EP.2182 รีวิว บ้านเดี่ยว แกรนดิโอ 2 วิภาวดี-รังสิต Grandio 2 Vibhavadi-Rangsit บ้านหรูสไตล์ European ราคา 8-15 ล้านบาท*
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่าคุณผู้อ่าน กลับมาพบกันในวันนี้ทีมงาน Homenayoo มีรีวิวบ้านหรูสวย ๆ สไตล์ยุโรปในโซนรังสิตมาให้ชมกันอีกเช่นเคย กับโครงการ Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต จาก Frasers Property ในซอยคลองหลวง 10 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี บนถนนพหลโยธิน เชื่อมต่อทางด่วนอุตราภิมุข เพียง 3 นาที* เชื่อมสู่ทำเลเมืองวิภาวดีและดอนเมือง
สะดวกสบายมากขึ้นด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต เพียง 5 กม. รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, สิ่งอำนวยความสะดวก และสถาบันชั้นนำย่านรังสิต เช่น Future Park รังสิต, Zeer รังสิต, รพ.เปาโล, รพ.แพทย์รังสิต, สนามบินดอนเมือง, ม.รังสิต, ม.ธรรมศาสตร์, ม.กรุงเทพ ฯลฯ
แกรนดิโอ 2 วิภาวดี-รังสิต เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการประมาณ 27 ไร่ เป็นส่วนตัวด้วยบ้านพักอาศัย 112 หลัง มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบในสไตล์ Modern European พื้นที่ใช้สอย 216-306 ตร.ม. กับฟังก์ชันบ้าน 4 ห้องนอน, 4-5 ห้องน้ำ, 1 ห้องแม่บ้าน* พร้อมที่จอดรถ 2-3 คัน บนที่ดินเริ่มต้นขนาด 50 ตร.ว.
พิเศษด้วย Double Volume Foyer, Living Area ขนาดใหญ่, ห้องซักรีดสไตล์ Glasshouse, ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ และ En Suite Bedroom ห้องนอนชั้นบนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง พร้อมระบบ Fresers Clean and Cool Air กรอง PM 2.5 และเพิ่ม Fresh Air ให้กับพื้นที่ภายในบ้าน
สิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานภายในโครงการครบครัน ในสไตล์งานสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ทั้ง คลับเฮาส์หรู แรงบันดาลใจจาก Buckingham Palace, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องฟิตเนส, Co-Working Space, สวนสวยสไตล์อังกฤษ แรงบันดาลใจจาก St.James’ Park, เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass, กล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 8-15 ล้านบาท* (ธ.ค. 65)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://home.frasersproperty.co.th/
เราไปดูกันเลยค่ะว่าโครงการนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ชื่อโครงการ | แกรนดิโอ 2 วิภาวดี-รังสิต Grandio 2 Vibhavadi-Rangsit |
เจ้าของโครงการ | เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ / Frasers Property |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 27-3-21.9 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 112 หลัง |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 50 ตร.ว. |
พื้นที่ใช้สอย | 216-306 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4 ห้องนอน, 4-5 ห้องน้ำ, 1 ห้องแม่บ้าน* |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2-3 คัน |
โซน | วิภาวดี-รังสิต-คลองหลวง |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ซ.คลองหลวง 10 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 |
กำหนดการ | เปิดลงทะเบียน |
ปีที่สร้างเสร็จ | n/a |
ราคา | เริ่มต้น 8-15 ล้าน* (ธ.ค. 65) |
ค่าส่วนกลาง | 35 บาท/ตร.ว./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
Tel | 065-504-9111 |
Website | https://home.frasersproperty.co.th/ |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซ.คลองหลวง 10 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120
พิกัด : 14.013547, 100.630355
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต ตั้งอยู่ภายในโครงการ The Empire วิภาวดี-รังสิต ภายในซอยคลอง 10 เข้ามาจากถนนพหลโยธินประมาณ 1.6 กม. โดยซอยคลอง 10 จะเป็นซอยที่อยู่ข้าง ๆ โรงกษาปณ์นะคะ ภายในซอยมีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะมีโครงการบ้านจัดสรรอยู่เพียงไม่กี่โครงการ แล้วโครงการส่วนใหญ่ก็เป็นโครงการปิดในเครือด้วย
ถ้าเรามองในภาพรวม ทำเลนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วและความสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นทำเลที่อยู่ใกล้ถนนเส้นหลักและทางด่วน ทำให้เข้าตัวเมืองได้เร็ว และใกล้กับแยกต่างระดับรังสิต ซึ่งเป็น Hub ใหญ่ของโซนนี้ เรียกว่าเป็นศูนย์รวมของห้างสรรพสินค้า และสถานที่สำคัญต่าง ๆ รถไฟฟ้าในทำเลก็มีและอยู่ใกล้กับโครงการ จึงทำให้เป็นอีก 1 ทำเลที่ได้รับคะแนนนิยมค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ ทางเข้า-ออกหลักของโครงการอยู่บนถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า เป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อถนนวิภาวดีรังสิต ใช้วิ่งเข้า-ออกเมืองในโซนนี้ เชื่อมต่อไปโซนวิภาวดี, ดอนเมือง, รามอินทรา, แจ้งวัฒนะ ไปจนถึงห้าแยกลาดพร้าว และโซนจตุจักรได้ โดยมีจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ก่อนถึงแยกต่างระดับรังสิต ที่ใช้ยิงตรงเข้าพระราม 9 ได้เลย
ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ จะมีจุดขึ้นทางด่วนอยู่ก่อนถึงแยกต่างระดับรังสิต เพียง 3 นาที หรือราว ๆ 2.3 กม. จากโครงการ ขึ้นฟรีจนไปลงดอนเมืองตรงวิภาวดี 84 แถว ๆ ฐานทัพอากาศค่ะ
แถมโครงการยังมีทางออกรองที่เชื่อมต่อกับซอยรังสิต-นครนายก 17 สามารถใช้ออกถนนรังสิต-นครนายกได้โดยตรง ใช้วิ่งยาวไปถึงนครนายกได้เลย โดยจะมีจุดขึ้นวงแหวนฝั่งตะวันออกระหว่างคลอง 4 และคลอง 5 ใช้ลงไปทาง สายไหม-วัชรพล-บางกะปิ-บางนา หรือขึ้นไปฝั่งอยุธยาได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีทางด่วนอุดรรัถยาเป็นตัวเลือกหากต้องการไปฝั่งปากเกร็ด โดยให้วิ่งออกถนนพหลโยธินมาที่แยกต่างระดับรังสิต เชื่อมต่อกับถนนรังสิต-ปทุมธานี เหมือนจะวิ่งออกไปทางปทุมธานีค่ะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เป็นทำเลที่เดินทางด้วยรถสาธารณะได้สะดวก เพราะถนนพหลโยธินมีรถประจำทางวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน โดยจะมีป้ายรถเมล์ตรงหน้าปากซอยคลองหลวง 10 ข้างโรงกษาปณ์ มีสาย 1-4 ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต-บางเขน, 1-5 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ตลาดไท, 510 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต และ 520 ตลาดไท-มีนบุรี แล้วยังมีรถตู้ให้ใช้บริการได้หลายสายตรง Future Park รังสิต อีกด้วยค่ะ
ที่สำคัญคือ รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ได้เปิดให้ใช้บริการกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว อยู่ไม่ไกลจากโครงการเลย ประมาณ 5 กม. ถึง สถานีรังสิต อีกตัวเลือกหนึ่งก็คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต ประมาณ 11 กม. ถึง สถานีแยก คปอ. ใช้นั่งตรงเข้าเมืองได้สะดวกทั้ง 2 สายค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ถ้าพูดถึงย่านรังสิตนี่เป็นที่รู้กันว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงมากเลยนะคะ โดยเฉพาะแยกต่างระดับรังสิต เรียกได้ว่าเป็น Hub ใหญ่ของโซนนี้ เพราะเป็นที่ตั้งของ Future Park รังสิต นั่นเองค่ะ ภายในยังมีห้าง Robinson, Zpell และ Central อยู่ด้วย
ในพื้นที่เดียวกันยังมีห้างแบรนด์อื่นอย่าง Home Pro, Index Living Mall, Big C Supercenter, Makro, Office Mate รวมไปถึง Major Cineplex รังสิต ฝั่งตรงข้ามยังมี Lotus’s และ ตลาดรังสิต หรือลงไปทางดอนเมืองอีกหน่อยก็มี Zeer รังสิต ครบมากเรียกว่าคับทำเลแล้ว แถมบนถนนพหลโยธินเยื้อง ๆ กับโครงการ ยังมี บุญถาวร และ ไทวัสดุ ใครวางแผนตกแต่งบ้านหรือรีโนเวทบ้านใหม่ ก็ขับไปเดินดูวัสดุตกแต่งบ้านได้ง่าย ๆ เลย
ถ้ามองไปในโซนใกล้เคียงอย่างถนนรังสิต-นครนายก ก็มีอะไรน่าสนใจอยู่เยอะเหมือนกัน เช่น Sammakorn Place รังสิต, M Park ตรงคลอง 3, Tara Avenue รังสิต-คลอง 3, Lotus’s ตรงคลอง 4, Market Village รังสิต, ตลาดนัดพระรูป คลอง 2 และตลาดดีดี มาร์เช่ ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารราคาย่อมเยา จากโครงการไปได้ง่ายเลยค่ะ
นอกจากนี้โครงการยังอยู่ไม่ไกลสถาบันชั้นนำใหญ่ถึง 3 สถาบัน ทั้ง ม.กรุงเทพ, ม.รังสิต และ ม.ธรรมศาสตร์ รวมไปถึง รร.โชคชัย รังสิต, รร.นานาชาติสยาม และ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต ส่วนโรงพยาบาลดี ๆ ก็มีเช่นกันค่ะ เช่น รพ.เปาโล รังสิต, รพ.บางปะกอก-รังสิต 2, รพ.ปทุมเวช, รพ.แพทย์รังสิต, รพ.ธนบุรีบูรณา และ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
ดูทำเลกันเรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางไปโครงการกันเลยค่ะ โดยจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนวิภาวดีรังสิต > ทางยกระดับอุตราภิมุข > ถนนพหลโยธิน > ซอยคลองหลวง 10 > The Empire วิภาวดี-รังสิต > Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต
เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณสนามบินดอนเมือง โดยมุ่งหน้าไปฝั่งรังสิตค่ะ
จากนั้นในเราออกทางคู่ขนานแล้วขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข หรือทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์นั่นเอง ตอนนี้วิ่งไปสุดทางแล้วลงแถว ๆ ซอยคลองหลวง 9 ยังใช้ฟรีไม่เสียค่าผ่านทางนะ
จากบนทางยกระดับ เราจะเห็นห้างต่าง ๆ ในโซนนี้ ไม่ว่าจะเป็น Big C รังสิต, Zeer รังสิต และ Makro รังสิต
รวมไปถึง Future Park รังสิต ให้เราวิ่งตรงต่อไปทางอยุธยา-สระบุรี จนสิ้นสุดทางยกระดับ
ตอนนี้ทางยกระดับจะสิ้นสุดลงแถว ๆ ซอยคลองหลวง 9 บนถนนพหลโยธิน จากนั้นให้เราวิ่งต่อไปบนทางคู่ขนานค่ะ
เราจะขับผ่านไทวัสดุ
และบุญถาวร
จากนั้นให้เรากลับรถบนสะพานกลับรถ
พอกลับรถมาวิ่งบนถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้าแล้ว ให้ตรงต่อไปจนไปถึงซอยคลองหลวง 10 แล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยค่ะ
จากถนนพหลโยธิน > ซอยคลองหลวง 10 > ถนนภายในโครงการ The Empire วิภาวดี-รังสิต > Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต จะมีระยะทางเข้าซอยถึงโครงการประมาณ 1.6 กม. ค่ะ
จากซอยคลองหลวง 10 เราขับตรงไปเรื่อย ๆ จะเห็นทางเข้า The Empire วิภาวดี-รังสิต ข้างหน้า ให้เราตรงผ่านซุ้มเข้าไปได้เลย
โครงการ Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต จะอยู่ข้างในทางฝั่งขวามือค่า
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ภายในซอยคลองหลวง 10 มีบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวอยู่พอสมควร แล้วโครงการ Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต ยังตั้งอยู่ภายในโครงการ The Empire วิภาวดี-รังสิต อีกที ซึ่งเป็นโครงการที่รวมโครงการบ้านหลากหลายแบรนด์ในเครือเอาไว้ด้วยกัน กลายเป็นสังคมคุณภาพ ที่ได้ทั้งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวค่ะ
ตอนนี้เรามาอยู่กันที่บริเวณด้านหน้าโครงการ Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต กันแล้วนะคะ เดี๋ยวเรามาเดินดูบริเวณโดยรอบโครงการกันสักนิดนึงว่าบรรยากาศภายใน The Empire วิภาวดี-รังสิต นั้นจะเป็นยังไงบ้าง
ติดกับซุ้มทางเข้าโครงการคือถนนภายในโครงการค่ะ ข้ามกำแพงไปคือพื้นที่ดินเปล่าขนาดใหญ่
หันไปทางฝั่งขวาคือทางออกรองสู่ ซอยรังสิต-นครนายก 17 ใช้วิ่งออกถนนรังสิต-นครนายก ได้เลยค่ะ
หันไปทางฝั่งซ้ายมือมุ่งหน้าออกไปทางซอยคลองหลวง 10 เราจะเห็นว่าบรรยากาศภายใน The Empire วิภาวดี-รังสิต มีความเรียบร้อยมาก ทั้งยังปลูกต้นไม้และพุ่มไม้ตลอดแนว ช่วยทำให้สบายตา
เลยไปเราจะเจอโครงการ Golden Town ค่ะ เป็นโครงการทาวน์โฮม
และบริเวณด้านหน้าคือโครงการ Grandio เป็นโครงการที่ 1 ด้วยกระแสตอบรับที่ดีจึงมีโครงการ Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต คลอดตามกันมาค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น ขนาดโครงการไม่ใหญ่มาก มีบ้านพักอาศัยเพียง 112 หลัง บนที่ดินโครงการประมาณ 27 ไร่ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง โครงการนี้ถูกออกแบบมาในสไตล์ European ที่ผสมผสานความ Modern เข้าไป ทำให้ได้ออกมาเป็นตัวอาคารที่ดู Classic แต่ยังคงความทันสมัยในเวลาเดียวกัน
Main Gate ของโครงการออกแบบมาดูอลังการตามสไตล์แบรนด์ Grandio มีการแบ่งช่องทางเข้า-ออกอย่างชัดเจนโดยมีป้อม รปภ. ขั้นอยู่ตรงกลาง
และยังมีการแบ่งช่องทางเข้า-ออกเป็นช่องสำหรับ Resident และ Visitor เพื่อความสะดวกสบาย ลูกบ้านของโครงการสามารถขับรถผ่านรั้วอัตโนมัติเข้าไปด้านในโครงการได้เลยด้วยระบบ Easy Pass ส่วน Visitor จะต้องทำการแลกบัตรและตรวจสอบความปลอดภัยตามมาตรฐานของโครงการค่ะ
เข้ามาภายในโครงการแล้วเราจะเจอถนนหลักขนาดใหญ่ เปิดมุมมองกว้างสู่พื้นที่สวนพักผ่อนและคลับเฮาส์เป็นจุดต้อนรับหน้าโครงการ แล้วถนนจะแยกออกด้านข้างล้อมพื้นที่เอาไว้
จากถนนหลักกว้าง 12-14 เมตร เชื่อมสู่ถนนซอยที่ตัดผ่านหน้าบ้านทุกหลังกว้าง 9 เมตร
สำหรับพื้นที่สวนของโครงการจะถูกออกแบบมาในสไตล์ British Garden ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก St.James’ Park
การออกแบบพื้นที่สวนของที่นี่จะตัดแต่งไม้พุ่มให้เป็นแนวเดียวกันแบบเรขาคณิต ดูสมมาตรตามสไตล์ของสวนในพระราชวังแบบ Formal Landscape เน้นทางเดินให้เปิดโล่งเพื่อนำสู่ตัวอาคาร ทำให้ตัวคลับเฮาส์ดูโดดเด่นมากขึ้น
ตกแต่งสวนด้วยลานน้ำพุอย่างสวยงาม เชื่อมต่อพื้นที่ทางเดินเป็นวงเวียน
มีการผสมผสาน Rural Designed Landscape เข้าไปเป็นมุมสวนร่มรื่นและสระน้ำ พร้อม Pavilion เหล็กดัดที่ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจาก Gazebo มีม้านั่งพักผ่อนให้นั่งเล่นรับลมได้สบาย ๆ
ภาพบรรยากาศภายในสวนอีกมุมจากด้านหน้าคลับเฮาส์
สำหรับอาคารคลับเฮาส์ถูกออกแบบมาด้วยแรงบันดาลใจจาก Buckingham Palace ดูหรูหราอลังการ
สำหรับพื้นที่ภายในคลับเฮาส์จะแบ่งเป็นโซน Indoor และ Outdoor นะคะ
ห้องทางฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของ Sales Gallery ออกแบบมาให้มีฝ้าเพดานที่สูงโปร่ง และมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติโดยรอบห้อง
ภายในมีชุดโซฟาจัดเอาไว้รับรองหลายชุด ภายหลังการขายก็จะกลายเป็นห้องนิติบุคคล และเป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านสามารถเข้ามานั่งเล่นพักผ่อนตากแอร์สบาย ๆ ได้ค่ะ
ห้องทางฝั่งขวาคือ Co-Working Space และห้องฟิตเนส
พื้นที่ภายในมีฝ้าเพดานที่สูงโปร่งและมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติโดยรอบห้อง บรรยากาศเหมาะสำหรับการนั่งทำงาน, การนั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ รวมไปถึงการออกกำลังกายด้วย โดยพื้นที่โซนด้านหน้าจะเป็น Co-Working Space นะคะ มีพวกชุดโซฟาและอาร์มแชร์จัดเอาไว้ให้หลายชุด
ส่วนโซนด้านหลังนี้จะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ ทางโครงการจะนำเครื่องออกกำลังกายมาลงให้ในภายหลัง
พื้นที่ Outdoor ด้านหลังคลับเฮาส์จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำค่ะ
สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นสระระบบเกลือยาว 22 x 9 เมตร และลึก 1.2 เมตร เป็นขนาดสระที่ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้เลย
ภายในสระมีการแบ่งโซนสระเด็กให้โดยการกั้นส่วนในสระ
ด้านข้างสระมี Pool Bed สำหรับนั่งเล่นรับลมพร้อมร่มกันแดด และมีฝักบัวสำหรับล้างตัวก่อนลงสระ
รวมไปถึงมีห้องน้ำชาย-หญิงจัดแยกส่วนให้เรียบร้อย ออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และตกแต่งอย่างสวยงาม ดูโปร่ง น่าใช้งานเลยค่ะ
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
โครงการ Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต มีแบบบ้านให้เลือกเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 แบบ ดังนี้ค่ะ
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปชมบ้านตัวอย่างด้วยกัน 2 แบบ เป็นแบบบ้าน Milano ขนาด 251 ตร.ม. และแบบบ้าน Livorno ขนาด 306 ตร.ม. ไปลุยกันเลย!
::: แบบบ้าน Milano ขนาด 251 ตร.ม. :::
แบบบ้าน Milano ขนาด 251 ตร.ม. เป็นบ้านไซซ์กลางของโครงการ หน้าตาบ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern European ออกมาเป็นบ้านที่ดูทันสมัย แต่ยังมีกลิ่นอายของงานสถาปัตยกรรมในสไตล์ยุโรป ด้วยดีเทลของผนังหินเทียม, บัวผนัง, ผนังโค้ง และลวดลายของเหล็กดัด ซึ่งทำให้บ้านดูหรูและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน โดยใช้โทนสีขาวดูสะอาดตา ตัดกับสีเทา และสีทอง
แปลนบ้านชั้น 1 ภายในโรงจอดรถสามารถจอดรถได้ 2 คันในร่ม มีประตูทางเข้าบ้านฝั่งโรงจอดรถให้ จากเฉลียงทางเข้าบ้านจะเชื่อมต่อกับ Foyer รวมกับ Living Area และ Dining Area เป็นโถงใหญ่กลางบ้าน ฝั่งเดียวกันกับโรงจอดรถจะเป็นโซน Service มีห้องน้ำรับแขก, ห้องครัว, ห้องซักรีด และมีโถงบันไดขึ้นชั้น 2 ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องอเนกประสงค์
แปลนบ้านชั้น 2 พื้นที่โถงบันไดบนชั้น 2 จะเปิดโล่ง แบ่งพื้นที่เป็นฟังก์ชันห้องพระ และ Family Area และจากพื้นที่โถงจะเชื่อมต่อไปยังห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง เป็นห้องนอนแบบ En Suite ทั้งหมด พื้นที่ห้องนอนแต่ละห้องจะมีขนาดใหญ่ วางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ ส่วนพื้นที่ใน Master Bedroom จะสามารถทำ Walk-in Closet ได้ค่ะ
สำหรับบ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบจะมีรั้วบ้านสูง 1.5 เมตรติดตั้งมาให้แบบนี้นะคะ ด้านหน้าบ้านเป็นรั้วเหล็กโปร่งทั้งหมด แล้วปลูกไม้พุ่มตัดแต่งเป็นทรง ส่วนฝั่งข้างบ้านที่ติดกับบ้านหลังอื่น ๆ จะใช้รั้วทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว
ประตูรั้วบ้านใช้รั้วเลื่อนระแนงเหล็กตอนเดียว ผนังด้านข้างมีการติดตั้งกริ่งออด, ตู้จดหมายพร้อมเลขที่บ้าน และติดตั้งตู้เก็บขยะให้เหมือนกันทุกหลัง ทำให้ภาพรวมของโครงการดูเรียบร้อยดี
พื้นที่โรงจอดรถสามารถจอดได้ 2 คันในร่ม โครงการพื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก (On Ground) แยกโครงสร้างจากตัวบ้าน ผิวเป็น Stamped Concrete สีเทาเข้ม และมีดวงโคม Downlight ติดตั้งมาให้บนฝ้าถึง 4 ดวง
ทางโครงการมีการออกแบบประตูทางเข้าบ้านทางฝั่งโรงจอดรถเอาไว้ให้ เพื่อความสะดวกสบายเวลาฝนตก รวมไปถึงเวลาที่ซื้อของเข้าบ้านเพราะจะอยู่ใกล้กับห้องครัว สามารถยกพวกอาหารและของสดเข้าไปเก็บในครัวได้เลย โดยไม่ต้องเดินผ่านหน้าบ้านค่ะ รวมไปถึงมี EV Charger ติดตั้งมาให้ รองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ Hybrid ได้อีกด้วย
สังเกตที่ผนังบ้านจะมีตู้เก็บของ ใช้เก็บพวกอุปกรณ์ล้างรถ หรือทำสวนเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ และจากโรงจอดรถจะมีทางเดินเชื่อมไปที่เฉลียงหน้าบ้านโดยมีหลังคาคลุมให้ทั้งหมด
ทางเข้าฝั่งหน้าบ้านออกแบบมาจากซุ้มเสาคู่สูงถึงหลังคา ตกแต่งด้วยไฟกิ่ง ส่วนประตูใช้ประตูบานเปิดคู่ ตัวบานเป็นไฟเบอร์กลาส ติดลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง ใช้มือจับประตูแบบก้านโยกที่ดีไซน์เรียบหรูแบบตะวันตก
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer เชื่อมต่อกับ Living & Dining Area เป็นโถงขนาดใหญ่กลางบ้านทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง พื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิโตลายหินอ่อนขนาด 80 x 80 ซม. ผนังใช้ผนัง Precast ฉาบเรียบทาสีของ TOA ทำให้จัดเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวไม่ติดพวกมุมเสา ติดประตู-หน้าต่างบานเลื่อนกรอบ UPVC ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง ส่วนฝ้าเพดานมีความสูงถึง 2.8 เมตร และติดดวงโคม Downlight ให้ทั้งบ้าน
สำหรับ Foyer นี้จะอยู่ข้าง ๆ กับโถงบันไดด้วย ทำให้เป็นจุดที่มีฝ้าสูงแบบ Double Volume เชื่อมถึงฝ้าบนชั้น 2 ทำให้พื้นที่บ้านดูแกรนด์มากยิ่งขึ้น แล้วก็ยังสว่างด้วยเพราะว่ามีช่องแสงทั้งด้านล่างและด้านบนเลยค่ะ
พื้นที่ Foyer จะเป็นจุดพักแขกก่อนเข้าสู่พื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของบ้าน มักจะตกแต่งให้ดูสวยงามเพื่อสร้างความประทับใจ บ้านตัวอย่างได้ใช้พื้นที่ใต้บันไดด้านข้างทำเป็นตู้เก็บของเท้าไปในตัว เราเพิ่มอาร์มแชร์หรือม้านั่งเพื่อใช้นั่งพักคอยและนั่งเปลี่ยนรองเท้าด้วยสักตัวด้วยก็จะลงตัวดี
การจัดพื้นที่โถงกลางของบ้านสามารถทำได้อย่างอิสระ เราเลือกวางฟังก์ชันได้ตามความต้องการของแต่ละครอบครัวได้เลย
บ้านตัวอย่างเลือกจัด Living Area เอาไว้ฝั่งหน้าบ้าน เพื่อความสะดวกสบายในการรองรับแขก โดยเป็นพื้นที่ที่ครอบครัวใช้เวลาร่วมกัน ใช้ในการนั่งพักผ่อนพูดคุย หรือนั่งดูทีวีสบาย ๆ ได้
ด้วยพื้นที่บ้านที่กว้างขวางเราเลยจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบ Center ได้ จะวางโซฟา L Shape หรือโซฟา U Shape พร้อมโต๊ะกลางก็สามารถวางได้สบายค่ะ รวม ๆ แล้วสามารถจัดได้ 6-8 ที่นั่งเลย
บ้านตัวอย่างจัด Dining Area เอาไว้ที่ฝั่งหลังบ้านใกล้กับห้องครัว เป็นด้านที่มีกระจกบานใหญ่ถึง 2 บานเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ แล้วเวลาเปิดม่านออกก็จะทำให้เราได้วิวของสวนหลังบ้านด้วย
โดยพื้นที่แล้วเราวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 8 ที่นั่งเลยนะคะ แล้วยังสามารถเพิ่มชั้นวางของเข้าไปได้ทั้ง 2 ฝั่งอีกด้วย ถ้าบ้านไหนอยากได้เคาน์เตอร์บาร์พร้อม Island โชว์สวย ๆ ก็ให้เลื่อนโต๊ะไปทางฝั่งซ้ายหน่อยก็ได้ที่เพิ่มแล้ว
ทางฝั่งปีกซ้ายของบ้านเป็นส่วนของห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องอเนกประสงค์ (ไล่จากซ้ายไปขวา)
สำหรับห้องอเนกประสงค์จะเป็นพื้นที่ที่แต่ละครอบครัวสามารถจัดฟังก์ชันเองได้ตามใจชอบ เรียกว่าถ้ามีพวกงานอดิเรกส่วนตัว หรือมีการ WFH อยู่เป็นประจำ ก็สามารถจัดห้องนี้รองรับได้ ส่วนบ้านตัวอย่างจัดให้เป็นห้องทำงานส่วนตัว ซึ่งก็เป็นห้องที่เหมาะสม เพราะเป็นห้องที่มีหน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติถึง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูสว่าง โปร่ง และทำให้รู้สึกสดชื่น
พื้นที่ห้องมีขนาดใหญ่นะคะ เทียบดูแล้วสามารถเป็นห้องนอนอีกห้องได้ เพราะสามารถวางเตียงขนาด 3-5 ฟุตและเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนได้ครบ ถ้าสมาชิกในบ้านมีจำนวนเยอะมากขึ้น ก็สามารถปรับเป็นห้องนอนได้เลย โดยพื้นห้องนี้ปูด้วย SPC หนา 5 มม. มีความคงทนกันบวมและกันปลวกได้ดี และให้สัมผัสที่คล้ายไม้จริง ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
สำหรับห้องน้ำชั้นล่างจะถูกออกแบบให้มีโซน Shower เพื่อรองรับการใช้งานของห้องนอนชั้นล่างด้วย ทางโครงการตกแต่งห้องน้ำมาอย่างสวยงาม ใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ลายหินธรรมชาติ อัปเกรดขึ้นมาจาก Grandio โครงการก่อน ๆ แต่ละห้องก็จะตกแต่งต่างกัน แต่ว่ายังคงอยู่ในธีมเดียวกัน
สังเกตว่าภายในห้องน้ำก็ยังมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ เพื่อป้องกันการอับชื้น โดยจะใช้เป็นกระจกฝ้าเพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ
ส่วนสุขภัณฑ์ใช้เป็นของแบรนด์ Kohler และ Victor หรือเทียบเท่า มีอ่างล้างมือแบบแขวนผนัง ก๊อกน้ำแบบก้านโยก ติดตั้งมาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่
โถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Single Flush พร้อมสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ ระยะนั่งไม่แคบจนเกินไป
โซน Shower ติดตั้ง Shower Box มาให้ เป็นแบบบานเลื่อนโค้งเข้ามุม ภายในติดตั้งชุด Hand Shower, ราวปรับระดับ, จานวางสบู่ พร้อมเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้
อีกอย่างคือ ห้องน้ำนี้เป็นห้องแบบ Double Access ที่สามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากฝั่งห้องโถงของบ้าน และจากฝั่งห้องนอนชั้นล่าง เพื่อความสะดวกสบายเวลาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน
ห้องนอนชั้นล่างปูพื้นด้วย SPC หนา 5 มม. เหมือนกัน เพราะให้สัมผัสที่อบอุ่น เวลาเหยียบแล้วจะไม่เย็นเท้าเหมือนพื้นกระเบื้อง จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนมากกว่า ดูพื้นที่ห้องแล้วมีขนาดกำลังดี วางเตียงนอน 3 ฟุต, โต๊ะข้างหรือโต๊ะเครื่องแป้งขนาดย่อม และตู้เสื้อผ้าได้ลงตัว เหมาะสำหรับจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่เดินขึ้น-ลงบันไดไม่สะดวก จะใช้เป็นห้องเลี้ยงเด็ก หรือห้องนอนแขกแทนก็ได้ค่ะ
ถ้าใครชอบเตียงขนาดใหญ่กว่านี้ เตียงขนาด 3.5-4 ฟุตน่าจะตอบโจทย์ เพราะห้องจะยังดูโปร่งอยู่
ส่วนฝั่งปลายเตียงนอนยังสามารถทำชั้นวางทีวี Built-in ได้
นอกจากนี้ก็ยังวางโต๊ะข้างและตู้เสื้อผ้าขนาดกลาง ๆ ได้อีกตัวบริเวณด้านข้างประตูห้องน้ำค่ะ
ส่วนฝั่งปีกขวาของบ้านจะเป็น Service Zone
เป็นส่วนของห้องน้ำแขก (ฝั่งซ้าย), ห้องครัว (กลางโถง) ส่วนประตูฝั่งทางขวาคือประตูฝั่งโรงจอดรถ
บ้านหลังนี้แยกฟังก์ชันห้องน้ำแขกออกมาเป็น Powder Room เพื่อให้ห้องน้ำที่คนภายในบ้านใช้กันมีความเป็นส่วนตัว ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนอย่างสวยงาม พร้อมกระจกยาวเต็มผนัง
ภายในห้องก็จะมีเฉพาะอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ใช้เป็นรุ่นเดียวกันทั้งหมดค่ะ
ภายในบ้านแบ่งสัดส่วนพื้นที่ห้องครัวมาให้ค่อนข้างกว้างขวาง มีหน้าต่างบานใหญ่สำหรับเปิดระบายอากาศได้ดี สามารถใช้เตรียมอาหารจริง ๆ จัง ๆ ที่ต้องใช้พื้นที่เยอะ ๆ ได้สบาย จะทำอาหารไทย หรืออาหารฝรั่งก็เอาอยู่
การวางผังเคาน์เตอร์ครัว เราควรวางอ่างล้างจานไว้ที่ฝั่งริมหน้าต่างเพื่อให้ระบายความชื้นได้ง่าย ส่วนเตาปรุงอาหารให้วางไว้ฝั่งผนังทึบ ให้ห่างออกมาจากหน้าต่างหน่อย จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องลมตีเข้าเวลาปรุงอาหาร ที่สำคัญอย่าลืมเผื่อพื้นที่เอาไว้วางตู้เย็นตามขนาดที่ต้องการด้วยนะคะ
ถ้าต้องการเพิ่มพื้นที่เคาน์เตอร์ครัว ผนังอีกฝั่งก็ยังทำ Built-in เพิ่มได้อีกค่ะ ฝั่งนี้เราจะเห็นประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมต่อกับห้องซักรีด
ห้องซักรีดนี่ถือเป็นจุดเด่นของบ้านแบรนด์ Grandio ที่มีการเตรียมพื้นที่ในการซักรีดแบบ Indoor ให้เรียบร้อยไม่ต้องต่อเติมเพิ่มเอง ใช้วางเครื่องซักผ้า วางพวกตู้เก็บของ ทำ Built-in เพื่อเก็บอุปกรณ์ในการซักรีด และยังตากผ้าภายในห้องได้เลย เพราะทางโครงการได้ออกแบบหลังคาบางส่วนเป็น Skylight เพื่อรับแสงธรรมชาติแบบตรง ๆ โดยจะมีประตูและหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ ข้อดีคือเราไม่ต้องคอยวิ่งเก็บผ้าเวลาที่ฝนตกด้วยนะคะ
จากห้องซักรีดจะมีประตูเปิดเชื่อมออกมาที่บริเวณลานซักล้างหลังบ้านอีกที เผื่อต้องการซักล้างอะไรที่สกปรกมาก ๆ ก็ยังมีพื้นที่แยกส่วนให้
เราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อ โครงสร้างบันไดใช้ คสล. ปิดผิวด้วยไม้ประสานสำเร็จรูป ส่วนราวบันไดใช้เป็นราวเหล็กดัด ติดมือจับด้วยไม้สีเข้ากัน
พื้นที่โถงบนชั้น 2 มีหน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติอยู่หลายบาน และมีฝ้าเพดานสูง 2.9 เมตร ทำให้บ้านดูโปร่ง ส่วนพื้นปูด้วย SPC ลายไม้ทั้งหมด เพื่อให้สัมผัสเหมาะสำหรับการพักผ่อน
ฟังก์ชันบนชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Family Area, ห้องพระ และห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดย Family Area และห้องพระจะเชื่อมต่อกับพื้นที่โถงทางเดินแบบเปิดโล่งเป็นโถงเดียวกัน
Family Area จัดเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวของครอบครัว ซึ่งจริง ๆ แล้วพื้นที่ตรงนี้เป็นฟังก์ชันอเนกประสงค์ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ จัดเป็นมุมนั่งทำงานอีก 1 มุมก็ได้นะคะ
พื้นที่สำหรับห้องพระไม่ได้ใช้ Space มากมายอะไร วางหิ้งพระลงตัวพอดี แต่ถ้าครอบครัวไหนไม่ต้องการจัดหิ้งพระในบ้าน ก็สามารทำเป็น Built-in ชั้นวางหนังสือ หรือชั้นวางของแทนได้
เรามาดู Master Bedroom กันต่อค่ะ เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน ซึ่งทางโครงการให้พื้นที่มากว้างขวางมาก ทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์นั้นทำได้ง่าย บ้านแบ่งพื้นที่ห้องออกเป็น 2 ส่วน คือโซนพักผ่อน และโซนแต่งตัว
สำหรับโซนพักผ่อนจะอยู่ที่ฝั่งหน้าบ้าน
บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตและวางโต๊ะข้างทั้ง 2 ฝั่ง ยังได้พื้นที่แบบสบาย ๆ
ฝั่งปลายเตียงวางชั้นวางทีวีและวางสตูลที่ฝั่งปลายเตียง กลายเป็นมุมนั่งพักผ่อนส่วนตัวภายในห้อง
ใน Master Bedroom มีช่องแสงให้หลายจุด โดยฝั่งหน้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน เปิดออกไปเป็นพื้นที่ระเบียงเล็ก ๆ ให้ยืนรับลมชมวิวฝั่งหน้าบ้านได้
พื้นที่อีกฝั่งจะอยู่ติดกับห้องน้ำเลยเหมาะสมสำหรับการจัดเป็นโซนแต่งตัว บ้านตัวอย่างทำ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง 2 ตัว และชั้นวางของตามผนังได้อีกเยอะเลยค่ะ
อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่า ห้องนอนชั้นบนเป็นห้องนอนแบบ En Suite ทุกห้อง คือมีห้องน้ำให้ในตัวทั้งหมด ภายในห้องน้ำตกแต่งอย่างสวยงาม เลือกกระเบื้องลายหินธรรมชาติลายต่าง ๆ มาใช้แตกต่างกันในแต่ละส่วน
ด้วยความที่เป็น Master Bathroom ทางโครงการเลยอัปเกรดสุขภัณฑ์ให้เป็นรุ่นที่สวยและดีมากยิ่งขึ้น อย่างอ่างล้างมือเป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป มีขนาดใหญ่มากขึ้น และมีตู้สำหรับเก็บของให้ด้านล่าง ที่ผนังด้านหลังมี Low Wall สำหรับใช้วางของก่อมาให้
โถสุขภัณฑ์ใช้รุ่นแยกชิ้นระบบ Dual Flush
โซนอาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้เป็นบานเลื่อนกระจก Tempered
ด้านในมีชุด Hand Shower, ราวปรับระดับ และเดินระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นให้เหมือนเดิม โดยจะมีการเจาะผนังเป็นช่องสำหรับวางขวดสบู่ให้เพิ่มค่ะ
สำหรับห้องนอน 2 เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่รองลงมา ได้พื้นที่ห้องมาพอสมควรเลยนะ สามารถแบ่งพื้นที่ห้องเป็นโซนพักผ่อนและโซนแต่งตัวได้เหมือนกัน
โซนพักผ่อนจัดเอาไว้ที่ฝั่งหน้าบ้าน มีหน้าต่างขนาดใหญ่ออกแบบมาเลียนแบบระเบียง
โดยพื้นที่แล้วเราวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้นะคะ ส่วนบ้านตัวอย่างใช้เป็นเตียงขนาด 5 ฟุต จะทำให้ห้องดูโปร่งมากกว่า
ฝั่งปลายเตียงนอนวางพวกชั้นวางทีวีแบบหน้าแคบหรือทำ Built-in เพิ่มได้
พื้นที่ฝั่งติดกับห้องน้ำเราวางพวกโต๊ะทำงาน, โต๊ะเครื่องแป้ง และทำ Built-in เป็นชั้นวางของเพิ่มได้
มองไปด้านในยังมีพื้นที่อีกค่ะ บ้านตัวอย่างทำตู้เสื้อผ้า L Shape มาให้ดูว่าได้พื้นที่เก็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่
ภายในห้องน้ำส่วนตัว มีสุขภัณฑ์ครบตามฟังก์ชันการใช้งาน ตกแต่งมาอย่างสวยงามเหมือนกันค่ะ
ห้องนอน 3 เป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของบ้านก็จริง แต่ก็ยังถือว่าได้พื้นที่ห้องมาขนาดพอสมควร ยังวางเตียง 5 ฟุตได้ด้วย
ส่วนบ้านตัวอย่างใช้เป็นเตียงขนาด 3 ฟุตแทน เพื่อให้ได้พื้นที่ห้องที่ดูโปร่งมากขึ้น
พื้นที่ติดกับห้องน้ำสามารถวางโต๊ะทำงานได้ และยังทำตู้เสื้อผ้า L Shape ได้ด้วย
และนี่ก็คือห้องน้ำส่วนตัวของห้องนอน 3 ค่ะ
นอกจากนี้ภายในบ้านยังมีสัญญาณป้องกันขโมยระบบ Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ที่ประตู-หน้าต่างของบ้านชั้น 1 ทุกจุดเพื่อความปลอดภัย
รวมไปถึงระบบ Frasers Clean & Cool Air เป็นระบบที่ช่วยเพิ่ม Fresh Air ภายในบ้าน กรองแบคทีเรียและ PM 2.5 และดูดอากาศเสียออกจากบ้าน ทำให้อากาศภายในบ้านเป็นมิตรต่อสุขภาพของคนในครอบครัวมากขึ้น โดยไม่ทำให้บ้านร้อนขึ้นและไม่เปลืองค่าไฟค่ะ
ซึ่งเราจะพบว่าในห้องแต่ละห้องจะมีพัดลมดูดและเติมอากาศติดตั้งมาให้บนฝ้าแบบนี้
::: แบบบ้าน Livorno ขนาด 306 ตร.ม. :::
แบบบ้าน Livorno ขนาด 306 ตร.ม. เป็นบ้านขนาดใหญ่ของโครงการ ออกแบบมาในสไตล์ Modern European ดูแกรนด์ขึ้นมาอีกหน่อย
แปลนบ้านชั้น 1 ภายในโรงจอดรถสามารถจอดรถได้ 3 คันในร่ม มีประตูทางเข้าบ้านฝั่งโรงจอดรถให้ จากเฉลียงทางเข้าบ้านจะเชื่อมต่อกับ Foyer รวมกับ Living Area และ Dining Area เป็นโถงใหญ่กลางบ้าน ฝั่งเดียวกับโรงจอดรถจะเป็นโซน Service มีห้องน้ำรับแขก, ห้องครัว, ห้องซักรีด, ห้องแม่บ้าน และมีโถงบันไดขึ้นชั้น 2 ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องอเนกประสงค์
แปลนบ้านชั้น 2 พื้นที่โถงบันไดบนชั้น 2 จะเปิดโล่ง แบ่งพื้นที่เป็นฟังก์ชันห้องพระ และ Family Area และจากพื้นที่โถงจะเชื่อมต่อไปยังห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง เป็นห้องนอนแบบ En Suite ทั้งหมด พื้นที่ห้องนอนแต่ละห้องจะมีขนาดใหญ่ วางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ รวมไปถึงทำ Walk-in Closet ในตัวได้ค่ะ
สำหรับบ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบจะมีรั้วบ้านสูง 1.5 เมตรติดตั้งมาให้แบบนี้ ด้านหน้าบ้านเป็นรั้วเหล็กโปร่งทั้งหมด แล้วปลูกไม้พุ่มตัดแต่งเป็นทรง ส่วนฝั่งข้างบ้านที่ติดกับบ้านหลังอื่น ๆ จะใช้รั้วทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว
ประตูรั้วบ้านใช้รั้วเลื่อนระแนงเหล็กตอนเดียว ผนังด้านข้างมีการติดตั้งกริ่งออด, ตู้จดหมายพร้อมเลขที่บ้าน และติดตั้งตู้เก็บขยะให้เหมือนกันทุกหลัง
พื้นที่โรงจอดรถสามารถจอดได้ 2 คันในร่ม โครงการพื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กแยกโครงสร้างจากตัวบ้าน ผิวเป็น Stamped Concrete สีเทาเข้ม ด้านในมีประตูทางเข้าบ้านรอง มีตู้เก็บของ และมี EV Charger ติดตั้งมาให้
ทางเข้าฝั่งหน้าบ้านออกแบบมาจากซุ้มเสาคู่สูงถึงหลังคา ตกแต่งด้วยไฟกิ่ง ทำให้เป็น Main Entrance ส่วนบานประตูใช้ประตูบานเปิดคู่
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer เชื่อมต่อกับ Living Area และ Dining Area เป็นโถงขนาดใหญ่กลางบ้าน Spec วัสดุของบ้านหลังนี้รวมไปถึงความสูงของฝ้าเพดานจะเหมือนกับแบบบ้าน Milano เลยค่ะ ฟังก์ชันบ้านก็วางคล้ายกันมาก แต่พื้นที่จะมีความกว้างขวางกว่า
พื้นที่โซน Foyer เป็นจุดสำหรับพักแขกที่มีฝ้าสูงแบบ Double Volume เราวางม้านั่งสำหรับเปลี่ยนรองเท้า และใช้พื้นที่ใต้บันไดทำเป็นตู้เก็บรองเท้าได้เหมือนกัน
ภาพบรรยากาศภายในบ้านในมุมกว้าง ดูขอบเขตการจัดพื้นที่ของ Living Area ได้พื้นที่มาขนาดใหญ่เลยค่ะ
บ้านตัวอย่างจัด Living Area เอาไว้ที่ฝั่งหน้าบ้านข้าง ๆ กับ Foyer เป็นพื้นที่ที่รองรับคนได้ 6-8 คนเลย
สำหรับ Dining Area จะอยู่ฝั่งหลังบ้านติดกับห้องครัว มีหน้าต่างตรงผนังห้องครัวด้วย ทำให้เราสามารถรับอาหารผ่านทางหน้าต่างได้เลย ถ้าให้ดีก็ Built-in เป็นเคาน์เตอร์ขึ้นมาจะสะดวกในการวางอาหารมากขึ้น
บ้านตัวอย่างจัดโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งมา ทำให้เราเห็นว่ายังเหลือพื้นที่ห้องอีกเยอะมาก ถ้า Manage พื้นที่ดี ๆ เรายังสามารถทำ Coffee Station เพิ่มขึ้นมาก็ยังได้ค่ะ
ทางฝั่งปีกขวาของบ้านเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องนอนชั้นล่าง (ไล่จากซ้ายไปขวา)
สำหรับห้องอเนกประสงค์ของบ้านหลังนี้จัดเป็นห้องสำหรับออกกำลังกาย วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 2 ตัว เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าและจักรยานไฟฟ้า แล้วก็ยังใส่ม้านั่งราบสำหรับยกเวทได้อีก 1 ตัว
ถ้าบ้านไหนมีสมาชิกในครอบครัวค่อนข้างเยอะ จะจัดเป็นห้องนอนเพิ่มอีกห้องก็ยังได้ค่ะ เพราะพื้นที่ห้องรองรับเตียงและเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนอนได้
แล้วก็มีห้องน้ำชั้นล่างที่รองรับการอาบน้ำได้อยู่แล้วค่ะ
พื้นที่ห้องนอนชั้นล่างเหมาะสำหรับจัดเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ แต่ถ้าบ้านไหนยังไม่มีผู้สูงอายุ สมาชิกท่านอื่น ๆ ก็นอนได้เช่นกัน
โดยพื้นที่ห้องวางเตียงนอนขนาด 3 ฟุต, โต๊ะเครื่องแป้งขนาดย่อม ๆ และตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐานได้พอดี สังเกตว่าห้องนี้เราได้ช่องแสงมาเยอะมาก มองออกไปได้วิวสวนหมดเลย แล้วก็ยังมีประตูเปิดออกไปที่สวนได้อีกด้วย
เปิดออกมาเป็นพื้นที่สวนข้างบ้าน กลายเป็นว่าห้องนี้เลยกลายเป็นห้องแบบ Garden Access เลยค่ะ จังหวะที่ไม่มีใครอยู่ข้างนอก เหมือนว่าเราได้สวนส่วนตัวเลย
คราวนี้เรามาดูทางฝั่ง Service Zone ของบ้านกันบ้าง
ในฝั่งนี้จะมีห้องน้ำรับแขกเป็น Powder Room
ห้องครัวจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ๆ เราสามารถทำเคาน์เตอร์ครัว U Shape รวมไปถึง Island กลางห้องได้แบบนี้
จากห้องครัวจะมีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับห้องซักรีด
สำหรับห้องซักรีดถูกออกแบบมาให้มี Skylight เช่นกัน ตากผ้าในห้องได้ แล้วยังวางพวกเครื่องซักผ้า และอุปกรณ์ซักรีดได้ด้วย
จากห้องซักรีดเปิดประตูออกไปทางฝั่งหลังบ้านจะเป็นโซนซักล้าง เชื่อมต่อกับห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้านแยกส่วนจากเจ้าของบ้าน โดยการวางผังจะทำให้ห้องแม่บ้านอยู่ค่อนมาทางฝั่งหน้าบ้านติดกับโรงจอดรถ เวลาที่มีคนมาส่งพัสดุ, ส่งแก๊ส หรือเวลาที่ซื้อของเข้าบ้าน ก็สามารถเรียกให้แม่บ้านช่วยจัดการได้ง่าย
เราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ
บ้านบนชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Family Area, ห้องพระ และห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดย Family Area และห้องพระจะเชื่อมต่อกับพื้นที่โถงทางเดินแบบเปิดโล่ง
Family Area วางเปียโนและโซฟาสำหรับพักผ่อน เป็นมุมนั่งฟังดนตรีสบาย ๆ
พื้นที่ห้องพระ หรือจัดเป็นชั้นวางหนังสือ
เรามาดู Master Bedroom กันก่อนค่ะ ขนาดใหญ่กว่าแบบบ้าน Milano อีกนะคะ
วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆ ฝั่งปลายเตียงเราเพิ่มสตูลหรือโซฟาสำหรับนั่งดูทีวีได้ เป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวในห้อง
พื้นที่ที่เหลือในห้องติดกับห้องน้ำส่วนตัว จัดเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้ ทำชั้นวางกระเป๋า และทำ Island เก็บเครื่องประดับยังได้เลยค่ะ
สำหรับ Master Bathroom จะอัปเกรดการตกแต่งและสุขภัณฑ์ให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น พื้นที่ก็มีขนาดใหญ่มากขึ้นเช่นกัน
การแบ่งการใช้งานก็เป็นสัดส่วนดีทั้งในส่วนของโถสุขภัณฑ์และโซน Shower
ที่เพิ่มขึ้นมาก็คืออ่างอาบน้ำแบบฝังขนาดสามารถนอนแช่ได้ 1 คนพอดี
พื้นที่ของห้องนอน 2 เรียกว่าเป็น Second Master Bedroom ได้เลยค่ะ เพราะใช้พื้นที่ยาวจากหน้าบานถึงหลังบ้านเหมือนกัน
โดยฝั่งหน้าบ้านจัดเป็นโซนพักผ่อน วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตและโต๊ะข้างได้สบาย
ส่วนฝั่งหลังบ้านติดกับห้องน้ำจัดโต๊ะเครื่องแป้งและ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้แบบนี้
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนตัว
ส่วนห้องน้ำ 3 ก็มีขนาดใหญ่ขึ้นมาเหมือนกันค่ะ
เป็นพื้นที่ห้องที่วางเตียง 5 ฟุตได้ลงตัว แล้วยังเหลือพื้นที่แบบสบาย ๆ
อีกฝั่งวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน และทำตู้ Built-in รูปตัว L หน้าห้องน้ำได้
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนตัว จะมีแปลนคล้ายตัว L ค่ะ
:::: ราคา (ธันวาคม 2565) ::::
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://home.frasersproperty.co.th/
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ Grandio 2 วิภาวดี-รังสิต มีจุดเด่นตรงที่ มีทำเลที่ใกล้ถนนใหญ่พหลโยธิน เข้า-ออกได้ทั้งจากฝั่งพหลโยธินและฝั่งรังสิต-นครนายก ใกล้จุดขึ้นทางด่วน ส่วนรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ก็เปิดให้ใช้บริการกันแล้ว จึงสามารถเดินทางได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นการใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ แถมโครงการยังอยู่ใกล้ Hub ใหญ่อย่าง Future Park รังสิต ซึ่งเป็นตัวช่วยส่งเสริมการใช้ชีวิตให้มีความสะดวกสบาย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้ถนนพหลโยธินนั้นเป็นหลัก เชื่อมกับถนนวิภาวดี-รังสิต ใช้สำหรับการวิ่งเข้า-ออกเมืองในย่านนี้ สามารถใช้ลงไปทางดอนเมืองจนไปถึงห้าแยกลาดพร้าวและโซนจตุจักรได้ โดยมีจุดขึ้นทางพิเศษอุตราภิมุขหรือดอนเมืองโทลล์เวย์ใกล้กับโครงการ ใช้วิ่งตรงเข้าเมืองฝั่งพระราม 9 ได้เลย หรือจะเลือกออกถนนรังสิต-นครนายกขึ้นวงแหวนฝั่งตะวันออกก็ได้ ใช้เป็นทางหนีทีไล่ได้ดี
การเดินทางโดยรถสาธารณะ โซนนี้มีรถสาธารณะวิ่งผ่านเยอะ และมีคิวรถตู้ขนาดใหญ่อยู่ที่หน้าห้าง Future Park รังสิต ที่สำคัญเลยก็คือ รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต รวมไปถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิด-คูคต ก็ได้เปิดให้ใช้บริการกันไปแล้ว ตรงนี้ช่วยส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะของทำเลนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ ตัวโครงการเป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้น ในสไตล์ Modern European ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Grandio อยู่แล้ว ภาพรวมของโครงการดูหรูหรา เอาใจคนที่ชอบบรรยากาศในสไตล์ยุโรป โครงการมีความเป็นส่วนตัวเพราะรองรับเพียง 112 ครอบครัวเท่านั้น
บ้านของโครงการให้พื้นที่ใช้สอยมาค่อนข้างเยอะเลยค่ะ เน้นการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านให้กว้างขวางและโอ่อ่า แม้แต่ห้องครัวก็ให้พื้นที่มากว้างพอ สะดวกในการทำอาหาร มีห้องซักรีดแยกส่วนมาให้เป็นสัดส่วน ห้องนอนแต่ละห้องวางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัว ยิ่งเป็น Master Bedroom จะกว้างเป็นพิเศษ ที่สำคัญคือเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำให้ใช้ในตัว ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ห้องน้ำมีความหรูโดดเด่น เพราะมีการคัดสรรกระเบื้องหลายชนิดมาใช้ตกแต่ง อัปเกรดขึ้นมาจากโครงการก่อน ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นบ้านที่ใส่ใจต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เพราะนอกจากจะเป็นบ้านที่โปร่ง รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดีแล้ว ยังมีระบบ Frasers Clean & Cool Air ที่ช่วยเพิ่ม Fresh Air ภายในบ้าน กรองแบคทีเรียและ PM 2.5 ภายในบ้านให้อีกด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย มีให้อย่างครบครัน ออกแบบมาได้สวยงามดูหรูหราในสไตล์ European ทั้งตัวอาคารคลับเฮาส์ ฟังก์ชันการใช้สอยภายในอย่าง ห้องฟิตเนส, Co-Working Space และสระว่ายน้ำ รวมไปถึงสวนพักผ่อน ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยจะมีกล้องวงจรปิดติดรอบโครงการ, การเข้า-ออกโครงการจะต้องผ่านป้อมยาม, รั้วอัตโนมัติ, ระบบ Easy Pass และภายในบ้านยังมีระบบ Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
TEL : 065-504-9111
WEBSITE : https://home.frasersproperty.co.th/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น