[Mini Review] รวม 5 โครงการคอนโดใหม่ทำเลดาวรุ่งบนเส้นรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย
สวัสดีค่ะผู้อ่าน Homenayoo ทุกท่าน สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดใกล้ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า เพื่ออยู่อาศัยกันอยู่นั้น วันนี้เรามีบทความฉบับพิเศษมาฝากกันค่ะ กับการรวม 5 โครงการคอนโด ติดรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ส่วนกลางวิวเจ้าพระยา ที่น่าจะถูกใจคนที่กำลังมองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าในโซนนี้กันอยู่ เพียงแค่เลือกทำเลที่ขยับออกมาอีกนิด แต่ยังคงได้ครบทุกเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง และการอยู่อาศัยแบบครบทุกฟังก์ชั่น ที่สำคัญ “ราคา” ที่น่าดึงดูดกว่าคอนโดใจกลางเมืองมากๆ
หลายคนจึงมองหาคอนโดในทำเลที่ถัดออกมาซักหน่อย แต่ได้ห้องขนาดใหญ่กว่าและค่าครองชีพที่ถูกกว่าใจกลางเมืองมาก พร้อมมีจุดขายคือติดรถไฟฟ้า และชั้นส่วนกลางพร้อม วิวที่สวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยา แถมที่สำคัญเลยคือขึ้นรถไฟฟ้ามาไม่กี่สถานีหรือใช้เวลาแค่สิบกว่านาทีเท่านั้นก็มาขึ้น BTS หมอชิต หรือ MRT จตุจักรได้แล้วนั่นเอง
ความพิเศษของเครือข่ายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ- ท่าพระ คือจะเชื่อมกับ MRT รถไฟใต้ดินสามารถวิ่งไปสถานีใต้ดินบางซื่อในปัจจุบัน ที่ตั้งอยู่แถวหน้าบริษัทปูนซีเมนต์ไทยหรือ SCG นั่นเอง ทำให้เพิ่มตัวเลือกด้านการเดินทางนอกเหนือจากการใช้รถส่วนบุคคลได้ดีค่ะ เป็นโครงการ รถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทยที่วิ่งเป็นวงกลม เป็น loopline เหมือนสาย YAMANOTE LINE ของญี่ปุ่นนั่นเอง
ด้านบนเป็นตำแหน่งที่ตั้งของโครงการคอนโดที่มีจุดขายคือ อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแต่ละโครงการก็จะอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีความน่าสนใจในแง่การลงทุนและจุดเด่นแตกต่างกัน การที่เรารวบรวมโครงการที่น่าสนใจมาไว้ด้วยกันแบบนี้ ทำให้เราเปรียบเทียบกันได้ง่ายขึ้นค่ะ ว่าในความต่างของทำเลแต่ละสถานี การออกแบบตัวโครงการ และราคาห้องของโครงการเหล่านี้ โครงการไหนคุ้มค่าแก่การลงทุนที่สุดนั่นเอง
สิ่งที่น่าสนใจของทำเลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ- ท่าพระ นี้ นอกจากมีกำหนดสร้างเสร็จพร้อมเปิดใช้งานในปีหน้านี้แล้ว (2562) เรายังสามารถนั่งต่อไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชรไปเดินเล่นจตุจักรหรือจะไปขึ้นรถไฟฟ้าบนดินที่สถานีหมอชิตเข้าเมืองไปสยามกันต่อได้เลย ทำให้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกลายเป็นเครือข่ายรถไฟฟ้าวงแหวนวงเดียวของประเทศไทย ซึ่งเชื่อมหัวกับบางซื่อ ท้ายกับหัวลำโพง วิ่งวนเป็นวงกลม สีน้ำเงินสายใหม่วิ่งบนฟ้า(ช่วงระยะ 5 กม จากเจริญกรุง-ถนนอิสรภาพเป็นใต้ดิน) และ สีน้ำเงินเก่ามุดลงใต้ดินนั่นเอง
พร้อมกับโครงการการลงทุนระดับเมกะโปรเจ็คมากมายในโซนนี้ ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกที่สร้างเสร็จและเปิดใช้งานไปแล้ว, รัฐสภาแห่งใหม่ของประเทศ และ สะพานเกียกกาย ซึ่งพอรวมกันกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนี้ ก็ช่วยยกมูลค่าเพิ่มและความต้องการของที่ดินในโซนนี้ได้เป็นอย่างดี
ที่ ถ.ทหาร บริเวณแยกเกียกกาย ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งใหม่แล้ว ในอนาคตจะมีโครงการสะพานเกียกกาย ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมต่อกับ ถ.จรัญสนิทวงศ์ เพื่อรองรับเมกะโปรเจครัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงการขยายถนนประชาราษฏร์สาย 1 ต่อไปยังถนนทหาร และสร้างถนนคู่ขนานสามเสน , สร้างถนนเชื่อมสะพานเกียกกาย กับถนนกำแพงเพชรอีกด้วย ซึ่งก็ล้วนเป็นถนนเส้นหลัก ที่ใช้เดินทางในละแวกโครงการแทบทั้งสิ้นค่ะ
ส่วนวันนี้โครงการคอนโดคอนโดติดสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน พร้อมส่วนกลาง วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ Panorama จะมีโครงการไหนบ้างและแต่ละโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่า : )
1.De Lapis จรัญ 81
De Lapis จรัญ 81 เป็นโครงการคอนโดใหม่ล่าสุดจาก Grand Unity เป็นคอนโด High Rise 32 ชั้น จำนวนยูนิตที่พักอาศัย 635 ยูนิต, ร้านค้า 2 ยูนิต และ มีอาคารจอดรถ 1 อาคาร สูง 8 ชั้น ที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ ติดกับ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางพลัด แถม ได้วิวสวยของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา เห็นวิวรัฐสภาใหม่อย่างชัดเจนจากชั้นส่วนกลางสูงสุดของโครงการ
โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการอยู่อาศัยจริง ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Simply Makes Sense มีห้องให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ทั้งแบบห้อง Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้นที่ 26.5 ตร.ม. คาดว่าจะแล้วเสร็จ กรกฎาคม ปี 2562 สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ สามารถเข้าชมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้
เดอ ลาพีส จรัญ 81 คอนโดติด MRT วิวเจ้าพระยา Pre-Sale 7-8 ก.ค. นี้ 1 ห้องนอน 26.5 ตร.ม. เริ่ม 2.49 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 97,000 บาท/ตรม.
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ ที่นี่ เพื่อรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 250,000 บาท* ส่วนวันนี้เรามีจุดเด่นโครงการด้านต่างๆมาฝากกันค่ะ
โครงการ De Lapis จรัญ 81 ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ซ.จรัญฯ 81 มีจุดเด่นคืออยู่ติดกับรถไฟฟ้า MRT สถานีบางพลัด สายรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินแห่งใหม่เชื่อมต่อรอบกรุงเทพฯ เรียกว่าเป็นทำเลที่สะดวกทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถ เพราะมีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลายและสะดวกสบายคล่องตัวสูงมาก บริเวณหน้าโครงการมีรถสาธารณะขับผ่านอยู่ตลอด ทั้งรถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่
จากโครงการเดินไปไม่กี่สิบก้าวก็ถึงรถไฟฟ้า MRT สถานีบางพลัด ซึ่งรถไฟฟ้าคาดว่าจะได้เปิดใช้งานในปี 2562 ก็พอดีๆ กับตอนที่โครงการสร้างเสร็จเริ่มโอนห้อง จากสถานีบางพลัดนั่งไปอีกแค่ 3 สถานี ก็จะถึงสถานีเตาปูนเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง และนั่งไปอีก 1 สถานีก็จะถึงสถานีบางซื่อที่นั่งต่อไปลงจตุจักรเชื่อมกับ BTS ได้
คนใช้รถ ขับมา 5 นาทีถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วนพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร หรือคนไม่ใช้รถจากโครงการขึ้นท่าเรือสะพานกรุงธนเพียง 15 นาที ต่อเดียวถึงสาทรเลยค่ะ นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อถนนสายสำคัญสู่ใจกลางเมือง และย่านดังอาทิ ดุสิต ราชวิถี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือจะไปทางสะพานพระราม 7 บางกรวย ก็เชื่อมต่อนครอินทร์ ไปรัตนาธิเบศร์, ไปราชพฤกษ์, ไปวิภาวดีได้
เดินไปไม่กี่ก้าวจากโครงการ ก็มี 7-11 มีตลาด แหล่งอาหารมากมาย พร้อมความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ใกล้ ห้างเทสโก้ โลตัส จรัญฯ, ห้างตั้งฮั้วเส็ง, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เมเจอร์ปิ่นเหล้า, รพ.ยันฮี และอื่นๆ อีกมากมาย
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน ตั้งแต่ชั้นล่างมี Lobby เพดานสูงแบบ Double Volume เชื่อมต่อกับพื้นที่ Co-Working Space บนชั้นลอย และเชื่อมต่อกับสวนพักผ่อนผ่านผนังกระจกบานใหญ่ ชั้น 32 เป็นชั้นส่วนกลางลอยฟ้า ซึ่งเป็นจุดเด่นของโครงการ ที่ทุกคนในโครงการสามารถขึ้นมาใช้ชมวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามได้ มี Sky Fitness และ Sky Lounge แบบเพดานสูงพร้อมสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool, พร้อมห้องซาวน่าและสวนลอยฟ้า
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยระบบ Double Security System, กล้อง CCTV, Security Guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access Card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ รวมถึงระบบลิฟท์แบบล็อคชั้น และ Digital Door Lock
โครงการขายห้องให้แบบ Fully Fitted ห้องแบบ Studio ขนาด 26 ตารางเมตร สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ คือ เคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน, สุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก HAFELE, เครื่องปรับอากาศ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in จาก Chic Republic ทั้งห้อง พื้นห้องลามิเนต หนา 8 มม. พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิกผิวด้านทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ
ผนังห้อง และฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานสูงถึง 2.75 เมตรเลย ส่วนครัวจะดรอปลงมาเล็กน้อยเหลือ 2.55 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบ ไฟดาวน์ไลท์หลอด LED ส่วนแอร์ที่ได้มากับตัวห้องจะเป็นแบบ Wall Type ของ Samsumg ระบบ Inverter
จุดเด่นของห้อง Studio อีกอย่างก็คือมี Kitchen Island อยู่ที่ห้องครัว ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารและโต๊ะกินข้าวได้ในตัว จัดโซนห้องน้ำ-Walk in Closet-โซนระเบียง Private Balcony เอาไว้ให้จบในโซนเดียว ซึ่งโดยรวมแล้วเฉพาะชุดเฟอร์นิเจอร์Buit in และวัสดุของห้อง กับส่วนกลางลอยฟ้าวิวเจ้าพระยา และทำเลที่ติดรถไฟฟ้า MRT ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง
ผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านรีวิวพาชมห้องตัวอย่าง, ทำเล และตัวโครงการ De Lapis จรัญ 81 อย่างละเอียดจากทางเราได้ ที่นี่
2.The Tree Rio บางอ้อ สเตชั่น
The Tree Rio บางอ้อ สเตชั่น จาก พฤกษา เป็นโครงการคอนโดแบบ High Rise 41 ชั้น 1 อาคาร และ Club House 2 ชั้น 1 อาคาร จำนวนยูนิตที่พักอาศัย 1,412 ยูนิต ด้านหน้าโครงการติดกับ MRT บางอ้อ แต่ตัวอาคารพักอาศัยจะร่นระยะเข้าไปหน่อยนะค่ะ ประมาณ 200 เมตร จากอาศัยพักอาศัย ถึงสถานี พื้นที่โครงการตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ชั้นส่วนกลางได้วิวสวยของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา เห็นวิวรัฐสภาใหม่อย่างชัดเจน
ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปแล้วในปี 2560 ค่ะ โดยมีห้องให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 28 – 61 ตร.ม 1 ห้องนอน 28 ตร.ม. เริ่ม 2.29 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 81,785 บาท/ตรม.
ส่วนวันนี้เรามีจุดเด่นโครงการด้านต่างๆมาฝากกันค่ะ
โครงการ The Tree Rio บางอ้อ สเตชั่น ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ โดยอยู่ระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 89/1 และซอยจรัญสนิทวงศ์ 89/2 ด้านหน้าโครงการติดกับ MRT บางอ้อ พื้นที่โครงการอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งฝั่งตรงข้ามแม่น้ำจะเป็นรัฐสภาใหม่ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกอีกด้วย
จากทางเข้าโครงการเดินไปไม่กี่สิบก้าวก็ถึงรถไฟฟ้า MRT สถานีบางอ้อ ซึ่งรถไฟฟ้าคาดว่าจะได้เปิดใช้งานในปี 2562 ก็พอดีๆ กับตอนที่โครงการสร้างเสร็จเริ่มโอนห้อง จากสถานีบางอ้อนั่งไป 2 สถานีถึงสถานีเชื่อมต่อกับสายสีม่วงที่สถานีเตาปูน ถัดไปอีก 1 สถานีเป็นสถานีบางซื่อนั่งต่อไปลงจตุจักรเชื่อมกับ BTS ได้ นอกจากนี้หน้าโครงการยังมีวินมอเตอร์ไซค์เรียกใช้ได้เลย Taxi ก็มีวิ่งผ่านไปมา มีป้ายรถเมล์ และรถกระป๊อ
คนใช้รถ โครงการอยู่ติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งมุ่งหน้าไปสะพานพระราม 7 เชื่อมไปออกนครอินทร์ ราชพฤกษ์ พระราม 5 ได้ หรือข้ามสะพานพระราม 7 ไปจะเข้าวงศ์สว่างไปเชื่อมออกติวานนท์ แคราย รัตนาธิเบศร์ งามวงศ์วานได้เช่นกัน ส่วนถ้าจะเข้าเมือง หลักๆก็ใช้เส้นจรัญสนิทวงศ์ วิ่งย้อนมาแยกบางพลัดเลี้ยวเข้าถนนสิรินธรข้ามสะพานซังฮี้ เข้าถนนราชวิถีวิ่งยาวเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯได้เลย
คนไม่ใช้รถจากโครงการขึ้นท่าเรือสะพานกรุงธนเพียง 15 นาที ต่อเดียวถึงสาทรเลยค่ะ พร้อมความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ใกล้ ห้างเทสโก้ โลตัส จรัญฯ, ห้างตั้งฮั้วเส็ง, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เมเจอร์ปิ่นเหล้า, รพ.ยันฮี และอื่นๆ อีกมากมาย
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Club House 2 ชั้น มีห้องรับรองเพดานสูง มีห้องนั่งเล่นไว้นั่งดูหนัง มีห้องประชุมแยก และมีห้องอเนกประสงค์ ส่วนที่ชั้น 2 จะมีห้องโยคะ, ห้อง Golf Summit, ห้องพูล, ห้องเด็กเล่น
ที่อาคารพักอาศัยชั้น 1 มี Lobby, ร้านค้า 7 ร้าน ด้านหลังโครงการมีสนามเด็กเล่น มี Family Pool พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20 x 10 ม.รอบๆสระมีพื้นที่นั่งเล่นพร้อมเตียงนอนริมสระ
ส่วนชั้น 40-41 จะเป็นส่วนกลางที่เป็นจุดเด่นของโครงการเลย โดยมีสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Infinity Edge Pool ที่เห็นวิวแม่น้ำแบบนี้ สามารถ ชมวิวได้ 180 องศาเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา และรัฐสภาใหม่ได้เต็มตา พร้อมห้องฟิตเนส, Sky Lounge
โครงการขายห้องให้แบบห้องเปล่า ไม่มีชุดครัว แต่เดินระบบท่อน้ำ และ wifi ไว้ให้ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard แอร์ได้แบบติดผนังตรงห้องนั่งเล่นและทุกห้องนอน มีฉากกั้นเป็นบานเลื่อน 3 บาน ผนังห้องติดวอลเปเปอร์ ฝ้าเพดานสูงถึง 2.6 เมตร พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มม.
ผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านรีวิวพาชมตึกเสร็จ, ทำเล และตัวโครงการ The Tree Rio บางอ้อ สเตชั่น อย่างละเอียดจากทางเราได้ ที่นี่
3.Chapter one Shine บางโพ
โครงการ Chapter one Shine บางโพ เ ป็นคอนโด High Rise สูง 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 615 ยูนิตเปิดรับวิวแม่น้ำเต็มสายตา โครงการอยู่บน ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า MRT 3 สาย (เตาปูน, บางซ่อน, บางซื่อ), ทางด่วนศรีรัช และ เรือด่วนเจ้าพระยา ใกล้สถานที่สำคัญมากมาย อาทิ รร.โยธินบูรณะ, รร.เซนคาเบรียล, รร.ราชินีบน, รัฐสภาเกียกกาย, รพ.บางโพ, SCG และ Gateway บางซื่อ ห่างจาก MRT บางโพ ประมาณ 600 m.
โดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์ Modern Chinese เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ของการใช้ชีวิต มีห้องพักให้เลือกแบบ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Exclusive, 1 Bedroom Riverfront และ 2 Bedroom Riverfront ขนาดห้องเริ่มต้น 22.45-56.80 ตร.ม. คาดว่าแล้วเสร็จปี 2562
Studio 22.45 ตร.ม. เริ่ม 2.4 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 100,000 บาท/ตร.ม.
ส่วนวันนี้เรามีจุดเด่นโครงการด้านต่างๆมาฝากกันค่ะ
โครงการ Chapter One Shine บางโพ ตั้งอยู่บน ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 ติดกับ ซ.ประชาราษฏร์1 ซอย 25 และ รร.โยธินบูรณะ ซึ่งอยู่ฝั่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มุ่งหน้าสู่สะพานพระราม 7 ซึ่งทำเลจัดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพตอนเหนือ ย่านบางโพ ที่ใกล้กับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ทางด่วนเปิดใหม่ และอยู่ไม่ไกลจากแยกบางโพ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบางโพ ช่วงต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ในอนาคต ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2562 ค่ะ
ทำเลย่านบางโพ ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก แต่เดิมเป็นย่านชุมชนเมืองในแนวราบที่ค่อนข้างครบครันอยู่แล้ว เพราะก็เชื่อมต่อกับตัวเมืองกทม.ชั้นใน รวมถึงใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาและตัวเมืองนนทบุรีอีกด้วย วิ่งข้ามสะพานพระราม 7 ไปก็สามารถออกสู่ ถ.ราชพฤกษ์-บางกรวย-ไทรน้อยได้ค่ะ หรือจะวิ่งเข้าตัวเมืองกรุงเทพมหานครชั้นใน โซนดุสิต หรือวิ่งออกตัวเมืองในโซนจตุจักร กำแพงเพชร ถึงห้าแยกลาดพร้าวได้เช่นกัน
ภาพจำลองบรรยากาศโครงการ หากมองลงมาจาก Sky Fitness ก็จะได้มุมนี้ค่ะ มองลงไปเห็นสระว่ายน้ำและโค้งน้ำเจ้าพระยา
สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย ข้อดีของที่นี่คือทำอาคารจอดรถแยกกันกับอาคารพักอาศัยค่ะ ซึ่งทำให้จอดรถได้ค่อนข้างมาก พื้นที่ส่วนกลางก็ให้มาค่อนข้างหลากหลาย โดยแบ่งเป็นชัดๆ 3 ส่วนด้วยกันคือพื้นที่ชั้น 1 , พื้นที่อาคารจอดรถด้านบนเป็น Sky Garden, ดาดฟ้าบนอาคารจอดรถ และบนดาดฟ้าอาคารพักอาศัย ชั้นดาดฟ้ามี Infinity Edge Pool , Sky Fitness ,Sunset Deck , Sky Lounge และ Sky Garden-ถัดขึ้นไปอีกชั้นก็จะเป็นห้อง Fitness พร้อม Co-Working Space , Zen Chamber , Play Yard , Private Court , Yoga Yard และ Meditation Area ค่ะ ซึ่งจะได้เรื่องวิวแม่น้ำเช่นเดียวกันกับห้องพัก
โครงการขายแบบ Fully Furnished ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ตกแต่งภายในพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบแต่ข้อเสียคือพื้นที่ห้องครัวของห้องทุกแบบไม่ได้เป็นครัวปิดค่ะ จะเป็นครัวที่เชื่อมต่อกับ Living Area ทั้งหมด ซึ่งลูกบ้านสามารถหาฉากกั้นมาติดตั้งเองได้ตามใจชอบ
ผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านรีวิวพาชมห้องตัวอย่าง, ทำเล และตัวโครงการ Chapter one Shine บางโพ อย่างละเอียดจากทางเราได้ ที่นี่
4.Life ปิ่นเกล้า
โครงการ Life ปิ่นเกล้า เป็นคอนโด High Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่แบบ High Rise 1 อาคาร 23 ชั้น 803 ยูนิต จาก AP ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขันเพียง 30 เมตร
ภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านแนวคิดใหม่ “Discover The New Joy of Old Memories” เสน่ห์ใหม่แห่งวิถีที่คุ้นเคย จากวิถีชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีน ย่านปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานนะคะ คนที่นี่อยู่อาศัยในย่านนี้มานานแบบรุ่นต่อรุ่น พอครอบครัวขยายตัวใหญ่ขึ้น ก็ไม่อยากย้ายไปไกลบ้านมากนัก และอีกกลุ่มคือคนที่อาศัยอยู่ย่านเยาวราช ที่ลูกหลานน่าจะขยับขยายมาอยู่โซนนี้กัน เพราะไปมาหาสู่กันง่าย ซึ่งคนเหล่านี้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ AP วิเคราะห์มาว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงของทำเลนี้ค่ะ
โดยมีขนาดห้องเริ่มต้นเป็นยูนิตแบบ 1 ห้องนอน 26 – 35 ตร.ม. ซึ่งมีถึง 86% ของยูนิตทั้งหมด และแบบ 2 ห้องนอน 50 – 60.5 ตร.ม.
1 ห้องนอน 26 ตร.ม. เริ่ม 2.49 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 96,000 บาท/ ตร.ม.
ส่วนวันนี้เรามีจุดเด่นโครงการด้านต่างๆมาฝากกันค่ะ
จุดเด่นของทำเลโครงการ Life ปิ่นเกล้า คือเป็นโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ จรัญสนิทวงศ์ ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานี บางยี่ขัน ที่ห่างไปในระยะเดินแค่ 3o เมตร ซึ่งตอนนี้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ เส้นนี้จะวิ่งยาวตลอดแนวถนนจรัญสนิทวงศ์เลยค่ะ คาดว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะได้เปิดใช้งานในปี 2562 หรือปีหน้านี้
โครงการอยู่ในย่านที่เรียกว่าปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ใกล้พระนคร คนที่นี่อยู่อาศัยในย่านนี้มานานแบบรุ่นต่อรุ่น พอครอบครัวขยายตัวใหญ่ขึ้น ก็ไม่อยากย้ายไปไกลบ้านมากนัก และอีกกลุ่มคือคนที่อาศัยอยู่ย่านเยาวราช ที่ลูกหลานน่าจะขยับขยายมาอยู่โซนนี้กัน เพราะไปมาหาสู่กันง่าย นอกจากนี้ยังมีโอกาสปล่อยเช่านักศึกษาและกลุ่มคนทำงานสถานราชการและโรงพยาบาลใกล้เคียงต่างๆได้ เนื่องจากความสะดวกของทำเลนั่นเอง
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในครบครัน ตัวโครงการออกแบบมาด้วยแนวคิด “Mura” A Village within Nature เป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบแนวคิดญี่ปุ่น ที่ออกแบบมาอย่างละเมียดละไม อย่างการเข้ารอยต่อของวัสดุไม้ที่พิถีพิถันอย่างลงตัว กับการเอาความเป็นธรรมชาติเข้ามาอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น
อย่างเช่นสระว่ายน้ำบรรยากาศในสวน หรือล็อบบี้เปิดรับวิวต้นไม้ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำชิดขอบฟ้า เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนขนาดใหญ่ พร้อมห้องฟิตเนส, Steam, Lounge พร้อมกล้องวงจรปิดภายในโครงการ และ รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง
ห้องขายแบบ Fully Fitted คือมีชุดครัวมาให้ สุขภัณฑ์ Kohler มีฉากกั้นห้องน้ำแต่ฝักบัวเป็นแบบธรรมดาไม่มี Rain Shower นะคะ และฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร พื้นเป็นลามิเนต 8 มม.กับแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. ซึ่งโดยภาพรวมถือว่าวัสดุถือว่ามาตรฐานทั่วไปถ้าเทียบกับราคาคอนโดระดับนี้
ผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านรีวิวพาชมตึกเสร็จ, ทำเล และตัวโครงการ Life ปิ่นเกล้า อย่างละเอียดจากทางเราได้ ที่นี่
5.The Parkland จรัญ-ปิ่นเกล้า
โครงการ The Parkland จรัญ-ปิ่นเกล้า เป็น คอนโด High Rise จำนวน 22 ชั้น 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ เป็นโครงการคอนโดใหญ่ที่มียูนิตที่พักอาศัยทั้งหมด 1,784 ยูนิต จาก นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด พร้อม 7-11 และห้องชุดพาณิชย์ 3 ยูนิตและห้องชุดสำนักงาน 1 ยูนิต จุดเด่นคืออยู่ ติดทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน
ภายใต้แนวคิด Living in the Art of Precious Living เราเชื่อมวิถีชีวิตที่คุณคุ้นเคยกับบรรยากาศแห่งความสวยงามในอดีต ณ สวนส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ ที่ทุกตารางนิ้วจะเต็มไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ใหญ่น้อย เพลิดเพลินไปกับ Botanic Garden และ Pavilion ไม่ว่าจะอ่านหนังสือเพลินๆ หรือนั่งเล่นฟังเพลงโปรดก็สบายอารมณ์ไปกับทุกกิจกรรมในบรรยากาศร่มรื่นทั่วทั้งโครงการ
ขนาดห้องเริ่มต้นเป็นยูนิตแบบ Studio 24 ตร.ม. ไปจนถึงแบบ 2 ห้องนอน 75 ตร.ม. Studio เริ่มต้นที่ 2.25 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 93,750 บาท/ตร.ม .
ส่วนวันนี้เรามีจุดเด่นโครงการด้านต่างๆมาฝากกันค่ะ
The Parkland จรัญ-ปิ่นเกล้า เป็นโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ติดทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน จัดเป็นโครงการใหญ่ติดรถไฟฟ้าย่านปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ใกล้พระนคร ที่มีโอกาสปล่อยเช่านักศึกษาและกลุ่มคนทำงานสถานราชการและโรงพยาบาลใกล้เคียงต่างๆได้เช่นเดียวกันกับโครงการติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอื่นๆในโซนนี้ เนื่องจากความสะดวกของทำเล ติดสถานีรถไฟฟ้าสถานีบางยี่ขัน สายสีน้ำเงิน ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ศรีรัช – วงแหวนรอบนอก และแวดล้อมด้วยหลากหลายแหล่งชอปปิ้งชั้นนําและศูนย์บริการทางการแพทย์ รวมถึงมหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิเช่น เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เมเจอร์ปิ่นเกล้า โรงพยาบาลศิริราช และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
โครงการออกแบบมาด้วยแนวคิด MY PURSUIT OF THE ART OF PRECIOUS LIVING (ที่สุดของสุนทรียภาพในการใช้ชีวิต เริมต้นที่นี่) โดยจัดเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้าที่มีพื้นที่สวนขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำใหญ่กว่า Half Olympic ความยาวถึง 50 เมตร, ห้องฟิตเนสแบบ Triple Floors Sport Facilities, ห้อง Sauna แยกชายหญิง, Yogafly, มุมซ้อมมวย และอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ พิเศษคือจะมี Jogging Track คอนเซ็ป Night Park
พร้อม High Volume Sky lounge ชั้น 21,22 ที่มีฟังก์ชั่นเช่น Social Club, Co-Working Space, Mini Theater, Golf Simulator, Meeting Room นอกจากนี้ยังมีสวนชั้นดาดฟ้าที่มองรอบได้ 360 องศา วิวเกาะรัตนโกสินทร์และสะพานพระราม 8
ห้องขายแบบ Fully Fitted คือได้ชุดครัว พร้อมตู้ลอย ท็อปหินสังเคราะห์ Hob&Hood จาก Mex และสุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก American Standard ให้เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องปรับอากาศ และตู้เสื้อผ้า ฝ้าเพดานสูง 2.5 ม. พื้นได้เป็นลามิเนตทั้งหมด ส่วนห้องน้ำและระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิก
ผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านรีวิวทำเล และตัวโครงการ The Parkland จรัญ-ปิ่นเกล้า อย่างละเอียดจากทางเราได้ ที่นี่
ในยุคที่ดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารต่ำแบบทุกวันนี้ การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่กำไรดีที่สุด อย่างไรก็ดี การเลือกซื้อคอนโดมิเนียม ถือเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ที่ต้องศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล ตามข่าว และเตรียมพร้อมกันดีๆ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อลงทุนกันอยู่ค่ะ
ขอให้ผู้อ่านได้ห้องและชั้นที่ถูกใจ ถูกงบ และส่วนลดดีๆกันถ้วนหน้านะคะ : )
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น