เป็นทำเลในย่านชุมชนที่อยู่อาศัย อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ Pickadaily Bangkok, Seacon Square, Paradise Park, Makro ศรีนครินทร์ และ Whizdom 101 เดินทางได้สะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนครินทร์ 38 , รถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช , BTS ปุณณวิถี และ BTS อุดมสุข , ถนนศรีนครินทร์, ถนนสุขุมวิท และ ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วน 3 สาย
ในแบบสบาย ๆ สไตล์รีสอร์ตติดทะเลย่าน Glendale ซึ่งเป็นย่านคนรวยในเมือง California ใกล้ Hollywood ในสหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยทางโครงการตกแต่งห้องให้แบบ Fully Furnished ปัจจุบันทางโครงการเปิดให้ลงทะเบียนแล้วค่ะ
ชื่อโครงการ
เกล็นเดล อ่อนนุช-ศรีนครินทร์ Glendale Onnut-Srinakarin
เจ้าของโครงการ
TCAS Hitech Décor Co., Ltd.
เนื้อที่ทั้งหมด
0 – 2 – 12.5 ไร่
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
8 ชั้น
จำนวนห้อง
64 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom 20.5 – 41.0 ตร.ม.
1 Bedroom Plus 42.28 – 45.39 ตร.ม.
2 Bedrooms 40.75 ตร.ม.
Duplex 41.61 – 53.11 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
ที่จอดรถ 25 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน
จำนวนลิฟต์
2 ตัว/อาคาร
โซน
เขตประเวศ
เส้นทางการคมนาคม
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนครินทร์ 38
รถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช และ BTS อุดมสุข
ถนนศรีนครินทร์
ถนนสุขุมวิท
ถนนบางนา – ตราด
ทางด่วน
ที่ตั้ง
ซอยอ่อนนุช 46 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.
กำหนดการ
เปิดลงทะเบียน*
ปีที่สร้างเสร็จ
n/a
ราคา
ยูนิตพิเศษ เริ่ม 1.19 ล้านบาท*
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
เริ่มต้น 56,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม./ชำระครั้งเดียว
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า
7 – Eleven : 90 ม.
Pickadaily Bangkok : 1.6 กม.
Makro Food Service ศรีนครินทร์ : 2.7 กม.
Udomsuk Walk : 4.7 กม.
Central บางนา : 4.7 กม.
Makro อุดมสุข : 5.0 กม.
Whizdom 101 : 5.1 กม.
Seacon Square : 5.1 กม.
Big C บางนา : 5.1 กม.
Big C อ่อนนุช : 5.2 กม.
Paradise Park : 5.4 กม.
ตลาดอุดมสุข : 5.5 กม.
One Udomsuk : 5.5 กม.
Index บางนา : 5.9 กม.
The Phyll : 6.4 กม.
Lotus อ่อนนุช : 6.7 กม.
ตลาดนัดรถไฟ : 6.1 กม.
Gateway เอกมัย : 8.0 กม.
The Emporium : 9.5 กม.
Mega บางนา : 10.3 กม.
The EmQuartier : 10.3 กม.
Ikea บางนา : 10.6 กม.
สถานศึกษา
รร.นราทร : 15 ม.
วิทยาลัยดุสิตธานี : 2.9 กม.
รร.สิริรัตนาธร : 4.5 กม.
รร.นานาชาติ Berkeley : 6.1 กม.
รร.นานาชาติ St.Andrews : 8.7 กม.
รร.บางกอกพัฒนา : 8.8 กม.
ศูนย์การแพทย์
รพ.ไทยนครินทร์ : 5.7 กม.
รพ.ศิครินทร์ : 6.8 กม.
รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ : 7.2 กม.
รพ.บางนา 1 : 7.3 กม.
รพ.สุขุมวิท : 7.9 กม.
รพ.ทหารเรือ กรุงเทพ : 9.6 กม.
อื่น ๆ
วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร : 2.0 กม.
วัดธรรมมงคล : 5.4 กม.
สวนหลวง ร.9 : 6.8 กม.
Bitec บางนา : 7.6 กม.
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
สถานีดับเพลิง พระโขนง : 5.5 กม.
สนง.เขตพระโขนง : 6.3 กม.
สนง.ขนส่ง กทม.พื้นที่ 3 : 6.4 กม.
กรมสรรพาวุธ : 8.2 กม.
สนง.เขตบางนา : 8.2 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Lobby & Co – Working Space
Mailbox
Swimming Pool โดย Hayward (Made in USA) ขนาด 4 x 7 เมตร
Fitness Room
ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
ระบบ Security Service Triple Security Point System
จุดเด่นของโครงการ
Glendale อ่อนนุช – ศรีนครินทร์ คอนโด Low Rise สไตล์รีสอร์ตติดทะเลในซอยอ่อนนุช 46 ตรงข้าม Seacon Square ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (อนาคต) สถานีศรีนครินทร์ 38
คอนโด BTS อ่อนนุช / คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช
คอนโดใกล้เคียง BTS อ่อนนุช
ถนนสุขุมวิท
ซอยสุขุมวิท 50
ซอยสุขุมวิท 52
ถนนสุขุมวิท 77 หรือ ถนนอ่อนนุช
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยอ่อนนุช 46 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.
พิกัด : 13.699051, 100.638399
ทำเลที่ตั้ง Glendale อ่อนนุช – ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ในซอยอ่อนนุช 46 เข้ามาจากถนนอ่อนนุชประมาณ 1.4 กม. หรือเข้ามาจากถนนศรีนครินทร์ (ทางซอยศรีนครินทร์ 38) ประมาณ 950 เมตร โครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ รร.นราทร เลยค่ะ ซึ่งซอยอ่อนนุช 46 นี้เชื่อมต่อกับซอยศรีนครินทร์ 38 และ ซอยสุขุมวิท 101/1 หรือซอยวชิรธรรมสาธิต ภายในซอยเป็นพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัว มีความปลอดภัยเพราะมีผู้คนอาศัยอยู่ในซอยเยอะ มีความน่าสนใจตรงที่ อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS ถึง 3 สถานี คือ สถานีอ่อนนุช, สถานีปุณณวิถี และ สถานีอุดมสุข และอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนครินทร์ 38 อีกด้วยค่ะ
ย่านนี้หลัก ๆ ก็จะเป็นย่านที่ผู้คนที่ทำงานในตัวเมืองแถบอโศกเป็นต้นมามักจะมาหาที่เช่าอยู่กัน เนื่องจากเป็นทำเลที่ยังเกาะแนวรถไฟฟ้า ค่าเช่าค่ากินอยู่ก็ถูกกว่าในตัวเมือง มีสาธารณูปโภครองรับการอยู่อาศัยให้ความสะดวกสบายมากมาย และยังสามารถหารถสาธารณะได้ง่ายอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะจากซอยอ่อนนุช 46 สามารถเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้ถึง 4 เส้น ทั้งถนนอ่อนนุช, ถนนศรีนครินทร์, ถนนอุดมสุข และถนนสุขุมวิท ผ่านทางซอยย่อยต่าง ๆ
การเดินทางหลัก ๆ ก็ใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองอย่างเดียวไปเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก สยาม หรือเข้าถนนพระรามสี่ตรงแถวแยกพระโขนงวิ่งเข้าลุมพินี วิทยุ สาทร สีลม สามย่านได้เลย ถ้าใครจะใช้ทางด่วน วิ่งไปเข้าซอยสุขุมวิท 62 ซึ่งเป็นซอยที่ใช้เป็นจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานคร สามารถใช้ไปได้หลายทางทั้ง พระรามเก้า ดาวคะนอง พระรามสอง แจ้งวัฒนะ ดินแดง วิภาวดี – รังสิต รามอินทรา ขากลับก็มาลงทางเดิมได้เลย
ถ้าไปโซนบางนาก็ใช้เส้นสุขุมวิท มาแยกบางนาเข้าถนนบางนา – ตราด หรือวิ่งลงไปสำโรง ปู่เจ้าสมิงพราย ยาวไปสมุทรปราการได้ จะใช้ถนนศรีนครินทร์วิ่งลงมาเข้าถนนบางนา – ตราด แล้วขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีวิ่งไปจนถึงชลบุรีได้เลย
ทางด่วน นอกจากจุดขึ้นทางด่วนตรงซอยสุขุมวิท 62 แล้ว ยังมีทางด่วนจุดอื่น ๆ ที่ไปง่ายไม่ต้องเสียค่าทางด่วนหลายต่อ เช่น จุดขึ้นทางด่วนฉลองรัชตรงแยกใต้ทางด่วนพัฒนาการค่ะ ใช้วิ่งไปทางรามอินทรา – วัชรพล – ลำลูกกา
ถ้าจะไปทางพระราม 2 ก็ใช้จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครตรงถนนอาจณรงค์ได้
หากจะออกต่างจังหวัดลงไปทางชลบุรีก็ใช้ทางด่วนบูรพาวิถีเลยค่ะ จะวิ่งลงมาตรง ๆ โดยใช้ถนนศรีนครินทร์ หรือลัดเลาะตามซอยย่อยออกมาก็ได้
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
ถ.ศรีนครินทร์ : 950 ม.
ถ.อ่อนนุช : 1.4 กม.
ถ.วชิรธรรมสาธิต (ซ.สุขุมวิท 101/1) : 2.0 กม.
แยกศรีนุช : 2.6 กม.
ถ.อุดมสุข : 3.0 กม.
แยกศรีอุดม : 3.9 กม.
ถ.สุขุมวิท : 4.7 กม.
แยกทุ่งสาธิต : 4.7 กม.
แยกอ่อนนุช : 5.4 กม.
ถ.บางนา – ตราด : 5.6 กม.
แยกอุดมสุข : 5.8 กม.
สี่แยกบางนา : 6.1 กม.
ถ.ลาซาล : 6.3 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกมากค่ะ เพราะในซอยอ่อนนุช 46 จะมีวินมอเตอร์ไซด์ให้บริการอยู่หลายจุด จุดที่ใกล้ที่สุดก็คือตรงซอยอ่อนนุช 46 แยก 1 เดินไปเพียง 90 เมตรเท่านั้น รถสองแถวและแท็กซี่ก็มีวิ่งผ่านเข้า – ออกอยู่ตลอดทั้งวัน ประกอบกับการใช้ Grab Taxi และ Line Taxi ก็จะทำให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก
ปัจจุบันโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช, สถานีปุณณวิถี และสถานีอุดมสุข ในระยะทางประมาณ 5 กม. กว่า ๆ อาจจะไม่ได้ใกล้ขนาดที่สามารถเดินไปได้ แต่สามารถนั่งรถสาธารณะไปถึงได้ในเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงพัฒนาการ – สำโรง วิ่งขนานกับเส้นศรีนครินทร์ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีศรีนครินทร์ 38 อยู่ตรงหน้าปากซอยศรีนครินทร์ 38 เพียง 950 เมตรจากโครงการเท่านั้นค่ะ ซึ่งรถไฟฟ้าเส้นนี้จะเชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีสำโรง และตรงไปยังลาดพร้าวเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีลาดพร้าวด้วย
ความอุดมสมบูรณ์ ภายในซอยอ่อนนุช 46 เองจะเป็นชุมชนที่พักอาศัย รวมถึงมีโรงเรียนอยู่ด้วย จึงมีร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ และตลาด อยู่ใกล้ ๆ คอยเปิดให้บริการนักเรียน บุคลากรของโรงเรียน และผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกนี้ จากโครงการเดินย้อนกลับออกไปที่ถนนอ่อนนุชก็จะมี 7 – Eleven ห่างออกไปเพียง 90 เมตร หรือเดินเข้าไปที่ถนนสุภาพงษ์ 1 แยก 3 (มุ่งหน้าซอยสุขุมวิท 101/1) เพียง 200 เมตรก็จะมี Lotus Express และ 7 – Eleven อยู่ฝั่งตรงข้ามกันอีกค่ะ
(ที่มาภาพ : https://www.edtguide.com)
ใกล้เคียงกันบนเส้นอ่อนนุชฝั่งตรงข้ามกับซอยอ่อนนุช 46 ก็จะมี Pickadaily Bangkok เป็น Lifestyle Mall กลิ่นอาย English Old Town มีร้านค้าและร้านอาหารรวมกว่า 50 ร้าน เป็นอีกแหล่งชอปปิงของคนในย่านนี้ ถูกใจสายแชะด้วยหมู่ตึก Heritage มีเอกลักษณ์แห่งเมือง Chester และหอนาฬิกาโบราณ หรือบริเวณใกล้แยกอ่อนนุช ก็จะมี Tesco Lotus อ่อนนุช, ตลาดอ่อนนุช, Big C อ่อนนุช และ Habito Mall ในโครงการ T77 ที่เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของคนในย่านสุขุมวิท รองรับการชอปปิง กินข้าว อ่านหนังสือ นวดผ่อนคลาย เสริมสวยทำผมทำเล็บ หรือมาจอยอีเวนต์สนุก ๆ ที่มีจัดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ
(ที่มาภาพ : https://thai-ins.com, https://th.wikipedia.org, https://www.edtguide.com)
ถ้าออกไปที่เส้นศรีนครินทร์ก็จะมีห้างขนาดใหญ่ค่ะ ทั้ง Seacon Square, Paradise Park ข้าง ๆ Seacon Square เองก็มีตลาดนัดรถไฟเป็นตลาดของคนสายวินเทจ สามารถนเดินทางจากโครงการออกซอยศรีนครินทร์ 38 ไปได้สะดวก หรือถ้าไปทางบางนาตรงไปก็มี Central บางนา, Big C บางนา และ Ikea & Mega บางนา แอบกระซิบว่ามีรถบัสวิ่งจาก BTS อุดมสุข ไปถึงหน้าห้างเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
ส่วนเส้นสุขุมวิทตรงสถานีปุณวิถีก็จะมี Whizdom 101 เป็น Community Mall ขนาดใหญ่เพื่อชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริงในทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายชอบเข้าสังคม – แฮงเอาต์ ภายในโครงการจะมีส่วนของ Innovative Lifestyle Complex ที่รวบรวมร้านค้าไว้ถึง 200 ร้านค้า มีร้านอาหารทั้งแบบ Fine Dining, Quick Meal และ Grab & Go ร้านกาแฟเก๋ ๆ พร้อมพื้นที่สำหรับคนที่อยากหาพื้นที่สร้างไอเดียหรือแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ก็มีจัดเอาไว้ให้
มีพื้นที่สวน Hillside Town บรรยากาศสบาย ๆ สำหรับสายรักธรรมชาติ รวมถึงพื้นที่สวนลอยฟ้าให้ทุกคนสามารถมานั่งพักผ่อนกันได้ ส่วนสายรักสุขภาพก็จะมีลู่จ็อกกิงหรือขี่จักรยานบนเส้นทางลอยฟ้าที่ยาวเกือบ 2 กม. รอบโครงการ รวมถึง Sport Club, Fitness และสระว่ายน้ำแบบ Outdoor และยังมีโซน 24 – Hour Street เอาใจสาย Night Owls หรือคนที่ต้องเลิกงานดึก ซึ่งมีร้านค้าและร้านอาหารที่เปิดให้บริการแบบ 24 ชม. รวมถึงบริการทางด้าน Food & Beverage เช่น Top Supermarket PAUL Starbucks, Health & Beauty เช่น Watsons Matsumoto Boots, Lifestyle เช่น 7 – Eleven B2S MINISO พร้อม Service จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ครบครัน
(ที่มาภาพ : http://a49.com, https://www.grandsukhumvithotel.com, www.10best.com)
ไม่ไกลกันก็คือย่านเอกมัย – ทองหล่อ – พร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นย่านไลฟ์สไตล์แห่งการเข้าสังคม มีห้างหรูอย่าง The EmDistrict เลยไปอีก 1 สถานีก็ถึงอโศกแล้วมีทั้ง Robinson, Terminal 21 และ Korean Town เชื่อมไปถึงสยามได้ไม่ยาก นอกจากนี้ก็ยังมีสถานศึกษามากมายทั้งรัฐ, เอกชน และ โรงเรียนนานาชาติ ยกตัวอย่างเช่น รร.นราทร, Berkeley International School, รร.บางกอกพัฒนา, เซนต์โยเซฟ บางนา และ St.Andrews International School
(ที่มาภาพ : https://th.wikipedia.org/)
ในอนาคตจะมีโครงการระดับ Flagship จากเดอะมอลล์กรุ๊ป ตรงจุดตัดถนนบางนา – ตราดและถนนสุขุมวิท (ตรงข้ามกับ Bitec บางนาพอดี) เชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีอุดมสุขและสถานีบางนา บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ นั่นก็คือ Bangkok Mall มีพื้นที่โครงการมากกว่า 650,000 ตร.ม. เป็นอาณาจักรแห่งศูนย์การค้า, ที่อยู่อาศัย และออฟฟิศแบบครบวงจร ที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบมากที่สุดในเอเชีย
ภายใต้คอนเซ็ปต์ City within the City หรือเมืองในเมืองที่สมบูรณ์แบบ ออกแบบอาคารโดยใช้สถาปัตยกรรม The Ultra Modern & Spectacular Architecture ที่ล้ำสมัย มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี พ.ศ.2566 จะเป็นโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
7 – Eleven : 90 ม.
Pickadaily Bangkok : 1.6 กม.
Makro Food Service ศรีนครินทร์ : 2.7 กม.
Udomsuk Walk : 4.7 กม.
Central บางนา : 4.7 กม.
Makro อุดมสุข : 5.0 กม.
Whizdom 101 : 5.1 กม.
Seacon Square : 5.1 กม.
Big C บางนา : 5.1 กม.
Big C อ่อนนุช : 5.2 กม.
Paradise Park : 5.4 กม.
ตลาดอุดมสุข : 5.5 กม.
One Udomsuk : 5.5 กม.
Index บางนา : 5.9 กม.
The Phyll : 6.4 กม.
Lotus อ่อนนุช : 6.7 กม.
ตลาดนัดรถไฟ : 6.1 กม.
Gateway เอกมัย : 8.0 กม.
The Emporium : 9.5 กม.
Mega บางนา : 10.3 กม.
The EmQuartier : 10.3 กม.
Ikea บางนา : 10.6 กม.
สถานศึกษา
รร.นราทร : 15 ม.
วิทยาลัยดุสิตธานี : 2.9 กม.
รร.สิริรัตนาธร : 4.5 กม.
รร.นานาชาติ Berkeley : 6.1 กม.
รร.นานาชาติ St.Andrews : 8.7 กม.
รร.บางกอกพัฒนา : 8.8 กม.
ศูนย์การแพทย์
รพ.ไทยนครินทร์ : 5.7 กม.
รพ.ศิครินทร์ : 6.8 กม.
รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ : 7.2 กม.
รพ.บางนา 1 : 7.3 กม.
รพ.สุขุมวิท : 7.9 กม.
รพ.ทหารเรือ กรุงเทพ : 9.6 กม.
อื่น ๆ
วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร : 2.0 กม.
วัดธรรมมงคล : 5.4 กม.
สวนหลวง ร.9 : 6.8 กม.
Bitec บางนา : 7.6 กม.
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
สถานีดับเพลิง พระโขนง : 5.5 กม.
สนง.เขตพระโขนง : 6.3 กม.
สนง.ขนส่ง กทม.พื้นที่ 3 : 6.4 กม.
กรมสรรพาวุธ : 8.2 กม.
สนง.เขตบางนา : 8.2 กม.
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกัน 2 เส้นทางดังนี้ค่ะ
เส้นทางที่ 1 : ถนนศรีนครินทร์ > ถนนอ่อนนุช > ซอยอ่อนนุช 46 > Glendale อ่อนนุช – ศรีนครินทร์
เส้นทางที่ 2 : ถนนศรีนครินทร์ > ซอยศรีนครินทร์ 38 > ซอยอ่อนนุช 46 > Glendale อ่อนนุช – ศรีนครินทร์
เส้นทางที่ 1 เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนศรีนครินทร์นะคะ สังเกตได้ว่าตอนนี้จะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองกันอยู่ ทางฝั่งซ้ายมือเราจะขับผ่าน Thanya Park
เรามุ่งหน้าไปตามป้ายอ่อนนุช ซึ่งเราจะเลี้ยวขวาเพื่อไปทางพระโขนง
ตรงไปข้างหน้าเราจะเห็นป้ายพระโขนงให้ชิดขวาเลยค่ะ
แล้วให้เราเลี้ยวขวาที่สี่แยกเพื่อเข้าถนนอ่อนนุชมุ่งหน้าสู่พระโขนง
จากถนนอ่อนนุชให้เราขับตรงไปเรื่อย ๆ สังเกตทางฝั่งขวามือจะเห็น Pickadaily Bangkok ให้ชิดซ้ายเลยค่ะ
ขับเลย Pickadaily Bangkok ไปประมาณ 200 เมตรให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอ่อนนุช 46 ได้เลย
จากถนนอ่อนนุชตรงเข้ามาภายในซอยอ่อนนุช 46 ประมาณ 1.4 กม. ก็จะเห็นโครงการอยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ
ภายในซอยอ่อนนุช 46 เป็นย่านพักอาศัย ช่วงต้น ๆ ซอยก็จะมีคอนโดมิเนียม Low Rise เจ้าเก่า ๆ ขึ้นอยู่บ้าง
ขับเลยเข้าไปก็จะเป็นส่วนของบ้านพักอาศัยในแนวราบหรือหมู่บ้านมิตรภาพ ทางฝั่งขวามือก่อนถึงวงเวียนหมู่บ้านมิตรภาพจะมีตลาดอยู่ด้วยค่ะ
ขับเลยวงเวียนมาแล้วสักพักเราจะเห็น 7 – Eleven และ รร.นราทร อยู่ทางฝั่งขวามือ แสดงว่าเราใกล้ถึงตัวโครงการแล้ว
เยื้อง ๆ กับ รร.นราทร ก็คือโครงการ Glendale อ่อนนุช – ศรีนครินทร์ นั่นเองค่ะ
มาดูเส้นทางที่ 2 กันบ้างค่ะ แทนที่เราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนอ่อนนุช เราจะวิ่งตรงต่อไปทางบางนา – ตราดแทน
เราวิ่งตรงไปเรื่อย ๆ ฝั่งตรงข้ามใกล้กับซอยศรีนครินทร์ 38 เราจะเห็น Makro Food Service
เลยไปอีกเราจะขับผ่าน Seacon Square ทางฝั่งซ้ายมือ
พอใกล้ถึง Paradise Park จะมีจุดกลับรถ ให้เรากลับรถได้เลยค่ะ แต่ช่วงนี้เส้นศรีนครินทร์กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ฉะนั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจุดกลับรถอยู่เรื่อย ๆ
พอกลับรถมาแล้วให้เราขับไปจนถึง Makro Food Service แล้วชิดซ้าย
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยศรีนครินทร์ 38
จากซอยศรีนครินทร์ 38 จะไปเชื่อมกับซอยอ่อนนุช 46 ซึ่งจากหน้าปากซอยจนไปถึงตัวโครงการนั้นมีระยะทางเพียง 950 เมตรเท่านั้น
จากซอยศรีนครินทร์ 38 ให้เราขับตรงเข้าไปเรื่อย ๆ ค่ะ
พอเราขับไปถึงสามแยกแล้วให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยอ่อนนุช 46
พอเราเลี้ยวเข้ามาภายในซอยอ่อนนุช 46 เราก็จะเห็นตัวโครงการ Glendale อ่อนนุช – ศรีนครินทร์ อยู่ทางฝั่งขวามือเลยค่ะ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ภายในซอยอ่อนนุช 46 นั้นเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยในแนวราบค่ะ ตัวโครงการจึงถูกล้อมรอบด้วยบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้นเสียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นก็จะมีทั้ง อาคารพาณิชย์ ร้านสะดวกซื้อ ตลาด และร้านอาหารเล็ก ๆ บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างเป็นส่วนตัว คิววินมอเตอร์ไซค์ก็มีอยู่ใกล้ ๆ
ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพาณิชย์ สูง 1 ชั้น
ทิศใต้ ติดกับ คลองตาสาด
ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น
ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยอ่อนนุช 46
สำนักงานขายของโครงการจะอยู่บริเวณด้านข้างตัวโครงการเลยนะคะ ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยต้อนรับอยู่ ลูกค้าที่สนใจเยี่ยมชมห้องตัวอย่าง สามารถ Walk In เข้ามาที่สำนักงานขายได้เลย หรือติดต่อทำการนัดหมายล่วงหน้าผ่านเว็บไซด์ของโครงการ คลิก https://glendale-onnut.com/
เดี๋ยวเรามาดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะ เริ่มจากฝั่งตรงข้ามกับโครงการเป็นตึกแถวสูง 4.5 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นกิจการต่าง ๆ รวมถึงร้านโชห่วย
หันไปทางฝั่งขวามือ เราจะเดินย้อนกลับออกไปทางหน้าปากซอยอ่อนนุช 46 กันก่อน
ติดกับตัวโครงการเป็นร้านค้าและร้านอาหารค่ะ มีทั้ง ร้านชานมไข่มุกไต้หวัน, ร้านเฟรนช์ฟรายส์, ร้านขายข้าวแกง – ตามสั่ง – ข้าวต้ม, ร้านขนมหวานเย็น – ไอศกรีม, ร้านขายของเล่น, ร้านขายยา – ส่งพัสดุ Kerry, ร้านตัดผม และร้านอาบน้ำตัดขนสัตว์เลี้ยง
ส่วนที่ฝั่งตรงข้ามนี้เองก็คือ รร.นราทร
ถัดจาก รร.นราทร ก็จะมีร้านกาแฟโบราณและมี 7 – Eleven อยู่ 1 สาขา เดินมาจากโครงการเพียง 90 เมตรเท่านั้นค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับ 7 – Eleven คือซอยอ่อนนุช 46 แยก 1 ที่หน้าแยกนี้เองจะมีคิววินมอเตอร์ไซค์ สามารถเรียกได้สะดวกเลย
ถัดจากวินมอเตอร์ไซค์ก็จะมีร้านรถเข็นขาย ข้าวมันไก่, ข้าวหมกไก่ และก๋วยเตี๋ยวเนื้อ
จะสังเกตเห็นว่าพื้นที่ในซอยนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย ได้ความเป็นส่วนตัว แต่ก็มีผู้คนอยู่เยอะจึงทำให้ซอยไม่เปลี่ยว แถมฟุตปาธภายในซอยก็กว้างขวางสามารถเดินได้สะดวกค่ะ
กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ หันไปทางฝั่งซ้ายมือ เราจะเดินเข้าไปในซอยอ่อนนุช 46 กันต่อค่ะ
ติดกับตัวโครงการจะเป็นตึกแถวสูง 4.5 ชั้น ชั้นล่างเป็นร้านค้าต่าง ๆ มีร้านขายเสื้อผ้าเด็ก, Vending Machine Store และร้านขายพิซซ่า
ฝั่งตรงข้ามนี้เองก็คืออาคารพาณิชย์สูง 3.5 ชั้น เปิดเป็นคลินิกเสริมความงามไปแล้ว 3 คูหา
จากซอยอ่อนนุช 46 จะสามารถเชื่อมต่อกับซอยศรีนครินทร์ 38 และซอยสุขุมวิท 101/1 ได้ค่ะ
จากสามแยกเลี้ยวซ้ายเพียง 950 เมตรก็ออกถนนศรีนครินทร์แล้ว
ถ้าเลี้ยวขวาไปจะเชื่อมต่อกับถนนเลียบคลองเคล็ดและซอยสุขุมวิท 101/1 ค่ะ
ซึ่งซอยนี้เองก็จะมี 7 – Eleven อยู่อีก 1 สาขา เดินจากโครงการมาประมาณ 200 เมตรเท่านั้น
และที่ฝั่งตรงข้ามก็มี Lotus Express สามารถหาซื้อพวกของสดเพื่อนำไปปรุงอาหารเองได้
บริเวณหน้า Lotus Express ก็มีร้านแผงลอยอยู่อีกหลายร้าน ขายพวก น้ำปั่น, ปีกไก่ย่าง, แกงกะหรี่ญี่ปุ่น
ข้าง ๆ ก็มีตลาดเล็ก ๆ มีร้านอาหารให้เลือกเต็มไปหมด ทั้ง ข้าวมันไก่, ผัดไท – หอยทอด – ออส่วน, ส้มตำ, ปาท่องโก๋ – น้ำเต้าหู้ – เต้าฮวย, อาหารไทย และชาบูราคาประหยัด
และที่ฝั่งตรงข้ามก็ยังมีร้านหมูกระทะอีก 1 ร้านค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
Glendale อ่อนนุช – ศรีนครินทร์ เป็น Low Rise Condominium สูง 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 0 – 2 – 12.5 ไร่ ที่ออกแบบมาในสไตล์รีสอร์ตติดทะเลย่าน Glendale ซึ่งเป็นย่านคนรวยในเมือง California ใกล้ Hollywood ในสหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง เป็นส่วนตัวด้วยห้องพักอาศัยเพียง 64 ยูนิต พร้อมห้องพักให้เลือกหลากหลายแบบ
ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่อาศัยแบบ Fully Furnished พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Lobby & Co – Working Space บริเวณชั้น 2, Mailbox, Swimming Pool, Fitness Room, ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว, ที่จอดรถ 25 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน พร้อม รปภ. แบบ Triple Security Point System
เรามาดูผังอาคารกันค่ะ ชั้น 1 ทางเข้า – ออกหลักของตัวโครงการจะอยู่ติดซอยอ่อนนุช 46 โดยจุดนี้จะมีระบบรักษาความปลอดภัย ประกอบด้วย กล้อง CCTV และรั้วไม้กระดก การเข้า – ออกจะใช้ระบบ Key Card Access เพื่อผ่านเข้าไปด้านในโครงการ พอเข้าไปด้านในโครงการให้ตรงไปแล้ววนซ้ายแบบ One Way พื้นที่ชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด 25 คันไม่รวมจอดซ้อนคัน และจะมีประตูทางเข้า Lift Lobby อยู่ตรงกลาง ต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูเข้าไป ส่วนลิฟต์ที่ทางโครงการเลือกใช้เป็นลิฟต์แบบล็อกชั้นของ Jardine Schindler ค่ะ
ชั้น 2 พื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนห้องพักอาศัย มีทั้งหมด 6 ห้องเท่านั้น จากโถงห้องพักอาศัยจะมีประตูเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ประกอบด้วย Lobby & Co – Working Space พร้อม Free Wi – Fi, Double Volume Swimming Pool ระบบเกลือขนาด 4 x 7 เมตร โดย Hayward (Made in USA), Pool Deck สำหรับพักผ่อนริมสระน้ำ, Fitness Room และห้องน้ำค่ะ จริง ๆ แล้วทางโครงการวางห้องพักอาศัยแบบ Double Corridor คือมีห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่งของโถงทางเดิน แต่ชั้นนี้จะได้อภิสิทธิ์ มีความเป็นส่วนตัวตรงที่พอเปิดประตูออกมาจะไม่มีห้องฝั่งตรงข้ามเพราะใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลางแล้วค่ะ
ชั้น 3 ชั้นนี้จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมดรวม 9 ห้อง/ชั้น จะมีพื้นที่มุมซ้ายล่างที่เป็นส่วน Double Volume ของสระว่ายน้ำนั่นเอง
ชั้น 4 – 6 ชั้นนี้จะเป็น Typical Floor Plan ค่ะ มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 11 ห้อง/ชั้น ก็ยังนับว่าได้ความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียวนะ
ชั้น 7 ผังของชั้นนี้แทบจะไม่ต่างจากชั้น 4 – 6 เลย แต่จะมีแบบห้อง 5 ห้องที่ถูกเปลี่ยนเป็นห้องแบบ Duplex ค่ะ รวมแล้วมี 11 ห้อง/ชั้น เท่าเดิม
ชั้น 8 ผังชั้นนี้เหมือนกับผังชั้น 7 ทุกประการ ส่วนที่แตกต่างกันก็คือ แปลนห้องแบบ Duplex จะเป็นส่วนของชั้น 2 รวมทั้งโครงการมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 64 ห้อง คิดเป็นอัตราส่วนการใช้ลิฟต์เพียง 1 : 32 เท่านั้น ถือว่าเป็น Traffic แบบสบาย ๆ ไม่ต้องแย่งกันใช้งานแม้ในเวลา Rush Hour
ภาพรวมโครงการจากโมเดล ตกแต่งในสไตล์รีสอร์ตแบบสบาย ๆ เน้นการผ่อนคลายมากกว่าความหรูหราตามสไตล์อเมริกันที่จะดู Casual มากกว่า โดยใช้สีอาคารเป็นโทนสีเทาเป็นหลัก
ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 2 ทั้งหมดเลยค่ะ โดยสระว่ายน้ำถูกออกแบบมาให้เป็น Double Volume Swimming Pool โปร่งโล่งทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้มากกว่า
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ด้วยกัน 4 แบบหลัก ๆ คือ
1 Bedroom 20.5 – 41.0 ตร.ม.
1 Bedroom Plus 42.28 – 45.39 ตร.ม.
2 Bedrooms 40.75 ตร.ม.
Duplex 41.61 – 53.11 ตร.ม.
ทางโครงการตกแต่งห้องให้แบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องปรับอากาศพร้อมเข้าอยู่ เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ
:: TYPE 1 BEDROOM ::
Type D ขนาด 20.50 ตร.ม.
Type E ขนาด 26.58 ตร.ม.
Type F ขนาด 32.15 ตร.ม.
Type H ขนาด 38.80 – 41.00 ตร.ม.
Type I ขนาด 34.10 ตร.ม.
Type J ขนาด 31.20 ตร.ม.
:: TYPE 1 BEDROOM PLUS ::
Type A ขนาด 42.28 ตร.ม.
Type B ขนาด 45.39 ตร.ม.
Type C ขนาด 43.46 ตร.ม.
:: TYPE 2 BEDROOMS ::
Type G ขนาด 40.75 ตร.ม.
:: TYPE DUPLEX ::
Type K ขนาด 45.37 ตร.ม.
Type L ขนาด 57.05 ตร.ม.
Type M ขนาด 47.80 ตร.ม.
Type N ขนาด 45.76 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้เป็นห้อง 1 Bedroom Type E ขนาด 26.58 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus Type C ขนาด 43.46 ตร.ม. ไปชมรายละเอียดของห้องกันเลยค่ะ
::: 1 Bedroom Type E ขนาด 26.58 ตร.ม. :::
ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน เป็นพื้นที่ห้องขนาดมาตรฐานสำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ค่ะ ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างเป็นสัดส่วนระหว่าง Living Area, ห้องนอน และห้องครัว พอเข้ามาในห้องจะเจอ Living Area ก่อน, ถัดเข้าไปคือห้องนอนที่กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกทำให้พื้นที่ห้องยังเชื่อมต่อกัน ห้องจึงดูกว้าง ส่วนฝั่งซ้ายมือของห้องคือโซนห้องน้ำและห้องครัวซึ่งจะได้เป็นครัวแบบปิด กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ข้อดีก็คือช่วยให้กลิ่นจากการปรุงอาหารได้ดี อีกทั้งยังอยู่ติดกับระเบียงจึงสามารถระบายอากาศได้ดีกว่า
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นกระเบื้องยางแบบคลิกล็อก, ผนังติดวอลล์เปเปอร์, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดโซฟา – ชั้นวางทีวี, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง
ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูป HDF
เข้าไปภายในห้องจะเจอส่วน Living Area ก่อนและด้านในที่กั้นประตูบานเลื่อนกระจกเอาไว้คือห้องนอน โซนทางฝั่งซ้ายของห้องคือห้องครัวและห้องน้ำ พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยางแบบคลิกล็อก เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย สามารถกันน้ำและกันรอยขีดข่วนได้ดี ผนังภายในห้องติดวอลล์เปเปอร์ให้ทั้งหมด
ฝ้าเพดานในห้องสูง 2.5 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลต์หลอดไฟ LED จาก Philips ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 2 เครื่อง ติดเอาไว้ภายใน Living Area 1 ตัวและภายในห้องนอนอีก 1 ตัว เป็นเครื่องปรับอากาศของ Panasonic Inverter ค่ะ
เราเข้ามาดูรายละเอียดและเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้กันในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ โดยภายในห้องตัวอย่างนี้ได้มีการตกแต่ง Finishing พร้อม Accessories ประกอบเพิ่มเติมเพื่อเป็นไอเดียสำหรับลูกบ้าน
ในห้องนั่งเล่นเราจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งซึ่งกำลังพอดีกับพื้นที่ผนังด้านหลัง
ที่ฝั่งตรงข้ามเราจะได้ชั้นวางทีวีตัวล่างมาด้วย ส่วนตัวบนเป็นส่วนตกแต่งของห้องตัวอย่างค่ะ
บานเปิดของชั้นวางทีวีปิดผิวด้วยลายไม้ ส่วน Top ปิดผิวด้วยลายหินอ่อน เป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บของได้เป็นอย่างดี
สำหรับการติดตั้งทีวี แนะนำให้ใช้เป็นทีวีแบบแขวนผนัง ระดับที่ติดตั้งควรต่ำลงมาจากห้องตัวอย่างอีกหน่อยเพื่อให้เท่ากับระดับสายตาค่ะ
พื้นที่ด้านข้างชั้นวางทีวี เราสามารถจัดเป็นมุมรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้แบบนี้ จะกำลังพอดีกับพื้นที่ห้องเลย
เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อ ห้องนอนจะกั้นส่วนออกไปด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ใช้ชุดกรอบอะลูมิเนียมติดกระจกใสของเมืองทองค่ะ ข้อดีก็คือทำให้พื้นที่ของห้องยังเชื่อมต่อถึงกัน ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ Living Area ได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติอีกด้วย
เข้ามาภายในห้องนอนมีพื้นที่กำลังพอดี ๆ ขนาดอยู่สบายไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ภายในห้องนอนเราจะได้ตู้เสื้อผ้าและเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาด้วยตามภาพเลยค่ะ จุดเด่นอีกข้อหนึ่งของโครงการนี้ก็คือ จะให้หน้าต่างแบบ Full Frame ทำให้ห้องสามารถรับแสงสว่างจากธรรมชาติได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งยังดูสวยงามอีกด้วย โดยจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่ตรงกลาง 1 บานให้สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้
เตียงนอนที่เราจะได้เป็นเตียงขนาด 5 ฟุตเลยค่ะ ทางโครงการจะให้มาครบทั้งฐานเตียงพร้อมฟูก โดยที่ฐานเตียงก็ยังมีลิ้นชักและช่องเก็บของได้ ให้เราสามารถใช้เก็บพวกผ้าปูเตียงแยกต่างหาก สังเกตพื้นที่ข้างเตียงก็ยังเหลือสามารถเดินไปเปิดหน้าต่างได้
สำหรับพื้นที่ปลายเตียง เรายังสามารถทำชั้นวางทีวีพร้อมลิ้นชักแบบหน้าแคบหน่อยได้ หรือจะเลือกปล่อยพื้นที่ให้โล่งแล้วติดทีวีแบบแขวนผนัง 1 เครื่อง ก็จะทำให้ห้องดูกว้างขว้างขึ้นอีกนะ
พื้นที่ข้างเตียงนอนฝั่งขวามือเราได้ตู้เสื้อผ้า Built In แบบบานเปิดขนาดมาตรฐานมา 1 ตู้ ที่หน้าบานติดกระจกเงาสีโรสโกลด์สามารถใช้ส่องเช็กความเรียบร้อยได้ ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้า 2 ระดับ พร้อมชั้นวางของเหนือหัวค่ะ
ภาพจากภายในห้องนอนมองย้อนออกมาที่ส่วน Living Area
คราวนี้เราจะไปดูในส่วนของห้องน้ำและห้องครัวกันต่อ
สังเกตระหว่างพื้นภายนอกและพื้นห้องน้ำจะมีธรณีกั้นเอาไว้เพื่อกันน้ำไหลย้อน
และที่ฝ้าเพดานภายในเป็นฝ้าฉาบเรียบกันชื้นติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้พร้อมพัดลมดูดอากาศ
ภายในห้องน้ำจะจัดโซนส่วนแห้งไล่เข้าไปยังส่วนเปียกโดยใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมด พื้นและผนังในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนจาก Cotto อย่างสวยงาม โดยกระเบื้องที่ปูพื้นจะเลือกใช้แบบผิวด้านเพื่อกันลื่นค่ะ
มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันต่อค่ะ อ่างล้างมือเป็นอ่างแบบฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป สามารถเก็บของใต้เคาน์เตอร์ได้ พร้อมติดตั้งชุดกระจกเงาและชั้นลอยเก็บของ
อ่างมีขนาดกำลังดีค่ะ ขอบอ่างสามารถวางพวกขวดสบู่และแปรงสีฟันได้บ้าง ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำขนาดกำลังถนัดมือ
ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำได้ดี ติดตั้งมาพร้อมกับสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ
ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำ ทางโครงการก่อธรณีและติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered แบบบานเปิดเข้า พร้อมมือจับของบานเปิดก็สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ข้าง ๆ ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ภายในโซนอาบน้ำมีพื้นที่กว้างขวางกำลังดี
ผนังภายในติดตั้งชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ และตะแกรงวางสบู่ให้
เราเข้าไปดูห้องครัวกันต่อค่ะ และนี่ก็คือชุดครัวที่เราจะได้มาพร้อมกับตัวห้องเลย โดยทางโครงการจะเว้นพื้นที่ด้านข้างเอาไว้ให้สำหรับวางตู้เย็นขนาด 1 ประตูได้
ท็อปเคาน์เตอร์ใช้หินสังเคราะห์ลายหินอ่อน ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ติดกระเบื้องโมเสกมาให้อย่างสวยงาม
บนเคาน์เตอร์ติดตั้งอ่างล้างจานแบบ 1 หลุมขนาดใช้งานสะดวกของ Techno พร้อมก๊อกน้ำหัวสามารถปรับซ้าย – ขวาได้ ใช้งานสะดวก
เตาขนาด 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันจาก Techo
ใต้เคาน์เตอร์มีช่องและลิ้นชักสำหรับเก็บของได้หลายช่อง หน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตสีเงิน
ชั้นลอยข้างบนก็มีชั้นสำหรับเก็บได้อีกเยอะ โดยจุดที่อยู่ตรงกับเตาปรุงอาหารได้ติดเครื่องดูดควันมาให้ค่ะ
จากห้องครัวจะอยู่ติดกับส่วนระเบียงค่ะ กั้นส่วนด้วยชุดกรอบอะลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงแบบบานเลื่อน 2 ตอนของเมืองทอง
พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อยปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. สามารถใช้ประโยชน์ได้ในการวางเครื่องซักผ้าและตากผ้า
ระเบียงติดตั้งระแนงเหล็กดัดให้เป็นราวกันตก ส่วนระแนงบังสายตาก็ใช้อะลูมิเนียมลายไม้ ทำให้ได้บรรยากาศแบบบ้านพักอาศัย ส่วน Compressor จะถูกแขวนอยู่ข้างบนโดยเป่าออกไปทางนอกระเบียง
พื้นที่ระเบียงก็จะมีดวงโคมดาวน์ไลต์ติดหลอดไฟ LED มาให้ 1 ดวง
นอกจากนี้สวิตช์และปลั๊กไฟที่ใช้ภายในห้องทั้งหมดจะเป็นของ Philips ค่ะ
::: 1 Bedroom Plus Type C ขนาด 43.46 ตร.ม. :::
ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 2 คน เป็นพื้นที่ห้องขนาดใหญ่สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom Plus ค่ะ ภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น มีการแบ่งโซนภายในห้องระหว่าง ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องน้ำ, ห้องครัว และห้องนอน โดยห้องนอนจะถูกกั้นด้วยผนังทึบแทน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นกระเบื้องยางแบบคลิกล็อก, ผนังติดวอลล์เปเปอร์, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดโซฟา – ชั้นวางทีวี, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่องเหมือนเดิมค่ะ
ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูป HDF
เข้าไปภายในห้องจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ทางฝั่งขวามือคือห้องน้ำ เข้าไปด้านในฝั่งซ้ายคือห้องรับประทานอาหาร ฝั่งขวาคือห้องครัวและระเบียง และด้านในสุดคือห้องนอน พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยางแบบคลิกล็อก เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย สามารถกันน้ำและกันรอยขีดข่วนได้ดี ผนังภายในห้องติดวอลล์เปเปอร์ให้ทั้งหมด
ฝ้าเพดานในห้องสูง 2.5 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลต์หลอดไฟ LED จาก Philips ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 2 เครื่อง ติดเอาไว้ภายใน Living Area 1 ตัวและภายในห้องนอนอีก 1 ตัว เป็นเครื่องปรับอากาศของ Panasonic Inverter ค่ะ
เราเข้ามาดูรายละเอียดและเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้กันในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ โดยภายในห้องตัวอย่างนี้ได้มีการตกแต่ง Finishing พร้อม Accessories ประกอบเพิ่มเติมเพื่อเป็นไอเดียสำหรับลูกบ้าน
สำหรับห้องนั่งเล่นเราจะได้ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมชั้นวางทีวีมาเหมือนเดิมเลย
เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ สังเกตระหว่างพื้นภายนอกและพื้นห้องน้ำจะมีธรณีกั้นเอาไว้เพื่อกันน้ำไหลย้อน และที่ฝ้าเพดานภายในเป็นฝ้าฉาบเรียบกันชื้นติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้พร้อมพัดลมดูดอากาศ
ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทุกประการ แต่ขนาดพื้นที่ใช้สอยของห้องจะใหญ่ขึ้นมาก ทำให้รู้สึกสะดวกสบายมากกว่า
สำหรับอ่างล้างมือจะอัปเกรดเป็นอ่างวางบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูปขนาดใหญ่ พร้อมชุดกระจกเงาและชั้นวางของ
อ่างล้างมือมีขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวก แถมรอบ ๆ อ่างก็มีพื้นที่ให้สามารถวางของใช้ได้มากขึ้น
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush รุ่นเดิม ติดตั้งมาพร้อมกับสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ มีระยะนั่งที่กว้างขวางมากขึ้น
ฝั่งตรงข้ามเป็นโซนอาบน้ำ ทางโครงการก่อธรณีและติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered แบบบานเปิดเข้า พร้อมมือจับของบานเปิดก็สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้
พื้นที่ยืนอาบน้ำในห้องนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นมากเลยค่ะ สามารถแบ่งพื้นที่ภายในส่วนหนึ่งเพื่อวางอ่างอาบน้ำแบบนั่งอาบสไตล์ญี่ปุ่นเพิ่มได้เลย
ผนังภายในติดตั้งชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับให้เหมือนเดิมค่ะ
ถัดเข้ามาภายในห้องจะเป็นส่วนของห้องรับประทานอาหาร, ห้องครัว และระเบียงค่ะ โดยที่ฝ้าเพดานส่วนนี้ ทางโครงการจะดรอปฝ้ามาให้เลย ลูกบ้านสามารถติดตั้งไฟซ่อนเพิ่มเติมเพื่อความสวยงามได้ตามใจชอบ ส่วนประตูด้านหลังห้องรับประทานอาหารคือประตูห้องนอนค่ะ
สำหรับพื้นที่ห้องรับประทานอาหารนั้นสามารถวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้ลงตัวพอดี สามารถต่อหัวโต๊ะเพิ่มเป็น 5 ที่นั่งก็ยังรองรับได้ค่ะ สังเกตชั้นวางของด้านหลังเป็นส่วนตกแต่งเพิ่มเติมของห้องตัวอย่าง สามารถใช้เก็บของได้ดี วางของแต่งห้องก็สวยค่ะ
มาดูในส่วนของห้องครัวกันต่อ ห้องครัวนี้จะอยู่ติดกับผนังภายนอกทำให้ได้หน้าต่างสำหรับระบายอากาศมาด้วย
ชุดครัวที่เราได้นั้นจะเหมือนแบบห้อง 1 Bedroom ทุกประการ คือได้เคาน์เตอร์ท็อปหินสังเคราะห์ ติดตั้งอ่างล้างจาน, เตา Induction ขนาด 2 หัว และเครื่องดูดควันจาก Techno มาให้ บานเปิดปิดผิวด้วยลามิเนตสีเงิน มีช่องสำหรับเก็บของได้หลายช่อง รวมถึงตู้ลอยด้วยค่ะ
ข้าง ๆ ห้องครัวก็คือระเบียงห้องค่ะ กั้นส่วนด้วยชุดประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียมแบบ 2 ตอน
สำหรับพื้นที่ระเบียงของห้องนี้จะกว้างขวางขึ้นมากเลยค่ะ สามารถวางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้สบาย ๆ
เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อเลยค่ะ
ขนาดของห้องนอนนั้นใหญ่ขึ้นมาก ๆ ทำให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีก
โดยมาตรฐานทางโครงการจะให้ฐานเตียงนอนพร้อมฟูกขนาด 5 ฟุตมา แล้วเรายังสามารถวางโต๊ะข้างได้อีกทั้ง 2 ฝั่งเลย
พื้นที่ปลายเตียงนอนยังเหลือเยอะค่ะ เราสามารถทำชั้นวางทีวี Built In รวมถึงโต๊ะทำงานขนาดย่อม ๆ เพิ่มได้
ส่วนตู้เสื้อผ้าที่ได้ก็จะเป็นตู้แบบบานเลื่อน ปิดบานด้วยกระจกเงาสีโรสโกลด์ มีขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าของตู้ในห้อง 1 Bedroom เลย โดยจะยังเหลือพื้นที่ด้านข้างให้เราสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก 1 ตัวค่ะ
:::: ราคา (มีนาคม 2563) ::::
ห้อง 1 Bedroom Type D ขนาด 20.50 ตร.ม. ราคาเริ่ม 1.19 ล้านบาท
ห้อง 1 Bedroom Type E ขนาด 26.58 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท
ห้อง 1 Bedroom Plus Type C ขนาด 43.46 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท
ห้อง Duplex ขนาด 45.37 – 57.05 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.3 ล้านบาท
เงินจอง 999 บาท
เงินทำสัญญา 15,000 บาท
ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม./ชำระครั้งเดียว
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก https://glendale-onnut.com/
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ Glendale อ่อนนุช – ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ในซอยอ่อนนุช 46 ฝั่งตรงข้ามกับ รร.นราทร ภายในซอยเป็นพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัว อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS ถึง 3 สถานี คือ สถานีอ่อนนุช, สถานีปุณณวิถี และ สถานีอุดมสุข และอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนครินทร์ 38 ในระยะเดินมีร้านค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร และตลาดคอยรองรับการอยู่อาศัย
สำหรับระยะที่ขับรถไปได้สะดวกเรียกว่ามีทุกอย่างล้อมรอบโครงการ ทั้ง Hypermarket, Community Mall หรือ Shopping Mall ที่เน้นไลฟ์สไตล์ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น Pickadaily Bangkok, Tesco Lotus อ่อนนุช, ตลาดอ่อนนุช, Big C อ่อนนุช และ Habito Mall ตรงเส้นอ่อนนุช Seacon Square, Paradise Park และตลาดนัดรถไฟ ตรงเส้นศรีนครินทร์ Central บางนา, Big C บางนา และ Ikea & Mega บางนา ตรงเส้นบางนา – ตราด อีกทั้ง Whizdom 101, Emporium, Emquartier, Terminal 21 และ Korean Town บนเส้นสุขุมวิท เรียกว่าเป็นทำเลที่มีครบในทุกด้าน เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเองและการลงทุนเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากซอยอ่อนนุช 46 สามารถเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้ถึง 4 เส้น ทั้งถนนอ่อนนุช, ถนนศรีนครินทร์, ถนนอุดมสุข และถนนสุขุมวิท ผ่านทางซอยย่อยต่าง ๆ โดยการเดินทางหลัก ๆ นั้นสะดวกเลยเพราะสามารถใช้สุขุมวิทวิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองได้เลย ถ้าใครจะใช้ทางด่วน วิ่งไปเข้าซอยสุขุมวิท 62 ซึ่งเป็นซอยที่ใช้เป็นจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานคร สามารถใช้ไปได้หลายทาง
ถ้าไปโซนบางนาก็ใช้เส้นสุขุมวิท มาแยกบางนาเข้าถนนบางนา – ตราด หรือวิ่งลงไปสำโรง ปู่เจ้าสมิงพราย ยาวไปสมุทรปราการได้ หรือจะใช้ถนนศรีนครินทร์วิ่งลงมาเข้าถนนบางนา – ตราด แล้วขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีวิ่งไปจนถึงชลบุรีได้เลย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ในซอยอ่อนนุช 46 จะมีวินมอเตอร์ไซด์ให้บริการอยู่หลายจุด รถสองแถวและแท็กซี่ก็มีวิ่งผ่านเข้า – ออกอยู่ตลอดทั้งวัน ประกอบกับการใช้ Grab Taxi และ Line Taxi ก็จะทำให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก ปัจจุบันโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช, สถานีปุณณวิถี และสถานีอุดมสุข ในระยะทางประมาณ 5 กม. กว่า ๆ เป็นระยะที่สามารถนั่งรถสาธารณะไปถึงได้ในเวลาเพียง 10 นาที
นอกจากนี้ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงพัฒนาการ – สำโรง วิ่งขนานกับเส้นศรีนครินทร์ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีศรีนครินทร์ 38 เพียง 950 เมตรจากโครงการเท่านั้น ซึ่งรถไฟฟ้าเส้นนี้จะเชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีสำโรง และตรงไปยังลาดพร้าวเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีลาดพร้าว ถือว่าสะดวกทีเดียวเลยค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการออกแบบมาในสไตล์รีสอร์ตที่ได้ความ Casual สไตล์อเมริกัน โดยใช้ย่าน Glendale เป็นไอเดีย เพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายเหมาะสำหรับการพักผ่อน ภายในโครงการเองก็มีห้องพักอาศัยเพียง 64 ห้องเท่านั้น หรือมีห้องพักอาศัยสูงสุดต่อชั้นเพียง 11 ห้อง ถือว่าได้ความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียวค่ะ
ห้องภายในโครงการมีการวางผังที่สามารถใช้งานได้จริงและสะดวก ตกแต่งห้องมาให้พร้อมเข้าอยู่อาศัยแบบ Fully Furnished วัสดุแต่งห้องได้มาตรฐานและสวยงาม อาจมีเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่ซื้อเข้ามาเพิ่มเติมเองได้ สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 56,000 บาท/ตร.ม. ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย มีให้ครบครัน ประกอบด้วย Lobby & Co – Working Space บริเวณชั้น 2, Mailbox, Swimming Pool ขนาด 4 x 7 เมตร, Fitness Room, ลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้น 2 ตัว, ที่จอดรถ 25 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน พร้อม รปภ. แบบ Triple Security Point System เข้า -ออกโครงการด้วยระบบ Key Card Access
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
Tel : 062 119 9970
WEBSITE : https://glendale-onnut.com/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น