริเวณช่วงปากซอยก็จะมี 7-11 และ Lotus Express อยู่อย่างละสาขา (แต่ไม่นาน Lotus Express สาขานี้ก็จะเปลี่ยนเป็น Lotus’s go fresh เหมือนสาขาอื่น ๆ นะคะ)
วิ่งเข้ามาได้เกือบครึ่งทาง ถ้าเราอ้างอิงตามแผนที่จาก Google Maps และป้ายชื่อซอย เราจะเข้าสู่ช่วงที่เป็นซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19 ตรงบริเวณ 4 แยกนี้ ก็ให้เรามุ่งหน้าตรงต่อไปได้เลย
จากนั้นให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยรัชดาฯ 36 แยก 19-6
ตรงเข้ามาอีกประมาณ 50 เมตร เราก็จะถึงโครงการ Galileo รัชดา 32 กันแล้วค่า
ภาพบรรยากาศบริเวณหน้าโครงการ Galileo รัชดา 32
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
พื้นที่โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัยค่ะ มีทั้งที่เป็นบ้านพักอาศัยส่วนตัว และพวกคอนโดมิเนียม หรืออะพาร์ตเมนต์ให้เช่า แถมโครงการยังอยู่ถัดเข้ามาภายในซอยย่อย จึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะว่ารถจะผ่านน้อยกว่าซอยหลัก แต่ก็เข้า-ออกไม่ยาก เพราะก็อยู่ถัดเข้ามาเพียง 50 เมตรเท่านั้นเอง วันไหนจะหาวินมอเตอร์ไซค์หรือรถแท็กซี่ให้มารับที่หน้าโครงการก็สะดวกค่ะ
เรามาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะ เริ่มจากภายในซอยรัชดาฯ 36 แยก 19-6 ฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนตัว
จากหน้าโครงการเราเลี้ยวขวา มุ่งตรงเข้าไปด้านในซอย
พื้นที่ติดกับโครงการทางฝั่งทิศใต้จะเป็นที่ดินบุคคลอื่น มีรั้วล้อมกั้นเอาไว้
ติดกันคือซอยรัชดาฯ 36 แยก 19-4-1 ภายในซอยก็จะเป็นลักษณะของอาคารและบ้านพักอาศัยส่วนตัว
ถ้าเราตรงออกไปข้างหน้าจะเป็นซอยรัชดาฯ 36 แยก 19-4
ฝั่งหนึ่งของซอยจะเป็นซอยตัน
ส่วนอีกฝั่งจะเชื่อมต่อกับซอยลาดพร้าว 41 ให้ทะลุออกถนนลาดพร้าวได้ค่ะ
จากหน้าโครงการเราเลี้ยวซ้ายเพื่อออกไปที่ซอยรัชดาฯ 36 แยก 19 กันบ้าง ทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นที่ดินบุคคลอื่น ส่วนทางฝั่งขวามือจะเป็นทาวน์เฮาส์สูง 3 ชั้น
ถ้าเราเลี้ยวซ้ายออกไป จะเป็นทางที่เราใช้เดินทางเข้ามา ทะลุออกถนนรัชดาภิเษก
ถ้าเราเดินตรงไปอีกไม่ไกล ก็จะมี 7-11 อยู่ 1 สาขา เป็นสาขาที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ระยะเดินประมาณ 270 เมตร เดินได้สบายค่ะเพราะซอยนี้ค่อนข้างร่ม ต้นไม้เยอะมาก
แต่จากปากซอยรัชดา 36 แยก 19-6 ถ้าเลี้ยวขวาจะไปเชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าววังหิน ซึ่งอย่างที่ได้เล่าให้ฟังไปว่าจะเป็นจุด Peak ของความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้ โดยจากโครงการเพียง 1 กม. เราก็จะเจอกับ Lotus’s, Town Square, Makro Food Service, The JAS, Plaza Lagoon, Green Plaza รวมไปถึงร้านค้าและร้านอาหารอีกมากมายค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ Galileo รัชดา 32 เป็น Low Rise Condominium สูง 8 ชั้น บนที่ดิน 195.65 ตร.ว. ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยห้องพักอาศัยเพียง 63 ยูนิตเท่านั้น พอเราได้ยินชื่อโครงการก็ทำให้นึกถึงนักดาราศาสตร์ชื่อดังชาวอิตาลี “กาลิเลโอ กาลิเลอี” จะขอเล่าว่าทางโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากนักดาราศาตร์ท่านนี้นั่นเองค่ะ
ตัวอาคารที่เห็นนั้นถูกออกแบบมาให้มีกลิ่นอายของสถาปัตกรรมในอิตาลี โดยการเล่นพวกซุ้มประตูโค้งเพิ่มความสวยงาม มีจุดเด่นที่ชั้นดาดฟ้าของโครงการที่ออกแบบมาเป็นสวนลอยฟ้าพร้อมกล้องดูดาว สามารถชมความสวยงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ตามคอนเซปต์ของชื่อโครงการ ส่วนสีที่ใช้ภายในโครงการก็จะเป็นโทนสีเทา-ขาว-ดำ เพราะเป็นโทนสีที่ Classy และยังสามารถ Match กับสีอื่น ๆ ได้ง่าย
โมเดลภาพรวมของโครงการ จะเห็นว่าทางตัวอาคารสร้างออกมาได้เหมือนกับที่ออกแบบเอาไว้
เริ่มจากที่ชั้น G จะเป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคาร มีทั้งหมด 23 ช่องจอด หรือคิดเป็น 35% ของจำนวนห้องพักอาศัย โดยจะยังไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน จากชั้นนี้จะมีโถงลิฟต์สำหรับขึ้นสู่ชั้นพักอาศัยได้ โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประตู Key Card มีลิฟต์โดยสารระบบล็อกชั้นให้ 1 ตัว นอกจากนี้ก็ยังมีบันไดด้านหน้าอาคารที่สามารถใช้เดินขึ้นไปยังพื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 2 ได้ค่ะ
สังเกตบริเวณด้านหน้าอาคารทางฝั่งซ้ายมือจะมีบันไดขึ้นไปยังพื้นที่บนชั้น 2 ได้ มีการออกแบบซุ้มประตูโค้งแบบ Double Volume เพื่อกันแดดกันฝนให้กับตัวบันได ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยงามได้ดี
ส่วนบริเวณทางเข้า-ออกพื้นที่จอดรถใต้อาคารจะมีป้อม รปภ. ตั้งอยู่ทางฝั่งขวามือเพื่อดูแลความปลอดภัยโดยรวม
พื้นที่จอดรถใต้อาคารจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 23 ช่องจอดค่ะ ยังสามารถจอดซ้อนคันเพิ่มได้อีกเล็กน้อย
ทางฝั่งซ้ายมือนี้เองจะเป็นโถงลิฟต์พร้อมประตู Key Card เพื่อความปลอดภัย ออกแบบเป็นประตูกระจกทั้ง 2 ฝั่งทำให้ดูโปร่ง
นอกจากจะเป็นโถงลิฟต์แล้ว ภายในยังเป็นจุดที่ติดตั้ง Mailbox ให้
ส่วนลิฟต์โดยสารจะมีให้ 1 ตัวค่ะ
ลิฟต์ที่ทางโครงการเลือกใช้จะเป็นลิฟต์ระบบล็อกชั้นของ Kone สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 10 คน หรือ 800 กก. ต่อเที่ยว
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะถูกออกแบบให้เป็น Facilities บริเวณส่วนหน้าของอาคาร ส่วนท้ายจะเป็นห้องพักอาศัยจำนวน 9 ยูนิตด้วยกัน โดยจะมีการออกแบบประตู Key Card กั้นส่วนห้องพักอาศัยอีกชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว
สำหรับ Facilities ในชั้นนี้จะประกอบด้วย Lobby และ Co-Working Space ถ้าเราเดินออกมาจากโถงลิฟต์ หรือเดินขึ้นมาทางบันไดฝั่งด้านหน้าอาคาร ก็จะเปิดประตูเข้ามาเจอ Lobby ก่อนค่ะ
ขึ้นมาที่โถงลิฟต์ชั้น 2 ประตูฝั่งซ้ายเป็นประตู Key Card กั้นส่วนห้องพักอาศัยออกไป ส่วนประตูฝั่งขวาจะเปิดออกสู่ Lobby ค่ะ
ส่วนทางนี้จะเป็นทางจากบันไดฝั่งด้านหน้าอาคาร
ส่วนแรกเป็น Lobby หรือจุดต้อนรับ ปัจจุบันถูกใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการด้วยในตัว สำหรับใครที่สนใจเข้ามาชมโครงการ ก็สามารถเดินขึ้นมาที่ Lobby แล้วติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายได้เลยค่ะ
จาก Lobby จะเชื่อมต่อกับ Co-Working Space ที่อยู่ทางฝั่งขวามือ
สำหรับ Co-Working Space นั้นถูกออกแบบและตกแต่งมาตามคอนเซปต์ของโครงการ โดยการใช้พื้นและผนังเป็นสีเทาและสีดำ มีการเซาะร่องของผนังเป็นกราฟิกที่ถอดแบบมาจากกลุ่มดาว และมีหลอดไฟห้อยลงมาจากฝ้าเพดานเป็นจุดกระจายกันเหมือนดวงดาว ได้บรรยากาศของท้องฟ้าในยามค่ำคืน
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบฝ้าเพดานที่สูงโปร่ง และการออกแบบผนังกระจกขนาดใหญ่ถึง 2 ด้าน ทำให้ภายในห้องมีความสว่างและโปร่งโล่ง
ภายในห้องมีการจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่เอาไว้ให้หลายชุด สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจและอ่านหนังสือ
มีชุดโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งทำงาน
และมีโต๊ะพูลเป็นกิจกรรมสำหรับกลุ่มเพื่อนและคนในครอบครัว
สำหรับชั้น 3-7 จะเป็น Typical Floor Plan เป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด 10 ห้อง มีการจัดวางห้องแบบ Double Corridor แต่ทำให้ประตูห้องแต่ละห้องอยู่เหลื่อม ๆ กัน ถือว่าจำนวนห้องต่อชั้นค่อนข้างน้อยเลยนะคะ เป็นข้อดีของโครงการขนาดเล็กที่เราจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า
ชั้น 8 จะเป็นอีกชั้นที่มีการแบ่งพื้นที่ระหว่างโซนห้องพักอาศัยและ Facilities สำหรับชั้นนี้จะเหลือห้องพักอาศัยเพียง 5 ห้องเท่านั้น พื้นที่ที่เหลือจะเป็นห้องฟิตเนส, ห้องน้ำ, ห้องซาวน่า และพื้นที่รองรับงานระบบของสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าค่ะ
เราขึ้นมาที่โถงลิฟต์บนชั้น 8 กันค่ะ
ทางฝั่งขวาของโถงก็คือห้องฟิตเนสนั่นเอง
จะเห็นว่าภายในห้องนั้นดูสว่างและโปร่งมาก เพราะว่าเขามีการออกแบบผนังกระจกให้ถึง 3 ด้าน เวลาออกกำลังกายก็จะไม่รู้สึกว่าอึดอัด และยังสามารถชมวิวรอบ ๆ ได้ด้วย
ภายในห้องมีอุปกรณ์ออกกำลังกายจัดเอาไว้ให้ตามมาตรฐาน ครบทั้ง Cardio Machine และ Weight Training Machine มีทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี, Multi-Function Machine
จักรยานไฟฟ้า, ชุดดัมเบลแบบคละน้ำหนัก และม้านั่งราบแบบปรับระดับได้ มีการติดตั้งกระจกเงาเอาไว้ให้สำหรับเช็กท่าทางในการออกกำลังกาย แล้วก็ยังเหลือพื้นที่โล่ง ๆ สำหรับยืดเส้นและเล่นโยคะได้ด้วย
จากโถงลิฟต์เราเลี้ยวซ้ายตรงไปตามทางเดิน ก็จะเห็นห้องน้ำและห้องซาวน่าค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ
ภาพบรรยากาศภายในห้องซาวน่า
ชั้นดาดฟ้า เรียกว่าเป็นจุดขายของโครงการเลยค่ะ บนชั้นนี้จะมีสระว่ายน้ำ, ห้องอเนกประสงค์, สนามเด็กเล่น และสวนลอยฟ้าที่มาพร้อมกับกล้องดูดาว
พอเราเปิดประตูออกมาที่ชั้นดาดฟ้า เราจะเจอสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าเราเลยค่ะ โดยทางโครงการตั้งชื่อให้ว่า “สระว่ายน้ำทะเลดาว” มาจากการที่ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้า ทำให้การใช้งานในตอนกลางคืนสามารถสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามของท้องฟ้าและดวงดาว
สำหรับสระว่ายน้ำของโครงการจะเป็นสระระบบเกลือ มีขนาดสระอยู่ที่ 4 x 10 เมตร และลึก 1.2 เมตร กว้างเพียงพอให้ว่ายออกกำลังได้
มีกระจก Tempered Glass กั้นโดยรอบเพื่อให้สามารถชมวิวได้ไม่สะดุด
พื้นสระปูด้วยกระเบื้องโมเสกลายหินอ่อนนะคะ สวยดูแพง
ส่วนพื้นที่ริมสระอีกฝั่งมีการออกแบบเป็น Sunken Seat ให้สามารถนั่งเล่นพักผ่อนได้
สำหรับพื้นที่ด้านข้างสระตามแนวยาวจะมีการจัดชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งพักคอย
และมี Shower ให้ 1 จุดสำหรับล้างตัวก่อนลงสระและหลังขึ้นมาจากสระ ตรงนี้ก็มีดีเทลการออกแบบให้เหมือนซุ้มประตูทรงโค้ง ดูสวยดี
ฝั่งนี้จะมีสนามเด็กเล่นปูหญ้าเทียมจัดเอาไว้ให้ด้วยนะคะ เผื่อว่าครอบครัวไหนมีเด็กเล็กก็พาขึ้นมาวิ่งเล่นบนชั้นดาดฟ้าได้
เดินมาที่อีกฝั่งจะมีห้องอเนกประสงค์ซ่อนอยู่ จะใช้ห้องนี้เป็นห้องสำหรับพักคอย หรือใช้เป็นห้องประชุมสำหรับคุยงานก็ได้นะคะ มีโต๊ะขนาดใหญ่และหน้าจอทีวีเตรียมไว้ให้แล้ว หรือถ้าใครที่ต้องการทำงานแบบเงียบ ๆ เป็นส่วนตัวจริง ๆ ห้องนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์
และยังมีสวนลอยฟ้าสำหรับนั่งพักผ่อนอีกสวน บรรยากาศจัดออกมาได้น่านั่งทีเดียว ที่บอกไว้ว่ามีกล้องดูดาว ทางโครงการจะนำมาติดตั้งเอาไว้ให้ที่สวนนี้ในภายหลังนะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
สำหรับห้องพักอาศัยภายในโครงการจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ขนาด 22.64-35.43 ตร.ม. มีให้เลือกถึง 10 แบบ ดังนี้ค่ะ
แบบห้อง B1-01 : ขนาด 22.64 ตร.ม.
แบบห้อง B1-02 : ขนาด 22.64 ตร.ม.
แบบห้อง B2-01 : ขนาด 26.70 ตร.ม.
แบบห้อง B2-01M : ขนาด 26.70 ตร.ม.
แบบห้อง B3-01 : ขนาด 27.53 ตร.ม.
แบบห้อง B3-01M : ขนาด 27.57 ตร.ม.
แบบห้อง B3-02 : ขนาด 27.70 ตร.ม.
แบบห้อง B4 : ขนาด 31.13 ตร.ม.
แบบห้อง BP-01 : ขนาด 32.11 ตร.ม.
แบบห้อง BP-02 : ขนาด 35.43 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างกันทั้งหมด 2 ห้องเหมือนเช่นเคยค่ะ เริ่มจากห้อง B3-01 ขนาด 27.53 ตร.ม. ตามด้วย ห้อง B2-01M ขนาด 26.70 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า
::: แบบห้อง B3-01 ขนาด 27.53 ตร.ม. :::
สำหรับห้อง B3-01 ขนาด 27.53 ตร.ม. จะเป็นห้องแบบหน้ากว้าง พอเข้าไปด้านในห้องจะเจอ Living Area ก่อน ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องครัวและระเบียง ซึ่งกั้นส่วนจาก Living Area ด้วยประตูบานเลื่อน ส่วนห้องนอนจะถูกกั้นส่วนออกไปด้วยประตูบานเลื่อนเช่นกัน แต่จะเพิ่มฟังก์ชันตู้เสื้อผ้า Built-in ที่มีประตูบานเลื่อนทึบขนาดใหญ่ สามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอนได้ ส่วนห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากฝั่งห้องนอนค่ะ
โครงการนี้ขายห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์พื้นฐานครบครัน ได้แก่ โซฟา, ชั้นวางทีวี, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ฐานเตียงตอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ พร้อมระบบ Home Automation สามารถควบคุมการเปิด-ปิดไฟในห้องผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือได้
เริ่มจากประตูทางเข้าห้อง เป็นประตูสำเร็จรูปบานทึบ มีตาแมวติดเอาไว้ตรงกลางบาน
ที่บานติดมือจับประตูแบบ Digital Door Lock ของ Hafele ใช้ได้ทั้ง Password, Key Card, ลูกกุญแจ และฟังก์ชันพิเศษเป็นบัตร Rabbit Card เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำค่ะ
เข้ามาภายในห้องแล้วส่วนแรกเราจะเจอกับ Living Area ก่อน ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องครัว ส่วนทางฝั่งขวามือจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำด้านใน สำหรับวัสดุที่ทางโครงการให้มา ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ ผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานมีความสูงอยู่ที่ 2.4 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลต์มาให้ทั้งหมด
ซึ่งไฟแสงสว่างภายในห้อง เราสามารถควบคุมผ่านระบบ Home Automation เปิด-ปิดผ่านมือถือของเราได้ จะมี Smart Switch ติดตั้งมาให้แบบนี้ในส่วนของ Living Area, ห้องนอน และห้องน้ำ มันสะดวกตรงที่ ถ้าเราลืมปิดไฟก่อนออกจากห้อง ก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินกลับห้อง ปิดผ่านมือถือได้เลย จะเตรียมเปิดไฟในห้องเอาไว้ก็ได้ หรือเวลาที่เข้านอนแล้ว ไม่อยากลุกไปปิดไฟ ก็ปิดผ่านมือถือได้เลย
ในส่วนของการควบคุมพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ อย่างพวกแอร์, ทีวี หรือรางม่าน สามารถปรึกษากับทางโครงการได้ จะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยค่ะ
เรามาดูรายละเอียดภายใน Living Area กันก่อนค่ะ ที่เราเห็นอยู่นี้จะเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ที่แถมมากับห้อง
เราจะได้เป็นโซฟาบุผ้าขนาด 2 ที่นั่งพร้อมหมอนอิง 2 ใบสีเดียวกันกับโซฟา
ฝั่งตรงข้ามเราได้ชุดชั้นวางทีวี, ชั้นวางรองเท้า และตู้เก็บของ Built-in มาแบบนี้เลย หน้าบานปิดผิวด้วย High Gloss ทั้งหมดเป็นแบบ Soft Close นะคะ เปิด-ปิดไม่กระแทกเสียงดัง เวลากลับเข้าห้องหรือออกจากห้อง ก็ถอดหรือหยิบรองเท้าจากชั้นได้สะดวก และเป็นจุดที่ใช้วางของสำคัญแบบพวกกุญแจก่อนออกจากห้องได้ ส่วนชั้นบนสุดจะซ่อนตู้ไฟเอาไว้ให้
ด้านหลังทีวีจะมี Smart Switch บนเต้ารับติดตั้งมาให้ ตรงนี้ดีนะคะ คือเราสามารถกดปิดการจ่ายไฟจากปลั๊กได้โดยที่ไม่ต้องถอดปลั๊กออก เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัย
ส่วนแอร์ที่ติดตั้งมาให้จะมีทั้งหมด 2 ตัวขนาด 9,000 BTU ระบบ Inverter ภายใน Living Area 1 ตัว และห้องนอนอีก 1 ตัว
ถัดมาเป็นมุมที่เราจัดเป็นโต๊ะสำหรับนั่งรับประทานอาหารได้ สำหรับชุดโต๊ะและเก้าอี้ชุดนี้จะเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ชุดเดียวที่ทางโครงการไม่ได้แถมมาให้ค่ะ
สำหรับห้องครัวนั้นถูกกั้นส่วนออกไปเป็นครัวปิดด้วยบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ใช้บานกรอบอะลูมิเนียม สามารถเลื่อนเปิดได้กว้าง แม้จะเลื่อนปิดเพื่อกั้นส่วนอยู่ ก็ยังรู้สึกว่าพื้นที่ห้องยังเชื่อมต่อกัน ทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น และยังรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
สำหรับพื้นในห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิโตขนาด 60 x 60 ซม. เพื่อให้สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
พื้นที่ภายในห้องครัวถือว่ามีขนาดใหญ่เลยนะคะสำหรับห้องขนาด 26-27 ตร.ม. สามารถยืนช่วยกันเตรียมอาหารพร้อม ๆ กันได้เลย 2 คน นอกจากจะเป็นครัวปิดแล้ว ก็ยังเป็นครัวที่อยู่ติดกับระเบียงห้อง จึงเปิดระบายอากาศได้ ช่วยในเรื่องของการระบายกลิ่นได้ดีมาก การกั้นส่วนใช้กระจกเขียวตัดแสงกับบานกรอบอะลูมิเนียมค่ะ
ทางโครงการทำเคาน์เตอร์ Built-in มาให้ 2 ฝั่งเลยค่ะ ใต้เคาน์เตอร์มีที่เก็บอุปกรณ์เครื่องครัวได้พอสมควร
Top ครัวปิดผิวด้วยหินสังเคราะห์สีดำลายหินแกรนิต ส่วนผนังด้านหลังกรุกระเบื้องเป็น Backsplash กันเปื้อนให้
มีอ่างล้างจานขนาด 1 หลุมฝังมาให้แบบนี้
ด้านข้างเป็นเตาไฟฟ้าเซรามิกขนาด 2 หัว
ในตำแหน่งเดียวกันติดตั้งเครื่องดูดควันมาให้ ทั้งหมดนี้ใช้ของแบรนด์ Tecno+ ส่วนบนตู้ลอยก็มีตู้และชั้นวางของให้เก็บของได้อีกค่ะ
พื้นที่ผนังฝั่งตรงข้าม เราวางตู้เย็นขนาด 10.7 คิวได้เลย ด้านข้างก็มีเคาน์เตอร์ก่อมาให้สำหรับงานซักล้าง จะใช้เป็นอีก Station ในการเตรียมอาหารก็ทำได้
เคาน์เตอร์ใช้ Top แบบเดียวกัน ช่องด้านล่างใช้วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 กก. กำลังพอดีค่ะ
เนื่องจากประตูเป็นบานเลื่อนแบบ 3 ตอน จึงเปิดเชื่อมกับพื้นที่ระเบียงได้ค่อนข้างกว้าง พื้นที่ระเบียงก็มีความกว้างราว ๆ 2.4 x 0.8 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทา ใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าได้สะดวก จัดสวนกระถางเล็ก ๆ ก็น่ารักดีค่ะ ช่วยทำให้ห้องดูน่าอยู่ขึ้นด้วย
พวก Compressor จะแขวนอยู่ที่ผนังด้านข้าง เรียงไปตามแนวสูง จะมีผนังทึบบังเอาไว้ทำให้รูปด้านของอาคารดูเรียบร้อย มองลงมาข้างล่างจะเห็นก๊อกสนาม 1 ตัว เผื่อสำหรับงานซักล้างทำความสะอาด
สำหรับห้องนอนจะกั้นส่วนออกไปด้วยผนังทึบ แต่ประตูจะใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้พื้นที่ของห้องยังเชื่อมต่อกันอยู่
พื้นที่ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน ส่วนพื้นที่ฝั่งขวาจะเป็นห้องน้ำ เข้าได้จากห้องนอนเพียงฝั่งเดียว
ที่ด้านหน้าห้องน้ำ ทางโครงการติดตั้งโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in พร้อมกระจกเงาสำหรับแต่งตัวแต่งหน้ามาให้เราพร้อมใช้งานแล้ว ส่วนเก้าอี้สตูลเราสามารถซื้อเข้ามาเพิ่มเองได้ค่ะ
ภายในห้องน้ำมีการตกแต่งแบบเรียบ ๆ แต่ดูสวยงามด้วยกระเบื้องโทนสีเทาลายหินธรรมชาติ มีการแบ่งโซนแห้ง-เปียกให้เรียบร้อย ใช้งานสะดวก ที่ผนังติดตั้งบานกระจกเงาเต็มผนัง และด้านบนเพดานมีพัดลมดูดกาศติดมาอีก 1 ตัว ช่วยให้ห้องน้ำไม่อับชื้น
มาดูสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำกันค่ะ เริ่มจากอ่างล้างมือ ได้เป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูปทรงเหลี่ยมของ Mogen พร้อมก๊อกน้ำของ American Standard แบบก้านโยกสีโครเมี่ยม
ใต้เคาน์เตอร์มีช่องให้เราวางของได้เล็กน้อย
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นของ American Standard พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน ทั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษชำระ
ด้านในสุดเป็นโซน Shower ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำ Tempered Glass กรอบอะลูมิเนียมสีดำแบบ 3 ตอนบนธรณี
ด้านในติดตั้ง Hand Shower เดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น และเจาะช่องสำหรับวางขวดสบู่-แชมพูทรงสูง จะเพิ่มแผ่นกระจกหรือหินสังเคราะห์แบ่งเป็นชั้นวางของเพิ่มอีกก็ทำได้ค่ะ
มาดูห้องนอนกันต่อค่ะ ภายในห้องเราได้ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตไม่รวมฟูก เป็นเตียงแบบลอยตัวที่สามารถเคลื่อนที่เพื่อปรับการจัดวางได้ ถ้าใครที่ชอบดูทีวีตอนก่อนนอน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังนะคะ
ด้านข้างเตียงเหลือพื้นที่เพียงพอสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้อีก 1 ตัว สำหรับวางโคมไฟและของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ
ถ้าสังเกตเราจะเห็นว่าที่ข้างหัวเตียงมี USB Port ติดตั้งมาให้ตามสไตล์คอนโดสมัยใหม่ ชาร์จมือถือได้สะดวกค่ะ
หน้าต่างห้องนอนก็ได้ขนาดค่อนข้างใหญ่ เป็นหน้าต่างบานเลื่อน เพิ่มช่องแสงด้านล่างเข้ามาเป็นหน้าต่างบาน Fix ทำให้ในห้องดูโปร่งสบาย รับแสงธรรมชาติได้ดี
อย่างที่ได้บอกไปว่าห้องนอนนี้มีฟังก์ชันพิเศษอยู่ เป็นบานตู้เสื้อผ้าที่ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่พิเศษ ที่นอกจากจะเลื่อนปิดตู้ได้แล้ว ในวันที่มีเพื่อน ๆ หรือแขกมาหา ก็สามารถเลื่อนปิดเป็นฉากกั้นห้องได้ในตัวด้วย เป็นจุดหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ทางโครงการใส่ใจในการออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยจริง ๆ
ด้านในตู้เสื้อผ้ามีราวแขวนเสื้อผ้าและลิ้นชักมาให้แบบนี้ค่ะ
ภาพรวมภายในห้องนอนอีก 1 มุม
::: แบบห้อง B2-01M ขนาด 26.70 ตร.ม. :::
เราไปดูแบบห้อง B2-01 ขนาด 26.70 กันต่อเลยค่ะ จะเห็นว่าขนาดห้องนั้นแทบไม่ต่างจากห้อง B3-01M เลย แต่การวาง Lay Out จะต่างกัน คือห้องนี้เป็นห้องแบบหน้าแคบและลึก พอเปิดประตูห้องเข้าไปเจอกับ Living Area เหมือนเดิม แต่ถัดเข้าไปด้านในจะเชื่อมต่อกับห้องนอน โดยแบ่งส่วนด้วยบานเลื่อนกระจก ทางซ้ายของแปลนเป็นห้องน้ำและห้องครัว ซึ่งยังคงได้ห้องครัวแบบครัวปิดติดกับระเบียงค่ะ
เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกเจอกับ Living Area ก่อน ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนอนที่กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาโดยรวมจะเหมือนกันค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องยาง ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร ติดดวงโคมดาวน์ไลต์ให้ทั้งหมด
มาดูส่วนนั่งเล่นก่อนค่ะ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็จะทำเหมือนกัน
เราได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง
ฝั่งตรงข้ามได้ชั้นวางทีวี, ชั้นเก็บรองเท้า และตู้เก็บของ พอห้องมีความลึกมากขึ้น เลยทำให้ Living Area มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย อย่าง Built-in ชิ้นนี้ก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเช่นกัน
สำหรับชุดโต๊ะรับประทานอาหารเราต้องซื้อเพิ่มเองนะคะ แต่จะเห็นว่าการจัดวางจะดูสบายมากกว่า เพราะห้องได้ความยาวมากขึ้น
ภาพรวมภายใน Living Area
ห้องนอนแบ่งส่วนด้วยบานเลื่อนกระจก เพื่อให้แสงจากหน้าต่างของห้องนอนสามารถส่งผ่านเข้ามาได้ถึง Living Area ได้ แล้วก็ยังทำให้พื้นที่ห้องดูกว้างขึ้นด้วย
ในห้องนอนเราได้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดมาตรฐานมาอีก 1 ตัว
ตู้เสื้อผ้าที่ได้มากับห้องเป็นแบบเลื่อน มีบานกระจกเงาติดตั้งมาให้ที่หน้าบานสำหรับแต่งตัว
พอวางเตียงแล้ว ก็จะเหลือพื้นที่อีกเล็กน้อยพอให้วางโต๊ะข้างได้
ภาพรวมภายในห้องอีก 1 มุม
จาก Living Area จะเชื่อมต่อกับทางเดินกลางห้อง ฝั่งซ้ายมือคือห้องน้ำ และฝั่งขวามือคือห้องครัว พื้นที่ตรงกลางโถงมีเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและกระจกเงาติดตั้งมาให้ ก็เป็นตำแหน่งที่ดีนะคะ เพราะอยู่ด้านหน้าห้องน้ำพอดี
ภายในห้องน้ำจะมีขนาด, การใช้วัสดุ, สุขภัณฑ์ และมีการจัดวางเหมือนเดิมทุกประการค่ะ
สำหรับห้องครัวก็ยังคงได้เป็นครัวปิด เราได้เคาน์เตอร์ครัวมาเหมือนเดิม จะได้เพียง 1 ตัวนะคะ แต่ขนาดจะใหญ่กว่าเดิม
ตู้และลิ้นชักสำหรับเก็บของ บน Top เคาน์เตอร์ก็มีอ่างล้างจานและเตาปรุงอาหารติดตั้งมาให้
มีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า
และมีตู้ลอยสำหรับเก็บของ
ห้องครัวห้องนี้ก็จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงเหมือนเดิมค่ะ ทำให้เปิดระบายอากาศได้สะดวก
:::: ราคา (ก.ค.65) ::::
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก https://bit.ly/3m4NQ9K
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม***
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Galileo รัชดา 32 นั้นตั้งอยู่ในซอยรัชดา 32 ลึกเข้ามาประมาณ 1.4 กม. ซึ่งส่วนนั้นตาม Google Maps คือซอยรัชดา 36 แยก 19 ค่ะ เรียกว่าเป็นทำเลในเมืองที่เชื่อมต่อตัวเมืองชั้นในได้สะดวกมาก เพราะเชื่อมต่อถนนเส้นหลักหลายเส้น แล้วก็ยังใกล้รถไฟฟ้าทั้ง MRT และ BTS อีกด้วย
แถมบริเวณใกล้เคียงอย่างบนเส้นลาดพร้าววังหิน ก็มีพวกห้าง, ร้านอาหาร และร้านค้ารองรับอยู่เยอะ ห่างจากโครงการแค่ 1 กม. เช่น Lotus’s, Makro Food Service และ The JAS ที่อยู่ใน Area เดียวกัน หรือพวกห้างใหญ่ ๆ ก็จะอยู่ตามถนนใหญ่ใกล้เคียง อย่าง Central Plaza ลาดพร้าว หรือ Central Festival Eastville นี่ก็ไปได้ง่ายเลย โรงเรียนหรือโรงพยาบาลก็มีครบในระยะอุ่นใจ คือใช้ชีวิตได้สะดวกค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางหลัก ๆ คือจะใช้ถนน 2 เส้น คือถนนรัชดาภิเษก และถนนลาดพร้าววังหิน ซึ่งสามารถใช้เชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 9 เข้าสู่โซนอโศก-สุขุมวิท-พระราม 4 ได้สะดวก หรือออกเส้นลาดพร้าว และเกษตรนวมินทร์ เชื่อมต่อไปยังเส้นพหลโยธินและเลียบทางด่วนรามอินทราได้
อีกส่วนก็จะเป็นการใช้ทางด่วนศรีรัชและรามอินทรา-อาจณรงค์เพื่ออำนวยความสะดวกค่ะ ทำให้โครงการ Galileo รัชดา 32 มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย และมีเส้นทางลัดเลาะหลีกเลี่ยงรถติดได้ดี
การเดินทางโดยรถสาธารณะ เป็นจุดแข็งของทำเลที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายหลาย ทั้งสายสีน้ำเงิน, สายสีเขียว และสายสีเหลือง ก็จะเป็นในส่วนของสถานีลาดพร้าว, สถานีรัชโยธิน และสถานีรัชดา ซึ่งอยู่ในระยะทางประมาณ 2-3 กม. แต่ถ้าสายสีเหลืองช่วงรัชโยธิน-รัชดา ได้มีการสร้างสถานีเพิ่มเติมมาอีก 2 สถานี ก็จะร่นระยะทางจากโครงการไปรถไฟฟ้าเหลือเพียง 1.4 กม. เท่านั้น สะดวกกว่าเดิมมาก ๆ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโด Low Rise โครงการเล็ก มีห้องพักอาศัยภายในโครงการน้อย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง โดยตัวโครงการได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมในประเทศอิตาลี และตั้งชื่อโครงการตามชื่อนักดาราศาสตร์ เลยออกแบบตกแต่งพื้นที่ภายในโครงการตามแบบท้องฟ้าและหมู่ดาวยามค่ำคืน
ห้องพักอาศัยภายในโครงการจะมีหลายแบบให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เป็นขนาด 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ซึ่งห้อง 1 Bedroom ที่ได้เข้าไปรีวิว 2 ห้องจะมีขนาดพอ ๆ กัน แต่วาง Lay Out ต่างกัน เป็นห้องหน้ากว้าง และห้องหน้าแคบแต่ลึก สำหรับห้องแบบหน้ากว้างก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า และได้ครัวใหญ่กว่า ส่วนห้องแบบหน้าแคบจะได้ห้องรับแขกที่ดูโปร่งและมีขนาดใหญ่กว่า
สิ่งที่เหมือนกันก็คือห้องน้ำ รวมไปถีงวัสดุและสุขภัณฑ์ที่ดูสวยงามและได้มาตรฐาน โดยทางโครงการตกแต่งให้แบบ Fully Furnished เหลือซื้อโต๊ะรับประทานอาหารกับฟูกที่นอน 2 อย่างก็ครบแล้วค่ะ นอกจากนี้ก็ยังได้ระบบ Home Automation สำหรับเปิด-ปิดไฟมาให้ด้วย จะเพิ่มเติมในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าและรางม่านในภายหลังก็ทำได้
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย แม้ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็ก แต่ก็ได้ Facilities มาครบครันนะคะ ทั้ง Lobby, Co-Working Space, ห้องฟิตเนส มีอุปกรณ์ครบ, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดใช้ว่ายออกกำลังกายได้, สวนลอยฟ้า พร้อมกล้องดูดาว, สนามเด็กเล่น, Shuttle Bus Service และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ถือว่าได้มาดี เหมาะสมกับขนาดโครงการค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
TEL : 093-946-4655
WEBSITE : galileoratchada32.com
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น