[Mini Review] พาชมเมืองโอซาก้า พร้อมผ่าอาณาจักร มูลค่า 2.2 แสนล้านบาทของ “ฮันคิว ฮันชิน” พันธมิตรสุดสตรองของ เสนา
Written by : Som Sawarose Khaisilp
สวัสดีค่ะผู้อ่าน Homenayoo ทุกท่าน สำหรับใครที่ไปญี่ปุ่นแล้วรู้สึกชื่นชอบในงานออกแบบอาคารบ้านเรือน รวมถึงการออกแบบที่มีลักษณะของการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างเต็มที่ ตั้งแต่การออกแบบสเกลใหญ่ๆอย่างเมือง ตึกสูง บ้าน ไปจนถึงการออกแบบในสเกลเล็กๆอย่างข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเต็มไปด้วยความใส่ใจในรายละเอียด ในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายของความน่ารักอยู่ในตัว เช่นเดียวกับผู้คนในญี่ปุ่น เป็นส่วนผสมพิเศษที่ทำให้ญี่ปุ่นมีเสน่ห์และมีบรรยากาศที่แตกต่างไปจากประเทศอื่นๆ
ในบทความพิเศษวันนี้ นอกจากพาเที่ยวโอซาก้าแล้ว เราขอพาผู้อ่านมาทำความรู้จักกับบริษัทอสังหายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง “ฮันคิว ฮันชินโฮลดิ้ง กรุ๊ป” มูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ พร้อมโชว์ศักยภาพความเป็นที่สุดของวงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น ทั้งการบริหารจัดการ และการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
กลุ่มอาคารที่เห็นในภาพด้านบนคือ Grand Front Osaka ห้างใหญ่ยอดฮิตในโซนอุเมดะ ซึ่งก็เป็นของ ฮันคิว ฮันชิน เค้าค่ะ เป็นห้างใหญ่ใกล้สถานีรถไฟ Osaka / Umeda ซึ่งภายในห้างเป็นแหล่งรวม สินค้าแฟชั่น ของฝาก ความงามและร้านอาหารที่มีมากมายกว่า 270 ร้าน โดยในโอซาก้านี่เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีอสังหาในเครือ ฮันคิว ฮันชิน เยอะมากๆค่ะ เรียกว่าฮันชินกรุ้ปดูแลอาคารอสังหากว่า 60 % ภายในอุเมดะเลยก็ว่าได้
คุณวากาบายาชิ ชึเนะโอะ ประธานกรรมการบริหาร ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่นเปิดเผยว่า ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ เป็น 1 ใน 6 ของธุรกิจในเครือบริษัท ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้ง กรุ๊ป ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 100 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 1907
สำหรับผลประกอบการล่าสุด ณ สิ้นมีนาคม 2018 พบว่า บริษัท ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้งส์ กรุ๊ปมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจคมนาคมระหว่างเมือง คิดเป็น 29.2% ถัดมาคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์27.6% ตามมาด้วยธุรกิจความบันเทิงแบบครบวงจร15% ธุรกิจการคมนาคมระหว่างประเทศ10.6% ธุรกิจโรงแรม 2.0% และธุรกิจท่องเที่ยว 4.2%
สำหรับการร่วมทุนกับเสนานี้ มาจากการที่กลุ่มฮันคิว มองเห็นศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและศักยภาพของเสนาฯ ที่มีความโดดเด่นและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัวที่สุด ยกตัวอย่างเช่น โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท – แบริ่ง โครงการร่วมทุนที่เปิดตัวโครงการแรกระหว่างบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด มีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท มียอดจองซื้อแล้ว 80% หลังเปิดโครงการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ถัดมาเป็นโครงการนิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ ซึ่งเปิดตัวโครงการไปเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา มูลค่าโครงการอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท ก็มียอดจองซื้อสูงถึง 70% เช่นกัน
ส่วนโครงการล่าสุดภายใต้ความร่วมมือของเสนา ฮันคิว คือโครงการคอนโดมิเนียมลักชูรี่แห่งแรก ที่มีมูลค่าโครงการสูงที่สุด 5,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ใจกลางถนนเอกมัย อีกหนึ่งทำเลฮิตของชาวต่างชาติ นอกจากความร่วมมือข้างต้นแล้ว เสนา ฮันคิว ยังมีแผนพัฒนาโครงการต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของเสนาดีเวลลอปเม้นท์ บวกกับความมั่นใจในเศรษฐกิจไทย ทำให้เตรียมลงทุนเพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท สะท้อนจากข้อมูลภาครัฐที่ระบุว่าในปี พ.ศ. 2574 หรืออีก 13 ปีข้างหน้าประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นสูงสุด นั่นหมายถึงความต้องการในอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีอีกมาก ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเนื้อหอมสำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้
ด้านผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ที่ยังคงมอบความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการร่วมมือกันพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ และเป็นการแสดงความเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัวที่สุด
โดยบริษัทในเครือที่ใหญ่และทำรายได้มากที่สุด ไล่จากมากไปน้อย ของ ฮันคิว ฮันชิน มีดังนี้
1. ธุรกิจการคมนาคมระหว่างเมือง ที่ประกอบด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมต่อระหว่าง 3 เมืองหลักในพื้นที่เขตคันไซ คือ เมืองโอซาก้า เมืองโกเบ และเมืองเกียวโต พร้อมสามารถเชื่อมต่อการเดินทางแถบชานเมืองด้วยรถโดยสารประจำทางและรถแท็กซี่
2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (ทำรายได้เป็นลำดับที่ 2)
3. ธุรกิจความบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex)
4. ธุรกิจการคมนาคมระหว่างประเทศ (International Transportation) หรือการขนส่งสินค้าทางอากาศและทางเรือผ่านกว่า 100 เส้นทางใน 27 ประเทศทั่วโลก
5. ธุรกิจโรงแรม ภายใต้การดูแล 48 แห่ง รวมมากกว่า 10,693 ห้องพัก
6. ธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศ สามารถรองรับการท่องเที่ยวแบบกลุ่ม และการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ
วันนี้เราจะพาผู้อ่านไปชมเมืองโอซาก้า รวมถึงกิจการของ ฮันคิว ฮันชิน ด้านต่างๆกันด้วยนะคะ ไฮไลท์จะมีพาชมห้องตัวอย่างโครงการ Geo Tower แบรนด์คอนโดหรูของ ฮันคิว ฮันชิน, Geo fit+ Lab ห้องทดลองที่สร้างขึ้นเพื่อออกแบบและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ตามคำแนะนำของผู้อยู่อาศัย เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการใช้ชีวิตให้ลงตัวพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าภายใต้คอนเซปต์ “MADE FROM HER” รวมถึงพาชมสนามเบสบอล Hanshin Tigers และ โรงแรม Remm โรงแรมติดสถานีรถไฟที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก ซึ่งออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “MADE FROM HER” เช่นกันค่ะ จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) จะพลาดกับปราสาทนี้ได้ยังไงล่ะคะ ปราสาทนี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโอซาก้าค่ะ
โอซาก้า (Osaka) เป็นเมืองใหญ่ที่มีชื่อเสียงในโซนคันไซที่สามารถนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวมาถึงได้โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ปราสาทโอซาก้านี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อราว 500 ปีก่อน โดยซามูไรชื่อ “โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ” ปราสาทนี้เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นที่ทำให้โอซาก้ากลายเป็นเมืองศูนย์กลางและมีการพัฒนาทั้งวัฒนธรรมและการค้าขายขึ้นมาอย่างเจริญรุ่งเรือง จนกลายเป็นเมืองใหญ่รองจากโตเกียว (เอโดะ) ไปโดยปริยาย
โดทงบุริ (Dotonbori) ย่านช้อปปิ้งอันโด่งดังของโอซาก้านี่ก็พลาดไม่ได้จริงๆค่ะ ร้านอาหารอร่อยๆและแหล่งช้อปปิ้งเยอะมาก เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจแล้ว ยังมีร้านรวงต่างๆให้เทียบราคาเยอะมาก ให้เราไปเดินเที่ยว กิน ช้อปกันจนเพลินกันไปเลย
ปัจจุบันโอซาก้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวในดวงใจของนักท่องเที่ยวมากมายด้วยเสน่ห์ทั้งด้านอาหารท้องถิ่นประจำโอซาก้าอย่างทาโกะยากิ, โอโคโนะมิยากิ และเทปันยากิ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่างปราสาทโอซาก้าและโดทงโบรินี่ล่ะค่ะ
แถมแต่ละร้านในย่านโดทงบุรินี้ยังมาพร้อมกับความจัดหนักจัดเต็ม ทั้งแสงสีเสียงและซิกเนเจอร์ประจำร้านที่โดดเด่นเตะตาจนต้องบันทึกภาพไว้ โดยจุดเด่นยอดนิยมของโซนนี้คือป้ายกูลิโกะค่ะ
ส่วนด้านวัฒนธรรรมอาหารการกินก็รุ่งโรจน์ถึงขนาดเรียกกันว่า “ครัวโลก” เลยทีเดียว โดยเป็นแหล่งรวมอาหารของแต่ละท้องถิ่นทั่วญี่ปุ่น ปูยักษ์, เนื้อย่าง, ราเม็ง และ เกี๊ยวซ่า ก็เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดค่ะ ถ้ามาถึงโอซาก้าแล้ว เพราะมีร้านอาหารชื่อดังมากมาย
ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ (Sumiyoshi Taisha) ศาลเจ้าเก่าแก่อายุพันกว่าปี ภายในมีศาลย่อยอยู่ 4 ศาล ภายในมีศาลแมวนางกวักด้วยนะคะ น่ารักมากๆ
(Sumiyoshi Taisha) เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ที่มีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า ภายในนั้นจะเป็นที่ตั้งของเทพคามิ (เทพเจ้าชินโต) ซึ่งคอยให้ความคุ้มครองแก่นักเดินทาง ชาวประมงและชาวเรือ ชาวญี่ปุ่นที่มีอาชีพที่ต้องเดินทางมักจะมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ค่ะ
ด้านหน้าศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ จะมีสะพานโค้งโซริฮาชิ เป็นสะพานแดงท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เป็นอีกไฮไลท์สวยๆของศาลเจ้านี้ค่ะ
Sales Office & Show Unit
ไหว้พระ ชมเมือง ช้อปปิ้งกันไปแล้ว เรามาชมสำนักงานขายและห้องตัวอย่างของโครงการคอนโดมิเนียมของ “ฮันคิว ฮันชิน” ในโอซาก้ากันต่อค่ะ ว่าจะเป็นอย่างไร
สำนักงานขายที่เรามาชมกันเป็นของโครงการคอนโดในแบรนด์ Geo ซึ่งเป็นชื่อแบรนด์คอนโดสูงของ ฮันคิว ฮันชิน ค่ะ (ยกตัวอย่างเช่น Niche Mono ที่เป็นชื่อแบรนด์คอนโดของเสนา)
แบรนด์ Geo เกิดในปี 1990 มาจากคำว่า Geography เนื่องจากจะสื่อถึงการให้ความสำคัญกับพื้นที่ และพื้นผิวของอาคารนั่นเอง จากแบบสำรวจคนอยากอยู่ที่ไหน Geo เป็นแบรนด์ที่มีคนเลือกมากที่สุด โดยมีคนอยากอยู่คอนโดแบรนด์นี้กว่า 20% ของจำนวนคอนโดแบรนด์ทั้งหมด และเนื่องจาก ฮันคิว ฮันชิน เป็นบริษัทใหญ่ที่มีกลุ่มบริษัทในเครือมากมาย ลูกค้าที่ซื้อคอนโดของฮันคิวจะได้ของสมนาคุณมากมายค่ะ ไม่ว่าจะตั๋วชมละคร หรือ ส่วนลดเวลาซื้อของในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น โดย ฮันคิว ฮันชิน มีโครงการคอนโดใหม่ปีละสามสิบโครงการ
โครงการนี้มีชื่อว่า Geo Tower “มินามิ โมริ มาจิ” คอนโด High Rise สูง 36 ชั้น 250 ยูนิต จอดรถได้100คัน ขนาด 50-155 ตรม. ห้องหันไปทางทิศใต้ซึ่งเป็นทิศที่นิยมของญี่ปุ่น เพราะเป็นทิศที่มีแดดเข้าเยอะ
จะเห็นว่าในห้องเป็นโมเดลอาคารพร้อมภาพวิวจากโครงการที่จุดเด่นคือสามารถมองเห็นปราสาทโอซาก้า ใจกลางเมืองได้ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถมองเห็นธรรมชาติได้อย่างวิวแม่น้ำได้ด้วย ดีไซน์ facade อาคาร โดยใช้กระจกเป็นหลัก และแนวเส้นพุ่งขึ้นสูงถึงยอดฟ้า พร้อมยอดอาคารมีเทียร่าตกแต่ง ทำให้สามารถมองเห็นอาคารได้จากในระยะไกล
จัดเป็นคอนโดหรูที่ราคาอยู่ในระดับบนสุดของญี่ปุ่นค่ะ ราคาห้องเริ่มตั้งแต่ 40-230 ล้านเยน เปิดขายกันยายน 2018 ที่ผ่านมา ขายไป30% แล้ว กำหนดสร้างเสร็จ มีนาคม 2021
Terget ลูกค้าของโครงการนี้คือ พนักงานเงินเดือนสูง, คุณหมอ, ทนายความ เป็นต้น ซึ่งภายในสำนักงานขายก็จะมีทั้งห้องโมเดลอาคาร พร้อมภาพวิวของอาคารขนาดใหญ่, โมเดลเมือง ให้เห็นศักยภาพของ Location โครงการนี้ และ ห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ซึ่งเดี๋ยวเราพาไล่ชมกันไปทีละอย่างนะคะ
โมเดลผังเมืองของ Geo Tower “มินามิ โมริ มาจิ” ที่อธิบายศักยภาพของทำเลโครงการ ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง มีแม้กระทั่งลูกไฟจำลองพลุไฟที่งาน เทนจิน ที่แม่น้ำที่จัดขึ้นปีละครั้งได้ เป็นอีกจุดขายของโครงการค่ะ ที่เป็นคอนโดใจกลางเมืองที่มองเห็นวิวแม่น้ำได้ จุดเด่นของโครงการนี้คืออยู่ใกล้สถานีฮิงาชิอุเมดะ 1.6 กม. จากย่านอุเมดะ
ถัดมาเป็นห้องอธิบายโครงสร้างของโครงการ แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยของโครงสร้างหลักที่มีความทนทานต่อแผ่นดินไหว เพราะอย่างที่รู้กันนะคะ ว่าญี่ปุ่นมีภูมิประเทศเป็นเกาะกลางทะเล เจอภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวค่อนข้างบ่อยค่ะ การออกแบบอาคารสูงจึงต้องวางแผนเรื่องนี้มาอย่างจริงจัง จะเห็นว่าส่วนรากฐานมีความแข็งแรงแต่ในขณะเดียวกันก็สามารถขยับหรือเคลื่อนไหวในแนวราบได้ มีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับแผ่นดินไหว ได้ถึงระดับ 6 ของญี่ปุ่น หรือรองรับได้ประมาณ 7 ริกเตอร์ เรียกว่า เมนชินโคโสะ หรือ seismic isolation structure
ห้องตัวอย่างของโครงการห้องแรกเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาด 75.96 ตร.ม. เราเอาผังมาให้ดูกันก่อน โชคดีมากโครงการนี้ผังห้องยังมีภาษาอังกฤษ บางทีบางโครงการไม่มีภาษาอังกฤษเลยค่ะ ต้องสังเกตเอาเองก็มี
ห้องตัวอย่างทำประตูทางเข้าห้องมาให้แบบเสมือนจริงเลยค่ะ จะเห็นว่ามีมุมยุบเข้าไป เหมือนมีพื้นที่หน้าประตูทางเข้าห้องที่ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น
จะเห็นว่าส่วนห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร กับครัวเชื่อมต่อกัน โครงการขายแบบ Fully Fitted นะคะ คือมีเฟอร์นิเจอร์ built in อย่างชุดครัว ชุดสุขภัณฑ์ และห้องเก็บของมาให้ แต่ภายในห้องตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์อื่นๆมาให้ดูระยะใช้งานด้วย จะเห็นว่าห้องหรูหรากว้างขวางเกินมาตรฐานห้องในเมืองของญี่ปุ่นทั่วไปไปม้าก อย่างที่บอกไว้ในข้างต้นนะคะ โครงการนี้เป็นคอนโดหรือที่เรียกกันว่าแมนชั่นระดับหรูของญี่ปุ่นค่ะ
ชุดครัวนี่จะมีแลปครัวให้เลือกได้ด้วยค่ะ ว่าชอบเคาน์เตอร์ครัวแบบไหน เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของลูกค้าที่อาจจะมีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน จะเห็นว่ามี Island ครัวมาให้ใช้วางของเพิ่มได้ และชุดครัวมีระยะใช้งานสบายๆ
ห้องนอนเล็กจัดมาแบบญี่ปุ่นค่ะ คือไม่มีเตียง ใช้ปูฟูกนอนเอา ข้อดีก็อย่างที่เห็นค่ะ เวลาไม่ได้นอนก็ใช้พื้นที่ห้องทำประโยชน์อย่างอื่นได้ ใช้เล่นโยคะหรือเอาโต๊ะพับมานั่งทำงานได้นั่นเอง
ส่วนห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom อยู่ติดระเบียง วางเตียง 5 ฟุต มาให้ดูระยะใช้งาน
ชอบที่พื้นกระเบื้องที่ระเบียงและห้องน้ำเป็นกระเบื้องที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อให้แห้งไวและระบายน้ำได้เร็วค่ะ โดยเป็นพื้นสองชั้น ชั้นล่างเป็นพื้นคอนกรีต ปูด้วยพลาสติก ก่อนปูกระเบื้องที่ด้านหลังแผ่นมีดอกยางเป็นช่องว่างให้น้ำไหลไปใต้แผ่นกระเบื้องได้ง่าย
ส่วนระเบียงก็ให้มากว้างขวาง และไม่รวมในขนาดห้อง คือบอกว่า 75.96 ตร.ม. ก็คือไม่รวมระเบียงนะ
พื้นที่ใช้สอยออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวก ใช้งานง่าย อย่างภาพด้านบนจะเห็นได้ว่ามีที่แขวนราวตากผ้าติดมาให้กับราวกันตกระเบียงเลย เวลาไม่ใช้ก็พับเก็บได้ ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้ดี
ที่โถงทางเดินไปห้องน้ำมีตู้เก็บของมาให้สูงจรดเพดาน
ส่วนห้องน้ำจะแยกส่วนโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำเป็นสัดส่วนค่ะ อย่างส่วนห้องอาบน้ำจะมีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ที่จะเห็นว่ามีที่เก็บของบนล่างมาให้แบบจัดเต็มมาก และประตูห้องอาบน้ำจะอยู่ด้านในอีกที ข้อดีคือคนที่กลับบ้านมาสามารถมาใช้อ่างล้างหน้าล้างมือได้ ขณะที่อีกคนกำลังแช่อ่างอาบน้ำอยู่นั่นเอง
ภายในห้องอาบน้ำค่ะ จะเห็นว่ามีทั้งส่วนที่เป็นอ่างอาบน้ำสำหรับแช่ และพื้นที่สำหรับนั่งอาบน้ำได้ มีราวแขวนผ้า มีชั้นสำหรับวางของมาให้อย่างใส่ใจรายละเอียด
ห้องตัวอย่างห้องที่สองเป็นห้องขนาด 154.74 ตร.ม. ห้องนี้มีความน่าสนใจคือมีห้องนอนใหญ่ห้องเดียวที่ใหญ่แบบมี Walk in closet ในตัว และมีระเบียงที่กว้างขวางถึงสองจุด พร้อมโซน Living Dining ที่กว้างขวาง เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว
เข้ามาในห้องจะเจอโถงทางเดิน ที่ตกแต่งผนังและเพดานมาอย่างหรูหรา แต่ในญี่ปุ่น ต่อให้เป็นคอนโดหรูยังไงก็จะตกแต่งในสไตล์ Conservative ค่ะ คือไม่ได้เฟี้ยวฟ้าวมาก แต่เน้นรายละเอียดและความหรูหรามากกว่า
ซ้ายมือมีมุมพร้อมชั้น Built in สูงจรดเพดานเป็นที่เก็บของ เก็บของได้เยอะอย่างที่เห็น
ส่วนห้องรับประทานอาหารจัดโต๊ะและเก้าอี้แบบ 6 ที่นั่ง ระยะใช้งานสบายๆ เชื่อมต่อกับครัวแบบ Pantry และห้องนั่งเล่น ติดระเบียง
ส่วนครัวมีเคาน์เตอร์ครัวและ Island มาให้ 2 ฝั่ง เป็นชุดครัวที่จัดว่าใหญ่ทีเดียวค่ะ มีระยะใช้งานสบายๆ
ห้องนั่งเล่นสามารถจัดชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ และมีกระจกเข้ามุมมองเห็นวิวเมืองเป็นมุมกว้าง
โดยที่ระเบียงมีเจาะช่องหนีไฟมาให้ตามที่เห็นค่ะ
ส่วนห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ใช้งานกว้างขวาง และมี Walk in closet ในตัว
Geo fit+ Lab
ถัดมาเรามาชม Geo fit+ Lab กันต่อค่ะ Geo fit+ Lab เป็นห้องทดลองของ ฮันคิว ฮันชิน ที่สร้างขึ้นเพื่อพัฒนาความพึงพอใจสูงสุดของการใช้ชีวิต โดยรวบรวมคำแนะนำและความคิดเห็นของผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงวัย มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ และทดลองใช้ในพื้นที่เสมือนจริงว่าเป็นอย่างไร พูดง่ายๆว่าเป็นเหมือนแล็บทดลองการใช้งานค่ะ พร้อมนำผลลัพธ์ที่ได้ไปปรับปรุงแก้ไขจนสามารถติดตั้งใช้ได้จริงในโครงการ เมื่อสิ้นสุดขบวนการนี้ ก็เริ่มขั้นตอนรับฟังใหม่ เป็นวงจรต่อเนื่อง เรียกได้ว่ามีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเราเก็บภาพบางส่วนมาให้ชมกันค่ะ
อย่างเช่นราวตากผ้าแขวนเพดานในบ้านอย่างในภาพ สามารถถอดเข้าออกได้ง่ายมาก และสามารถรับน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 8 kg. จะเห็นระยะห่างนะคะ ว่าคิดมาละว่าสามารถเอาฟูกหรือผ้าปูที่นอนมาแขวนได้
ตู้เสื้อผ้าที่ปรับความสูงต่ำของราวได้ตามลักษณะเสื้อผ้าที่ใช้ และจะเห็นว่าตู้มีความลึก สามารถแขวนเสื้อผ้าได้ 2 – 3 แถว
อ่างล้างจานในชุดครัวที่คิดเรื่องการใช้งานมาอย่างละเอียด ว่าวางเขียง พักจาน หรือหั่นผักเทผักเข้าจานยังไงให้สะดวกที่สุด เป็นต้น
สนามเบสบอล Hanshin Tigers
พามาชมสนามเบสบอล Hanshin Tigers กันต่อค่ะ อันนี้เราว่าต่อให้คนที่มาโอซาก้าบ่อยๆหลายๆท่านคงไม่เคยมากันแน่เลย เป็นหนึ่งในอาคารของ ฮันชิน ค่ะ เป็นทีมเบสบอลสุดฮิตของโซนคันไซ คนญี่ปุ่นมีความคลั่งไคล้เบสบอลมากๆค่ะ เรียกว่ามากกว่าฟุตบอล และ Hanshin Tigers เป็นทีมเบสบอสที่มีแฟนๆในญี่ปุ่นเยอะมาก บรรยากาศของสนามเบสบอลจะเป็นอย่างไร ไปชมกันค่ะ
หน้าทางเดินเข้าสนามเบสบอล จะเป็นทางเดินที่ปูด้วยก้อนอิฐ
บนก้อนอิฐมีความน่าสนใจมากค่ะ คือมีการพิมพ์ชื่อผู้เล่น หรือข้อความต่างๆจากผู้คนเอาไว้ให้เดินอ่านกันได้ อย่างโซนนี้เป็นโซนแบบ จารึกชื่อบอกรักกัน คู่แต่งงาน หรือวันครบรอบแต่งงานค่ะ จะเห็นว่ามีคนเขียนว่า I LOVE TIGERS FOREVER และลงชื่อไว้ด้วยนะคะ จะเห็นได้ว่า ความหลงใหลในเบสบอลของคนญี่ปุ่นมีมากขนาดไหน
สนามเบสบอล Hanshin Tigers หรือที่เรียกกันว่าสนาม ฮันชิน โคชิเอ็ง ถือว่าเป็นสนามเบสบอลขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย สร้างโดยบริษัท Hanshin Electric Railway หรือบริษัทรถไฟในเครือของฮันชินนั่นเอง สามารถรองรับผู้ชมได้มากถึง 55,000 คน สร้างเสร็จในปีค.ศ.1924 เพื่อเป็นสนามประจำของทีม Hanshin Tigers ทีมดังของจังหวัดเฮียวโงะ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ระหว่างเมืองโกเบและโอซาก้า บริเวณเมืองนิชิโนมิยะ(Nishinomiya) โดยมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากสนามโปโลกราวส์ ในนครนิวยอร์ก
ต้องขอสารภาพนะคะว่าไม่ได้รู้เรื่องเบสบอลในญี่ปุ่นมากนัก แต่การมาเยี่ยมชมสนามเบสบอลก็สนุกดีค่ะ คือจะมีกิจกรรม โดยมีผู้นำทางไปชมจุดต่างๆ มีโซนที่ให้เปลี่ยนชุด ใส่หมวกใส่เสื้อ พร้อมมีไม้เบสบอลให้ใส่ถ่ายรูปกันได้อย่างที่เห็นในภาพ วันที่ไปนี่ก็สนุกสนานกับการถ่ายรูปเล่นกันดีค่ะ
ภายในสนามเบสบอลนี้จะมีส่วน The Museum of HANSHIN KOSHIEN STADIUM อยู่ด้วย
ภายในมีการจัดเก็บสิ่งของ เรื่องราว และภาพบันทึกในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสนามเบสบอส ฮันชิน โคชิเอ็ง เอาไว้อย่างน่าสนใจ
มีร้านค้าไว้ให้ซื้อของที่ระลึกกันด้วย มีหลายอย่างที่หาได้เฉพาะที่นี่เท่านั้นนะคะ ยกตัวอย่างเช่น มินเนียนเวอร์ชั่น ฮันชิน ไทเกอร์ส์, วันพีซเวอร์ชั่น ฮันชิน ไทเกอร์ส์ หรือ กระเป๋า Anello เวอร์ชั่น ฮันชิน ไทเกอร์ส์ อยากรู้ว่าเป็นยังไง ต้องแวะมาดูกันเองค่ะ 555+ เราไม่ได้ถ่ายภาพไว้ โทษทีน้า
โรงแรม Remm shin-osaka
ขอปิดท้ายด้วย Remm shin-osaka โรงแรมที่ออกแบบด้วยคอนเซ็ปท์ MADE FROM HER และได้รับความชื่นชมอย่างมากจากผู้ใช้ แม้กระทั่งจากผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทของ เสนา
Remm shin-osaka เป็นโรงแรมแบบ Upper business target คือ female business manger หรือแปลเป็นไทยว่าพนักงานแบบผู้จัดการหญิง หรือพนักงานระดับสูง จุดขายนอกจากอยู่ติดสถานีรถไฟเลยคือความใส่ใจรายละเอียดแบบทุกเม็ดค่ะ เรียกว่าห้องจิ๋วแต่แจ๋ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ เตียง โซฟา อาหารเช้า หรือออพชั่นพิเศษอย่างเช่น มีชาสิบประเภทให้เลือกที่ front เป็นต้น
ปกติ Businesses hotel มีภาพลักษณ์สำหรับผู้ชาย โรงแรมนี้จุดขายคือเน้นที่ความต้องการของผู้หญิง เน้นคอนเซ็ปเรื่องการนอนหลับและผ่อนคลาย สีก็จะใช้สีดิน สีน้ำ และสีเขียวอมเหลือง ที่แทนสีธรรมชาติ โดยโรงแรมมีลูกค้าผู้หญิงกว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ business hotel ทั่วไปไม่มีลูกค้าผู้หญิงเลย เป้าหมายของโรงแรมจึงถือว่าสำเร็จ
โดยโรงแรมมีอัตราเฉลี่ยเข้าพักเต็มถึง 94% ของจำนวนห้องซึ่งจริงๆลดจากปีที่แล้วซึ่งสูงถึง 98% เนื่องจากโซนนี้เป็นโซนที่มีโรงแรมเยอะมาก แต่โรงแรมอื่นๆคือจะอยู่ที่ประมาณ80% เนื่องจากจุดแข็งที่โรงแรมอยู่ติดสถานีรถไฟเลย ซึ่งได้ทั้งความปลอดภัยและความสะอาด จึงสามารถขายได้ดี แม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่าโรงแรมโดยรอบประมาณ 15%
ในภาพด้านบนเป็นห้องแบบเตียงคู่พร้อมกระจกบานกว้างเห็นวิวเมือง เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในโรงแรมค่ะ จะเห็นว่ามีเก้าอี้นวดอยู่ในห้องด้วย เริ่ดมากๆ มีราคา 38000 yen ต่อคืน ส่วนช่วงที่ราคาถูกที่สุดเปนหลังเดือนเมษายน โดยห้องเตียงคู่อย่างในภาพบนจะลดราคาเหลือ 20,000 yen หรือคืนละประมาณ 6,000 บาท
ส่วนห้องแบบเตียงเดี่ยวมีราคาเริ่มต้น 20,000 yen ค่ะ จะเห็นว่าต่อให้สร้างมาจากคอนเซ็ป MADE FROM HER แต่ก็ไม่ได้ออกแบบมาเป็นโรงแรมสีชมพู ฟ้า พาสเทล หวานๆอะไรแบบนั้นนะคะ เป็นคอนเซ็ปที่สื่อถึงความใส่ใจรายละเอียด ด้วยความรู้สึกว่าอยากให้ลูกค้าผู้หญิงรู้สึกปลอดภัย และใช้งานได้อย่างสบายใจนั่นเอง
ภาพอาหารเช้าของโรงแรมค่ะ ใครสนใจอ่านรีวิวโรงแรม Remm เพิ่มเติมตามเข้าไปอ่านรีวิวจากคนไทยที่เข้าไปพักจริงได้ที่นี่
ต้องขอขอบคุณ เสนา และ ฮันคิว ฮันชิน ซึ่งเป็นเจ้าภาพสำหรับทริปนี้ด้วยค่ะ เราได้เปิดโลกและมองเมืองโอซาก้าและประเทศญี่ปุ่นด้วยมุมมองใหม่ๆหลายเรื่องมากๆ ด้วยความยิ่งใหญ่ตลอดระยะเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา อาณาจักร ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป นั้นตอกย้ำศักยภาพความเป็นที่ 1 ในเขตคันไซได้เป็นอย่างดี ซึ่งการดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยที่แท้จริง เห็นได้จาก Geo fit+ Lab ห้องทดลองที่สร้างขึ้นเพื่อพัฒนาความพึงพอใจสูงสุดของการใช้ชีวิต โดยรวบรวมคำแนะนำและความคิดเห็นของผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงวัย มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ และทดลองใช้ในพื้นที่เสมือนจริงว่าเป็นอย่างไร พร้อมนำผลลัพธ์ที่ได้ไปปรับปรุงแก้ไขจนสามารถติดตั้งใช้ได้จริงในโครงการ เมื่อสิ้นสุดขบวนการนี้ ก็เริ่มขั้นตอนรับฟังใหม่ เป็นวงจรต่อเนื่อง เรียกได้ว่ามีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
เพราะเชื่อมั่นว่าบ้านที่ดีที่สุด คือบ้านที่สนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด ทางเสนาฯ จึงได้นำโนว์ฮาวนี้มาต่อยอดสู่การทำ Focus Group และได้ข้อมูล Insight ของลูกค้า นำมาพัฒนาโปรดักส์ ผ่านแนวคิด “MADE FROM HER” ใส่ใจทุกดีเทลชีวิต จากแนวคิดแบบผู้หญิงที่เข้าใจถึงหัวคิดและหัวใจของผู้หญิง เพราะเชื่อว่า “ผู้หญิงอยู่สบาย ผู้ชายก็แฮปปี้” ตอบโจทย์ทุกมุมมองความละเอียดลออแบบผู้หญิงในทุกเรื่อง ประกอบด้วย 2S และ 2C ดังนี้ 1.S = HER Self 2.S = HER Security 3.C = HER Comfort 4. C = HER Circle ให้ทุกรายละเอียดการใช้ชีวิตใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบมากที่สุด โดยเป็นวิธีคิดที่สร้างความแตกต่าง และส่งผ่านไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการ โดยบริษัทจะนำแนวคิด “MADE FROM HER” มาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในทุกโครงการ ทุกเซกเมนต์ ระดับราคา 1- 10 ล้านบาท ซึ่งรายละเอียดจะแตกต่างกันไป เช่น การแยกส่วนฟิตเนส เพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆ ให้กับผู้หญิง รวมถึงการเพิ่มประกัน และบริการที่เกี่ยวข้อง
ปัจจุบันทางบริษัทเสนา ร่วมทุนพัฒนาโครงการกับบริษัท ฮันคิว ฮันชิน ประกอบด้วย โครงการนิช โมโน สุขุมวิท – แบริ่ง, โครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์, โครงการ ปีติ เอกมัย, โครงการ นิช โมโน เจริญนคร, โครงการ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา และ โครงการ นิช โมโน รามคำแหง โดยแต่ละโครงการได้นำแนวคิดทั้ง Geo fit+ Condo และ Made From Her มาปรับใช้และออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น