รีวิว คอนโด ไอวี่ แอมพิโอ รัชดา Ivy Ampio Ratchada ใกล้รถไฟฟ้า MRT ศูนย์วัฒนธรรม
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมไปชมคอนโดสร้างเสร็จ Ivy Ampio รัชดา ซึ่งเป็นคอนโด High rise ระดับ Luxury จาก Pruksa Real Estate กันค่ะ
ตัวโครงการตั้งอยู่บนแหล่งที่อยู่อาศัย มีแสงสีเสียง และความคึกคัก ติดกับถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม เพียง 200 เมตร เดินทางสะดวกใกล้ ถนนเพชรบุรี, ถนนพระราม 9, ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดี-รังสิต และ ทางพิเศษศรีรัช เชื่อมต่อไปยังทางด่วนสายอื่นๆ
ไอวี่ แอมพิโอ รัชดา เป็น High rise Condominium ระดับ Luxury สูง 29 ชั้น มี 1 อาคาร จำนวน 289 ยูนิต บนเนื้อที่ 2-0-93 ไร่ มีขนาดห้องให้เลือกเป็น Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom และ Duplex ขนาดเริ่มต้นที่ 30.00 ตรม. ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตั้งแต่ปี 2557 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครัน อาทิ Lobby, Mailbox, Lounge and Conference Room, Sky pool, Sky Deck, Sky Gym, Steam&Sauna, Sky Garden, Golf Driving Stimulator, ลิฟท์โดยสารระบบล็อคชั้น, Access Card Control, Digital Door Lock, CCTV และ รปภ. 24 ชม. ราคา Resales ปัจจุบันราคาเริ่มต้นประมาณ 5.8 ล้านบาท (เฉลี่ย 170,000 – 180,000 บาท/ตร.ม.) (2560)
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
คอนโด Urbano & ivy ทำเลอื่นๆ ทีน่าสนใจ…
Urbano ราชวิถี
Urbano Absolute สาทร–ตากสิน
The Signature by Urbano
Ivy River ราษฎร์บูรณะ
Ivy สาทร 10
Ivy รัชดา
Ivy Ampio รัชดา
Ivy ปิ่นเกล้า
Ivy สุขุมวิท 18
Ivy ทองหล่อ
Ivy China Town
| ชื่อโครงการ | ไอวี่ แอมพิโอ รัชดา Ivy Ampio Ratchada |
| เจ้าของโครงการ | พฤกษา เรียลเอสเตท (Pruksa Real Estate) |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| เนื้อที่ทั้งหมด | 2-0-93 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 29 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 289 ยูนิต |
| ที่จอดรถทั้งหมด | 198 คัน (คิดเป็น 68% รวมจอดซ้อนคัน) |
| โซน | รัชดา, ห้วยขวาง, พระราม 9, เพชรบุรี |
| ขนส่งสาธารณะ |
|
| รถโดยสารที่ผ่าน |
|
| ที่ตั้ง | ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. |
| กำหนดการ | Resales ปี 2555 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | ปี 2557 |
| ราคา | เริ่มต้น 5.8 ล้านบาท (กันยายน 2560) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | 170,000 – 180,000 บ./ตร.ม. |
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า และ อาคารสำนักงาน
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| จุดเด่นของโครงการ | IVY AMPIO The Extraordinary Ample Living |
คอนโด MRT ศูนย์วัฒนธรรม (เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ - มีนบุรี )
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
พิกัด : 13.762923, 100.568282
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง ตัวโครงการ Ivy Ampio รัชดา ตั้งอยู่ติดถนนรัชดาภิเษก ข้างๆอาคาร True Tower อยู่ระหว่าง MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม และ สถานีพระราม 9 ทำเลนี้เป็นย่านที่อยู่อาศัย และเป็นทำเลทองที่กลายเป็น New Central Business District ติดถนนใหญ่จะเป็นอาคารสูง ทั้งอาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม High rise, แหล่งบันเทิง, แหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งการศึกษา ลึกเข้าไปในซอยจะเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยของคนในละแวกนั้นค่ะ
นอกจากจะเป็นทำเลที่เป็นศูนย์รวมของอาคารสำนักงานแล้ว ทำเลนี้ยังเป็นศูนย์รวมด้านการคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพฯ เพราะมีการเชื่อมต่อถนนสายหลัก ทั้ง เพชรบุรี, สุขุมวิท, ดินแดง, พระราม 9, วิภาวดี-รังสิต ฯลฯ รวมถึงเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link อีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางเส้นหลักๆจากโครงการต้องเป็นถนนรัชดาภิเษกแน่นอน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักอื่นๆได้ทั้ง พระราม 9, ดินแดง, เพชรบุรี, สุขุมวิท, วิภาวดี-รังสิต, พหลโยธิน, ลาดพร้าว, ประดิษฐ์มนูธรรม ฯลฯ ซึ่งแต่ละเส้นที่เชื่อมไปจะเป็นถนนขนาดใหญ่ วิ่งได้สะดวก แต่การจราจรนั้นก็ค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ตลอดเวลา คนที่ขับรถอยู่ในย่านนี้เป็นประจำจะไม่ค่อยวิ่งทางหลักกันตรงๆเท่าไหร่หากไม่จำเป็น โดยมากจะไปหาทางลัดเลาะออกตามซอยไปทะลุตามถนนเส้นอื่นๆ นอกจากนี้ก็จะใช้ทางด่วนเป็นตัวช่วยในการเดินทางเอาค่ะ
ทางด่วน โชคดีมากที่ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้จุดขึ้นทางพิเศษศรีรัชถึง 2 ด่าน ฝั่งทางตะวันออกคือด่านอโศก 1 ซึ่งจากจุดนี้จะสามารถเชื่อมต่อไปยัง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปได้ทั้งทาง ปากเกร็ด, รังสิต และ โซนพระราม 2 ได้สะดวก
ฝั่งตะวันตกคือด่านพระราม 9 สามารถเชื่อมต่อไปยัง ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, ทางพิเศษบูรพาวิถี และ มอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่) ไปทางรามอินทรา, บางนา หรือวิ่งออกชลบุรี ได้สะดวกอีกเช่นกันค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของทำเลนี้ก็คือ มีความอุดมสมบูรณ์ที่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้ชีวิต, แสงสีเสียง, แหล่งช้อปปิ้ง และอาหารการกิน ก็มีอยู่หลายรูปแบบให้เลือก เนื่องจากต้องคอยรองรับทั้งพนักงานออฟฟิศ, ผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม, บ้านส่วนตัว และแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ในละแวกนั้น ซึ่งก็ต่างมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป
บนเส้นรัชดาภิเษกก็มีห้างใหญ่ๆอยู่หลายห้างแล้ว ทั้งแบบที่เป็น Life Style เฉพาะตัวอย่าง The Street ภายในมีร้านค้าที่เปิดตลอด 24 ชม. ข้างๆกันมี Big C Extra เป็น Hypermarket เหมาะสำหรับซื้อของเข้าบ้าน ตรงข้ามกับ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมมี Esplanade และตลาดนัดรถไฟ ถ้าเลยไปตรงสถานีพระราม 9 ตรงนั้นจะมีทั้ง Fortune Tower, เซ็นทรัลพระราม 9 และ Tesco Lotus พระราม 9 เลยไปทางแยกห้วยขวางจะมีตลาดตลาดห้วยขวาง เปิดตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ขายทั้งอาหาร, เสื้อผ้า, ของใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ ประกอบกับว่าในย่านนี้ก็มีโรงแรมอยู่เยอะ จึงมีบางร้านที่เปิดตลอด 24 ชม.เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ในส่วนของอาคารสำนักงานจะเกาะตัวรวมเป็นกลุ่มๆตามแนวรถไฟฟ้า อาทิ RS Tower, AIA, SET, True Tower, อาคารไทยประกันชีวิต, สถานฑูตจีน ซึ่งในอนาคตจะมี เมกะโปรเจ็กต์ Bangkok Midtown อยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนนรัชดาภิเษก เชื่อมกันด้วย Sky Walk อยู่ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม อีกทั้ง G Tower, The Nine Tower, Unilever ซึ่งในอนาคตจะมี The Rama IX Super Tower เป็นโครงการมิกซ์ยูส Landmark สูงอันดับ 1 ในอาเซียน อยู่ในช่วง MRT พระราม 9
นอกจากนี้ทำเลนี้ยังโดดเด่นด้วยสถานบังเทิง และอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล, สถานศึกษา อีกทั้งศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ข้างๆกันกับ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน รวมถึงวัดพระราม 9 เรียกว่าในทำเลเดียวครอบคลุมครบทุกด้านเลยค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากทำเลนี้เป็นศูนย์รวมด้านการคมนาคมของกรุงเทพฯ มีการเชื่อมต่อถนนสายหลักหลายเส้น จึงทำให้มีรถสาธารณะหลายสายวิ่งผ่านตลอดทั้งวันเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link จากภาพกราฟฟิคจะเห็นว่าโดยรอบทำเลนี้จะมีรถไฟฟ้าอีก 4 สายวิ่งผ่าน ทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วง มีนบุรี-ตลิ่งชัน, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-สำโรง, รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล- ทองหล่อ และ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ที่วิ่งขนานกับ Airport Link ช่วง บางซื่อ-หัวหมาก อีกด้วย
จากตัวโครงการที่ใกล้ที่สุดก็คือ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งในอนาคตจะเป็นสถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ด้วยค่ะ
จากตัวโครงการเราสามารถเดินไปยังสถานีศูนย์วัฒนธรรมด้วยระยะเดินเพียง 200 เมตรเท่านั้น ที่ใกล้ที่สุดคือทางออก 2 จากตรงนี้เราสามารถใช้ข้ามไปยัง Esplanade ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตรงทางออก 3 ได้
ส่วนสถานีพระราม 9 จะเดินไกลกว่าหน่อยประมาณ 750 เมตร ถ้าขี้เกียจเดินก็สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์แถวๆหน้าโครงการเอาก็ได้ค่ะ ทางออกที่ใกล้ที่สุดคือทางออก 2 จะอยู่ตรงหน้าห้างเซ็นทรัลพระราม 9 พอดี เราใช้ข้ามไปฝั่ง Fortune Tower ที่ทางออก 1 ได้เช่นกัน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ Ivy Ampio รัชดา โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนประดิษฐ์มนูธรรม > แยกลาดพร้าว 86 > ถนนประดิษฐ์มนูธรรม > ถนนประชาอุทิศ > แยกเหม่งจ๋าย > ถนนวัฒนธรรม > แยกศูนย์วัฒนธรรม > ถนนรัชดาภิเษก > โครงการ Ivy Ampio รัชดา
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือที่คุ้นหูกว่าก็คือเลียบด่วนรามอินทรานั่นเองค่ะ บริเวณที่เราอยู่ตอนนี้ก็คือช่วง CDC จากตรงนี้จะใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 20 นาทีถึงโครงการ
จากนั้นจะเห็นป้ายพระราม 9 ให้เราชิดขวาตรงไปตามทางนั้นเลยเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกลาดพร้าว 86
ชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแยกไปเลยค่า
ลงมาจากสะพานข้ามแยกแล้วให้เราชิดซ้ายไปตามป้ายถนนประชาอุทิศ ถ้าออกทางขวาจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์นะ
ดูป้ายรัชดาภิเษกเอาไว้ และชิดขวา
จากนั้นให้เราเลี้ยวขวาลอดใต้สะพานเพื่อเข้าสู่ถนนประชาอุทิศค่ะ
ถนนประชาอุทิศเป็นถนนขนาด 4 เลน สองฝั่งถนนมีทั้งอาคารสำนักงาน และอาคารพาณิชย์ ฝั่งขวามือของเราจะมีสถานทูตกัมพูชาเป็นจุดสังเกตอยู่ตรงไฟแดงพอดี
ตรงไปเรื่อยๆจะมีทางแยกฝั่งซ้ายออกถนนวัฒนธรรม เราจะยังวิ่งบนถนนประชาอุทิศต่อไปค่ะ
สังเกตป้ายถนนเทียมร่วมมิตร/ถนนวัฒนธรรมเอาไว้ ขับชิดเลนซ้ายตามป้าย
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวัฒนธรรมตรงแยกเหม่งจ๋ายค่า
เข้ามาในถนนวัฒนธรรมแล้วให้เราสังเกตป้ายรัชดาภิเษกเอาไว้
แล้วให้เราเลี้ยวขวาตรง 3 แยกไฟแดง
เรายังคงอยู่บนถนนวัฒนธรรมและวิ่งตรงไปเรื่อยๆ สังเกตข้างหน้าคือถนนรัชดาภิเษกค่ะ จะเห็นอาคารสูงรวมกลุ่มกันอยู่หลายอาคาร
ให้เราขับชิดขวาและเลี้ยวออกช่องทางฝั่งขวา
ตรงไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษกบริเวณแยกศูนย์วัฒนธรรมค่ะ ข้างหน้าเราจะเห็น Cyber World Tower
ถนนรัชดาภิเษกจะเป็นถนนขนาด 6 เลน มีเกาะกลางถนนแบ่งช่องจราจรอย่างชัดเจน ระหว่างที่เราเลี้ยวเข้าถนนรัชดาภิเษกจะเห็น Big C Extra อยู่ทางฝั่งขวามือค่ะ
จากนั้นให้เราขับชิดซ้าย เราจะเห็นทางออก MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม นั่นหมายความว่าเราใกล้ถึงทางเข้าของโครงการแล้ว
ขับเลยทางออกที่ 2 ไปเพียง 200 เมตร เราก็จะถึงทางเข้าตัวโครงการแล้วค่า
ทางเข้าตัวโครงการแบบชัดๆ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า และ อาคารสำนักงาน
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บนถนนรัชดาภิเษก ที่ดินที่ติดกับถนนจะเป็นอาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า,โรงแรม และ คอนโดมิเนียม High rise ถัดเข้าไปภายในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัยสูงตั้งแต่ 1-3 ชั้น มีทั้งอพาร์ทเม้นท์, โรงแรม และคอนโดมิเนียมกระจายตัวกันอยู่ด้วย
เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการกันค่ะ มาดูว่าแถวนี้จะอุดมสมบูรณ์และสะดวกสบายแค่ไหน ตอนนี้เราอยู่ที่บริเวณหน้าซุ้มทางเข้า-ออกโครงการ ฝั่งตรงข้ามคือ SET Tower
เดินไปตามทางฝั่งซ้ายมือกันก่อน
ติดกับตัวโครงการเลยคือ True Tower
ฝั่งตรงข้ามติดกับ SET Tower ก็คือสถานทูตจีนค่ะ
เดินเลยมาหน่อยจะมีร้านอาหารเล็กๆเปิดอยู่คอยรองรับพนักงานออฟฟิศและคนที่อยู่อาศัยแถวนั้น เดินไปข้างหลังร้านมี 7-Eleven ด้วยนะ
ข้างร้านอาหารจะเป็นทางเข้าตลาดละลายทรัพย์ค่ะ เป็นอีกแหล่งช้อปปิ้งของพนักงานออฟฟิศในละแวกนี้เลย ภายในก็ยังมีร้านอาหารไทย, ร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารตามสั่ง อีกหลายร้าน อีกทั้งยังมี Pub และ Night Club เปิดให้บริการในยามค่ำคืนอีกด้วย
เดินเลยไปอีกหน่อยจะเจอป้ายรถเมล์และสะพานลอย
จากสะพานลอยข้ามไปอีกฝั่งจะเป็นอาคาร Pakin Building
ติดๆกันเลยคือ Fortune Tower ภายในมี Tesco Lotus ด้วย
กลับมาที่ฝั่งเดิมตรงข้ามกับ Fortune Tower ก็คือเซ็นทรัลพระราม 9 ค่ะ ด้านหน้าห้างจะมีคิววินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการไปยังสถานที่ต่างๆใกล้เคียงด้วย ถ้าวิ่งลอดผ่านเซ็นทรัลเข้าไปจะเจออาคารสำนักงาน The Nine Tower, Belle Condominium และ The shoppes at Belle
ด้านหน้าเซ็นทรัลจะมีทางออกรถไฟฟ้าสถานีพระราม 9 ที่ใกล้กับตัวโครงการคือทางออก 2 นะ
ถ้าจะข้ามไปทางฝั่ง Fortune Tower ให้ออกที่ทางออก 1 ค่ะ
กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ เราจะเดินไปดูทางฝั่งขวามือกันต่อ
ติดกับตัวโครงการเลยก็คือ Noble Revolve เป็นคอนโดมิเนียมสูง 42 ชั้นที่กำลังดำเนินงานก่อสร้างกันอยู่
ฝั่งตรงข้ามติดกับอาคาร SET ก็คืออาคาร AIA
เดินเลยไปหน่อย ข้างๆคอนโด Noble Revolve ก็คืออาคาร Park&Ride ของรถไฟฟ้าสถานีศูนย์วัฒนธรรม
เดินตรงไปข้างหน้าอีกหน่อยผ่านป้ายรถเมล์ไป เราก็มาถึงทางออก 2 ของสถานีศูนย์วัฒนธรรมแล้วค่ะ จากหน้าโครงการเดินมาถึงตรงนี้เพียง 200 เมตรเท่านั้น
ที่ฝั่งตรงข้ามก็คือ Esplanade สามารถเดินลงใต้ดินเชื่อมไปฝั่งนั้นได้ ให้ออกที่ทางออก 3 นะคะ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ Ivy Ampio รัชดา เป็นคอนโดมิเนียม High rise สูง 29 ชั้น ระดับ Luxury Class จำนวน 1 อาคาร มีทั้งหมด 289 ยูนิตบนพื้นที่ 2-0-93 ไร่ ตัวโครงการเป็นคอนโดสไตล์โมเดิร์นเรียบหรู พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่สวยงามและกว้างขวาง
มาดูในส่วนของ Plan อาคารกันค่ะ ทางเข้า-ออกของตัวโครงการจะมีอยู่เพียงทางเดียวจากถนนรัชดาภิเษก โดยถูกวางอยู่บริเวณริมฝั่งซ้ายของไซท์ เส้นทางการเดินรถจะทวนขวาตามเข็มนาฬิกาเข้าไปแล้วกลับออกมาที่ทางเข้า-ออกเดิม
ที่ชั้น G จะเป็นที่จอดรถทั้งแบบกลางแจ้งและใต้อาคาร เข้าสู่ตัวอาคารจะเจอโถง Lobby ต้อนรับก่อนเข้าสู่ Lounge, Conference Room, Mailbox และ โถงลิฟท์ ในส่วนของชั้น 2-6 จะเป็นที่จอดรถ รวมทั้งหมด 189 คัน คิดเป็น 68% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาอย่างเพียงพอต่อการใช้งาน แต่อาจจะน้อยไปถ้าเรียกว่าเป็นคอนโดระดับ Luxury Class ที่ควรจะมีที่จอดรถเกือบ 100%
นอกจากนี้ครึ่งหนึ่งของลานจอดรถชั้น 6 ถูกแบ่งออกมาใช้เป็น Sky Garden ด้วยค่ะ
แปลนอาคารชั้นที่ 7-25 ตั้งแต่ชั้นที่ 7 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัย มีจำนวน 289 ยูนิต มีการจัดแปลนแบบ Double Corridor เหมือนคอนโดทั่วๆไป ชั้นที่มียูนิตหนาแน่นมากที่สุดอยู่ที่ 14 ห้อง ถือว่าไม่แออัดเลย ภายในอาคารมีลิฟท์โดยสารอยู่ 3 ตัว และ Service Lift อีก 1 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์ 97 : 1 ถือว่ายังไม่หลุดจากเกณฑ์มาตรฐาน
โดยตัวอาคารจะหันหน้ารับทิศตะวันออก-ตะวันตกพอดี แต่ยังโชคดีที่ว่าข้างๆมีตึก True Tower มาช่วยบังแดดให้ ทำให้ไม่ร้อนอย่างที่คิด
แปลนอาคารชั้นที่ 26-27
แปลนอาคารชั้นที่ 28
ชั้นที่ 29 จะเป็นส่วนของ Main Facilities มีทั้ง Lobby, Sky Pool, Sky Deck, Sky Gym รวมถึง Steam&Sauna ด้วยค่ะ
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เราได้ชมรายละเอียดของโครงการกันไปบ้างแล้ว คราวนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปชมบรรยากาศจริงของโครงการกันบ้าง
การเข้า-ออกตัวโครงการนั้นจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย นั่นก็คือ ป้อมรปภ.เป็นจุดตรวจ และ รั้วเลื่อนอัตโนมือค่ะ (คุณลุงรปภ.ต้องเลื่อนเปิดให้เอง)
บริเวณด้านหน้าทางเข้า-ออกจะมี CCTV อยู่ 1 จุด
มุมมองย้อนกลับไปที่ทางเข้า-ออกโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
เข้ามาภายในโครงการแล้วให้เราขับวนแบบทวนเข็มนาฬิกาเข้าไป
ถ้าเป็น Visitor ก็ให้จอดรถบริเวณรอบๆอาคารได้เลย
ตรงเข้าไปจะเป็นทางเข้า Lobby และทางเข้าลานจอดรถ เดี๋ยวเราจะเดินวนดูรอบๆอาคารก่อน
โดยรอบอาคารจะมีทั้งที่จอดรถแบบกลางแจ้งและที่จอดรถใต้อาคาร ถ้าเป็น Visitor ก็ขับวนๆหาเอาง่ายๆเลยค่ะ
PARKING
ส่วน Resident ให้ขับขึ้นลานจอดรถ ทางเข้าจะอยู่ข้างๆทางเข้า Lobby ค่ะ ตรงนี้ลูกบ้านจะต้องถือ Key Card เพื่อใช้ผ่านรั้วไม้กระดกทั้งขาเข้าและขาออก
เครื่องจับสัญญาณ Key Card และ CCTV
ขึ้นมาถึงชั้นลานจอดรถ ชั้นที่ 2-6
จะมีประตูทางเข้าโถงลิฟท์ซึ่งจะต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้าไปเช่นกันค่ะ
LOBBY, MAILBOX AND LIFT HALL
เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปดูภายในอาคารด้วยกันเลยค่ะ ทางเข้า Lobby จะมี 2 ฝั่ง ซึ่งช่องทางซ้ายออกแบบให้เป็นทางลาดสำหรับรถเข็น
เข้ามาภายใน Lobby มีความสูงของฝ้าเพดานเป็น Double Floor ทำให้ดูโอ่อ่า และหรูหราด้วยวัสดุุที่ใช้
ฝั่งซ้ายมือคือ Lounge ซึ่งภายในจะมี Conference Room อีกที
มุมมองย้อนกลับมาอีกฝั่ง
ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นห้อง Mailbox
ภายในโถง Mailbox
จากนั้นเราจะเดินผ่านโถงลิฟท์เข้าไปดูในส่วนของ Resident กันต่อ โดยจะต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้าไปเช่นกัน
ภายในโถงลิฟท์ก็ใช้ Space แบบ Double Floor เช่นกัน วัสดุที่ใช้มีความหรูหราสวยงาม
ภายในลิฟท์ตกแต่งด้วยโลหะสีทองแดงแวววาว
ลิฟท์ที่ใช้เป็นระบบล็อคชั้นนะคะ ปุ่มกดลิฟท์จะมีอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง อยู่ในระดับที่ผู้ใช้รถเข็นสามารถใช้งานได้สะดวก ตัวลิฟท์จะสามารถรองรับน้ำหนักได้ 1,000 กก. หรือ 15 คนต่อเที่ยว
ขึ้นมาถึงชั้นที่เป็นห้องพักอาศัย โถงลิฟท์จะใช้วัสดุที่ดูสบายตา ใช้สีเอิร์ธโทน เพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้าน
กลางโถงทางเดินมีตัวเลขบอกหมายเลขห้องให้ว่าไปทางซ้ายหรือขวา
บรรยากาศภายในโถงทางเดินใช้สีเอิร์ธโทนดูอบอุ่นต่อเนื่องมาจากโถงลิฟท์ ในแต่ละชั้นจะมีจำนวนห้องอยู่ไม่มาก ประตูแต่ละบานจะอยู่ไกลกัน ไม่มีเปิดมาเจอหน้าห้องอื่นเลย ทำให้รู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
SKY GARDEN
มาดู Facilities ของทางโครงการกันบ้าง เริ่มจาก Sky Garden บนชั้น 6
Sky Garden จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก พอจะออกมานั่งเล่นดูพื้นที่สีเขียวเพื่อพักสายตาจากความวุ่นวายได้อยู่บ้าง จะแบ่งเป็น 3 ชั้น ให้เป็นส่วนตัวมากกว่าการอยู่ในระดับเดียวกัน
มุมมองย้อนกลับลงไปจากสวนชั้นบนสุด
WC. AND CHANGING ROOM
ส่วนชั้น 29 ชั้นบนสุดจะเป็น Main Facilities ของโครงการ ข้างบนนี้จะมีทั้ง Sky Pool, Sky Deck, Sky Gym, Golf Driving Stimulator, Fitness และ Steam&Sauna
เดินจากโถงลิฟท์เข้ามาจะเจอ Lobby ก่อน เป็นตัวแจกไปยังส่วนต่างๆ
ด้านหลัง Lobby จะเป็นห้องน้ำ และ Changing Room แยกชาย-หญิง เราจะเข้าไปดูกันก่อนเลยค่ะ
เข้ามาภายในห้องน้ำจะเป็นโถงกลางห้อง เป็นส่วนของอ่างล้างมือและ Locker แจกไปยังห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้อง Steam และ Sauna
บริเวณ Locker และโต๊ะแต่งตัว
ด้านหลังโถงห้องน้ำจะแจกออกเป็นห้องน้ำ, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ห้องอาบน้ำ
ห้อง Steam&Sauna ค่ะ
SKY GYM
เราเดินเข้าไปดูใน Sky Gym กันต่อ
ภายใน Gym มีพื้นที่ที่กว้างขวาง ประกอบกับ Space แบบ Double Floor ทำให้ดูโปร่งโล่ง ทำให้รู้สึกดีและไม่อึดอัดเวลาออกกำลังกาย
เครื่องออกกำลังกายก็มีหลายชิ้น โดยฝั่งริมหน้าต่างจะเป็นโซนเครื่อง Cardio มีทั้ง ลู่วิ่งไฟฟ้า, จักรยานไฟฟ้า และเครื่องเดินวงรี อย่างละประมาณ 2-4 เครื่อง
ส่วนที่ติดผนังจะเป็นโซน Weight Training ออกกำลังกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ โดยติดกระจกเงาให้เพื่อใช้เช็คท่าทางในการยกเวท
โซน Weight Training อีกฝั่ง
วิวเมืองจากชั้นที่ 29 ของ Sky Gym ตอนกลางคืนคงจะสวยงามน่าดู
SKY DECK AND SKY POOL
เราออกไปดู Sky Pool และ Sky Deck กันต่อ เป็นอย่างสุดท้ายแล้วค่า
ออกมาในส่วนของ Sky Pool&Deck พร้อมพื้นที่สวนหย่อม เป็นอีกจุดหนึ่งของโครงการที่ได้บรรยากาศดีๆของเมืองในมุมมองที่กว้างขวาง
ข้างๆประตูทางเข้าจะมีจุดล้างตัวก่อนลงสระ
ในส่วนของ Deck ปูด้วยพื้นไม้เทียม มีการจัด Day Bed ให้ทั้งแบบกลางแจ้งและในร่ม
วิวจาก Day Bed นอนมองออกไปผ่านสระว่ายน้ำเห็นวิวเมือง สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นระบบเกลือนะ ขนาดสระก็มีขนาดกำลังดีพอจะใช้ว่ายออกกำลังกายได้ ภายในสระมีทั้งจุดที่ลึกและจุดที่ตื้นสำหรับเด็ก
บางส่วนทำเป็นที่นั่งโค้ง สามารถใช้เป็นจุดนั่งพักผ่อนได้
วิวเมืองจากบริเวณสระว่ายน้ำค่ะ
:::: ROOM TYPE และ ห้องตัวอย่าง ::::
::: ROOM TYPE :::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 4 แบบด้วยกันได้แก่
แต่เดิมทางโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ใช้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ของ Starmark ทั้งหมด เรียกได้ว่าแค่ขนเสื้อผ้ามาก็เข้าอยู่ได้เลย เดี๋ยวเราจะไปดูผังพื้นของห้องแต่ละ Type กันเลยค่ะ
TYPE I (A1) : Studio ขนาด 30.00-33.00 ตรม.
Type I (B6) : 1 Bedroom ขนาด 42.00 ตรม.
Type I (C1) : 2 Bedroom ขนาด 77.00 ตรม.
Type I (D1) : Duplex ขนาด 114.00 ตรม.
::: ห้องตัวอย่าง :::
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราพามาชมในวันนี้ มี 2 แบบซึ่งจะเป็นห้อง Resales ค่ะ นั่นก็คือ
:: TYPE I (B6) 1 BEDROOM ขนาด 42.00 ตรม. ::
เริ่มต้นที่ห้อง 1 Bedroom มีขนาด 42.00 ตรม.ค่ะ ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว แบ่งสัดส่วนระหว่างห้องนั่งเล่น, ห้องครัว และห้องรับประทานอาหาร ขาดออกจากห้องนอน ตัวห้องจะเป็นแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส หน้ากว้างและความยาวของห้องมีขนาดพอๆกัน แต่เดิมทางโครงการได้จัดเฟอร์นิเจอร์มาให้อย่างครบครันจึงสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย
มาเริ่มต้นทางเข้าห้องเลยค่ะ ประตูทางเข้าเป็นประตูบานสำเร็จรูป
มือจับแบบก้านโยกพร้อม Digital Door Lock
พื้นห้องเก็บรอยต่อด้วยธรณีประตูเรียบร้อย พื้นยังคงเป็นวัสดุของที่โครงการทำไว้ให้ตั้งแต่แรก ปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม.
เข้าไปภายในห้องจะเจอส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหารก่อน ฝั่งซ้ายมือติดประตูทางเข้าคือห้องน้ำ เข้าไปข้างในเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ผนังของห้องยังเป็นวอลล์เปเปอร์เดิม
ฝ้าเพดานสูงถึง 2.8 เมตรเลยค่ะ เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้พร้อมระบบไฟอัตโนมัติดวงหน้าห้อง นอกจากนี้ยังได้ติดตั้ง Sprinkle และ Smoke Detector มาให้เรียบร้อย
มาดูในส่วนครัวของห้องกันก่อนค่ะ Built-in ทั้งหมดที่ได้มากับห้องตั้งแต่แรกจะเป็นของ Starmark ทั้งหมดพร้อมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวด้วย
ติดประตูทางเข้าห้องจะเป็นชั้น Built-in แบบนี้ ตัวบานทั้งหมดจะเป็นแบบ Soft-closed นะ
ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวได้มาตามภาพเลยค่ะ มีช่องสำหรับเก็บจานชามช้อนส้อมได้ครบ แต่เดิมก็จะได้เครื่องซักผ้ามาพร้อมกับห้องด้วยนะคะ เป็นของ Electrolux
บนเคาน์เตอร์ได้ Top ตามภาพ ติดตั้งเตาเซรามิกและอ่างล้างจานมาให้ ด้านหลังเคาน์เตอร์ติดแผ่น Splash Board พร้อมราวแขวนอุปกรณ์เครื่องใช้มาเรียบร้อย
เตาเซรามิกของ Teka ขนาด 2 หัว พร้อม Hood ดูดควัน
อ้างล้างจานขนาดกระทัดรัด ล้างพวกแก้วหรือจานชามได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นหม้อหรือกระทะขนาดใหญ่นี่จะยากหน่อย
ก๊อกน้ำสามารถปรับทิศทางหมุนซ้าย-ขวาได้ ใช้งานได้สะดวก
ชั้นเก็บของเหนือหัวก็มีมาให้หลายช่องค่ะ เพียงพอต่อการใช้งาน
ภายในซ่อน Load Center เอาไว้ เพื่อความเรียบร้อยของห้อง ใช้ของ Schneider Electric
ในส่วนของโต๊ะรับประทานอาหารจัดเอาไว้ให้สำหรับ 2 ที่นั่ง เราสามารถย้ายเก้าอี้ตัวนึงไปนั่งอีกฝั่งก็ได้ ถ้าไม่มีคนยืนทำครัวอยู่นะ
อีกฝั่งจะเป็นชั้นเก็บของ พร้อมตู้เย็นจาก Hitachi และเตาไมโครเวฟจาก Teka การที่มีชั้นเก็บของเยอะแบบนี้ ทำให้เราสามารถจัดเก็บของให้ห้องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยได้มากกว่าคอนโดอื่นๆ
ข้างๆชั้นเก็บของคือประตูห้องน้ำค่ะ เป็นบานสำเร็จรูป
พร้อมมือจับแบบก้านโยกสแตนเลส
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปเล็กน้อย
ภายในห้องน้ำ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องผิวด้านขนาด 60 x 60 ซม. ผนังกรุด้วยกระเบื้องขนาดเท่ากัน การวางสุขภัณฑ์เรียงจากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก
เนื่องจากตำแหน่งของห้องน้ำนั้นไม่ได้อยู่ติดผนังภายนอกอาคาร จึงไม่มีหน้าต่างระบายอากาศให้ ต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียว
อ่างล้างมือที่ใช้มีขนาดกระทัดรัดดีค่ะ ใช้ของ Cristina พร้อมก๊อกน้ำของ Globo
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Cristina เช่นกัน เป็นระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำ ติดตั้งมาพร้อม Accessories ประกอบการใช้งาน
ที่ใส่แกนกระดาษชำระ และสายฉีดชำระค่ะ
จากส่วนแห้งจะมีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนเปียกออกไปอย่างเป็นสัดส่วน
ภายในส่วนเปียกจะประกอบด้วยเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ, อาบน้ำ และโซน Rain Shower ผนังติดกระเบื้องตกแต่ง พร้อมทั้งฝ้าซ่อนไฟช่วยสร้างบรรยากาศ
อ่างล้างมือเป็นแบบฝังบนเคาน์เตอร์ Top หินแกรนิต ด้านล่างเคาน์เตอร์มีช่องให้เก็บของได้
อ่างล้างมือและก๊อกน้ำเป็นของ Cristina เช่นกัน ขนาดอ่างมีทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ ก๊อกน้ำมีปุ่มสามารถปรับอุณหภูมิของน้ำได้
ฝั่งซ้ายมือจะเป็นอ่างอาบน้ำค่ะ บริเวณเหนืออ่างมีพัดลมดูดอากาศให้อีก 1 จุด
อ่างอาบน้ำขนาดพอนอนอาบได้ 1 คน เป็นของ Cristina อีกเช่นกัน
ฝั่งขวามือเป็นโซน Rain Shower ติดตั้งประตูกระจกนิรภัยมาให้เรียบร้อย
พื้นที่ยืนอาบขนาดกำลังดี ปูด้วยกระเบื้องยืนอาบน้ำแผ่นเล็กๆผิวด้าน ทำให้ไม่ลื่น
นอกจากจะติดตั้ง Rain Shower ให้ภายในแล้วยังติดตั้งฝักบัวสายอ่อนให้บนผนัง Lower Wall สามารถใช้วางขวดสบู่แชมพูได้เลย ไม่ต้องหาชั้นวางของมาตั้งเพิ่มให้เกะกะ
ขนาดหัวฝักบัวสายอ่อนกำลังดีค่ะ ใช้งานได้ถนัด มาพร้อมกับปุ่มปรับอุณหภูมิน้ำ
มุมมองย้อนกลับไป จะเห็นว่ามีประตูอยู่ 2 ช่อง ฝั่งขวามือคือประตูที่เชื่อมกับโซนแห้ง ส่วนฝั่งซ้ายมือคือประตูที่เชื่อมกับ Walk-in Closet ภายในห้องนอนค่ะ
ออกมาที่โถงกลางมาดูห้องนั่งเล่นกันต่อ ซึ่งแต่เดิมทางโครงการได้ให้เฟอร์นิเจอร์มาตามที่เห็นเลย
ทั้งโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟขนาดใหญ่ เหมาะสมกับขนาดพื้นที่
ฝั่งตรงข้ามได้ชั้นวางทีวี Built-in
มีิลิ้นชักสามารถเก็บของได้
ระยะดูทีวีตรงนี้เหลือประมาณ 1.7 เมตร เหมาะสำหรับทีวีขนาดจอประมาณ 42 นิ้วค่ะ จะกำลังพอดี
ห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียง โดยมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงเปิดออกไปได้
ขนาดระเบียงไม่ได้กว้างขวางมากนะ เพราะเน้นพื้นที่อยู่อาศัยภายในที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. กว้างประมาณ 0.7 เมตร ส่วนราวกันตกเป็นราวเหล็กติดกระจก
พื้นที่ระเบียงอาจไม่กว้างขวางมาก แต่ก็พอสำหรับการตากผ้า, วางกระถางต้นไม้ หรือยืนรับลมชมวิวได้ค่ะ
จากระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
กลับเข้ามาภายในห้อง เราจะเข้าไปดูห้องนอนกันต่อ
ภายในห้องนอนมีขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่เดิมทางโครงการได้ให้เตียงนอนขนาด 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างหัวเตียงมาเลย กำลังพอดีกับพื้นที่ห้อง
วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตแล้วก็ยังเหลือพื้นที่โดยรอบเตียงอยู่นะ จะเดินผ่านหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนก็สบาย
ปลายเตียงอาจจะวางชั้นวางทีวีเพิ่มไม่ได้แล้ว แต่สามารถใช้เป็นทีวีแบบแขวนผนังแทนได้ค่ะ
โต๊ะข้างหัวเตียงวางมาให้ทั้ง 2 ฝั่ง มีลิ้นชักสำหรับเก็บของให้ด้วย
ภายในห้องจะมีหน้าต่างเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ ทั้งบาน Fix และบานกระทุ้ง
ฝั่งซ้ายของห้องนอนจะมีประตูกั้นส่วนระหว่างส่วนพักผ่อนและ Walk-in Closet
เข้ามาภายใน Walk-in Closet จะทำเป็นตู้เสื้อผ้าและลิ้นชักเก็บของให้ทั้ง 2 ฝั่งตามภาพเลย
ส่วนผนังด้านในสุดติดกระจกมาให้ เห็นประตูบานเลื่อนข้างๆ นั่นก็คือประตูทางเชื่อมกับห้องน้ำค่ะ
:: TYPE I (C1) 2 BEDROOM ขนาด 77.00 ตรม. ::
มาถึงห้องแบบ 2 Bedroom มีขนาด 77.00 ตรม. เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก 2-3 คน รูปแบบการจัดวางห้องจะไม่ต่างจากห้อง 1 Bedroom มากนักก็คือจะแยกส่วนของห้องนอนออกจาก พื้นที่นั่งเล่นและห้องครัวไปเลย โดยจะวางโถงกลางไว้ทางซ้าย และโซนห้องนอนไว้ทางขวามือทั้งหมด
ไม่รอช้าเราเข้าไปดูภายในห้องกันต่อเลยค่ะ
ภายในห้องวัสดุทั้งพื้น, ผนัง และฝ้าเพดานจะเหมือนกับห้องที่แล้วทุกประการ เข้ามาจะเจอส่วนครัวอยู่ทางขวา ส่วนรับประทานอาหารอยู่ทางซ้าย ด้านในสุดเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนโถงทางเดินฝั่งขวามือคือห้องนอนและห้องน้ำค่ะ
เรามาเริ่มจากส่วนครัวกันก่อน
ความพิเศษของครัวนี้คือจะได้เคาน์เตอร์แบบ Island มาด้วย ซึ่งไม่ค่อยเห็นกันใน Condominium เท่าไรนักด้วยประเด็นของพื้นที่ที่มีอยู่จำกัด
เริ่มจากด้านหน้าจะได้ช่องเก็บของหน้าห้องมาเหมือนเดิม
เมื่อพื้นที่ห้องครัวกว้างขวางขึ้น ก็ได้เคาน์เตอร์และช่องเก็บของที่เยอะขึ้นตามมา
บนเคาน์เตอร์ติดตั้งเตาเซรามิคพร้อม Hood และอ่างล้างจานมาให้เหมือนเดิม
คราวนี้ได้เป็นเตาขนาด 4 หัวค่ะ
พร้อม Hood ดูดควันเหนือหัว
อ่างล้างจานได้มาแบบ 2 หลุม สะดวกมากยิ่งขึ้น
ชั้นเก็บของเหนือหัว สามารถเก็บของได้อย่างเหลือเฟือ
ชั้นเก็บของอีกฝั่ง ได้มาทั้งเครื่องซักผ้า, เตาไมโครเวฟ และเตาอบของ Teka เพิ่มมาอีก
ตรงกลางเป็น Island ข้างใต้สามารถเก็บของได้อีกเพียบ
วาง Island แล้วก็ไม่คับแคบนะ สามารถยืนปรุงอาหารได้สบายๆ
อีกฝั่งก็มีตู้เก็บของอีกนะ ได้มาทั้งตู้เย็นแบบ 2 ประตูของ Hitachi และตู้แช่ไวน์ของ Teka
มาดูส่วนรับประทานอาหารกันต่อค่ะ จะอยู่ระหว่างชั้นเก็บของหน้าตู้เย็นและห้องนั่งเล่น
แต่เดิมทางโครงการวางโต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้อีก 4 ตัว กำลังเหมาะสมกับพื้นที่เลย
เราไปดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อ
ทางโครงการได้จัดโซฟาขนาด 4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟทรงกลม สามารถเลื่อนเปิด-ปิดเพื่อใช้เก็บของได้
ฝั่งตรงข้ามก็ได้ชั้นวางทีวีมาตามภาพเลยค่ะ ระยะดูทีวีตรงนี้เหลืออีกเยอะนะ ขนาดจอสัก 50-55 นิ้วก็ดูได้ไม่มีปัญหาค่ะ
ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นระเบียง มีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปได้เหมือนเดิม
ซึ่งจะมีขนาดกว้างขวางกว่าห้องที่แล้วนิดหน่อยนะ แต่วัสดุที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม
มุมมองจากระเบียงย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
จากนั้นเราจะเข้าไปดูห้องนอนและห้องน้ำภายในโถงฝั่งขวามือของห้องกันต่อ ห้องแรกฝั่งซ้ายคือห้องนอนเล็ก ตรงกลางในสุดคือห้องนอนใหญ่ ส่วนฝั่งขวามือคือห้องน้ำค่ะ
เรามาเริ่มต้นจากห้องนอนเล็กกันก่อนเลย
ภายในห้องนอนเล็กก็มีขนาดค่อนข้างกระทัดรัดค่ะ ทางโครงการได้ให้เตียงนอนขนาด 4 ฟุตมา กำลังเหมาะสมกับพื้นที่ห้อง
วางเตียงนอนเอาไว้เกือบชิดริมหน้าต่างก็จะเหลือพื้นที่สำหรับยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าฝั่งขวาแล้ว
ตู้เสื้อผ้าที่ให้มาเป็นตู้ Built-in บานเลื่อน ช่วยประหยัดพื้นที่ ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้า, ลิ้นชักเก็บของ และชั้นเก็บของเหนือหัวให้
ส่วนปลายเตียงก็มีชั้นวางทีวีพร้อมลิ้นชักมาให้แบบนี้ค่ะ
เวลาที่เราเปิด-ปิดลิ้นชัก เราจะต้องนั่งอยู่บนเตียงนะ ไม่งั้นลิ้นชักจะเปิดมาชนขา
ส่วนช่องแสงของห้องก็เหมือนห้องที่แล้วค่ะ เป็นหน้าต่างบาน Fix และบานกระทุ้ง
ออกมาจากห้องนอนเล็ก ตามด้วยห้องน้ำและห้องนอนใหญ่นะคะ
ภายในห้องน้ำเราจะได้วัสดุและสุขภัณฑ์ไม่ต่างจากห้องที่แล้วค่ะ โดยจะวางไล่จากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก
พื้นห้องน้ำลดระดับลงจากโถงเล็กน้อย
ซึ่งห้องน้ำนี้ก็จะต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียวเช่นกัน
ในส่วนของสุขภัณฑ์เป็นของ Cristina เจ้าเดิม
โถสุขภัณฑ์และ Accessories รุ่นเดิม
ด้านในสุดเป็นโซน Shower ภายในติดตั้ง Rain Shower พร้อมฝักบัวสายอ่อนมาให้
Rain Shower ขนาดใหญ่ อาบน้ำสะใจแน่นอน
มาถึงห้องนอนใหญ่ห้องนอนสุดท้ายแล้ว มีขนาดไม่ต่างจากบ้านเดี่ยวเลยนะ ภายในห้องได้ให้เตียงนอนขนาด 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างหัวเตียง, ตู้เสื้อผ้า, ชั้นวางทีวี และโต๊ะทำงานมาอย่างครบครัน
วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต ก็ยังเหลือพื้นที่รอบๆกว้างขวาง ทั้ง 2 ข้างได้วางโต๊ะข้างหัวเตียงมาให้
ข้างๆได้ตู้เสื้อผ้า Built-in หน้าตาไม่ต่างจากห้องนอนเล็ก
ฝั่งตรงข้ามวางชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงานมาให้พร้อม
มีลิ้นชักเก็บของให้ตามภาพเลย
ส่วนของช่องแสงเป็นกระจกบานใหญ่เข้ามุมเต็มผนังห้อง
วิวเมืองจากภายในห้องนอน
นอกจากนี้ภายในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวด้วย
ภายในได้แบ่งสัดส่วนเอาไว้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นโถสุขภัณฑ์, โซน Shower, อ่างล้างมือ และอ่างอาบน้ำ ก็กั้นส่วนออกจากกันเรียบร้อย ความพิเศษของห้องน้ำใหญ่คือ จะมีช่องแสงขนาดใหญ่ เห็นวิวเมืองด้วย
เริ่มจากด้านหน้าสุดเราจะเจอห้องน้ำแยกโถสุขภัณฑ์ออกไป
อีกฝั่งวางอ่างล้างมือแบบฝังบนเคาน์เตอร์ 2 อ่าง สามารถใช้งานพร้อมกันทั้ง 2 คนได้
เข้าไปด้านในสุดจะเป็นโซน Rain Shower และอ่างอาบน้ำ
ภายในติดตั้งอุปกรณ์มาให้เหมือนเดิมทุกประการ
ส่วนอ่างอาบน้ำในห้องนี้จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น สามารถลงพร้อมกันได้เลย 2 คน
ข้างๆอ่างจะติดฝักบัวสาบอ่อนพร้อมปุ่มปรับอุณหภูมิมาให้
นอกจากนี้สวิตช์และปลั๊กไฟจะใช้ของ Schneider Electric ทั้งหมด
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กันยายน 2560) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์ (จาก Starmark)
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (กันยายน 2560) ::::
เนื่องจากโครงการนี้ได้ SOLD OUT หมดนานแล้ว ดังนั้นห้องที่ปล่อยขายหลังจากนี้จึงจะเป็นลักษณะ Resales หรือปล่อยเช่าค่ะ ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับสภาพภายในห้อง และ การตกแต่งของเจ้าของห้อง หรือผู้เช่าเดิม หากผู้สนใจสามารถติดต่อเอเจนซี่ หรือเจ้าของห้อง เพื่อตกลงราคาซื้อขายกันต่อไปได้ค่ะ
แบบห้อง Type I (A1) Studio
– ขนาด 33.00 ตรม.
– ราคา 5.8 ล้านบาท
แบบห้อง Type I (B6) 1 Bedroom
– ขนาด 42.00 ตรม.
– ราคา 7.2 ล้านบาท
แบบห้อง Type I (C1) 2 Bedroom
– ขนาด 77.00 ตรม.
– ราคา 16.5 ล้านบาท
***ข้อมูลราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการ Ivy Ampio รัชดา ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก อยู่ระหว่าง MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม และ สถานีพระราม 9 ทำเลนี้เป็นย่านที่อยู่อาศัย และเป็นย่าน New Central Business District ซึ่งยังคงมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ดูจากเมกะโปรเจ็กต์ที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมด้านการคมนาคมที่ของกรุงเทพฯ มีการเชื่อมต่อถนนสายหลักหลายสาย รวมถึงเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ที่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ที่สามารถรองรับทั้งพนักงานออฟฟิศ, ผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม, บ้านส่วนตัว และแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ในละแวกนั้นได้ บนเส้นรัชดาภิเษกก็มีห้างใหญ่ๆอยู่หลายห้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัล, ห้างแนวไลฟ์สไตล์, ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาด โดดเด่นด้วยสถานบันเทิงยามค่ำคืน และอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล, สถานศึกษา อีกทั้งศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ข้างๆกันกับ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน รวมถึงวัดพระราม 9 เรียกว่าในทำเลเดียวครอบคลุมครบทุกด้านเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางเส้นหลักๆจากโครงการต้องเป็นถนนรัชดาภิเษก ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักอื่นๆได้ทั้ง พระราม 9, ดินแดง, เพชรบุรี, สุขุมวิท, วิภาวดี-รังสิต, พหลโยธิน, ลาดพร้าว, ประดิษฐ์มนูธรรม ฯลฯ แต่การจราจรนั้นก็ค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ตลอดเวลา คนที่ขับรถอยู่ในย่านนี้เป็นประจำจะไม่ค่อยวิ่งทางหลักกันตรงๆเท่าไหร่ โดยจะหาทางลัดเลาะออกตามซอยไปทะลุตามถนนเส้นอื่นๆ นอกจากนี้ก็จะใช้ทางด่วนศรีรัชเป็นตัวช่วยในการเดินทางเอาค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกสบายแบบสุดๆ เพราะ ทำเลนี้มีการเชื่อมต่อถนนสายหลักหลายเส้น จึงทำให้มีรถสาธารณะหลายสายวิ่งผ่านตลอดทั้งวันเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link อีกทั้งโดยรอบทำเลนี้จะมีรถไฟฟ้าอีก 4 สายวิ่งผ่าน ทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วง มีนบุรี-ตลิ่งชัน, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-สำโรง, รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล- ทองหล่อ และ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ที่วิ่งขนานกับ Airport Link ช่วง บางซื่อ-หัวหมาก อีกด้วย โดยจากตัวโครงการจะอยู่ใกล้ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม เพียง 200 เมตร ซึ่งในอนาคตจะเป็นสถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ด้วยค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 29 ชั้น มี 1 อาคาร ทั้งหมด 289 ยูนิต บนพื้นที่ 2 ไร่เศษๆ วางผังอาคารแบบที่เห็นได้ทั่วๆไป ค่อนข้างเรียบง่าย เป็นแบบ Double Corridor แต่หน้าห้องที่เจอด้านทิศตะวันตกก็อาจจะร้อนสักหน่อยนะ
ส่วนห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างลงตัว โดยหลักจะขออิงไปที่ห้อง 1 Bedroom และ 2 ฺBedroom ที่เราได้รีวิวให้ดูกันนะคะ ห้องทั้ง 2 แบบจะวางแปลนที่มีรายละเอียดแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ทำมาได้ลงตัวมากกว่าในแง่ของการใช้งาน สามารถใช้งานได้จริง มีพื้นที่ที่ไม่เล็กคับแคบจนเกินไปจนใช้งานได้ลำบาก เสียอย่างที่ห้องน้ำบางห้องไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ ต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียว ส่วนของวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาก็ค่อนข้างดีทีเดียวนะ แต่ถ้าเทียบว่าเป็นระดับ Luxury บางอย่างอาจจะธรรมดาไปหน่อย ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ ตรม.ละ 170,000-180,000 บาทค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ถือว่าให้มาพอใช้ได้เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ ที่ชั้น G จะเป็นส่วนของ Lobby, Lounge&Conference Room และ Mailbox ที่ชั้น 6 มี Sky Garden ดูธรรมดาๆไปหน่อย และดูไม่ค่อยสะดวกเพราะต้องเดินผ่านลานจอดรถก่อน และที่ชั้น 29 เป็น Main Facilities มี Sky Pool&Sky Deck, Sky Gym, Golf Driving Stimulator และ Steam& Sauna ภาพรวมทำออกมาได้ดูดีทีเดียว
ทางโครงการได้ทำทำช่องจอดรถเอาไว้ประมาณ 68% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาค่อนข้างเพียงพอนะ เพราะลูกบ้านบางส่วนก็น่าจะเดินทางด้วยรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้าเป็นประจำ แต่ถ้าเทียบว่าเป็นโครงการระดับ Luxury จะถือว่าให้มาน้อยไป อาคารมีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์โดยสารอยู่ที่ 97 : 1 ยังอยู่ในมาตรฐานที่รับได้ค่ะ
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยกล้อง CCTV, Security guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ รวมถึงระบบลิฟท์แบบล็อคชั้น และ Digital Door Lock ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
:::: คะแนน ::::
| ทำเลที่ตั้งโครงการ | 9.1 | อยู่ในย่าน NCBD บนถนนรัชดาภิเษก เป็นทำเลทองที่ใกล้ทั้งอาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า, สถานบันเทิง และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้า |
| การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 8.0 | จากถนนรัชดาภิเษกสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักได้หลายสาย มีทางด่วนศรีรัชเป็นตัวช่วยในการเดินทาง แต่การจราจรในละแวกนั้นก็ค่อนข้างจะหนาแน่นพอตัว |
| การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 9.0 | มีรถสาธารณะหลายสายวิ่งผ่านหน้าโครงการ เป็นจุดเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้า และยังอยู่ใกล้ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมเพียง 200 เมตรอีกด้วย |
| บ้านและวัสดุ | 8.4 | ห้องพักมีให้เลือกหลากหลายเน้นอยู่อาศัยแบบมีคุณภาพไม่แออัด ขนาดเริ่มต้น 30-144 ตรม. วัสดุเกรดมาตรฐาน วัสดุภายในส่วนมากยังคงเดิม เพราะโครงการเพิ่งสร้างเสร็จไปในปี 2557 ฝ้าเพดานสูงถึง 2.8 เมตร |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.6 | สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้อย่างครบครัน ขนาดพอใช้สอยต่อจำนวนยูนิตในโครงการ แต่ยังไม่ค่อยใหญ่มาก เทียบว่าเป็นโครงการระดับ Luxury น่าจะให้มาเยอะกว่านี้หน่อย |
| ความคุ้มค่ากับราคา | 7.8 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1-6 คน ต้องการอยู่ใจกลางเมืองแบบใช้ชีวิตสะดวกสบาย ทั้งการทำงาน การช้อปปิ้ง การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และระบบขนส่งสาธารณะ |
| คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.31 | ดีมาก |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1739
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น