แชร์ประสบการณ์ การลงทุนสินทรัพย์ จาก “สี่แสน” เป็น “ห้าล้านห้า” กับการตัดสินใจสองครั้งใน 34 ปี !!!

แชร์ประสบการณ์ การลงทุนสินทรัพย์ จาก “สี่แสน” เป็น “ห้าล้านห้า” กับการตัดสินใจสองครั้งใน 34 ปี !!!

ใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนสินทรัพย์ หรือ กำลังหาแพลนที่จะวางแผนการเงินเพื่ออนาคตกันอยู่ ห้ามพลาดเลยค่ะ วันนี้เรามีรีวิวจากคุณ มาม่ากับปลากระป๋อง สมาชิก Pantip.com ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์การซื้อบ้านและปล่อยเช่าบ้าน ตั้งแต่ปี 2530 จนเวลาผ่านไป 30 กว่าปี เค้าได้กำไรไปเท่าไหร่ มาอ่านไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ในชีวิตหนึ่ง ถ้าเราการลงทุนในทรัพย์ที่ดี และตัดสินใจได้ถูกต้องเพียงไม่กี่ครั้ง ก็จะทำให้เรามีเงินก้อนไว้ใช้ยามเกษียณได้เลย ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดกับครอบครัวผมในครั้งนี้ครับ

พ่อกับแม่ผมพวกท่านรับราชการครับ หลังจากที่พวกท่านแต่งงานได้หลายปีพวกท่านก็ซื้อบ้านหลังหนึ่งไว้ ในราคา 440,000 บาท ในราวปี พ.ศ. 2530 ในขณะนั้นผมอายุเพียง 2 ขวบเท่านั้น บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังแรกที่พวกท่านซื้อ ซึ่งท่านตั้งใจว่าจะซื้อบ้านหลังนี้เพื่ออยู่อาศัยเอง

บ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยวหลังริม 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แต่มีเนื้อที่ดินขนาดใหญ่ 96 ตรว. ในชานเมืองของจังหวัดชลบุรี … แต่ตั้งแต่ผมจำความได้ผมก็ไม่เคยไปอยู่บ้านเลย ภาพความทรงจำของผมกับบ้านหลังนี้คือ ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์พ่อไปเก็บค่าเช่าบ้านทุกๆเดือน ภาพที่ไปช่วยแม่ทำความสะอาดบ้านเพื่อรับผู้เช่ารายใหม่ที่จะเข้าอยู่ นี่คือภาพจำที่ผมมีต่อบ้านหลังนี้

บ้านหลังนี้ถูกปล่อยเช่ามามากกว่ายี่สิบปีเรียกว่า “ค่าเช่า” มันคุ้มค่าด้วยตัวของมันเองไปนานแล้ว สี่แสนที่ลงทุนไปได้กลับมาครบจนเกินค่าต่อไปมากแล้ว!!!

ผมจำราคาค่าเช่าที่แน่นอนไม่ได้ แต่จำได้ว่าบางช่วงได้ราคาถึง 7,000-10,000 บาท/เดือน เพราะมีลูกค้าชาวต่างชาติมาเช่า จำได้ว่าลูกค้าเป็นผู้บริหารในโรงงานแถวๆนั้น

จนผมเรียนจบผม ผมและครอบครัวได้ย้ายยกครัวกันไปอยู่ที่จังหวัดอื่น เราเล็งที่ดินเปล่าไว้แปลงหนึ่ง 137 ตรว. ติดถนนใหญ่ เราชอบมากที่ดินสวยและมีทำเลมีอนาคตแต่ก็จนใจที่จะหาเงินมาได้ ประกอบกับ การย้ายถิ่นฐานที่อยู่ทำให้การดูแลบ้านหลังนี้เป็นเรื่องที่ยากกว่าเดิมมาก …

ผมเสนอให้ขายบ้านหลังนี้เพื่อนำเงินมาซื้อที่เปล่าแปลงนี้ พ่อกับแม่ผมท่านเสียดายและตัดใจอยากพอสมควรกับที่บ้านหลังนี้เพราะบ้านบ้านหลังแรกของพวกท่าน ในท้ายที่สุดเราตัดสินใจขาย ไปในราคา 1.8 ล้านบาท และนำเงินไปซื้อที่เปล่าที่เล็งไว้

เราซื้อที่เปล่ามาก็ไม่ได้ทำอะไรครับ ปล่อยเช่าเหมือนเดิม… ภาพ ปี 2553 เมื่อครั้งซื้อที่มาใหม่ๆ

แรกๆไม่มีคนเช่าแต่พอถนนหนทางเริ่มดีขึ้น ราวๆสักปีสองปีก็เริ่มมีคนมาถามเช่า ในท้ายที่สุดก็มีคนมาเช่าทำคาร์แคร์ไป เราปล่อยสัญญาระยะยาวให้ 7 ปี รายได้จากค่าเช่ารวมล้านกว่าบาท เมื่อนับรวมตลอดเวลาทั้งหมดของสัญญา!!!

หมดสัญญาเช่าลูกค้าไม่ต่อสัญญาและย้ายออกและขายสิ่งปลูกสร้างโครงสร้างคาร์แคร์ให้ผมในราคาไม่กี่หมื่นบาท … บริเวณโดยรอบของที่แปลงนี้เจริญขึ้นมากครับ มีห้างสรรพสินค้าห่างไปไม่กี่สิบเมตรมีหมู่บ้านมีขุมชนเกิดขึ้นโดยรอบ แน่นอนว่าราคาเช่าย่อมมากขึ้นตาม ตอนนี้ผู้เช่าคนใหม่ สัญญา 5 ปี ในสัญญาเช่า ค่าเช่า 3 ปีแรกอยู่ในราคา 25,000 บาทต่อเดือน แต่ช่วงนี้เศรษฐกิจฝืดเคืองเราลดค่าเช่าเหลือ 20,000 บาท เพื่อประคับประคองกันไปก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากัน

ปัจจุบันที่แปลงนี้ถูกถามซื้อที่ราคา 5.5 ล้านบาท!!! ตลอดระยะเวลา 34 ปี ตัดสินใจในทางเลือกที่ดีเพียง 2 ครั้งเท่านั้น … ครั้งแรกซื้อบ้านหลังนี้ ครั้งที่สองขายบ้านหลังนี้และซื้อที่เปล่า

สิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้อาจจะไม่ใช้ประเด็นสำคัญแล้ว เพราะ ค่าเช่าทั้งสองจุดรวมกันท่วมเงินลงทุนตั้งต้นไปมากแล้ว ถ้าขายก็ได้เงินก้อน 5-6 ล้าน ถ้าไม่ขายก็เก็บกินค้าเช่าไป เดือนละ 2-30,000 บาท!!! … ผลตอบแทนคิดยากเพราะต้นทุนแทบไม่มีแล้ว

การลงทุนนี้เป็นการลงทุนและการตัดสินใจที่ดีมากครั้งหนึ่งของเรา ผมมองว่าชีวิตเราขอให้เราตัดสินใจถูกต้อง ถูกที่ถูกเวลาได้เพียงไม่กี่ครั้ง มันอาจจะเปลี่ยนชีวิตเราไปเลยก็ว่าได้ … แต่ก็นั่นละครับ การลงทุนที่ดีและตัดสินใจได้ถูกต้องคงไม่ได้เกิดขึ้นได้โดยง่ายต้องอาศัยหลายสิ่งหลายอย่างประกอบกันผมตอบไม่ได้นะครับว่าการลงทุนนั้นๆเป็นการลงทุนที่ดีจริงหรือเปล่า

เพราะ ณ จุดที่เราลงทุน เราย่อมมองว่ามันดีที่สุดเสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเริ่มมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้การลงทุนนั้นๆไม่ได้ดีเสมอไปก็เป็นได้ บ้านเช่าหลังแรกที่พ่อกับแม่หลังนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในสายอสังหาฯของผมครับ

หลังจากนั้นผมตัดสินใจลงทุนอีกนับร้อยครั้ง มีการลงทุนที่ดีบ้าง มีการลงทุนที่แย่บ้าง เมื่อรู้ตัวว่าผิดพลาดก็ถอยหลังออกมา มองหาการลงทุนใหม่ให้ดีกว่าเดิม … ลงทุนให้ถูกที่ถูกเวลา ชีวิตนี้ทำเพียงไม่กี่ครั้ง ความมั่นคงของชีวิตเราอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!!

ลงชื่อ มาม่ากับปลากระป๋อง

ปล 1. ที่แปลงนี้ถ้าผมพัฒนาขายเท่าที่เคยเคาะตัวเลขแล้วน่าจะได้กำไรโขอยู่ แต่ในทางปฎิบัติคงทำไม่ได้ พัฒนาให้เช่าแได้แต่สร้างขายไม่ได้ พ่อกับแม่ผมท่านแจ้งความประสงค์ไว้ว่าแปลงนี้ห้ามขาย ต้องเก็บเป็นมรดกให้หลานๆเท่านั้น!!!

ปล 2.เพจผมครับ คุยเรื่อยเปื่อย https://www.facebook.com/creativeshooter
บทความเก่าๆ คล๊กในอมยิ้มชื่อ มาม่ากับปลากระป๋อง หรือ บล็อกนี้ได้ http://creativeshooter.com/ เขียนไว้ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ จนตอนนี้ก็ยังใหม่ ๆ อยู่ 5555+

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : คุณ มาม่ากับปลากระป๋อง สมาชิก Pantip.com