โครงการมีการออกแบบหน้าตาอาคารมาอย่างโดดเด่นดูทันสมัย พร้อมพื้นที่ส่วนกลางและฟังก์ชันในยูนิตต่าง ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง รวมกับ AP Digital Community ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการเชื่อมต่อฟังก์ชันการจัดการหลาย ๆ อย่างให้คนในโครงการสามารถจัดการผ่านมือถือได้อีกด้วย ทางโครงการตกแต่งห้องให้แบบ Fully Fitted ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมาให้แบบจัดเต็มทั้ง Iconic Lobby, The Share Space, Intelligent Co – Thinking Space, Mailbox, Smart Locker, The Urban Oasis, Sky Social Club, Theatre House, Panoramic Health Club, Multi – Purpose Room
Cityscape Infinity Lap Pool แบบ Excusive พร้อม ที่นั่ง Sky Cabana, Steam, Sauna, Free Wi – Fi ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ 24 ชั่วโมง Green Landscape กว่า 2 ไร่, Street Bas Court, Play House, EV Charger, ที่จอดรถ 723 คัน, ร้านค้า 1 ยูนิต และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ถนนรามอินทรา > เวียนหลักสี่ > ถนนพหลโยธิน > Life ลาดพร้าว
การเดินทางเราเริ่มต้นที่ถนนรามอินทรา ให้เราวิ่งมุ่งหน้าไปทางหลักสี่ เริ่มเบี่ยงเข้าฝั่งขวามือเพื่อขึ้นสะพานยกระดับตรงแยกลาดปลาเค้า โดยเราจะขับผ่าน Big C รามอินทราค่ะ
หันไปทางฝั่งซ้ายมือมุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว จะเห็นว่าที่ด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดกับทางขึ้นตัวสถานีเลย สามารถใช้ข้ามไปอีกฝั่งเพื่อเข้า Central ลาดพร้าวเลยก็ได้นะ
ตัว Logo โครงการ Life ลาดพร้าว มีลายวงกลมที่มีลักษณะเหมือนวาดด้วยพู่กันจีนอยู่ด้านหลัง ซึ่งลายวงกลมหรือสัญลักษณ์ มารุ (Infinity) นี้เป็นสัญลักษณ์ของโครงการที่ AP ร่วมทุนกับ Mitsubishi Estate Group บริษัทพัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ในญี่ปุ่น ซึ่งการออกแบบและก่อสร้าง รวมถึงเทคนิค – เทคโนโลยีในโครงการก็จะได้รับการแชร์ความรู้ในเชิงลึกจากทีมดีไซเนอร์ญี่ปุ่น พร้อมดึงเสน่ห์ในการออกแบบเข้ามาผสมผสานเพื่อให้งานสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในโครงการโดดเด่นยิ่งขึ้น
จาก Master Plan ของโครงการจะเห็นว่า ทางเข้าของโครงการอยู่ติดกับถนนพหลโยธิน ผ่านส่วน Security เข้ามาด้วยระบบ Access Card และระบบ Smart Home จาก Smart World Application บนมือถือที่มีการแชร์ Wi – Fi สำหรับอาคาร A จะใช้ทางเข้าฝั่งซ้ายมือ ตรงเข้าไปผ่านจุด Drop off แล้ววนออก หรือเลี้ยวขึ้นลานจอดรถ สำหรับอาคาร B จะใช้ทางเข้าฝั่งขวามือ โดยจะขับผ่านจุด Drop off แล้ววนไปเข้าอาคารจอดรถที่ด้านหลังอาคาร
โดยรอบโครงการมีการจัด Landscape และ Waterscape กินพื้นที่กว่า 2 ไร่ ช่วยสร้างความร่มรื่นหน้าอยู่ภายในโครงการ รวมถึงเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจด้วย โดยจะมีทางเดินเชื่อมไปถึงส่วน Play House และ Street Bas Court สำหรับเล่นเกมและทำกิจกรรมระหว่างครอบครัวและเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังมีทางเดินภายในโครงการที่นำไปสู่ประตูทะลุออก Tesco Lotus ได้โดยไม่ต้องเดินอ้อมออกไปที่ด้านหน้าโครงการให้เสียเวลา ซึ่งประตูนี้จะใช้ระบบ Key Card Access เพื่อความปลอดภัยค่ะ
::: BUILDING A :::
มาดูรายละเอียดในแต่ละอาคารกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากอาคาร A ก่อน ชั้น 1 จากจุด Drop off เข้าสู่ด้านในอาคารจะเป็นโถง Iconic Lobby ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ The Share Space ขนาดใหญ่ ภายในมีห้องแยกเป็น Intelligent Co – Thinking Space หรือก็คือ Co – Working Space และจาก Iconic Lobby ก็จะเชื่อมต่อกับ Mail Room, ห้องน้ำส่วนกลาง และโถงลิฟต์ ที่ใช้ระบบ Key Card Access ภายในมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน เป็นลิฟต์ระบบล็อกชั้นทั้งหมดค่ะ
ชั้น 2 – 10 จะเป็นส่วนอาคารจอดรถทั้งหมดค่ะ ใช้ระบบ First Come First Serve ไม่มีการล็อกที่จอดรถเอาไว้ให้
ชั้น 44 แปลนอาคารชั้นนี้มีส่วนต่างจาก Typical Floor Plan ตรงจุดเดิม แต่จะเป็นแปลนของห้อง Duplex ชั้นบนแทน
ชั้น 45 เป็น Main Facilities ของโครงการแบบจัดเต็มเลยค่ะ จะประกอบด้วย Sky Social Club, Panoramic Health Club, Cityscape Infinity Lap Pool, ที่นั่ง Sky Cabana, Steam และ Sauna
ชั้น Mezzanine จาก Sky Social Club ที่ชั้น 45 จะมีบันไดวนเชื่อมต่อขึ้นมาที่ Theatre House ค่ะ
::: BUILDING B :::
สำหรับอาคาร B เองก็มีลำดับการวางผังไม่ต่างจากอาคาร A เท่าไหร่ค่ะ ชั้น 1 จากจุด Drop off เข้าสู่ด้านในอาคารจะเป็นโถง Iconic Lobby ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ The Share Space ขนาดใหญ่ ภายในมีห้องแยกเป็น Intelligent Co – Thinking Space หรือ Co – Working Space และจาก The Share Space ก็จะเชื่อมต่อกับ Mail Room, ห้องน้ำส่วนกลาง และโถงลิฟต์ ที่ใช้ระบบ Key Card Access ภายในมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 5 ตัวด้วยกัน เป็นลิฟต์ระบบล็อกชั้นทั้งหมดค่ะ
ชั้น 2 – 10 จะเป็นส่วนอาคารจอดรถเหมือนกันค่ะ ใช้ระบบ First Come First Serve ไม่มีการล็อกที่จอดรถเอาไว้ให้
ชั้น 46 เป็น Main Facilities ของโครงการแบบจัดเต็ม จะประกอบด้วย Sky Social Club, Panoramic Health Club, Multi – Purpose Room, Cityscape Infinity Lap Pool, ที่นั่ง Sky Cabana, The Urban Oasis, Steam และ Sauna
ชั้น Mezzanine จาก Sky Social Club ที่ชั้น 45 จะมีบันไดวนเชื่อมต่อขึ้นมาที่ Theatre House ค่ะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
แบบห้องของ Life Ladpraoจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 แบบหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ
ทางเข้าโครงการแบ่งออกเป็น 2 ช่องสำหรับการเข้า – ออก กั้นด้วยรั้วไม้กระดก พร้อมกล้อง CCTV และป้อมยามรักษาความปลอดภัย การเข้าโครงการจะใช้ระบบ Access Card และระบบ Smart Home จาก Smart World Application บนมือถือที่มีการแชร์ Wi – Fi ทำให้ลูกบ้านสามารถเปิดรั้วไม้กระดกเข้าไปด้านในโครงการเองได้เลยค่ะ
ตรงเข้าไปภายในถนนโครงการสังเกตว่ามีการจัด Landscape เป็นแนวต้นไม้ใหญ่อย่างร่มรื่นสวยงามตลอดทาง ช่วยปรับความรู้สึกเหมือนเรากำลังได้กลับมาพักผ่อน ถ้าตรงไปข้างหน้าจะเป็นทางนำไปสู่จุด Drop off อาคาร A และหากเลี้ยวออกทางฝั่งขวาจะเป็นถนนที่นำไปสู่จุด Drop off อาคาร B ค่ะ
เลี้ยวซ้ายข้างหน้านี้เองก็จะเข้าสู่จุด Drop off อาคาร A และเข้าสู่ตัวอาคาร
ถ้าจะไปอาคาร B ให้เราออกขวาและตรงไปจนถึงด้านหลังโครงการ ทั้ง 2 ฝั่งของถนนจะมีที่จอดรถสำหรับ Visitor ให้จอดได้หลายคันเลย
มองไปทางฝั่งซ้ายมือจะมีจุด EV Charger ทั้งหมด 4 จุดด้วยกัน เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
บริเวณใต้อาคาร A ติดกับส่วน The Share Space จะมีโซน Vertical Garden และม้านั่งจัดเอาไว้ให้ในร่มด้วยค่ะ สังเกตที่ตรงม้านั่งทุกจุดจะมีปลั๊กไฟและ USB Port รองรับสำหรับชาร์ตมือถือ แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊กได้ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของโครงการก็สามารถนั่งทำงานได้ไม่มีสะดุด
จาก Lobby เราเข้ามาภายในส่วน The Share Space ที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ ฝ้าเพดานสูงโปร่งพร้อมผนังกระจกทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่ง และมีการจัดมุมสำหรับนั่งพักผ่อนให้อยู่หลายมุมเลยค่ะ
ตรงเข้าไปด้านหลังสุดของส่วน The Share Space จะมีมุมสำหรับให้นั่งทำงานได้ด้วยนะคะ เก้าอี้บางตัวถูกออกแบบมาเหมือนเป็นผนังล้อมรอบให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พร้อมโต๊ะสำหรับวางคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต
จาก The Share Space เชื่อมต่อกับ Intelligent Co – Thinking Space โดยลูกบ้านจะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูเข้าไปค่ะ
พื้นที่ภายในห้องใช้การตกแต่งเหมือนบริเวณ Iconic Lobby ทำให้ดูเป็นทางการมากกว่าบริเวณ The Share Space ที่ต้องการความผ่อนคลาย
ในห้องมีการจัดโต๊ะประชุมขนาดใหญ่พร้อมปลั๊กไฟและ USB Port สำหรับแท็บเล็บและโน้ตบุ้กให้อยู่ตรงกลาง ด้านหลังห้องก็มีอาร์มแชร์สำหรับนั่งพักผ่อนนิด ๆ ได้ ผนังด้านข้างมีหน้าจอทีวีจัดเอาไว้ให้เพื่อประโยชน์ในการคุยงาน
สำหรับ Facilities ของอาคาร A จะอยู่ที่ชั้น 45 ส่วนอาคาร B จะอยู่ที่ชั้น 46 ซึ่งในวันนี้เราเข้ามาดูภายในอาคาร B กันค่ะ พอออกจากโถงลิฟต์มาแล้วจะมีโถงทางเดินแยกฝั่งซ้ายและขวาที่ด้านหน้า
ทางฝั่งขวามือจะทำไปสู่ห้องน้ำ, Sky Social Club และ Theatre House
ส่วนทางฝั่งซ้ายมือจะออกไปทาง Panoramic Health Club และ Cityscape Infinity Lap Pool ค่ะ
เราไปดูทางฝั่งขวามือกันก่อนค่ะ บริเวณโถงทางเดินก่อนถึงห้องน้ำจะมีตู้ล็อกเกอร์ให้สำหรับคนที่มาใช้งาน Panoramic Health Club และ Cityscape Infinity Lap Pool
เข้ามาภายใน Sky Social Club อีกโซนหนึ่ง ถูกจัดให้มีบรรยากาศแบบดูแบบสบาย ๆ ในโทนที่ดูสว่างมากขึ้น มีมุมสำหรับนั่งเล่นและมีมุมโต๊ะบาร์สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวเมือง
สังเกตภายในห้องฝั่งซ้ายจะมีโถงบันไดวนสำหรับขึ้นไปยังชั้น Theatre House ค่ะ
ภาพบันไดวนขึ้นไปยังส่วน Theatre House ถูกออกแบบมาเหมือนชิ้นงานประติมากรรมชิ้นหนึ่ง โดยใช้ตัวบันไดวนเป็นสีดำตัดกับผนังห้องสีขาวเป็น Background
ในส่วนของ Theatre House เปรียบเสมือนเป็น Private Home Theatre ที่ลูกบ้านสามารถจองการใช้งานกับทางฝ่ายนิติบุคคลได้
ห้องนี้ถือว่าได้วิวในจุดที่สูงที่สุดของของโครงการแล้วค่ะ (เฉพาะส่วน Indoor Area นะ) สังเกตว่าโซฟาที่ทางโครงการเลือกใช้ในห้องนี้จะเป็นแบบที่สามารถเอนตัวนอนได้เยอะเพื่อให้เข้ากับกิจกรรมของห้อง
ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน มีพื้นที่ห้องค่อนข้างใหญ่สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom เลยค่ะ ส่วนตัวแล้วชอบการแบ่งโซนภายในห้องอย่างเป็นสัดส่วนได้ดี ระหว่าง Living Area, ห้องนอน และห้องครัว พอเข้ามาในห้องจะเจอ Living Area ก่อน, ถัดเข้าไปคือห้องนอนเชื่อมต่อกับ Walk In Closet (ซึ่งเป็นจุดขายของห้อง Type นี้) และระเบียง ส่วนฝั่งซ้ายมือของห้องคือโซนห้องครัวและห้องน้ำซึ่งจะได้เป็นครัวแบบปิด โดยทั้งหมดนี้จะกั้นส่วนออกจากกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ข้อดีก็คือช่วยให้พื้นที่ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นค่ะ
มือจับประตูเป็นแบบก้านโยกสแตนเลส และมีช่องเสียบกุญแจหน้าตาธรรมดา แต่ความพิเศษคือ จะเห็นว่าด้านใน (ภาพขวา) มีตัวรับสัญญาณมือถืออยู่ คือสามารถใช้มือถือที่ลงแอปพลิเคชัน Smart World เปิดล็อกห้องได้ ควบคุมการเปิด – ปิดไฟและเครื่องปรับอากาศได้ ด้วยฟังก์ชันEntry / Unit Smart Lock / Air Condition Control ช่วยเสริมความปลอดภัยและสะดวกสบายดี
เข้าไปภายในห้องจะเจอส่วน Living Area ก่อนและด้านในที่กั้นประตูบานเลื่อนกระจกเอาไว้คือห้องนอน โซนทางฝั่งขวาของห้องคือห้องครัวและห้องน้ำ พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย ผนังภายในห้องฉาบเรียบทาสีค่ะ
ฝ้าเพดานในห้องสูง 2.5 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลต์หลอด LED ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 2 เครื่อง ติดเอาไว้ภายใน Living Area 1 ตัวและภายในห้องนอนอีก 1 ตัว ใช้ของ Daikin
เราเข้าไปดูภายในห้องครัวกันต่อ กั้นส่วนจาก Living Room ด้วยประตูบานเลื่อนกรอบอะลูมิเนียมติดกระจกใส
พื้นที่ภายในห้องครัวค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวค่ะ ทางโครงการให้เคาน์เตอร์ครัว Built – In แบบ L Shape มาแบบนี้เลย ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
ตัวเคาน์เตอร์ใช้ Top หินสังเคราะห์สีขาว หน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตสีครีม เราเปิดชุดครัวให้ดูช่องเก็บของภายในนะคะ ทำชั้นเก็บของมาให้เยอะดี บานเปิดทุกบานติด Soft Close มาให้ เปิด – ปิดไม่มีเสียงดังปึงปัง มีเว้นช่องมาให้สำหรับตู้เย็น และเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 กก. มาให้
ทางโครงการติดตั้งทั้งเตาปรุงอาหาร, เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน บน Top เคาน์เตอร์มาให้แล้ว โดยที่ผนังด้านหลังกรุกระเบื้องแกรนิตโต้ให้ ข้อดีก็คือทำให้สามารถเช็ดล้างพวกคราบอาหารและคราบน้ำมันออกได้ง่าย
มองไปที่ฝั่งปลายเตียงจะมีประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมกับ Walk In Closet
ห้องตัวอย่างทำ Walk In Closet มาให้ดูเป็นไอเดีย โดยทำตู้ Built In แบบไม่มีบานปิดพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งมาแบบกำลังพอดีพื้นที่ห้อง ยังเหลือพื้นที่ให้ยืนแต่งตัวได้สบาย
และจาก Walk In Closet จะมีประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมต่อกับระเบียงห้องค่ะ ทำให้ให้นี้ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ เอื้ออำนวยผู้หญิงอย่างเราให้แต่งตัวแต่งหน้าง่าย
พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อยปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ติดตั้งระแนงเหล็กให้เป็นราวกันตก สามารถใช้ประโยชน์ได้ในการวางเครื่องซักผ้า, ตากผ้า
และแขวน Compressor ได้ โดยห้อง Type นี้จะแขวนเอาไว้ให้ข้างบน ไม่มาเบียดพื้นที่ใช้สอยส่วนระเบียง
ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูปปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ มีเจาะช่องตาแมวให้เอาไว้ส่องคนที่มาเคาะประตูได้ พร้อมติดตั้งมือจับประตูแบบก้านโยกสแตนเลส ที่มีตัวรับสัญญาณมือถืออยู่ สามารถใช้มือถือที่ลงแอปพลิเคชัน Smart World เปิดล็อกห้องได้ ควบคุมการเปิด – ปิดไฟและเครื่องปรับอากาศได้ ด้วยฟังก์ชันEntry / Unit Smart Lock / Air Condition Control ช่วยเสริมความปลอดภัยและสะดวกสบาย
เข้าไปภายในห้องจะเจอโถงทางเดินเชื่อมต่อกับส่วน Living Area ส่วนทางฝั่งซ้ายมือนี้คือห้องครัวค่ะ พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย ผนังภายในห้องฉาบเรียบทาสีค่ะ
ฝ้าเพดานในห้องสูง 2.5 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลต์หลอด LED ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 2 เครื่อง ติดเอาไว้ภายใน Living Area 1 ตัวและภายในห้องนอนอีก 1 ตัว ใช้ของ Daikin
เวลาที่ครัวตั้งอยู่ใกล้ประตูทางเข้าห้องนี่ก็ถือว่าช่วยอำนวยสะดวกในระดับนึงในแง่ของการซื้อของเข้าบ้าน ก็สามารถนำอาหารพวกของสดตรงเข้าครัวได้เลย ไม่ต้องไปปนในส่วน Living Area ก่อน โดยครัวที่ได้ในห้องนี้ก็เป็นครัวปิดเช่นเดียวกัน
จากโถงทางเข้าห้องจะเชื่อมต่อกับ Living Area ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่นพักผ่อน โดยวางส่วนรับประทานอาหารให้อยู่ติดกับห้องครัวเพื่อความต่อเนื่องในการใช้งานพื้นที่
ห้องตัวอย่างวางโต๊ะอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูพื้นที่ใช้สอยค่ะ มีการตกแต่งห้องด้วยสี Earth Tone ที่เน้นโทนสว่างรวมถึงตกแต่งผนังบางส่วนของห้องด้วยกระจก ทำให้ห้องดูสว่างและกว้างขวางมากขึ้น
ผนังฝั่งตรงข้ามสามารถวางชั้นวางทีวีแบบลอยตัว หรือจะทำเป็นชั้น Built In เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ ระยะดูทีวีของห้องนี้ค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ ถ้าใช้จอขนาด 60 นิ้วน่าจะกำลังพอดี
ระหว่างประตูทางเข้าห้องและ Walk In Closet จะเห็นประตูที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำห้องเมื่อสักครู่ค่ะ
พื้นที่ตรงนี้ห้องตัวอย่างทำตู้เสื้อผ้า Built In มาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งเป็นจุดที่อยู่บริเวณข้าง ๆ ห้องน้ำพอดี เป็นการแบ่งโซนห้องที่ดีที่ทำให้การใช้งานค่อนข้างต่อเนื่อง
ปล่อยเช่า ไลฟ์ ลาดพร้าว ชั้น 18 อาคาร A 26 ตรม. วิวเมืองสวย
บิวท์อินทั้งห้อง+เฟอร์นิเจอร์ครบ
ประกัน 2 เดือน ล่วงหน้า 1 เดือน
เดือนละ 18,000 บาท (สัญญา 1 ปีค่ะ)
For Rent Life Ladprao 18th Floor / Tower A / 26 Sqm. / Town View
Build in+Fully Furnished
2 months deposit+1 month advance
18,000 per month (Minimal lease term = 1year)
Tel : 064-7622111 (ปุ๊ก/Puk)
Line : @scenespace
Life ลาดพร้าว (ตรงข้ามเซ็นทรัล)
✅ทำเลดีห้องมุมสวย ( ขายเท่าทุน!!) ลดได้ๆ
✅ทำเลขนาดนี้แถมได้ห้องราคาดีไม่เกินสี่ล้าน!!
✅ a11a216 studio.( 28.50 ตรม.)ตึก A ชั้น 11 วิวสวนลอยฟ้าส่วนตัว.(ห้องติดผนังห้องอื่นแค่ฝั่งเดียว)
✅ขายดาวน์ต่อ จ่ายไปแล้ว.
จอง 40,000
สัญญาอีก 40,000
ซื้อใบจองจากเจ้าแรก 150,000 (คุยกันก่อนได้)
ผ่อน 5 งวดแรกแล้ว งวดละ 21850. รวมเป็น 109,250บาท
ผ่อน 3 งวดหลังแล้ว. งวดละ. 14588- รวมเป็น. 43764 บาท
รวม 383,014. บาท (ขายเท่าทุนไม่บวกกำไรเพิ่ม)
ติดต่อ
โทร 0909919289 ( อาร์ต )
Line : classy_official
#ไลฟ์ลาดพร้าว #lifeladprao