EP.1813 รีวิว MOTIQUE แจ้งวัฒนะ 10 บ้านหรู 3 ชั้น ใจกลางแจ้งวัฒนะ ส่วนตัวสูงสุด เพียง 12 หลัง

---

ชื่อโครงการ	โมทีค แจ้งวัฒนะ 10 MOTIQUE Chaengwattana 10
เจ้าของโครงการ	บมจ.ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้
ลักษณะโครงการ	บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น
พื้นที่โครงการ	2-2-59.1 ไร่
จำนวนบ้าน	12 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 58.30-76.50 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย	ประมาณ 435 ตร.ม.
จำนวนห้อง	4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด	3 คัน
โซน	แจ้งวัฒนะ
เส้นทางคมนาคม	ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวิภาวดี-รังสิต ถนนสรงประภา ถนนพหลโยธิน ถนนเลียบคลองประปา ถนนประชาชื่น ดอนเมืองโทลล์เวย์ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีทีโอที รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีการเคหะฯ รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีหลักสี่
ที่ตั้ง	ซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 3 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.
กำหนดการ	เปิดขายปี 2563
ปีที่สร้างเสร็จ	คาดว่าแล้วเสร็จ ไตรมาส 2/2564
ราคา	เริ่มต้น 22.9 ล้านบาท* (พ.ย.63)
ค่าส่วนกลาง	n/a
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	แหล่งช้อปปิ้ง เซ็นทรัลพลาซา รามอินทรา ดิอเวนิว แจ้งวัฒนะ เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี สถานศึกษา รร.นานาชาดฮาร์โรว์กรุงเทพ รร.นานาชาติไอเอสบี รร.พระหฤทัยดอนเมือง รร.เซนต์ฟรังซีสเซเวียร์คอนแวนต์ ม.เกษตรศาสตร์ โรงพยาบาล รพ.มงกุฎวัฒนะ รพ.เวิลด์เมดิคอล รพ.จุฬาภรณ์ อื่น ๆ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ สนามบินดอนเมือง
สิ่งอำนวยความสะดวก	สวนหย่อม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. เข้า-ออกโครงการ ด้วยระบบ Access Card กล้อง CCTV โดยรอบโครงการ
จุดเด่นของโครงการ	“โมทีค แจ้งวัฒนะ 10” โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซัวรี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Your Unique Living” กับความเป็นส่วนตัวเพียง12 ยูนิต อันมีเอกลักษณ์เฉพาะ หนึ่งเดียวบนที่สุดแห่งทำเลศักยภาพ ติดถนนแจ้งวัฒนะ 150 เมตร และ รถไฟฟ้า สถานีทีโอที 250 เมตร ใกล้จุดขึ้นลงโทลล์เวย์ และ ทางด่วนพิเศษศรีรัช โดดเด่นด้วยการคัดสรรวัสดุภายในบ้านระดับพรีเมี่ยมจากต่างประเทศ สะดวกสบายกับ Home Automation สำหรับสั่งการระบบต่างๆ

---

---

ที่ตั้งโครงการ

ซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 3 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.

MOTIQUE แจ้งวัฒนะ 10 โครงการบ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น จาก ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งอยู่ภายในซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 3 ที่สามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนแจ้งวัฒนะ และ ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นซอยที่ใช้ลัดสู่ถนนเส้นหลัก เส้นรองได้เยอะ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีทีโอที เพียง 250 เมตร และอีกเรื่องที่น่าสนใจคืออยู่ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติ Harrow, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, สนามบินดอนเมือง, สำนักงานใหญ่ของ TOT และ CAT

ตอบโจทย์ลูกค้าที่ทำงานอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะและละแวกใกล้เคียง ที่ต้องการหาที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าถนนแจ้งวัฒนะนั้นในช่วงเวลาเร่งด่วนนั้นจะมีปริมาณรถที่มากส่งผลให้การจราจรมีปัญหาติดขัดยาวทีเดียว หากลดเวลาการอยู่ในบนท้องถนนแล้วเอามาใช้ทำกิจกรรมอย่างอื่นน่าจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่น้อย

การเดินทางโดยรถส่วนตัว : โครงการตั้งอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 3 ห่างจากถนนใหญ่แจ้งวัฒนะ เพียง 150 เมตร โดยจุดเด่นของโครงการนี้คือตั้งอยู่ในซอยที่มีเส้นทางลัดเยอะ สามารถลัดออกไปยังซอยแจ้งวัฒนะ 14, ถนนกำแพงเพชร 6 หรือ ออกไปถนนสรงประภาได้ โดยไม่ต้องออกไปใช้ถนนเส้นหลัก ทำให้ช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ และ ใช้หลีกเลี่ยงการจราจรในช่วงเวลา Rush Hour ได้เป็นอย่างดีค่ะ

ทีนี้เราจะพาพูดถึงเส้นทางการเดินทางหลักกันบ้าง จากถนนแจ้งวัฒนะ จะสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นหลัก และ เส้นรองได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถนนประชาชื่น, ถนนกำแพงเพชร 6, ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด และ ถนนติวานนท์ โดยผ่านแยกใหญ่ ๆ อย่างแยกศูนย์ราชการ, แยกคลองประปา, แยกหลักสี่ และ แยกปากเกร็ด

สำหรับคนที่ต้องการเข้าเมือง โดยใช้ถนนเส้นล่าง จากโครงการจะตั้งอยู่บนฝั่งขาเข้าเมืองอยู่แล้ว ออกจากซอยแจ้งวัฒนะ 10 เลี้ยวซ้ายก็จะมุ่งหน้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต และ ถนนพหลโยธิน ทั้ง 2 เส้นนี้ขับไปทางขาเข้าเมือง จะเชื่อมต่อไปยังโซนลาดพร้าว, จตุจักร, รัชดา, สุทธิสาร ออกไปอนุสาวรีย์, ดินแดง วิ่งตรงเข้าตัวเมืองชั้นในไปเพชรบุรี, สยาม, พระราม 4 ได้เลย หรือหากใช้วิ่งไปทางขาออกเมือง จะเชื่อมสู่โซนดอนเมือง, สายไหม, รังสิต ออกไปบางปะอิน, อยุธยา และจังหวัดใกล้เคียงได้เลย

หากออกจากโครงการมาแล้วกลับรถไปใช้ถนนแจ้งวัฒนะ ฝั่งขาออก ทางนี้ก็จะเชื่อมต่อไปถนนประชาชื่น (เลียบคลองประปา), ถนนสามัคคี, ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด, ถนนติวานนท์ ตรงยาวจะเชื่อมกับโซนปากเกร็ด ออกไปปทุมธานี หรือ เชื่อมสู่โซนนนทบุรี ไปเส้นถนนชัยพฤกษ์, บางกรวยกรุงเทพ, ถนนราชพฤกษ์ และ ถนนกาญจนาภิเษกฯ โซนบางใหญ่ได้เลย จากถนนกาญจนาภิเษก วิ่งเข้าเมืองจะเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษมได้ หากวิ่งออกเมืองจะเชื่อมต่อไปยังนครปฐม, สุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียงได้เช่นเดียวกันค่ะ

อีกหนึ่งตัวช่วยในการเดินทางให้สะดวกสบายมากขึ้นก็คือทางด่วนต่าง ๆ สำหรับโครงการนี้นอกจากจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ที่ใกล้ถนนใหญ่ เดินทางด้วยถนนแจ้งวัฒนะได้สะดวกแล้ว ยังเป็นโครงการที่ใกล้กับทางด่วนเส้นหลักถึง 2 สายด้วยกัน

โดยทางด่วนที่ใกล้ที่สุดก็คือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ บนเส้นวิภาวดีรังสิต จากโครงการมายังจุดขึ้นทางด่วน ประมาณ 4.4 กม. ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที โดยประมาณ เส้นนี้ใช้เข้าเมืองไปดินแดง-พระราม 9 โดยเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานครได้ที่ด้านบน

ทางด่วนอีกสายจะเป็น ทางพิเศษศรีรัช (สายบางปะอิน-ปากเกร็ด) จุดขึ้นทางด่วนจะห่างจากตัวโครงการ ประมาณ 5.2 กม. หรือ ใช้เวลาเดินไปทางไป ประมาณ 6-12 นาที จากทางด่วนนี้จะใช้มุ่งหน้าเข้าเมืองได้ง่าย เชื่อมต่อโซน New CBD พระราม 9 ได้ในระยะเวลาประมาณ 20-30 นาที หรือจะใช้สิ่งต่อไปโซน New CBD พระราม 4, สาทร, สีลม ก็ใช้เวลาไม่นาน ถ้ารถไม่ติดก็ 30-40 นาที เท่านั้น

ในเรื่องของการเลือกใช้ทางด่วน อันนี้แล้วแต่ผู้อยู่อาศัยเลยนะ ว่าสะดวกที่จะเลือกใช้เส้นไหน เพราะถึงยังไงทางด่วนทุก ๆ สายก็วนลูปเชื่อมต่อกันที่ด้านบนได้อยู่ดีค่ะ การเลือกใช้ก็อาจจะดูที่ค่าบริการ และการจราจรในวันเวลานั้น ๆ เท่านั้นเองค่ะ

ระยะทางแยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ที่ตั้งโครงการ : ซ.แจ้งวัฒนะ 10 แยก 3 (ซ.เบญจมิตร)
• ถ.แจ้งวัฒนะ : 150 เมตร
• ทางแยกต่างระดับหลักสี่ : 950 เมตร
• ถ.กำแพงเพชร 6 (ถ.โลคัลโรด) : 950 เมตร
• ถ.วิภาวดีรังสิต : 1 กม.
• ถ.เลียบคลองประปา : 2.5 กม.
• ถ.ประชาชื่น : 2.8 กม.
• วงเวียนหลักสี่ : 3.3 กม.
• ถ.รามอินทรา : 3.3 กม.
• ดอนเมืองโทลล์เวย์ : 4.4 กม.
• ทางพิเศษศรีรัช (สายบางปะอิน – ปากเกร็ด) : 5.2 กม.
• แยกปากเกร็ด : 8 กม.

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : จุดเด่นของโครงการอีกอย่างก็คือเป็นโครงการที่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี บนถนนแจ้งวัฒนะ สถานีที่ใกล้กับโครงการจะเป็น สถานีทีโอที ในระยะเดินเพียงแค่ 250 เมตร โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูก็จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสีอื่นได้อีก 3 สาย นั่นก็คือ สายสีแดงเข้ม ที่สถานีหลักสี่, สายสีเขียวเข้มตอนเหนือ ที่ สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และสายสีส้ม ที่ สถานีมีนบุรี

CR Pic : @MRTA.PR 

ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความคืบหน้าการก่อสร้างล่าสุดอยู่ที่ 66.54% (31 ต.ค.63) และ รถขบวนแรกก็ได้มาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย โดยโครงการจะเริ่มเปิดให้ใช้บริการปลายปี 2564 อีกไม่นานเกินรอแล้ว ซึ่งเมื่อโครงการนี้ และโครงการอื่น ๆ สร้างเสร็จ ก็จะทำให้ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าขยับสูงขึ้น และยังช่วยให้คนชานเมือง เดินทางเชื่อมต่อเข้าเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมถึงช่วยระบายการจราจรการใช้รถบนท้องถนนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ

• รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีทีโอที (PK 13) ห่างจากโครงการ 250 เมตร

สถานที่สำคัญโดยรอบโครงการในรัศมีไม่เกิน 10 กม. ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านของแหล่งงานและชุมชนขนาดใหญ่ ใกล้สนามบินดอนเมือง, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และ หน่วยงานขนาดใหญ่ ทั้งของราชการ, รัฐวิสาหกิจ และ เอกชน มากมาย ทำให้ภายในซอยมีความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านสะดวกซื้อ, ร้านค้า, ร้านอาหารต่าง ๆ เปิดขายค่อยข้างเยอะ สามารถเดินเท้า หรือ ขับรถออกไปจับจ่ายใช้สอยกันได้ง่าย ๆ

บริเวณริมถนนใหญ่แจ้งวัฒนะ จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากหน่อย ถัดออกไปรอบ ๆ ก็ไม่น้อยหน้าค่ะ มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, Community Mall, โรงเรียนนานาชาติ-โรงเรียนเอกชน, โรงพยาบาล และ แหล่งงานอื่น ๆ อีกเพียบ เดี๋ยวเราไล่ไปดูในแต่ละส่วนกันค่ะ

ห้างสรรพสินค้า, ห้างค้าปลีก และ แหล่งช้อปปิ้ง ส่วนใหญ่จะอยู่บนทำเลที่ติดกับถนนใหญ่เป็นหลัก มีให้เลือกไปหลายที่ ทั้ง Central แจ้งวัฒนะ, Central รามอินทรา, IT Square หลักสี่, Big C แจ้งวัฒนะ, The Avenue แจ้งวัฒนะ, Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ, Makro แจ้งวัฒนะ, MaxValu และ ไทวัสดุ

รายล้อมด้วยสถาบันการศึกษาชื่อดังหลายแห่ง ใกล้ที่สุดจะเป็น รร.นานาชาติ Harrow ที่สามารถใช้ซอยแจ้งวัฒนะ 10 ลัดออกไปยังโรงเรียนได้ โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่ ถัดออกไปก็จะมี รร.พระหฤทัยดอนเมือง, รร.เซนต์ฟรังซีสเซเวียร์, ม.เกษตรศาสตร์, มรภ.พระนครฯ และ ม.เกริก ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่ง ทั้ง รพ.มงกุฎวัฒนะ, รพ.เวิลด์เมดิคอลฯ, รพ.จุฬาภรณ์ และ รพ.วิภาวดี เป็นต้น

HUB ของหน่วยงานราชการ และ แหล่งงานต่าง ๆ มากมาย ตรงข้ามกับโครงการจะเป็นที่ตั้งของ สนง.ใหญ่ปณท, สนง.ใหญ่ CAT, สนง.ใหญ่ TOT ถัดออกไปไม่ไกลจะเป็นศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะฯ ภายในศูนย์ราชการก็จะมีแหล่งงานยิบย่อยแยกออกมาอีกมากมาย ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมี กระทรวงยุติธรรม, สนง.ใหญ่การประปานครหลวง, สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์, AFS Thailand, การบินไทย สนง.ใหญ่, CP All, IMPACT, สนามบินดอนเมือง, SW Park และ กรมชลประทาน เป็นต้น

ศูนย์การค้า ตลาด และร้านสะดวกซื้อ

• 7-Eleven แจ้งวัฒนะ 10 จุด 2 : 170 เมตร
• The Deal PTT แจ้งวัฒนะ : 350 เมตร
• IT Square หลักสี่ : 850 เมตร
• Max Value หลักสี่ : 1.9 กม.
• Central Plaza แจ้งวัฒนะ : 3.6 กม.
• ตลาดเมืองทอง 1 : 3.9 กม.
• The Avenue แจ้งวัฒนะ : 4 กม.
• Big C แจ้งวัฒนะ : 4.2 กม.
• Lotus หลักสี่ : 4.3 กม.
• ตลาดใหม่ดอนเมือง : 4.4 กม.
• Lotus แจ้งวัฒนะ : 4.6 กม.
• Makro แจ้งวัฒนะ : 4.7 กม.
• ตลาดยิ่งเจริญ : 5.5 กม.
• Central Plaza แจ้งวัฒนะ : 6.9 กม.

สถานศึกษา

• รร.นานาชาติ Harrow : 3 กม.
• มรภ.พระนคร (PNRU) : 3.5 กม.
• ม.เกริก (KRIRK) : 3.6 กม.
• ม.ศรีปทุม (SPU) : 5.6 กม.
• รร.เซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ (STFX) : 6.2 กม.
• สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) : 6.4 กม.
• ม.สุโขทัยธรรมาธิราช (STOU) : 6.8 กม.
• รร.อนุบาลนานาชาติ Hampton แจ้งวัฒนะ : 7.4 กม.
• รร.นานาชาติ ISB : 7.7 กม.

โรงพยาบาล

• รพ.จุฬาภรณ์ : 1.4 กม.
• รพ.มงกุฎวัฒนะ : 4 กม.
• รพ.CGH : 4.9 กม.
• รพ.เวิลด์เมดิคอล : 7.4 กม.

สำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ

• บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) : 60 เมตร
• บมจ.ทีโอที สำนักงานใหญ่หลักสี่ (CAT) : 160 เมตร
• ไปรษณีย์ไทย สำนักงานใหญ่หลักสี่ : 450 เมตร
• สำนักงานเขตหลักสี่ : 650 เมตร
• สำนักงาน กสทช. ภาค 1 : 1.2 กม.
• สำนักงานที่ดิน สาขาดอนเมือง : 1.6 กม.
• ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ : 2.3 กม.
• กระทรวงยุติธรรม : 3.5 กม.
• ท่าอากาศยานดอนเมือง : 4.5 กม.
• IMPACT เมืองทองธานี : 6.7 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**

---

ภาพประกอบการเดินทาง

Google Map : 13.889759, 100.575150

การเดินทางเริ่มจากดอนเมืองโทลล์เวย์ ⇒ ถ.แจ้งวัฒนะ ⇒ กลับรถหน้าไปรษณีย์หลักสี่ ⇒ ซ.แจ้งวัฒนะ 10 แยก 3 (ซ.เบญจมิตร) ⇒ ขับตรงไปอีก 150 เมตรถึงโครงการ MOTIQUE แจ้งวัฒนะ 10 *ติดกองสรรพาวุธเบาที่ 1

ภาพประกอบการเดินทาง เรามาจากลาดพร้าวโดยใช้ทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ฝั่งขาออกมุ่งหน้าไปลงทางออกศูนย์ราชการ, ปากเกร็ด, แจ้งวัฒนะ ทางออกนี้จะเชื่อมต่อเข้าสู่ ถ.แจ้งวัฒนะเลยค่ะ

พอเราลงทางออกมาแล้วก็จะเข้าสู่ ถ.แจ้งวัฒนะ โดยเราจะเห็นว่าถนนเส้นนี้กำลังก่อสร้างแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่ค่ะ ซึ่งสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีทีโอที จะตั้งอยู่หน้าบมจ.ทีโอที ส่วนทางขึ้น – ลงจะห่างจากโครงการประมาณ 250 เมตรค่ะ จากนั้นให้เราเตรียมชิดขวาเพื่อกลับรถค่ะ

ชิดขวาเพื่อกลับรถค่ะ จุดกลับรถจะอยู่หน้าไปรษณีย์หลักสี่ค่ะ

กลับรถมาแล้วเราจะผ่านปั๊มน้ำมันปตท. The Deal PTT แจ้งวัฒนะและขับตรงไปอีก 150 เมตรเราจะเลี้ยวเข้า ซ.แจ้งวัฒนะ 10 แยก 3

สังเกตจะมีสะพานลอยและ เต้นท์รถยนต์มือสองแจ้งวัฒนะคาร์พลาซ่า จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ซ.แจ้งวัฒนะ 10 แยก 3 หรือ ซ.เบญจมิตรค่ะ

• ระยะทางจากปากซอยไปโครงการประมาณ 150 เมตร

เลี้ยวเข้าซอยไปค่ะ

ถึงโครงการ MOTIQUE แจ้งวัฒนะ 10

หน้าโครงการMOTIQUE แจ้งวัฒนะ 10

---

 

ตัวโครงการ

Main Gate โครงการขนาดใหญ่ ถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury ด้วยผนังลายหินอ่อน แต่งด้วยวัสดุเลียนแบบไม้ และ ผนังโทนสีเทา มีหลังคากันแดดกันฝน แบ่งถนนทางเข้า-ออกสำหรับรถยนต์ไว้อย่างชัดเจน ตรงกลางมีป้อมรปภ. พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย และ ได้ประตูรั้วอัตโนมัติที่เลื่อนปิดไว้ตลอด 24 ชม. เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้านมากยิ่งขึ้น

ถนนด้านหน้าโครงการทำพื้น Stamped Concrete สีเทาดำ ที่ทอดยาวเข้าไปยังถนนเมนหลักของโครงการ / รถยนต์ของลูกบ้านจะเข้า-ออกผ่านระบบ Easy Pass ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรประชาชน พร้อมแจ้งธุระ หรือเลขที่บ้านที่มาติดต่อก่อนเข้าโครงการทุกครั้ง

ประตูทางเข้า-ออกจะติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV จับภาพด้านหน้าคนขับและป้ายทะเบียนรถยนต์มาให้ฝั่งละ 2 ตัว

ด้านข้างช่องทางเดินรถยนต์ โครงการทำประตู + ทางเดินเท้าแยกส่วนให้เพื่อความปลอดภัยต่อการใช้งาน

เข้ามาด้านในจะเจอกับถนนเมน Stamped Concrete ความกว้างถึง 12 เมตร ทำให้รถยนต์เข้า-ออกสวนทางกันได้อย่างสะดวก โดยทางโครงการจะนำระบบสาธารณูปโภค และ ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ลงใต้ดินทั้งหมด ทำให้ทัศนียภาพในโครงการดูสวย สบายตา

ขวามือเป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย เปิดให้ลูกค้าเข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.

มองมาทางซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งของบ้านตัวอย่างค่ะ

จากด้านในโครงการ มองกลับมาที่ Main Gate ด้านหน้าโครงการค่ะ

---

แบบบ้าน

โครงการ MOTIQUE แจ้งวัฒนะ 10 มีแบบบ้านให้เลือก 1 แบบ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 58.3 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 435 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้าน 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์ พร้อมครัวยุโรป, ครัวไทย, ห้องแม่บ้าน + ห้องน้ำ, ลิฟต์บ้าน และ ที่จอดรถในร่ม 3 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2 | แปลนบ้านชั้น 3

โดยทางโครงการจะขายให้เป็นบ้าน Standard แบบ Fully Fitted สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมีดังนี้

• ประตูรั้วบ้านรีโมตอัตโนมัติ
• ระบบ Home Automation By Life Smart (Digital Door Lock, IP Camera 4 ตัว)
• ระบบ Google Home ที่ Living Room และ ห้องนอนทุกห้อง
• ระบบสัญญาณกันโขมย Magnetic Switch ที่ประตู-หน้าต่างบ้านชั้น 1
• ระบบ Airflow System ที่ใช้เป็นระบบไฟฟ้า และ ระบบระบายความร้อนใต้หลังคา ใช้พลังงาน Solar Cell ที่ Living Room และ Master Bedroom
• สุขภัณฑ์ของ Villaroy & Boch จากประเทศเยอรมนี
• ลิฟต์ของ Aritco (ระบบสกรู) จากประเทศสวีเดน
• ครัวยุโรป พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Smeg
• ครัวไทย พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Franke + ตู้เก็บของจาก King
• ปั๊มน้ำ + ถังสำรองน้ำบนดิน
• จัดสวนรอบบ้าน + ลงต้นไม้ใหญ่บริเวณ Courtyard
• เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi (มาตรฐานโครงการให้ 4 เครื่อง)

---

บ้านตัวอย่าง

หน้าบ้านตัวอย่าง เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น รูปแบบภายนอกอาคาร มีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ Modern Luxury สีภายนอกใช้เป็นสี Earth Tone ที่ดูสบายตา เพิ่มความหรูหรา มีระดับ ด้วยผนังหินแท้ที่ชั้น 1, Wooden Window Facade และ ราวกันตก Tempered Glass ที่ชั้น 2 และ 3 ทำให้ภาพลักษณ์ภายนอกของบ้านดูทันสมัย และ อบอุ่น

ทางโครงการใส่ใจในทุกรายละเอียด เลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพตั้งแต่โครงสร้างบ้าน และ วัสดุต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างบ้านที่ใช้เหล็กน้ำหนักเต็ม ผนังบ้านก่ออิฐมอญแดง แข็งแรง กันความร้อนและเสียงจากภายนอกได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญผนังอิฐมอญแดง เป็น Flexible Wall สามารถต่อเติม ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ในอนาคต ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย

บ้าน Standard จะมีการติดตั้งประตูรั้วรีโมตอัตโนมัติมาให้มาตรฐานทุกหลัง กำแพงติดตั้งตู้ควบคุมไฟฟ้าภายในบ้าน โดยโครงการนี้เดินงานระบบลงใต้ดินทั้งหมด ทำให้ได้ทัศนียภาพที่สวยงาม มาพร้อมกับถังขยะแบบฝังกำแพง หน้าบานด้านนอกเป็นประตูอะลูมิเนียมบานเปิด พร้อมตัวล็อก ส่วนด้านในตัวบ้านจะมีถังขยะพร้อมฝาปิดติดมาให้เรียบร้อย

ถัดเข้ามาที่โรงจอดรถ ทางโครงการจะลงเสาเข็มหกเหลี่ยมลึก 1 เมตร พร้อมแยกโครงสร้างออกจากตัวบ้าน เพื่อป้องกันการทรุดตัวของพื้น และ ผนังบ้าน ตัวพื้นเป็น Stamped Concrete สีเทาดำ โรยกรวดด้านข้างเพื่อความสวยงาม รองรับการจอดรถยนต์ในร่มได้มากถึง 3 คัน พร้อมตำแหน่งปลั๊กเสียบ EV Charger ฝ้าเพดานแต่งระแนงไม้เทียมสีธรรมชาติมาให้ พร้อมติดไฟ LED ให้ทั้งหมด 9 ดวง และ ติด IP Camera จับภาพรวมฝั่งหน้าบ้านมาให้ 1 ตัว

ผนังตกแต่งฝั่งหน้าบ้านจะใช้เป็นหินแท้แผ่นใหญ่ ทำให้มี Texture ของความเป็นธรรมชาติ ดูกลมกลืนไปกับฝ้าเพดานสีไม้ธรรมชาติ และ พื้น Stamped Concrete ของโรงจอดรถเป็นอย่างดีเลยค่ะ

จากโรงจอดรถหน้าบ้าน จะเดินเชื่อมต่อได้รอบบ้านนะคะ โดยข้างบ้านฝั่งขวานี้จะปูพื้นกระเบื้องมาให้ ใช้เดินเชื่อมต่อไปยังห้องแม่บ้าน และ ห้องครัวไทยได้เลย  สุดทางเดินจะเป็นตำแหน่งของถังสำรองน้ำและปั๊มน้ำแบบ 2 in 1 ของ DOS ที่ทางโครงการให้มามาตรฐานทุกหลังค่ะ

จากข้างบ้านเดินต่อมาที่ด้านหลังบ้าน จุดนี้จะเป็นระเบียงพักผ่อนที่เชื่อมต่อกับ Living Room ได้ บ้านตัวอย่างจะตกแต่ง Vertical Garden มาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนในบ้าน Standard จะได้กำแพงบ้าน + รั้วโปร่งความสูงที่ 6 เมตร ค่ะ

จากระเบียงหลังบ้าน เดินต่อมาที่ข้างบ้าน จะเจอกับ Relax Pool ส่วนในบ้าน Standard จะเป็น Courtyard กลางบ้าน ซึ่งจะสามารถเดินลัดออกไปยังโรงจอดรถหน้าบ้านได้เลยค่ะ

ดูรายละเอียดรอบ ๆ ตัวบ้านกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูรายละเอียดและฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้านกันต่อเลยค่ะ

เริ่มจากเฉลียงหน้าบ้านยกพื้นขึ้นมา 1 Step ปูพื้นด้วยกระเบื้อง Homogeneous ผิว Matt สีดำ 60 x 60 ซม. มีพื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้าง สามารถวางชั้นวางรองเท้า, เก้าอี้นั่งใส่รองเท้า, ตะกร้าใส่ร่ม หรือ จะตกแต่งบ้านต้นไม้กระถาง, บ่อน้ำพุเสริมฮวงจุ้ยก็ทำได้เลย

ถัดจากเฉลียงเข้าไป จะเป็นประตูทางเข้าบ้าน ซ้ายมือติดโคมไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง ขวามือมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้ 1 บาน ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้าสู่ภายในบ้านได้อย่างเต็มที่ และทำให้ภายในบ้านนั้นดูโปร่งและกว้างขึ้น

ประตูทางเข้าหลักของบ้าน จะได้เป็นประตูบานไม้สักทองขนาดใหญ่พิเศษ ความกว้าง 1.2 เมตร และ สูง 2.8 เมตร

กลอนประตูทางเข้าหลักจะติดตั้งระบบ Smart Door Lock ของ Life Smart มาให้ ตัวนี้จะใช้งานได้ทั้งหมด 4 ระบบ ได้แก่ Finger Scan, Password, Key Card และ Master Key แบบ Manual พร้อมมือจับประตูแบบก้านโยก ที่เปิด-ปิดใช้งานได้ง่าย

เปิดประตูเข้ามาด้านในตัวบ้าน จะเจอกับ Foyer เป็นอันดับแรก ผังภายในบ้านเป็นแบบ C-Shape มี Courtyard ตั้งอยู่ตรงกลางบ้าน Floor to Ceiling ชั้น 1 จะอยู่ที่ 2.9 เมตร พื้นบ้านชั้นล่างปูกระเบื้อง Porcelain ลายหินสีเบจ 60 x 60 ซม. ผนังบ้าน Standard ฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง พร้อมระบบ Magnetic ที่ประตูและหน้าต่างในบ้านชั้นล่าง

สำหรับบ้านตัวอย่างจะจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้เห็นความลงตัวในแง่ของการใช้งาน และ ความสวยงามเพื่อดูเป็นไอเดีย เดี๋ยวเราไปดูรายละเอียดในแต่ละส่วนกันค่ะ

จากประตูทางเข้าหลักมองมาทางซ้ายมือ ทางโครงการต่อเติมเป็นห้องเก็บรองเท้ามาให้ดูเป็นไอเดีย ภายในห้องมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถบิวท์อินชั้นวางรองเท้าได้มากถึง 10 ชั้น และ จะรองรับการเก็บรองเท้าได้มากกว่า 100 คู่ แต่ถ้าบ้านไหนไม่ได้มีสมาชิกเยอะ และไม่มีมีรองเท้าเยอะขนาดนั้น เราก็สามารถปรับพื้นที่ตรงนี้ให้เป็น Foyer แบบเปิดโล่ง หรืออาจจะวางตู้เก็บรองเท้าที่มาขนาดเล็กลง แล้วเสริมด้วยเก้าอี้นั่งใส่รองเท้า หรือจะวางตู้เก็บของใช้ในบ้านก็ทำได้ค่ะ

จากประตูทางเข้าหลัก มองมาทางขวามือ จะเป็น Foyer ที่ทอดยาวไปถึงตัว Corridor ผนังฝั่งหน้าบ้านจะติดกระจกบานฟิกซ์สูงจรดเพดานมาให้ โดยจุดนี้เราสามารถวางม้านั่งใส่รองเท้า หรือ จัดสวนไม้กระถางเพิ่มความร่มรื่นให้กับบ้านก็ทำได้ค่ะ

ตรงเข้ามาจะเจอกับห้องน้ำแบบ Powder Room ในส่วนของบานประตูห้องน้ำและบานประตูห้องทั่วไป จะเป็นประตูลายไม้สีเข้ม มือจับสแตนเลสก้านโยก กลอน Double Lock ทั้งหมดค่ะ

ห้องน้ำแบบ Powder Room คือจะมีเฉพาะฟังก์ชันส่วนแห้ง ไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้นะคะ การตกแต่งพื้นและผนังภายในจะให้เป็นกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนสลับสีเบจ ที่ดูหรูหรา เป็นหน้าตาของบ้านได้ดีเลย สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้เป็นของ Villeroy & Boch โถสุขภัณฑ์จะได้เป็นระบบ Washlet

ถัดจาก Foyer และ ห้องน้ำ Powder Room หน้าบ้านเข้าไปจะเป็น Corridor ที่ใช้เชื่อมต่อเข้าไปด้านในตัวบ้าน, Courtyard และ Living Area ที่ด้านหลังสุด

มองมาทางขวามือ จะเจอกับห้องเก็บของ, โถงบันได และ ลิฟต์บ้าน ที่ติดมาให้มาตรฐานทุกหลัง

ห้องเก็บของเป็นแบบแนวลึก เพดานสูงเกือบ 3 เมตร มีพื้นที่ให้เก็บของได้เยอะ เหมาะสำหรับเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือ เอาไว้เก็บถุงกอล์ฟ, อุปกรณ์เครื่องมือช่างประจำบ้าน หรือ ใช้เป็นห้องเก็บจักรยานก็ทำได้เลยค่ะ

ด้านในห้องเก็บของฝั่งด้านหลังประตู จะเป็นตำแหน่งของงานระบบภายในบ้าน ทั้งระบบไฟฟ้า, ระบบ Internet และ ระบบ Home Automation

ลิฟต์โดยสารในบ้านจะให้เป็นของ Aritco (ระบบสกรู) จากประเทศสวีเดน ที่มีความปลอดภัยสูง เป็นลิฟต์แบบ Universal Design รองรับการเคลื่อนย้าย Wheel Chair  มีปุ่มกดที่สามารถใช้งานได้สะดวก พร้อมราวจับสำหรับผู้สูงอายุ ส่วนใครที่กังวลว่ามีลิฟต์ในบ้านแล้วจะเปลืองไฟมั้ย ตัวนี้เป็นลิฟต์แบบประหยัดพลังงาน กดลิฟต์ 1 ครั้ง เสียค่าไฟแค่ 30 สต. เท่านั้นค่ะ

ด้านในลิฟต์ มีปุ่มกดชั้น 1-2-3, ปุ่มล็อกการกดเล่นของเด็ก ๆ และ ปุ่ด SOS ติดมาให้ครบเลย

สำหรับโถงลิฟต์จะติดพัดลมระบายอากาศเพิ่มมาให้ด้วย ในเรื่องของความปลอดภัยสำหรับบ้านที่มีเด็ก ๆ ถ้าตัวฐานลิฟต์ไม่อยู่ตรงชั้น ตัวประตูจะล็อกอัตโนมัติ ไม่สามารถเปิดได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และ ความซนของเด็ก ๆ ได้ในระดับนึงเลยค่ะ

อีกฝั่งจะเป็น Courtyard แบบ Outdoor ในบ้าน Standard จะมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดเชื่อมต่อได้ทั้ง 3 ด้าน เลือกใช้งานได้ตามความสะดวกเลยค่ะ

ตัวบ้านถูกออกแบบให้เป็นแบบ C-Shape มี Coutyard ตั้งอยู่ตรงกลาง ได้อารมณ์แบบบ้านล้อมสวน ในบ้านตัวอย่างทางโครงการเค้าทำ Relax Pool แต่งด้วย Waterfall wall มาให้ดูเป็นไอเดียแบบนี้ ส่วนในบ้าน Standard จะเป็นพื้นดินแบบสนามหญ้า และปลูกต้นไม้ใหญ่ (ต้นมั่งมี) มาให้ 1 ต้น โดยความสูงของเรือนยอด จะอยู่ที่ชั้น 2 ทำให้ได้ความร่มรื่นทั่ว ๆ กัน

และถ้าหากลูกค้าไม่ต้องการให้มี Courtyard กลางบ้าน แต่อยากจะได้พื้นที่ใช้งานแบบเต็มชั้น ต่อเนื่องจากหน้าไปจนถึงหลังบ้าน ทางโครงการก็มี Option เสริม โดยการทำพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านแบบเต็มชั้นเหมือนบ้าน Standard ทั่วไปให้ ลูกค้าสามารถแจ้งความต้องการกับฝ่ายขายโครงการได้เลยค่ะ

จาก Courtyard ชั้นล่าง มองขึ้นไปที่ด้านบน จะเห็นระเบียงพักผ่อน ผนังตรงกลางแต่งด้วยระแนงไม้ Timber Tube แนวตั้ง ให้ภาพลักษณ์ของบ้านดูสวยงาม ช่วยบังสายตาจากคนภายนอก และ ยังช่วยกรองแสงแดดในตอนกลางวัน ไม่ทำให้  Corridor ชั้น 2 และ 3 นั้น ได้รับแสงแดดเยอะจนเกินไปค่ะ

ตรงเข้าไปที่ด้านในสุดจะเป็น Living Area

ตรงเข้ามาจะเจอกับ Living Area ขนาดใหญ่ โดยจะแบ่งฟังก์ชันการใช้งานไว้ 2 ส่วน ฝั่งซ้ายมือเป็น Living Room และ ฝั่งขวามือจะเป็น Dinning Room และ ครัวยุโรป

Living Room ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้าง สามารถจัดวางชุดโซฟา และ เก้าอี้รับรองได้หลายที่นั่ง รองรับกิจกรรมของคนในครอบครัว และ รองรับการสังสรรค์พบปะพูดคุยกับแขกที่มาที่บ้านได้อย่างลงตัว

ในส่วนของประตู-หน้าต่างที่เป็นแบบบานเลื่อน จะได้เป็นกระจกใส บานกรอบอะลูมิเนียม Powder Coating สีดำ ที่ดูสวยงามกว่าการพ่นสี และมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นสนิม และ ส่วนของประตูห้องพักทั่วไปจะได้เป็นบานไม้จริงเซาะร่องค่ะ

จุดเด่นของ Living Room คือจะได้เพดานสูงแบบ Double Volume จากพื้น-ฝ้าเพดานอยู่ที่ 6 เมตร และ ได้หน้าต่างช่องแสงขนาดใหญ่มาครบทั้งฝั่งหน้าบ้าน และ ฝั่งหลังบ้าน ทำให้ได้ความรู้สึกที่โปร่ง โล่ง สบาย ในเวลาที่เรานั่งพักผ่อนใช้งาน นอกจากนั้นยังช่วยให้เกิดการหมุนเวียนอากาศภายในบ้านได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ

จาก Living Room จะสามารถ Takeview Relax Pool หรือ ต้นไม้ใหญ่ตรงกลาง Courtyard ได้แบบนี้เลยค่ะ

บริเวณ Living Room จะติดตั้งระบบ Home Automation ที่ใช้งานผ่าน Google Pad มาให้ สามารถสั่งงานผ่านเสียง ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดไฟ, เครื่องใช้ฟ้า และ ใช้เปิดเพลงได้ด้วยค่ะ

ถัดจาก Living Room ไปที่ด้านหลัง เป็นส่วนของ Dining Room และ ครัวยุโรป

Dining Room สามารถวางชุดโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ รองรับได้ 6-8 ที่นั่ง รอบ ๆ มีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และ ตั้งอยู่ติดกับครัวยุโรป และครัวไทย ทำให้การเคลื่อนย้ายอาหารเป็นไปได้อย่างสะดวก

ถัดมาเป็นครัวยุโรป ทางโครงการจะบิวท์อิน Pantry, Island และ ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าของ Smeg มาในบ้าน Standard ทุกหลังเลยค่ะ สิ่งที่ไม่ได้จากในบ้านตัวอย่างจะมีเพียงของตกแต่ง, ชั้นวางของเหนือ Island และ ตู้เย็นเท่านั้น เดี๋ยวเราจะพาไล่ดูรายละเอียดไปทีละส่วนนะคะ

Island ท็อปหินเทียม Porcelain ลายหินอ่อน รองรับการเตรียมอาหาร หรือ ใช้เป็นพื้นที่ทำขนมได้ มาพร้อมกับซิงค์ล้างจานสแตนเลสสี่เหลี่ยมหลุมเดี่ยวก้นลึกของ Mex หัวก๊อกทรงสูงเลื่อนบิดได้อิสระ ทำให้การล้างผัก ล้างผลไม้ และถ้วยชามเป็นไปได้ง่าย

ด้านหลังจะได้ Pantry ครัวขนาดใหญ่ หน้าท็อป และ Backsplash เป็นหินเทียม Porcelain ลายหินอ่อนที่ใช้กับพื้นและผนังบางส่วน โดยคุณสมบัติของหินเทียม Porcelain คือรับน้ำหนักและแรงกระทบได้ดี ทนกรดด่าง ทนร้อนทนไฟ ทนรอยขีดข่วน รวมทั้งมีการดูดซึมน้ำต่ำและสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญดูหรูหรา เพราะไม่มีรอยต่อ ให้พร้อม Hob-Hood ของ Smeg ส่วนตู้เก็บของบน-ล่างได้มาแบบ Full Function โดยหน้าบานตู้จะเป็น Hi-Gloss สีเทาอ่อน บานพับ Soft Close ทั้งหมดค่ะ

ได้เตาไฟฟ้าเซรามิก 4 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส พร้อมเครื่องดูดควันของ Smeg

อีกฝั่งจะติดตั้งเตาไมโครเวฟ และ เตาอบไฟฟ้าของ Smeg มาให้ตามนี้เลย

จากครัวยุโรป มองกลับมาที่ Living Room แล้วสังเกตตรงฝ้าเพดานด้านบน ทางโครงการจะติดตั้ง IP Camera จับภาพรวมชั้นล่างบ้านมาให้ 1 ตัว และ ติดตั้งระบบ Airflow System หรือ เรียกง่าย ๆ ว่าระบบหมุนเวียนถ่ายเทอากาศภายในบ้าน ผ่านตัวกรองที่เป็น Filter แบบในภาพ โดยจะใช้พลังงานจาก Solar Cell ที่ติดไว้ที่ด้านบนหลังคา ทำให้ประหยัดไฟฟ้า และยังได้อากาศบริสุทธิ์ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วยค่ะ

หน้าตาของตัว Filter ที่ติดมาให้ ในบ้านหลังนี้จะมีให้ทั้งหมด 2 จุด คือ ที่ Living Area และ ภายใน Master Bedroom

หน้าตาของ IP Camera By Life Smart ที่ติดมาให้รวมทั้งหมด 4 ตัว คือ ที่ Living Area 1 ตัว และ รอบตัวบ้านอีก 3 ตัว โดยตัว IP Camera นี้ จะสามารถปรับหมุนทิศทางกล้องแนวนอนได้ 270 องศา และ หมุนแนวตั้งได้อีก 120 องศา ความละเอียดของภาพ 1080P มีฟังก์ชันโหมด Infra-Red ดูภาพในที่มืดได้ โดยจะปรับ IR-Cut อัตโนมัติสำหรับกลางวันและกลางคืน และ สามารถเปิดดูภาพแบบ Real Time ผ่าน Application ได้ รวมถึงยังสามารถเปิดพูดคุยผ่านกล้องได้ด้วยค่ะ

บรรยากาศภาพรวมบริเวณ Living Area ชั้น 1

ติดกับ Living Area จะมีประตูกระจกบานเลื่อน ใช้เปิดออกไปยังระเบียงพักผ่อนฝั่งหลังบ้านได้

จากครัวยุโรปในบ้าน จะเชื่อมต่อไปยังห้องครัวไทย และ ห้องแม่บ้านด้านข้างบ้านได้สะดวก

ห้องครัวไทยขนาดพอเหมาะ ไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งในบ้าน Standard ก็จะให้เคาน์เตอร์ครัว พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้ามาครบชุดตามนี้เลย โดยเคาน์เตอร์ครัวจะมีความกว้าง ประมาณ 2 เมตร ลึก 65 ซม. ตู้เก็บของบน-ล่าง UPVC สีขาว แบบบานเปิดของ King พร้อมซิงค์ล้างจาน และ เครื่องใช้ไฟฟ้าของ Franke

ผนังครัวทำ Backsplash ลายหินกันเปื้อนมาให้

เตาแก๊ส 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Franke

ซิงค์ล้างจานสแตนเลสสี่เหลี่ยมหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก

ตู้เก็บของแขวนผนังได้เป็นบานกรอบ UPVC ลูกฟักกระจกใสแบบบานเปิด ส่วนตู้เก็บตั้งพื้นที่ด้านล่าง ได้เป็นบาน UPVC มีบานเกร็ดระบายอากาศ ทั้งหมดใช้เป็นของแบรนด์ King

จากห้องครัวไทย จะมีประตูทางออกเชื่อมต่อไปยังห้องแม่บ้าน ที่อยู่ข้างตัวบ้านได้

เข้ามาด้านในจะเจอกับ Luandry Area สำหรับซัก-อบผ้ากันก่อน โดยจุดนี้จะมีการเดินงานระบบประปา-ระบบไฟฟ้ามาให้เรียบร้อย พร้อมเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าใช้งานได้เลย ซ้ายมือเป็นห้องนอนแม่บ้าน ส่วนขวามือจะเป็นห้องน้ำของแม่บ้าน

ห้องแม่บ้าน จะมีประตูไม้ปิดเป็นสัดส่วน ด้านข้างติดบานเกร็ดระบายอากาศมาให้เกือบฝ้าเพดาน ช่วยระบายถ่ายเทอากาศได้ดี

ภายในห้องแม่บ้านจะสามารถวางเตียง 2 ชั้น หรือ เตียงเดี่ยว 3.5 ฟุตได้

ปลายเตียงก็ยังมีพื้นที่เหลือ ให้สามารถวางราวแขวนผ้า หรือ ตู้เสื้อผ้า ความกว้าง 1 เมตร ได้พอดีค่ะ

ตรงข้ามกันเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ บ้าน Standard มีประตูไม้ปิดมิดชิดเป็นสัดส่วน

ห้องน้ำขนาดพอเหมาะ ได้ชุดสุขภัณฑ์มาตรฐาน อย่างฝักบัว, โถสุขภัณฑ์, สายฉีดชำระ พร้อมหน้าต่างระบายอากาศมาครบ

กลับเข้ามาที่  Corridor ภายในบ้าน เดี๋ยวเราพาขึ้นไปชมรายละเอียดบนชั้น 2 และ ชั้น 3 กันต่อค่ะ

บันไดบ้านเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก แข็งแรง ทนทาน ลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้เนื้อแข็งปิดผิวด้วยไม้สนเข้าลิ้น ความกว้างของบันไดมากถึง 1.2 เมตร เดินขึ้น-ลง ขนย้ายของได้อย่างสะดวก ราวบันไดเป็นโครงสแตนเลส ลูกฟัก Tempered Glass มือจับชนิดเดียวกันกับลูกตั้งและลูกนอน

โถงบันไดก่อนชั้น 2 มีช่องแสงมาให้ 2 จุด เป็นกระจกบานฟิกซ์ขนาดใหญ่ ช่วยให้การขึ้น-ลงเป็นไปได้อย่างสะดวก พร้อมติดโคมไฟกิ่งที่ผนังมาให้อีก 2 ดวง ใช้เปิดให้แสงสว่างในเวลากลางคืนได้ค่ะ

โครงสร้างบันไดและราวบันไดจะได้มาเหมือนกันจนสุดที่ชั้น 3 และตัวราวบันไดที่เป็นกระจกใส Tempered Glass จะช่วยทำให้บ้านไม่ดูอับทึบ และได้ความโปร่งสบายทั้งหลัง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับ Corridor เพื่อใช้แจกไปยังห้องนอนอีก 2 ฝั่ง โดยพื้นบ้านชั้น 2 และ ชั้น 3 จะปูด้วย Engineering Wood ผนังตรงโถงบ้านจะติดช่องแสงบานฟิกซ์ผสมหน้าบ้านเลื่อนมาให้ เปิดรับแสงธรรมชาติได้เยอะ หรือใช้เปิดรับลมระบายอากาศก็ได้ มองออกไปจะเห็น Relax Pool หรือ ต้นไม้ใหญ่ตรง Courtyard กลางบ้านด้วยนะ

Floor to Ceiling ชั้น 2 และ ชั้น 3 จะอยู่ที่ 2.6 เมตร ส่วน  Corridor บนชั้น 2 และ ชั้น 3 ก็จะมีความกว้างอยู่ที่ 1.8-2 เมตร ทำให้เดินเข้า-ออกไปยังส่วนอื่น ๆ ได้สะดวก จากลิฟต์โดยสาร ก็สามารถเคลื่อนย้าย Wheelchair ได้ง่ายอีกด้วยค่ะ

เริ่มจาก Master Bedroom ฝั่งหน้าบ้านกันก่อนเลยค่ะ

Master Bedroom ออกแบบให้มีพื้นที่ใช้งานกว้างขวาง โดยจะแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนพักผ่อน สำหรับวางเตียงนอน, ระเบียงพักผ่อน, Working Area, Walk-in Closet รวมถึงห้องน้ำขนาดใหญ่แบบส่วนตัวภายในห้องนอน นอกจากนั้นยังติดหน้าต่างช่องแสงทรงสูงมาให้รอบห้อง ทำให้ภายในห้องดูโปร่ง โล่ง สบาย เปิดรับแสงรับลมธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน

พื้นที่ในห้องนอนสามารถวางเตียงนอน King Size หรือเตียงนอนขนาดใหญ่พิเศษได้สบาย ๆ รอบเตียงมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะหัวเตียง หรือ จะเสริมด้วย Armchair แบบเดี่ยว ไว้นั่งอ่านหนังสือก็ทำได้ ผนังรอบด้านมีช่องแสงมาให้เพียบ เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ในช่วงเวลากลางวันแทบจะไม่ต้องเปิดไฟเลยค่ะ

ปลายเตียงนอนสามารถวางชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้ผนังด้านหลังเดินงานระบบต่าง ๆ มาให้พร้อมต่อใช้งาน

ในห้องนอนทุกห้องจะติดตั้งระบบ Home Automation สั่งการด้วยเสียงผ่าน Google Home มาให้แบบนี้

ข้างเตียงนอนจะเป็น Working Area และ ระเบียงพักผ่อน

Working Area ขนาดใหญ่ สามารถวางโต๊ะทำงานขนาด 2 ที่นั่งได้ อีกฝั่งมีพื้นที่เหลือให้บิวท์อินเป็นตู้โชว์, ชั้นวางของ หรือ ชั้นวางเอกสารต่าง ๆ ได้เลยค่ะ

ถัดจาก Working Area ออกไป จะเป็นระเบียงชมวิวแบบส่วนตัวภายในห้อง

เปิดออกมาจะเจอกับระเบียงชมวิว ปูพื้นกระเบื้องกันลื่นมาให้ ติดตั้งราวสแตนเลสลูกฟักกระจก Tempered Glass เพื่อให้เปิดรับมุมมองได้กว้าง

มองตรงออกมา จะเห็น Facade ระแนงไม้ตรงโถงบ้านชั้น 2 และ Double Volume ของ Living Room ชั้น 1 โดยบ้าน Standard จะสามารถเลือก Option เสริม ทำพื้นที่ตรงระเบียงให้ยื่นออกไปเต็มชั้นได้เลยค่ะ

จากระเบียงชมวิวใน Master Bedroom มองขึ้นไปชั้น 2 จะเจอกับระเบียงพักผ่อนอีกจุดของบ้านแบบนี้

มองลงมาจะได้มุมมองแบบ Bird Eye View เห็น Relax Pool หรือ เรือนยอดของต้นไม้ใหญ่บริเวณ Courtyard นั่นเองค่ะ

มองกลับเข้ามาภายในห้อง ฝั่งหน้าบ้านก็จะมีระเบียงชมวิวมาให้อีก 1 จุด

โดยฝั่งหน้าบ้านจะแบ่งช่องแสงออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของประตูระเบียงแบบบานเลื่อน และ หน้าต่างกระจกบานฟิกซ์

ระเบียงพักผ่อนแบบหน้ากว้าง ปูพื้นกระเบื้องกันลื่น พร้อมติดตั้งราวสแตนเลสลูกฟักกระจก Tempered Glass ความสูงประมาณ 1 เมตร ให้ตามนี้เลย

จากระเบียงมองกลับเข้ามาภายใน Master Bedroom

ด้านหลังชั้นวางทีวีจะเป็น Walk-in Closet และ ห้องน้ำแบบ Full Bath

ทางเดินเชื่อมต่อไปยัง Walk-in Closet และ ห้องน้ำ

ตรงเข้ามาด้านในบริเวณ Walk-in Closet พื้นที่กว้าง ๆ สามารถโต๊ะเครื่องแป้ง, Island เก็บ Accessories และ บิวท์อินตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ 2 ฝั่ง แบบ His & Her ได้เลย ซึ่งเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เข้าไปแล้ว ยังมีพื้นที่เหลือตรงกลางให้ใช้งานได้สบาย ๆ เลื่อนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง เปิดหยิบเก็บเสื้อผ้า และยืนแต่งตัวได้อย่างสะดวกค่ะ

ติดกับ Walk-in Closet จะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ บ้าน Standard จะได้เป็นประตูกรอบอะลูมิเนียม ลูกฟักกระจกฝ้าขนาดใหญ่ เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวก

ห้องน้ำจัดแปลนแบบห้องหน้ากว้าง พื้นและผนังปูกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน และ ลายตารางสี่เหลี่ยม 60 x 60 ซม. ได้เป็นห้องน้ำแบบ Full Bath คือมีอ่างอาบน้ำ, ห้องอาบน้ำ, โถสุขภัณฑ์, เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบ His & Her พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โดยชุดสุขภัณฑ์มาตรฐานใช้เป็นของ Villaroy & Boch จากประเทศเยอรมนี และ ห้องนี้จะมีการเดินงานระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นมาให้ครบทุกจุดเลยค่ะ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบ His&Her เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมวางบนเคาน์เตอร์ ติดก๊อกน้ำฝังกำแพง และ ตู้เก็บของหน้าบานกระจกเงามาให้ โดยตรงนี้คู่สามีภรรยาสามารถแปรงฟัน ล้างหน้าพร้อม ๆ กันได้ ด้านล่างมีตู้เก็บของใต้อ่างแบบบานเปิดติดมาให้ไว้สำหรับเก็บของใช้ในห้องน้ำได้อย่างเป็นระเบียบ

ขวามือเป็นอ่างอาบน้ำ พร้อมก๊อกผสม และ ฝักบัว ผนังด้านข้างเจาะช่องทำชั้นวางของมาให้ สามารถวางสบู่ แชมพู เทียนหอม หรือของใช้อื่น ๆ ได้พอสมควร ผนังด้านข้างติดหน้าต่างกระจกฝ้าทรงสูงมาให้ 1 บาน ใช้เป็นช่องแสงธรรมชาติ และใช้เปิดรับลมระบายอากาศให้หมุนเวียนได้ค่ะ

ตรงข้ามกันจะกั้น Shower Box – Tempered Glass ประตูบานสวิง แยกเป็นห้องอาบน้ำ และ ห้องโถสุขภัณฑ์มาให้แบบนี้

ห้องอาบน้ำติดฝักบัว Hand Shower + Rain Shower พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อน-น้ำเย็น ผนังด้านหลังเจาะช่องทำชั้นวางของมาให้เรียบร้อย ในห้องนี้จะได้หน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง ผสมบานฟิกซ์ล่างมาให้ 1 ชุด ตามนี้

ห้องโถสุขภัณฑ์ ได้เป็นโถแขวนผนัง ระบบ Washlet พร้อมที่แขวนทิชชู่ ผนังด้านหลังโถสุขภัณฑ์มี Low Wall ไว้วางของใช้จุกจิกได้พอสมควรค่ะ

จากห้องน้ำมองกลับออกมาจะเห็น Walk-in Closet แบบนี้

จากห้องน้ำ และ Walk-in Closet มองกลับเข้ามาที่โซนพักผ่อนใน Master Bedroom

ตรงข้ามกับ Master Bedroom จะเป็นที่ตั้งของห้องนอน 2 ฝั่งหลังบ้าน

ประตูทางเข้าห้องนอน 2 จะอยู่ติดกับลิฟต์โดยสารแบบนี้

ห้องนอน 2 พร้อมห้องน้ำในตัว ตกแต่งเป็นห้องนอนเด็กผู้ชายมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ภายในห้องมีพื้นที่ใช้งานกว้างขวาง จัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัว สามารถวางเตียงนอน 3.5-6 ฟุต และ เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้ครบเซ็ต รองรับการโตเป็นวัยรุ่น และวัยทำงานในอนาคตได้สบาย ๆ

มองไปทางขวามือจะเป็นพื้นที่พักผ่อน และ มุมทำงานบ้าน ที่ตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย

ซ้ายมือวางเตียงนอน 3.5 ฟุต มาให้ดูระยะใช้งาน

ขวามือบิวท์อินโต๊ะทำการบ้านแนวยาว ติดกันจัดเป็น Play Zone ที่มีชั้นวางของเล่น และ โซฟานุ่ม ๆ ไว้นั่งเล่นได้

ถัดเข้าไปที่ด้านในจะเป็น Walk-in Closet และ ห้องน้ำ

ผนังทางฝั่งซ้ายมือจะได้เป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อนผสมบานฟิกซ์ชุดใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ ถัดออกไปจะเป็น Double Volume บริเวณ Living Room

จากหน้าต่างมองลงมาจะเห็น Living Room ที่ชั้น 1 แบบนี้

ตรงเข้ามาด้านในจะสามารถบิวท์อินตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ได้ พื้นที่ใช้งานตรงกลางเหลือพอประมาณ ยืนแต่งตัว เลือกเสื้อผ้า และเดินเข้าห้องน้ำได้สะดวก

ขวามือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ โดยด้านหน้ามีพื้นที่เหลือให้ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วยค่ะ

ห้องน้ำเป็นแบบแนวลึก ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน 60 x 60 ซม. รองรับการเติบโตของลูกในอนาคตได้ มีหน้าต่างติดมาให้ 1 บาน  สุขภัณฑ์ในห้องน้ำติดตั้งมาให้ตำแหน่งตามภาพ โดยใช้เป็นของ Villeroy & Boch ทั้งหมด

อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ พร้อมก๊อกผสมโครเมียมก้านโยก

ใต้อ่างมีตู้เก็บของบานเปิดติดมาให้ ด้านในติดเครื่องทำน้ำร้อน Stebel Eltron ให้ตามนี้เลยค่ะ

ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ 1 Piece พร้อมอุปกรณ์ประกอบสายฉีดชำระ และ ที่แขวนกระดาษทิชชู่

ด้านหลังชุดสุขภัณฑ์ตรงส่วนแห้ง จะมี Low-Wall แนวยาวให้แบบในภาพ ใช้วางของใช้ในห้องน้ำได้เยอะ ผนังด้านบนติดชั้นวางทรงแนวสูง และ ตู้เก็บของบานเปิด หน้าบานกระจกเงาให้แบบนี้เลยค่ะ

ถัดเข้าไปด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำ ติด Shower Box แบบบานเลื่อน และ ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวด้านใน 1 ชิ้น

ฝักบัว Hand Shower + Rain Shower พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อน-น้ำเย็น ผนังด้านหลังติดทำชั้นวางของมาให้เรียบร้อย ในห้องนี้จะได้หน้าต่างกระจกบานกระทุ้งมา 1 บาน

ขึ้นไปดูรายละเอียดบนชั้น 3 กันต่อค่ะ

โถงบ้านชั้น 2 และ 3 ได้ผนังกระจกบานใหญ่ตามที่แจ้งไว้ ทำให้ภายในบ้านดูโปร่ง กว้าง มาก ๆ

โถงบันไดก่อนชั้น 3 จะได้ชานพักกว้าง ๆ สามารถวางม้านั่ง หรือ ของตกแต่งบ้านอย่างต้นไม้กระถาง หรือ ปูนปั้นต่าง ๆ ได้ จุดนี้จะได้ช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่ และ โคมไฟกิ่ง 1 คู่ มาเช่นกันค่ะ

Corridor ชั้น 3 มีความกว้าง 1.8-2 เมตร และ ได้พื้น Engineering Wood เช่นเดียวกัน ส่วนฟังก์ชันฝั่งหน้าบ้านจะประกอบไปด้วยห้องนอน 3 และ Multi-Purpose Room ค่ะ

ซ้ายมือเป็น Multi-Purpose Room แยกโซนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสลับ กรอบอะลูมิเนียม Powder Coating สีดำ

บ้านตัวอย่างตกแต่งเป็น Home Theatre Room มาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนบ้าน Standard จะเป็นห้องเปล่า ลูกค้าสามารถปรับฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำเป็นห้องทำงาน, ห้องทำการบ้านของเด็ก ๆ หรือ หากบ้านไหนมีลูกเล็ก อาจจะใช้เป็นห้องให้นม เปลี่ยนผ้าอ้อม รวมถึงทำเป็นห้องเด็กเล่นได้เลยค่ะ

เข้ามาดูห้องนอน 3 ฝั่งหน้าบ้านกันต่อ ตรงเข้ามาจะเจอกับ Walk-in Closet และ ห้องนอนที่แยกกันเป็นสัดส่วน

เข้ามาทางขวามือจะเจอกับห้องนอน ภายในรองรับเตียงนอน 5-6 ฟุตได้ พื้นที่ข้างเตียง และปลายเตียงเหลือกว้างขวาง เดินเข้า-ออก หรือจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมได้เต็มที่ และในห้องนี้ยังออกแบบให้มีช่องแสงบานสูงมาหลายจุด ทำให้ห้องสว่าง โปร่ง โล่ง สบาย อากาศถ่ายเทได้ดี

ปลายเตียงเป็นพื้นที่สำหรับวางชั้นวางทีวี รองรับชั้นวางทีวี ขนาด 1.2-2.5 เมตร ได้เลย ผนังด้านหลังเดินงานระบบต่าง ๆ มาให้พร้อมต่อใช้งาน

ข้างเตียงนอนฝั่งหน้าบ้านเป็นประตูทางออกไปยังระเบียงพักผ่อนที่ด้านนอก

ระเบียงขนาดพอเหมาะ สามารถจัดสวนแบบ Pocket Garden หรือ วางเก้าอี้พักผ่อนขนาดมาตรฐานเข้าไปได้ ส่วนวัสดุพื้นและราวกันตกได้มารูปแบบเดียวกันกับ Master Bedroom เลยค่ะ

มองกลับเข้ามาภายในห้องนอน 3 ฝั่งตรงข้ามจะมีระเบียงพักผ่อนขนาดใหญ่ให้อีก 1 จุด

ประตูระเบียงได้เป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้เปิดรับแสงได้เยอะ และช่วยให้ห้องดูโปร่ง โล่ง มาก ๆ

ระเบียงพักผ่อนฝั่งด้านหลังนี้ มีพื้นที่ใช้งานขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถวางชุดเก้าอี้สนาม ไว้นั่งเล่น รับลมชมวิว Courtyard กลางบ้านได้แบบเต็มที่

มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นระเบียงพักผ่อนทางฝั่งหลังบ้านแบบนี้

จากระเบียงห้องนอน 3 มองลงมาได้มุมมองแบบนี้เลยค่ะ ส่วนบ้านไหนที่ไม่ได้ต่อเติมเป็น Relax Pool ก็จะเห็นเรือนยอดของต้นไม้ใหญ่ที่ทางโครงการปลูกไว้ให้

มองกลับมาที่ประตูระเบียง ผนังข้าง ๆ ประตูติดโคมไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง

มองกลับเข้ามาภายในห้องนอน 3

ไปดู Walk-in Closet และ ห้องน้ำกันต่อเลย

ตรงเข้ามาทางขวามือจะเจอกับ Walk-in Closet และ ห้องน้ำ สามารถบิวท์อินโต๊ะเครื่องแป้ง และ ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ได้ทั้ง 2 ฝั่งผนังแบบนี้

ห้องน้ำเป็นแบบหน้ากว้าง ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน และ สีขาวผิวมัน 60 x 60 ซม. สุขภัณฑ์ในห้องน้ำติดตั้งมาให้ตำแหน่งตามภาพ โดยใช้เป็นของ Villaroy & Boch ทั้งหมด

ขวามือเป็นส่วนแห้ง ได้สุขภัณฑ์มาตรฐานมาเหมือนกันกับห้องน้ำในห้องนอน 2 ทุกประการ ด้านหลังโถสุขภัณฑ์ติดหน้าต่างกระจกฝ้าบานเปิดมาให้ 1 บาน

ซ้ายมือเป็นส่วนอาบน้ำ ติด Shower Box กระจกบานเลื่อนมาให้ตามนี้

ฝักบัว Hand Shower + Rain Shower พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อน-น้ำเย็น ผนังด้านหลังเจาะช่องทำชั้นวางของมาให้เช่นเดียวกัน

พื้นที่อาบน้ำขนาดใหญ่ ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ

จากห้องน้ำมองกลับออกมาได้มุมมองของ Walk-in Closet แบบนี้ค่ะ

จากห้องนอน 3 ฝั่งหน้าบ้าน มองกลับออกมาที่ Corridor จะเป็นที่ตั้งของลิฟต์โดยสาร, ระเบียง และ ห้องนอน 4

ซ้ายมือเป็นประตูทางออกไปยังระเบียง ส่วนด้านหน้าจะเป็นประตูทางเข้าห้องนอน 4 / โดยประตูทางออกไประเบียง จะได้เป็นประตูกระจกบานสวิง มือจับก้านโยก เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวก

ระเบียงด้านนอกมีพื้นที่ใช้งานขนาดใหญ่ ในบ้านตัวอย่างจะต่อเติมระแนงบังแดด และตกแต่งผนัง Vertical Garden มาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนพื้นที่ใช้งานจะสามารถวางชุดโต๊ะสนามขนาดใหญ่ 3-4 ที่นั่งได้เลย

มองตรงออกมาจะเห็น Courtyard และ ระเบียงพักผ่อนฝั่งห้องนอน 3

มองมาทางซ้ายมือจะเห็นผนังกระจกบานผสมของทางฝั่งห้องนอน 4 แบบนี้

จากระเบียงมองลงมา เห็น Relax Pool เช่นเดียวกันค่ะ

เข้าไปดูห้องนอน 4 เป็นส่วนสุดท้ายกันค่ะ

ห้องนอน 4 จะวางผังและมีพื้นที่ใช้งานมาเท่ากันกับห้องนอน 3 ฝั่งหลังบ้านทุกประการ แต่ห้องนี้จะตกแต่งเป็นห้องนอนเด็กวัยรุ่น เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพว่าเมื่อปรับจากห้องนอนเด็กที่ชั้น 2 แล้ว จะได้ Feeling ประมาณนี้

โดยจะวางเตียงนอน 5 ฟุต และ เก้าอี้พักผ่อนปลายเตียงมาให้ดูเป็นไอเดีย

ข้างเตียงนอนฝั่งที่เข้ามุมลงไป ตกแต่งเป็นมุมทำงานแบบเดี่ยว และ ชั้นวางของแนวสูงมาให้ดูระยะใช้งานค่ะ

มองกลับมาที่ปลายเตียง ก็จะเป็นผนังกระจกบานผสมขนาดใหญ่ ที่มองออกไปเห็นวิวของระเบียงพักผ่อน และ พื้นที่สีเขียวที่ด้านนอก

ถัดมาที่ด้านในสุดจัดเป็น Walk-in Closet และ ห้องน้ำ

หน้าห้องน้ำสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งขนาดมาตรฐานได้เช่นเดียวกัน

ในส่วนของห้องน้ำจะมีพื้นที่ใช้งานและจัดฟังก์ชัน-วัสดุ-สุขภัณฑ์มาตรฐานต่าง ๆ มาเหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้ทุกประการค่ะ

---

ราคา (พ.ย.63)

• ราคาเริ่มต้น 22.9 ล้านบาท*

** โปรดสอบถามราคาและโปรโมชันปัจจุบันที่สำนักงานขายอีกครั้งค่ะ **

---

บทสรุปโครงการ

♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : MOTIQUE แจ้งวัฒนะ 10 บ้านหรู 3 ชั้น บนทำเลศักยภาพย่านแจ้งวัฒนะ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 3  เดินทางสะดวกสบายด้วยถนนแจ้งวัฒนะ ที่ห่างจากตัวโครงการ เพียง 150 เมตร ไม่ไกลจากทางด่วน ที่มีให้เลือกใช้ถึง 2 สายหลัก ทำให้เชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองได้ง่าย รวมถึงเป็นโครงการที่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีทีโอที เปิดใช้งานปลายปี 64 ในระยะเดิน ประมาณ 250 เมตรเท่านั้น

ที่สำคัญยังเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชนขนาดใหญ่ มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น ทำให้รอบ ๆ โครงการนั้นมีความอุดมสมบูรณ์สูงทั้งในระยะเดินเท้า และ ระยะใช้รถ ใกล้สถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษา, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และ แหล่งงานขนาดใหญ่ จากซอยโครงการยังสามารถลัดออกไป รร.นานาชาติ Harrow ได้เลยค่ะ

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : เดินทางด้วยรถยนต์ได้สะดวก จากหน้าโครงการขับรถออกมาเพียง 150 เมตร ถึงถนนแจ้งวัฒนะ จากถนนแจ้งวัฒนะ จะสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นหลัก, เส้นรอง และ เส้นทางลัดได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถนนประชาชื่น, ถนนกำแพงเพชร 6, ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด และ ถนนติวานนท์ โดยผ่านแยกใหญ่ ๆ อย่างแยกศูนย์ราชการ, แยกคลองประปา, แยกหลักสี่ และ แยกปากเกร็ด

รวมถึงเป็นโครงการที่ใกล้กับทางด่วนเส้นหลัก 2 จุด ใกล้ที่สุดจะเป็นทางพิเศษศรีรัช จุดขึ้นทางด่วนจะห่างจากตัวโครงการ ประมาณ 5-10 นาที เท่า ๆ กัน ใช้มุ่งหน้าเข้าเมืองได้ง่าย เชื่อมต่อโซน New CBD พระราม 9 ได้ในระยะเวลาประมาณ 20-30 นาที หรือจะใช้สิ่งต่อไปโซน CBD พระราม 4, สาทร, สีลม ก็ใช้เวลาไม่นาน ถ้ารถไม่ติดก็ 30-40 นาที เท่านั้น

♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : มีป้ายรถเมล์หน้าปากซอยแจ้งวัฒนะ 10 และ ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าสำนักงานใหญ่ TOT  ทั้งสองฝั่งจะมีรถเมล์, รถสองแถว และ รถตู้ประจำทางสายต่าง ๆ ผ่านค่อนข้างเยอะ รวมถึง Taxi ก็มีผ่านตลอดทั้งวัน ในส่วนของวินมอเตอร์ไซค์ ไม่ต้องเดินมาที่ถนนใหญ่ สามารถเรียกจากในซอยแจ้งวัฒนะ 10 ได้เลยค่ะ

♦ การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : ใกล้กับแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี บนถนนแจ้งวัฒนะ สถานีที่ใกล้กับโครงการจะเป็นสถานีทีโอที ในระยะเดิน เพียงแค่ 250 เมตร ที่จะเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการช่วงปลายปี 2564 นี้ โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูก็จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสีอื่นได้อีก 3 สาย นั่นก็คือ สายสีแดงเข้ม ที่สถานีหลักสี่, สายสีเขียวเข้มตอนเหนือ ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ และสายสีส้ม ที่สถานีมีนบุรี

♦ การออกแบบบ้านและวัสดุ : เป็นโครงการบ้านหรู 3 ชั้น ระดับ Luxury ได้ความเป็นส่วนตัวเพียง 12 ครอบครัว มีความเงียบสงบ และ อบอุ่น แบบโครงการขนาดเล็ก ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury ใช้วัสดุมีคุณภาพ เกรดพรีเมียม ตั้งแต่โครงสร้าง ที่ใช้การก่ออิฐมอญแดงทั้งหลัง ในบ้านใช้วัสดุจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก กระเบื้องนำเข้าจากประเทศสเปน, สุขภัณฑ์ของ Villaroy & Boch จากประเทศเยอรมนี, เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเป็นแบรนด์ Smeg และ ลิฟต์ของ Aritco (ระบบสกรู) จากประเทศสวีเดน ที่มีความปลอดภัยสูง

มีการออกแบบฟังก์ชันบ้านที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง และ รอบรับการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัวได้ครบทุก Generation นอกจากจะมีพื้นที่สวนในชั้น 1 ซึ่งเป็น Courtyard อยู่กลางบ้านแล้ว ยังมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนชั้น 3 ให้ด้วย เพื่อสร้างความร่มรื่นและให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น โดยสวนบริเวณชั้น 1 สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นสระว่ายน้ำขนาดเล็กหรือ Jacuzzi แทนได้

ภายในบ้านมีการติดตั้ง Airflow System ระบบหมุนเวียนอากาศที่ทำให้บ้านเย็น มีระบบ Home Automation By Life Smart ทั้งตัว Smart Door Lock, IP Camera 4 จุด มีระบบสั่งการด้วยเสียงระบบ Google Home ที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่อผู้อยู่อาศัย เพียงแค่ใช้มือถือในการสั่งการระบบต่าง ๆ ภายในบ้าน

♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : ติดตั้งระบบ Magnetic Switch ระบบสัญญาณกันขโมยที่เป็นสวิตซ์แม่เหล็กติดบริเวณประตูและหน้าต่าง สำหรับตรวจจับสัญญาณเมื่อเกิดการบุกรุก สิ่งอำนวยความสะดวกของพื้นที่ส่วนกลางจะมี สวนหย่อม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง มีการเข้าออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass และกล้อง CCTV รอบโครงการ พร้อมนำระบบสาธารณูปโภค และ ระบบไฟฟ้าในโครงการลงใต้ดินทั้งหมด ทำให้ทัศนียภาพในโครงการดูเรียบร้อย และ สวยงาม

---

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 080-8800-898

Website : https://www.motiqueresidence.com/

หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ