พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ ที่อยากมีบ้าน ฟังทางนี้…อาชีพอิสระอย่างเรา กู้เงินซื้อบ้าน ก็ผ่านได้นะ!!!
อยากซื้อบ้าน…แต่ไม่มีงานประจำทำไงดี ? เดี๋ยวนี้ Social Network เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันเรามากมาย รวมไปถึงการขายของออนไลน์ก็ด้วย พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์บางคน ขายของจนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ บางคนนี่ มีรายได้มากกว่า มนุษย์เงินเดือน หรือ กิจการที่มีหน้าร้านอีกด้วยนะ แต่…ประเด็นนี้ก็ต้องเกิดขึ้นค่ะ
หากพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ต้องการทุ่มซื้อของชิ้นใหญ่ๆ อย่างเช่น บ้าน หละ จะทำไงดี เนื่องจากเป็นอาชีพอิสระ จะขอกู้ธนาคารแต่ละที มันลำบากยากเย็นเสียเหลือเกิน
แต่….ก็อย่าเพิ่งถอดใจกันไปนะคะ เรามีเคสจาก คุณ HappyAries สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เค้าเป็นแม่ค้าออนไลน์เต็มตัว ที่เพิ่งผ่านการกู้ซื้อบ้านมาหมาด ๆ มาแบ่งปันให้คนทำอาชีพอิสระ ได้อ่านและเก็บไว้เป็นแนวทางกัน ตามมาทางนี้ แล้วไปศึกษาขั้นตอนกันได้เลย ….
สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากมาแชร์เรื่องการกู้เงินซื้อบ้านของอาชีพขายของออนไลน์ค่ะ แต่คิดว่าใช้ได้กับอาชีพอิสระทุกอาชีพนะคะ เราได้อ่านมาจากในพันทิปเยอะ เลยอยากแบ่งปันประสบการณ์คืนให้บ้างค่ะ ^^ ก่อนที่จะเล่า เราขออธิบายให้ฟังก่อนว่า ที่มาของรายได้ของเรามีอะไรบ้าง ภาระของเรามีอะไรบ้าง เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันค่ะ
เราขายของออนไลน์กับแฟนเต็มตัว เป็นธุรกิจหลักของเราเลย และขายผ่านหน้าเว็บเท่านั้น (มีทางหน้าร้านนิดหน่อยประมาณ 5% ของรายรับทั้งหมด) และไม่ว่าลูกค้าจะโทรมาสั่ง หรือทักไลน์ หรือแชทมาทาง FB เราเอาลงตะกร้าให้ลูกค้าหมดเลยค่ะ (ตรงนี้สำคัญในตอนหลังๆ เลยต้องบอกค่ะ)
รายได้ขอแยกเป็นดังนี้นะคะ :
รายได้ของร้านก่อนหักค่าใช้จ่ายเรามีประมาณหนึ่ง (เราแก้ไขเอาตัวเลขออกนะคะ เพราะคนทักเยอะจัง = =)
ระยะเวลาในการขายของออนไลน์ : ประมาณ 8-9 เดือนเท่านั้น (เป็นจุดด้อยที่สุด)
ชื่อที่ใช้กู้ซื้อบ้าน : ชื่อแฟนเราคนเดียว ไม่ได้กู้ร่วม เพราะชื่อเราติดแบลคลิส (ที่เราไม่ได้เป็นคนทำ) และด้วยเหตุนี้เราเลยวางแผนการเงินของเราให้เดินที่บัญชีของแฟนทั้งหมด ก็เลยใช้ชื่อแฟนซื้อคนเดียวไปเลยค่ะ
ภาระการผ่อนชำระของแฟนมีอะไรบ้าง : ผ่อนรถเดือนละ 8,000 บาท (เพิ่งผ่อนไม่กี่เดือน) และผ่อนคอนโดเดือนละ 4,000 บาท (อันนี้คุณพ่อเค้าเป็นคนผ่อน ขอยืมชื่อแฟนเราไปใช้ซื้อเฉยๆ ค่ะ)
บ้านที่เราทำเรื่องกู้ : บ้านมือหนึ่ง ทาวเฮ้าส์ 21.6 ตรว. 3 ชั้น ราคาบ้านอยู่ที่ 3.89 ล้าน แต่เซลล์ยื่นกู้ไปให้ประมาณ 4.3 ล้าน เราเลือกผ่อนแบบ 30 ปี ก็จะอยู่ที่เดือนละราวๆ 2X,XXX
***ที่เราแจ้งเงินเดือนเรากับแฟนให้ได้ทราบก็เพราะอยากให้เห็นว่าเรา 2 คนเลือกราคาที่เราพอรับได้แบบสบายๆ ไม่ตึงมาก และหากมีปัญหาก็สามารถดึงเงินเก็บมาใช้ได้ค่ะ
โดยขั้นตอนการกู้ เราให้ทางโครงการเป็นคนดูแลให้ เค้าเลือกยื่นให้ 3 ธนาคาร คือ สีส้ม สีน้ำเงิน และสีม่วง (จริงๆ เราอยากให้ยื่นสีชมพูกะธอส. ด้วยแต่สุดท้ายมีปัญหานิดหน่อยก็ไม่ได้ยื่นค่ะ) และเราได้ไปลองคุยกับ ธอส. เอง ปรากฎว่าเค้าบอกว่าเคสของเราค่อนข้างยาก เพราะขายของมาได้ไม่ถึงปี (เค้าจะเอาย้อนหลัง 2 ปี) และไม่มีใบจดทะเบียนการค้า (เราเพิ่งไปจดมาไม่ถึงเดือน ณ ตอนที่ยื่นกู้) คือ จนท.พูดเลยว่าเค้าไม่ค่อยรับเคสนี้ ผ่านยาก และเค้าแนะนำว่าให้โครงการยื่นให้จะมีโอกาสผ่านมากกว่า เราก็เลยตามนั้นก็ได้
เอกสารที่ใช้ยื่น เราก็เก็บข้อมูลจากในพันทิปนี่หล่ะ เก็บข้อมูลมานาน เลยค่อนข้างเก็บได้ครบหมด เอกสารที่เราใช้ยื่นมีตามนี้
– รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน ทุกธนาคาร
– ใบปริ๊นหน้าเว็บไซต์ และ หน้า fanpage จริงๆ เค้าขอแค่หน้าเว็บแหล่ะ แต่เรายื่นหมดอ่ะ เยอะไว้ก่อนเป็นดี เพราะแฟนเพจเราตอนนั้นยอดไลค์จะสองแสนแล้วด้วย เลยต้องส่งไป 555 (ตอนนี้สามแสนกว่าไลค์แล้วค่ะ ขออวดหน่อย 555)
– ปริ๊นหน้าเอกสารการจดโดเมนเนม (จริงๆ ถ้าได้เป็นทะเบียนพาณิชย์อิเลคโทรนิคส์ได้จะดีมาก แต่ของเรามันจดไปแค่เดือนเดียวเองเลยขอส่งเอกสารการจดโดเมนไปแทน เพราะจดโดเมนมานานกว่า)
– รูปถ่ายสต๊อคสินค้า รูปถ่ายหน้าร้าน รูปถ่ายกล่อง ปณ. ที่ส่งให้ลูกค้า (จริงๆ เค้าขอแค่รูปถ่ายสต๊อคสินค้ากับหน้าร้าน แต่เราแอบยื่นรูปถ่ายกล่องปณ. ไปด้วย ปกติวันที่มีส่งเยอะๆ 1-200 ออร์เดอร์เราถ่ายเก็บไว้อยู่แล้ว ก็เลยเอามาใช้ซะ)
– ใบเสร็จรับเงินของลูกค้า เราว่าตรงนี้สำคัญมากนะ เราเคยอ่านเจอของท่านนึง เค้าแนะนำว่าให้ปริ๊นตรงนี้ส่งไปด้วย กระทู้นี้เป็นจุดเปลี่ยนของเราเลย ทำให้เราย้ายการสั่งของมาไว้ที่หน้าเว็บทั้งหมด (อันนี้คือเหตุผลที่เราลงตะกร้าสินค้าให้ลูกค้าทุกคนค่ะ) เพราะเราจะออกใบเสร็จให้ลูกค้าทุกคนที่สั่งกับเรา เพื่อการนี้โดยเฉพาะเลย ออกให้ลูกค้า 1 ใบ เก็บไว้ 1 ใบ
***เพิ่มเติมเรื่องใบเสร็จ :
ถามว่าต้องให้ใบเสร็จไปเยอะแค่ไหน คำตอบคือให้เยอะได้เท่าไหร่ก็ให้ไปเถอะ ตอนแรกเรายื่นไปแค่ 10-20 ใบ เพราะขี้เกียจถ่ายเอกสาร (บิลของเรายาวๆ เป็นกระดาษความร้อนเหมือนเซเว่นเลย ก็เลยต้องถ่ายเอกสารส่งให้เค้า) แต่ท้ายสุดทางธนาคารก็มาขอเพิ่มอยู่ดีเพราะยอดที่ลูกค้าโอนเข้าธนาคารมันไม่มีที่มาที่ไป เค้าก็เลยต้องมาขอเพิ่ม เราเลยไปงัดของเก่าเก็บ 4 เดือนที่แล้วมาให้ คือให้ตัวจริงไปเลย มันเยอะมากจริงๆ เป็นหลายร้อยใบ ขี้เกียจถ่ายมากๆ (ขออธิบายเพิ่มเติมหน่อยค่ะ ที่เราให้ตัวจริงไปเลยเพราะแบงค์ม่วงมาขอแค่แบงค์เดียว อีกสองแบงค์เค้าขอเอกสารเพิ่มเติมไปแล้วและอยู่ในขั้นตอนพิจารณา และแบงค์ม่วงเนี่ยเป็นแบงค์ที่เข้ามาขอเอกสารเป็นแบงค์สุดท้าย เราก็คิดว่าคงไม่มีแบงค์ไหนมาขอแล้ว ก็เลยให้ไป แต่สุดท้ายเค้าก็เอามาคืนค่ะ)
– ใบสั่งซื้อของต่างๆ โดยปกติของที่เราขายเราก็จะนำเข้ามาจากต่างประเทศ ก่อนการซื้อขายก็จะมีใบ PI เสนอมาให้ก่อนอยู่แล้ว ตรงนี้เราก็ปริ๊นเก็บเอาไว้ทุกใบ แล้วก็ถ่ายเอกสารให้แบงค์ไปค่ะ (ส่วนนี้เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้) เราให้ไปประมาณ 4-5 ใบ แต่ยอดการสั่งซื้อก็เยอะอยู่ค่ะ
จบเรื่องการเตรียมเอกสารเท่านี้ค่ะ ต่อไปจะเป็นขั้นตอนการประเมิน ใครขี้เกียจอ่านเราขอสรุปให้เลยค่ะว่าเราผ่าน ยื่น 3 แบ้งค์ ผ่าน 1 แบงค์ค่ะ
เข้ามาแก้ไขเพิ่มข้อความขอบคุณค่ะ :
เราเพิ่งเห็นว่าขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ ดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆ ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ งืออออออออ T_T จุดประสงค์ของกระทู้นี้คืออยากให้ผู้ที่ทำงานอิสระได้ทราบว่าต้องเตรียมตัวยังไงบ้างที่จะไปกู้บ้าน
ตอนที่เราหาข้อมูลในเน็ตมันมีข้อมูลน้อยมากๆ และไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ เราก็เลยเอาของเรามาโพสเพิ่มเติมเผื่อว่าเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณ HappyAries
สนใจลงโฆษณากับทาง Homenayoo ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวันเฉลิม 086-1290293
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ
แสดงความคิดเห็น