ชื่อโครงการ |
แม็กนิกซ์ รามอินทรา 21 MAGNIX Ramintra 21 |
เจ้าของโครงการ |
บริษัท เดอะ รอยัล เรสซิเดนซ์ จำกัด / The Royal Residence |
เนื้อที่ทั้งหมด |
0-1-99 ไร่ |
จำนวนตึก |
1 อาคาร |
จำนวนชั้น |
8 ชั้น |
จำนวนห้อง |
79 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
- TYPE A : 1 Bedroom ขนาด 23 – 24 ตร.ม.
- TYPE B : 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม.
- TYPE C : 1 Bedroom Plus ขนาด 33 – 35 ตร.ม.
|
ที่จอดรถทั้งหมด |
คิดเป็น 40% หรือ 29 คัน รวมการจอดแบบซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ |
1 ตัว |
โซน |
รามอินทรา |
ขนส่งสาธารณะ |
- ถนนรามอินทรา
- ถนนพหลโยธิน
- ทางด่วนฉลองรัช (รามอินทราอาจณรงค์)
- ถนนวงแหวนรอบนอก (ตะวันออก)
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีลาดปลาเค้า
- รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีวัดพระศรีฯ
|
รถโดยสารที่ผ่าน |
n/a |
ที่ตั้ง |
ซอยรามอินทรา 19 แยก 4 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร |
กำหนดการ |
Pre – Sale 30 มี.ค. 2562 |
ปีที่สร้างเสร็จ |
ไตรมาส 2 ปี 2563 |
ราคา |
เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท* ราคาวันเปิดตัว (ณ.วันที่ 13 มี.ค.62) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม |
73,600 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
- เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม./ชำระครั้งเดียว
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
ห้างสรรพสินค้า
- ตลาดลาดปลาเค้า : 700 ม.
- Big C Extra รามอินทรา : 900 ม.
- Foodland : 1.2 กม.
- The Jas รามอินทรา : 1.5 กม.
- Central รามอินทรา : 1.9 กม.
- Ease Park : 2.1 กม.
- ตลาดถนอมมิตร : 4.1 กม.
- ตลาดนัดเลียบด่วน : 4.1 กม.
- Plearnary mall : 4.4 กม.
- Nawamin Festival Walk : 6.2 กม.
- Nawamin City Avenue : 6.4 กม.
- ตลาดนัดหัวมุม : 7.0 กม.
- The Walk : 7.6 กม.
- Tesco Lotus นวมินทร์ : 8.2 กม.
- The Crystal : 8.2 กม.
- The Promenade : 8.5 กม.
- Fashion Island : 8.8 กม.
- Chic Republic : 8.9 กม.
- Central Festival Eastville : 9.4 กม.
- HomePro เลียบทางด่วน : 9.8 กม.
- CDC : 9.9 กม.
- Chocolate Ville : 11.2 กม.
สถานศึกษา
- ม.เกริก : 2.2 กม.
- รร.นานาชาติกีรพัฒน์ : 4.2 กม.
- รร.สารวิทยา : 7.0 กม.
- ม.เกษตรศาสตร์ : 7.2 กม.
- รร.เลิศหล้า : 8.0 กม.
- รร.บดินทร์เดชา 2 : 10.4 กม.
โรงพยาบาล
- รพ.สินแพทย์ : 6.9 กม.
- รพ.พญาไท นวมินทร์ : 7.9 กม.
- รพ.วิภาวดี : 8.5 กม.
- รพ.นพรัตน์ : 10.0 กม.
อื่นๆ
- สนามกีฬากองทัพบก : 3.1 กม.
- วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร : 3.2 กม.
- เสถียรธรรมสถาน : 3.6 กม.
- วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร : 4.5 กม.
- สวนสยาม : 11.3 กม.
- สนามกอล์ฟปัญญา : 12.3 กม.
- ซาฟารีเวิลด์ : 12.6 กม.
- สนามกอล์ฟนวธานี : 12.9 กม.
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
- Lobby
- Mailbox
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ
- ฟิตเนส
- Co-Working Space
- สวนหย่อม
- เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Key Card
- กล้อง CCTV โดยรอบโครงการ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
|
จุดเด่นของโครงการ |
MAGNIX รามอินทรา 21 คอนโดใหม่ใจกลาง ‘ถนนรามอินทรา’ ทำเลแห่งศักยภาพ ด้วยการเดินทางที่คล่องตัวทุกรูปแบบ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเขียวในอนาคต ที่อยู่ใกล้เพียงไม่กี่นาที รวมถึงการเดินทางโดยรถยนต์ที่แสนสะดวก เพราะใกล้ทางด่วนฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) และยังสามารถเข้าออกโครงการด้วยถนนใหญ่ได้หลายสายอย่าง ถนนพหลโยธิน ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนลาดปลาเค้าอีกด้วย ให้คุณเนรมิตทุกช่วงเวลา ให้กลายเป็นเวลาที่สุดพิเศษ “YOUR TIME IS PRECIOUS” |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
พิกัด : 13.865190, 100.617020
ซอยรามอินทรา 19 แยก 4 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
แผนที่จากทางโครงการ โครงการ Magnix รามอินทรา 21 ตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 19 แยก 4 ใกล้ทางด่วน 3 ด่วน, รถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีลาดปลาเค้า และห้างสรรพสินค้าทั้ง Central รามอินทรา, Big C Extra, The Jas รามอินทรา, Ease Park, Tesco Lotus หลักสี่, Plearnary Mall, Fashion Island, The Promenade และอื่นๆ อีกมากมาย
ทำเลที่ตั้ง โครงการตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 19 แยก 4 ในโซนรามอินทราช่วงกม.2 เป็นทำเลที่สะดวกสบาย สามารถเดินทางได้สะดวกเพราะเข้า – ออกได้ 2 ทางทั้งจากซอยรามอินทรา 21 และ ซอยรามอินทรา 19 และอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นทางด่วน โซนนี้นับว่าเป็นย่านของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise, ออฟฟิศ โดยจะมีอาคารพาณิชย์เรียงขนาบถนนใหญ่ พอเข้าซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชน
จากภาพรวมของย่านนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นย่านของที่อยู่อาศัยและออฟฟิศขนาดย่อมๆ มีตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืนอีกด้วย จากที่สังเกตดูก็คือ ย่านนี้ยังมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีโครงการเกิดขึ้นอีกมากมายในช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการในแนวดิ่งหรือในแนวราบเพราะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่จะทำให้การสัญจรไป – มาสะดวกมากขึ้น และเพื่อรองรับพนักงานออฟฟิศที่เข้ามาทำงานในย่านนี้ จึงทำให้โซนนี้เป็นที่น่าจับตามองอีกโซนนึงเลยค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างสะดวกนะคะจะเข้าหรือออกตัวเมืองก็ไม่ยาก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 19 แยก 4 ใกล้กับถนนรามอินทรา ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น จากถนนประดิษฐ์มนูธรรมวิ่งลงทางตอนใต้จะตัดกับถนนเกษตร – นวมินทร์และถนนลาดพร้าว ซึ่งจะไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน วิ่งลงมาอีกจะมาตัดกับถนนพระราม 9 และสุดที่ถนนเพชรบุรี เข้าสู่ย่าน CBD (Central Business District) ได้สะดวก โดยมีตัวช่วยในการเดินทางคือทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชและทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
จากถนนรามอินทราถ้าวิ่งไปฝั่งตะวันตกทางปากเกร็ด จะไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะตัดกับถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี – รังสิตและผ่านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนฝั่งตะวันออกจะยิงยาวไปถึงมีนบุรี นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษกซึ่งเป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกเส้นหนึ่ง จะวิ่งขึ้นไปทางบางปะอินหรือใช้วิ่งลงไปทางบางนาก็สะดวก อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์และทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วย
นอกจากนี้ยังเชื่อมกับถนนวัชรพลเองที่สามารถใช้วิ่งขึ้นไปทางห้าแยกวัชรพลเชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 5 ถนนเทพารักษ์ ถนนเพิ่มสิน และ ถนนสายไหม ซึ่งจะมีซอยเชื่อมไปยังถนนลำลูกกาได้ด้วย
ทางด่วน ตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ทั้งขาเข้าและขาออกเมืองค่ะ จากซอยรามอินทรา 21 สามารถวิ่งออกไปที่ถนนรามอินทรา และเลี้ยวเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมขึ้นทางด่วนในระยะทางเพียง 5.4 กม.เท่านั้น สามารถเข้าสู่ย่านธุรกิจได้สะดวกและรวดเร็ว
ไม่ไกลจากทางยกระดับอุตราภิมุข เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่สามารถเลือกใช้วิ่งเข้าเมืองได้เวลาที่เส้นทางอื่นมีการจราจรที่ติดขัดกว่าจากตัวโครงการออกมาที่ถนนรามอินทราต้องกลับรถเพื่อวิ่งไปทางฝั่งวิภาวดี – รังสิต ด้วยระยะทาง 6.5 กม.
และตัวโครงการก็อยู่ห่างจากจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกเพียง 9.0 กม.เท่านั้นเอง ใช้วิ่งลงไปทางสุวรรณภูมิได้สะดวกเพียงครึ่งชม. เท่านั้นหากรถไม่ติดมากนะคะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
- ถนนรามอินทรา : 280 ม.
- ถนนสุขาภิบาล 5 : 1.6 กม.
- ถนนวัชรพล : 2.7 กม.
- ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 4.0 กม.
- ถนนนวมินทร์ : 4.2 กม.
- แยกวัชรพล : 4.2 กม.
- ถนนพหลโยธิน : 4.2 กม.
- ถนนเทพารักษ์ : 5.2 กม.
- ถนนเกษตร – นวมินทร์ : 5.4 กม.
- ถนนวิภาวดี – รังสิต : 6.0 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บริเวณหน้าโครงการจะไม่มีรถประจำทางวิ่งผ่านค่ะ แนะนำให้ใช้ Application Grab Taxi และ Line Taxi เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น หรือถามเบอร์พี่วินในซอยเอาไว้จะได้โทรให้เข้ามารับในซอยได้ แต่จากซอยรามอินทรา 21 ออกมาที่ถนนรามอินทราจะมีรถสาธารณะผ่านตลอด ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์, รถตู้, วินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่ มีป้ายรถเมล์อยู่เป็นช่วงๆ ทั้ง 2 ฝั่งของถนน สามารถหารถได้ง่ายมากๆ
ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรีบนเส้นรามอินทรา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีลาดปลาเค้า ห่างจากโครงการเพียง 300 เมตร ตำแหน่งอยู่ตรงแยกลาดปลาเค้า ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ เป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพียง 2 สถานี เป็นโครงการเชื่อมต่อสถานีหมอชิตในอนาคตที่วิ่งเลียบเส้นพหลโยธิน นอกจากนี้สถานีลาดปลาเค้าอยู่ห่างจากสถานีวัชรพลเพียง 3 สถานี เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเทาช่วงวัชรพล – ทองหล่อ เป็นโครงการในอนาคตที่วิ่งเลียบเส้นเลียบด่วนรามอินทรา ทั้งนี้รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีกำหนดคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2564 ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ บริเวณโดยรอบของตัวโครงการจะเป็นอาคารที่พักอาศัยในแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม และอาคารพาณิชย์ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบไม่หนาแน่นอึกทึกเท่ากับการอยู่อาศัยในตัวเมือง ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็นับว่ารองรับการอยู่อาศัยให้มีความสะดวกสบายพอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต และตลาดนัด ในย่านนี้มีครอบคลุมทั้งหมด
ภายในซอยรามอินทรา 21 และ 19 เองก็จะมีอาคารพาณิชย์เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร มีร้านโชห่วย – ร้านสะดวกซื้อ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างเริ่มจากเส้นรามอินทรา ที่เด่นๆ เลยอยู่ตรงช่วงกม.10 ก็คือห้าง Fashion Island และข้างๆ กัน The Promenade ซึ่งภายในก็จะมีทั้ง Shopping Center, ห้าง Big C, ร้านอาหาร, โรงเรียนติวเตอร์, คลีนิกเสริมความงาม และ อื่นๆ อย่างครบวงจร มีเซ็นทรัลรามอินทราและ Big C Extra ตรงช่วงรามอินทรากม.2 – 3 Ease Park และ Food Land ช่วงกม.4 เรียกว่าอยู่ใกล้แบบสุดๆ เส้นเลียบด่วนรามอินทราก็จะมีทั้ง The Crystal, CDC, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสวิลล์, ร้านอาหารบรรยากาศดี รวมถึงตลาดนัดเลียบด่วนขนาดใหญ่ ซึ่งตอนนี้ได้เปิดพื้นใหม่อีก 10 ไร่ให้ร้านค้ามาลงติดเส้นรามอินทราอีกด้วย
บนเส้นนวมินทร์ก็มีทั้ง Tesco Lotus, รพ.พญาไท นวมินทร์ และ Big C Market มาอีกด้านบนเส้นเกษตร – นวมินทร์ก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจ มี Community Mall, ตลาดนัดหัวมุม เป็นตลาดนัดกลางคืนกับสินค้าในราคาย่อมเยา, ร้านอาหาร และร้านนั่งชิว มา Hangout กับเพื่อนๆ ได้ในยามค่ำคืนค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
- ตลาดลาดปลาเค้า : 700 ม.
- Big C Extra รามอินทรา : 900 ม.
- Foodland : 1.2 กม.
- The Jas รามอินทรา : 1.5 กม.
- Central รามอินทรา : 1.9 กม.
- Ease Park : 2.1 กม.
- ตลาดถนอมมิตร : 4.1 กม.
- ตลาดนัดเลียบด่วน : 4.1 กม.
- Plearnary mall : 4.4 กม.
- Nawamin Festival Walk : 6.2 กม.
- Nawamin City Avenue : 6.4 กม.
- ตลาดนัดหัวมุม : 7.0 กม.
- The Walk : 7.6 กม.
- Tesco Lotus นวมินทร์ : 8.2 กม.
- The Crystal : 8.2 กม.
- The Promenade : 8.5 กม.
- Fashion Island : 8.8 กม.
- Chic Republic : 8.9 กม.
- Central Festival Eastville : 9.4 กม.
- HomePro เลียบทางด่วน : 9.8 กม.
- CDC : 9.9 กม.
- Chocolate Ville : 11.2 กม.
สถานศึกษา
- ม.เกริก : 2.2 กม.
- รร.นานาชาติกีรพัฒน์ : 4.2 กม.
- รร.สารวิทยา : 7.0 กม.
- ม.เกษตรศาสตร์ : 7.2 กม.
- รร.เลิศหล้า : 8.0 กม.
- รร.บดินทร์เดชา 2 : 10.4 กม.
โรงพยาบาล
- รพ.สินแพทย์ : 6.9 กม.
- รพ.พญาไท นวมินทร์ : 7.9 กม.
- รพ.วิภาวดี : 8.5 กม.
- รพ.นพรัตน์ : 10.0 กม.
อื่นๆ
- สนามกีฬากองทัพบก : 3.1 กม.
- วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร : 3.2 กม.
- เสถียรธรรมสถาน : 3.6 กม.
- วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร : 4.5 กม.
- สวนสยาม : 11.3 กม.
- สนามกอล์ฟปัญญา : 12.3 กม.
- ซาฟารีเวิลด์ : 12.6 กม.
- สนามกอล์ฟนวธานี : 12.9 กม.
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม > ถ.รามอินทรา > แยกลาดปลาเค้า > ซอยรามอินทรา 21 > ซอยรามอินทรา 19 แยก 4 > Magnix รามอินทรา 21
มาเริ่มต้นจากถนนประดิษฐ์มนูธรรมกันก่อนค่ะ จุดเริ่มต้นจะอยู่เลยแยกถนนประเสริฐมนูกิจมาเล็กน้อย ให้เรามุ่งหน้าไปทางรามอินทราตามป้ายไปเลย จากจุดนี้ใช้เวลาเดินทางไปถึงตัวโครงการประมาณ 15 นาที
จากนั้นให้เราออกซ้ายไปทางหลักสี่
และชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนรามอินทราค่ะ
วิ่งตามถนนรามอินทราไปเรื่อยๆ จะรู้สึกว่าช่วงนี้รถติดหน่อยนะคะเพราะว่าเขากำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูกันอยู่ เราจะวิ่งผ่านแยกมัยลาภค่ะ
ผ่านแยกมัยลาภไปเล็กน้อยเราจะเห็น Ease Park อยู่ฝั่งซ้ายมือ ที่เป็น Community Mall ภายในมีร้านอาหาร, Villa Market, Starbuck และ Fitness ด้วย
และ Big C Extra รามอินทรา เป็น Hypermarket ที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด ถ้าเดินเท้ามาจากโครงการก็เพียง 900 เมตรเท่านั้น จากจุดนี้ให้เราชิดซ้ายไปตามป้ายถนนลาดปลาเค้า – จุดกลับรถใต้สะพานค่ะ
ให้เราชิดซ้ายเอาไว้ ถ้าชิดขวาจะขับข้ามแยกลาดปลาเค้าไปนะคะ จะต้องไปกลับรถอีกไกลเลย
จากนั้นให้เรากลับรถตรงแยกลาดปลาเค้าค่ะ
พอกลับรถมาแล้วให้เรารีบชิดซ้ายเลย ฝั่งซ้ายมือของเราก็คือซอยรามอินทรา 19 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถใช้เดินทางเข้าไปที่ตัวโครงการได้เส้นทางนึง
ขับเลยซอยรามอินทรา 19 มาเล็กน้อยก็คือสำนักงานขายของโครงการค่ะ
ส่วนซอยที่เราแนะนำให้ใช้ก็คือซอยรามอินทรา 21 ถัดมาจากซอยรามอินทรา 19 เพียง 1 ซอย เพราะเป็นซอยที่มีขนาดใหญ่รถสามารถวิ่งได้ง่ายกว่านะ
จากถนนรามอินทราเราสามารถใช้ทั้งซอยรามอินทรา 19 และ 21 ในการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ แต่ทั้งนี้จะขอแนะนำซอยรามอินทรา 21 ตามที่กล่าวมาข้างต้นเพราะสามารถวิ่งได้ง่ายกว่า โดยระยะทางไปถึงตัวโครงการจากซอยรามอินทรา 19 และ 21 นั้นจะไม่ต่างกันมากค่ะ
เข้ามาภายในซอยรามอินทรา 21 จะเห็นว่าเป็นซอยที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง ในซอยนี้เองจะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย มีทั้งร้านค้า, ร้านอาหาร, คอนโดมิเนียม แต่หลักๆ เลยจะเป็นบ้านพักอาศัยของคนในท้องถิ่น
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าที่แยกที่ 4 ค่ะ
พอเลี้ยวเข้ามาในแยกแล้วเราก็จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือ ตรงข้ามกับลานจอดรถพอดีเลยค่ะ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
จริงๆ แล้วตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 19 แยก 4 แต่สามารถเข้า – ออกได้ทั้ง 2 ทางคือซอย 19 และซอย 21 ซึ่งภายในซอยจะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง จึงค่อนข้างเงียบสงบและไม่วุ่นวายนักค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2 – 3 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ซอยรามอินทรา 19 แยก 4
- ทิศตะวันออก ติดกับ ทาวน์เฮ้าส์ สูง 3 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 1 – 3 ชั้น
ตอนนี้เรามาอยู่ที่ตั้งโครงการกันแล้ว ซึ่งปัจจุบันก็มีการปิดล้อมรั้วเอาไว้เรียบร้อย
แอบมองพื้นที่ภายใน จะเห็นว่าโดยรอบโครงการจะถูกล้อมด้วยบ้านพักอาศัยที่สูงไม่เกิน 3 ชั้นค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการก็จะเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่
ที่ฝั่งซ้ายมือติดกับตัวโครงการจะเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น
ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นผืนที่ดินเปล่าค่ะ
จากโครงการเราเดินออกมาทางซอยรามอินทรา 21 ซึ่งเป็นฝั่งที่มีถนนค่อนข้างกว้างขวาง
หันไปทางฝั่งซ้ายมือเข้าไปภายในซอยจะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย มีทั้ง บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์, อพาร์ทเม้นท์ และร้านค้า – ร้านอาหารขนาดเล็กที่รองรับคนในพื้นที่
หันไปทางฝั่งขวามือเป็นฝั่งที่มุ่งหน้าออกถนนรามอินทรา เราจะเห็นคอนโดมิเนียม Low Rise เรียงกันอยู่ประมาณ 4 อาคารค่ะ
กลับมาจุดที่ตั้งโครงการอีกครั้ง หันหน้าไปทางฝั่งขวามือออกไปทางซอยรามอินทรา 19
ติดกับตัวโครงการเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1 ชั้นค่ะ
ในซอยมีบ้านเดี่ยวหลังใหญ่สูง 2 – 3 ชั้น
เดินออกมาที่ซอยรามอินทรา 19 จะเห็นว่าพื้นถนนมีขนาดแคบกว่าซอย 21
ฝั่งขวามือเข้าไปภายในซอยจะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย จะเห็นว่ามีอพาร์ทเม้นท์อยู่บางส่วนด้วย
และฝั่งซ้ายมือคือฝั่งที่มุ่งออกไปยังถนนรามอินทรา ถ้าตรงออกไปแล้วเลี้ยวขวา จะเป็นจุดที่มี 7 – Eleven ค่ะ เดินจากตัวโครงการไปเพียง 280 เมตรเท่านั้น
คราวนี้เรากลับมาที่สำนักงานขายของโครงการกัน ตำแหน่งจะอยู่ติดถนนรามอินทราระหว่างซอย 19 และซอย 21 เลย
ภายในสำนักงานขายก็จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยต้อนรับอยู่ค่ะ ถ้าสนใจข้อมูลของโครงการและชมห้องตัวอย่างก็สามารถ Walk – in เข้าไปได้เลย หรือจะทำการนัดก่อนล่วงหน้าก็ได้นะคะ
พื้นที่รองรับและนั่งพักคอยภายในสำนักงานขาย
ตัวโมเดลของโครงการค่ะ ให้เราได้เห็นภาพรวมของโครงการแบบทุกมิติว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร
:::: ตัวโครงการ ::::
แม็กนิกซ์ รามอินทรา 21 เป็น Low rise Condominium สูง 8 ชั้น มี 1 อาคาร บนเนื้อที่ 0 – 1 – 99 ไร่ เป็นส่วนตัวกับห้องพักอาศัยจำนวนเพียง 79 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 Bedroom Type A, B และ 1 Bedroom Plus Type C ขนาดเริ่มต้นที่ 23 – 35 ตร.ม. ตกแต่งห้องให้แบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีจุดเด่นที่ออกแบบมาให้รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ อาทิ Lobby, Co – working Space, Swimming Pool และ Fitness พร้อม ที่จอดรถ 29 คัน หรือ 40% รวมการจอดแบบซ้อนคัน, ระบบ Access Card Control, CCTV และ รปภ.ตลอด 24 ชม.
โดยภายใต้แนวคิด “Your Time Is Precious” กับ Urban Elegance Living เลือกทำเลที่ตั้งอันเงียบสงบภายในชุมชนที่อยู่อาศัยซึ่งโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ตัวอาคารเน้น Texture ที่เลียนแบบมาจากต้นไม้และลายไม้ทั้ง Exterior และ Interior ในพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งยังคงออกแบบให้ดูหรูหรา เนรมิตให้ทุกช่วงเวลาเป็นเวลาที่พิเศษ
และนี่ก็คือโมเดลของโครงการทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นทางเข้าโครงการหรือซอยรามอินทรา 19 แยก 4
โมเดลโครงการฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 1 ชั้น
โมเดลโครงการฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 1 – 3 ชั้น
และโมเดลโครงการฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับทาวน์โฮม สูง 3 ชั้น
คราวนี้เรามาดูผังของโครงการกันบ้าง เริ่มต้นจากชั้น 1 จากซอยรามอินทรา 19 แยก 4 เข้าสู่ตัวโครงการจะเป็นที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมดค่ะ รวม 29 คัน หรือคิดเป็น 40% ของยูนิตพักอาศัย ซึ่งรวมการจอดแบบซ้อนคันแล้ว จากลานจอดรถจะเชื่อมสู่ภายในอาคารด้วยโถง Lobby โดยจะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตู จาก Lobby จะเชื่อมต่อกับ Lift Lobby ภายในมีลิฟท์โดยสารให้ 1 ตัว ซึ่งจะเป็นลิฟท์ระบบล็อคชั้น คือต้องใช้ Key Card ในการแตะกดเลือกชั้นห้องพักของตัวเองเท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้นอื่นๆ ด้วยค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 บริเวณ Lobby จะกลายเป็นพื้นที่ Co – working Space สำหรับรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ให้สามารถนำงานมานั่งทำ หรือนั่ง Study สิ่งต่างๆ ได้นอกห้องของตัวเอง ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดค่ะ รวม 13 ห้องด้วยกัน จะเห็นว่าตัวอาคารถูกวางแปลนมาแบบ Double Corridor คือมีห้องพักอาศัยอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง แต่จะวางให้ประตูทางเข้าห้องอยู่เหลื่อมๆ กันหน่อยเพื่อความเป็นส่วนตัว เวลาเป็นประตูมาแล้วจะได้ไม่จ๊ะเอ๋กัน และมีช่องแสงอยู่ที่ปลายโถงทางเดินทั้ง 2 ฝั่งนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวอาคารค่ะ
ภาพจากโมเดลบริเวณทางเข้า – ออกของตัวโครงการ ที่ฝั่งขวามือด้านหน้าอาคารจะเป็น Lobby ค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศหน้าโครงการ MAGNIX รามอินทรา 21 จะเห็น Lobby ที่ฝั่งขวามือของอาคารชั้น 1
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Lobby ตกแต่งมาในสไตล์ Modern Luxury เล่นลวดลาย Partition ด้วยลายที่ถอดแบบมาจากต้นไม้ ปูพื้นลายไม้ ใช้สีโทนขาว – น้ำตาลอ่อน – น้ำตาลเข้ม และสีชาเพื่อให้ดูหรู จาก Lobby ก็จะเชื่อมต่อไปยังส่วน Lift Lobby ด้านใน จะเห็นว่ามี Mailbox ตั้งอยู่ด้านในด้วยค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Efficiency Co – Working Space ที่อยู่ชั้น 2 เป็นพื้นที่เพื่อการสร้างสรรค์ผลงานอย่างเต็มที่ ทั้งจัดโต๊ะขนาดใหญ่สำหรับการนั่งทำงานเป็นทีม และจัดโต๊ะแบบบาร์ริมหน้าต่างสำหรับนั่งคิดงานคนเดียวแบบเป็นส่วนตัว
ชั้น 3 – 5 จะเป็น Typical Floor Plan ทั้งชั้นจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดรวมกัน 14 ห้อง สำหรับคอนโด Low rise ถือว่ามีจำนวนยูนิตต่อชั้นที่น้อยแล้ว บริเวณห้องที่ลงสีครีมจะเป็นห้อง Type A ขนาด 23 – 24 ตร.ม. สีน้ำตาลมุมขวาล่างคือห้อง Type B ขนาด 31 ตร.ม. และสีส้มมุมขวาบนคือห้อง Type C ขนาด 33 – 35 ตร.ม.ค่ะ
ชั้น 6 จะมีจุดที่แตกต่างจากชั้น 3 – 5 เล็กน้อยที่บริเวณมุมขวาบน บางส่วนจะเปลี่ยนจากห้อง Type A เป็นห้อง Type C
ชั้น 7 พื้นที่ของอาคารจะถูกเฉือนออกเหลือเพียง 7 ห้อง/ชั้น เท่านั้นค่ะ ในชั้นนี้จะเหลือเพียงห้อง Type A และ Type C เท่านั้น
ชั้น 8 จะมีจำนวนยูนิตเพียง 4 ห้อง/ชั้น เป็นห้อง Type A ทั้งหมด ส่วนพื้นที่อีกครึ่งนึงของชั้นถูกแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ทั้ง Fitness และ Swimming Pool ระบบคลอรีนขนาด 3 x 11 เมตร ซึ่งส่วน Swimming Pool จะต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นไปครึ่งชั้นนะคะ
ภาพจากโมเดลบริเวณชั้น 8 ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ จะเป็นส่วนของ Fitness และ Swimming Pool ซึ่งจะอยู่สูงขึ้นไปประมาณครึ่งชั้นค่ะ
ภาพจากโมเดลบริเวณชั้น 8 ส่วน Swimming Pool และ Pool Deck เป็นสระว่ายน้ำระบบคลอรีนขนาด 3 x 11 เมตร ที่สามารถชมวิวเมืองได้โดยรอบเพราะไม่มีอาคารสูงมาบังวิวเลยค่ะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบหลักๆ เป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ซึ่งแบ่งออกเป็นขนาดต่างๆ ดังนี้ค่ะ
- TYPE A : 1 Bedroom ขนาด 23 – 24 ตร.ม.
- TYPE B : 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม.
- TYPE C : 1 Bedroom Plus ขนาด 33 – 35 ตร.ม.
โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมเข้าอยู่พร้อมเครื่องปรับอากาศ 1 ตัว เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ
TYPE A : 1 Bedroom ขนาด 23 – 24 ตร.ม.
TYPE B : 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม.
TYPE C : 1 Bedroom Plus ขนาด 33 – 35 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมห้องตัวอย่าง เป็นห้อง 1 Bedroom Type A ขนาด 23 – 24 ตร.ม.กันค่ะ ห้องขายแบบ Fully Furnished ตกแต่งครบพร้อมเข้าอยู่ เรามาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลย
นี่คือผังห้อง 1 Bedroom Type A ขนาด 23 – 24 ตร.ม. สำหรับครอบครัวขนาดตั้งแต่ 1 – 2 คน จัดแบ่งสัดส่วนภายในห้องได้เป็นอย่างดี พอเข้ามาในห้องจะเจอ Common Area ก่อน และจาก Common Area จะเชื่อมกับห้องนอนและห้องครัว พื้นที่ Common Area ของห้องนี้จะดูกว้างขวางเพราะห้องนอนจะกั้นส่วนจาก Common Area ด้วยผนังและประตูกระจก ซึ่งช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น ห้องครัวจะได้เป็นครัวแบบปิด ช่วยในเรื่องของการกันกลิ่นได้ดี กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ซึ่งห้องครัวจะอยู่ติดกับระเบียงห้องเป็นอีกทางนึงที่สามารถช่วยระบายกลิ่นจากการปรุงอาหารได้ ส่วนห้องน้ำจะต้องเข้าจากทางห้องครัวค่ะ
ห้องของทางโครงการตกแต่งให้แบบ Fully Furnished พร้อม Furniture Package ของ Index และ Starmark ได้มาทั้งชุดครัวพร้อม Sink และ Hob&Hood จาก Hafele, ชั้นเก็บรองเท้า, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง, ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมชั้นวางทีวี, ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้า ได้แอร์ของ Carrier แบบ Wall Type 1 ตัวมาด้วย เราไปดูรายละเอียดของห้องด้วยกันเลยดีกว่าค่ะ
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องจะเป็นประตูไม้เนื้อแข็งสูง 2.25 เมตร
พร้อมติด Digital Door Lock จาก Samsung มือจับแบบก้านโยกสแตนเลส
เมื่อเข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอห้องโถง Common Area ขนาดใหญ่ รวมห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร จาก Common Area จะเชื่อมต่อกับห้องนอนและห้องครัวด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ภาพรวมของห้องดูโปร่งโล่งไม่อึดอัดด้วยฝ้าเพดานที่สูง 2.45 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีติดดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด พร้อมแอร์แบบ Wall Type ใน Common Area 1 ตัว จาก Carrier ผนังห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสี
ส่วนวัสดุพื้นของห้องจะปูด้วยกระเบื้องไวนิลลายไม้ทั้งหมดตั้งแต่หน้าประตูห้องจนไปถึงห้องนอนด้านในเลยค่ะ
ภายใน Common Area เราจะได้โซฟาแบบ Love Seat ขนาด 2 ที่นั่งจาก Index สีเทาแบบนี้เลยค่ะ (เฉพาะโซฟาตัวนี้เท่านั้นนะคะที่จะเป็นของ Index ส่วนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ จะเป็นของ Starmark ทั้งหมดเลย)
ฝั่งตรงข้ามเราจะได้ชั้นวางรองเท้าและชั้นวางทีวี
ชั้นวางรองเท้าหน้าห้องค่ะ ช่วยทำให้ภายในห้องดูเรียบร้อยมากขึ้นเยอะเลยสำหรับห้องไซส์นี้ หน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ ตัวบานเป็นแบบ Soft-closed เวลาผลักบานปิดแล้วจะไม่กระแทก
บริเวณหน้าบานจะดีไซน์แบบไม่มีปุ่มมือจับนะคะ แต่จะเฉือนขอบ 45 องศาทำให้สามารถจับเปิดได้ง่าย
ตรงชั้นวางของก็จะทำดีเทลสำหรับแขวนพวงกุญแจเอาไว้ให้ด้วย ง่ายสำหรับการจะเข้า – ออกห้อง
ส่วนชั้นวางทีวีจะปิดผิวด้วยเมลามีนลายหินอ่อนแบบนี้ค่ะ มีลิ้นชักสำหรับเก็บของให้ด้วย
ชั้นลอยเก็บของด้านบนก็ได้มาด้วยนะคะ สามารถวางของเพิ่มเติมได้อีก เป็นจุดที่ดีมากสำหรับห้องไซส์เล็กๆ ที่ออกแบบให้มีที่สำหรับเก็บของวางของเยอะ
ซึ่งระยะการดูทีวีของห้องนี้จะอยู่ที่ 1.5 เมตร เหมาะสำหรับทีวีจอขนาด 42 นิ้วค่ะ เป็นขนาดที่ดูแล้วไม่ปวดตาสำหรับระยะนี้
ถัดจากโซฟามาเราจะได้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งพร้อมเก้าอี้อีก 2 ตัว
ขนาดโต๊ะกำลังดีค่ะไม่เล็กไม่ใหญ่พอดีกับพื้นที่ นอกเหนือจากมื้ออาหาร จริงๆ แล้วโต๊ะตัวนี้สามารถใช้เป็นโต๊ะทำงานได้ด้วยในตัวนะ
ด้านข้างของโต๊ะจะมีดีเทลทำเป็นช่องวางของ สามารถวางพวกหนังสือที่ใช้จดบันทึกหรือที่ได้อ่านบ่อยๆ หรือจะวางเป็นพวกขวดเครื่องปรุงประจำโต๊ะก็ได้เหมือนกันค่ะ
จากส่วน Common Area จะเชื่อมต่อกับห้องนอน กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมลูกฟักกระจกอย่างสวยงามหน้าตาแบบในรูปเลยค่ะ
มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน
ภายในห้องนอนมีขนาดกระทัดกำลังดี สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ทั้งเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าได้อย่างลงตัวค่ะ
ที่เราจะได้มาด้วยก็คือฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ที่ใต้เตียงมีดีเทลเป็นลิ้นชักสามารถเก็บของได้ แต่พวกฟูกและเครื่องนอนจะไม่ได้มาด้วยนะคะ
พอวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงเท่านี้ค่ะ สามารถเปลี่ยนผ้าปูเตียงหรือเดินผ่านได้สะดวกอยู่ ถ้าเป็นคนชอบดูทีวีตอนก่อนนอนก็สามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังเพิ่มได้นะ
ส่วนฝั่งขวามือก็ยังเหลือพื้นที่ระหว่างเตียง – ตู้เสื้อผ้าให้สามารถเปิด – ปิดตู้ และหยิบเสื้อผ้าได้สะดวก
นอกจากนี้เราก็จะได้ตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐานมาด้วย 1 ตู้ ซึ่งจริงๆ แล้วจะได้ตู้แบบบานเลื่อนทึบปิดผิวด้วยลามิเนตนะคะ ที่บานเลื่อนฝั่งนึงจะติดกระจกเงามาให้สำหรับแต่งตัว
ภายในก็จะมีราวแขวนให้ 2 ระดับ มีลิ้นชักและช่องสำหรับเก็บของ
ภายในห้องนอนจะได้บานหน้าต่างขนาดใหญ่เท่าหน้าห้องเลย ซึ่งจะซอยเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 3 บาน สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ทั้งหมด
จาก Common Area ก็จะเชื่อมกับห้องครัวด้วยค่ะ กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมติดลูกฟักกระจกเช่นกัน
ภายในห้องครัวเราจะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวมาแบบนี้ทั้งชุดเลยค่ะ แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เห็นจะเป็นส่วนตกแต่งเพื่อให้เห็นภาพ ไม่ได้มาด้วยนะคะ
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นหน้าบานลามิเนตลายไม้ มีช่องสำหรับเก็บช้อนส้อม จานชาม และชั้นวางไมโครเวฟด้วย
ส่วนที่ใต้อ่างล้างจานก็สามารถใช้เก็บพวกอุปกรณ์ทำความสะอาด หรือจะซ่อนถังขยะเอาไว้ด้านในเพื่อความเรียบร้อยก็ได้
ในส่วนของ Top เคาน์เตอร์ จะปิดผิวด้วยเมลามีนสีขาวค่ะ ผนังด้านหลังจะไม่ได้มี Splash Board มาให้นะคะ ส่วนนี้เราสามารถหามาติดตั้งเพิ่มเติมเองได้
บนเคาน์เตอร์เราก็จะได้อ่างล้างจานพร้อมก๊อกน้ำทรงสูงมาด้วยแบบนี้
พร้อมเตาเซรามิกขนาด 2 หัว
และเครื่องดูดควัน ทั้งหมดเป็นของ Hafele นะคะ
ด้านบนเคาน์เตอร์เราก็จะได้ชั้นลอยสำหรับเก็บของมาเพิ่มเติม
พอวางเคาน์เตอร์ครัวแล้วเราก็จะเหลือระยะสำหรับยืนปรุงอาหารอยู่พอสมควรค่ะ
จากห้องครัวจะเชื่อมต่อกับระเบียงห้อง กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม 2 ตอนติดกระจกเขียวตัดแสงแบบนี้
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม.ค่ะ ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมันสีดำ ขนาดพื้นที่สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ 1 ตัวพอดี
ส่วนบนก็สามารถใช้แขวนตัว Compressor ได้แบบนี้ ถ้าเป่าออกด้านข้างก็จะช่วยให้ผ้าที่ตากเอาไว้แห้งเร็วยิ่งขึ้นด้วย ส่วนนี้ฝ้าจะสูงถึง 2.6 เมตรค่ะ
หันกลับมาอีกฝั่งค่ะ จากห้องครัวก็จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำด้วยเช่นกัน โดยประตูห้องน้ำจะใช้บาน PVC ABS นะ
พื้นภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีเทาขนาด 60 x 60 ซม.แบบผิวด้านกันลื่น
ส่วนผนังก็กรุด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 60 ซม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้ของ American Standard ทั้งหมด
และที่ฝ้าเพดานของห้องน้ำจะติดพัดลมระบายอากาศมาให้ด้วยค่ะ ส่วนนี้จะเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์สูง 2.2 เมตร
มาดูสุขภัณฑ์กันต่อค่ะ เริ่มจากหน้าห้องเป็นอ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป ติดตั้งมาพร้อมกระจกเงา แต่ขนาดกระจกจะเล็กกว่านี้นิดหน่อยนะคะ
ที่ใต้เคาน์เตอร์ก็สามารถเก็บของได้
ส่วนตัวอ่างมีขนาดใหญ่ใช้งานสะดวก ขอบอ่างสามารถวางพวกขวดสบู่ล้างมือและแจกันตกแต่งสร้างบรรยากาศน่ารักๆ ได้ค่ะ
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นสะดวกต่อการซ่อมแซม และใช้ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำ ติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
และด้านบนก็ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้
ด้านในสุดเป็นโซน Shower ซึ่งก่อธรณีขึ้นมาให้กันน้ำไหลย้อน จุดนี้แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยเพิ่มนะคะ เวลาอาบน้ำน้ำจะได้ไม่กระเซ็นไปทั่วห้อง
และที่ผนังด้านในก็ติดตั้งชุดฝักบัวแบบสายอ่อนมาให้
ขนาดหัวฝักบัวใหญ่กำลังดีค่ะ อาบน้ำได้สะดวก และสามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้ด้วย
:::: ราคา (มีนาคม 2562) ::::
- 1 Bedroom Type A ขนาด 23 – 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
- 1 Bedroom Type B ขนาด 31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus Type C 33 – 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.38 ล้านบาท
- เงินจอง 10,000 บาท
- เงินทำสัญญา Bedroom Type A 30,000 บาท / 1 Bedroom Type B 40,000 บาท / 1 Bedroom Plus Type C 50,000 บาท
- เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://www.magnix-ramintra21.com/
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 19 แยก 4 ใกล้ถนนรามอินทรา เข้าซอยไม่ลึก เป็นย่านของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise, อพาร์ทเม้นท์, ออฟฟิศ โดยจะมีอาคารพาณิชย์เรียงขนาบถนนใหญ่ พอเข้าซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชน มีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นย่านของที่อยู่อาศัยและออฟฟิศขนาดย่อมๆ มีตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืนอีกด้วย ปัจจัยที่จะช่วยผลักดันให้ทำเลนี้พัฒนาขึ้นไปอีกก็คือรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีเทา ไม่ว่าจะซื้อโครงการเอาไว้อยู่เองหรือซื้อไว้ลงทุนดูก็น่าสนใจค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางได้สะดวกเพราะสามารถเข้า – ออกได้ 2 ทาง ทั้งซอยรามอินทรา 21 และ 19 อยู่ใกล้กับถนนรามอินทราซึ่งสามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น อยู่ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษกซึ่งเป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกเส้นหนึ่ง จะวิ่งขึ้นไปทางบางปะอินหรือใช้วิ่งลงไปทางบางนาก็สะดวก อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์และทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วย และมีอีก 1 ตัวช่วยในการเดินทางคือทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชและทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ส่วนถนนรามอินทราถ้าวิ่งไปฝั่งตะวันตกทางปากเกร็ด จะไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะตัดกับถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี – รังสิตและผ่านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนฝั่งตะวันออกจะยิงยาวไปถึงมีนบุรี และเชื่อมต่อถนนวัชรพลที่สามารถใช้วิ่งขึ้นไปทางห้าแยกวัชรพลเชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 5 ถนนเทพารักษ์ ถนนเพิ่มสิน และ ถนนสายไหม ซึ่งจะมีซอยเชื่อมไปยังถนนลำลูกกาได้ด้วย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ อยู่ไม่ไกลจากถนนรามอินทราที่มีรถสาธารณะผ่านตลอด ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์, รถตู้, วินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่ มีป้ายรถเมล์อยู่เป็นช่วงๆ ทั้ง 2 ฝั่งของถนน และแนะนำให้ใช้ Application Grab Taxi และ Line Taxi เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น หรือถามเบอร์พี่วินในซอยเอาไว้จะได้โทรให้เข้ามารับหน้าโครงการได้
และในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรีบนเส้นรามอินทรา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีลาดปลาเค้า ห่างจากโครงการเพียง 300 เมตร ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ เป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพียง 2 สถานี และอยู่ห่างจากสถานีวัชรพลเพียง 3 สถานี เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเทาช่วงวัชรพล – ทองหล่อเป็นโครงการในอนาคตที่วิ่งเลียบเส้นเลียบด่วนรามอินทรา ทั้งนี้รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีกำหนดคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2564 ค่ะ นับว่าการเดินทางในอนาคตจะสะดวกสบายมากขึ้นอีกหลายโข
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็น Low rise Condominium สูง 8 ชั้น มี 1 อาคาร บนเนื้อที่ 0 – 1 – 99 ไร่ เป็นส่วนตัวกับห้องพักอาศัยจำนวนเพียง 79 ยูนิต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีจุดเด่นที่ออกแบบมาให้รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ อาทิ Lobby, Co – working Space, Swimming Pool และ Fitness พร้อม ที่จอดรถ 29 คัน หรือ 40% รวมการจอดแบบซ้อนคัน, ระบบ Access Card Control, CCTV และ รปภ.ตลอด 24 ชม.
ภายใต้แนวคิด “Your Time Is Precious” กับ Urban Elegance Living เลือกทำเลที่ตั้งอันเงียบสงบภายในชุมชนที่อยู่อาศัยซึ่งโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ตัวอาคารเน้น Texture ที่เลียนแบบมาจากต้นไม้และลายไม้ทั้ง Exterior และ Interior ในพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งยังคงออกแบบให้ดูหรูหราและดูทันสมัย
โครงการมีห้องให้เลือกแบบ 1 Bedroom Type A, B และ 1 Bedroom Plus Type C ขนาดเริ่มต้นที่ 23 – 35 ตร.ม. ตกแต่งห้องให้แบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ห้องของโครงการมีการวางผังได้ดี วัสดุที่ได้มาภายในห้องก็ได้คุณภาพและสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นชุดครัวจาก Hafele, สุขภัณฑ์แบรนด์ American Standard, เฟอร์นิเจอร์สไตล์ Modern จาก Starmark และ Index พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องไวนิลลายไม้ ได้ครัวแบบปิดอยู่ติดกับระเบียงห้อง จึงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องกลิ่นจากการปรุงอาหาร, ผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร พร้อมแอร์จาก Carrier 1 ตัว
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ถือว่ามีมาให้อย่างครบครันแล้วนะคะสำหรับคอนโด Low rise จำนวน 79 ยูนิต ไม่ว่าจะเป็น Lobby, Co – working Space, Swimming Pool และ Fitness พร้อม ที่จอดรถ 29 คัน หรือ 40% รวมการจอดแบบซ้อนคัน, ระบบ Access Card Control, CCTV และ รปภ.ตลอด 24 ชม. นับว่าโอเคเลย
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ |
7.9 |
อยู่ในซอยรามอินทรา 19 แยก 4 สามารถเข้า – ออกได้ 2 ทาง เข้าซอยไม่ลึก อยู่ใกล้ถนนรามอินทราในโซนที่เป็นชุมชนที่อยู่อาศัย จึงเงียบสงบและเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเมือง |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว |
7.9 |
สามารถเข้า – ออกได้ 2 เส้นทาง ล้อมรอบด้วยถนนใหญ่หลายเส้นและใกล้ทางด่วน 3 ด่วน |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ |
7.7 |
บนเส้นรามอินทรามีรถสาธารณะวิ่งผ่านเยอะ และอยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู, สายสีเขียว และสายสีเทา |
บ้านและวัสดุ |
7.7 |
สไตล์โมเดิร์น ตกแต่งแบบ Luxury เน้นความเป็นธรรมชาติ วางผังห้องได้ดีลงตัว ได้วัสดุค่อนข้างดี ขายแบบ Fully Furnished |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
7.9 |
มีมาให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้านเพียง 79 ยูนิต |
ความคุ้มค่ากับราคา |
7.8 |
เป็นโครงการใหม่ในราคาจับต้องได้ ในทำเลที่เชื่อมต่อเมืองได้ง่าย เดินทางได้ทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ |
คะแนนรวมเฉลี่ย |
7.82 |
ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL : 099 454 6444
WEBSITE : https://www.magnix-ramintra21.com/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น