EP.1859 รีวิว วันเดอร์ เกษตร Oneder Kaset คอนโดใหม่ ใกล้ ม.เกษตร และรถไฟฟ้าสายสีแดง 200 ม. เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท*
Written by Gift Pannida
สวัสดีค่ะผู้อ่าน HOMENAYOO ทุกคน วันนี้เรามีโครงการใหม่ใกล้ ม. เกษตร บางเขน มาให้อ่านกันค่ะ กับโครงการ Oneder Kaset คอนโดใหม่จาก เอกภูมิทรัพย์ ดีเวลลอปเมนท์ บนทำเลศักยภาพ ติดถนนงามวงศ์วาน เพียง 200 เมตร จากรถไฟฟ้าสถานีบางเขน ใกล้รถไฟฟ้า 5 สาย เพียงแค่ 5 นาที ถึงม.เกษตรศาสตร์ และ 6 นาที ถึง BTS ม.เกษตร
ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน ติดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบครบ ทั้งร้านอาหารเล็กใหญ่ใกล้โครงการ ใกล้ The Mall งามวงศ์วาน และ รพ.วิภาวดี
วันเดอร์ เกษตร เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 3 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 4-1-55.3 ไร่ จำนวนห้อง 585 ยูนิต + ร้านค้า 7 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ Studio, Studio Exclusive, 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 21.50-36.05 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ประมาณ Q4 พ.ศ.2565
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน อาทิ สวนสาธารณะและส่วนกลางกว่า 2 ไร่, Niagara Pool, Kids Pool, Yoga Deck, Sky Bar & BBQ, Milky Way Jogging, Co – Living Space, Co – Creation Space, Dance Studio, Co – Kitchen Space ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท* (มี.ค.64)
ชื่อโครงการ | วันเดอร์ เกษตร/Oneder Kaset |
เจ้าของโครงการ | เอกภูมิทรัพย์ ดีเวลลอปเมนท์ |
เนื้อที่ทั้งหมด | 4-1-55.3 ไร่ |
จำนวนตึก | 3 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 35% ของจำนวนยูนิต |
จำนวนลิฟต์ | 2 ตัว/อาคาร |
โซน | เขตจตุจักร |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. |
กำหนดการ | เปิดลงทะเบียน* |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ Q4/2565 |
ราคา | เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท* (มี.ค.64) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | รอข้อมูลจากทางโครงการ |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ตลาด และห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | Outdoor Space
Indoor Space
|
จุดเด่นของโครงการ | Oneder Kaset คอนโดใหม่ ใกล้ ม.เกษตรฯ เพียง 200 เมตร จากจากรถไฟฟ้าสถานีบางเขน เริ่ม 1.59 ลบ.* |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.
Google Map: https://maps.app.goo.gl/LaY5N4ghrCnDSdiK9
โครงการ Oneder เกษตร ตั้งอยู่ติดถนนงามวงศ์วาน ติดสำนักงานใหญ่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใกล้ ม.เกษตร บางเขน ใกล้ รถไฟฟ้าสายสีแดง-น้ำตาล สถานีบางเขน แค่ 200 ม. เท่าน้ัน และไม่ไกลจาก The Mall งามวงศ์วาน ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรอบส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ดั้งเดิม มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่เป็นระยะๆ หาของกินของใช้ได้ง่ายพอสมควรค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนงามวงศ์วานฝั่งขาเข้า การเดินทางเข้าออกโครงการถือว่าสะดวกเนื่องจากอยู่ติดถนนใหญ่เลยไม่ต้องเข้าซอย วิ่งออกจากโครงการตรงไปประมาณ 1 กม. ก็ถึง ม.เกษตรฯ แล้วค่ะ แต่การจราจรบนถนนเส้นนี้จะหนาแน่นหน่อยนะ โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน
สำหรับการเดินทางเข้าเมือง วิ่งออกจากโครงการ ตรงไปเข้าวิภาวดีแล้วขับตรงเข้าตัวเมืองได้เลย ไม่ว่าจะไปดินแดง อนุสาวรีย์ชัยฯ ก็สะดวก หรือจะวิ่งเข้าถนนพหลโยธิน ก็สามารถวิ่งเข้าเมืองไปฝั่งห้าแยกลาดพร้าว เข้าจตุจักร สะพานควาย อารีย์ยาวไปอนุสาวรีย์ชัยฯได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นทางด่วนศรีรัชเข้าเมืองได้อีกทางห่างจากโครงการประมาณ 3.9 กม.
การเดินทางออกนออกเมือง ถ้าจะวิ่งไปฝั่งนนทบุรี จากโครงการจะมีจุดกลับรถอยู่ห่างไปประมาณ 300 ม. ก็สามารถวิ่งมุ่งหน้ายาวไปรัตนาธิเบศร์ ติวานนท์ เชื่อมไปออกปากเกร็ดได้ และสามารถวิ่งยาวไปบางใหญ่ ราชพฤกษ์ได้
ถ้าจะไปโซนรังสิต ปทุมธานี ดอนเมือง เมืองทองสามารถใช้เส้นวิภาวดีได้อีกเส้น ถ้าโซนรามอินทราก็ใช้เส้นงามวงศ์วานวิ่งผ่าน ม.เกษตร ไปเชื่อมกับเกษตรนวมินทร์ยาวไปออกรามอินทรา หรือจะขึ้นทางด่วนศรีรัช ทางด่วนโทลล์เวย์ได้ทั้งเข้าและออกเมืองได้เลย
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนเข้าเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ห่างจากโครงการประมาณ 4.1 กม. หรือใช้เวลาขับจากโครงการประมาณ 8-15 นาที
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. หรือใช้เวลาขับประมาณ 5-10 นาที ถึงจุดขึ้นทางด่วน
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนหลัก จึงมีตัวเลือกการเดินทางเยอะพอสมควร จากโครงการออกมาก็สามารถเรียก Taxi หรือ พี่วินที่ขับผ่านไปมาหน้าโครงการได้ หรือถ้าใครใช้รถเมล์ก็จะมีป้ายที่อยู่ห่างจากโครงการแค่ 50 ม. เดินไปได้สบายๆ โดยจะมีรถสาย 104, 134, 191, 24, 545, 63, 69
ส่วนรถไฟฟ้าตอนนี้จะมีให้เลือกใช้งานเป็น BTS เกษตรศาสตร์ ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.4 กม. เป็นตัวเลือกที่ใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลารถติด
ส่วนในอนาคตก็จะมีตัวเลือกการเดินทางมากขึ้น เป็นรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางเขน ซึ่งสถานีนี้จะห่างจากโครงการแค่ 200 ม. เท่านั้น เดินจากโครงการไปได้เลยค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการมีร้านอาหารให้ฝากท้องได้อยู่พอสมควรค่ะ ติดกับโครงการจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวที่เดินออกมาทานได้เลย ไม่ไกลก็มีร้านขายของชำ นอกจากนั้นในโครงการเองยังมียูนิตร้านค้าถึง 7 ยูนิต ซึ่งในอนาคตก็จะมีเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องออกไปไหนไกลค่ะ
หรือถ้าใครไม่รู้จะทานอะไร อยากมีตัวเลือกเยอะๆ ก็ไปตรง ม.เกษตรฯ ได้เลยค่ะ มีร้านอาหารเยอะมากๆๆ ทั้งร้านนั่งดีๆ บุฟเฟต์ ปิ้งย่าง และร้านราคาย่อมเยาสไตล์เด็กมหาลัยก็มีให้เลือกทานเพียบ
มีตลาดสดใกล้ๆ คือตลาดพงษ์เพชรอยู่ใกล้แยกพงษ์เพชร หรือถ้าข้ามแยกไปจะมี Tesco Lotus, Home Pro, Grand Plaza , พัทธ์ทิพย์ พลาซ่า และ The Mall งามวงศ์วาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการเลยค่ะ แค่ประมาณ 2.5 กม. เท่านั้น ก็สามารถไปซื้อของกินของใช้ หรือ Shopping ได้สบายๆ
ถ้าไปแถวแยกแครายมี Esplanade, Tesco Lotus, Big C, Central รัตนาธิเบศร์ นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งสถานศึกษาอย่าง รร.ราชวินิตบางเขน, ม.ธุรกิจบัณฑิต, ม.เกษตร, วิทยาลัยบรมราชชนนี
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ตลาด และห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
การเดินทาง
เส้นทางที่เราใช้วันนี้ เริ่มจากถนนประเสริฐมนูกิจ มุ่งหน้างามวงศ์วาน > ข้ามแยกเกษตร > ข้ามแยกงามวงศ์วานตัดถนนวิภาวดี > กลับรถก่อนถึงแยกพงษ์เพชร > ขับย้อนมาประมาณ 1.4 กม. > ถึงที่ตั้งโครงการ Oneder เกษตร
เริ่มการเดินทางกันบนถนนประเสริฐมนูกิจ ฝั่งมุ่งหน้าถนนงามวงศ์วาน ช่วงใกล้ถึงแยกเกษตร ให้เราเข้าเลนขวาเพื่อลอดแยกเกษตร
ผ่านแยกมาแล้วเราจะเข้าถนนงามวงศ์วาน ขึ้นมาเจอ ม.เกษตรฯ ทางฝั่งขวามือ และร้านอาหารหลายร้าน เรียงรายริมฝั่งถนน
ถัดมาอีกหน่อยจะผ่าน Tops Market เกษตร ฝั่งซ้ายมือ
เราขับตรงต่อไปตามป้ายมุ่งหน้าแครายค่ะ
ขึ้นสะพานข้ามแยกถนนงามวงศ์วาน ตัดวิภาวดี
ข้ามแยกมาแล้ว ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ เราจะเห็น กฟภ. ทางซ้ายมือ และที่ตั้งโครงการ Oneder เกษตร
ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ ช่วงก่อนถึงแยกพงษ์เพชร ให้เราใช้เลนกลาง ไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกนะคะ
เจอป้ายกลับรถให้ชิดขวา
กลับรถที่จุดกลับรถก่อนถึงแยกพงษ์เพชร
กลับรถมาแล้วขับตรงต่อมา
ผ่าน กฟภ.
ติดกันก็จะถึงที่ตั้ง โครงการ Oneder เกษตร แล้วค่า
เข้ามาในที่ตั้งโครงการตอนนี้จะทำเป็นสำนักงานขาย
สำหรับคนที่ขับรถมาชมโครงการก็มีที่จอดรถรองรับหลายคันเลยค่ะ
ภายในสำนักงานขายจะมีทั้งส่วนห้องตัวอย่าง และโมเดล พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้ข้อมูลค่ะ
มาดูบรรยากาศรอบๆ โครงการกันค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการ ติดถนนงามวงศ์วาน
ติดกับที่ดินโครงการด้านหน้า เป็นอาคารพาณิชย์ ซึ่งในอนาคตจะเป็นพื้นที่ของโครงการค่ะ
ถัดมาติดกับที่ดินโครงการ จะเป็น กฟภ.สำนักงานใหญ่
ถัดมาเป็นอาคารพาณิชย์ดั้งเดิมยาวๆไปเลยค่ะ มีเปิดเป็นธุรกิจต่างๆ ของคนในย่านนี้
ติดกับโครงการทางฝั่งซ้ายมือเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง
คูหาแรกติดกับทางเข้าโครงการเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ช่วงเที่ยงคึกคักมากๆ
และจากโครงการมาประมาณ 200 ม. จะถึงรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางเขน และสายสีน้ำตาลในอนาคต
ตัวโครงการ
โครงการ Oneder เกษตร เป็นโครงการคอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัย 585 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต 3 อาคาร บนที่ดิน 4-1-55.3 ไร่
ออกแบบมาใน Concept Feel Evergreen in Wonderland ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ของโลก คือ Grand Canyon, Aurora และ Amazon ที่เดี๋ยวเราจะพาชมกันไปทีละส่วนๆ นะคะ
ฟังกันโดยรวมของโครงการ จะมีส่วนกลางหลักอยู่ที่ชั้น 1 และชั้น 2 ส่วนตั้งแต่ชั้น 3-8 จะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้น (ยกเว้นชั้น 3 จะมีส่วน Fitness ที่เชื่อมขึ้นมาจากชั้น 2) ส่วนที่จอดรถแยกเป็น 2 แบบ คือ Conventional Parking อยู่ที่ชั้น 1 และ Auto Parking จะอยู่ที่อาคาร C ฝั่งหันหน้าออกถนนใหญ่ ที่ชั้น 1-8
ส่วนกลางของที่นี่จะใช้ Concept การออกแบบ คือ “Alice in Onederland” ที่มีดีไซน์ที่แปลกตา เพื่อให้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ที่ทำให้เกิดความประหลาดใจแก่คนพักอาศัย
โดยพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่จะมีขนาดรวมกว่า 2 ไร่ ซึ่งเค้าจะทำฟังก์ชันมาให้หลากหลาย ทั้งในโซน Indoor จะมี Asteroid Lobby, Co-Living Space, Co – Creation Space, Meeting Room, Reading Capsule, Gym, Dance Studio, Co – Kitchen Space, Glam Room, Netflix และ The Knowledge
และโซน Outdoor คือ Niagara Pool, Kid’s Pool, Outdoor Terrace, Tea Party Yard, Rabbit Playground, Sunken Lounge, The Pavilion, Central Park, North Pole Rooftop, Yoga Deck, Sky Bar & BBQ, Hill Seating, Sky Garden และ Milky Way Jogging
แปลนชั้น 1 ส่วนแรกเป็น Main Gate เข้ามาถนนภายในโครงการจะเป็นถนน Oneway เชื่อมเข้ามาที่จอดรถชั้น 1 เป็นที่จอดรถในร่มใต้อาคารทั้งหมด จำนวน 35% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
ฟังก์ชันส่วนด้านหน้าติดถนนจะจัดเป็นยูนิตร้านค้า 7 ยูนิต ส่วนด้านใน ตรงกลางที่ดินของโครงการจะเป็นสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ จัดพื้นที่เป็นสวนตกแต่ง ส่วนนั่งพักผ่อน และ Pavillion ส่วนในอาคารพักอาศัยจะมี Lobby แยกเป็นส่วนตัวทุกอาคาร
ภาพบรรยากาศส่วนกลางโซน Outdoor ที่บริเวณกลางโครงการ จะถูกล้อมรอบด้วยทั้ง 3 อาคาร ทำให้พื้นที่ส่วนกลางนี้มีความเป็นส่วนตัว มองไม่เห็นจากบุคคลภายนอก และยังทำให้ยูนิตที่อยู่ด้านในได้รับวิวสวนขนาดใหญ่ ดูร่มรื่นสบายตาอีกด้วยค่ะ
สำหรับพื้นที่สวนที่ชั้น 1 จะมีการจัดโซนต่างๆ ไว้รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้ง Rabbit Play Ground, The Pavillion, Sunken Lounge และ Tea Party Yard
โซนด้านในที่เป็น Rabbit Play Ground จะใช้สีสันที่ดูสดใส และมีบันไดเชื่อมลงมาจากสระว่ายน้ำบนชั้น 2 ให้เด็กๆ สามารถวิ่งขึ้นลงได้
ส่วนพื้นที่ด้านในอาคาร ส่วนแรกที่เป็นจุดต้องรับของทุกอาคารจะเป็น Lobby และ Mail Room
แปลนชั้น 2 จะเป็นชั้นเริ่มต้นพักอาศัย และมีส่วนกลางหลักๆ แยกไปในแต่ละอาคาร เพื่อกระจายการใช้งาน โดยที่อาคาร A จะมี Co – Working Area (Reading Capsule, Meeting Room)
อาคาร B มี Co – Kitchen Area, Cinema Room (Netflix), Game & Party Room, Fitness ขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำ Outdoor โดยส่วนกลางทุกจุด จะสามารถเข้าใช้งานได้ทั้งจากในตัวอาคาร และสวนชั้น 1 และอาคาร C มี Co-Living Area และ Glam Room
แปลนชั้น 3 จะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้น แต่จะมีส่วนฟิตเนตที่เชื่อมขึ้นมาจากชั้น 2 เป็นห้อง Dance Studio
บรรยากาศจำลองภายใน Music Studio
ภายในห้อง Cinema Room จะจัดจอขนาดใหญ่พร้อมโซฟาเดี่ยวสำหรับนั่งดูหนัง
ภายใน Party House จะมาพร้อมชุดโต๊ะพร้อมรองรับการนั่งสังสรรค์ และเป็นห้องที่สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำด้านนอกได้ ดูโปร่งสบาย
ภายใน Co-Kitchen จะจัดมาให้ทั้งเคาน์เตอร์ที่พร้อมรองรับการทำอาหาร จัดเลี้ยงเพื่อนๆ และครอบครัว และชุดโต๊ะนั่งทานอาหาร เผื่อใครต้องการเปลี่ยนบรรยากาศนั่งทานข้าวหลายๆ คน แต่ไม่อยากออกไปไหนไกลก็สามารถบุคแบบ Private ได้ค่ะ
ฝั่งอาคาร C จะเป็นห้อง Co-Working ที่จัดม้านั่งตัวใหญ่ รูปทรง Free Form พร้อมโต๊ะเดี่ยวสำหรับการนั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือ
ภายในห้อง Fitness จะทำมาให้เป็นโถงแบบ Double Volume ขนาดใหญ่มาก เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ที่จัดมาให้น่าสนใจมาก ทั้ง Wall Climbing
และโซนออกกำลังกายด้วย Machine ต่างๆ ที่สามารถมองเห็นสวนภายนอกได้ด้วย ทำให้บรรยากาศในการออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ
ฟิตเนสชั้น 2 ทำมาให้เป็น Dance Studio จัดอุปกรณ์มาให้ครบ
ภายในห้อง Library ทำบรรยากาศมาให้ดูมีความเป็นส่วนตัวโดยการแบ่งช่องสำหรับการนั่งคนเดียว
แปลนชั้น 3 และชั้น 4 – 8 จะเป็น Typical Floor Plan จะมีเฉพาะชั้น 3 ที่จะมีส่วนกลางเชื่อมขึ้นมาจากชั้น 2 เป็น Double Volume โดย
ชั้น Rooftop จะมี Sky Bar & BBQ Terrace, Sky Garden, Yoga Deck และ Milky Way Jogging ระยะทางรวม 1 รอบ ประมาณ 300 ม. ค่ะ
บรรยากาศบนชั้น Rooftop จะมี Jogging Track ระยะทาง 200 ม. ซึ่งระหว่างทางเราก็จะวิ่งผ่าน Sky Garden, Sky Bar & BBQ และมุมนั่งพักผ่อน
แบบห้อง
แบบห้องหลักๆ ของที่นี่จะเป็น Studio และ 1 Bedroom ค่ะ โดยห้องขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบ, ชุดครัว ซิงค์ พร้อมเครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้า, เครื่องปรับอากาศ และ Digital Door Lock
ตัวอย่างแปลนห้องแบบ Studio ขนาด 21.5-23.55 ตร.ม.
ตัวอย่างแปลน ห้องแบบ Studio ขนาด 21.5-23.55 ตร.ม.
ตัวอย่างแปลน ห้องแบบ Studio ขนาด 21.5-23.55 ตร.ม.
ตัวอย่างแปลน 1 Bedroom ขนาด 27.95-28.85 ตร.ม.
ตัวอย่างแปลน 1 Bedroom Plus ขนาด 35-36.05 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เราจะพาชมทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่างแบบแรกเป็นห้องแบบ Studio ขนาดประมาณ 24 ตร.ม. เป็นห้อง Studio ที่ได้ครัวปิดกั้นแยกเป็นสัดส่วน ซึ่งเป็น Layout ที่ค่อนข้างหายากค่ะ ปกติห้อง Studio ทั่วๆไปจะไม่กั้นครัวมาให้ ทำให้มีข้อดีสำหรับคนที่อยู่คนเดียว ไม่ต้องการพื้นที่ห้องเยอะมาก แต่ยังสามารถทำอาหารทานเองได้
โดยในห้องจะให้ Fully Furnished ในครัวได้ชุดครัวครบชุดพร้อมโต๊ะทานอาหาร ถัดจากครัวเข้าไปเป็นห้องที่รวมพื้นที่นั่งพักผ่อน และห้องนอนแบบครบฟังก์ชัน และจากห้องนอนก็จะมีผนังกั้นก่อนเข้าไปในโซนห้องแต่งตัว ที่อยู่เชื่อมกับห้องน้ำ ทำให้ได้พื้นที่แบบ Walk-in Closet ที่เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น
ห้องตัวอย่างแบบแรก สำหรับประตูห้องมาตรฐานจะได้เป็นบานสำเร็จรูป HDF พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ที่ใช้งานได้ 3 ระบบ คือ กุญแจ, Password และคีย์การ์ด ส่วนธรณีประตูห้องใช้เป็นแกรนิต ที่มีความทนทานกว่าตัวจบลามิเนตทั่วๆ ไป ส่วนพื้นห้องใช้เป็น Smart Vinyl ลายไม้ หรือกระเบื้องยาง
เข้ามาในห้อง จะเจอพื้นที่ส่วนครัว ซึ่งจะกั้นเป็นครัวปิดไว้ให้เรียบร้อย แยกเป็นสัดส่วน ความสูงฝ้าเพดาน 2.45 ม. โดยในส่วนห้องครัว และห้องน้ำจะลดระดับลงมาอยู่ที่ประมาณ 2.25 ม.
ประตูกั้นครัวใช้เป็นบานสไลด์ 3 ตอน เปิดได้กว้าง และช่วยให้ห้องยังดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัดค่ะ
พื้นที่ระหว่างส่วนครัว และห้องนอนด้านในมีประตูกั้นแยกแบบนี้ เราก็สามารถปรุงอาหารได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีกลิ่นควันเข้าไปรบกวนในส่วนห้องนอนค่ะ
บริเวณส่วนครัวที่เป็นครัวปิด จะมีทั้งเคาน์เตอร์ครัว และโต๊ะทานอาหารมาให้ครบชุด
ชุดเคาน์เตอร์ครัวได้ตามแบบห้องตัวอย่าง โดยหน้าบานตู้ทั้งหมดจะเป็นไม้อัด
Top ครัว ลามิเนตลายหินอ่อนสีขาว ติดตั้งซิ้งค์ล้างจาน ยี่ห้อ Lucky Frame มีพื้นที่เตรียมอาหารนิดหน่อย ใครอยากเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารก็สามารถหาแผ่นรองที่ใช้สำหรับวางบนซิ้งค์ล้างจานมาใช้งานเพิ่มได้ ส่วนบริเวณใต้ซิ้งค์ล้างจานมีตู้เก็บของ และช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า
ตู้ลอยด้านบนแบ่งเป็นตู้ และช่อง สำหรับวางของ และไมโครเวฟ ส่วนเครื่องดูดควันในห้อง Studio จะเป็นระบบหมุนวน ส่วนห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus จะเป็นแบบดูดออกนอกอาคารค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่ง พร้อมเก้าอี้ และมีตู้เก็บของเพิ่มด้านล่าง ใช้เก็บพวกจาน/ช้อน หรืออุปกรณ์ทำครัวเพิ่มได้
ระยะทำครัวพอให้ยืนเตรียมอาหารได้แบบพอดีๆ
ถัดเข้ามาในส่วนห้องนอน จะได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดตามนี้เลยค่ะ ทั้งโซฟา, ชั้นวางทีวี และฐานเตียง ส่วนการจัดวางพื้นที่ก็ถือว่าดูใช้งานได้สะดวกนะคะ และด้วยความที่เป็นห้องหน้ากว้างพอสมควร เลยดูไม่อึดอัด
สำหรับตัวโซฟา จะได้เป็นโซฟาผ้า สีขาว ขนาด 2 ที่นั่ง
ฝั่งตรงข้ามเป็นผนังที่ทำระยะมาให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนได้
หรือถ้าใครไม่อยากติดทีวีแบบแขวนผนัง ก็สามารถวางบนชั้นวางทีวีที่ทางโครงการให้มาแทนก็ได้ค่ะ
ส่วนเตียงจะได้เตียงขนาดควีนไซซ์ หรือ 5 ฟุต โดยจะมีเฉพาะฐานเตียง และหัวเตียง ไม่มีฟูกและชุดเครื่องนอนนะคะ
ช่องแสงในห้องนอนจะได้เป็นหน้าต่างบานใหญ่ ซึ่งจะมีทั้งบานฟิกซ์ ที่รับแสงธรรมชาติเข้าห้อง ช่วยให้ห้องสว่าง และบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายกาศในห้อง
จุดเด่นอีกอย่างของห้อง Studio โครงการนี้คือการที่ได้โซน Walk – in Closet แยกเป็นสัดส่วน
ด้านในถือว่ามีพื้นที่ให้ใช้งานได้พอสมควรค่ะ ไม่อึดอัด
เฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการให้มาจะมีตู้เสื้อผ้าขนาดค่อนข้างกว้าง จุเสื้อผ้าได้เยอะ โดยจะแบ่งเป็นราวแขวน และพื้นที่ชั้นล่างสำหรับวางผ้าที่พับได้ และมีลิ้นชักแบ่งไว้ให้ด้วย
ระยะยืนแต่งตัวกำลังดี มีระยะเปิดตู้เหลือนิดหน่อยค่ะ
จากโซน Walk – in Closet จะเชื่อมต่อกับระเบียงภายนอก ซึ่งจะเป็นช่องแสงอีกจุดที่ช่วยให้ห้องสว่าง และมีแสงธรรมชาติช่วยให้แต่งหน้า แต่งตัวสะดวกขึ้นด้วย
สำหรับระเบียงจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก พอให้วางราวตากผ้า หรือวางไม้กระถางเล็กๆ ได้ ส่วนราวกันตกและกริลล์บังสายตาใช้เป็นเหล็กทาสีดำ ตัว Compressor แอร์ ยกขึ้นไว้ด้านบน ทำให้เราสามารถใช้งานพื้นที่ระเบียงได้เต็มที่
ติดกับครัวจะเป็นส่วนห้องน้ำ
ซึ่งห้องน้ำเค้าจะทำฟังก์ชันมาให้เข้าใช้งานได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากครัว และ Walk – in Closet แบบนี้สะดวกดีค่ะ เวลาเข้าห้องมาแล้วอยากล้างมือล้างเท้า ก็สามารถเข้าใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องเดินอ้อมเข้าห้องนอนก่อน
การตกแต่งในห้องน้ำทำมาแบบมีดีเทลเป็นกระเบื้องลาย Terrazzo ทำให้ห้องน้ำดูมีสีสัน ไม่น่าเบื่อ ดูน่ารักดีค่ะ
ส่วนสุขภัณฑ์จะใช้ของ HAFELE หรือเทียบเท่า อ่างล้างมือได้มาพร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง และกระจกเงา ขนาดอ่างค่อนข้างกะทัดรัดหน่อย
โถสุขภัณฑ์ใช้ระบบ Dual Flush ติดตั้งมาให้พร้อมสายชำระ และที่วางกระดาษชำระ
ส่วนห้องอาบน้ำในห้องมาตรฐานจะเป็นธรณีก่อสูงเพื่อแยกโซน ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้นะคะ แต่เราก็สามารถติดเพิ่มเองได้ เพื่อความเป็นสัดส่วน
ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวขนาดกำลังดี พร้อมเจาะช่องวางขวดแชมพูมาให้ด้านหลัง
พื้นที่ในห้องอาบน้ำกว้างพอให้ยืนอาบได้สบายๆค่ะ
ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ห้องนี้จะแยกฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น โดยพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่นกว้างๆ เชื่อมต่อไปยังส่วนครัว และห้องนอน ซึ่งระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะกั้นด้วยประตูบานสไลด์ ที่ให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น และได้รับแสงธรรมชาติจากช่องแสงภายในห้องนอนด้วย
ส่วนห้องครัวก็จะได้เป็นครัวปิด กั้นแยกมาให้เป็นสัดส่วน โดยห้องครัวจะเชื่อมกับห้องน้ำ และเชื่อมกับระเบียงทำให้สามารถเปิดระบายอากาศในครัวได้ดียิ่งขึ้น
เข้ามาในห้องส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น และพื้นที่ทานอาหาร
และเนื่องจากได้เป็นห้องหน้ากว้างเหมือนกัน ในห้องเลยดูโปร่งสบายค่ะ
สำหรับในห้องนั่งเล่น จะได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานมาเหมือนห้องที่แล้ว คือ โซฟา, โต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่ง และชั้นวางทีวี โดยแบบและสีจะเหมือนห้องที่แล้วนะคะ ในห้องตัวอย่างเค้าตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ
ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะได้ชั้นวางทีวี ขนาดแตกต่างกันไปตามขนาดห้อง โดยถ้าใครอยากได้พื้นที่เก็บของ หรือวางของสะสมโชว์มากขึ้น ก็สามารถ Built – in ชั้นวางของแบบในห้องตัวอย่างได้ค่ะ
ให้ดูระยะการใช้งานส่วนโซฟาและโต๊ะทานอาหาร ดูระยะกำลังดีค่ะ เลื่อนเก้าอี้เข้าออกได้สะดวก
ส่วนห้องนอนจะกั้นแยกด้วยประตูบานสไลด์ 3 ตอน ที่ช่วยให้แสงธรรมชาติจากห้องนอนเข้ามาถึงในห้องนั่งเล่นได้ ช่วยให้ห้องดูโปร่ง และช่วยประหยัดไฟในช่วงกลางวันได้บางส่วนด้วย
ในห้องนอนจะได้เตียงควีนไซซ์ และตู้เสื้อผ้าแบบในห้องที่แล้วค่ะ ขนาดพื้นที่ใช้งานกำลังดี
ปลายเตียงมีระยะให้เดินผ่านได้สะดวก ใครชอบดูทีวีก่อนนอนก็สามารถติดทีวีแบบแขวนผนังได้ ข้างๆกันก็จะได้โต๊ะเครื่องแป้งค่ะ
ส่วนข้างเตียงก็จะเป็นตู้เสื้อผ้า มีระยะให้ยืนเลือกเสื้อผ้าได้สบายๆ
กลับออกมาที่ห้องนั่งเล่น จะเชื่อมกับส่วนครัว
ในครัวจะได้เป็นครัวปิด พร้อมเคาน์เตอร์ครัวชุดใหญ่ขึ้น
มีพื้นที่ให้เตรียมอาหารกว้างขึ้น เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเองบ้าง มีที่เก็บเครื่องครัวเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
ด้านบนเป็นตู้เก็บของ และชั้นวางตามนี้
ข้อดีอีกอย่างของครัวในห้อง Type นี้ คือติดกับระเบียง ทำสามารถเปิดประตูระบายอากาศได้ดีขึ้น ช่วยให้ครัวไม่อับ
ขนาดระเบียงจะแคบกว่าห้องที่แล้วนะคะ แต่ก็ยังพอให้วางราวตากผ้าได้อยู่
ติดกับครัวเป็นส่วนห้องน้ำ
ในห้องน้ำจะได้สเปกมาเหมือนห้องแบบที่แล้วค่ะ
พื้นที่ยืนอาบน้ำพอให้ยืนอาบได้สะดวกเช่นกัน
ห้องตัวอย่างแบบที่ 3 คือห้อง 1 Bedroom plus ห้องนี้จะเป็นห้องหน้ากว้างเช่นกัน มีการกั้นแยกฟังก์ชันทุกส่วน และส่วนที่แตกต่างจากห้องอื่นๆ คือจะมีห้องนอนเล็กหรือห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาด้วยค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น ขนาดห้องกว้างขึ้น อยู่สบายขึ้น เฟอร์นิเจอร์ได้มาตามมาตรฐานเหมือนห้องแบบที่แล้วค่ะ
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมกับทุกห้องเลยค่ะ ทั้งห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องนอน และห้องอเนกประสงค์
ติดกับห้องนั่งเล่น จะเป็นครัวไทยที่กั้นมาให้เป็นสัดส่วน
เคาน์เตอร์ครัวได้แบบเข้ามุม ตามรูปแบบห้อง ทำให้มีพื้นที่สำหรับตู้เก็บของเพิ่มขึ้นนิดหน่อย และมีพื้นที่ให้ยืนทำครัวพอสมควร
ส่วนห้องน้ำจะได้สเปกแบบห้องอื่นๆ มีทางเข้า 2 ฝั่ง ทั้งจากห้องนั่งเล่น และห้องนอน
ถัดเข้ามาด้านในสุดเป็นห้องอเนกประสงค์ หรือห้องนอนเล็ก ที่กั้นแยกจากห้องนั่งเล่นด้วยประตูบานสไลด์ ช่วยให้ห้องดูไม่แคบ
ในห้องอเนกประสงค์นี้เราสามารถปรับฟังก์ชันได้ตามไลฟ์สไตล์เรานะคะ แต่ในส่วนของห้องมาตรฐานเค้าจะมีเตียงเดี่ยว และตู้เสื้อผ้ามาให้ค่ะ
ส่วนห้องนอนหลักจะได้เฟอร์นิเจอร์ตามมาตรฐาน ขนาดห้องค่อนข้างกว้างนะคะ ใช้งานได้สบายๆ
ส่วนระเบียงจะมีขนาดพอๆกับห้อง Studio โดยในห้องมาตรฐาน จะติด Compressor แอร์ทั้ง 2 ตัว ไว้ด้านบน แต่ถ้าใครจะติดแอร์เพิ่มในห้องอเนกประสงค์ก็จะต้องวางด้านล่างแบบในห้องตัวอย่างค่ะ
ราคา (ม.ค.2563)
ห้องขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบ, ชุดครัว ซิงค์ พร้อมเครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้า, เครื่องปรับอากาศ และ Digital Door Lock
ลงทะเบียนรับส่วนลด และสิทธิพิเศษ คลิก http://bit.ly/3oUpNtb
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการนี้ตั้งอยู่บนทำเลที่ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบค่อนข้างสูง จุดเด่นของทำเลโครงการนี้คือ การที่ตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise โครงการเดียวในตอนนี้ที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ งามวงศ์วาน เข้าถึงได้โดยไม่ต้องเข้าซอยซึ่งถือว่าหาได้ยากมากๆแล้วค่ะ
และให้พื้นที่สวนบนดิน (ชั้น Ground) ที่ถือว่าใหญ่สุดในย่านนี้ นอกจากนั้นทำเลยังติดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.(PEA) และไม่ไกลจาก ม.เกษตร ทำให้หาของกินของใช้ได้ง่าย และได้ทั้งกลุ่มคนทำงาน และนักศึกษา
และยังเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัว ที่สามารถวิ่งเข้าถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนวิภาวดีรังสิต และเชื่อมทางด่วนศรีรัช และดอนเมืองโทลล์เวย์ได้ ส่วนคนไม่ใช้รถยนต์ก็มี BTS เกษตร ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ และรถไฟฟ้าสถานีบางเขนในอนาคต
การเดินทางด้วยรถยนต์ : เดินทางได้สะดวก ติดถนนใหญ่เชื่อมต่อกับถนนหลักอีกหลายเส้น เข้าออกโครงการได้โดยไม่ต้องเข้าซอย การเดินทางเข้าเมืองเมืองหลักๆ ใช้เส้นงามวงศ์วานวิ่งไปออกวิภาวดี หรือ เข้าถนนพหลโยธินได้
และถนนประชาชื่นไปเชื่อมกับ ถนนรัชดาภิเษกไปโซนพระรามเก้า อโศกได้ มีทางด่วนให้เลือกใช้ทั้งดอนเมืองโทลล์เวย์ และ ทางด่วนศรีรัช ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกหน่อยถ้ารีบ
ถ้าออกนอกเมืองถนนประชาชื่นสามารถไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะ ออกวิภาวดี และไปรังสิตได้ หรือจะขับยาวไปโซนราชพฤกษ์ บางบัวทอง บางใหญ่ ก็สะดวกเช่นกัน
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ถือว่าสะดวกทีเดียว เรียกรถ Taxi และวินมอเตอร์ไซค์หน้าโครงการได้เลย ส่วนป้ายรถเมล์ก็อยู่หน้า กฟภ. ใกล้มากๆ และตอนนี้มีรถไฟฟ้า BTS เกษตรศาสตร์ ให้ใช้งานแล้วด้วย ต่อรถไปนิดเดียวก็ถึงตัวสถานี และในอนาคตจะสะดวกสบายขึ้นโดยจะมี สถานีบางเขน ที่ใกล้จะเปิดให้ใช้งานเร็วๆนี้ค่ะ
การออกแบบตัวโครงการ และห้องพัก: โครงการนี้ถือเป็นโครงการขนาดกลางๆ ยูนิตรวม 585 ยูนิต ตกอาคารละประมาณ 195 ยูนิต ถือว่าไม่เยอะ มีความเป็นส่วนตัวพอสมควร ส่วนห้องพักที่ทำออกมาก็น่าสนใจค่ะ ถือว่าค่อนข้างคุ้ม ได้เป็นห้อง Fully Furnished ตกแต่งครบ วัสดุสมราคา เราซื้อของเพิ่มอีกหน่อยก็เข้าอยู่ หรือปล่อยเช่าได้เลย
โดยห้องที่นี่จะเน้นเป็นห้องหน้ากว้าง และ Layout แตกต่างกันทุกแบบ แต่หลักๆ คือเน้นการกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนเหมือนกัน
ที่น่าสนใจ คือห้อง Studio ที่กั้นทั้งส่วนครัว และ Walk – in Closet ส่วนห้องน้ำยังเข้าออกได้ 2 ทาง ให้มาครบเลยค่ะ ซึ่งไม่ค่อยเห็นในโครงการอื่นๆ ส่วนห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ก็กั้นมาให้เป็นสัดส่วนทุกจุดเหมือนกัน โดยที่การใช้งานในห้องยังรู้สึกว่าใช้งานได้สะดวก ไม่อึดอัด
สิ่งอำนวยความสะดวก : จุดเด่นคือส่วนกลางที่ให้มาเยอะ และหลากหลาย ดูจากภาพ Perspective แล้วก็ออกแบบมาแนว Eclectic design สีสันสดใส ได้พื้นที่เปิดโล่งในโครงการมารวมถึง 2 ไร่ ถือว่าค่อนข้างใหญ่ ซึ่งตรงนี้จะตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเด็กนักศึกษา และคนทำงาน ที่มี Activities เยอะหน่อย แต่ไม่ชอบออกไปข้างนอกบ่อยๆ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 062-324-2626
Line: @onedercondo หรือคลิก: https://lin.ee/dDwG5vj
Website : https://bit.ly/38wM6Pg
คอนโดใหม่ บนทำเลอื่นๆ…ที่น่าสนใจ
NUE Noble Centre บางนา เริ่ม 2.19 ล้าน*
Muse Salaya One
โมดิซ ศรีราชา
Modiz Rhyme Cloud รามคำแหง
ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์
วันเดอร์ เกษตร ใกล้ ม.เกษตร เริ่ม 1.59 ล้านบาท*
The Cube Loft ลาดพร้าว 107
มารุ เอกมัย 2 คอนโดใหม่พร้อมอยู่ เลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้ BTS เอกมัย
The Cube Loft นวลจันทร์ คอนโดสไตล์ LOFT เริ่ม 1.89 ล้าน*
SCOPE Promsri
KAVE SALAYA แต่งครบ เริ่ม 1.49 ล้าน*
Groove Muse รัชดา 7 ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " EP.1859 รีวิว วันเดอร์ เกษตร Oneder Kaset คอนโดใหม่ ใกล้ ม.เกษตร และรถไฟฟ้าสายสีแดง 200 ม. เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท* "