ORIGIN ตอกย้ำกลยุทธ์ Resilience Leads To Sustainable Growth

ORIGIN ตอกย้ำกลยุทธ์ Resilience Leads To Sustainable Growth

เปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท

เดินหน้าสู่การเติบโต แข็งแกร่ง ยั่งยืน พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 30,000 ล้านบาท และรายได้รวม 14,000 ล้านบาท ในปี 2568

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เผยแผนธุรกิจประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิดหลัก “Resilience Leads To Sustainable Growth”

โดยชูความยืดหยุ่นและพร้อมปรับตัวรับทุกความเปลี่ยนแปลง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านธุรกิจ การเงิน สังคม และสิ่งแวดล้อม

ผ่าน 7 กลยุทธ์สำคัญ (7 Keys to Success) ที่ครอบคลุมทั้งการสร้างรายได้หลัก ขยายตลาด ปรับองค์กรสู่ดิจิทัล บริหารโครงสร้างการเงิน ส่งเสริมการสนับสนุนทางการเงินให้ลูกค้า และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน (ESG & Green Revolution)

ปี 2568 ORI เตรียมเปิดตัว 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ ORIGIN VERTICAL 5 โครงการ มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท

และโครงการบ้านจัดสรรภายใต้ BRITANIA อีก 6 โครงการ มูลค่า 7,500 ล้านบาท

พร้อมตั้งเป้ายอดขายรวม 30,000 ล้านบาท และรายได้รวม 14,000 ล้านบาท โดยคาดว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์จะอยู่ที่ 22,000 ล้านบาท

ซึ่งได้แรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ การดำเนินการโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และการทำตลาดเชิงรุกต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ

กลยุทธ์สร้างแบรนด์และขยายตลาด
ในปีนี้ ORI ได้ดึง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” กลับมาเป็น Brand Ambassador อีกครั้ง หลังเคยร่วมงานกันมาเมื่อ 8 ปีก่อน โดยจะมีการทำแคมเปญร่วมกันตลอดทั้งปี เพื่อสร้างความผูกพันและภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้า ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร ภายใต้แนวคิด “ครอบครัวออริจิ้น” และ “บ้านบริทาเนียกับณเดชน์”

สำหรับตลาดต่างประเทศ ORI เดินหน้าสร้างเครือข่ายผ่าน Master Agent รวมถึงการเดินสายโรดโชว์สู่ตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชีย โดยล่าสุดได้ดึง “Irene Wan (เวินปี้เสีย)” นักแสดงชื่อดังชาวจีน-ฮ่องกง มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ Park Origin Collection เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในตลาดต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

ขับเคลื่อนรายได้และกำไรจาก New Business Model
นอกจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายแล้ว ORI ยังเน้นสร้างรายได้และกำไรระยะยาวจากธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 บริษัทมีรายได้จากโรงแรม 1,472 ล้านบาท และ EBITDA 514 ล้านบาท

ในปี 2568 มีแผนจะเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรมในกรุงเทพฯ ภายใต้โมเดล Dual Brand และโรงแรมอีก 2 แห่งที่ภูเก็ตและเชียงใหม่ซึ่งเป็นการ Re-Opening หลังจากเข้าซื้อกิจการในปีที่ผ่านมา

ทั้งหมดนี้จะช่วยขยายพอร์ตธุรกิจโรงแรมของ ORI ให้มีความแข็งแกร่งทั้งในด้านจำนวนห้องพักและรายได้จากทำเลที่มีศักยภาพสูง

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าเติบโตในธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้า ภายใต้ ALPHA INDUSTRIAL SOLUTION โดยปัจจุบันมีคลังสินค้า 9 แห่ง ในทำเลยุทธศาสตร์สำคัญ เช่น รังสิต บางนา กม.19-23 แหลมฉบัง พานทอง และพื้นที่เขต EEC รวมพื้นที่กว่า 400,000 ตารางเมตร มีอัตราการเช่าสูงถึง 97.6% และตั้งเป้าขยายพื้นที่ให้ครบ 1 ล้านตารางเมตร ภายใน 5 ปี

โครงสร้างธุรกิจหลักของ ORI
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริหารงานภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่:

1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย (Residential Development Business) มีโครงการพัฒนาแล้วกว่า 166 โครงการ มูลค่ารวม 254,967 ล้านบาท ครอบคลุมแบรนด์ชั้นนำ เช่น Park Origin, So Origin, Origin Plug & Play, Knightsbridge, Notting Hill, Origin Place, The Origin, Kensington, Hampton, Origin Play, Brixton และ Britania เป็นต้น โดยกลุ่มบ้านแนวราบดำเนินงานภายใต้ BRITANIA และโครงการแนวสูงภายใต้ ORIGIN VERTICAL

2.ธุรกิจรายได้ประจำ (Recurring Income Business) ครอบคลุมโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และค้าปลีก
3.ธุรกิจบริการ (Service Business) ให้บริการลูกบ้าน จัดการอสังหาริมทรัพย์ และบริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ (Mega Trends) ลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตระยะยาว เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ พลังงาน การเงิน และเอนเตอร์เทนเมนท์

ด้วยแผนธุรกิจและกลยุทธ์ที่ชัดเจน ORI มั่นใจว่าจะสามารถรักษาความแข็งแกร่ง ขยายธุรกิจในทุกมิติ และเดินหน้าสู่ความยั่งยืนได้อย่างต่อเนื่องในปี 2568 และอนาคต