Written by : Pure Thitapa
Photo by : Eins Gannika
หลังจากที่ Nue Cross Khu Khot Station สามารถสร้างยอดขายทะลุเป้าจน Sold Out ไปได้ภายใน 4 เดือนแรกที่เปิดตัว ต้นปีนี้ ทาง Noble เลยเดินหน้าพัฒนาโครงการที่ 2 นั่นก็คือ Nue Core Khu Khot Station ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง Noble x TNLA โดยที่ตั้งของโครงการ Nue Core ก็จะอยู่ติดกับ Nue Cross ที่เป็นคอนโดโครงการแรกบนที่ดินผืนใหญ่แห่งนี้
หน้าโครงการจะอยู่ติด Lifestyle Mall, ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีคูคต และถนนลำลูกกา ฝั่งขาออกเมือง ใกล้จุดกลับรถ เชื่อมต่อถนนเส้นหลักอย่างถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิตได้ง่าย มีเส้นทางลัดให้ออกไปโซนสายไหม, เพิ่มสิน, วัชรพลได้ ผ่านซอยสายไหม 39
และยังอยู่ใกล้กับทางด่วนหลักถึง 3 สาย ด้วยกัน ทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองเป็นเรื่องง่าย และสะดวกสบายสุด ๆ ทั้งยังอยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมือง เพียงแค่ 15 นาที* เท่านั้น ใครทำงานที่นี่โครงการนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ และมีราคาไม่สูงเท่าคอนโดในโซนดอนเมืองค่ะ
นิว คอร์ คูคต สเตชัน เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 6 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาดใหญ่กว่า 11 ไร่ มีห้องพักอาศัยรวม 1,206 ยูนิต ออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ ‘Mid Century Modern Architecture in 60S’ โดยวางเส้นสายของงานสถาปัตยกรรมที่มีความเรียบง่าย มีเอกลักษณ์ โดยมีการเลือกใช้สี และจังหวะอย่างลงตัว รวมทั้งการจัดวางอาคารล้อมส่วนกลางขนาดใหญ่ เพื่อให้เข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย
ในส่วนของห้องพักมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ Studio 22.70-23.25 ตร.ม., 1 Bedroom 26.25-27.10 ตร.ม., 1 Bedroom Plus 34.40-34.90 ตร.ม. และห้องแบบใหม่ล่าสุดของแบรนด์ Nue นั่นก็คือ แบบ 2 Bedroom 45.75-46.45 ตร.ม. และ 2 Bedroom Duplex 59.30 ตร.ม. ที่จะเป็นห้อง Pool Access และ Garden Access
นอกจากนั้นยังขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์คุณภาพ ดีไซน์สวย โดยจะเน้นไปในโทนลายไม้สี Dark Cornwall Oak และสี Earth Tone ทั้งยังสอดแทรกความเป็น Geographic Form ด้วยเฟอร์นิเจอร์รูปทรงเลขาคณิตเข้าไปด้วย ซึ่งจะช่วยให้ห้องพักดูสวยงาม คุม Mood & Tone ระหว่างอาคารและห้องพักเข้าไว้ได้อย่างลงตัว
พื้นที่ส่วนกลางให้มาขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ ได้พื้นที่สีเขียวทั้งโครงการรวมกว่า 2 ไร่ และทางโครงการยังออกแบบ The Core Court ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางต่อเนื่อง ความยาวกว่า 220 ม.* มาให้ด้วย
โดยจะแบ่ง Facilities เป็น 3 โซนหลัก ๆ ได้แก่ The Core Terrain, The Core Lagoon & The Core Pavillion และ The Core Forest ซึ่งในแต่ละโซนก็จะมีฟังก์ชันแยกย่อยออกมาให้ลูกบ้านได้ใช้งานได้อีกหลายรายการ
คอนโดใหม่ติด รถไฟฟ้าคูคต เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์มอลล์ ห้องหน้ากว้าง เฟอร์ฯครบ เริ่ม 1.39 ล้าน*
พิเศษ! ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://nobleurl.com/3Rwjqfv
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Line @nuekhukhotstation หรือ Tel. 02-251-9955
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่าง และรายละเอียดภายในโครงการจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ
| ชื่อโครงการ | นิว คอร์ คูคต สเตชัน / Nue Core Khu Khot Station |
| เจ้าของโครงการ | โครงการร่วมทุนระหว่าง Noble x TNLA |
| เนื้อที่ทั้งหมด | ประมาณ 11 ไร่ |
| จำนวนตึก | 6 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
| จำนวนห้อง | ห้องชุดพักอาศัย 1,206 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 24% ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
| จำนวนลิฟต์ | ลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้น 2 ตัว/อาคาร |
| โซน | คูคต-พหลโยธิน-ปทุมธานี |
| เส้นทางคมนาคม |
|
| ที่ตั้ง | ติดถนนลำลูกกา ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา ปทุมธานี |
| กำหนดการ | เริ่มก่อสร้างปี 2566 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จ ไตรมาส 4 ปี 2567 |
| ราคา | เริ่มต้น 1.39 ล้านบาท* (ม.ค. 66) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ราคาเฉลี่ย 69,000 บาท/ ตร.ม.* (ม.ค. 66) |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน | – |
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | Facility ครบครัน เต็มพื้นที่ The Core Terrain
The Core Lagoon
The Core Pavilion
The Core Forest
ระบบรักษาความปลอดภัย
|
| Tel | 02-251-9955 หรือ Line @nuekhukhotstation |
| Website | https://bit.ly/3VPrQPr |
ที่ตั้งโครงการ
ติดถนนลำลูกกา ฝั่งขาออกเมือง ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา ปทุมธานี
พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/zhMnF54uZCvSkAs39
โครงการ ‘Nue Core Khu Khot Station’ คอนโด Low-Rise ใหม่ ภายใต้แนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ ‘Mid Century Modern Architecture in 60S’ มาพร้อมแนวคิดสุดเก๋ ‘คูลครบ ณ คูคตมหานคร’ ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพของคูคตที่เป็น HUB สำคัญของกรุงเทพฯ ตอนบน สะดวกสบายทุกการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง
ติดรถไฟฟ้าสถานีคูคต ที่นั่งต่อเดียวเข้าเมือง และสามารถเชื่อม 3 จังหวัดสู่ใจกลางเมืองได้แบบไร้รอยต่อ เชื่อมต่อถนนสายหลักอย่าง ถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิตได้ง่าย ใกล้ดอนเมืองโทลล์เวย์ และสนามบินดอนเมือง เพียง 15 นาที* เท่านั้น
นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายมาก ๆ แล้ว โครงการนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจในเรื่องของการออกแบบโครงการที่มีเอกลักษณ์ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ทำให้ Demand ของทำเลนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้โครงการแรก Nue Cross Khu Khot Station สามารถสร้างยอดขายทะลุเป้าจน Sold Out ไปได้ภายใน 4 เดือนแรกที่เปิดตัว ทำให้ Nue Core Khu Khot Station เป็นโครงการที่ 2 ที่ทาง Noble ได้นำมาต่อยอดแนวคิดการสร้างย่านคูคตให้เป็น “Center Of The Center Of Khu Khot…ความศิวิไลซ์ใหม่ ใจกลางคูคตมหานคร”
การเดินทางโดยรถส่วนตัว : ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ติดถนนลำลูก ฝั่งขาออกเมือง ใกล้จุดกลับรถไปถนนลำลูกกา ฝั่งขาเข้า เพียงแค่ 400 ม.* ทำให้สะดวกสบายในการเดินทาง ไม่ว่าจะวิ่งเข้าเมือง หรือออกนอกเมือง จากโครงการจะสามารถเชื่อมต่อถนนสายหลักได้ง่าย ใกล้ถนนพหลโยธิน เพียง 2.4 กม.* และถนนวิภาวดีรังสิต ประมาณ 5.5 กม.*
ส่วนใครที่ต้องการเดินทางไปยังโซนสายไหม, สุขาภิบาล 5, เพิ่มสิน, วัชรพล, เทพรักษ์ ก็ทำได้ง่ายมาก โดยไม่ต้องขับไปทางถนนพหลโยธิน เพราะมีเส้นทางลัดผ่านซอยสายไหม 39 ให้วิ่งไปได้ง่าย ๆ ช่วยร่นระยะทาง และเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดี และซอยสายไหม 39 ยังเป็นทางที่คนในย่านนี้ใช้ขับรถเพื่อไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ง่ายที่สุดอีกด้วยค่ะ
มาพูดถึงการเดินทางเข้าเมืองกันบ้าง หลัก ๆ แล้ว จะใช้ถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิต เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางเข้าเมือง โดยถนน 2 เส้นนี้จะเป็นถนนที่วิ่งคู่ขนานกันไป และจะไปบรรจบกันที่ห้าแยกลาดพร้าว ถนนทั้ง 2 สายที่กล่าวไป จะผ่านสถานที่สำคัญต่าง ๆ อย่างห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน, โรงพยาบาล, อาคารสำนักงาน, หน่วยงานราชการ และสนามบินดอนเมือง ที่อยู่ห่างจากโครงการไปเพียงแค่ 15 นาที*
ใครที่ทำงานที่สนามบินดอนเมือง โครงการนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจ แม้จะขยับออกมาหน่อย แต่คุณก็จะได้คอนโดในราคาไม่สูงเท่าคอนโดในละแวกนั้น แถมที่นี่ยังมี Lifestyle Mall หน้าโครงการ และเป็นโซนใจกลางคูคต ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เรียกว่าครบครันที่สุด
ส่วนการเดินทางออกเมือง ก็ทำได้ง่ายเช่นเดียวกัน สามารถใช้ถนนลำลูกกา เส้นหน้าโครงการ วิ่งออกเมืองไปปทุมธานี ยาวไปจังหวัดใกล้เคียงอย่างนครนายก และฉะเชิงเทราได้เลย หรือจะใช้ถนนพหลโยธิน วิ่งออกไปโซนรังสิต, นวนคร, บางปะอิน เชื่อมจังหวัดใกล้เคียงอย่างอยุธยาได้เพียง ชม.* นิด ๆ
และเส้นพหลโยธิน ฝั่งขาออกเมือง ยังผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำขนาดใหญ่ อย่าง Future Park & Zpell และผ่านมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย อย่าง ม.รังสิต, ม.กรุงเทพ และ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เพียง 20-40 นาที* เท่านั้นค่ะ
ส่วนใครที่ต้องการเดินทางเข้า-ออกเมืองให้เร็วมากขึ้นอีกหน่อย ก็มีทางด่วนใกล้ ๆ ให้เลือกถึง 3 สาย ใกล้ที่สุดจะเป็นจุดขึ้นถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งตะวันออก ระยะทาง 6.3 กม.* หรือขับรถออกไปประมาณ 10-15 นาที*
เส้นนี้จะวิ่งแบบวงแหวนรอบเมือง ทำให้ครอบคลุมย่านต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ครบ ใช้วิ่งออกเมืองไปปทุมธานีได้ และใช้วิ่งเข้าเมืองไปรามอินทรา, รามคำแหง, ลาดกระบัง, บางนา, ศรีนครินทร์, สุขุมวิทตอนปลาย ยาวไปยังโซนพระประแดง, ทุ่งครุ, พระราม 2 และบางแคได้เลยค่ะ
ทางด่วนต่อมาจะเป็นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ บนฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต ที่อยู่ห่างจากโครงการไป ประมาณ 8.5 กม.* หรือขับรถไปขึ้นทางด่วนได้เพียง 10-15 นาที* ทางด่วนสายนี้จะใช้วิ่งออกเมืองไปฝั่งรังสิตได้
และใช้วิ่งเข้าเมืองไปฝั่งดอนเมือง, จตุจักร, ลาดพร้าว และเชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนศรีรัช เพื่อวิ่งไปพระราม 9, อโศก, สุขุมวิทตอนต้น-กลาง, พระราม 4 และ CBD สาทร-สีลมได้ ในระยะเวลา ประมาณ 30-50 นาที* แล้วแต่ช่วงจราจร
สุดท้ายจะเป็นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่เราได้บอกไว้ข้างต้นว่า สามารถใช้เส้นทางลัดผ่านซอยสายไหม 39 ไปขึ้นทางด่วนนี้ได้ค่ะ จากโครงการจะอยู่ห่างจากจุดขึ้น ประมาณ 9.1 กม.* หรือขับรถไป ประมาณ 15-20 นาที*
เส้นนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องการเดินทางไปโซนรามอินทรา, ลาดพร้าว, พระราม 9, พัฒนาการ, อ่อนนุช, สุขุมวิท และใช้เชื่อมกับทางด่วนสาย S1 ที่ออกไปยังบางนา และทางด่วนบูรพาวิถีได้
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : เป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายที่สุดสำหรับคนที่ต้องการเข้าเมืองไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ หรือ Shopping ห้างใหญ่ในตัวเมือง โดยโครงการจะอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS คูคต ประตูทางออก 3 แบบ 0 ม.*
อีกข้อดีนึงก็คือ ‘สถานีคูคต’ จะเป็นสถานีต้นทางของฝั่งเหนือ ทำให้ขบวนรถไฟฟ้าค่อนข้างโล่ง ขึ้นตอนไหนก็มีที่นั่งอย่างเพียงพอ ทั้งยังสามารถนั่งต่อเดียวไปได้ทุกที่ ไปสะพานใหม่ ประมาณ 15 นาที*, ไป ม.เกษตรศาสตร์ ประมาณ 20 นาที*
ไป Central ลาดพร้าว และห้าแยกลาดพร้าว ประมาณ 26 นาที* และนั่งไปเดินเล่นสยามได้ ประมาณ 44 นาที* สะดวกสบาย ไม่ต้องขับรถ ไม่ต้องเสี่ยงรถติดให้ชีวิตมันน่าเบื่อ
จากสถานีสยาม ผ่านขึ้นไป ก็จะนั่งต่อไปสถานีอื่น ๆ บนเส้นสุขุมวิทได้ ไปพร้อมพงษ์, ทองหล่อ, เอกมัย, อ่อนนุช ยาวไปจนสุดเมืองสมุทรปราการได้เลย เรียกได้ว่าเป็นรถไฟฟ้าสายเดียวที่นั่งเชื่อมกรุงเทพฯ, ปทุมธานี และสมุทรปราการได้อย่างไร้รอยต่อ
และถ้าจะเปลี่ยนเส้นทางไปรถไฟฟ้าสายสีอื่น ๆ ก็ทำได้ง่าย และมีจุดเชื่อมต่อให้เปลี่ยนเส้นทางได้ครบทุกสายของกรุงเทพฯ ที่มีอยู่ในตอนนี้เลยค่ะ
ภาพมุมสูงโครงการ Nue Core Khu Khot Station กับความพิเศษอีกอย่างที่ยังไม่ได้พูดถึงไป คือ โครงการนี้จะมีประตูทางออกระหว่างอาคารพักอาศัยให้ถึง 3 ประตู ทำให้ลูกบ้านที่อยู่ที่นี่ เดินออกมาขึ้นบันไดรถไฟฟ้าได้เลย โดยไม่ต้องเดินอ้อมไปออกทางประตูหลัก
ซึ่งจากโครงการจะอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีคูคต ประตูทางออกที่ 3 แบบ 0 ม.* และที่ด้านหน้าสถานี ก็จะมีป้ายรถเมล์ให้ใช้งานอีกด้วย เรียกว่าเป็นทำเลของศูนย์กลางคมนาคมของกรุงเทพฯตอนบนได้อย่างแท้จริง
สถานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก แค่หน้าโครงการในอนาคตก็จะมี Lifestyle Mall ขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะมีร้านค้า, ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อีกเพียบ
ใกล้ ๆ โครงการเพียง 200 ม.* จะมี PTT Station และ 400 ม.* จะมีร้านสุกี้ตี๋น้อย สาขาลำลูกกาคลอง 2 ตั้งอยู่ เดินออกกำลังกายไปกินได้เลย สาขานี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่เที่ยงวัน ยาวไปจนถึงตี 5
ส่วนศูนย์การค้า, ห้างค้าปลีก, Community Mall และตลาดนัด-ตลาดสด เรียกว่ามีอยู่ล้อมรอบโครงการเลยก็ว่าได้ เลือกได้เองเลยว่าอยากจะไปที่ไหน เอาทางฝั่งของลำลูกกากันก่อน ใกล้สุด ๆ ก็จะเป็น Makro Food Service @MT Branch ลำลูกกา ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 700 ม.*
ถัดออกไปก็จะมี Lotus’s ลำลูกกาคลอง 2, Big C ลำลูกกา, Big C และ Home Pro ลำลูกกาคลอง 5 ส่วนตลาด ก็จะมี ตลาดสายสัมพันธ์, ตลาดเปียร์นนท์, ตลาดลำลูกกาพลาซ่า, ตลาดเอ.ซี.ลำลูกกาคลอง 4 และตลาดกลางลาดสวาย
ถัดมาทางฝั่งสายไหม ก็จะมี Lotus’s Go Fresh @Village Saimai สายไหม, Tops Market สายไหม, สายไหมอเวนิว, PTT Living Community Hub สายไหม 56, Big C Food Place สายไหม ส่วนตลาด ก็จะมี ตลาดเอ.ซี.สายไหม, ตลาดเทพทิพย์, ตลาดนัดสายไหม 49/1 และตลาดวงศกรสายไหม มี Makro Food Service ที่ด้านในเปิดอยู่ด้วย
สุดท้ายจะอยู่บนถนนเส้นหลักพหลโยธิน ใกล้ DMK Avenue Community Mall, Max Valu อมร.พหลโยธิน, Zeer รังสิต, The Hub, รังสิตอาเขต, โบ๊เบ๊รังสิต, GG Plaza, โบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ รังสิต, Big C รังสิต 2, ตลาดสี่มุมเมือง, Big C สะพานใหม่, Lotus’s หลักสี่, Decathlon สะพานใหม่ หรือจะขับไป Central รามอินทรา ก็ไม่ไกล ส่วนตลาดทางฝั่งนี้ก็จะมี ตลาดสดแยกลำลูกกา และตลาดยิ่งเจริญ
จากโครงการยังรายล้อมไปด้วยสถานศึกษาชั้นนำครบทุกระดับชั้น ใกล้ที่สุดจะเป็น รร.ผ่องสุวรรณวิทยา ที่อยู่ถัดออกไป เพียง 900 ม.* ถัดไปรอบ ๆ ก็จะมี รร.ฤทธิยะวรรณาลัย 2, รร.เตรียมบัณฑิต, รร.นายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช, รร.ฤทธิยะวรรณาลัย, รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม, รร.บริบูรณ์ศิลป์รังสิต, ม.เวสเทิร์น วิทยาเขตกรุงเทพ-วัชรพล และ รร.บีคอนเฮาส์แย้มสอาดรังสิต
ใกล้โรงพยาบาลรัฐบาลและโรงพยาบาลเอกชนหลายที่ ทั้งหมดอยู่ในระยะอุ่นใจค่ะ ขับรถไปได้ง่าย ๆ เพียง 10-30 นาที* ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น ศูนย์แพทย์ธรรมศาสตร์คูคต และ รพ.สินแพทย์ลำลูกกา ถัดออกไปไม่ไกลก็จะมี รพ.บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์, รพ.ซีจีเอช สายไหม, รพ.ภูมิพลอดุลยเดช, รพ.แพทย์รังสิต และ รพ.ราชวิถี 2 (รังสิต)
สุดท้ายจะเป็นหน่วยงานราชการ และสถานที่สำคัญอื่น ๆ จากโครงการจะอยู่ใกล้กับ สถานีตำรวจภูธรคูคต เพียง 500 ม.* ถัดไปจะมี สถานีตำรวจนครบาลสายไหม, สำนักงานเทศบาลเมืองคูคต, สนามกีฬาธูปะเตมีย์, อนุสรณ์สถานแห่งชาติ และสนามบินดอนเมือง ที่อยู่ห่างออกไปแค่ 15 นาที* ค่ะ
ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัด Google Maps : 13.932561, 100.648504
การเดินทางเริ่มจาก ถนนพหลโยธิน (BTS ห้าแยกลาดพร้าว) ⇒ กลับรถที่แยกซอยพหลโยธิน 54/4 (ประตูกรุงเทพพลาซ่า) ⇒ ถนนลำลูกกา ⇒ BTS คูคต ⇒ คูคตมหานคร ⇒ Nue Core Khukhot Station
ภาพประกอบการเดินทาง เราใช้ถนนพหลโยธิน ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวโดยเริ่มกันที่ BTS ห้าแยกลาดพร้าว ฝั่งมุ่งหน้าไปลำลูกกา โครงการจะอยู่ติดกับ BTS คูคตค่ะ
ตามทางไปเรื่อย ๆ ผ่าน BTS พหลโยธิน 24
ผ่าน BTS รัชโยธิน
ผ่าน BTS เสนานิคม
ผ่าน BTS มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ผ่าน BTS กรมป่าไม้
ผ่าน BTS บางบัว
ผ่าน BTS กรมทหารราบที่ 11
ลงอุโมงค์ผ่าน BTS วัดพระศรีมหาธาตุ
ผ่าน BTS พหลโยธิน 59
ผ่าน BTS สายหยุด
ผ่าน BTS สะพานใหม่
ผ่าน BTS รพ.ภูมิพลอดุลยเดช
ผ่าน BTS พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ
พอผ่านแยก คปอ. และ BTS แยก คปอ. จากนั้นให้ชิดขวากลับรถที่แยกซอยพหลโยธิน 54/4
พอกลับรถมาแล้ว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลโยธิน 54/2 ตามป้ายไปลำลูกกา-นครนายก
พอเลี้ยวเข้าซอย เราจะเห็นประตูกรุงเทพพลาซ่า ทางขวามือค่ะ
ขับตรงไปตามแนวรถไฟฟ้าไป BTS คูคต
ลงสะพานเข้าสู่ถนนลำลูกกา เราก็จะเห็นที่ดินของ Noble ที่ล้อมรั้วทางซ้ายมือ ซึ่งติดกับสถานี BTS คูคต
เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ “คูคตมหานคร” ที่เป็นที่ตั้งโครงการ Nue Core Khukhot Station
ถึงแล้วค่ะ “คูคตมหานคร” และ Sales Gallery โครงการ Nue Core Khukhot Station
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ Nue Core Khukhot Station ตั้งอยู่บนอาณาจักรของ Noble x TNLA เป็นที่ดินหน้ากว้าง คู่ขนานไปกับถนนลำลูกกา และแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ส่วนที่ตั้งของโครงการ Nue Core Khukhot Station จะอยู่บนที่ดินขนาดใหญ่ ประมาณ 11 ไร่ มีอาคารพักอาศัย 8 ชั้น รวม 6 อาคาร พร้อมห้องชุดพักอาศัยรวม 1,206 ยูนิต
โครงการนี้จะเป็นโครงการเดียวที่อยู่ติดกับ Lifestyle Mall และ BTS คูคต มากที่สุด แบบ 0 ม.* ทั้งยังมีการทำประตูทางเข้า-ออกจากโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้าให้อีก 3 ประตู ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านได้เป็นอย่างดี
หน้าโครงการจะอยู่ทางฝั่งทิศเหนือ ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งขาออกเมือง และ BTS คูคต ฝั่งทิศตะวันออก ข้าง ๆ กันนั้นจะเป็นโครงการแรก นั่นก็คือ Nue Coss Khukhot Station ที่ Sold Out ไปตั้งแต่ 4 เดือนแรกที่เปิดขาย ส่วนฝั่งทิศตะวันตก จะเป็นโครงการในอนาคตของทาง Noble X TNLA
ฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็นอาคารจอดแล้วจรของสถานีคูคต, สน.คูคต และที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น และฝั่งทิศใต้ หรือด้านหลังที่ดินของโครงการ จะเป็นที่อยู่อาศัยแนบราบทั้งหมดเลยค่ะ
รอบโครงการ
ด้านหน้าที่ตั้งโครงการ ที่มีชื่อเรียกเก๋ ๆ ว่า ‘คูคตมหานคร’
เข้ามาด้านในจะเป็น Drop-Off จริง ที่ใช้แยกออกไปยังโครงการ Nue Cross Khu Khot Station (ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง) และ Nue Core Khu Khot Station
จาก Drop-Off มองไปทางขวามือจะเป็นที่ตั้งของโครงการแรก Nue Cross Khu Khot Station
ตรงเข้ามาด้านในซ้ายมือจะเป็นที่จอดรถสำหรับลูกค้า X2o และลูกค้าที่แวะมาเยี่ยมชมห้องตัวอย่างของโครงการ Nue Core Khu Khot Station
ด้านหน้าจะเป็นสำนักงานขายของโครงการ Nue Core Khu Khot Station และคาเฟ่ X2o ที่มีมุมสวย ๆ ให้แวะมาถ่ายรูปกันได้ (ร้านเปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์*)
ทางเข้าสำนักงานขาย ที่เปิดให้ลูกค้าเข้าชมห้องตัวอย่างได้ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา และพร้อมเปิดจองรอบแรกก่อนใครในวันที่ 28 ม.ค. นี้
บรรยากาศภายในสำนักงานขาย จะใช้การตกแต่งภายในให้เหมือนกับ Lobby จริงของโครงการนี้ ที่มีการสอดแทรกสถาปัตยกรรมสไตล์ ‘Mid Century Modern Architecture in 60S’ และงาน Geographic Form & Pop Art ที่เป็นรูปทรงเลขาคณิต
หน้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนลำลูกกา ฝั่งขาออกเมือง ห่างจากจุดกลับรถไปฝั่งขาเข้า เพียง 400 ม.*
ถัดมาจะเจอกับป้ายรถเมล์ และรถไฟฟ้า BTS สถานีคูคต ประตูทางออกที่ 3
ตัวโครงการ
โครงการ Nue Core Khu Khot Station ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง Noble X TNLA พัฒนาโครงการเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนที่ดินประมาณ 11 ไร่ ประกอบไปด้วย 6 อาคาร จำนวนห้องชุดพักอาศัย 1,206 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,216 ล้านบาท*
ภายใต้แนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ ‘Mid Century Modern Architecture in 60S’ โดยวางเส้นสายของงานสถาปัตยกรรมที่มีความเรียบง่ายมีเอกลักษณ์ การเลือกใช้สีและจังหวะอย่างลงตัว รวมทั้งการจัดวางอาคารล้อมส่วนกลางขนาดใหญ่ เพื่อให้เข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย
ภาพบรรยากาศจำลองมุมสูงของโครงการ ที่จะเห็นตัวอาคารวางผังอาคารเป็นคู่ ๆ ทั้งหมด 6 อาคาร
โมเดลจำลองการวางอาคารพักอาศัย ที่นี่มีทั้งหมด 6 อาคาร วางผังอาคารเป็นคู่ ๆ กันไป เช่น A-F / B-E / C-D
ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดถนนลำลูกกา ฝั่งขาออกเมือง โดยจะมี Drop Off ขนาดใหญ่ที่ด้านหน้า แบ่งช่องทางรถเข้า และรถออกไว้แยกกันแบบในภาพ ก่อนจะตรงเข้าไปสู่ Main Entrance ที่ด้านใน
โดยลูกบ้านจะเข้า-ออกผ่านระบบ Key Card Access ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรกับพี่รปภ. ทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกบ้านที่อยู่ในโครงการนี้
การวางผังโครงการ จะวางคู่กันไปแบบที่บอกไว้ข้างต้น และตรงกลางจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการ ลูกบ้านทุกอาคารสามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมด
มาดูโมเดลจำลองสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการกันค่ะ จุดนี้จะมีชื่อเรียกว่า ‘The Core Court’ ซึ่งมีความยาวกว่า 220 ม.* ซึ่งจะตั้งอยู่ตรงคอร์ทกลางของโครงการ โดยมีอาคารพักอาศัยล้อมรอบอยู่
พื้นที่ส่วนกลางจะแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ The Core Terrain ระหว่างอาคาร A และ F / The Core Lagoon & The Core Pavilion ระหว่างอาคาร B และ E และ The Core Forest ระหว่างอาคาร C และ D
ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ สังเกตดี ๆ จะเห็นว่าทางโครงการมีการสอดแทรกดีไซน์ Geographic Form & Pop Art ที่เป็นรูปทรงเลขาคณิต ซึ่งเป็น Concept อีกหนึ่งอย่างของโครงการนี้นั่นเองค่ะ
โมเดลจำลอง The Core Terrain & The Core Pavilion ระหว่างอาคาร A และ F ที่จะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ภายในจะประกอบไปด้วย Recreation Zone, Board Game, Street Fit, Terrain Court, Outdoor Amphitheatre, Plearn Zone และที่ชั้น 1-2 ของอาคาร A และ F จะมีห้อง 2 Bedroom Duplex ที่เป็นห้อง Access Garden อยู่ค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลอง Outdoor Amphitheatre ที่ The Core Terrain ระหว่างอาคาร A และ F
โมเดลจำลอง The Core Lagoon ระหว่างอาคาร B และ E จะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ความยาวกว่า 50 ม.* แยกไว้ให้ 2 ฝั่ง คือฝั่งของ Leisure Pool และ Lap Pool แบ่งใช้งานพร้อม ๆ กันได้ลงตัวดี นอกจากนั้นยังมีสระว่ายน้ำของเด็ก แยกออกมาให้ด้วย และบริเวณริมสระว่ายน้ำ และตรงกลางสระว่ายน้ำ จะมี Sunken Pod, Sunken Pathway และ Scenery Pool Bar ให้ได้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจกันด้วย
ติดกับสระว่ายน้ำทางฝั่งซ้ายมือจะเป็น The Core Pavilion เป็นอาคารกระจกใสสูง 2 ชั้น ที่ภายในประกอบไปด้วย The Core Fitness, Outdoor Cardio, Welcome Lounge และ Co-Working Area และที่ชั้น 1-2 ของอาคาร B และ E จะมีห้อง 2 Bedroom Duplex ที่เป็นห้อง Access Pool ตั้งอยู่
ภาพบรรยากาศจำลอง Leisure Pool และ Duplex Pool
ภาพบรรยากาศจำลอง The Core Lagoon และ The Core Pavilion ระหว่างอาคาร B และ E
โมเดลจำลอง The Core Forest ที่อยู่ระหว่างอาคาร C และ D ตรงนี้จะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน โดยภายในจะประกอบไปด้วย Work From Garden, Jogging Track และ The Core Park และที่ชั้น 1-2 ของอาคาร C และ D จะมีห้อง 2 Bedroom Duplex ที่เป็นห้อง Access Garden ตั้งอยู่ค่ะ
แปลนอาคาร A
แปลนอาคาร A ชั้น 1 อาคารรูปตัว L ทิศใต้จะเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ส่วนในอาคารจะประกอบไปด้วย Lobby, Laundry, Delivery Station, Mailroom, Juristic มีลิฟต์โดยสารระบบล็อกชั้น ให้อาคารละ 2 ตัว และมีบันไดหนีไฟให้ 2 จุด
ส่วนห้องพักจะอยู่ทางฝั่งทางทิศเหนือ มีทั้งหมด 9 ยูนิต / ยูนิตที่ 1-3 เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.45-27.00 ตร.ม. / ยูนิตที่ 4-6 เป็นห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 7-9 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.40-34.85 ตร.ม.
โดยห้องพักชั้นล่าง และห้องพักแบบ Duplex ชั้น 1-2 จะได้พื้นห้องชุดเป็นกระเบื้องยาง SPC และฝั่งทิศเหนือจะได้วิว The Core Terrain ส่วนห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. จะ Access กับ The Core Terrain ได้ค่ะ
แปลนอาคาร A ชั้น 2 มีห้องพักทั้งหมด 27 ยูนิต โดยห้องทางฝั่งทิศเหนือ จะได้วิว The Core Terrain มีทั้งหมด 9 ยูนิต / ยูนิตที่ 1-3 เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.40-27.00 ตร.ม. / ยูนิตที่ 4-6 เป็นชั้น 2 ของห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 7-9 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.45-34.80 ตร.ม.
ส่วนห้องพักทางฝั่งทิศใต้ มีห้องพักทั้งหมด 14 ยูนิต โดยห้องพักยูนิตที่ 10-11 และ 16-23 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.25-23.25 ตร.ม. / ยูนิตที่ 12-15 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25-26.50 ตร.ม.
และห้องพักทางทิศตะวันออก มีทั้งหมด 4 ยูนิต โดยยูนิตที่ 24 และ 27 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45 ตร.ม. และยูนิตที่ 25-26 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80 ตร.ม. ค่ะ
แปลนอาคาร A ชั้น 3-8 เป็น Typical Floor Plan มีห้องพักทั้งหมด 28 ยูนิต โดยห้องทางฝั่งทิศเหนือ จะได้วิวสวน The Core Terrain มีทั้งหมด 9 ยูนิต / ยูนิตที่ 1-6 เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.40-27.00 ตร.ม. / ยูนิตที่ 7-9 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.45-34.80 ตร.ม.
ส่วนห้องพักทางฝั่งทิศใต้ วิวด้านหน้าโครงการ มีห้องพักทั้งหมด 14 ยูนิต โดยห้องพักยูนิตที่ 10-11 และ 16-23 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.25-23.25 ตร.ม. / ยูนิตที่ 12-15 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25-26.50 ตร.ม.
ส่วนทางทิศตะวันออก มีทั้งหมด 4 ยูนิต โดยยูนิตที่ 24 และ 27 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45 ตร.ม. และยูนิตที่ 25-26 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80 ตร.ม. และสุดท้ายห้องที่เพิ่มขึ้นมา จะอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก ได้วิว The Core Terrain เป็นห้องพักแบบ 2 Bedroom ขนาด 46.35 ตร.ม.
แปลนอาคาร B
แปลนอาคาร B ชั้น 1 อาคารรูปตัว I ฝั่งทิศใต้จะเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ส่วนในอาคารจะประกอบไปด้วย Lobby, Laundry, Delivery Station และ Mailroom มีลิฟต์โดยสารระบบล็อกชั้น ให้อาคารละ 2 ตัว และมีบันไดหนีไฟให้ 2 จุด
ส่วนห้องพักจะอยู่ทางฝั่งทิศเหนือ วิว The Core Lagoon มีทั้งหมด 14 ยูนิต / ยูนิตที่ 4-5 เป็นห้อง Studio ขนาด 22.70-23.15 ตร.ม. / ยูนิตที่ 6-16 เป็นห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 17 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.85 ตร.ม.
โดยห้องพักชั้นล่าง และห้องพักแบบ Duplex ชั้น 1-2 จะได้พื้นห้องชุดเป็นกระเบื้องยาง SPC ส่วนห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. ที่อยู่ทางฝั่งทิศเหนือ จะ Access กับ The Core Lagoon หรือสระว่ายน้ำได้ค่ะ
แปลนอาคาร B ชั้น 2 มีห้องพักทั้งหมด 27 ยูนิต ห้องพักทางฝั่งทิศเหนือ วิว The Core Lagoon ยูนิตที่ 4-5 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.85 ตร.ม. / ยูนิตที่ 6-16 เป็นชั้น 2 ของห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 17 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.85 ตร.ม.
ส่วนห้องพักทางฝั่งทิศใต้ ยูนิตที่ 18-19 และ 21-26 จะเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 22.80-23.00 ตร.ม. / ยูนิตที่ 20 และ 27-30 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25-26.50 ตร.ม.
แปลนอาคาร B ชั้น 3-8 จะเป็น Typical Floor Plan ได้ห้องพักเต็มชั้น มีทั้งหมด 30 ยูนิต/ชั้น ห้องพักทางฝั่งทิศเหนือ วิว The Core Lagoon
ยูนิตที่ 3 และ 17 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.80-46.05 ตร.ม. / ยูนิตที่ 4-5 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.85 ตร.ม. และยูนิตที่ 6-16 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.40 ตร.ม.
ห้องพักทางฝั่งทิศใต้ ยูนิตที่ 1-2 / 18-19 และ 21-26 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80-23.25 ตร.ม. / ยูนิตที่ 27-30 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25 ตร.ม. ทั้งหมดค่ะ
แปลนอาคาร C
แปลนอาคาร C ชั้น 1 อาคารรูปตัว L ได้ห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้นตั้งแต่ชั้น 1 ส่วนในอาคารจะประกอบไปด้วย Lobby, Laundry, Delivery Station และ Mailroom มีลิฟต์โดยสารระบบล็อกชั้น ให้อาคารละ 2 ตัว และมีบันไดหนีไฟให้ 2 จุด
ที่ชั้น 1 จะมีห้องพักทั้งหมดรวม 24 ยูนิต ห้องพักฝั่งทิศเหนือ วิว The Core Forest ยูนิตที่ 4-5 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.40-34.45 ตร.ม. / ยูนิตที่ 6-8 เป็นห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 9-12 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45-27.10 ตร.ม.
ห้องพักฝั่งทิศใต้ ยูนิตที่ 18-25 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80-23.15 ตร.ม. / ยูนิตที่ 26-27 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25 ตร.ม. ห้องพักฝั่งทิศตะวันออก จะมีเพียง 1 ห้อง เป็นห้องพักแบบ 2 Bedroom ขนาด 46.45 ตร.ม. ซึ่งห้องนี้จะได้วิว The Core Forest เช่นเดียวกัน
สุดท้ายจะเป็นห้องพักทางฝั่งทิศตะวันตก ที่มีอยู่ 4 ยูนิตด้วยกัน โดยยูนิตที่ 14 และ 17 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45 ตร.ม. และยูนิตที่ 15-16 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80 ตร.ม. ค่ะ
โดยห้องพักชั้นล่าง และห้องพักแบบ Duplex ชั้น 1-2 จะได้พื้นห้องชุดเป็นกระเบื้องยาง SPC ส่วนห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. จะ Access กับ The Core Forest ได้ค่ะ
แปลนอาคาร C ชั้น 2 จะมีห้องพักทั้งหมด 25 ยูนิต ห้องพักฝั่งทิศเหนือ วิว The Core Forest ยูนิตที่ 4-5 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.45 ตร.ม. / ยูนิตที่ 6-8 เป็นชั้น 2 ของแบบ 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 9-12 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.40-27.10 ตร.ม.
ส่วนห้องพักฝั่งทิศตะวันออก ที่ได้วิว The Core Forest เช่นกันนั้น จะเป็นห้องพักแบบ 2 Bedroom ขนาด 46.40 ตร.ม. และห้องพักฝั่งทิศใต้ ยูนิตที่ 18-25 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80-23.15 ตร.ม. / ยูนิตที่ 26-27 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25 ตร.ม.
ส่วนห้องพักทางฝั่งทิศตะวันตก จะมีอยู่ 4 ยูนิตด้วยกัน โดยยูนิตที่ 14 และ 17 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45 ตร.ม. และยูนิตที่ 15-16 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80 ตร.ม. ค่ะ
แปลนอาคาร C ชั้น 3-8 เป็น Typical Floor Plan ได้ห้องพักแบบเต็มชั้น มีทั้งหมด 28 ยูนิต/ชั้น ห้องพักทางฝั่งทิศเหนือ และทิศตะวันออก จะได้วิว The Core Forest ยูนิตที่ 3-5 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.45-34.80 ตร.ม. / ยูนิตที่ 6-12 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.40-27.10 ตร.ม. และยูนิตที่ 12X ฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 46.40 ตร.ม.
ห้องพักทางฝั่งทิศใต้ ยูนิตที่ 1-2 / 18-25 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80 ตร.ม. / ยูนิตที่ 26-28 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25-26.45 ตร.ม. และสุดท้ายห้องพักทางฝั่งทิศตะวันตก จะมีอยู่ 4 ห้อง โดยยูนิตที่ 15 และ 16 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80 ตร.ม. และยูนิตที่ 14 และ 17 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45 ตร.ม.
แปลนอาคาร D
แปลนอาคาร D ชั้น 1 อาคารรูปตัว L ฝั่งทิศเหนือจะเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ส่วนในอาคารจะประกอบไปด้วย Lobby, Laundry, Delivery Station และ Mailroom มีลิฟต์โดยสารระบบล็อกชั้น ให้อาคารละ 2 ตัว และมีบันไดหนีไฟให้ 2 จุด
ที่ชั้น 1 จะมีห้องพักทั้งหมด 13 ยูนิต ห้องพักฝั่งทิศใต้ ได้วิว The Core Forest ยูนิตที่ 3-4 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.40-34.45 ตร.ม. / ยูนิตที่ 5-7 เป็นห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 8-11 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45-27.10 ตร.ม.
นอกจากนั้นยังมีห้องพักทางฝั่งทิศตะวันออก ยูนิตที่ 12 ซึ่งจะวิว The Core Forest เช่นกัน และได้เป็นห้องใหญ่แบบ 2 Bedroom ขนาด 46.45 ตร.ม. สุดท้ายจะเป็นห้องพักทางฝั่งทิศตะวันตก ยูนิตที่ 14-15 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80-23.15 ตร.ม. และยูนิตที่ 12X จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45 ตร.ม.
โดยห้องพักชั้นล่าง และห้องพักแบบ Duplex ชั้น 1-2 จะได้พื้นห้องชุดเป็นกระเบื้องยาง SPC ส่วนห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. ที่อยู่ทางฝั่งทิศใต้ จะ Access กับ The Core Forest หรือสวนพักผ่อนได้ค่ะ
แปลนอาคาร D ชั้น 2 จะมีห้องพักทั้งหมด 24 ยูนิต ห้องพักฝั่งทิศใต้ วิว The Core Forest ยูนิตที่ 3-4 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.45 ตร.ม. ยูนิตที่ 5-7 เป็นชั้น 2 ของห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม.
และยูนิตที่ 8-11 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 25.40-27.10 ตร.ม. และมีห้องพักฝั่งทิศตะวันออก ที่ได้วิว The Core Forest เช่นกันนั้น จะเป็นห้องพักชั้น 2 ของ 2 Bedroom ขนาด 46.40 ตร.ม.
ห้องพักฝั่งทิศเหนือ ยูนิตที่ 17-22 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80 ตร.ม. / ยูนิตที่ 23-26 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25-26.45 ตร.ม. / ยูนิตที่ 16 จะเป็นห้องพักแบบ 2 Bedroom ขนาด 46.75 ตร.ม.
ส่วนห้องพักทางฝั่งทิศตะวันตก จะมีอยู่ 3 ยูนิตด้วยกัน โดยยูนิตที่ 12X จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45 ตร.ม. และยูนิตที่ 14-15 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80-22.85 ตร.ม. ค่ะ
แปลนอาคาร D ชั้น 3-8 เป็น Typical Floor Plan ได้ห้องพักแบบเต็มชั้น มีทั้งหมด 26 ยูนิต/ชั้น ห้องพักทางฝั่งทิศใต้ และทิศตะวันออก จะได้วิว The Core Forest ยูนิตที่ 2-4 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.45-34.80 ตร.ม. / ยูนิตที่ 5-11 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.40-27.10 ตร.ม. และยูนิตที่ 12 ฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 46.40 ตร.ม.
ห้องพักทางฝั่งทิศใต้ ยูนิตที่ 1 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 36.75 ตร.ม. / ยูนิตที่ 16 จะเป็นห้องพักแบบ 2 Bedroom ขนาด 46.75 ตร.ม. / ยูนิตที่ 17-22 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80 ตร.ม. และยูนิตที่ 23-26 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25-26.45 ตร.ม.
สุดท้ายห้องพักทางฝั่งทิศตะวันตก จะมีอยู่ 3 ห้อง โดยยูนิตที่ 14 และ 15 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80-22.85 ตร.ม. และยูนิตที่ 12X จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45 ตร.ม. ค่ะ
แปลนอาคาร E
แปลนอาคาร E ชั้น 1 อาคารรูปตัว I ฝั่งทิศเหนือจะเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ส่วนในอาคารจะประกอบไปด้วย Lobby, Laundry, Delivery Station และ Mailroom มีลิฟต์โดยสารระบบล็อกชั้น ให้อาคารละ 2 ตัว และมีบันไดหนีไฟให้ 2 จุด
ส่วนห้องพักจะอยู่ทางฝั่งทิศใต้ วิว The Core Lagoon มีทั้งหมด 14 ยูนิต / ยูนิตที่ 3-4 เป็นห้อง Studio ขนาด 22.70-23.10 ตร.ม. / ยูนิตที่ 5-15 เป็นห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 16 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.85 ตร.ม.
โดยห้องพักชั้นล่าง และห้องพักแบบ Duplex ชั้น 1-2 จะได้พื้นห้องชุดเป็นกระเบื้องยาง SPC ส่วนห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. ที่อยู่ทางฝั่งทิศใต้นั้น จะ Access กับ The Core Lagoon หรือสระว่ายน้ำได้ค่ะ
แปลนอาคาร E ชั้น 2 มีห้องพักทั้งหมด 26 ยูนิต ห้องพักทางฝั่งทิศใต้ วิว The Core Lagoon ยูนิตที่ 3-4 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.85 ตร.ม. / ยูนิตที่ 5-15 เป็นชั้น 2 ของห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 16 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.85 ตร.ม.
ส่วนห้องพักทางฝั่งทิศเหนือ ยูนิตที่ 19-24 จะเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 22.80-23.25 ตร.ม. / ยูนิตที่ 18 และ 25-28 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25-26.50 ตร.ม. และยูนิตที่ 17 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.85 ตร.ม.
แปลนอาคาร E ชั้น 3-8 จะเป็น Typical Floor Plan ได้ห้องพักเต็มชั้น มีทั้งหมด 28 ยูนิต/ชั้น ห้องพักทางฝั่งทิศใต้ เป็นวิว The Core Lagoon โดยยูนิตที่ 2 จะเป็นห้องพักแบบ 2 Bedroom ขนาด 46.05 ตร.ม. / ยูนิตที่ 3-4 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.85 ตร.ม. / ยูนิตที่ 5-15 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.40 ตร.ม. และยูนิตที่ 16 เป็นห้องพักแบบ1 Bedroom Plus ขนาด 34.80 ตร.ม.
ส่วนห้องพักทางฝั่งทิศเหนือ ยูนิตที่ 1 และ 18 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50-34.75 ตร.ม. / ยูนิตที่ 19-24 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80-23.25 ตร.ม. และยูนิตที่ 25-28 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25 ตร.ม. ทั้งหมดค่ะ
แปลนอาคาร F
แปลนอาคาร F ชั้น 1 อาคารรูปตัว L ทิศเหนือจะเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ส่วนในอาคารจะประกอบไปด้วย Lobby, Laundry, Delivery Station และ Mailroom มีลิฟต์โดยสารระบบล็อกชั้น ให้อาคารละ 2 ตัว และมีบันไดหนีไฟให้ 2 จุด
ส่วนห้องพักจะอยู่ทางฝั่งทางทิศใต้ วิว The Core Terrain มีทั้งหมด 9 ยูนิต / ยูนิตที่ 1-3 เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.45-27.00 ตร.ม. / ยูนิตที่ 4-6 เป็นห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 7-9 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.40-34.85 ตร.ม.
โดยห้องพักชั้นล่าง และห้องพักแบบ Duplex ชั้น 1-2 จะได้พื้นห้องชุดเป็นกระเบื้องยาง SPC และฝั่งทิศใต้จะได้วิว The Core Terrain ส่วนห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. จะ Access กับ The Core Terrain หรือสวนได้นั่นเองค่ะ
แปลนอาคาร F ชั้น 2 มีห้องพักทั้งหมด 26 ยูนิต โดยห้องทางฝั่งทิศใต้ จะได้วิวสวน The Core Terrain มีทั้งหมด 9 ยูนิต / ยูนิตที่ 1-3 เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.40-27.00 ตร.ม. / ยูนิตที่ 4-6 เป็นชั้น 2 ของห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. และยูนิตที่ 7-9 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.45-34.80 ตร.ม.
ส่วนห้องพักทางฝั่งทิศใต้ มีห้องพักทั้งหมด 14 ยูนิต โดยห้องพักยูนิตที่ 10-11 และ 16-23 จะเป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.25-23.25 ตร.ม. / ยูนิตที่ 12-15 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25-26.50 ตร.ม.
และห้องพักทางทิศตะวันออก มีทั้งหมด 4 ยูนิต โดยยูนิตที่ 24 และ 27 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45 ตร.ม. และยูนิตที่ 25-26 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80 ตร.ม. ค่ะ
แปลนอาคาร F ชั้น 3-8 เป็น Typical Floor Plan มีห้องพักทั้งหมด 28 ยูนิต โดยห้องทางฝั่งทิศเหนือ จะได้วิวสวน The Core Terrain ยูนิตที่ 1-6 เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.40-27.00 ตร.ม. / ยูนิตที่ 7-9 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.45-34.80 ตร.ม.
ห้องพักทางฝั่งทิศเหนือ ยูนิตที่ 10 จะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. / ยูนิตที่ 11-15 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25-26.50 ตร.ม. / ยูนิตที่ 16-22 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80-23.00 ตร.ม. และยูนิตที่ 23 จะเป็นห้องพักแบบ 2 Bedroom ขนาด 45.75 ตร.ม. ค่ะ
ส่วนห้องพักทางฝั่งทิศตะวันออก มีทั้งหมด 3 ยูนิต โดยยูนิตที่ 24 และ 25 เป็นห้องพักแบบ Studio ขนาด 22.80-23.00 ตร.ม. และยูนิตที่ 26 เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.45 ตร.ม.
และสุดท้ายห้องที่เพิ่มขึ้นมา จะอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก ได้วิว The Core Terrain เป็นห้องพักแบบ 2 Bedroom ขนาด 46.35 ตร.ม.ค่ะ
แบบห้องพัก
โครงการ Nue Core Khu Khot Station มีห้องพักให้เลือกหลายแบบ ดังนี้ค่ะ
แปลนห้องพักแบบ Studio ขนาดประมาณ 22.70-23.25 ตร.ม.
แปลนห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาดประมาณ 26.25-27.10 ตร.ม.
แปลนห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดประมาณ 34.40-34.90 ตร.ม.
แปลนห้องพักแบบ 2 Bedroom ขนาดประมาณ 45.75-46.45 ตร.ม.
แปลนห้องพักแบบ 2 Bedroom Duplex ขนาดประมาณ 59.30 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เรามีห้องตัวอย่างมาให้ชมทั้งหมด 2 แบบ ด้วยกัน ได้แก่
โดยทางโครงการจะขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Furnished สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมีดังนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25 ตร.ม.
แปลนห้องตัวอย่าง แบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25 ตร.ม. เป็นห้อง Type เริ่มต้นของ 1 Bedroom ออกแบบให้เป็นห้องพักหน้ากว้าง แบ่งฟังก์ชันการใช้งานภายในได้อย่างเป็นสัดส่วน โดย Type นี้จะได้เป็นห้องครัวปิด ติดระเบียง ซึ่งจะช่วยป้องกันกลิ่น ควัน จากการประกอบอาหาร ไม่ให้ออกไปรบกวนส่วนพักผ่อนได้ และยังสามารถระบายอากาศออกไปทางระเบียงได้ด้วย
ส่วนการวาง Layout ภายใน จะได้เฟอร์นิเจอร์ Fully Furnished ครบทั้งห้อง เข้ามาจะเจอกับ Living Area ที่รวมห้องนั่งเล่น และมุมทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ไว้ในพื้นที่เดียวกัน ต่อเนื่องไปเป็นห้องครัวปิด และระเบียงพักผ่อน
ขวามือจะเป็นห้องนอน ที่มีประตูไม้ปิดมิดชิดแยกเป็นสัดส่วน ภายในจะได้โต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมสตูล 1 ที่นั่ง, ตู้เสื้อผ้า และเตียงนอน 5 ฟุตมาครบ และมีฟังก์ชันของห้องน้ำในตัว ที่แยกส่วนแห้ง และส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อยค่ะ
เริ่มกันที่ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.25 ตร.ม. เป็น Type เริ่มต้นของห้องพักรูปแบบ 1 Bedroom ประตูทางเข้าห้องพักจะได้เป็นบานไม้ HDF พร้อมกลอน Digital Door Lock ของ Home Shield มือจับแบบก้านโยก เปิด-ปิดได้สะดวก
โดยกลอน Digital Door Lock ของโครงการนี้ จะสามารถใช้งานได้มากถึง 5 ระบบ Bluetooth App / Finger Scan / Passcode / RF Card และ Key (ไขกุญแจ) ในกรณีที่ถ่านหมดค่ะ
เปิดประตูเข้ามาภายในห้องพัก จะเจอกับ Living Area ต่อเนื่องไปเป็นห้องครัวปิด ขวามือเป็นห้องนอน ที่มีห้องน้ำตั้งอยู่ที่ด้านใน ฟังก์ชันห้องนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเองที่ห้อง อยู่ 2 คน ได้สบาย ๆ เพราะมีห้องนั่งเล่น ที่แยกส่วนกับห้องนอน และครัวอย่างชัดเจน ทำให้แต่ะละคนมี Space ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
วัสดุมาตรฐานที่ให้มากับห้อง คือจะได้ฝ้าเพดานสูง 2.45 ม. พื้นห้องปูลามิเนตลายไม้สีอ่อน หนา 8 มม. (ยกเว้นชั้น 1 จะได้เป็นพื้นกระเบื้อง SPC ลายไม้) ผนังห้องและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี โคมไฟในห้องพักได้เป็น LED Panel ทรงกลมทั้งห้อง และอย่างทีบอกไปว่าโครงการนี้ ขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Furnished พร้อมแอร์ 2 เครื่อง
สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับไปคือเฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัวลายไม้สี Dark Cornwall Oak และสี Earth Tone ที่ดูสบายตา โดยเฟอร์นิเจอร์จะถูกออกแบบมาให้ลงตัวกับห้องพัก Type นั้น ๆ เรียกได้ว่าเมื่อคอนโดสร้างเสร็จ เราซื้อของเพิ่มอีกไม่กี่ชิ้น ก็เข้าอยู่ได้เลยนั่นเอง
ห้องนั่งเล่นจะตั้งอยู่ทางด้านหน้าห้อง ได้โซฟา Love Seat พร้อมโต๊ะกาแฟด้านหน้า และชุดโต๊ะทานข้าวดีไซน์ทันสมัยมา 1 ชุด
ได้โซฟาผ้าสีเทาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมพนักวางแขน ด้านหน้าจะได้โต๊ะกาแฟ พร้อมช่องวางของที่ด้านล่างมา 1 ตัว
ถัดมาจะได้โต๊ะทานข้าวทรงกลมสีขาว ขาไม้สี Dark Cornwall Oak, เก้าอี้มีพนักพิงสีน้ำตาล ขาเหล็กสีดำ พร้อมเบาะนั่งบุนวมสีเทา 2 ตัวค่ะ
ตรงข้ามกันจะเป็นพื้นที่ของตู้เก็บของ-ตู้เก็บรองเท้า และชั้นวางทีวี ผนังด้านบนติดแอร์ Daikin Inverter ขนาด 9,000 BTU มาให้ 1 เครื่อง โดยตำแหน่งจะอยู่ตามแบบในภาพเลยค่ะ
ติดกับประตูห้องพัก จะได้ตู้บานเปิด 2 ตู้ โดยตู้ตัวล่างจะเป็นตู้เก็บรองเท้า พร้อมช่องระบายอากาศ ภายในมีชั้นวางรองเท้าแบบลาดเอียงให้ทั้งหมด 4 ชั้น ส่วนตู้ตัวบน จะมีชั้นลอยให้ทั้งหมด 3 ชั้น เหมาะสำหรับเก็บของส่วนตัว หรือของที่ต้องการหยิบใช้บ่อย ๆ อย่างกระเป๋าถือ, หนังสือ, เอกสารสำคัญต่าง ๆ หรือจะใช้เก็บของอื่น ๆ ก็ทำได้ตามต้องการค่ะ
ติดกันจะเป็นชั้นวางทีวี หน้าชั้นจะรองรับทีวีได้ตั้งแต่ 40-55 นิ้ว ด้านล่างมีตู้เก็บของบานเปิดให้ 2 ตู้ ตรงกลางจะเป็นชั้นวางของ มีมาให้รวม 2 ชั้น ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ และช่องเสียบสาย Cable TV มาให้พร้อมต่อใช้งานค่ะ
มองกลับมาทางฝั่งหน้าห้อง ระยะห่างจากโซฟา-ชั้นวางทีวี มีเหลือประมาณ 1.5 ม.* นั่งดูหนัง ดูซีรีส์ หรือเล่นเกมได้ในระยะสายตาที่ดี ทั้งยังมีพื้นที่เหลือให้เราเดินเข้า-ออกห้องพักได้พอสะดวกค่ะ
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปจะเป็นที่ตั้งของห้องครัวปิด แยกส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 1 ฝั่ง ความสูงจรดฝ้าเพดาน ข้อดีของประตูแบบ Full Height คือจะช่วยให้ห้องโปร่ง โล่ง ใช้งานได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด และยังใช้รับแสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนั่งเล่นได้อีกด้วย
ห้องครัวขนาด Compact ได้ชุดครัว Built-in มาทั้ง 2 ฝั่ง ตรงกลางจะมีพื้นที่เหลือกว้าง ประมาณ 1.2 ม.* ถือเป็นระยะมาตรฐาน ที่สามารถยืนล้างจาน, เปิดตู้เย็น, เตรียมอาหาร, ทำอาหาร, ซัก-เก็บผ้า รวมถึงเดินเข้า-ออกไประเบียงได้สะดวก
ขวามือจะจัดเป็นมุมทำอาหารและตู้เก็บของบน-ล่าง ติดกันเป็นพื้นที่วางตู้เย็น ในห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ขนาด ประมาณ 80 x 60 ซม.* รองรับตู้เย็น 6-8 คิว* ได้กำลังดี ที่ผนังด้านหลังจะมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้ 1 ชุด พร้อมเสียบต่อใช้งานได้เลย
หน้าท็อปครัวได้เป็นหินสังเคราะห์สีขาว มีข้อดีคือไม่มีรูพรุน แข็งแรงทนทาน ทนต่อความชื้น ทนต่อกรดด่างได้ดี ทำความสะอาดได้ง่าย และดูหรูหรา สวยงาม ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้มา จะมีเตา Induction 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบ Touch Screen พร้อมเครื่องดูดควัน Slimline ของ Teka ทั้งชุด และจากภาพจะเห็นว่ารอบ ๆ ยังพอมีพื้นที่เหลือให้วางเครื่องปรุงอาหาร และของใช้อื่น ๆ ได้อีกเล็กน้อยค่ะ
ด้านล่างจะได้ลิ้นชักรางเลื่อนพร้อมถาดจัดระเบียบช้อน-ส้อมมา 1 ชั้น และได้ตู้เก็บของบานเปิดมา 1 ตู้ เหมาะสำหรับทำเป็นตู้ Stock อุปกรณ์ของใช้ หรืออุปกรณ์น้ำยาทำความสะอาดภายในบ้าน
ส่วนด้านบนจะได้ตู้เก็บของบานเปิดมา 2 ตู้ สามารถเก็บถ้วย, ชาม, แก้วกาแฟ และอาหารแห้งได้เยอะดี ตู้ซ้ายจะเป็นตู้โล่ง เหมาะกับการเก็บขวดเครื่องปรุงอาหาร หรืออุปกรณ์ทำครัวที่มีความสูงกว่าปกติ ส่วนตู้ขวาจะมีชั้นลอยแบ่งมาให้ เพื่อการเก็บของชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นระเบียบมากขึ้น
ซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร, ล้างจาน และซักผ้า ซึ่งฝั่งนี้จะมีตู้เก็บของบน-ล่างมาให้ครบเซ็ตเช่นเดียวกัน
Spec ของจะได้มาเหมือนกับฝั่งทำอาหาร คือเป็นท็อปหินสังเคราะห์สีขาว ฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสเกรดพรีเมียม แบบหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกน้ำก้านโยกทรงสูงของ Teka มาให้ พื้นที่ส่วนที่เหลือ สามารถทำเป็น Station ในการเตรียมอาหารเช้า, ทำเป็นมุมชงชา-กาแฟ หรือใช้เป็นพื้นที่ในการทำขนมง่าย ๆ ได้
ด้านบนจะได้ตู้เก็บของบานเปิดมา 1 ตู้ ด้านล่างเป็นช่องสำหรับวางไมโครเวฟขนาดมาตรฐาน ที่ผนังด้านหลังจะมีเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ 1 จุด ติดกันจะมีชั้นวางของมาให้อีก 2 ช่อง ความสูงในแต่ละชั้น จะรองรับการวางหม้อ, กระทะ, ถ้วยกาแฟ, แก้วไวน์ และของใช้ในครัวอื่น ๆ ได้สบาย ๆ
ด้านล่างจะได้ตู้บานเปิดใต้ซิงค์ล้างจานมา 1 ตู้ ภายในเป็นตู้โล่ง ๆ ที่มีการปูแผ่นอะลูมิเนียมกันน้ำมาให้ เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์เครื่องมือช่างประจำบ้าน เพื่อการหยิบใช้ได้ง่าย ติดกันจะเป็นช่องวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7 กก.* ด้านหลังจะมีการเดินงานระบบไฟฟ้า และระบบประปามาให้พร้อมต่อใช้งานได้เลย
จากห้องครัวออกไปจะเป็นส่วนของระเบียงซักล้าง ตรงนี้จะแยกโซนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สีดำ เปิดได้ 2 ทาง พร้อมยกธรณี-วงกบ สูงขึ้นมา ประมาณ 15 ซม.* เพื่อป้องกันน้ำฝน กันความชื้น และสิ่งสกปรกไม่ให้พัดเข้าสู่ห้องพักโดยตรงได้
เปิดออกมาจะเจอกับระเบียงหน้ากว้าง เจาะท่อน้ำทิ้งมาให้เรียบร้อย ตัวพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเบจ 30 x 30 ซม. และมีพื้นที่ใช้สอย ประมาณ 2.4 x 0.80 ม.* รองรับการวางราวตากผ้าขนาดกลาง, เก้าอี้พักผ่อนแบบเดี่ยว หรือจะจัดเป็น Pocket Garden หรือใช้เป็นพื้นที่ปลูกผักสวนครัวแนวตั้งก็ทำได้
ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กแนวตั้งทาสีดำ ความสูงจากพื้นถึงมือจับประมาณ 1 ม.* อีกฝั่งจะมีกริลระแนงบัง CDU แอร์ ติดมาให้สูงจรดฝ้าเพดาน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และที่เพดานจะติดโคมไฟทรงกลมสไตล์โมเดิร์นมาให้ 1 ดวง
จากระเบียงมองกลับเข้ามาดูภาพรวมทางฝั่งหน้าห้องพัก
ออกจากห้องครัวไปดูห้องนอน และห้องน้ำกันต่อค่ะ ในส่วนของประตูห้องนอน จะได้เป็นประตูไม้ HDF มือจับก้านโยกฝังล็อก
เข้ามาด้านในจะเจอกับห้องนอนทางฝั่งซ้ายมือ และขวามือจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำ
ภายในห้องนอนจะมีพื้นที่กว้างกำลังดี ลูกค้าได้เฟอร์นิเจอร์ครบเซ็ต ยกเว้น ที่นอน, ของตกแต่งห้อง, ทีวี และผ้าม่าน
สิ่งที่ได้ก็จะมีฐานเตียงนอน พร้อมพนักพิงหลังลายไม้สี Dark Cornwall Oak ขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงทรงกลมดีไซน์น่ารัก ๆ มาอีก 1 คู่
ในห้องนอนจะได้หน้าต่างกระจกบาน Oversized ที่มีทั้งแบบบานเลื่อน ไว้เปิดรับลม ระบายอากาศ และบาน Fixed ล่างที่ใช้เป็นตัวช่วยในการนำแสงธรรมชาติเข้ามาใช้งานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ทั้งยังช่วยให้ภายในห้องนอนดูโปร่ง โล่ง พักผ่อนได้สบาย ๆ
ปลายเตียงนอนจะเป็นผนังเปล่าโล่ง ๆ นะคะ ห้องจริงเราสามารถติดชั้นวางของแนวยาว สลับซ้าย-ขวาหลาย ๆ ชั้นได้ จะเอาไว้วางกรอบรูป หรือของตกแต่งบ้านอื่น ๆ ก็ทำได้ตามใจชอบ
ทั้งยังติดทีวีแขวนผนังจอใหญ่จุใจได้เลย เพราะตรงนั้นจะมีการเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ และช่องเสียบสาย Cable TV มาให้เรียบร้อย ที่ผนังด้านบนจะติดตั้งแอร์ Daikin Inverter ขนาด 9,000 BTU มาให้กับห้อง 1 เครื่อง
อีกฝั่งของห้องจะเป็นที่ตั้งของพื้นที่แต่งตัว และห้องน้ำ
ห้องนี้จะได้ตู้เสื้อผ้าบานเปิดความสูงถึงฝ้าเพดาน 1 ตู้ หน้าบ้านจะแบ่งเป็นลายไม้สี Dark Cornwall Oak และอีกฝั่งจะเป็นกระจกเงาบานสูง ยืนส่องได้เต็มตัว
ติดกับตู้เสื้อผ้าจะได้โต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมลิ้นชักเก็บของ และสตูลผ้า 1 ตัว และข้าง ๆ กันจะเป็นประตูทางเข้าไปยังห้องน้ำ ตรงนี้จะได้ธรณีเป็นหินแกรนิตที่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่บวมน้ำเหมือนลามิเนตทั่ว ๆ ไปค่ะ
เข้ามาด้านในจะเป็นห้องน้ำหน้ากว้าง แบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย แต่ห้องจริงจะไม่มี Shower Box และไฟ LED ใต้กระจกเงา ส่วนสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ติดตั้งมาให้ตำแหน่งตามภาพ ส่วนกระเบื้องพื้น และผนัวจะได้เป็นโทนสีอ่อน ซึ่งจะช่วยให้ห้องน้ำดูกว้าง สะอาด และสบายตา
ส่วนแห้งจะได้อ่างล้างหน้า Acrylic ทรงเหลี่ยม พร้อมตู้เก็บของบานเปิดลายไม้ของ Hafele ที่ด้านล่าง ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกของ Cotto เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวก ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush รุ่น Comfort Clean ผนังติดกระจกเงาบานใหญ่ให้ 1 บาน ด้านข้างทางฝั่งซ้ายมือมีชั้นวางของลายไม้มาให้แบบในภาพ และที่เพดานจะได้พัดลมระบายอากาศมา 1 เครื่องค่ะ
ถัดไปเป็นส่วนอาบน้ำ ของจริงไม่ได้มี Shower Box ให้นะคะ ซึ่งถ้าใครชอบความเป็นสัดส่วนสามารถซื้อมาติดเพิ่มเองได้ค่ะ
ส่วนอาบน้ำมีการยกธรณีกันน้ำไหลออกมาให้ พื้นที่ใช้งานด้านในขนาดกว้างกำลังดี ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ
ภายในติดฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ ของ American Standard มาให้ ผนังข้าง ๆ ติดชั้นวางของและที่วางสบู่ฝังผนังหินสังเคราะห์สีขาวมาให้แบบในภาพ ส่วนด้านบนจะมีการเดินงานระบบไฟฟ้า ติด Junction Box รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้อย่างปลอดภัยค่ะ
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอน
ห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม.
แปลนห้องตัวอย่าง แบบ 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. จุดเด่นของห้อง Duplex โครงการนี้คือจะมีประตูทางเข้าห้องให้ทั้งหมด 2 ชั้น คือที่ชั้น 1 และชั้น 2 เลือกได้เลยว่าจะใช้ประตูไหน เข้ามาภายในชั้น 1 จะเจอกับ Service Zone ซ้ายมือเป็นห้องครัวเปิด ขวามือเป็นตู้เก็บรองเท้า และบันไดทางขึ้นไปชั้น 2
ต่อเนื่องไปจะเป็น Living Area พร้อม Double Volume ตรงก่อนถึงระเบียง ที่มีความสูงถึง 5.25 ม. ด้านนอกจะเป็นระเบียงหน้ากว้าง ที่มีประตูเล็กให้ใช้เปิดเชื่อมต่อกับสวนหรือสระว่ายน้ำได้ และซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำแบบ Double Access ติดกันจะเป็นห้องนอน ซึ่งได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานต่าง ๆ มาครบเช่นเดียวกัน
ขึ้นไปที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงเล็ก ๆ ที่ใช้เชื่อมระหว่างประตูที่ชั้น 2 และห้องนอน Master Bedroom ภายในเป็นห้องหน้ากว้างขนาดใหญ่ จัดฟังก์ชันการใช้งานมาให้ครบ โดยจะมีทั้งส่วนพักผ่อน สำหรับวางเตียงนอน ปลายเตียงมีหน้าต่างช่องแสงบานผสมขนาดใหญ่ มองออกไปจะเจอกับ Double Volume และ Living Area ที่ชั้นล่าง
ซ้ายมือจะเป็น Walk-in Closet ที่มีประตูกระจกบานเลื่อนปิดชิด พร้อมตู้เสื้อผ้าแบบเปิดเข้ามุมที่ภายใน ติดกันจะเป็นทางเข้าสู่ห้องน้ำ ที่มีการแบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อยค่ะ
มาต่อกันที่ห้อง 2 Bedroom Duplex ขนาด 59.30 ตร.ม. กันค่ะ สำหรับห้อง Type นี้ จะเป็นห้องแบบใหม่ล่าสุดของแบรนด์ ‘Nue’ โดยตำแหน่งของห้องจะอยู่ที่ชั้น 1-2 ในทุก ๆ อาคาร และความพิเศษของห้อง Type นี้ คือจะสามารถ Access ออกไปยังสวนหรือสระว่ายน้ำได้
ทั้งยังขายห้องพักให้แบบ Fully Furnished เช่นเดิม แต่จะมีการอัปเกรด Spec พื้นห้องพักจากลามิเนตลายไม้ มาเป็นกระเบื้อง SPC ลายไม้ ซึ่งจะได้มาเหมือนกันทั้งชั้น 1 และชั้น 2 เลยค่ะ
เข้ามาในห้องจะเจอกับโถงทางเดินที่ใช้แยกไปยังส่วนต่าง ๆ โดยขวามือจะเป็นตู้เก็บรองเท้า, โถงบันได ถัดเข้าไปเป็น Living Area ส่วนซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งของห้องครัวเปิด, ห้องน้ำแบบ Double Access และห้องนอน 1 ส่วนฝ้าเพดานชั้น 1-2 จะสูงมาตรฐานที่ 2.45 ม. ค่ะ
ห้องครัวขนาด Compact ได้ชุดครัว Built-in รูปแบบ L-Shape พร้อมตู้เก็บของบน-ล่าง ข้าง ๆ กันเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ซึ่งจะรองรับตู้เย็นขนาด 6-8 คิว* ได้กำลังดี ผนังด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้พร้อมเสียบต่อใช้งาน
หน้าท็อปเป็นหินสีงเคราะห์สีขาวเช่นเดิม ซ้ายมือจะเป็นส่วนของซิงค์ล้างจาน ขวามือจะเป็นส่วนของการประกอบอาหาร และที่ผนังส่วนนี้จะมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้ 1 จุด รองรับการเสียบต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
ส่วนทำอาหารจะได้เตา Induction 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบ Touch Screen พร้อมเครื่องดูดควัน Slimline ของ Teka รอบ ๆ มีพื้นที่เหลือให้วางเครื่องปรุงอาหาร และของใช้ได้พอสมควร
อีกฝั่งจะได้ซิงค์ล้างจานสแตนเลสฝังเคาน์เตอร์ พร้อมก๊อกน้ำทรงสูง แบบก้านโยกของ Teka ทั้งชุด รอบ ๆ มีพื้นที่เหลือให้วางขวดน้ำยาล้างจาน และที่พักจานได้สบาย ๆ
ด้านบนจะได้ตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นลอย และชั้นวางของมาหลายตู้หลายชั้น เก็บของใช้ต่าง ๆ ได้เยอะ โดยฝั่งซ้ายเหนือซิงค์ล้างจานจะมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ ที่มีเต้าเสียบปลั๊กไฟที่ด้านในติดมาให้ครบค่ะ
ส่วนด้านล่างก็จะมีตู้เก็บของบานเปิด และลิ้นชักพร้อมถาดใส่ช้อนส้อมมาให้ ใต้มุมทำอาหารจะมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7 กก.* ด้านหลังมีการเดินงานระบบประปา และระบบไฟฟ้าให้ครบ พร้อมต่อใช้งานได้เลยค่ะ
จากห้องครัวมองไปฝั่งตรงข้าม จะเป็นที่ตั้งของตู้เก็บรองเท้า และบันไดขึ้นไปชั้น 2
ด้านในมีตู้มีช่องระบายอากาศให้เช่นเดิม และมีชั้นวางรองเท้ามาให้ 3 ชั้น แต่ละชั้นแบ่งช่องได้สูงดีนะ รองรับการเก็บรองเท้าส้นสูง หรือรองเท้า Sneakers คู่ใหญ่ ๆ ได้สบาย
ถัดจากด้านหน้าห้องเข้าไปดู Living Area กันต่อ ตรงนี้เค้าจะรวมมุมทานอาหาร และห้องนั่งเล่นเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
ห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีนะคะ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับ ก็จะมีโซฟาผ้าสีเทา ขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกาแฟ 1 ตัว และได้โต๊ะทานอาหารสีขาว ขาโต๊ะลายไม้ และเก้าอี้มีพนักพิง พร้อมเบาะนั่งสีเทาดีไซน์สวย ทันสมัย ตามแบบฉบับของ Noble แบบนี้เลยค่ะ
ตรงข้ามกันจะได้ตู้วางทีวีลายไม้ ความกว้าง ประมาณ 1.5 ม.* รองรับการวางทีวีได้สูงสุด 55 นิ้ว* ด้านล่างยังมีตู้เก็บของให้อีก 2 ตู้ และมีชั้นลอยให้วางของตรงกลางได้อีก 2 ชั้น
ระยะนั่งดูหนัง ดูซีรีส์สบาย ๆ ทั้งยังมีพื้นที่ให้เดินเข้า-ออกไปยังระเบียงได้สะดวก
ถัดจาก Living Area ออกไปจะเป็นระเบียงพักผ่อน แยกส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอะลูมิเนียมสีดำ มีการยกธรณี-วงกบสูงขึ้นมา ประมาณ 10 ซม.* เพื่อป้องกันฝุ่น, น้ำฝน ไม่ให้พัดเข้าสู่ห้องพักโดยตรงได้
แต่ก่อนจะออกไประเบียง Highlight มันอยู่ที่ตรงนี้เลย คือ Double Volume ที่มีความสูงถึง 5.25 ม. และที่ผนังด้านบนจะมีช่องแสงบาน Fixed ขนาดใหญ่ติดมาให้ ทำให้ห้องพักทั้งชั้น 1 และ 2 ได้รับแสงสว่างอย่างเต็มที่ ทั้งยังสามารถมองวิวสระ หรือวิวสวนตามยูนิตที่เลือกได้ตลอดทั้งวันเลยค่ะ
ออกมาด้านนอกจะเป็นระเบียงหน้ากว้าง ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเบจ 30 x 30 ซม. ส่วนราวกันตกมองดี ๆ จะมีประตูบานเปิด ให้ใช้เชื่อมสู่สวน หรือสระว่ายน้ำได้เลยค่ะ
มองไปทางซ้ายมือจะเห็นห้องนอนผ่านกระจกเข้ามุมแบบนี้
จากระเบียงมองขึ้นไปที่ชั้น 2 จะเป็นช่องแสงบาน Fixed ขนาดใหญ่ และห้องนอน 2
จากระเบียงมองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องพักชั้น 1
ไปดูห้องนอน และห้องน้ำที่อยู่ด้านกันต่อเลยค่ะ
เริ่มจากห้องนอนกันก่อน ภายในได้พื้นที่ใช้สอยมากว้างกำลังพอดี ได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานมาครบชุดเลย ทั้งฐานเตียงนอนลายไม้ ขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้า 3 บานเปิด
ตู้เสื้อผ้าได้มา 3 บานเปิด ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ตู้ หน้าบานเป็นลายไม้สี Dark Cornwall Oak และมีบานที่เป็นกระจกเงาทรงสูง ยืนส่องเช็กความเรียบร้อยได้แบบเต็มตัว ภายในตู้มีฟังก์ชันให้ครบ ทั้งราวแขวนผ้าบน-ล่าง, ลิ้นชักเก็บของ และชั้นวางของด้านบน
ถัดมาจะได้ฐานเตียงนอน 5 ฟุต วางชิดหน้าต่างกระจกเข้ามุม ทำให้ชมวิวสระ วิวสวนได้กว้างเต็มสายตา และด้วยขนาดของหน้าต่างที่ใหญ่มาก ๆ จะช่วยเปิดรับแสงสว่างในตอนกลางวันได้อย่างเต็มที่ และยังช่วยให้ห้องนอนมีความโปร่ง โล่ง มากขึ้นอีกด้วยค่ะ
อย่างที่บอกไปว่าได้หน้าต่างกระจกเข้ามุม รูปแบบเป็นหน้าต่างกระจก บานกรอบอะลูมิเนียมสีดำ ซึ่งจะมีทั้งแบบบาน Fixed และบานเลื่อน ไว้เปิดรับลม ระบายอากาศ
ส่วนปลายเตียงนอนจะเป็นผนังเปล่าโล่ง ๆ สามารถติดทีวีแขวนผนัง หรือติดชั้นวางของเสริมเข้าไปได้ ผนังด้านหลังมีการเดินงานระบบมาให้พร้อมต่อใช้งาน
ติดกับประตูทางเข้าห้องนอน จะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำที่เข้าจากห้องนอนได้ ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนมีห้องน้ำในตัวเลย และที่ด้านบนของประตูห้องน้ำ โครงการติดแอร์ Daikin Inverter ขนาด 9,000 BTU มาให้ด้วย 1 เครื่องค่ะ
จากห้องนอนตรงเข้ามา จะได้ Feeling ห้องน้ำแบบหน้ากว้างตามภาพ
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ตอนแรก ว่าห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Double Access ก็คือจะมีประตูเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากโถงด้านนอก และจากห้องนอน 1 / เหนือประตูห้องน้ำด้านนอก จะติดแอร์ Daikin Inverter มาให้เช่นกันค่ะ
จากทางเข้าด้านนอกเข้ามาห้องน้ำ จะได้ Feeling เป็นห้องน้ำตอนลึก ภายในมีการตกแต่งกระเบื้องลายหิน และกระเบื้องสีอ่อน ดูสวยงาม และผ่อนคลาย พร้อมแบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย
สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะติดตั้งมาให้ตำแหน่งตามภาพ ได้ตัวช่วยในการระบายอากาศเป็นพัดลมแบบฝังเพดาน 1 เครื่อง ส่วนสิ่งที่ไม่ได้ก็จะเป็นไฟ LED ใต้กระจก และ Shower Box แค่ 2 อย่างค่ะ
อ่างล้างหน้า Acrylic ทรงเหลี่ยม หน้าอ่างมีพื้นที่ให้วางของใช้ได้เล็กน้อย ได้ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกของ Cotto เปิด-ปิดใช้งานสะดวก ส่วนด้านล่างจะเป็นตู้เก็บของบานเปิดลายไม้ของ Hafele ภายในมีพื้นที่ให้วางอุปกรณ์ในห้องน้ำได้พอสมควร หรือใครจะทำเป็นตู้ Stock พวกสบู่อาบน้ำ, แชมพู, ครีมนวดผม, กระดาษทิชชู่ และสกินแคร์อื่น ๆ ก็ทำได้
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์รุ่น Comfort Clean ของ American Standard แบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่สแตนเลสครบชุด
ด้านในสุดจะเป็นส่วนอาบน้ำ มีการยกธรณีสูงขึ้นมาเล็กน้อย กันน้ำไหลออกมาด้านนอก ส่วนพื้นที่ภายในมีความกว้างกำลังดี ยืนอาบน้ำ ขัดผิวได้สบาย ๆ
ภายในจะได้ฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกของ American Standard ผนังติดชั้นวางของและที่วางสบู่หินสังเคราะห์สีขาว
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องชั้น 1
ขึ้นไปดูรายละเอียดบนชั้น 2 กันต่อ
บันไดเป็นรูปทรง U-Shape พร้อมราวจับลายไม้สี Dark Cornwall Oak แต่งด้วยแผ่นเหล็กสีน้ำตาล ส่วนลูกตั้งและลูกนอนได้เป็นไม้ยางพาราประสานสีอ่อน ดูสว่าง ผ่อนคลาย และช่วยให้เดินขึ้น-ลงได้สะดวก
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ซ้ายมือจะมีประตูทางเข้า-ออกห้องได้อีก 1 จุด เราสามารถกดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 2 เพื่อเข้าห้องนอนชั้นบนได้เลย ส่วนขวามือจะเป็นประตูทางเข้าห้องนอน พร้อมห้องน้ำส่วนตัวที่ด้านในค่ะ
ห้องนอน 2 จะเป็นห้องหน้ากว้าง เปรียบเสมือนห้อง Master Bedroom เพราะมีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องชั้นล่าง ในห้องจะได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานมาครบเซ็ต และมีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้มีความโปร่ง โล่ง พักผ่อนได้อย่างผ่อนคลาย
ขวามือเป็นส่วนของเตียงนอน ได้ฐานเตียงนอนลายไม้สี Dark Cornwall Oak พร้อมพนักพิงหลัง และโต๊ะข้างเตียงดีไซน์โมเดิร์น มาอีก 1 คู่ ส่วนรอบ ๆ เตียงมีระยะใช้งานสบาย ๆ เดินเข้า-ออก, ลุกขึ้น-ลงเตียงนอน รวมถึงเปลี่ยนผ้าปูที่นอน และทำความสะอาดพื้นได้สะดวก
ปลายเตียงนอนจะได้หน้าต่างกระจกบานผสมชุดใหญ่มาแบบนี้ โดยจะมีให้ทั้งแบบบานเลื่อน และบาน Fixed ผนังด้านล่างหน้าต่างมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้ 1 จุด
จากหน้าต่างตรงนี้จะสามารถมองลงไปเห็นบริเวณ Living Area ที่ชั้น 1 ได้
อีกฝั่งของห้องนอนจะเป็นที่ตั้งของระเบียง, Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว
ประตูทางออกไประเบียง จะเป็นประตูกรอบอะลูมิเนียมสีดำ ลูกฟักกระจก มือจับก้านโยก ช่วยรับแสงสว่างได้ดี และช่วยให้ห้องนอนดูโปร่งสบาย พร้อมยกธรณีสูงขึ้นมา ประมาณ 15 ซม.* กันความชื้น กันสิ่งสกปรกไม่ให้พัดเข้าสู่ห้องพักโดยตรง
เปิดออกมาจะเจอกับระเบียงขนาดพอเหมาะ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเบจ 30 x 30 ซม. พร้อมติดราวระแนงเหล็กสีดำเข้ามุมความสูง ประมาณ 1 ม.* และที่ผนังขวามือจะได้โคมไฟกิ่งมา 1 ดวง
ซ้ายมือจะเป็นจุดติดตั้งของ CDU แอร์ทั้งหมดของห้อง Type นี้ มีทั้งหมด 3 เครื่อง โดยจะปล่อยลมร้อนออกไปทางด้านนอกอาคาร ซึ่งจะช่วยให้เราใช้งานบริเวณระเบียงได้อย่างไม่ร้อนลมแอร์ และมีกริลระแนงเหล็กติดมาให้สูงจรดฝ้าเพดาน คุมภาพลักษณ์ของห้องพัก และอาคารให้ดูสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย
จากระเบียงชั้น 2 มองลงมาจะเห็นระเบียงชั้น 1 และถ้ามองตรงออกไปจะเห็นวิวสระ และวิวสวนตามยูนิตที่เราเลือกไว้
จากระเบียงมองกลับเข้ามาในห้องนอน ตำแหน่งแอร์ของห้องนี้จะอยู่ที่เหนือประตูห้องพัก ส่วนยี่ห้อจะเป็น Daikin Inverter เช่นเดิมค่ะ
ถัดไปจะเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำ ห้องจริงจะได้ประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอะลูมิเนียมสีดำ ความกว้างสุดขอบบล็อกแก้วที่ทางโครงการแต่งเพิ่มมาให้ดูเป็นไอเดีย
ภายในจะได้ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดโล่งสีไม้ Dark Cornwall Oak เข้ามุมมา 2 ตู้ สามารถแบ่ง His & Her ในกรณีอยู่แบบคู่รักได้ ฟังก์ชันของตู้มีให้ครบทั้งราวแขวนผ้าบน-ล่าง ชั้นวางของด้านบน และมีตู้เก็บของบานเปิดมาให้อีก 2 ตู้ด้วยกัน
ระยะใช้งานหน้าตู้เสื้อผ้ามีเหลือกว้างสบาย ๆ สามารถยืนแต่งตัว เลือกหยิบ-เก็บเสื้อผ้าได้สะดวก และที่ด้านหน้าจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำในตัวค่ะ
ห้องน้ำเป็นห้องตอนลึก ได้ฟังก์ชันส่วนแห้ง ส่วนอาบน้ำ, ลวดลายกระเบื้อง, ชุดสุขภัณฑ์, ชั้นวางของ และพัดลมระบายอากาศมาเหมือนกันกับห้องน้ำที่ชั้น 1 ทุกประการ
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอนชั้น 2
ราคา (ม.ค. 66)
คอนโดใหม่ติด รถไฟฟ้าคูคต เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์มอลล์ ห้องหน้ากว้าง เฟอร์ฯครบ เริ่ม 1.39 ล้าน*
พิเศษ! ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://nobleurl.com/3Rwjqfv
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Line @nuekhukhotstation หรือ Tel. 02-251-9955
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
บทสรุปโครงการ
♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : Nue Core Khu Khot Station คอนโดใหม่ใจกลางคูคต ที่จะมาเปลี่ยนย่านคูคต…ให้เป็นย่านโครตคูล โดยที่ตั้งของโครงการจะอยู่ติดถนนลำลูกกา ฝั่งขาออกเมือง ไม่ไกลจากจุดกลับรถ สามารถเชื่อมต่อเข้าเมือง-ออกเมืองได้ง่าย ทั้งยังมีจุดเด่นคืออยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีคูคต แบบ 0 ม.* ที่สำคัญโครงการยังมีการทำประตูทางเข้า-ออกให้ 3 ประตู เพื่อให้ลูกบ้านในโครงการ ที่ไม่ว่าจะอยู่ตึกไหน ก็เดินอออกมาขึ้นรถไฟฟ้ากันได้ง่ายมาขึ้น
ส่วนเรื่องของทำเลโครงการนั้น ต้องบอกเลยว่า ‘คูคต’ กำลังขึ้นแท่นเป็นโซนสุดฮิตของกรุงเทพฯตอนบน เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันมาก ๆ ใกล้ทั้งศูนย์การค้า, โรงเรียนเอกชน, โรงเรียนรัฐบาล, โรงพยาบาลชั้นนำ, หน่วยงานราชการขนาดใหญ่ของไทย บนถนนพหลโยธิน ที่สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปได้ง่าย ๆ และใกล้กับสนามบินดอนเมือง เพียง 15 นาที*
โดยทาง Noble x TNLA เอง จะพัฒนาที่ดินผืนใหญ่แห่งนี้ และโครงการนี้ด้วยแนวคิด Transit Oriented Development (TOD) เป็นหนึ่งในแนวคิดในการพัฒนาเมือง และชุมชนเมืองควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง โดยเน้นการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะที่เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทาง
กำหนดรูปแบบการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างชุมชนรอบสถานีให้เป็นชุมชนคุณภาพ น่าอยู่อาศัย น่าใช้ชีวิต น่าลงทุนทางธุรกิจ เพื่อส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมการเดินทาง ทั้งเข้า-ออกพื้นที่ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และส่งเสริมการเดินทางในพื้นที่ด้วยการเดินทางโดยไม่ใช้เครื่องยนต์นั่นเองค่ะ
♦ การเดินทางโดยรถส่วนตัว : สะดวกสบายมาก ๆ เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ลำลูกกา ทางฝั่งขาออกเมือง ที่ใช้มุ่งหน้าไปเมืองปทุมธานี และออกไปจังหวัดใกล้เคียงอย่างนครนายก และฉะเชิงเทราได้ เพียงชม.* นิด ๆ จากโครงการยังใกล้กับจุดกลับรถไปถนนลำลูกกา ฝั่งขาเข้า เพียงแค่ 400 ม.* ใช้วิ่งออกไปเชื่อมต่อกับถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิตได้
ทั้งยังมีเส้นทางลัดไปโซนสุขาภิบาล 5, เพิ่มสิน, วัชรพล, เทพรักษ์ และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ผ่านซอยสายไหม 39 ได้ โดยไม่ต้องไปขับรถอ้อมบนถนนใหญ่พหลโยธิน จากโครงการขับรถไปสนามบินดอนเมืองได้ เพียงแค่ 15 นาที*
นอกจากนั้นโครงการยังอยู่ใกล้กับโซนรังสิต และใกล้กับทางด่วนอื่น ๆ ที่มีให้เลือกใช้ถึง 3 สาย และทุกสายจะใช้วิ่งเข้าเมืองไปพระราม 9, CBD สาทร-สีลม-พระราม 4 รวมถึงออกไปรอบนอกในย่านสมุทรปราการ, พระประแดง, พระราม 2 และบางแคได้ง่าย และใช้เวลาไม่นานค่ะ
♦ การเดินทางโดยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ : ถือว่าเป็นตัวชูโรงของโครงการนี้เลย เพราะโครงการจะอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีคูคต ประตูทางออกที่ 3 เป็นรถไฟฟ้าสายยาวที่ใช้นั่งเข้าเมืองไปโซนสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม และเป็นสายเดียวที่ใช้เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีอื่น ๆ ได้ครบ และเป็นสายเดียวที่เชื่อมกรุงเทพฯ-ปทุมธานี-สมุทรปราการเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างไร้รอยต่อ
ส่วนรถเมล์ ก็มีให้เลือกใช้งานได้ ตัวป้ายรถเมล์จะตั้งอยู่ตรงหน้าบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้าค่ะ โดยรถเมล์สายที่ผ่านจะเป็นรถเมล์ NGV สาย 543 ลำลูกกา-บางเขน ส่วนมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และ Taxi มีผ่านหน้าโครงการตลอดทั้งวัน แต่ถ้าต้องการความสะดวกสบาย แนะนำให้เรียกใช้รถผ่าน Application แล้วนั่งรอที่ Lobby เย็น ๆ จะดีที่สุดค่ะ
♦ การออกแบบโครงการ, ห้องพัก และวัสดุ : สำหรับโครงการ Nue Core Khu Khot Station เป็นโครงการที่ 2 ต่อจากโครงการแรก Nue Cross Khu Khot Station ที่สามารถปิดการขายไปได้อย่างรวดเร็วภายใน 4 เดือน ทำให้ทาง Noble เพิ่มโครงการใหม่ โครงการนี้ขึ้นมา เพื่อรองรับ Demand ที่ยังมีอยู่ และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต
สำหรับที่นี่จะพัฒนาเป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น จำนวน 6 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,206 ยูนิต การออกแบบอาคารภายนอกและภายในก็มีความน่าสนใจ ด้วยทาง Noble เอง เค้าจะมีการออกแบบโครงการต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นแนวราบ แนวสูง ให้มีความชิค ทันสมัย และรับรองได้ว่าไม่เหมือนใคร อย่างที่นี่จะใช้การออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ ‘Mid Century Modern Architecture in 60S’ Facade ภายนอกจะใช้โทนสี Burgundy และ Smoky White
พร้อมสอดแทรกงานดีไซน์ส่วนกลางและภายใน Lobby ด้วย Geographic Form & Pop Art ที่เป็นรูปทรงเลขาคณิต โดย Lobby ในแต่ละอาคาร จะใช้โทนสีที่แตกต่างกันออกไป เป็นการเพิ่ม Gimmick ให้งาน Interior ของแต่ละอาคารนั้น ไม่น่าเบื่อ และมีความสนุกสนานดีค่ะ
มีห้องพักให้เลือกหลายแบบ เริ่มตั้งแต่ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และมีห้อง Type ใหม่ เปิดมาที่โครงการนี้ที่แรก นั่นก็คือห้อง 2 Bedroom และ 2 Bedroom Duplex ที่สามารถ Access สวน หรือสระว่ายน้ำได้ อย่างห้องที่เป็น Pool Access จะอยู่ระหว่างอาคาร B และ E ส่วนห้อง Garden Access จะอยู่ระหว่างอาคาร A และ F และอาคาร C และ D ค่ะ
ทั้งยังขายห้องพักให้แบบ Fully Furnished โดยเฟอร์นิเจอร์จะถูกออกแบบมาให้เข้ากับห้อง Type นั้น ๆ โดยตัวเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น ก็จะใช้เป็นรูปเลขาคณิต ที่ดูน่ารักดีมาก ๆ และจะเน้นไปทางโทนสีไม้ Dark Cornwall Oak และสี Earth Tone มีประตู Digital Door Lock และแอร์ติดมาให้ครบ 1-3 เครื่อง แล้วแต่ขนาดห้องพักค่ะ
♦ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : จัดให้เต็มอิ่ม จุใจชาว Gen Z ไปเลยค่ะ ที่นี่จะได้พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่* และมีพื้นที่สีเขียวภายในโครงการมากถึง 2 ไร่* โดยส่วนกลางหลัก ๆ จะถูกตั้งอยู่ที่คอร์ทกลางโครงการ
โดยจะมีอาคารพักอาศัยล้อมรอบกันอยู่ ตัวสวนจะมีชื่อเรียกว่า The Core Court ซึ่งจะมีความยาวมากถึง 220 ม.* และแบ่งพื้นที่ไว้ทั้งหมด 3 โซน ได้แก่ The Core Terrain ระหว่างอาคาร A และ F, The Core Lagoon & The Core Pavilion ระหว่างอาคาร B และ E และ The Core Forest ระหว่างอาคาร C และ D
ส่วนภายในอาคารจะมี Lobby, Laundry, Delivery Station, Mailroom เหมือนกันทุกอาคาร ส่วน Juristic จะตั้งอยู่ที่อาคาร A ซึ่งเป็นอาคารที่ใกล้กับ Main Entrance มากที่สุด ส่วนการตกแต่งภายใน Lobby บอกเลยว่าเก๋มาก ๆ เพราะแต่ละอาคารจะใช้สี และรูปทรงที่แตกต่างกันออกไป พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยสุดพรีเมียมตามแบบมาตรฐานของ Noble ตลอด 24 ชม. ค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-251-9955 หรือ Line @nuekhukhotstation
Website : https://bit.ly/3VPrQPr
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น