โครงการ พฤกษาวิลล์ 76 บางนา – วงแหวน
สำหรับภาพรวมของทำเลบางนาถือว่าเป็นทำเลที่ออกมาแถบชานเมืองแล้วค่ะ แต่ก็มีคนอยู่อาศัยแถบนี้เป็นจำนวนมากและมีความอุดมสมบูรณ์สูง จุดเด่นสำคัญของทำเลนี้ก็คือตัวถนนบางนา – ตราดเองค่ะ โดยตัวถนนบางนา – ตราดนี้จะเป็นถนนเส้นใหญ่ กว้าง 12 เลน มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่แยกบางนา ยาวไปถึงบางปะกง(จ.ฉะเชิงเทรา) เป็นถนนเส้นสำคัญที่ใช้เข้าออกเมือง มีรถสัญจรผ่านไปมาเยอะ ทั้งรถบันทุก รถยนต์ส่วนบุคคล โดยช่วงถนนที่ตัวโครงการตั้งอยู่ถือว่าเป็นช่วงถนนที่คึกคักของถนนเส้นนี้เลยค่ะ เพราะยังเป็นช่วงถนนที่อยู่ใกล้เมือง ดูได้จากการมาลงทุนของห้างร้านต่างๆ สภาพแวดล้อมโดยรอบติดถนนจะมีทั้งห้างใหญ่ๆ, ออฟฟิศมากมาย ส่วนบ้านแถวนี้จะอยู่เข้าไปในซอยย่อยๆค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ตัวถนนเส้นบางนา – ตราดเป็นถนนเส้นยาวใช้เดินทางได้สะดวกเพราะมีจุดตัดกับถนนเส้นที่สำคัญอื่นๆอีกหลายเส้น ที่ช่วยให้เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก และสามารถเลือกใช้เส้นทางในการหลีกเลี่ยงรถติดในเวลาต่างๆได้ทั้ง
ถนนสุขุมวิท (ตัดกันที่แยกบางนา) สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองไปทางวัฒนา, อโศก หรือโซนกลางเมืองได้หมดค่ะถนนศรีนครินทร์ (ตัดกันที่แยกศิครินทร์) สามารถใช้เดินทางไปเส้นอ่อนนุช, พัฒนาการถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้) สามารถใช้เดินทางไปอ่อนนุช, รามคำแหง, มอเตอร์เวย์ถนนกิ่งแก้ว สามารถใช้เดินทางไปสุวรรณภูมิ, ลาดกระบังได้ค่ะ
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้สามารถใช้ทั้งฝั่งมุ่งหน้าลงไปทางพระราม 2, พระราม 3 , บางขุนเทียนได้ และสามารถใช้ขึ้นไปทางประเวศ, อ่อนนุช, สะพานสูง โดยจุดขึ้นทางด่วนจะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 750 ม. ขับรถไปประมาณ 3 – 5 นาทีก็จะถึงจุดขึ้นทางด่วนแล้วค่ะ
เส้นทางจากจุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าสะพานสูงจะต้องวนรถที่วงแหวนแบบนี้ค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนฝั่งมุ่งหน้าฉะเชิงเทรา มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-15 นาทีค่ะ
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนฝั่งมุ่งหน้าฉะเชิงเทรา มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 5.6 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาทีค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว
ส่วนรถไฟฟ้าในปัจจุบันจะมีสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ BTS สถานีอุดมสุข มีระยะทางจากโครงการประมาณ 6.8 กม. พอให้ใช้บริการได้ แต่ยังไงก็ต้องนั่งแท็กซี่เพื่อไปยังตัวสถานีก่อนอยู่ดีค่ะ
นอกจากนั้นในอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีแยกศรีเอี่ยมที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการ
นอกจากนั้นจะมีห้างใหญ่ที่เด่นๆของโซนนี้อีกคือ Mega บางนาและ Ikea อยู่บริเวณแยกบางนาตราดตัดกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท ส่วนใครอยากเดินตลาดนัดใหญ่ๆก็สามารถขับไปตามเส้นกาญจนาภิเษกขึ้นไปทางอ่อนนุชก็จะมี Number One Plaza ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีทั้งตลาดสดตลาดนัดและ Hyper Market อยู่ด้านใน ที่มีไว้รองรับนักศึกษาม. รามคำแหงและ ABAC บางนาค่ะ
ส่วนโรงพยาบาลใกล้เคียงก็จะมีโรงพยาบาลปิยะมินทร์และไทยนครินทร์ สวนสาธารณะที่ใกล้โครงการจะมีสวนหลวง ร.9 เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ บนเส้นศรีนครินทร์ค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้ โครงการพฤกษาวิลล์ 76 บางนา – วงแหวน
สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > ซอยมหาชัย > พฤกษาวิลล์ 76 บางนา – วงแหวน
เริ่มการเดินทางบนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนา เราจะเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายไปชลบุรี
ถึงแยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา – ตราด
เมื่อเข้ามาบนเส้นบางนา – ตราดแล้วเราเบี่ยงเข้าเลนขวาเพื่อจะไปวิ่งใต้ทางด่วนนะคะ
ขับตรงมาบนถนนบางนา – ตราด เรื่อยๆ ผ่านแยกศรีนครินทร์ และผ่านแยกถนนกิ่งแก้วตัดบางนา – ตราด จะเห็นป้ายเบี่ยงออกซ้ายเพื่อขึ้นสะพานกลับรถ
เบี่ยงซ้ายออกเพื่อขึ้นสะพานกลับรถ
ขึ้นสะพานกลับรถแล้วให้เราขับชิดเลนขวา
เราขับชิดเลนขวามาเรื่อยๆจะวนกลับรถไปบนถนนบางนา – ตราด ฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท ส่วนถ้าเราขึ้นสะพานมาแล้วขับชิดเลนซ้ายจะตรงไปยังจุดเก็บเงินค่าผ่านทางด่วนบูรพาวิถีฝั่งมุ่งหน้าฉะเชิงเทรานั่นเองค่ะ
ลงมาจากสะพานกลับรถแล้วเราจะอยู่บนถนนบางนา – ตราด ฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท
ผ่าน Tesco Lotus บางพลีทางซ้ายมือ
ในเวิ้งเดียวกันจะมี Market Village และ Home Pro สามารถแวะก่อนเข้าบ้านได้ สะดวกดีเหมือนกันค่ะ ที่เดียวครบ
ขับมาเรื่อยๆจนเกือบถึงแยกถนนบางนา – ตราด ตัดถนนกาญจนาภิเษกจะเห็นป้ายโฆษณาโครงการป้ายใหญ่ทางซ้ายมือ
ผ่านป้ายมาหน่อยเดียวจะเห็นซอยทางเข้าสนามกอล์บางพลีทางซ้ามือ ให้เราเลี้ยวเข้าซอยไปเลยค่ะ
เข้ามาในซอยจะเห็นโรงงาน The Deli House ทางซ้าย และสนามกอล์ฟบางพลีทางขวามือ
ขับตามทางเข้าซอยมาเรื่อยๆจะเห็นโมเต็ลทางขวา
โดยตัวโมเต็ลเป็นโมเต็ลเล็กๆ 2 ชั้น
ถัดจากโมเต็ลเข้ามาจะเป็นถนนเชื่อมต่อไปยังโครงการ โดยทางโครงการมีการลงไม้พุ่มไว้ให้ตลอดทาง ช่วยให้บรรยากาศตลอดทางร่มรื่น
จากปากซอยเข้ามาจนสุดซอย ระยะทางประมาณ 560 เมตร ก็จะเห็นโครงการ พฤกษาวิลล์ 76 บางนา – วงแหวน
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
ถนนบางนา – ตราด 560 ม.
แยกศรีนครินทร์ 7 กม.
ถนนศรีนครินทร์ 7 กม.
ถนนกาญจนาภิเษก 1.9 กม.
ถนนอุดมสุข 10 กม.
แยกหนองบอน 9.5 กม.
ถนนสุขุมวิท 10.2 กม.
แยกบางนา 10.2 กม.
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
สนามซ้อมกอล์ปบางพลี 550 ม.
Mega บางนา, Ikea 1.8 กม. Lotus บางพลี 13.1 กม.
เมืองแก้ว กอล์ฟ คอร์ส 6.2 กม. Makro ศรีนครินทร์ 8.3 กม. BigC ศรีนครินทร์ 8 กม.
Number One Plaza 9.8 กม. Index Living Mall 9.1 กม. Foodland ศรีนครินทร์ 9.5 กม. Central บางนา 9.5 กม. BigC บางนา 9.5 กม. Paradise Park 9.7 กม. Seacon Square 15.2 กม. Imperial สำโรง 13.2 กม.
รพ. ศิครินทร์ 7.7 กม. รพ. ไทยนครินทร์ 10 กม.
รอบๆโครงการ
พื้นที่รอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่า จากภาพมุมสูงเราจะเห็นว่าที่ดินของโครงการจะอยู่สุดซอยทางเข้าที่ใช้ร่วมกับสนามกอล์ฟบางพลี
ทิศเหนือและทิศใต้ จะติดกับที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ทิศตะวันออก จะติดกับซอยทางเข้าสนามกอล์ฟบางพลีและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟบางพลีทิศตะวันตก จะติดกับคลองบางแก้วใหญ่และเนื่องจากพื้นที่โดยรอบเป็นที่ดินเปล่าทำให้ตัวโครงการมีความสงบและเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงเหมาะกับการอยู่อาศัยค่ะ
ตัวโครงการ
มาดูที่ตัวโครงการกันต่อสำหรับที่ดินของโครงการจะมีพื้นที่ทั้งหมด 28 – 1 – 78.6 ไร่ จำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งสิ้น 286 ยูนิต โดยเมื่อเข้าไปในโครงการจากถนนซอยด้านหน้าแล้วจะเจอกับซุ้มทางเข้า ซึ่งตัวซุ้มทางเข้านี้จะมีรปภ.รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และใช้ระบบ Double Security Gate ที่ต้องใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเข้าไปในโครงการ
เมื่อเข้ามาในโครงการแล้วจะเจอกับถนนหลักกว้าง 12.35 เมตร ฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนของสวนสาธารณะและคลับเฮ้าส์ ถัดจากส่วนสวนสาธารณะเข้าไปจะเป็นส่วนของยูนิตพักอาศัยค่ะ โดยถนนในซอยย่อยจะมีความกว้าง 8.10 เมตร
เรามาดูของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มที่ด้านหน้าโครงการจะติดกับถนนซอยที่เข้ามาจากถนนบางนา – ตราด เป็นถนนซอยที่ใช้ร่วมกับสนามกอล์ฟบางพลี ทางโครงการจัดบรรยากาศให้ร่มรื่นโดยการลงต้นไม้ไว้ตลอดทางแบบนี้ค่ะ
ฝั่งขวามือจะเป็นซอยตัน ซึ่งตัวโครงการถือว่าเป็นโครงการสุดท้ายในซอยนี้ทำให้ไม่มีรถเข้ามาวิ่งพลุกพล่านค่ะ
ทางซ้ายมือก็จะเป็นถนนออกไปยังฝั่งบางนาตราด
มาดูตัวโครงการกันต่อเริ่มจากซุ้มทางเข้าหน้าโครงการแยกทางเข้าออก ตรงกลางเป็นป้อมรปภ. ทั้ง 2 ฝั่งจะใช้ระบบ Double Security Gate คือจะมีรั้วกั้นไม้กระดกและรั้วไฟฟ้า
ด้านหน้าซุ้มทางเข้าจะมีการจัดสวนสไตล์ Zenโดยใช้หินประดับพร้อมน้ำตก แต่งสวนด้วยพุ่มไม้โดยรอบ
ซุ้มทางเข้าโครงการจะแยกเป็นทางรถวิ่งและทางสำหรับคนเดินเข้าไว้ให้ เป็นประตูเล็กทางฝั่งซ้ายมือ
ประตูทางเข้าสำหรับคนเดินค่ะ
เข้ามาในโครงการจะเจอถนนหลักกว้าง 12.35 เมตร ฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของสวนสาธารณะและอาคารคลับเฮ้าส์
ฝั่งขวามือจะเป็นบ้านตัวอย่าง และบ้านมาตรฐาน
เรามาดูส่วนของสวนสาธารณะและ Club House กันก่อนค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางตรงนี้จะเป็นส่วนกลางหลักของโครงการ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 74.5 ตารางวา
ในพื้นที่สวนจะมีส่วนของอาคารคลับเฮาส์ซึ่งปัจจุบันใช้เป็น Sale Office นะคะ
เราเข้ามาดูด้านในเซลล์ออฟฟิศสักหน่อย ภายใน Sale Office จะมีเคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล
อีกด้านจะเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้รับรองผู้ที่เข้าชมโครงการค่ะ
ออกมาด้านนอกตัวอาคารจะเจอกับสระว่ายน้ำและสวนสาธารณะ
ตัวสระเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 6 x 10 เมตร แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่
ภายในห้องน้ำจะแยกอ่างล้างมือไว้ด้านนอก และภายในจะเป็นห้องน้ำ ไม่มีห้องอาบน้ำมาให้นะคะ
สระว่ายน้ำที่ได้จะได้เป็นสระระบบน้ำล้น มุมจากสระมองย้อนไปทางตัวอาคารคลับเฮ้าส์ค่ะ
ออกมาดูบรรยากาศของสวนด้านนอกกันบ้าง โดยจะมีการตกแต่งด้วยหินเพื่อให้ได้ตรงตาม Concept การออกแบบในสไตล์ Zen
ภายในสวนจะมีทางเดินรอบสวน
มีม้านั่งหลายชุดวางไว้ให้นั่งพักผ่อน
ถัดจากสวนส่วนกลางเรามาเดินดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันต่อค่ะ เข้ามาด้านในจะมีทั้งยูนิตพักอาศัยที่ติดถนนหลักฝั่งขวา และฝั่งซ้ายจะเป็นซอยย่อยที่มีความกว้าง 8.1 เมตร
โดยระหว่างอาคารแต่ละชุดจะมี Gap ที่เว้นไว้ตามกฎหมายและสำหรับโครงการนี้จะใช้เป็นที่กลับรถ มีการจัดสวนไว้ให้นิดหน่อยแบบนี้ค่ะ
เดินเข้ามาด้านในโครงการจะเห็นซอยย่อยทางซ้าย เป็นซอยที่ติดกับสวนสาธารณะ
สำหรับข้อดีของ Unit ที่หันหน้าเข้าหาสวนสาธารณะคือ ได้ความเป็นส่วนตัวและได้ความโปร่งลงมากขึ้นเนื่องจากไม่ต้องหันหน้าชนกับเพื่อนบ้าน ถือเป็นข้อดีสำหรับบ้านที่อยู่ติดสวน แต่ก็จะมีข้อเสียบ้างคือวันไหนที่มีคนมาใช้สวนสาธารณะเยอะๆก็อาจจะมีเสียงดังรบกวนบ้างนิดหน่อยค่ะ
ถัดเข้ามาดูบรรยากาศด้านในโครงการ ลึกเข้ามาอีกบนถนนหลัก
จะเห็นว่าฝั่งซ้ายมือจะมีพื้นที่ทางเดินสำหรับ 1 คนเดิน พร้อมลงไม้พุ่มตลอดทางช่วยให้บรรยากาศในโครงการโดยรวมร่มรื่นค่ะ
ถัดมาจะพามาดูซอยย่อยมาตรฐานฝั่งซ้ายมือ
บรรยากาศด้านในซอยค่ะความกว้างถนน 8.10 เมตร เท่ากันทุกซอย การวางบ้านจะหันหน้าเข้าหากันตามแบบทาวน์โฮมทั่วไป
แบบบ้าน
แบบบ้านสำหรับโครงการนี้จะมีเพียงแบบเดียวคือบ้านแบบ Neo Zen
บ้านตัวอย่าง
มาดูบ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ เริ่มจากแปลนบ้านชั้น 1 เข้ามาจะเจอกับที่จอดรถขนาด 2 จอด ถัดจากที่จอดรถจะมีเฉลียงทางเข้าหน้าบ้าน เมื่อเข้าไปในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ฝั่งขวามือจะเป็นโถงบันไดขึ้นไปยังชั้น 2
ติดกับห้องนั่งเล่นด้านในจะเป็นพื้นที่ทานอาหาร และทางขวามือจะเป็นพื้นที่ครัวแยกส่วนไว้ให้เราสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้สะดวก จากในห้องครัวจะสามารถเชื่อมต่อกับห้องน้ำรับรองที่ชั้น 1 ได้ค่ะ ส่วนลานซักล้างหลังบ้านจะเชื่อมต่ออยู่กับห้องทานอาหาร
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ก่อนเป็นส่วนแรก โดยพื้นที่อเนกประสงค์นี้เราสามารถที่จะจัดเป็นห้องสำหรับพักผ่อนของครอบครัวหรือจะจัดเป็นห้องหนังสือหรือห้องทำงานก็ได้ และในกรณีที่มีสมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้นก็สามารถที่จะกั้นห้องให้เป็นห้องนอนเพิ่มอีกห้องก็ได้ค่ะ ติดกับพื้นที่ห้องอเนกประสงค์เข้ามาจะเป็น Master Bedroom 1 ภายในห้องจะมีห้องน้ำในตัว พื้นที่ในห้องใช้หน้ากว้างของบ้านฝั่งหน้าบ้านไปทั้งหมด มีพื้นที่สำหรับวางเตียงและตู้เสื้อผ้าได้ สามารถที่จะจัดเป็นพื้นที่ Walk – in Closet เล็กๆได้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะมีห้องนอน 2 ห้องเป็นห้อง Master Bedroom ห้องที่ 2 และห้องนอนรองโดยภายในห้อง Master Bedroom จะมีระเบียงและทางเข้าห้องน้ำในตัว การจัดสรรพื้นที่ในห้อง Master Bedroom สามารถที่จะจัดเป็น Walk – in Closet เล็กๆได้เช่นกัน ส่วนห้องนอนรองจะมีขนาดเล็กลงมา มีระเบียงในตัวและสามารถเข้าห้องน้ำได้จากห้องนอนเลยเช่นกัน โดยตัวห้องน้ำจะสามารถเข้าออกได้ 2 ทางจากห้อง Master Bedroom 2 และห้องนอนรองค่ะ ห้องน้ำที่ชั้น 2 และชั้น 3 จะมีการแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ใช้งานได้สะดวก
มาดูบ้านของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มต้นจากหน้าตาบ้านภายนอกเป็นอาคารทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น เน้นโทนสีเทาและขาว ออกแบบสไตล์ Zen จะสังเกตได้จากเส้นสายที่เรียบง่ายแต่มั่นคง ดูแล้วเกิดความรู้สึกสงบนิ่ง
จากภายนอกจะเห็นช่องแสงขนาดใหญ่ด้านหน้าชัดเจน โดยช่องแสงที่เราเห็นนี้จะเป็นช่องแสงที่เชื่อมอยู่กับห้อง Master Bedroom ที่ชั้น 2 และชั้น 3 ทั้ง 2 ห้อง
ส่วนบ้านมาตรฐานที่เราจะได้จะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
รั้วหน้าบ้านจะได้เป็นรั้วบานเปิดแบบบานพับ 3 ตอน เปิดได้จนสุดหน้ากว้าง
พื้นที่รั้วหน้าบ้านจะติดป้ายเลขที่บ้านและกริ่งหน้าบ้านมาให้ หน้าตาแบบนี้ค่ะ ส่วนกล่องจดหมายจะต้องหามาติดตั้งเพิ่มเติมกันเองนะคะ
เข้ามาภายในบ้านในบ้านตัวอย่างจัดเป็นสวนสไตล์เซน
ส่วนในบ้านมาตรฐาน เมื่อเข้ามาจะเป็นที่จอดรถขนาด 2 จอด พื้นปูด้วยคอนกรีตฉาบเรียบเต็มพื้นที่
ก่อนเข้าบ้านจะมีเฉลียงกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร พอให้วางชั้นวางรองเท้าเล็กๆได้ โดยพื้นเฉลียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา
รั้วระหว่างบ้านจะได้เป็นรั้วทึบสีขาว สูง 1.5 เมตร
สำหรับบ้านแปลงมุมจะมีพื้นที่ข้างบ้านเหลือ โดยทางโครงการจัดเป็นทรายปรับระดับมาให้ เราสามารถที่จะตกแต่งสวนด้วยตัวเองได้ค่ะ
เรามาเข้าไปดูในตัวบ้านกันต่อ ประตูที่ใช้เป็นประตูทางเข้าหลักของบ้านจะได้เป็นประตูบานเลื่อนคู่ ผสมบานฟิกซ์ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
มือจับสองฝั่งจับสะดวกแบบนี้ค่ะ
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับพื้นที่ห้องรับแขก มองตรงไปจะติดกับพื้นที่ทานอาหาร ทางขวามือจะเป็นโถงบันไดเชื่อมขึ้นไปยังชั้นสอง ส่วนในบ้านจริงเราจะได้ผนังฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมติดตั้งบัวเชิงผนังสีขาวมาให้ตามแบบ พื้นชั้น 1 ยกสูงขึ้นมาประมาณ 10 เซนติเมตร
โดยประตูจะติดตั้งวงกบแบบลดระดับมาให้ช่วยให้ลดโอกาสการเดินสะดุดขอบประตูค่ะ
พื้นที่ส่วนห้องรับแขกจะได้เป็นไฟซาลาเปาทรงสี่เหลี่ยมขนาด 14 นิ้ว
สำหรับพื้นที่ห้องรับแขกในบ้านตัวอย่างซึ่งจะเป็นบ้านหลังแปลงมุม จะเห็นว่าเราจะได้ช่องแสงมาทั้งหมด 3 จุด เป็นประตูทางเข้าหลักของบ้านและหน้าต่างทรงสูงฝั่งข้างบ้าน แต่ในบ้านมาตรฐานเราจะไม่ได้หน้าต่างฝั่งข้างบ้านนะคะ
ในบ้านตัวอย่างทางโครงการวางโซฟาขนาดประมาณ 3 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเราจะเห็นว่าเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้เพื่อวางโต๊ะเล็กข้างโซฟาได้อีก 1 ชุด แต่ในกรณีที่ใครต้องการโซฟาตัวใหญ่ๆหน่อยก็สามารถที่จะเพิ่มเป็นได้ถึง 5 ที่นั่งหรือ 6 ที่นั่งในลักษณะ L – Shapeได้ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นผนังสำหรับวางทีวีและโถงบันได ในบ้านจริงเราจะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือระหว่าง หน้าบ้านและโถงบันได พื้นที่ตรงนี้เราสามารถที่จะกั้นเป็นห้องเก็บของเล็กๆน้อยๆได้เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ และในบ้านมาตรฐานจะเห็นว่ามีห้องเก็บของเล็กๆด้วย
พื้นที่ห้องเก็บของใต้บันได ภายในห้องเก็บของขนาดไม่กว้างเท่าไหร่ สามารถเก็บของได้พอประมาณ
ระยะดูทีวีในห้องรับแขกจะเหลือประมาณ 3.2 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 60″ – 70″ ได้เลยค่ะ
ถัดจากห้องรับแขกเข้าไปเราจะไปดูในส่วนของห้องทานอาหารกันต่อ
พื้นที่ห้องทานอาหารสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาดประมาณ 6 ที่นั่งได้พอดี จากรูปเราจะเห็นว่าห้องทานอาหารมีช่องแสงมาให้ 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนฝังข้างบ้านและประตูเชื่อมออกไปยังลานซักล้างหลังบ้าน ซึ่งในบ้านมาตรฐานหรือแปลงกลางจะไม่มีช่องแสงฝั่งข้างบ้านมาให้นะคะ
เราไปดูในส่วนของลานซักล้างหลังบ้านกันต่อ โดยประตูที่เชื่อมระหว่างห้องทานอาหารและลานซักล้างหลังบ้านจะได้เป็นชุดประตูบานเลื่อนคู่ ผสมบานฟิกซ์ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
มือจับแบบเซาะร่องพร้อมตัวล็อคมาตรฐาน
ออกมาที่ลานซักล้างหลังบ้าน พื้นลานซักล้างจะปูด้วยซีเมนต์ปาดเรียบเต็มพื้นที่ และพื้นจะลดระดับลงมาประมาณ 9 ซม. พร้อมติดตั้งแท้งค์น้ำและก๊อกน้ำสำหรับเผื่อวางเครื่องซักผ้ามาให้เรียบร้อยค่ะ
และจะได้ส่วนไฟฟลูออเรสเซนต์มา 1 ดวง
กลับเข้ามาได้ในตัวบ้าน ถัดมาเราจะไปดูในส่วนของห้องครัวกันต่อ
โดยห้องครัวของบ้านจะมีการแบ่งพื้นที่ไว้ให้เป็นสัดส่วน แต่จะไม่มีกั้นห้องมาให้ซึ่งเราสามารถที่จะมากั้นห้องติดเองได้ไม่ยากและสามารถที่จะเลือกได้ว่าต้องการผนังแบบไหน ซึ่งถ้าใครอยากได้บ้านที่มีความโปร่ง กั้นห้องแล้วดูไม่ทึบก็แนะนำให้กั้นห้องด้วยกระจกบางส่วนจะช่วยให้สามารถมองเห็นในครัวได้ทำให้บ้านโปร่งกว่าการกั้นผนังแบบทึบค่ะ
เข้ามาดูพื้นที่ในห้องครัวในบ้านมาตรฐานจะมีงานระบบติดตั้งไว้ให้รองรับการทำเคาน์เตอร์ครัวเรียบร้อย
ภายในห้องครัวจะมีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่เหนือซิงค์ล้างจาน ตำแหน่งติดตั้งช่องแสงแบบนี้จะช่วยให้ครัวได้รับแสงธรรมชาติและฆ่าเชื้อโรคบริเวณซิงค์ล้างจานได้ดีค่ะ
สำหรับไฟในห้องครัวก็จะได้เป็นโคมซาลาเปาทรงสี่เหลี่ยมเช่นกัน
ติดกับห้องครัวอีกฝั่งจะเป็นส่วนของห้องน้ำรับรองที่ชั้น 1 โดยประตูห้องน้ำในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบาน UPVC สีขาว วงกบ UPVC สีขาวเช่นกัน
มือจับก้านโยก
เข้ามาด้านในห้องน้ำ โดยห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเป็นห้องน้ำแบบรับรอง โดยจะมีแค่ส่วนแห้งเท่านั้น ไม่มีส่วนเปียกหรือพื้นที่อาบน้ำค่ะ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้มลดระดับลงไปประมาณ 4 เซนติเมตร
อ่างล้างมือที่ได้จะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมขนาดค่อนข้างกว้าง พร้อมก๊อกน้ำเย็น ทั้งชุดยี่ห้อ Bathroom Design หรือเทียบเท่า
ส่วนโถสุขภัณฑ์ที่ได้จะได้ของ Kohler พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระครบชุด ระยะการใช้งานเหลือเฟือค่ะ ตัวสายชำระขนาดจับพอดีมือ
กลับมาที่ห้องรับแขกเราจะขึ้นไปดูบนชั้นสองกันต่อ โดยตัวบันไดของโครงการนี้จะเป็นโครงสร้างเหล็กปิดหน้าด้วยไม้จริงสีอ่อน
ขึ้นมาจะเห็นราวจับทางฝั่งซ้ายมือ สีเข้ากับตัวบันไดแบบนี้ค่ะ
ขึ้นมาถึงชั้น 2 ส่วนแรกที่เราจะเห็นเลยคือห้องเก็บของที่ซ่อนไว้ เป็นห้องเก็บของใต้บันไดโดยใช้พื้นที่ใต้บันไดของระหว่างชั้น 2 และชั้น 3
ภายในห้องเก็บของสามารถเก็บของได้เยอะพอสมควรค่ะ
สำหรับในบ้านจริงก็จะเป็นบานประตูสีขาวมาตรฐานแบบนี้ค่ะ
จากโถงบันไดเราจะไปดูในส่วนของห้องอเนกประสงค์กันต่อ โดยพื้นที่ห้องอเนกประสงค์นี้จะไม่มีการกั้นห้องแยกนะคะ จะเป็นโถงเชื่อมต่อไปจากโถงบันไดเข้าไปยังตัวห้องเลย
เข้ามาด้านในห้องตัวอย่างจะจัดเป็นพื้นที่พักผ่อน มีตู้เก็บหนังสือ มีช่องแสง 2 จุดสำหรับบ้านแปลงมุม ส่วนบ้านมาตรฐานจะมีช่องแสงเพียงจุดเดียวคือทางฝั่งหลังบ้านนะคะ
นอกจากนั้นพื้นที่ในห้องนี้เราสามารถที่จะจัดเป็นฟังก์ชันอื่นได้อีกเช่น ห้องทำงาน, ห้องอเนกประสงค์หรือถ้ามีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนการห้องเพิ่มเป็นห้องนอนได้อีก 1 ห้องค่ะ
ถัดมาเราจะไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom ห้องแรกกันต่อ โดยประตูในบ้านมาตรฐานที่ได้จะได้เป็นบาน HDF ปิดผิวลามิเนต PVC ลายไม้สีอ่อน
พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนตยาวต่อเนื่องไปจากโถงบันได ไม่มีตัวจบกั้น
เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่โถงเล็กๆ พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถที่จะจัดเป็นตู้เก็บของได้ ส่วนฝั่งขวามือจะติดกับห้องน้ำในตัวของห้องนอนใหญ่ค่ะ
เราไปดูในส่วนของห้องน้ำกันก่อน
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปประมาณ 4 ซม. สำหรับห้องน้ำบนชั้น 2 นี้จะได้เป็นห้องน้ำแบบแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย
อ่างล้างมือของห้องน้ำที่ชั้นนี้จะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมขนาดค่อนข้างกว้าง มีเคาน์เตอร์ใต้อ่างยี่ห้อ Bathroom Design มีพื้นที่เก็บของบนของอ่างอีกนิดหน่อย
ติดกับอ่างล้างมือได้เป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ระยะการใช้งานพอดีๆ
ส่วนพื้นที่อาบน้ำทางโครงการจัดเป็น Shower Box จะได้เป็นบานประตูแบบเลื่อนกระจกนิรภัย กรอบสีขาว
มือจับยื่นออกมาเป็นก้านจับสะดวกแบบนี้ค่ะ
เข้ามาด้านในห้องอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower มาให้ พร้อมที่วางสบู่ ฝักบัวที่ได้ของ Rassland ขนาดค่อนข้างใหญ่
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.9 x 1.5 เมตร ให้พอยืนอาบได้สบายๆค่ะ
เราจะไปดูในส่วนของห้องนอนกันต่อ โดยพื้นที่ที่เชื่อมต่อระหว่างส่วนโถงหน้าห้องกับห้องนอนเราสามารถที่จะเพิ่มเป็นโต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆตามแบบบ้านตัวอย่างได้
เข้ามาภายในห้องนอนจะเห็นว่ามีช่องแสงหลักเป็นประตูฝั่งหน้าบ้าน ส่วนในบ้านแปลงมุมก็จะได้ช่องแสงบานยาวเพิ่มมาทางฝั่งข้างบ้านด้วยค่ะ
สำหรับจุดเด่นของห้องนี้จะเป็นช่องแสงบานใหญ่ฝั่งหน้าบ้านค่ะ โดยจะได้เป็นชุดประตูบานเลื่อนผสมบานฟิกซ์แบบเข้ามุม ความสูงจรดฝ้าเพดาน ทำให้ตัวห้องได้รับแสงธรรมชาติเยอะ และสามารถมองเห็นมุมมองที่กว้างกว่าปกติ ช่วยให้ห้องโปร่งขึ้นค่ะ
ตัวบานแบบเข้ามุมช่วยให้ได้มุมมองที่กว้างขึ้น แบบนี้ค่ะ
สำหรับห้องนี้จะไม่มีระเบียงในตัวนะคะ ราวกันตกด้านนอกจะใช้สำหรับตกแต่งเท่านั้น
ในห้องนี้จัดเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือข้างเตียงพอให้วางโต๊ะข้างเตียงได้เพราะฉะนั้นการที่จะเพิ่มขนาดเตียงให้ใหญ่ขึ้นเป็นคิงส์ไซส์ ก็สามารถทำได้สบายๆ แต่โต๊ะหัวเตียงอาจจะต้องลดขนาดลงมานิดหน่อยค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงซ้ายมือเหลือค่อนข้างเยอะ พอให้วางเบาะนั่งเล่นได้อีก 1 ชุดค่ะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจัดเป็น Walk – in Closet แบบกั้นผนังมาให้บางส่วน แต่ในห้องมาตรฐานก็จะได้เป็นพื้นที่ว่างไม่มีผนังกั้น ทำให้เราสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะจัดเป็นห้อง Walk – in Closet แบบกั้นห้องแยกหรือจะแค่หาฉากมากั้นก็ได้ สำหรับขนาดพื้นที่เท่านี้ แนะนำให้ฉากมากั้นหรือทำผนังกั้นบางส่วนก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะพื้นที่ไม่ได้กว้างมาก ถ้ากั้นห้องทึบแยกไปเลย จะทำให้อึดอัดเกินไปหน่อย
กลับมาที่โถงบันได เราจะขึ้นไปดูบนชั้น 3 กันต่อค่ะ
เดินขึ้นมาบนโถงบันได จะเห็นว่าตัวโถงค่อนข้างสูง มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ ตรงนี้แนะนำให้หาโคมไฟเก๋ๆมาติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อจะได้ให้แสงสว่างในเวลากลางคืนค่ะ
สำหรับชานพักบันไดจะเป็นชานพัก 2 ชั้น แบ่งเป็นชานพักสี่เหลี่ยมและชานพักสามเหลี่ยม
ให้ดูภาพรวมของโถงบันไดจากชั้น 3 ค่ะ
ขึ้นมาบนชั้น 3 ชั้นนี้จะแบ่งออกเป็นห้องนอน 2 ห้อง คือห้อง Master Bedroom 2 และห้องนอนรองด้านหน้าห้องจะมีพื้นที่โถงบันไดค่อนข้างกว้าง สามารถที่จะวางเก้าอี้นั่งหรือจะติดตั้งเป็นตู้สำหรับเก็บของส่วนรวมของห้องนอนทั้ง 2 ห้องได้ค่ะ
เรามาดูที่ห้องนอนรอง ห้องที่ติดกับบันไดกันก่อน
เข้ามาด้านในห้องนอนรอง จะเป็นห้องขนาดเล็กที่สุดในบ้าน มีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ สำหรับในห้องนี้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต มาให้ดูเป็นตัวอย่างซึ่งถือเป็นขนาดเตียงที่เหมาะสมกับพื้นที่ในห้อง ทำให้สามารถใช้ส่วนอื่นของห้องในการวางฟังก์ชั่นอื่นๆ อย่างเช่นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือได้ค่ะ
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงจัดเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ
ให้ดูระยะการใช้งานค่อนข้างพอดีไม่อึดอัด
อีกฝั่งของห้องจัดเป็นตู้เสื้อผ้า
ระยะการใช้งานเหลือค่อนข้างเยอะสามารถยืนแต่งตัวได้สบายเลยค่ะ
จากห้องนอนรองจะสามารถเข้าไปยังห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันทั้ง 2 ห้องได้เลยค่ะ
ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนแห้งส่วนเปียกพร้อม Shower Box มาให้ พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 4 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม
อ่างล้างมือได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม พร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่าง สามารถเก็บของได้พอประมาณ ยี่ห้อ Bathroom Design
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler ระยะการใช้งานพอดี มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบชุด
ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะถูกแบ่งด้วย Shower Box การแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ค่ะ
เข้ามาด้านในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวพร้อมที่วางสบู่มาให้เรียบร้อยยี่ห้อ Rassland ภายในห้องน้ำจะมีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเกล็ดช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาด้านในห้องและช่วยระบายอากาศ
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.5 เมตร กว้างพอให้ยืนอาบได้สบายๆค่ะ
ให้ดูประตูทางเข้าห้องน้ำ จะเห็นว่ามีทางเข้า 2 ทาง ฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเข้าจากห้องนอนรอง ส่วนทางขวามือจะเป็นทางเข้าจากห้อง Master Bedroom 2 ค่ะ
กลับมาที่โถงบันไดเรามาดูห้อง Master Bedroom 2 กันต่อ
เข้ามาในห้องในบ้านตัวอย่างจะกั้นพื้นที่ส่วนแรกให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เก็บของ
ส่วนในบ้านจริงจะเป็นโถงโล่ง ยาวไปจนถึงส่วนห้องนอนด้านในค่ะ ฝั่งขวามือจะเป็นส่วนของห้องน้ำที่เราเข้าไปดูกันเมื่อสักครู่ค่ะ
มุมภายในห้องน้ำเมื่อเข้าไปจากห้อง Master Bedroom 2
ถัดมาเรามาดูในส่วนของพื้นที่ห้องนอนกันต่อ โดยภายในห้องนอนจะมีช่องแสง 1 จุด เป็นชุดประตูบานเลื่อนผสมบานฟิกซ์ ที่สามารถเชื่อมต่อออกไปยังระเบียงภายนอกได้
โดยจุดเด่นของห้องนี้ก็ยังคงเป็นช่องแสงบานใหญ่ฝั่งหน้าบ้านเหมือนเดิมค่ะ ที่มีความสูงจรดฝ้าและมีกระจกเข้ามุมช่วยให้ห้องดูโปร่งมากขึ้นและรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น
ออกมาดูพื้นที่ส่วนระเบียง ขนาดของระเบียงกว้างประมาณ 0.6 เมตร พอให้วางกระถางไม้เล็กๆได้ค่ะ ราวกันตกจะเป็นเหล็กทาสีฟ้าอมเทา
สำหรับพื้นที่ระเบียงจะมีโคมไฟติดผนังมาให้ 1 ดวง พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ลดระดับลงมาประมาณ 8 ซม.
กลับเข้ามาในห้อง ห้องนี้จะจัดเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ซึ่งเมื่อวางเตียงลงไปแล้วจะมีพื้นที่เหลือข้างเตียงประมาณ 80 ซม. พอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ค่ะ ส่วนเตียงอีกฝั่งจะวางเกือบชิดผนัง มีเว้นพื้นที่ไว้ให้พอเดินเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงจัดเป็นส่วน Walk – in Closet และโต๊ะทำงาน
โต๊ะทำงานตั้งอยู่ติดกับช่องแสงบานเล็กที่เปิดออกไปเป็นพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์
พื้นที่ Walk – in Closet เมื่อจัด Built – in เป็นตู้เสื้อผ้าและฉากกั้นแล้ว จะเหลือระยะการใช้งานประมาณ 75 ซม. ค่ะ
มุมมองจากในห้องย้อนไปทางประตูทางเข้าห้องและโถงบันได
สวิทช์และปลั๊กไฟทั้งบ้านจะใช้ของ Schnider เป็นมาตรฐานค่ะ
ราคา
บ้านแปลง 89/117 ที่ดิน 22 ตร.วา ทิศหน้าบ้านหันไปทางทิศใต้ ราคา 3.09 ล้านบาทบ้านแปลง 89/242 ที่ดิน 22 ตร.วา ทิศหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออก ราคา 3.29 ล้านบาทบ้านแปลง 89/239 ที่ดิน 26 ตร.วา ทิศหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออก ราคา 3.49 ล้านบาทบ้านแปลง 89/240 ที่ดิน 26 ตร.วา ทิศหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออก ราคา 3.49 ล้านบาทบ้านแปลง 89/249 ที่ดิน 26 ตร.วา ทิศหน้าบ้านหันไปทางทิศใต้ ราคา 3.49 ล้านบาทบ้านแปลง 89/245 ที่ดิน 32.2 ตร.วา มุมรั้ว ทิศหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก ราคา 3.49 ล้านบาท
เงินจอง + ทำสัญญา 10,000 บาท
ราคาที่ดินเพิ่ม – ลดตารางวาละ 120,000 บาท
ค่าส่วนกลางตารางวาละ 35 บาท/เดือน ชำระล่วงหน้า 24 เดือน
สรุป
ทำเล :โครงการ พฤกษาวิลล์ 76 บางนา – วงแหวน
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว :โครงการ พฤกษาวิลล์ 76 บางนา – วงแหวน
การเดินทางโดยรถสาธารณะ :
ส่วนรถไฟฟ้าในปัจจุบันจะมีสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ BTS สถานีอุดมสุข มีระยะทางจากโครงการประมาณ 6.8 กม. พอให้ใช้บริการได้ นอกจากนั้นในอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จะมีสถานีศรีเอี่ยมที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยตัวสถานีจะอยู่บริเวณแยกศรีนครินทร์ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นค่ะ (กำหนดการเสร็จปี 2562)
แบบบ้านและ วัสดุในบ้าน :
ส่วนการจัดวางฟังก์ชั่นภายในตัวบ้าน เน้นช่องแสงเข้าถึงภายในบ้าน แต่ละส่วนของบ้านแบ่งพื้นที่มาให้ไม่อึดอัด ดูโปร่งโล่ง พื้นที่ในบ้านจัดมาให้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่ครัวแยกมาให้แต่ไม่ได้กั้นห้องเป็นครัวปิด มีห้องน้ำทุกชั้น ได้ห้อง Master Bedroom 2 ห้อง มีช่องแสงขนาดใหญ่ภายในห้อง และมีส่วนที่สามารถทำ Walk – in Closet ได้ทั้ง 2 ห้อง
วัสดุได้ของมีคุณภาพ เริ่มตั้งแต่ประตูหน้าบ้าน และหน้าต่างทุกบานได้กระจกใสเขียวตัดแสงบานเลื่อนกรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีอบเทาดำ บานประตูภายในบ้านเป็นบาน HDF สีขาว, บานประตูห้องน้ำ UPVC สีขาว, อุปกรณ์ปลั๊กและสวิทช์ไฟของ Schinider
พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. พื้นชั้น 2 และชั้น 3 เป็นไม้ลามิเนต พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิค ผนังจะได้ฉาบเรียบทาสีทั้งหลัง ผนังห้องน้ำกรุกระเบื้องเซรามิค ห้องครัวเดินระบบไว้ให้เรียบร้อย ไฟในบ้านได้ทั้งโคมซาลาเปาแลไฟดาวน์ไลท์ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำอ่างล้างหน้า Bathroom Design โถสุขภัณฑ์ Kohler ก๊อกน้ำ Karat ฝักบัว Rassland แยกส่วนแห้งส่วนเปียก
สาธารณูปโภค :
ตารางคะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
8.0
ในซอยสนามกอล์ฟบางพลี มีความสงบเงียบ ไม่พลุกผ่าน ออกมาด้านนอกจะติดกับถนนบางนา – ตราด มีความคึกคักบนถนนเส้นนี้สูง ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง
การเดินทาง ใช้รถ
8.0
เดินทางค่อนข้างสะดวก สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้หลายสาย และใกล้จุดขึ้นทางด่วนวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้มาก และทางด่วนบูรพาวิถี, ทางด่วนเฉลิมมหานคร
การเดินทาง ไม่ใช้รถ
7.0
กลางๆ มีตัวเลือกให้ใช้คือต้องเดินออกมาหน้าโครงการเพื่อเรียก Taxi , ขึ้นรถเมล์ ถ้าจะขึ้นรถไฟฟ้าปัจจุบันจะต้องนั่ง Taxi ไปที่ตัวสถานีอุดมสุข
บ้านและวัสดุ
8.5
แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ภายในบ้านได้ห้องน้ำมาทุกชั้น โถงชั้น 1 สูง พื้นที่ชั้น 2 สามารถใช้เป็น Showroom โชว์สินค้าได้
สิ่งอำนวยความสะดวก
8.0
อาคาร Club House สระว่ายน้ำ และสวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัยมีซุ้มทางเข้าหลักแบบ Double Security Gate ใช้ Key Card Access มีรปภ. 24 ชม.
ความคุ้มค่ากับราคา
8.0
ครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ต้องการที่อยู่อาศัยย่านบางนา และสภาพแวดล้อมในโครงการสงบ เน้นการใช้งานรถยนต์เป็นหลักแต่ก็ยังพอเดินทางด้วยรถสาธารณะได้ไม่ยาก
คะแนนรวมเฉลี่ย
7.91
ดี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 085-2534246, 085-253441, 092-7583291, Call Center 1739
Website : http://pruksaville.pruksa.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น