EP.1173 รีวิว ทาวน์โฮม พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน) Pruksa Ville Ramkamhaeng-Wongwaen (Mistine)
Written by : Aun Chaya
สวัสดีเพื่อนๆ Homenayoo ทุกท่านครับ วันนี้ผมขออาสาพาไปรีวิวโครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน) ซึ่งถือว่าเป็นโครงการใหม่แกะกล่องของทางของทาง พฤกษา เรียลเอสเตท เนื่องจากเพิ่งจะเปิด Pre-sale ไปเมื่อวันที่ 25-26 ส.ค. ที่ผ่านมานี้เองครับ ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยเคหะร่มเกล้า 78 สามารถเข้าออกได้หลายทางทั้งจากถนนรามคำแหง, ถนนกาญจนาภิเษก และถนนร่มเกล้า เสริมความสะดวกในการเดินทางรอบด้านด้วย ทางด่วนมอเตอร์เวย์ , สนามบินสุวรรณภูมิ และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ในอนาคต)
พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน) เป็นที่พักอาศัยในรูปแบบของทาวน์โฮม และบ้านแฝด 2 ชั้น ด้วยคอนเซปต์ “The Passion of Neo-Classic Style” ออกแบบโครงการให้มีกลิ่นอายความเป็นยุโรป เน้นความรู้สึกหรูหราแต่เรียบง่าย ผสานเข้ากับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว บนพื้นที่ขนาดกว่า 49 ไร่ จำนวนบ้าน 482 ยูนิต มีแบบบ้าน 3 Type ได้แก่ Milano, Rome และ Tuscany พื้นที่ใช้สอย 98 – 140 ตร.ม. 3-4 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ 1-2 ที่จอดรถ และพร้อมให้เข้าอยู่อาศัยภายในเดือน กันยายน 2561 นี้ครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในครบครัน เพียบพร้อมด้วย คลับเฮ้าส์หรูสไตล์ European Classic, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และ Bike Lane พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง CCTV, Auto Access Card, แยกช่องทางเข้าลูกบ้าน-Visitor, ประตูล็อค 2 ชั้น และเจ้าหน้าที่รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.66 ล้านบาท
พฤกษา วิลล์ ทำเลอื่นๆ
พฤกษา วิลล์ 109 (รามคำแหง-วงแหวน)
พฤกษา วิลล์ 114 (รามแคำแหง-ร่มเกล้า)
พฤกษา วิลล์ 105/1 (รามอินทรา-พระยาสุเรนทร์)
พฤกษา วิลล์ 112 (กรุงเทพกรีฑา-วงแหวน)
พฤกษา วิลล์ ติวานนท์-รังสิต
พฤกษา วิลล์ พหลโยธิน-คลองหลวง
พฤกษา วิลล์ ลาดกระบัง-ประชาพัฒนา
พฤกษา วิลล์ ดอนเมือง-สรงประภา
พฤกษา วิลล์ บางนา-วงแหวน
พฤกษา วิลล์ บางนา-อ่อนนุช
พฤกษา วิลล์ บางนา-เอแบค
พฤกษา วิลล์ ศรีนครินทร์-บางนา
ชื่อโครงการ | พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน) / Pruksa Ville Ramkhamhaeng-Wongwaen (Mistine) |
เจ้าของโครงการ | พฤกษา เรียลเอสเตท / Pruksa |
ลักษณะโครงการ |
|
พื้นที่โครงการ | 49-1-93.0 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 482 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 18.10 ตร.วา. ขึ้นไป |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 98.00-140.00 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 3-4 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 1-2 คัน |
โซน | รามคำแหง, ร่มเกล้า, สะพานสูง |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | รถสองแถว : มีนบุรี-ร่มเกล้า-ซีรอ / ร่มเกล้า-แฟชั่นไอส์แลนด์ / มิสทีน-เดอะมอลล์ บางกะปิ |
ที่ตั้ง | ซอยเคหะร่มเกล้า 78 แยก 1 ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. 10240 |
กำหนดการ | เปิดจอง 25-26 สิงหาคม 2561 |
ปีที่สร้างเสร็จ | พร้อมเข้าอยู่อาศัย กันยายน 2561 |
ราคา | เริ่มต้น 2.6 ล้านบาท (ก.ย. 61) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 35 บาท/เดือน/ตร.ว. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้าและตลาด
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
อื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน) ทาวน์โฮมหรู สไตล์ European Classic บนทำเลศักยภาพ ใกล้มอเตอร์เวย์, รถไฟฟ้าสายสีส้ม และ สนามบินสุวรรณภูมิ |
ถ.เคหะร่มเกล้า
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ซอยเคหะร่มเกล้า 78 แยก 1 ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. 10240
พิกัด : 13.777027, 100.709523
แผนที่จากทางโครงการ
พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน) มีที่ตั้งอยู่ภายในซอยเคหะร่มเกล้า 78 แยก 1 องค์ประกอบภายในซอยดังกล่าวเป็นบ้านพักอาศัยทั้งสิ้น ประกอบกับด้านในเป็นซอยตันจึงทำให้มีรถผ่านเข้าออกไม่มาก ได้ในเรื่องของความเป็นส่วนตัว ความเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง ตัวที่ตั้งโครงการอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเข้าออกได้หลายทาง แต่ถนนที่จะถูกอ้างอิงเป็นหลักคือถนนรามคำแหง ปัจจุบันทำเลรามคำแหงนี้กำลังได้รับการพัฒนาทางด้านการคมนาคมด้วยการมีรถไฟฟ้าเข้าถึง โดยรถไฟสายดังกล่าวคือรถไฟสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี สิ่งที่มีผลกระทบในปัจจุบันคือเรื่องของการจราจรอันเกิดมาจากการโดนลดช่องจราจรเพื่อก่อสร้างนั่นเอง แต่เพื่อผลประโยชน์ในระยะยาวน่าจะคุ้มค่าเข้าออกเมืองได้สะดวกขึ้น ส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตของคนในย่านนี้ดีขึ้นด้วยครับ
การเดินทางด้วยรถส่วนตัว ถือว่าเป็นจุดแข็งของโครงการที่สำคัญ เพราะสามารถเข้าออกได้หลากหลายเส้นทางโดยมีถนนราษฎร์พัฒนา และถนนเคหะร่มเกล้าเป็นตัวเชื่อมเข้าสู่ถนนใหญ่ โดยผมจะขอแยกเป็นเส้นทางต่างๆดังนี้
ทางด่วนกาญจนาภิเษก ในส่วนของการใช้งานทางด่วนกาญจนาภิเษกนั้น จุดเข้าทางด่วนวงแหวนฯจะอยู่ที่บริเวณแยกต่างระดับสุขาภิบาล 3 โดยผ่านถนนราษฎร์พัฒนา เลี้ยวซ้ายที่แยกมิสทีนเข้าสู่ถนนรามคำแหง แล้วตรงไปก่อนที่จะถึงทางแยกต่างระดับสุขาภิบาล 3 จะมีทางเบี่ยงออกเพื่อเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก ระยะทางจากโครงการถึงจุดเข้าทางหลักถนนกาญจนาภิเษกอยู่ที่ 5.4 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ในอนาคตเส้นรามคำแหงจะเป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีราษฎร์พัฒนา มีระยะห่างจากโครงการที่ 2.7 กม. ซึ่งแน่นอนไม่ใช่ระยะที่สามารถเดินเท้าได้ไหว แต่ไม่ต้องห่วงครับเพราะเนื่องจากภายในซอยเคหะร่มเกล้ามีรถสองแถววิ่งผ่านที่ใช้เป็นตัวช่วยในการเข้าถึงได้ โดยรถสองแถวมีให้เลือกใช้งานได้หลายสายเช่น มีนบุรี-ร่มเกล้า-ซีรอ / ร่มเกล้า-แฟชั่นไอส์แลนด์ / มิสทีน-เดอะมอลล์ บางกะปิ
สำหรับกำหนดการของรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้นปัจจุบันเริ่มก่อสร้างแล้ว และคาดว่าแล้วเสร็จเปิดให้ใช้ได้ในช่วงต้นปี 2566 รอกันยาวหน่อย แต่ถ้าสร้างเสร็จแล้ว จะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ทำให้ทำเลแห่งนี้มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างแน่นอนครับ
ความอุดมสมบูรณ์ บนถนนเคหะร่มเกล้าที่เป็นแหล่งพักอาศัยขนาดใหญ่ ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เนื่องจากมีร้านค้าร้านอาหารมากมายรองรับความต้องการจากบ้านพักที่มีอยู่หนาแน่นในโซนดังกล่าว ซึ่งจากโครงการนั้นการไปใช้งานเข้าถึงง่ายด้วยรถส่วนตัวก็ดีหรืออาจะนั่งสองแถวไปก็ไม่ไกล แค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว
แต่ในส่วนของภาพที่กว้างขึ้น การใช้งานหลักจะไปอยู่บนถนนรามคำแหง ที่มีทั้ง Tesco Lotus และ Big C สุขาภิบาล 3 วันหยุดสุดสัปดาห์มีตลาดน้ำขวัญเรียมเปิดให้เดินเล่นที่ต้องบอกว่าของกินเพียบ อีกโซนหนึ่งที่น่าสนใจคือทางฝั่งของบางกะปิที่มี The Paseo รามคำแหง และ เดอะมอลล์ บางกะปิ ที่เป็นห้างสรรพสินค้าที่น่าจะครบวงจรที่สุดแล้วในย่านนี้ครับ
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
ห้างสรรพสินค้าและตลาด
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
อื่นๆ
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
::: การเดินทาง :::
เส้นทางที่ผมใช้เดินทางมายังโครงการในวันนี้ ผมมาจากทางด่วนพระราม 9 มุ่งหน้าตรงต่อเนื่องเข้าสู่มอเตอร์เวย์ โดยที่พอถึงช่วงมอเตอร์เวย์ ให้ออกไปวิ่งทางคู่ขนานตามป้ายทางออก ถนนกรุงเทพกรีฑา จากนั้นวิ่งเลียบด้านนอกไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษก จึงกลับรถลอดใต้สะพานเพื่อข้ามฝั่งไปยังทางคู่ขนานอีกด้านของถนนกาญจนาภิเษก เพื่อเข้าสู่ถนนราษฎร์พัฒนา จากนั้นเข้าซอยเคหะร่มเกล้า 78 เพื่อไปยังโครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน)
สรุปการเดินทาง : ทางด่วนพระราม 9 > ทางด่วนมอเตอร์เวย์ > ออกทางคู่ขนาน กรุงเทพกรีฑา > ทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ > ทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก > ถนนราษฎร์พัฒนา > ถนนเคหะร่มเกล้า > ซอยเคหะร่มเกล้า 78 แยก 1 > พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน)
เริ่มต้นเก็บภาพการเดินทางจากทางด่วนพระราม 9 ฝั่งมุ่งหน้าขาออกไปยังทางด่วนมอเตอร์เวย์
เข้าสู่ช่วงที่เป็นทางด่วนมอเตอร์เวย์ วิธีสังเกตคือทางด่วนพระราม 9 จะเป็นทางยกระดับ ส่วนมอเตอร์เวย์เป็นทางวิ่งเลียบกับพื้นถนนไม่มีการยกระดับ
พอเข้าสู่มอเตอร์เวย์ให้เตรียมชิดซ้ายได้เลยครับ โดยสังเกตป้ายทางออกกรุงเทพกรีฑาให้ดี
ออกสู่ทางขนานที่จุดนี้
วิ่งตรงต่อไปตามทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์
จากนั้นจะเจอกับทางทางบังคับโค้งซ้าย เข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก
ขับมาตามทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก ให้สังเกตดูป้ายจุดกลับรถ เราจะใช้จุดกลับรถนี้เป็นทางลอดใต้ถนนกาญจนาภิเษกเพื่อไปอีกฝั่ง
ตรงจุดนี้ต้องระวังให้ดีครับ เพราะรถที่มีความสูงเกิน 2 เมตร ไม่สามารถลอดใต้สะพานนี้ได้
หลังจากที่ข้ามฝั่งมาที่ทางคู่ขนานอีกฝั่งแล้ว ให้ตรงต่อไป จะเจอทางเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนราษฎร์พัฒนา ซึ่งสามารถเข้าได้สองทางทั้งเส้นทางในภาพคือไปทางซอยราษฎร์พัฒนา 35 หรือจะตรงไปเข้าถนนราษฎร์พัฒนาเส้นหลักเลยก็ได้ครับ
ภาพกราฟิกเพิ่มเติมเส้นทางบนถนนราษฎร์พัฒนาไปถึงตัวโครงการ
จากซอยราษฎร์พัฒนา 35 วิ่งมาจนสุดทาง ให้เลี้ยวขวา
ขับมาตามถนนราษฎร์พัฒนาจนเจอกับสามแยกไฟแดง ให้เลี้ยวขวาไปยังถนนเคหะร่มเกล้า
จากสามแยกเมื่อสักครู่ ขับมาอีกไม่ถึง 100 เมตร จะเจอกับทางเข้าซอยเคหะร่มเกล้า 78 สังเกตง่ายๆคือมี 7-11 ที่หน้าปากซอย
ตรงเข้าไปในซอยเคหะร่มเกล้า 78 เพียงเล็กน้อย จึงเลี้ยวซ้ายเข้าแยก 1
ตรงไปตามทางอีกนิดเดียวครับ ทางขวามือตรงนี้เป็นโครงการภัสสร ของทางพฤกษา เช่นกัน
ถึงแล้วครับโครงการ พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน) ตั้งอยู่ทางฝั่งขวามือ
::: บริเวณโครงการ :::
ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยเคหะร่มเกล้า 78 แยก 1 ด้านในเป็นซอยตัน รถวิ่งผ่านเข้าออกน้อย ตัวโครงการมีผืนที่ดินเปล่าขนาบข้าง โดยทางฝั่งทิศใต้ กำลังจะถูกพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวของพฤกษาเหมือนกันคือโครงการ ภัสสร ด้านหลังโครงการติดกับคลองลาดบัวขาว บริเวณหน้าปากซอยมี 7-11
ป้ายชื่อโครงการ Pruksa Ville รามคำแหง-วงแหวนฯ
ถนนหน้าโครงการเป็นซอยตัน ไม่สามารถใช้วิ่งทะลุไปไหนได้ ทำให้ได้ในเรื่องของความเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะแก่การพักผ่อน
วันที่ผมไปเก็บภาพ มีฝนตกลงมาด้วย ทำให้ภาพอาจจะดูหม่นๆไปหน่อย ต้องขออภัยด้วยครับ
ซุ้มทางเข้าโครงการ ที่ออกแบบมาตรงคอนเซปต์สไตล์ยุโรป ดูยิ่งใหญ่ หรูหราทีเดียวครับ
ฝั่งทางเข้าโครงการ แบ่งแยกเป็นช่องทางเดินรถ 2 ช่อง
ช่องทางซ้ายสำหรับ Resident หรือลูกบ้านเท่านั้น โดยมีระบบ Auto Scan คีย์การ์ด ไม่ต้องหยับบัตรขึ้นมาแตะครับ แค่พกไว้แล้วเข้ามาใกล้ๆ ไม้กระดกก็จะเปิดให้โดยอัตโนมัติ
อีกช่องทางไว้สำหรับ Visitor หรือผู้มาติดต่อ ที่จะอยู่ทางฝั่งห้องรปภ. สำหรับติดต่อแลกบัตรพร้อมทั้งแจ้งความประสงค์ในการเข้าไปยังพื้นที่ของโครงการด้วยครับ
ระบบสแกนแบบ Easy Pass Reader คล้ายบนทางด่วนนั้นล่ะครับ
ส่วนช่องทางออก มีช่องทางเดียวครับ ใช้ระบบสแกน Auto เช่นเดียวกัน
ระบบประตูล็อค 2 ชั้น นอกจากไม้กระดกที่เป็นด่านแรกแล้ว ยังมีรั้วเหล็กอีกหนึ่งชั้น เพิ่มความปลอดภัยขึ้นอีกขั้น
ผ่านซุ้มประตูเข้ามาด้านใน มุมมองแรกที่เจอเป็นแบบนี้ครับ ทางขวาเป็นพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะโครงการ และอาคารคลับเฮ้าส์ ส่วนทางซ้ายปัจจุบันเป็นแปลงของบ้านตัวอย่าง
ก่อนไปดูบ้านตัวอย่าง เรามาเดินเล่นบริเวณพื้นที่ส่วนกลางกันครับ
อาคารคลับเฮ้าส์ ออกแบบมาได้อย่างสวยงามโดดเด่นด้วยสไตล์ ยูโรเปี้ยนคลาสสิค ปัจจุบันใช้งานเป็น Sales Office
สวนสาธารณะให้ความรู้สึกถึงสวนในยุโรปเช่นกันด้วยการเลือกใช้ โคมไฟ น้ำพุ และต้นไม้ ที่ให้อารมณ์ความเป็นตะวันตกอย่างชัดเจน
ด้วยความที่สวนนั้นมีขนาดกว้างจึงแบ่งพื้นที่การใช้งานเอาไว้หลายพื้นที่ ทั้งมุมสวน มุมลานกว้าง และมุมนั่งเล่นพักผ่อน
ในส่วนของสระว่ายน้ำนั้นเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ยังมีบางส่วนของสระว่ายน้ำอยู่ในช่วงของการเก็บงานครับ แต่รับรองว่าหลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้วตรงบริเวณนี้จะมีความสวยงาม น่าใช้งานอย่างแน่นอน
::: แบบบ้าน :::
พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบด้วยกันได้แก่
*3+1 ห้องนอน : +1 หมายถึงห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ที่อาจปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลายรูปแบบรวมถึงเป็นห้องนอนก็ได้
Milano (มิลาโน่) ทาวน์โฮม 2 ชั้น : พื้นที่ใช้สอย 98 ตร.ม. / 3+1 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
Rome (โรม) ทาวน์โฮม 2 ชั้น : พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. / 3+1 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
Tuscany (ทัสคานี) บ้านแฝด 2 ชั้น : พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. / 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
::: บ้านตัวอย่าง :::
ในส่วนของบ้านตัวอย่างผมจะพาไปดูกัน 2 แบบ คือแบบบ้าน Rome และ Tuscany
เริ่มกันที่แบบบ้าน Rome ซึ่งเป็นชื่อเมืองหลวงของประเทศอิตาลี ทาวน์โฮม 2 ชั้น : พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. / 3+1 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
โครงการออกแบบหน้าตาบ้านเพื่อสื่ออารมณ์ถึงสถาปัตยกรรมยุโรปด้วยการใช้สีโทนส้มอ่อน กรอบประตูหน้าต่างใส่รายละเอียดความนูนต่ำให้มีลูกเล่น รวมถึงลายอิฐและราวเหล็กสีดำที่ระเบียงก็ล้วนแต่สร้างบรรยากาศความเป็นยุโรปให้สมบูรณ์มากขึ้น
หากเป็นบ้านแปลงมุม มีพื้นที่สวนเพิ่มตามขนาดของที่ดินในแต่ละแปลง ทั้งยังได้ช่องหน้าต่างรับแสงเพิ่มขึ้นหลายจุด
ตัวบ้านมีหน้ากว้างขนาด 5.7 เมตร ลานหน้าบ้านเป็นช่องสำหรับจอดรถใต้ชายคาได้จำนวน 2 คัน ไม่ต้องจอดรถตากแดดตากฝน พร้อมทั้งมีไฟส่องสว่างแบบ LED
ทางเข้าบ้านพื้นเฉลียงยกสูงเล็กน้อยปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ของประตูเพิ่มลูกเล่นคล้ายเป็นซุ้มประตูที่ให้ความคลาสสิค รวมถึงตัวประตูบานเลื่อนที่มีโครงเหล็กก็ช่วยเก็บรายละเอียดให้เป็นอย่างดี กระจกสีเขียวตัดแสงช่วยกรองยูวีได้ดีขึ้น
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก จุดเด่นคือได้เรื่องของความกว้าง เพราะต่างจากแบบบ้านทั่วไป ที่ส่วนใหญ่พื้นที่นั่งเล่นตรงนี้ต้องเสียไปครึ่งหนึ่งให้กับลานจอดรถ แต่ด้วยเลย์เอาท์แบบนี้ที่ไม่ต้องแบ่งทำเป็นที่จอดรถ จึงใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่
วัสดุพื้นฐานที่ทางโครงการให้ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว กรอบประตูหน้าต่างอลูมิเนียมสีดำ โคมไฟ LED และความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร
ประตูหน้าบ้านขนาดใหญ่ช่วยเปิดรับให้แสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาด้านในได้มาก โปร่งสบาย โดยที่ช่วงกลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็ได้ ยิ่งหากเป็นบ้านแปลงมุม จะมีช่องแสงบานฟิกซ์ทรงสูงทางด้านหลังชุดโซฟาเพิ่มให้อีกสองช่อง
ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นผนังสำหรับติดตั้งชั้นวางทีวี ซึ่งเหมาะสำหรับขนาดทีวี 40-60 นิ้ว ด้านหลังเป็นบันไดทางขึ้นชั้นบน
ขยับเข้ามาด้านใน ส่วนนี้เป็นพื้นที่สำหรับทำเป็นโซนทานอาหาร ทางขวาเป็นทางเข้าห้องน้ำและห้องนอนชั้นล่าง
ช่วงรอยต่อระหว่างห้องนั่งเล่นและมุมทานข้าวมีพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับวางโต๊ะอเนกประสงค์ได้อีกจุด สำหรับนั่งทำงานหรือวางตู้เก็บของก็ได้
โต๊ะทานข้าววางโต๊ะกลมขนาด 4 ที่นั่งให้ดูเป็นตัวอย่าง จะปรับเปลี่ยนให้ใหญ่ขึ้นเป็น 6 ที่นั่ง เพื่อรองรับเวลามีเพื่อนหรือญาติมาเยี่ยมก็ยังไหว
ด้านหลังมีช่องหน้าต่างเปิดรับแสง หรืออาจใช้งานเป็นช่องสำหรับส่งกับข้าวเพื่อเตรียมขึ้นโต๊ะอาหารก็ได้หากว่าทำเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหารแบบในบ้านตัวอย่างนี้
อีกฝั่งเป็นทางเข้าห้องน้ำและห้องนอนชั้นล่าง
ห้องน้ำเป็นแบบที่แยกการใช้งานออกเป็นสองส่วน โดยนำอ่างล้างหน้าไว้ที่ด้านนอก และแยกโถสุขภัณฑ์เอาไว้ด้านในที่มีประตูปิด ทำให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้
อ่างล้างหน้าของ Cotto พร้อมเพิ่มชั้นวางเอาไว้เหนืออ่างสำหรับวางของเพิ่มเติมเช่นสบู่ล้างมือ ยาสีฟันแปรงสีฟัน
ด้านในห้องน้ำพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค และผนังปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ที่นอกจากวางโถสุขภัณฑ์แล้วยังมีฝักบัวสำหรับอาบน้ำได้ เนื่องจากว่ามีห้องนอนชั้นล่างนั่นเอง เพราะหากห้องนี้ไม่มีฝักบัว ผู้ที่อาศัยอยู่ห้องนอนชั้นล่างต้องเดินขึ้นไปอาบน้ำข้างบน ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่สะดวกอย่างแน่นอน
โถสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำของ Cotto
ฝักบัวสายอ่อน และที่วางสบู่ของ Cotto เช่นกัน
อีกหนึ่งจุดเด่นคือห้องน้ำชั้นล่างมีพัดลมดูดอากาศให้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่มีให้ครับ ทำให้เรื่องอากาศภายในห้องน้ำมีสุขอนามัยที่ดีขึ้น
ไปดูในส่วนของห้องนอนกันต่อ อันที่จริงแล้วอาจจะเรียกว่าเป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่นหากเป็นครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ แน่นอนว่าเหมาะที่จะทำเป็นห้องนอนเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินขึ้นลงบันได หรืออาจจะใช้เป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง หรือห้องครัวก็ยังได้ ในกรณีที่ไม่ต้องการต่อเติมครัวไทยหลังบ้าน
แต่สำหรับห้องนี้ทางโครงการทำตัวอย่างเป็นห้องนอนให้ดู
เตียงที่เหมาะกับขนาดห้องคือเตียง 3.5 ฟุต ปลายเตียงมีหน้าต่าง ผนังทางฝั่งซ้ายเหมาะสำหรับวางตู้เสื้อผ้า
มองย้อนออกไปนอกห้อง เห็นมุมมองที่ค่อนข้างโปร่งสบาย เพราะมีการเพิ่มกระจกแบบเข้ามุม เหลือพื้นที่ข้างหัวเตียงอีกหน่อยสำหรับวางโต๊ะอเนกประสงค์ได้
ต่อไปเป็นทางออกไปยังหลังบ้าน
ปกติแล้วพื้นที่ตรงนี้เป็นลานซักล้างเปิดโล่ง แต่โครงการต่อเติมให้ดูเป็นห้องครัว เพื่อให้เห็นว่าหากต่อเติมแล้วจะได้ห้องครัวที่มีขนาดใหญ่มาก
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทางโครงการให้มาคือ ลานซักล้างตรงนี้เรื่องของโครงสร้างมีการลงเสาเข็มที่มีความยาวลึกลงไปเท่ากับตัวบ้าน เสริมความแข็งแรงให้สามารถต่อเติมพื้นที่ส่วนนี้ได้อย่างมั่นใจ
หากเป็นบ้านแปลงมุมที่มีสวนข้างบ้านเพิ่มเข้ามา สามาถติดตั้งประตูเพื่อเชื่อมต่อสวนได้จากส่วนนี้
เอาล่ะครับ หลังจากที่ดูชั้นล่างกันไปครบทุกซอกทุกมุมแล้ว ต่อไปผมจะพาขึ้นไปชมด้านบนชั้นสองกันต่อ
บริเวณทางขึ้นชั้นสอง มีหน้าต่างฝั่งหน้าบ้านที่ช่วยเพิ่มทางรับแสงธรรมชาติเข้าไปยังโถงบันได
ตลอดทางขึ้นมีราวจับให้สามารถขึ้นลงได้อย่างปลอดภัย
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่โครงการเสริมเข้ามาคือหลังคา Sky Light ที่ช่วยให้โถงบันไดแห่งนี้สว่างตลอดทั้งวันไม่จำเป็นต้องเปิดไฟทิ้งไว้ ประหยัดค่าไฟได้อีกทาง
ขึ้นบันไดมาถึงชั้นสอง ตรงบริเวณโถงนั้นมีพื้นที่ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ต่างจาก layout ทาวน์โฮมทั่วไป ที่โถงชั้นสองมักทำหน้าที่แค่เป็นตัวจ่ายไปยังห้องนอนต่างๆเท่านั้น สำหรับพื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนต 8 มม.
เริ่มกันที่ห้องนอนรองฝั่งหลังบ้าน ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ใกล้บันได
ห้องนี้ตกแต่งให้ดูเป็นห้องเด็ก โดยการวางเตียงเด็กอ่อน Baby cots แต่หากทำเป็นห้องนอนปกติขนาดห้องจะเหมาะกับเตียงขนาด 3.5 ฟุต เนื่องจากจะเหลือพื้นที่ให้วางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานอื่น เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี เป็นต้น
มองย้อนกลับไปฝั่งทางเข้าห้อง อีกฝั่งใช้เป็นตู้สำหรับเก็บของ
กลับมาที่โถงชั้นบน เพื่อไปดูห้องนอนอีกห้องที่อยู่ติดกันทางฝั่งซ้าย
ตรงจุดนี้มีทางแยกเข้าห้องนอนและห้องน้ำ ผมขอไปดูห้องนอนทางขวาของภาพก่อนครับ
ห้องนี้เป็นเพียงห้องนอนรอง แต่สามารถวางเตียงได้ถึงไซส์ 5 ฟุต ตามที่โครงการวางเป็นตัวอย่าง
ปลายเตียงเหลือทางเดินเพียงพอให้ผ่านเข้าออกได้สะดวก
อีกฝั่งบิลท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่
แม้จะวางเตียงควีนไซส์แล้วก็ตาม ยังคงเหลือพื้นที่ให้ใช้งานหน้าตู้เสื้อผ้าได้อย่างเพียงพอ
กลับมาที่ทางแยกเมื่อสักครู่ คราวนี้ไปดูห้องน้ำกันบ้าง
ก่อนอื่นต้องบอกว่าแบบบ้าน Rome นั้นมีห้องน้ำชั้นบนห้องเดียว ทางโครงการจึงเพิ่มฟังก์ชั่นห้องน้ำที่สามารถเข้าออกได้สองทาง คือจากห้องนอนหลักและจากห้องโถง เพิ่มความสะดวกในการใช้งานจริง
ภายในห้องน้ำแบ่งโซนแห้งโซนเปียกชัดเจน
โถสุขภัณฑ์ Cotto วางเข้ามุม ด้านบนติดตั้งพัดลมดูดอากาศ หากเป็นแปลงมุมจะเพิ่มช่องแสงที่สามารถเปิดปิดได้อีกสองช่อง
ฝั่งนี้เป็นทางเข้าจากห้องนอนหลัก
อ่างล้างหน้าติดตั้งเข้ามุมเป็นระเบียบ พร้อมบานกระจกเงา
อ่างล้างหน้า Cotto วางบนเคาน์เตอร์ลายไม้ เพิ่มพื้นที่วางอุปกรณ์โดยรอบ
พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนด้วยการใช้ Shower Box แบบประตูบานเลื่อน
ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนแบบปรับระดับความสูงได้ เจาะช่องวางสบู่แชมพู
บริเวณตรงกลางห้องน้ำ เพิ่มฉากกระจกฝ้า เพิ่อให้สามารถใช้งานได้พร้อมกันทั้งสองส่วน
ไปดูห้องสุดท้ายนั่นคือ Master Bedroom กันครับ
Master Bedroom มีขนาดใหญ่ เนื่องจากมีขนาดหน้ากว้างห้องเท่ากับหน้ากว้างของตัวบ้านคือ 5.7 เมตร
ด้วยความกว้าง โครงการจึงจัดวางตัวอย่างการใช้งานออกเป็นสองส่วนคือส่วนพักผ่อน และ Walk-in closet
ส่วนพักผ่อนได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าบ้านอย่างเต็มที่ ด้วยหน้าต่าง 2 บาน
วางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้ว ยังเหลือพื้นที่ทางเดินซ้ายขวาอย่างพอเพียง วางโต๊ะหัวเตียงได้อีกฝั่งละตัว
อีกฝั้งที่ทำเป็น Walk-in closet บิลท์อินผนังตรงกลางห้องขึ้นมาที่นอกจากใช้เป็นตัวแบ่งพื้นที่แล้ว ยังใช้เป็นชั้นวางทีวีได้ด้วย
พื้นที่ walk-in closet กว้างขวางเช่นกัน ได้รับแสงสว่างจากหน้าต่างฝั่งหน้าบ้าน 1 บาน
บิลท์อินตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และเว้นช่องด้านข้างทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัว เข้าออกห้องน้ำก็สะดวกเสมือนว่ามีห้องน้ำในตัว
หลังจากที่เราดูบ้านตัวอย่างกันไปแล้ว ต่อไปผมจะพาไปดูบ้านเปล่าส่งมอบกันบ้างครับ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นและโซนทานข้าว
ห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำ
ลานซักล้างหลังบ้าน ก่อกำแพงด้านข้างสูงกว่าปกติ ทำให้ง่ายต่อการต่อเติมครัวไทย
ชั้นวางทีวีด้านหลังมีตู้เก็บของใต้บันได และทางขึ้นชั้นบน
โถงบันได หลังคา Sky Light
โถงชั้นบนแตกต่างจากบ้านตัวอย่างพอสมควร เนื่องจากกำแพงไม่ได้บิลท์ให้ทึบ แต่จะเปิดโล่งและติดตั้งราวกันตกให้แบบนี้
ในส่วนของห้องนอนผมเก็บภาพมาได้เพียงห้องนอนหลัก เนื่องจากห้องนอนรองอีก 2 ห้องถูกใช้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์ของแม่บ้านครับ
เทียบกับบ้านตัวอย่างฝั่งนี้คือฝั่งพักผ่อนวางเตียงนอน
ทางด้านนี้คือ walk-in closet หน้าห้องน้ำ
เราไปดูบ้านอีกหลังที่เป็นแบบบ้านแฝด Tuscany (ทัสคานี) บ้านแฝด 2 ชั้น : พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. / 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
เนื่องจากเป็นบ้านแฝด ด้านนึงของตัวบ้านจะไม่ติดกับใคร จึงได้พื้นที่สวนข้างบ้านอยู่แล้ว รวมถึงมีช่องหน้าต่างรับแสงเพิ่มขึ้นให้ภายในบ้านโปร่งสบาย
สวนอีกด้านที่ติดกับเพื่อนบ้านจะเป็นลักษณะนี้ครับในความเป็นจริงจะมีแนวกำแพงกั้นกลางสูงประมาณระดับอก
ด้านในมีห้องเก็บของ ซึ่งตรงกับตำแหน่งใต้บันไดในบ้าน
หน้ากว้างของบ้านกว้างถึง 6.9 เมตร ลานจอดรถหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน มีไฟ LED ส่องสว่างด้านบน 1 ดวง และโคมไฟติดผนังข้างประตูอีก 1 ดวง
ทางเข้าบ้านก่อเฉลียงยกสูง 1 สเตปปูด้วยกระเบื้องเซรามิค 30×30 ซม. ประตูมีขนาดใหญ่กว่าแบบบ้านทาวน์โฮม
เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกเจอกับห้องนั่งเล่น วัสดุพื้นฐานเหมือนกันคือปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟ LED และเพดานสูง 2.7 เมตร
พื้นที่ชั้นล่างเปิดโล่งเชื่อมต่อระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องทานข้าว
ในส่วนของห้องนั่งเล่นจะได้ความโปร่งสบายแบบนี้ เพราะนอกจากประตูหน้าบ้านที่ใหญ่กว่าปกติแล้วยังเพิ่มหน้าต่างหลังโซฟา 2 ชุด แบบบานเลื่อนเปิดปิดได้
ฝั่งชั้นวางทีวีเป็นแผ่นผนังขนาดใหญ่ ทางซ้ายของผนังเป็นทางเข้าห้องน้ำชั้นล่าง และทางขวาเป็นบันไดขึ้นชั้นบน
มุมมองย้อนกลับไปทางฝั่งประตูเข้าบ้าน
เข้าไปดูห้องน้ำกันครับ
ห้องน้ำใช้รูปแบบแยกส่วนด้วยการ วางอ่างล้างหน้าไว้ด้านนอก และโถสุขภัณฑ์อยู่ด้านใน มีประตูปิด
อ่างล้างหน้า Cotto พร้อมกระจกเงา
ส่วนด้านในห้องน้ำมีโถสุขภัณฑ์ แต่ไม่มีส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ เนื่องจากว่าแบบบ้าน Tuscany ไม่มีห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง
กลับมาที่ส่วนของพื้นที่หลักชั้นล่าง
ขยับเข้าไปด้านในที่เป็นโซนทานอาหาร
ทางโครงการวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งเป็นตัวอย่าง สามารถเติมเก้าอีกหัวท้ายได้อีก 2 ตัว เป็นแบบ 8 ที่นั่งได้
เหลือพื้นที่ด้านหลังอีกเยอะจะบิลท์เป็นเคาน์เตอร์เก็บของชุดใหญ่ก็ได้ หรือจะขยับโต๊ะทานข้าวไปวางชิดผนัง เพื่อให้เหลือพื้นที่กลางบ้านแบบโล่งสบายก็ได้
ด้านข้างบ้านช่วงโซนทานอาหาร มีประตูบานเลื่อนใช้เข้าออกสู่สวนข้างบ้านได้จากจุดนี้
อีกฝั่งทางซ้ายของภาพ มองเห็นเป็นมุม Pantry
พื้นที่ตรงนี้ตามเลยเอาท์เหมาะทำเป็นครัว ในรูปแบบของครัวไฮบริด ที่ใช้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากเป็นพื้นที่เปิด แต่โดยส่วนมากแล้วคนไทยมักจะไปต่อเติมครัวไทยที่ลานซักล้างด้านหลังบ้านกันเสียมากกว่า
พื้นที่ตรงนี้จึงค่อนข้างอเนกประสงค์ อย่างทางโครงการทำให้ดูเป็นมุมจิบไวน์ ดูหรูหราดีทีเดียวครับ
ไปดูหลังบ้านกันต่อครับ
ปกติแล้วพื้นที่ส่วนนี้คือลานซักล้างหลังบ้านครับ แต่โครงการต่อเติมเป็นครัวให้ดู
อย่างที่บอกไปแล้วในแบบบ้านทาวน์โฮม ว่าโครงสร้างของบ้านมีการฝังเสาเข็มตรงส่วนของลานซักล้างด้วยความยาวเท่ากับตัวบ้าน จึงสามารถต่อเติมครัวไทยได้อย่างมั่นคงแข็งแรงครับ
ไอเดียที่น่าสนใจคือตรงส่วนของหลังคา ติดตั้งช่องแสงเพิ่มเข้าไป ทำให้เวลาใช้งานช่วงกลางวัน ได้แสงธรรมชาติดูสว่างน่าใช้งาน แถมยังประหยัดไฟได้ในระยะยาวอีกด้วย
ด้านข้างติดตั้งประตูให้สามารถออกไปยังสวนหลังบ้านและข้างบ้านได้ จากมุมนี้มองออกไปนอกประตูจะเห็นว่า ห้องครัวนี้ไม่ได้ต่อเติมเต็มพื้นที่ของหน้ากว้างบ้านนะครับ ยังเหลือพื้นที่สวนหลังบ้านอีกกว่า 3 เมตร
ขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ
โถงบันได ด้านบนมีหลังคา Sky Light เช่นกัน
โถงชั้นบนทำหน้าที่เป็นตัวจ่ายไปยังห้องนอนต่างที่ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน
ขอเริ่มจากห้องนอนรอง 2 ห้อง ที่อยู่ฝั่งหลังบ้านครับ
ห้องนอนรอง 1 วางเตียง 3.5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่ใช้งานในห้องกว้าง
ด้านข้างเตียง เหลือที่ว่างสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงและตู้เสื้อผ้า
ฝั่งปลายเตียง มีพื้นที่เพียงพอให้วางไวด์บอร์ด หรือจะใช้ทีวีแบบแขวนผนังก็ดีครับ
ห้องนอนรอง 2 วางเตียง 3.5 ฟุตเช่นกัน
พื้นที่การใช้งานใกล้เคียงกัน สามารถวางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานในห้องนอนได้ทั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอเนกประสงค์
ฝั่งปลายเตียงเหลือพื้นที่สำหรับชั้นวางทีวีเช่นกัน
ห้องน้ำชั้นบน อันที่จริงมีห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องน้ำห้องนี้เป็นห้องน้ำที่เข้าออกจากโถงสำหรับใช้งานร่วมกันของห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง ส่วนห้องน้ำอีกห้องจะไปอยู่ในห้องนอนหลักครับ
แบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน วางอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ไว้คนละมุม
ถ่ายมุมสูงให้ดูพื้นที่การใช้งาน
โถสุขภัณฑ์ของ Cotto
อ่างล้างหน้า Cotto วางบนเคาน์เตอร์ลามิเนต
ส่วนเปียกอาบน้ำให้เป็น Shower Box ประตูเปิดเลื่อนแบบเข้ามุม เสริมด้วยช่องแสงแบบเปิดปิดได้
สุดท้ายเป็นห้องนอนหลักครับ
เข้ามาในห้องนอน ส่วนแรกเจอกับช่องทางเดิน คล้ายเป็น walk-in closet หน้าห้องน้ำ แต่ว่าทางโครงการเข้ามี walk-in closet แบบเป็นสัดส่วนอยู่ด้านในของห้องอีกหนึ่งจุดครับ
แวะเข้ามาดูภายในห้องน้ำกันก่อน เป็นห้องน้ำที่มีการแบ่งแยกโซนแห้งโซนเปียกชัดเจน
อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ของ Cotto
ฉากอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอน เปิดเข้าออกได้กว้างกว่า
ฝักบัวแบบราวปรับลดระดับความสูงได้ มีช่องหน้าต่างเปิดปิด
ขยับเข้ามาในส่วนของห้องนอนกันต่อครับ
พื้นที่ใช้งานกว้างขวาง วางเตียง 5 ฟุต เป็นตัวอย่าง แต่หากเป็นคนนอนดิ้นหรือตัวใหญ่ จะเพิ่มไซส์เป็น 6 ฟุตก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดทำได้สบาย
ปลายเตียงวางโซฟานั่งเล่น 1 ตัว แล้วยังสังเกตเห็นได้ว่าทางเดินปลายเตียงเหลืออีกเยอะเลยครับ
พื้นที่ข้างเตียง อาจทำเป็นโต๊ะอเนกประสงค์เข้ามุมแบบนี้
อีกฝั่งเป็นทางออกไปยังระเบียง
พื้นที่ระเบียงขนาดพอประมาณ ให้สามารถวางต้นไม้หรือออกไปยืนเล่นรับลมชมวิวได้
ปลายเตียงมี walk-in closet ที่ทางโครงการบิลท์อินเป็นแนวกำแพงซ้ายขวา เว้นช่องทางเดินเข้าออกตรงกลาง
ด้านในมีหน้าต่างให้แสงธรรมชาติ สามารถบิลท์อินได้อย่างครบชุดทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า 2 ฝั่ง
::: ราคา ::: (ก.ย. 61)
ค่าส่วนกลาง : 35 บาท/ตร.วา/เดือน
*สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุด*
::: บทสรุปโครงการ :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ – พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน) มีที่ตั้งอยู่ภายในซอยเคหะร่มเกล้า 78 เขตสะพานสูง องค์ประกอบภายในซอยดังกล่าวเป็นบ้านพักอาศัยทั้งสิ้น ประกอบกับด้านในเป็นซอยตันจึงทำให้มีรถผ่านเข้าออกไม่มาก ได้ในเรื่องของความเป็นส่วนตัว ความเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง ตัวที่ตั้งโครงการอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเข้าออกได้หลายทาง แต่ถนนที่จะถูกอ้างอิงเป็นหลักคือถนนรามคำแหง ปัจจุบันทำเลรามคำแหงนี้กำลังได้รับการพัฒนาทางด้านการคมนาคมด้วยการมีรถไฟฟ้าเข้าถึง โดยรถไฟสายดังกล่าวคือรถไฟสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี สิ่งที่มีผลกระทบในปัจจุบันคือเรื่องของการจราจรอันเกิดมาจากการโดนลดช่องจราจรนั่นเอง แต่เพื่อผลประโยชน์ในระยะยาวน่าจะคุ้มค่าเข้าออกเมืองได้สะดวกขึ้น ส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตของคนในย่านนี้ดีขึ้นด้วยครับ
ความอุดมสมบูรณ์ บนถนนเคหะร่มเกล้าที่เป็นแหล่งพักอาศัยขนาดใหญ่ ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เนื่องจากมีร้านค้าร้านอาหารมากมายรองรับความต้องการจากบ้านพักที่มีอยู่หนาแน่นในโซนดังกล่าว ซึ่งจากโครงการนั้นการไปใช้งานเข้าถึงง่ายด้วยรถส่วนตัวก็ดีหรืออาจะนั่งสองแถวไปก็ไม่ไกล แค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว แต่ในส่วนของภาพที่กว้างขึ้น การใช้งานหลักจะไปอยู่บนถนนรามคำแหง ที่มีทั้ง Tesco Lotus และ Big C สุขาภิบาล 3 วันหยุดสุดสัปดาห์มีตลาดน้ำขวัญเรียมเปิดให้เดินเล่นที่ต้องบอกว่าของกินเพียบ อีกโซนหนึ่งที่น่าสนใจคือทางฝั่งของบางกะปิที่มี The Paseo รามคำแหง และ เดอะมอลล์ บางกะปิ ที่เป็นห้างสรรพสินค้าที่น่าจะครบวงจรที่สุดแล้วในย่านนี้ครับ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ถือว่าเป็นจุดแข็งของโครงการที่สำคัญ เพราะสามารถเข้าออกได้หลากหลายเส้นทางโดยมีถนนราษฎร์พัฒนา และถนนเคหะร่มเกล้าเป็นตัวเชื่อมเข้าสู่ถนนใหญ่ได้ทั้ง ถนนรามคำแหง, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนร่มเกล้า และถนนเจ้าคุณทหาร ทำให้มีทางเลือกที่ยืดหยุ่นในการเดินทางได้ตามจุดมุ่งหมาย ประกอบกับอยู่ไม่ไกลทางด่วนมอเตอร์เวย์ ทางด่วนที่ใช้เชื่อมต่อเข้าเมืองไปยังทางด่วนพระราม 9 ทำให้เรื่องของการเข้าเมืองค่อนข้างสะดวกและใช้เวลาไม่มาก
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – ในอนาคตเส้นรามคำแหงจะเป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีราษฎร์พัฒนา รถไฟฟ้าสายสีส้มนั้นปัจจุบันเริ่มก่อสร้างแล้ว และคาดว่าแล้วเสร็จเปิดให้ใช้ได้ในช่วงต้นปี 2566 รอกันยาวหน่อย แต่ถ้าสร้างเสร็จแล้ว จะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ทำให้ทำเลแห่งนี้มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างแน่นอนครับ ปัจจุบันทางเลือกที่ใช้งานได้จริงคือรถสองแถวที่มีให้เลือกใช้งานได้หลายสายเช่น มีนบุรี-ร่มเกล้า-ซีรอ / ร่มเกล้า-แฟชั่นไอส์แลนด์ / มิสทีน-เดอะมอลล์ บางกะปิ เป็นตัวเชื่อมต่อจากโครงการสู่ถนนใหญ่ในการต่อยอดหารถสาธารณะบนถนนรามคำแหง
การออกแบบโครงการและวัสดุ – พฤกษาวิลล์ รามคำแหง-วงแหวน (มิสทีน) เป็นที่พักอาศัยในรูปแบบของทาวน์โฮม และบ้านแฝด 2 ชั้น ด้วยคอนเซปต์ “The Passion of Neo-Classic Style” ออกแบบโครงการให้มีกลิ่นอายความเป็นยุโรป เน้นความรู้สึกหรูหราแต่เรียบง่าย ผสานเข้ากับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว บนพื้นที่ขนาดกว่า 49 ไร่ จำนวนบ้าน 482 ยูนิต
ภายในโครงการมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบด้วยกันได้แก่
เรื่องของ Layout ออกแบบมาได้อย่างน่าสนใจ อย่างในแบบทาวน์โฮม มีฟังก์ชั่นห้องนอนชั้นล่าง เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือถ้าไม่มีก็สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ห้องน้ำชั้นล่างแยกอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ไว้คนละส่วนให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้ ลานซักล้างด้านหลังลงเสาเข็มความยาวเท่าตัวบ้านพร้อมทั้งก่อกำแพงด้านข้างให้สูงกว่าปกติเพื่อให้เอื้ออำนวยสำหรับการต่อเติมครัวไทยได้อย่างมั่นคงแข็งแรงและง่ายขึ้น ในส่วนของห้องน้ำชั้นบน แม้จะมีห้องน้ำเพียงห้องเดียว แต่ก็วางฟังก์ชั่นเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจด้วยการเข้าออกได้สองทาง ทั้งยังมีฉากแยกส่วนให้สามารถใช้งานส่วนแห้งส่วนเปียกได้พร้อมกัน ลดปัญหาในช่วงเช้าที่ต้องเร่งรีบได้เป็นอย่างดี
วัสดุที่โครงการให้มาจัดว่าอยู่ในเกรดระดับทั่วไป แต่จะเพิ่มเติมฟังก์ชั่นพิเศษอย่างเช่น หลังคา Sky Light ที่ให้แสงสว่างได้ระหว่างวันตรงโถงบันได พัดลมดูดอากาศภายในห้องน้ำที่หลายโครงการมักจะมองข้ามไป ส่วนวัสดุพื้นฐานก็เหมาะสมสอดคล้องกับระดับราคา พื้นชั้นล่างปูด้วยแกรนิตโดต้ 60×60 ซม. พื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบสีขาว โคมไฟ LED กรอบประตูหน้าต่างอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง เพดานสูง 2.7 เมตร
สิ่งอำนวยความสะดวก – ทางโครงการจัดเต็มมาให้อย่างครบครันด้วย คลับเฮ้าส์หรูสไตล์ European Classic, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และ Bike Lane พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง CCTV, Auto Access Card, แยกช่องทางเข้าลูกบ้าน-Visitor, ประตูล็อค 2 ชั้น และเจ้าหน้าที่รปภ. 24 ชม.
::: คะแนน :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | ทำเลเงียบสงบ ใกล้ถนนใหญ่, ทางด่วน, ห้างสรรพสินค้า และสนามบินสุวรรณภูมิ |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เข้าออกได้หลายทาง ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษกเชื่อมต่อไป ยังมอเตอร์เวย์เป็นทางเลือกในการเดินทางเข้า-ออกเมือง |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.5 | ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีส้มในระยะใช้งานสะดวก ปัจจุบันมีรถสองแถวผ่านหน้าปากซอยโครงการหลายสาย |
บ้านและวัสดุ | 8.2 | แบบบ้านสไตล์ Neo-Classic มีความเป็นเอกลักษณ์ มีฟังก์ชั่นห้องนอนชั้นล่าง เพิ่มหลังคา Sky Light วัดดุสอดคล้องกับระดับราคา |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | คลับเฮ้าส์สวยสไตล์ยุโรป, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง ใช้ระบบ Auto Scan แยกทางเข้าลูกบ้านและ Visitor ประตูรั้ว 2 ชั้น |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | ราคาเริ่มต้น 2.6 ล้านบาท รองรับครอบครัวขนาดเล็ก – กลางทีมี่สมาชิก 3-6 คน เดินทางสะดวกเข้าออกเมืองง่าย ในอนาคตมีรถไฟฟ้าระยะเข้าถึงง่าย |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.03 | ดีมาก |
สนใจติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1739
Website : https://pruksaville.pruksa.com/pre-sale/1307-ram-mistine
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
EP.2520 รีวิว เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-ศาลายา / The Plant Pinklao-Salaya บ้านแฝดซีรีส์ใหม่ พร้อมสวนสวย ส่วนกลางกว่า 2 ไร่* ใกล้ ม.มหิดล และ Central Westgate เริ่ม 3.69 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ
EP.2519 รีวิว อาเว่ บางนา-สุขุมวิท AVE Bangna-Sukhumvit บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น สไตล์ Modern Luxury บนทำเลศักยภาพย่านบางนา-เทพารักษ์ เอกสิทธิ์เพียง 20 ยูนิต เริ่ม 19-25 ลบ.* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาคุณผู้อ่านไปชมโครงการ AVE บางนา-สุขุมวิท บ้านโครงการใหม่ จาก บริษัท เอทีที
EP.2518 รีวิว เดอะ มิราเคิล บางแสน สาย 2 The Miracle Bangsaen Sai 2 พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์มินิมอล “อารมณ์บ้านเดี่ยว” ใกล้หาดบางแสน-ตลาดหนองมน เชื่อม ถ.ข้าวหลาม-สุขุมวิท-มอเตอร์เวย์ เริ่ม 2.79 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo
EP.2517 รีวิว แลนซีโอ คริป 2 เพชรเกษม-พุทธมณฑลสาย 4 / Lanceo Crib 2 Petchkasem-Phutthamonthon Sai 4 บ้านแฝดและบ้านเดี่ยวสไตล์ French Colonial ทำเลดี ใกล้ถนนเพชรเกษม เพียง 10 นาที* เริ่ม 3.59 ล้าน* Written by : Pure Thitapa
EP.2516 รีวิว ภัสสร ราชพฤกษ์-ติวานนท์ 2 Passorn Ratchaphruek-Tiwanon 2 บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด สไตล์ Scandinavian เพียง 46 หลัง ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วนเพียง 10 นาที* เริ่ม 4.99-7.59 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Passorn
EP.2515 รีวิว เดอะ แพลนท์ นครปฐม / The Plant Nakornpathom บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ดีไซน์ใหม่ Modern Barn House ใกล้ Central นครปฐม เริ่ม 3.69 ล้าน* Written by : Pure Thitapa วันนี้ทีมงาน Homenayoo ขอพาไปชมโครงการ ‘The Plant
EP.2514 รีวิว Baan Nirati Srivaree-Bangna บ้านนิรติ ศรีวารี-บางนา Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ บ้านนิรติ ศรีวารี-บางนา จาก เซ็นทรัลพัฒนา กันค่ะ โดยโครงการตั้งอยู่บนถนนศรีวารีน้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อถนนใหญ่ 2 เส้น ทั้งถนนบางนา-ตราด และถนนลาดกระบัง ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี, มอเตอร์เวย์ และ Airport Link ลาดกระบัง ใช้ชีวิตได้ง่าย ใกล้แหล่ง Shopping ขนาดใหญ่ เช่น King Power Sivaree Complex, Central Village, Siam Premium Outlets, Mega
The Tara รามอินทรา บ้านรีโนเวทพร้อมอยู่จาก BAM ทำเลดี โซนรามอินทรา ใกล้ Fashion Island และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ในราคาเพียง 4 ล้านต้น ๆ หากคุณกำลังมองหาบ้านในทำเลรามอินทรา แต่ยังไม่เจอบ้านที่ถูกใจ เพราะโครงการใหม่ ๆ มักจะมีราคาสูง วันนี้เราขอนำเสนอ บ้านเดี่ยวรีโนเวทใหม่ สภาพพร้อมเข้าอยู่ ในทำเลดี ราคาเอื้อมถึง จาก บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
EP.2513 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์วิลล์ สุขุมวิท-บางนา / Supalai Grand Ville Sukhumvit-Bangna บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ในสังคมคุณภาพ พร้อมสโมสรและสวนส่วนกลางกว่า 5 ไร่ เริ่ม 6.-15 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo ขอพาไปชมโครงการ ‘Supalai Grand Ville สุขุมวิท-บางนา‘
EP.2512 รีวิว ศุภาลัย ปาล์มวิลล์ โกเตง (สุราษฎร์ธานี) / Supalai Palm Ville Ko Teng (Suratthani) บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ Tropical Modern พร้อมสโมสร และ Home Automation ทุกหลัง เริ่ม 3.49 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น