EP.1955 รีวิว บ้านเดี่ยว อิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9 Issara Residence Rama 9
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่า วันนี้ Homenayoo จะพาคุณผู้อ่านไปชมโครงการ Issara Residence พระราม 9 บ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury จาก ชาญอิสสระ กันค่ะ
โดยโครงการตั้งอยู่ภายในย่านพระราม 9 บนถนนพระราม 9 ซอย 13 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. เดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อถนนใหญ่พระราม 9, รัชดาภิเษก, ดินแดง, ทางด่วนฉลองรัช และใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนต่อขยายจาก MRT
รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า, โรงเรียนนานาชาติ, โรงพยาบาลชั้นนำ และ Office Building มากมาย เช่น Central พระราม 9, Fortune พระราม 9, The Street รัชดา, Esplanade รัชดา, รร.อนุบาลนานาชาติเพรพ และ รพ.พระราม 9 เป็นต้น
โครงการ อิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น เป็นส่วนตัวเพียง 20 ยูนิต พัฒนาบนที่ดินประมาณ 9 ไร่ ถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical โดยบริษัท A49 บ้านดีไซน์เป็นผนังกระจกขนาดใหญ่โอบล้อมสวนกลางบ้าน เปิดรับลมและแสงแดดจากธรรมชาติ เน้นความเป็นส่วนตัว และออกแบบตามหลักของ Universal Design
โดยบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 721-1,200 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 113-209 ตร.ว. ฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน, 6-7 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 4-8 คัน ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จบางส่วนแล้วค่ะ
พร้อมพื้นที่ส่วนกลางคุณภาพครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องออกกำลังกายจาก Technogym, สระว่ายน้ำระบบเกลือความยาวถึง 25 เมตร และสวนพักผ่อนที่มีความร่มรื่น บรรยากาศภายในโครงการเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะเก็บสายไฟลงใต้ดินทั้งหมด ในราคาเริ่มต้นที่ 120 ล้านบาท* (ต.ค.64)
รายละเอียดของทำเลโครงการนี้จะดีอย่างไร สามารถเลื่อนลงไปอ่านได้เลยค่า
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิประโยชน์สูงสุด 500,000 บาท* คลิก https://charnissara.com/IssaraResidenceRama9/
สอบถามข้อมูลและโปรโมชันเพิ่มเติม ได้ที่ 095-207-9277-9
ชื่อโครงการ | อิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9 Issara Residence Rama 9 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) / Charn Issara Development |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 3 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 9-2-35 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 20 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | 113-209 ตร.ว. |
พื้นที่ใช้สอย | 721-1,200 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4-5 ห้องนอน, 6-7 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 4-8 คัน |
โซน | พระราม 9 |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ถนนพระราม 9 ซอย 13 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. 10310 |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | n/a |
ราคา | เริ่มต้น 120 ล้านบาท* (ต.ค.64) |
ค่าส่วนกลาง |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
อื่น ๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury เพียง 20 ยูนิตในสไตล์ Modern Tropical พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกคุณภาพภายในโครงการ |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนพระราม 9 ซอย 13 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. 10310
พิกัด : 13.756866, 100.588043
ทำเลที่ตั้ง โครงการตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซอย 13 เป็นทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ที่ถูกมองว่าเป็น New Hot Spot หรือย่านธุรกิจแห่งใหม่ ที่แวดล้อมด้วยออฟฟิศชั้นนำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
โดยถนนพระราม 9 ถือเป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับการเดินทาง ไปได้หลายเส้นทางเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นถนนเลียบด่วนรามอินทรา, ถนนดินแดง และถนนรัชดาภิเษก สามารถเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจอย่าง อโศก สุขุมวิท ทองหล่อ เอกมัย สาทร สีลม ได้ง่าย จะออกไปขึ้นมอเตอร์เวย์หรือไปสนามบินสุวรรณภูมิก็สะดวก
และทำเลนี้ยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link อีกด้วย ส่วนภายในซอย 13 นั้นจะเป็นลักษณะของบ้านพักอาศัย บรรยากาศจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับการพักผ่อนค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางเส้นหลัก ๆ จากโครงการต้องเป็นถนนพระราม 9 แน่นอน ซึ่งอย่างที่บอกว่าสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักอื่น ๆ ได้ทั้ง รัชดาภิเษก, ดินแดง, อโศก-ดินแดง, เพชรบุรี, อโศกมนตรี, สุขุมวิท, วิภาวดี-รังสิต, พหลโยธิน, ลาดพร้าว, ประดิษฐ์มนูธรรม ฯลฯ
ซึ่งแต่ละเส้นที่เชื่อมไปจะเป็นถนนขนาดใหญ่ วิ่งได้สะดวก แต่การจราจรนั้นก็ค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ตลอดเวลานะคะ เพราะตรงนี้เป็นชุดเชื่อมต่อระหว่าง NCBD กับ CBD ชั้นในค่ะ
ขาเข้าเมือง จากซอย 13 ให้กลับรถที่ถนนพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดที่แยกพระราม 9 ก็เข้าสู่ถนนอโศก-ดินแดงแล้วค่ะ จะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนอโศกมนตรี และยิงยาวเข้าถนนสุขุมวิทได้เลยค่ะ และจาก ถนนอโศก-ดินแดง สามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนเพชรบุรี เชื่อมไปยังย่านแห่งการสังสรรค์สุด Chic อย่าง ทองหล่อ-เอกมัย ได้ง่ายด้วย
ส่วนขาออกนอกเมือง จากแยกพระราม 9 จะสามารถเชื่อมสู่ถนนดินแดงต่อไปยัง พหลโยธิน, วิภาวดี-รังสิต, ลาดพร้าว หรือไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม, รามคำแหง สามารถไปถึงห้าแยกลาดพร้าว, ประชาชื่น หรือบางกะปิได้ไม่ยาก ซึ่งแต่ละเส้นที่เชื่อมไปจะเป็นถนนขนาดใหญ่ค่ะ วิ่งได้สะดวก
ทางด่วน ด้วยความที่ทำเลของโครงการนั้นอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนหลายจุด อย่างจุดแรกจะเป็นทางด่วนศรีรัชด่านรามคำแหง ซึ่งจะเชื่อมต่อกับทางด่วนอีกหลายสาย ทั้งทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปได้ทั้งทางปากเกร็ด, รังสิต และโซนพระราม 2
และอีกจุดค่ะคือจุดขึ้นทางด่วนฉลองรัช เชื่อมต่อไปยัง ทางพิเศษบูรพาวิถี และมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่) ไปทางบางนา, สุวรรณภูมิ หรือวิ่งออกชลบุรี ได้สะดวกอีกเช่นกันค่ะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ทำเลนี้อยู่ใกล้ศูนย์รวมด้านการคมนาคมของกรุงเทพฯ มีการเชื่อมต่อถนนสายหลักหลายเส้น บนถนนเส้นหลักจึงทำให้มีรถสาธารณะหลายสายวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังอยู่ใกล้จุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง 10 สาย ไม่ว่าจะเป็น BTS, MRT หรือ Airport Link
ที่สำคัญเลยก็คือ มีส่วนต่อขยายของ MRT เป็นรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านใกล้หน้าปากซอยโครงการ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าของที่ดินทำเลนี้ให้สูงขึ้นไปอีกค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ นับว่าเป็นทำเลที่มีความหลากหลายในแง่ของการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ เพราะมีครบทั้งเรื่อง แหล่งชอปปิง, แหล่งท่องเที่ยว, แสงสีเสียง และอาหารการกิน เนื่องจากมี Demand ของผู้คนจากอาคารสำนักงาน, คอนโดมิเนียม และบ้านพักอาศัยอยู่สูงมาก
ใกล้แยกพระราม 9 ถือเป็น Prime Zone ของย่านนี้เลยค่ะ เพราะจะเป็นที่ตั้งของโรงแรม, ห้างใหญ่ และอาคารสำนักงาน เพราะเป็นย่าน NCBD ที่เชื่อมต่อกับ CBD ชั้นในอย่างอโศกและสุขุมวิท ไม่ว่าจะเป็น Fortune Town, Central พระราม 9, RS Tower, AIA, SET, True Tower, อาคารไทยประกันชีวิต, สถานฑูตจีน, Bangkok Midtown อีกทั้ง G Tower, The Nine Tower และ Unilever เป็นต้นค่ะ
มองบนเส้นรัชดาภิเษกก็มีห้างใหญ่ ๆ อยู่หลายห้าง ทั้งแบบที่เป็น Life Style เฉพาะตัวอย่าง The Street ภายในมีร้านค้าที่เปิดตลอด 24 ชม. ข้าง ๆ กันมี Big C Extra เป็น Hypermarket เหมาะสำหรับซื้อของเข้าบ้าน ตรงข้ามกับ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมมี Esplanade และตลาดนัดรถไฟ หรือไม่ไกลจากโครงการตรงเลียบด่วนรามอินทราก็มี Golden Place เป็น Supermarket ที่ไปได้สะดวก
อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยสถานบังเทิง และอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลและสถานศึกษา เช่น รพ.พระราม 9, รพ.กรุงเทพ, รพ.ปิยเวช, รร.นานาชาติโชรส์เบอรี่ รวมถึงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กันกับ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน เรียกว่าในทำเลเดียวครอบคลุมครบทุกด้านเลยค่ะ
และในอนาคตอันใกล้นี้ พื้นที่สีเขียวแปลงใหญ่บริเวณ แอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน 497 ไร่ กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรียกว่าโครงการยักษ์ระดับประเทศที่เคยพับเอาไว้ได้ถูกรื้อกลับมาอีกครั้งกับโครงการ “มักกะสันคอมเพล็กซ์” ที่คราวนี้มาในเวอร์ชันของ คสช. (ซึ่งกลุ่มนายทุนมาริน่าเบย์แซนด์ที่ทำคาสิโนยักษ์ที่สิงคโปร์ก็อยากได้ที่ดินตรงนี้เช่นกัน อ่านรายละเอียดเพิ่มได้ ที่นี่ ), ขอบคุณภาพประกอบจาก Realist
โดยจะแบ่งที่ดินมักกะสันเป็น พิพิธภัณฑ์ 30 ไร่ สวนสาธารณะ 150 ไร่ พื้นที่ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ 140 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 177 ไร่ จะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในอนาคตนะคะ ก็คือยังไงฝั่งตรงข้ามนี่มีสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และอาคารเชิงพาณิชย์มากมายแน่นอน ก็ถือว่าเป็นทำเลที่เหมาะจะเก็งกำไรในการขายและอยู่อาศัยเองที่มีศักยภาพและหาได้ยากทีเดียว เพราะที่ดินย่านนี้โดยรอบก็ถูกจับจองเกือบหมดแล้ว และราคาก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เพราะในอนาคตจะมีสวนสาธารณะมักกะสันซึ่งมีความน่าจะเป็นว่าเป็น Landmark อีกจุดหนึ่งของกรุงเทพฯ ในอนาคตอยู่นั่นเอง
อีกจุดหนึ่งติดแยกเพชรบุรี ห่างโครงการไปประมาณ 1.1 กม. มีโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ (Singha Complex) ซึ่งเป็น Community Mall + Office Mix Use ขนาดยักษ์ที่มูลค่าลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ภายในประกอบด้วย อาคารสำนักงาน, Concert Hall, Shopping Mall, โรงแรม และ คอนโดมิเนียมภายในตัว
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
อื่น ๆ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
เรามีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาให้ชมกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนประดิษฐ์มนูธรรม > ถนนพระราม 9 > ซอยพระราม 9 ซอย 13 > Issara Residence พระราม 9
เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบด่วนรามอินทรามุ่งหน้าไปทางเอกมัย ให้เราชิดขวาแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 9 เพื่อมุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9 ค่ะ
เราวิ่งบนถนนพระราม 9 มุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9
สักพักให้เราชิดขวาแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยพระราม 9 ซอย 13 ค่ะ
จากถนนพระราม 9 ตรงเข้าไปภายในซอย 13 ประมาณ 400 เมตรก็จะถึงโครงการแล้ว
บริเวณหน้าปากซอยจะมี 7-11 เป็นจุดสังเกต และมีป้ายบอกทางไปโครงการติดอยู่ด้วย
ซึ่งภายในซอย 13 นี้จะเป็นลักษณะของบ้านพักอาศัยค่ะ มีรถวิ่งผ่านตลอดแต่ก็ยังได้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัว
พอตรงเข้ามาประมาณ 400 เมตร เราก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการ Issara Residence พระราม 9 อยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่า
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ภายในซอยพระราม 9 ซอย 13 ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยของคนที่อยู่ในทำเลนี้มาแต่เดิมค่ะ นอกจากนั้นก็จะมีอาคารต่าง ๆ ซึ่งก็จะสูงไม่เกิน 6 ชั้น ทิศเหนือ ติดกับ ทาวน์โฮมสูง 4 ชั้น ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินบุคคลอื่น ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยพระราม 9 ซอย 13 ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินบุคคลอื่น
เรามาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะ เริ่มจากฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็นอาคารสูง 4-5 ชั้น
หันไปทางฝั่งซ้ายมือ มุ่งหน้าเข้าไปภายในซอย ทางนี้จะสามารถเชื่อมต่อไปออกถนนเทียมร่วมมิตรและถนนประชาอุทิศได้ด้วย
ติดกับโครงการจะเป็นทาวน์โฮมสูง 4 ชั้นและอาคารพาณิชย์ค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในซอยก็จะเป็นบ้านเดี่ยวและอาคารต่าง ๆ สลับ ๆ กันไป
คราวนี้เราหันไปทางฝั่งขวามือ มุ่งหน้าออกไปถนนพระราม 9
ซึ่งติดกับโครงการก็จะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
นอกจากนี้ภายในซอยก็ยังมีคลินิกเสริมความงามดูแลรักษาด้านผิวพรรณเปิดให้บริการใกล้ ๆ ด้วยค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
ลักษณะของโครงการนี้จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 20 ยูนิต พัฒนาบนที่ดินประมาณ 9 ไร่ ด้วยความที่เป็นโครงการระดับ Super Luxury ทางโครงการก็อยากคงความสะดวกสบายให้ลูกบ้านได้ในทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดคลับเฮาส์ขนาดใหญ่มาให้ด้วย ซึ่งถือว่าหาได้ยากมากสำหรับโครงการที่มียูนิตน้อยแบบนี้
แต่ด้วยพื้นที่โครงการที่มีอยู่จำกัด ทาง A49 เลยรวมซุ้มทางเข้าโครงการและคลับเฮาส์ไว้ด้วยกัน เลยได้ซุ้มทางเข้าโครงการขนาดใหญ่แบบนี้ ที่เห็นแล้วก็รู้เลยว่าเป็นโครงการบ้านระดับร้อยล้าน
ซึ่งการเข้า-ออกโครงการจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย ผ่านป้อม รปภ., กล้อง CCTV และรั้วอัตโนมัติ ด้วยระบบ RFID ค่ะ
นอกจากนี้ที่ป้อม รปภ. ยังมีกล้อง CCTV ที่เชื่อมต่อกับระบบ VDO Door Phone ภายในบ้าน ให้ลูกบ้านสามารถอนุมัติแขกก่อนเข้าพบได้ค่ะ
โดยทั่วไปตามโครงการอื่น ๆ ตรงประตูรั้วที่แบ่งเอาไว้ให้สำหรับคนเข้า-ออกจะสามารถผลักเข้าไปได้เลย แต่โครงการนี้จะมี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุดค่ะ
พอเราเข้ามาด้านในโครงการแล้ว จะเห็นว่าที่ดินของโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ๆ ไปกับถนน ทางโครงการเลยเลือกวางผังให้บ้านส่วนใหญ่หันหน้าไปในทิศเดียวกัน และเรียงกันไปตามแนวยาวของถนน เวลาเดินออกมาจากบ้านก็จะได้เป็นวิวต้นไม้ ยิ่งทำให้เราได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
เวลาเราเข้ามายืนอยู่ในโครงการนี้แล้วจะสังเกตเห็นว่าบรรยากาศภายในโครงการนี้ดูเรียบร้อยมากเป็นพิเศษ นั่นเป็นเพราะว่าหน้ากากของบ้านแต่ละแบบ จะถูกออกแบบมาให้แทบจะเหมือนกันเลย แถมพวกสายไฟฟ้าก็เอาลงใต้ดินให้ทั้งหมด
และที่มากไปกว่านั้นก็คือ พื้นถนนทั้งหมดทำเป็น Stamped Concrete และยังลงเสาเข็มให้ด้วย! ตรงนี้เขาทำเพื่อไม่ให้พื้นถนนทรุดจากตัวบ้าน ทำให้โครงการคงสภาพความเรียบร้อยได้ในระยะยาว โดยถนนมีความกว้างอยู่ที่ 9 เมตร เป็นระยะที่รถขับสวนกันได้สบาย ๆ ค่ะ
สำหรับสไตล์ที่ทาง A49 เลือกใช้ออกแบบก็คือสไตล์ Modern Tropical ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสไตล์ตอบโจทย์ประเทศที่มีอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรานี้แหละ ตั้งแต่ซุ้มทางเข้าโครงการ, คลับเฮาส์ และตัวบ้านเอง จะใช้สไตล์นี้ทั้งหมด ซึ่งดูแล้วจะให้ความสงบและความ Homey จากการดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ เน้นการวัสดุแบบพวกระแนงไม้และการใช้แสงธรรมชาติ
แต่ที่เห็นเป็นระแนงสีน้ำตาลตรงอาคารคลับเฮาส์นี้จะไม่ใช่ไม้นะ เขาเลือกใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมที่ทำเลียนแบบลายไม้ เพราะมีความคงทนและดูแลรักษาได้ง่ายกว่าค่ะ
การเข้า-ออกคลับเฮาส์ก็จะต้องผ่าน Digital Door Lock เช่นกัน
เริ่มจากชั้น 1 เป็นส่วนของห้องออกกำลังกาย ภายในห้องถูกออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางและโปร่งโล่ง ด้วยการออกแบบผนังทั้ง 2 ด้าน ให้เป็นกระจก Full Height ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ ภายในมีเครื่องออกกำลังกายจัดเอาไว้อย่างครบครัน ซึ่งแบรนด์ที่เขาเลือกใช้ก็คือ Technogym เป็นแบรนด์ชั้นนำจากประเทศอิตาลี
ภาพบรรยากาศภายในห้องออกกำลังกาย
นอกจากนี้ก็ยังมีพื้นที่สำหรับนั่งพักคอยและห้องน้ำจัดเอาไว้ให้
จะเห็นว่าภายในห้องนี้มีลิฟต์โดยสารอยู่ 1 ตัว สำหรับใช้ขึ้นไปยังสระว่ายน้ำบนชั้น 2 ค่ะ หรือเราจะเดินจากบันไดภายนอกขึ้นไปก็ได้เหมือนกัน
สำหรับพื้นที่บนชั้น 2 ถูกออกแบบในลักษณะของ Open Air Space ส่วนแรกเป็น Pool Deck ในร่ม มีชุดโซฟาจัดเอาไว้ให้สำหรับนั่งพักผ่อนรับลม
ส่วนสระว่ายน้ำจะเป็นสระระบบเกลือ ที่นี่ให้ขนาดใหญ่ถึง 25 x 8.5 เมตร ซึ่งโครงการอื่น ๆ ที่มีจำนวนยูนิตในหลักร้อย บางทียังไม่ได้สระใหญ่เท่านี้เลยค่ะ
และภายในสระเองมีการแบ่งสระเด็กและติดตั้ง Jacuzzi เอาไว้ให้ด้วย และเพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุด จึงมีการออกแบบกำแพงสูงล้อมรอบสระว่ายน้ำ เพื่อบังสายตาจากคนภายนอก
นอกจากนี้บนชั้น 2 ก็ยังมีห้องน้ำ, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และห้องสตีมแยกชาย-หญิงจัดเอาไว้ให้อีกฝั่งหนึ่งค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำหญิง มีการตกแต่งอย่างสวยงามและมีช่องแสงขนาดใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งไม่อับ รวมไปถึงมีการดีไซน์ระแนงช่วยบังสายตาเอาไว้ เพื่อให้รู้สึกว่ายังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่
มีอ่างล้างมือระบบ Sensor, ไดร์เป่าผม, ผ้าเช็ดตัว และตู้ Locker จัดเอาไว้ให้
อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ มีม้านั่งสำหรับนั่งพักคอย เช็ดตัว-ซับผม
ภาพบรรยากาศภายในห้องสตีม
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำชาย จะถูกจัดตกแต่งใกล้เคียงกันค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางอีกส่วนจะอยู่บริเวณท้ายโครงการนะคะ เป็นสวนพักผ่อนที่มีความร่มรื่น ด้านหน้าออกแบบซุ้มระแนงเป็นทางเดินเข้าสวน
ภายในสวนมีพื้นที่สนามหญ้าให้เด็ก ๆ วิ่งเล่นกัน หรือพาน้องหมามาเดินเล่นก็ได้
ด้านในมี Pavilion ข้างสระน้ำสำหรับนั่งพักผ่อน บรรยากาศดีเลย และใน Pavilion ยังมีห้องน้ำเตรียมเอาไว้ให้เพื่อความสะดวกสบาย ถ้าเกิดใครต้องการจะจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ในสวนนี้ก็ทำได้นะคะ สามารถแจ้งกับทางนิติบุคคลได้เลย
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
โครงการนี้มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ โดยจะปลูกบนที่ดินขนาด 113-209 ตร.ว. ดังนี้ค่ะ
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2 | แปลนบ้านชั้น 3
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2 | แปลนบ้านชั้น 3
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2 | แปลนบ้านชั้น 3
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
บ้านตัวอย่างที่เราจะพาเข้าไปชมก็คือแบบบ้าน Asher ขนาด 853 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 130 ตร.ว. ค่ะ ซึ่งบ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก และการใช้งานจริงภายใน ซึ่งจุดเด่นของสไตล์นี้ก็คือ ผู้อยู่อาศัยจะมีความผ่อนคลายและมีความสุขในการอยู่บ้าน เพราะบ้านจะมีการออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางของแดด มีการออกแบบช่องเปิดที่รับกับทิศทางของลม รวมไปถึงมี Space ภายในบ้านที่โปร่งโล่ง ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี
แปลนชั้น 1 เริ่มจากหน้าบ้านเป็นโรงจอดรถ สามารถจอดได้ 5 คันในร่ม ถัดเข้ามาก่อนเข้าตัวบ้านเป็น Courtyard พร้อมสระว่ายน้ำ จากพื้นที่เฉลียงเข้าไปในบ้านจะเป็น Foyer และ Service Core มี Powder Room, โถงลิฟต์ และโถงบันไดทางขึ้นชั้นบน ถัดเข้ามาด้านในเป็น Living Area ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร และครัวฝรั่ง
ซึ่งจาก Living Area จะมีประตูบานเลื่อนเปิดเชื่อมกับ Terrace, Courtyard และสระว่ายน้ำได้ ส่วนอีกฝั่งของบ้านจะเป็น Service Zone มีครัวไทย, ห้องนอน และห้องน้ำแม่บ้านแยกส่วนจากเจ้าของบ้านค่ะ
แปลนชั้น 2 จะเป็นส่วนของห้องนอน 3 ห้องและ Family Room อีก 1 ห้อง โดยฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ส่วนฝั่งหลังบ้านจะเป็น Master Bedroom และ Family Room ค่ะ
แปลนชั้น 3 มีการออกแบบเหมือนกับ Penthouse ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, Pantry, Powder Room และห้องนอนอีก 2 ห้องที่ฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน โดยจุดเด่นของห้องทั้ง 2 นี้ก็คือจะมีระเบียงห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ค่ะ
เริ่มจากที่หน้าบ้านจะติดรั้วเลื่อนโรงจอดรถให้แบบ 3 ตอน บานเลื่อนเป็นระแนงอะลูมิเนียมทำลายไม้ เวลาปิดบานเลื่อนทั้งหมดมองเข้าไปก็จะแทบไม่เห็นพื้นที่ด้านในแล้ว ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดีทีเดียวค่ะ
ข้างโรงจอดรถจะมีประตูเล็กสำหรับคนเดินเข้า-ออกให้ด้วย ถ้ามีแขกมากดกริ่ง ตรงนี้จะมีกล้อง CCTV ของ VDO Door Phone ติดตั้งเอาไว้ เราสามารถเปิดดูและกดปลดล็อกประตูผ่านหน้าจอควบคุมภายในบ้านหรือผ่าน Smartphone ได้เลย
เข้ามาด้านใน พื้นที่ส่วนแรกเป็นโรงจอดรถ สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 5 คันแบบไม่ต้องซ้อนกัน ทำให้สะดวกเวลาที่ต้องการขับรถออกจากบ้าน และตรงนี้ก็มีฝ้าเพดานสูงอยู่ที่ 3.3 เมตร ทำให้จอดพวกรถตู้เพดานสูงได้ โครงสร้างพื้นใช้ระบบ Slab on Beam ผิว Stamped Concrete ซึ่งผิวจะเชื่อมต่อมาจากพื้นถนนหน้าบ้านทำให้ดูเรียบร้อย Finishing ของผนังก็ใช้กระเบื้องลายหินธรรมชาติเข้ากันกับพื้น
มองไปที่ด้านข้างจะมีตู้เก็บของขนาดใหญ่ให้ ใช้เก็บของชิ้นใหญ่ ๆ ได้ค่ะ อย่างพวกอุปกรณ์ซ่อมบำรุง หรือจักรยานก็เก็บได้
พอเข้ามาด้านในแล้วความรู้สึกแรกที่ได้ก็คือความร่มรื่นและเย็นสบายค่ะ เพราะว่าเขาออกแบบผังบ้านให้เป็นรูปตัว C โดยมี Courtyard อยู่ตรงกลาง ทำให้พื้นที่สวนของเราได้ความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับการพักผ่อนและได้ใช้งานจริง ๆ เทียบกับเวลาเอาสวนไปอยู่ติดรั้วหน้าบ้าน ก็จะรู้สึกไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่
ใน Courtyard ทางโครงการเขาจะลงต้นมั่งมีต้นใหญ่ให้แบบนี้เลย ทำให้บ้านได้ความร่มรื่น และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรากจะไปทำลายโครงสร้างของบ้าน เพราะรากของเขาเป็นรากฝอย อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่ไม่ค่อยผลัดใบด้วย ทำให้ไม่ต้องคอยเก็บกวาดใบไม้บ่อย ๆ
และบ้านหลังนี้เราจะได้สระว่ายน้ำมาด้วยนะคะ เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือรูปตัว I ขนาด 18 x 3 เมตร ลึก 1.2 เมตร เป็นขนาดที่ใช้ว่ายน้ำได้จริง ส่วนพื้นที่ข้างสระจะลงต้นไทรเกาหลีให้ตลอดแนว
จะเห็นว่าพื้นที่ภายนอกทั้งหมดปูด้วยกระเบื้องที่มีพื้นผิวค่อนข้างหยาบประมาณ R10 เวลาพื้นเปียกก็จะไม่ลื่น ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ และที่สำคัญเลย บ้านของโครงการยังมีแนวคิดการออกแบบของ Universal Design เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุและคนพิการ ด้วยการออกแบบทางลาดขนานไปกับขั้นบันได ใช้เข็น Wheel Chair, รถเข็นเด็ก หรือ Grocery Cart ก็สะดวกค่ะ
สำหรับประตูทางเข้าบ้านจะใช้ประตูบานเปิดขนาดใหญ่พิเศษ เป็นบานอะลูมิเนียมพ่นสี มีความสูงถึงฝ้า เวลาจะขนของชิ้นใหญ่ ๆ เข้าบ้านก็สามารถเปิดได้ทั้ง 2 บานเลย จะมีความกว้างเกือบ 2 เมตร และที่บานประตูมี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้ สามารถใช้งานได้ถึง 5 ระบบ ทั้งการใช้ Password, Keycard, Bluetooth, การสแกนลายนิ้วมือ และการใช้กุญแจค่ะ
พื้นที่ภายในบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer ค่ะ เป็นจุด Break ก่อนเข้าสู่พื้นที่ด้านใน ช่วยเพิ่มความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวให้กับบ้าน
และก็เป็นจุดที่เหมาะสำหรับทำ Built-in ตู้เก็บรองเท้าได้แบบนี้
สำหรับพื้นที่ชั้น 1 หลัก ๆ จะเป็นส่วนของ Living Area ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร และครัวฝรั่ง ซึ่งจะถูกออกแบบมาเป็นโถงขนาดใหญ่แบบนี้ ผนังบ้านฝั่ง Courtyard จะเป็นช่องแสงขนาดใหญ่แบบ Full Height ที่สามารถเปิดรับลมได้ สังเกตว่ากระจกที่เขาเลือกใช้เป็นกระจกใส เพราะเขาอยากให้ Mood & Tone ภายในบ้านดูสวยตามสีวัสดุและเฟอร์นิเจอร์จริง ไม่ถูกย้อมด้วยเฉดเขียวแบบกระจกเขียวตัดแสง
บ้านตัวอย่างตกแต่งมาในสไตล์ Euro Harmony ได้ความเรียบหรูและอบอุ่นในแบบตะวันตก ส่วนบ้านมาตรฐานจะเป็นบ้านเปล่านะคะ ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนขนาด 80 x 80 ซม. ผนังก่ออิฐมวลเบา Q-CON ติดวอลเปเปอร์ทั้งหลัง ส่วนฝ้าเพดานของชั้น 1 จะมีความสูงอยู่ที่ 3.2 เมตร สูงกว่าบ้านทั่ว ๆ ไปพอสมควร ทำให้บ้านดูโปร่งมาก มีการติดตั้งไฟและแอร์ระบบ VRV ของ Daikin ซึ่งจะฝังในฝ้าทำให้บ้านดูเรียบร้อยน่าอยู่ค่ะ
แต่ Highlight ของพื้นที่ในชั้น 1 จะอยู่ตรงห้องนั่งเล่นค่ะ ความพิเศษก็คือการมีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume เชื่อมต่อไปถึงชั้น 2 จะมีความสูงฝ้าราว ๆ 6.9 เมตร ทำให้บ้านดูแกรนด์และยิ่งดูโปร่งมากขึ้น พื้นที่ในส่วนนี้มีขนาดใหญ่มาก จัดวางโซฟาได้หลายรูปแบบ หรือจะวางโซฟา U Shape ขนาดใหญ่ กับโต๊ะกลางก็ทำได้สบาย
ฝั่งตรงข้ามก็ Built-in เป็นชั้นวางทีวีสวย ๆ มีตู้วางของโชว์ได้เลย
ถัดมาเป็นมุมรับประทานอาหาร วางโต๊ะแบบ Long Table ขนาด 10 ที่นั่งได้แบบนี้เลยค่ะ
ด้านหลังเราจะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวแบรนด์ Bulthaup มาแบบนี้ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีดีเทลการออกแบบที่ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้เราใช้งานได้สะดวก
อย่าง Top เคาน์เตอร์จะใช้หินควอตซ์มาตรฐาน Food Grade ใช้เป็น Station วางอาหารนวดแป้งได้อย่างปลอดภัย Finishing ของหน้าบานมีความสวยงามและคงทนแข็งแรง รวมถึงสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
ภายในลิ้นชักก็จะไม่ใช้แค่ลิ้นชักเปล่า ๆ แต่เขาจะมีการออกแบบ Accessories ให้เราจัดเก็บของได้ง่ายและเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
ฝั่งด้านหลังจะมีอ่างล้างจานฝังมาให้ขนาด 1 หลุม ซึ่งระบบน้ำภายในบ้านจะเป็นระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นทุกจุด เพราะมีการติดตั้ง Air Source Heat Pump หม้อใหญ่มาให้ ซึ่งจะทำให้น้ำร้อนมีอุณหภูมิคงที่ และช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า และมีการใช้ท่อเขียว PPR ที่มีความคงทนแข็งแรงในงานระบบด้วย
นอกจากนี้ก็จะมีพวกเตาอบ-เตาไมโครเวฟ, Induction Hob และ Hood ของ Bosch ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานค่ะ
ทางฝั่ง Courtyard จะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยัง Terrace ขนาดใหญ่ข้างสระได้ เป็นพื้นที่ที่เราสามารถวางชุดโซฟาสำหรับนั่งจิบชา หรือใช้จัด Pool Party ได้ ที่นี่เขาดีไซน์ทุกอย่างมาให้เราพร้อมแล้ว เขาให้สระว่ายน้ำเรามา เขาก็มีโซน Shower ให้สำหรับล้างตัวก่อนลงสระด้วย
ช่องแสงหลัก ๆ ของบ้านจะอยู่ทางฝั่ง Courtyard เพื่อให้พื้นที่ภายในบ้านมีการเชื่อมต่อกับสวนภายนอกให้มากที่สุด และผนังบ้านของเพื่อนบ้านข้าง ๆ ที่ติดกับ Courtyard ของเรา จะทำในลักษณะของ Service Zone ที่มีช่องเปิดน้อย ทำให้เรามองไม่เห็นเพื่อนบ้าน และเพื่อนบ้านก็มองไม่เห็นเรา เลยได้ความเป็นส่วนตัวจริง ๆ ค่ะ
สำหรับ Service Zone จะถูกแยกไปอยู่อีกฝั่งของตัวบ้านนะคะ
โดยจะมีพื้นทางเดินเป็นทางลาดลงไป ทำให้สะดวกเวลาที่ต้องใช้รถเข็นของ อีกทางที่ใช้เข้ามาในโซน Service ได้ก็คือประตูจากที่จอดรถค่ะ ในส่วนนี้จะประกอบด้วยโซนซักล้าง, ครัวไทยแบบเปิด, มีห้องนอนของแม่บ้าน 2 ห้อง และห้องน้ำอีก 1 ห้องแยกส่วนจากเจ้าของบ้าน
ทางฝั่งซ้ายมือคือห้องแม่บ้าน 2 ห้องแน่ห้องน้ำแยก 1 ห้อง ส่วนทางขวาคือครัวไทย
ในส่วนของครัวไทยเราก็จะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวมาพร้อมใช้งานแบบนี้เลยค่ะ
มาพร้อมเตาปรุงอาหารและเครื่องดูดควันจาก Mex
อ่างล้างจานขนาด 2 หลุมจาก Mex เช่นกัน
เรากลับมาที่ฝั่งหน้าบ้านบริเวณ Foyer นะคะ ตรงนี้จะเป็นโถงลิฟต์ มีลิฟต์สำหรับขึ้นชั้นบน มีโถงบันได และมีห้องน้ำแขกหรือว่า Powder Room ซึ่งเขาออกแบบให้พื้นที่ส่วนนี้อยู่ติดกับ Foyer ก็เพราะว่า ถ้าสมาชิกท่านอื่นกำลังรับแขกอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เราสามารถเลี่ยงขึ้นชั้นบนได้เลยโดยไม่ต้องไปรบกวนแขก หรือถ้าใครอยากรีบเข้าห้องน้ำเวลาถึงบ้านก็สะดวก
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน ที่นี่จะมีระบบ Magnetic Sensor ติดเอาไว้ที่ประตู-หน้าต่างบ้านชั้น 1 ทุกบาน มีระบบ Motion Sensor ติดเอาไว้ที่บริเวณโถงลิฟต์ทุกชั้น และยังมีกล้อง CCTV ติดตั้งมาให้ที่เฉลียงทางเข้าบ้าน 1 ตัว และที่ฝั่งหลังบ้าน 2 ตัว
ถ้าเกิดมีการงัดแงะประตู-หน้าต่างบ้าน หรือมีการเคลื่อนไหวบริเวณโถงลิฟต์เวลาที่เราไม่อยู่บ้าน ก็จะมี Alarm ดังขึ้นมา และมี Notification แจ้งเตือนไปที่ Smartphone ของเราค่ะ
ภายใน Powder Room ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน สุขภัณฑ์ใช้ของแบรนด์ TOTO ทั้งหมด
อ่างล้างมือเป็นแบบฝังครึ่งเคาน์เตอร์ ติดตั้งมาพร้อมกระจกเงา และก๊อกน้ำจากแบรนด์ Grohe
ส่วนโถสุขภัณฑ์เลือกใช้รุ่นที่มีขนาดใหญ่นั่งสบาย มาพร้อมกับ Accessories ประกอบการใช้งานค่ะ
สำหรับบันไดทางขึ้นชั้นบนจะใช้โครงการสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค มีราวจับแบบฝังผนัง Flight ของบันไดมีความกว้างที่เราเดินสวนกันได้สะดวก
ส่วนลิฟต์ภายในบ้านจะใช้ของ Mitsubishi ที่เลือกใช้แบรนด์นี้ก็เพราะช่วยประหยัดพลังงานได้ดี และที่สำคัญก็คือมีบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ขนาดลิฟต์ที่ใช้สามารถรองรับรถเข็นได้ 1 คันและผู้ดูแลได้อีก 1 คนพอดี
การขึ้น-ลงบ้านเป็นเรื่องปกติที่เราทำทุกวัน เขาเลยออกแบบให้โถงทางเดินมีผนังกระจกขนาดใหญ่เพื่อรับวิวสวน ในการออกแบบบ้านที่นี่จะมี Signature ของ A49 อยู่ด้วย นั่นก็คือการออกแบบเสาในบ้านให้เป็นเสากลม ตรงนี้เขามองว่าเสาภายในบ้านควรจะลดพวกเหลี่ยมมุมลงเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และยังดึงเสาเข้ามาไว้ภายในโถง เพื่อให้สามารถทำผนังกระจกบานใหญ่เชื่อมต่อกันเป็นแผ่นเดียวได้ มองออกไปก็ไม่มีโครงสร้างของบ้านมาบังวิวค่ะ
สำหรับพื้นที่ชั้น 2 จะแบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้องและ Family Room อีก 1 ห้อง เพื่อให้เหมาะสำหรับการพักผ่อน ตั้งแต่ชั้น 2 จะปูพื้นด้วย Engineering Oak Wood ส่วนฝ้าเพดานมีความสูงที่ 2.9 เมตร ซึ่งก็ถือว่าโปร่งแล้วค่ะ
เราเดินไปฝั่งหลังบ้านกันก่อนนะคะ ตรงนี้จะเป็นพื้นที่โถงที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นชั้นล่าง เพื่อให้พื้นที่ยังรู้สึกว่าเชื่อมต่อกันเลยใช้ Tempered Glass เป็นราวกันตก เก็บขอบด้วยอะลูมิเนียม ซึ่งพื้นที่โถงตรงนี้ยังสามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นเล็ก ๆ ได้อีก 1 มุม
ฝั่งหลังบ้านนี้จะเป็นส่วนของ Family Room และ Master Bedroom จริง ๆ แล้วในบ้านมาตรฐานจะไม่มีประตูบานนี้ และตรงผนังกระจกด้านขวาจะเป็นราวกันตกเหมือนฝั่งนี้ แต่บ้านตัวอย่างต่อเติม Family Room ให้กลายเป็น Walk-in Closet ของ Master Bedroom ให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
เข้ามาด้านใน เขาตกแต่งให้พื้นที่ส่วนแรกเหมือนเป็น Bedroom Foyer ด้วยการวางคอนโซลและโคมไฟตกแต่ง แต่จริง ๆ แล้วทางโครงการได้เตรียมระบบน้ำ-ไฟมาให้พร้อม ทำเป็น Pantry และ Mini Bar สำหรับชั้น 2 ได้เลย
และนี่ก็คือไอเดียการตกแต่ง FamilyRoom ให้เป็น Walk-in Closet เพราะคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านหรือแม้กระทั่งคุณผู้ชายเอง น่าจะมีเสื้อผ้าค่อนข้างเยอะ พื้นที่ห้องทำตู้เสื้อผ้า Built-in ได้ทั้ง 2 ฝั่ง จะทำชั้นตรงกลางสำหรับเก็บพวกเครื่องประดับและนาฬิกาเพิ่มก็ได้ ถือว่าการวาง Lay out ของบ้านนี้ค่อนข้าง Flexible ทีเดียวค่ะ
ในส่วนของ Master Bedroom จะเริ่มต้นที่ตรงนี้ค่ะ ทางฝั่งซ้ายมีพื้นที่ให้เราสามารถปรับเป็น Mini Bar ภายในห้องได้
เข้าไปด้านในห้องจะเห็นว่าเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่จริง ๆ มีช่องแสงทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน
พื้นที่ภายในห้องสามารถแบ่งเป็นมุม Living Area ได้ มองลงไปก็จะเห็นวิวสวน, สระว่ายน้ำ และพื้นที่ฝั่งหน้าบ้าน
ส่วนเตียงนอนก็วางขนาด King Size และโต๊ะหัวเตียง 2 ฝั่งได้
พื้นที่ก็ยังเหลือเป็นทางเดินกว้าง ๆ แบบสบาย ๆ ค่ะ
จากโซนพักผ่อนจะเชื่อมต่อกับ Walk-in Closet ซึ่งจะเห็นว่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่ เราทำ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่งและโต๊ะเครื่องแป้งได้สบาย โดยส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับ Master Bathroom ค่ะ
Master Bathroom นี้จะได้เป็นห้องน้ำแบบ Full Function ที่พื้นและผนังห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อน ที่ใช้กระเบื้องพอร์ซเลนก็เพราะสามารถดูแลรักษาได้ง่าย และมีการตกแต่ง Lighting ให้แบบนี้เลย
อ่างล้างมือได้เป็นแบบ His & Her ติดตั้งมาพร้อมกระจกเงา ใต้เคาน์เตอร์มีตู้เก็บของได้ค่อนข้างเยอะ
ฝั่งทางขวาเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์และโซน Shower แบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดเป็นส่วน โดยโซน Shower ติดฉากกั้นอาบน้ำเป็น Tempered Glass บานเปลือยให้เรียบร้อย
ภายในมีม้านั่งอาบน้ำ, ชั้นวางของ, ชุด Hand Shower และ Rain Shower ซึ่งใช้ของแบรนด์ Grohe ค่ะ
โถสุขภัณฑ์เลือกใช้รุ่น Top ของแบรนด์ TOTO มาพร้อมกับ Remote Control
อีกฝั่งหนึ่งเป็นอ่างอาบน้ำ เราจะเห็นว่าฝั่งนี้มีช่องแสงทั้ง 2 ฝั่ง ได้ทั้งความสว่าง และเปิดระบายอากาศร่วมกับการทำงานของพัดลมดูดอากาศได้
ซึ่งเราได้เป็นอ่าง Freestanding สวย ๆ ของ Kasch ค่ะ
มาดูที่ฝั่งหน้าบ้านกันต่อนะคะ ฝั่งนี้จะเป็นส่วนของห้องนอน 2 และห้องนอน 3
เนื่องจากว่าบ้านหลังนี้ได้ตกแต่ง Family Room ให้กลายเป็น Walk-in Closet ไปแล้ว เลยเลือกที่จะตกแต่งให้ห้องนอน 2 เป็น Family Room แทนค่ะ เราสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างอิสระเลย มีมุมสำหรับนั่งทำงาน และมุมสำหรับนั่งพักผ่อนดูหนังด้วยกัน ด้วยพื้นที่ห้องที่มีขนาดใหญ่ เราเลยจัดชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบนี้ได้
ฝั่งหลังบ้านมีกระจกบานใหญ่มองลงไปได้วิวสวนและสระว่ายน้ำ
ส่วนฝั่งด้านในจะเป็นห้องน้ำส่วนตัว ด้านหน้าตกแต่งเป็น Mini Bar ให้ดูเป็นไอเดีย
ในห้องน้ำมีพื้นที่กำลังดี เวลาเข้ามาใช้งานจะไม่รู้สึกว่าบีบอัด เพราะมีการวางระยะของสุขภัณฑ์ไว้ค่อนข้างดี ที่สำคัญเลยคือมีช่องแสงขนาดใหญ่ เปิดระบายอากาศได้ร่วมกับการใช้พัดลมดูดอากาศ มีสุขภัณฑ์ให้ครบตามการใช้งาน
ทั้งเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ
โถสุขภัณฑ์ขนาดใหญ่
และโซน Shower
ภายในมีม้านั่งอาบน้ำ, ชั้นวางของ, Hand Shower และ Rain Shower ติดตั้งมาให้ค่ะ
สำหรับห้องนอน 3 จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในชั้นนี้ แต่อยากให้ดูว่าพื้นที่ภายในห้องก็ยังมีขนาดใหญ่อยู่นะคะ
ที่เขาจัดมาให้ดูจะเป็น Twin Beds ซึ่งแต่ละเตียงมีขนาดอยู่ที่ 3.5 ฟุต นั่นหมายความว่าห้องนี้สามารถวางเตียง Oversize ได้
รวมถึงวางเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้สบายตามภาพค่ะ
ฝั่งด้านในห้องจะเป็น Walk-in Closet เราทำตู้ Built-in แบบ L Shape และวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ตามนี้ ด้านในเป็นห้องน้ำส่วนตัวเหมือนกับห้องนอน 2
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนตัว
เราขึ้นมาบนชั้น 3 กันต่อค่ะ
ชั้นนี้จะมีการออกแบบเหมือน Penthouse เพราะจะมีทั้ง Living Area, Dinning Area และห้องนอนอีก 2 ห้อง ที่บ้านระดับนี้เขาเลือกออกแบบให้มีห้องนั่งเล่นหลายห้องก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ครอบครัวที่เข้ามาอยู่อาศัยจะมีสมาชิกหลายคนหลาย Generation ห้องนั่งเล่นจุดเดียวจึงไม่พอแน่นอน วันไหนที่มีแขกของสมาชิกท่านอื่นกำลังนั่งเล่นอยู่ชั้นล่าง เราก็สามารถไปใช้งานห้องนั่งเล่นบนชั้นอื่น ๆ แทนได้ค่ะ
สำหรับพื้นที่ Living และ Dinning Area บนชั้นนี้ก็มีขนาดใหญ่นะคะ วางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีได้ และวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้เลย
โดยมีพื้นที่ที่มีการเดินระบบน้ำ-ไฟเอาไว้ให้ สามารถทำเป็นเคาน์เตอร์แพนทรี่เล็ก ๆ สำหรับทำอาหารหรืออุ่นอาหารง่าย ๆ ได้
และก็ยังมี Powder Room สำหรับรองรับแขกจัดเอาไว้ให้ด้วยนะ
มาดูห้องนอน 5 เป็นห้องนอนฝั่งหลังบ้านกันต่อค่ะ จะเห็นว่าห้องนอนทุกห้องมีขนาดใหญ่ รองรับเฟอร์นิเจอร์และเตียงนอน King Size ได้ทั้งหมด เดินเข้าไปด้านในก็จะเป็นส่วนของ Walk-in Closet และห้องน้ำส่วนตัว
แต่ห้องนี้จะมี Highlight อย่างหนึ่งค่ะ ตรงที่ประตูบานเลื่อนฝั่งนี้เปิดออกไปก็จะเชื่อมต่อกับระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ ทำเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวได้ดีมาก ๆ ซึ่งเรามองลงไปข้างล่างก็จะได้วิวสวนและสระว่ายน้ำเช่นกัน
จากมุมนี้เราจะสังเกตเห็นระแนงข้างบ้าน ที่ทาง A49 ออกแบบมาให้เป็น Facade เพื่อช่วยลดปริมาณของแสงที่จะเข้าสู่ตัวบ้านลงหน่อย เพราะตรงนี้เป็นชั้นบน ๆ แล้วแดดจะแรงกว่าชั้นล่างพอสมควร นอกจากนี้บ้านแต่ละหลังยังมี Solar Cell ติดตั้งมาให้ประมาณ 3,300 วัตต์ ซึ่งสามารถช่วยเซฟค่าแอร์ค่าไฟได้พอสมควร ถ้าใครอยากจะติดเพิ่มอีกก็ทำได้นะ ยังเหลือพื้นที่อีกประมาณ 80 ตร.ม. ค่ะ
ภาพจากมุมระเบียงมองย้อนกลับเข้าไปภายในห้อง
ภายใน Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนตัว
ภายในห้องน้ำส่วนตัว
มาที่ฝั่งหน้าบ้านมาดูห้องนอน 4 กันต่อเป็นห้องสุดท้ายกันค่ะ
เรามาดูห้องนอน 4 ซึ่งจะเป็นห้องที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน ขนาดของห้องนี้จะค่อนข้างใกล้เคียงกับห้องนอน 5 จึงวางเฟอร์นิเจอร์ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน
และเป็นห้องที่มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่เหมือนกันด้วย
มองลงไปได้วิวสวนแบบนี้ค่ะ
ภาพจากมุมระเบียงมองย้อนกลับเข้าไปด้านในห้อง
ภายใน Walk-in Closet
แต่ห้องนี้จะมีชื่อเรียกอีกชื่อ เรียกว่า Junior Master Bedroom เพราะว่าภายในห้องน้ำของเขาเป็นห้องน้ำแบบ Full Function จะมีขนาดใหญ่รองลงมาจาก Master Bathroom
โดยจะมีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่กว่าห้องอื่น ๆ
และมีอ่างอาบน้ำแบบ Freestanding มาให้ค่ะ
:::: ราคา (ตุลาคม 2564) ::::
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิประโยชน์สูงสุด 500,000 บาท* คลิก https://charnissara.com/IssaraResidenceRama9/
หรือโทรเพื่อสอบถามข้อมูลและโปรโมชันเพิ่มเติม ได้ที่ 095-207-9277-9
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ เรื่องที่สำคัญของโครงการนี้ก็คือ ทำเลโครงการที่อยู่บนถนนพระราม 9 ซอย 13 เป็นทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ที่ถูกมองว่าเป็น New Hot Spot หรือย่านธุรกิจแห่งใหม่ ที่แวดล้อมด้วยออฟฟิศชั้นนำ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น Golden Place, Central พระราม 9, Esplanade รัชดา, รพ.พระราม 9, รพ.กรุงเทพ, รพ.ปิยเวช, รร.นานาชาติโชรส์เบอรี่ และศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น
และทำเลนี้ยังมีส่วนต่อขยายของ MRT เป็นรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านใกล้หน้าปากซอยโครงการ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าของที่ดินทำเลนี้ค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถนนพระราม 9 ถือเป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับการเดินทาง ไปได้หลายเส้นทางเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นถนนเลียบด่วนรามอินทรา, ถนนดินแดง และถนนรัชดาภิเษก สามารถเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจอย่าง อโศก สุขุมวิท ทองหล่อ เอกมัย สาทร สีลม ได้ง่าย จะออกไปขึ้นมอเตอร์เวย์หรือไปสนามบินสุวรรณภูมิก็สะดวก ประกอบกับว่าที่ตั้งโครงการยังอยู่ใกล้ทางด่วนศรีรัช-พระราม 9 ใช้เข้า-ออกเมืองได้ง่ายอีกด้วย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ลูกบ้านภายในโครงการนี้คงจะเดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลักอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนจำเป็นต้องใช้รถสาธารณะ เรียกรถแท็กซี่ให้มารับที่หน้าบ้านก็กดเรียกจากแอปพลิเคชันได้ง่าย รวมถึงในอนาคตที่จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีประดิษฐ์มนูธรรม ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้ดี
การออกแบบโครงการ และวัสดุ เป็นโครงการระดับ Super Luxury ที่มีจำนวนยูนิตภายในโครงการเพียง 20 ยูนิตเท่านั้น ได้ความเป็นส่วนตัวสูงทั้งจากจำนวนยูนิตที่น้อย และจากการออกแบบวางผังโครงการ ส่วนบ้านของโครงการจะเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น มี Type A, B, C ให้เลือก ขนาด 721-1,200 ตร.ม.
โดยบ้านจะถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical ซึ่งเป็นสไตล์ที่เหมาะสำหรับสภาพอากาศในบ้านเรา ในบ้านออกแบบให้มีความโปร่งโล่งฝ้าเพดานสูง มี Double Ceiling ตรงกลางบ้านสูง 6.9 เมตร มีช่องแสงเปิดรับอากาศเยอะ เปิดรับวิว Courtyard ตรงกลางบ้าน ซึ่งออกแบบโดยคำถึงความเป็นส่วนตัว แถมยังมีที่จอดรถให้มาถึง 4-8 คันเลยค่ะ
สำหรับวัสดุที่เลือกใช้ภายในบ้านก็เป็นวัสดุที่มีความคงทน ดูแลรักษาได้ง่าย และมีความสวยงาม แบรนด์ที่เลือกใช้เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นครัวจาก Bulthaup, เครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Bosch, สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำจากแบรนด์ TOTO, KAUSH และ Grohe ค่ะ
ลิฟต์ก็ใช้ของ Mitsubishi อย่างแอร์ภายในบ้านก็เลือกใช้ระบบ VRV จาก Daikin นอกจากนี้ยังมี Solar Cell ติดตั้งมาให้ 3,300 วัตต์, รวมถึงสัญญาณกันขโมย, ระบบ Access Control และระบบคุมการเปิด-ปิด ไฟ แอร์ ประตูรั้ว ผ่านมือถือ ช่วยรองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย แม้จะมีจำนวนยูนิตภายในโครงการเพียง 20 ยูนิต แต่ก็ยังได้พื้นที่ส่วนกลางคุณภาพมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นห้องออกกำลังกายจาก Technogym, สระว่ายน้ำที่ยาวถึง 25 เมตร และสวนพักผ่อนที่มีความร่มรื่น หรือแม้แต่พื้นถนนภายในโครงการเองก็ยังลงเสาเข็มให้ทั้งหมดด้วยค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 095-207-9277-9
WEBSITE : https://charnissara.com/IssaraResidenceRama9/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ บนทำเลอื่นๆ…ที่น่าสนใจ
เสนา วิลเลจ รังสิต-ติวานนท์
The Essence ชัยพฤกษ์-วงแหวน
Issara Residence พระราม 9
เสนาวิลล์ บรมราชชนนี-สาย 5
แกรนด์ บริทาเนีย พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา
The Shelter เพชรเกษม-อ้อมใหญ่
AREST แพรกษา
ศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121
ภัสสร จตุโชติ-ทางด่วนรามอินทรา
ศุภวรรณ วิลเลจ ลาดกระบัง 54
ศุภาลัย วิลล์ บางนา-ศรีนครินทร์
อณาสิริ รังสิต
เสนาวิลล์ ลำลูกกา-คลอง 6
วารีโอ สุวรรณภูมิ
ARTALE Rama 9
บ้านลลิล The Prestige ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์
บริทาเนีย ติวานนท์-ราชพฤกษ์
GRAND BRITANIA บางนา-สุวรรณภูมิ
ศุภาลัย เลค แอนด์ พาร์ค อุดรธานี
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น