รีวิว สาวออฟฟิศวัย 25 กู้เงิน (คนเดียว) จนสร้างบ้านให้พ่อได้สำเร็จ ในงบ 1.7xx ล้านบาท
เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงอยากจะซื้อบ้าน หรือ สร้างบ้านให้พ่อแม่กันสักหลัง วันนี้เรามีรีวิวการกู้เงิน + ปลูกบ้าน แบบฉบับสาวออฟฟิศในวัย 25 มาฝากกันค่ะ บอกเลยงานนี้ เจ้าของกระทู้กู้คนเดียวด้วยนะ เก่งมาก ๆ โดยบ้านหลังนี้จบไปด้วยงบประมาณ 1.7xx ล้านบาท พร้อมแล้วไปชมรายละเอียดกันต่อได้เลยค่ะ
เด็กจบใหม่หลายคนอาจมีความฝันเดียวกันคือ ทำบ้านให้พ่อแม่อยู่สบายจขกท. เองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่อยากทำบ้านให้พ่อแม่อยู่เพราะบ้านเก่า อายุมากกว่า 30 ปี เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ที่ปลวกได้มาลงหลักปักฐาน ทำสงครามกับพื้นไม้ที่บ้าน จนเดินแล้วขาสั่นที่สำคัญบ้านต่ำกว่าถนนและบ้านรอบข้างมาก
ตั้งแต่จำความได้จนโต “ฝนมาทีไร ใจฉันรู้เลยว่า…วันนี้วิดน้ำแน่นอน”ใช่ค่ะ! พ่อ แม่ จขกท. ไม่เคยสบายต้องวิดน้ำ แม้แต่วันที่ฝนแค่ตกกระพริบกระปรอย
เพราะฉะนั้น…วันนี้เรียนจบแล้ว ทำงานแล้วสักพัก ต้องลุยแล้วล่ะเราเอาว่ะ! ต้นทุนเราไม่ได้มีมาก แต่พ่ออายุ 70 ปี ต้องได้อยู่สบายในบั้นปลายชีวิตจขกท. ใช้เงินเก็บส่วนหนึ่งในการรื้อและถมดิน(ตรงนี้พี่สาวช่วยครึ่งหนึ่ง และในยามที่ขาดเหลือจริงๆ พี่สาวจะคอยช่วยน้องให้พ้นจากการจมน้ำเสมอ
เงินกู้ธนาคาร เพื่อสร้างบ้านหลังแรกเด้อ
วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่า “ถ้าคิดจะสร้างบ้าน เริ่มต้นจาก 0 เลยทำยังไง”จขกท. เริ่มต้นหาแบบเอง จากนั้นไปขออนุญาตก่อสร้างเองและไปขอยื่นกู้ธนาคารเอง (พึ่งรู้ว่าผู้รับเหมาเจ้าอื่นเขาทำให้ด้วย 555)
อ๋อจะบอกว่า…ตอนสร้างบ้านนี่ จขกท. ทำงานกรุงเทพฯนะ สร้างบ้านอยู่ต่างจังหวัดอีกอย่างพ่อแก่แล้ว คุมงานไม่ค่อยเป็น จึงต้องหาคนมาช่วยคุมให้ (เดี๋ยวรีวิวอยู่ส่วนที่ 3)
กระทู้นี้ จขกท. แบ่งออกเป็น 3 ส่วนเด้อ จะได้อ่านง่ายๆส่วนแรก บ้านหลังน้อยของ จขกท.ส่วนสอง การหาแบบบ้าน การขออนุญาตสร้าง การยื่นกู้ส่วนสาม ของมันดี…ต้องมีบอกต่อ
จะพยายาม รวบรวมทุกประสบการณ์มาเล่าให้ฟังนะคะหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ
ถ้าพร้อมแล้วไปกันเล๊ย…ส่วนแรก บ้านหลังน้อยของ จขกท. (เริ่มสร้าง 20 ตค.60 เเล้วเสร็จในสัญญา 5 มีค.61 แล้วเสร็จจริง พค.61)
มาเริ่มกันนนน โลดดดดด ขอแนะนำให้รู้จักชื่อบ้านก่อนตั้งมาจากชื่อของแม่ที่ตอนนี้ล่วงหน้าไปรอกันอยู่บนฟ้า“คุณยายประมวล” นั่นเอง จขกท. คิดเอาเองว่าถ้ายายมวลมองลงมาจากฟ้าแล้วเห็นสิ่งที่ จขกท. ทำต้องมีความสุขแน่นอน
บ้านนี้ จึงชื่อ “ บ้ า น ป ร ะ ม ว ล สุ ข ” และอีกนัยหนึ่งความหมายของบ้านนี้คือ “ แ ห ล่ ง ร ว ม ค ว า ม สุ ข ข อ ง ค ร อ บ ค รั ว”
เมื่อเดินเข้าบ้านจะพบผนังอิฐเปลือยสีขาวนี้ เป็นมุมโปรดของทุกคน ยังมีความพิเศษบางอย่างด้วย…
ความพิเศษที่ว่านั้น ก้อคือ ผนังอิฐเปลือยเป็น Double Space มีโคมไฟยาวห้อยลงมาจากเพดานชั้น 2 ของตัวบ้าน “โล่ง โปร่ง สบาย” นั่งมองแล้ว ฉดฉื่นนนนน
โคมไฟยาวห้อยลงมาจริงไม่ติงนังเด้อ โอ้วเจ้า Double space พี่ม๊องมองเธอลงมาจากชั้นบน
ลองมอง Double Space ไปที่มุมข้างบ้านเห็นไทรเกาหลีต้นเล็กๆแล้วช่ะม๊า ส่วนที่ 3 จะบอกว่าซื้อจากไหนนะก๊ะ (ประทับใจร้านเด้อ)
โอ้วเจ้า….Double space….โอ้วเจ้า….โ ต๊ ะ ไ ม้ ที่พ่อแม่รักพี่ม๊องมอง…เธอลงมาจากชั้นบน
ขอแนะนำให้รู้จักกับเจ้าของบ้านตัวจริง เสียงจริง “หนุ่มโสด สายเปย์ แห่งลุ่มน้ำชี”
จขกท : พ้อ..พ่อ เป็นนายแบบให้แหน่ ขอถ่ายรูปเจ้าของบ้านโตจริงแหน พ่อ ย่างมาเปิดประตูเข้ามาในบ้านโลด
พ่อ: ห๊า เอาแบบได๋เก๊าะ ต้องเก๊กท่านำบ่จขกท. : เต็มที่เลยคุณเอกพจน์ ขอแบบหล่อๆ (ได้ภาพดังที่เห็น ค่อนข้างเป็นดัมมะชาติ มากกกก)
ต่อกันด้วย…มุมกินข้าวของบ้านเรา เมื่อเดินขึ้นบันไดหน้าบ้านมา จะได้เจอกับระเบียงไม้ข้างบ้านเข้าบ้านปุ๊บ เราจะเจอที่กินก่อนเลย (สายกินอ่ะเนอะ) แขกก็นั่งตรงนี้ได้นะคะ อันนี้เอาผ้าปูไว้ เดี๋ยวโต๊ะเปื้อนตอนจกส้มตำปูปลาร้า
เผยโฉมเจ้าโต๊ะกันหน่อย…มองมุมนี้กันสักนิด
การเดินไฟที่บ้านในชั้น 1 ใช้แบบโชว์ท่อ
นี่โคมที่โถง Double Space
เดินผ่านประตูทะลุมิติไปที่ห้องครัวกันเลยธาด๊า…ธาดา ห้องครัวของเรา นี่เลิฟซิงก์ล้างจานและก๊อกมากนะ ได้มาตอนลดราคาด้วย (ปลื้มมาก)
ครัวของ IKEA (ส่งจากเมืองกรุง ตรงนี้วัดขนาดผิดพลาดตอนติดตั้งต้องตัดหน้าบานกันเลยทีเดียวเพราะเเจ้งขนาดครัวผิด…คิดเเล้วเศร้า) เครื่องใช้ไฟฟ้าได้มาจาก HAFELE (ตอนลดราคาเหมือนกัน ของเขาดีจริงๆ)
ง่า … ให้พ่อเลือกตำแหน่งการว่างของใช้งานกันจริงกันไปเล๊ยเอาแบบสะดวกพ่อใช้งาน คุณเอกพจน์หยิบง่าย…เราก้อสุขใจ
มุมจิบน้ำชา “เช้า-บ่าย” กับคุณชายเอกพจน์
ไปค่ะ ไปเที่ยวชั้นสองกัน….บันไดโล่งๆ โปร่งๆ
ขึ้นมาเเล้วมองไปด้านข้างจะเห็นว่า มองหน้าต่างข้างบ้านนนนน ได้เลยแต่เราวางให้ห่างตามกฏหมายกำหนดเเล้วเด้อในอนาคต ที่มีสตางค์ …. อยากต่อเติม เป็นห้องสมุด ทะลุมิติไปเลย
ลานโล่งตรงนี้ จะเป็นทางเชื่อมสู่ห้องนอนทั้งสองมองลงไปตรง Double space ได้นะ ตะโกนคุยกันได้…อบอุ่นมะละ อยู่คนละชั้นก็เมาท์ได้
ห้องนอนชั้นบน หน้าต่างเยอะ…..โล่ง โปร่ง สบาย เช่นเคย
อีกสักห้อง….ยังแต่งไม่ครบ งบหมดซะก่อน 555
มาดูมุมระเบียงชั้นสองกันบ้าง
อีกสักห้อง….ห้องน้ำอาจจะไม่ได้รีวิวมาก ไม่โดนใจนัก 555 (เห็นน้ำตาที่ซ่อนอยู่ไหมคะ) สั่งอย่างได้อย่าง คงต้องรื้อกันใหม่อีก
มาดูบ้านจากด้านนอกกันบ้างดีกว่าถ้ามองจากด้านนอกเข้ามา จะเป็นแบบนี้เลยระเบียงนี้ เป็นมุมมหาชน ที่บ้านชอบทำกิจกรรมต่างๆนั่งกินข้าว เมาท์มอย นอนเล่น นั่งเล่น งานประดิษฐ์ งานศิลปะเด็กเล่นได้ ผู้ใหญ่นั่งดีเพราะไม่ร้อนทั้งเช้าและบ่าย
ส่วนสอง ขั้นตอนหาแบบบ้าน การขออนุญาตสร้าง การยื่นกู้
การหาแบบบ้าน
เราหาแบบบ้านจากหลายที่มากเดินทางไปขอที่กรมโยธา / ที่ทำการเขตต่างๆไปมาหมดก็ยังไม่โดนใจสักที พอเลือกแบบใช่ ก็มีปัญหานิดหน่อยไม่ได้สักที
พอจะได้กลับง่ายเหมือนปลอกกล้วยบอกแม่ว่า “แ ม่ จ๋ า ช่ ว ย เ ลื อ ก ที น ะ แ ม่”เพราะหายังงัยก็ไม่โดนใจหรือไม่ก็อุปสรรคเยอะเหลือเกิน
เปิดหาอย่างไม่หยุดหย่อนเข้าไปดูใน KAPOOK เว็บประจำที่มีแบบบ้านแนะนำหลายแบบเลื่อนไปเลื่อนมาวันนั้นมีกระทู้แนะนำแบบบ้านฟรีของ ธอส.เลื่อนจนมาเจอ “บ้านใต้เงา” แว๊บแรก…พระเจ้า…หลงรักเลยล่ะเพราะตอบโจทย์มากๆไม่คิดอะไรมาก “เพราะถ้าใช่แล้ว…ใช่เลย” ไปค่ะพี่สุชาติได้แบบบ้านล่ะ
การขออนุญาตสร้าง
เป็นขั้นตอนที่สำคัญ เราอย่าละเลยนะ! ธอส. ใจดีที่สุด ให้แบบฉบับเต็มมาเลยเมื่อก่อนเข้าใจไปเองว่าแบบบ้านที่มีผังกี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำใช้ยื่นได้เลยไม่ใช่เลย แบบที่แท้ทรูจะต้องมีครบทั้งหมดทั้งแปลนบ้าน การเดินไฟ การเดินท่อประปา ฯลฯรวมๆแล้วเกือบ 30 หน้า ขั้นตอนไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างที่กองช่าง ณ เทศบาล ที่ดูแลพื้นที่บ้านที่เราจะก่อสร้างต้องเตรียมเอกสาร
1. ใบคำร้องขออนุญาต (ไปขอที่เทศบาลได้เลย)
2. หลักฐานอื่นๆ
– แบบแปลนก่อสร้าง 5 ชุด
– สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้ขออนุญาต 1 ชุด
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้ขออนุญาต 1 ชุด
– สำเนาโฉนดที่ดิน 1 ชุด
( รับรองเอกสารถูกต้องในเอกสารทุกฉบับ)
*ตรงนี้ใครไม่สะดวกไปยื่นเอง ทำหนังสือมอบอำนาจให้คนที่สะดวกทำแทนได้นะ ของเราให้พ่อไปทำ*
3. รอการอนุมัติจากเทศบาล ของเราประมาณ 1 สัปดาห์ จะได้แบบแปลนที่มีลายเซ็นจากผู้มีอำนาจมาให้เราแล้วเราก็นำเอกสารตรงนี้ไปยื่นกู้ธนาคารอีกที ตรงนี้ใครไม่ยื่นกู้ก็ก่อสร้างได้เลย
การยื่นกู้
เรามุ่งมั่นกับ ธอส.เพราะสิทธิสวัสดิการและเป็นธนาคารที่เรารู้สึกว่าอบอุ่น เราติดต่อเจ้าหน้าที่ไป เขาให้เตรียมเอกสาร ประมาณนี้ (ทุกอย่างต้องเป็นชื่อผู้กู้นะ)
1. ใบรับรองเงินเดือน
2. สลิปเงินเดือน 3 เดือน
3. สมุดบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6 -12 เดือน
4. รายการเดินบัญชี (Statement) 12 เดือน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน (ทุกหน้า)
6. สำเนาบัตรประชาชน
7. ทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
8. ใบเปลี่ยนชื่อ / นามสกุล (ถ้ามี)
เอกสารหลักประกัน
1. สำเนาโฉนดที่ดิน (ตัวจริงและสำเนาขนาดเท่าตัวจริง)
2. เอกสารรังวัดที่ดินขอได้จากที่ดิน
3. ใบอนุญาตและแบบแปลนบ้านที่จะสร้างที่ผ่านการอนุญาตจากเทศบาลมาแล้ว
4. เอกสารประมาณราคาก่อสร้างที่ผู้รับเหมาทำให้
5. สำเนาบัตรประชาชนผู้รับเหมา
6.สัญญาการรับเหมาก่อสร้าง
* ยังไงคอนเฟิร์มเอกสารกับธนาคารที่จะกู้อีกทีนะ*
ทีนี้ก็รออย่างใจจดจ่อว่าเราจะได้เป็นหนี้ไหม เขาจะเข้าไปประเมินหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน ว่าจะได้สักเท่าไหร่กันนะ
เมื่อผลออกมาว่า กู้ได้….ก็เดินทางไปทำสัญญาแลรับเงินก้อนแรกเลย ธนาคารจะแจ้งให้ทราบว่า ต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง เมื่อทำสัญญา….จะได้เงินประมาณ 15% ของเงินที่กู้ได้ทั้งหมด เป็นหนี้กันไปยาวๆ เด้อ 30-40 ปี เเล้วเเต่ตกลง
จากนั้นเราก็ดำเนินการก่อสร้างได้เลย จะเบิกเงินก็แจ้งผู้ประเมินมาประเมินความคืบหน้าในการก่อสร้าง ผู้ประเมินมาก็มีค่าใช้จ่ายนะ ประมาณครั้งละ 1000 บาท ตรงนี้เบิกไม่ได้ แต่จะมีใบเสร็จรับเงินให้ทุกครั้ง
ผู้ประเมินจะบอกว่า เราทำบ้านไปได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว และแจ้งไปที่ธนาคารให้อนุมัติจ่ายเงินให้เรา จากนั้นเราก็รอรับเงินในบัญชีได้
ตรงนี้ถ้าใครมีงบในกระเป๋าเยอะๆ อาจจะประเมินเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าใครงบน้อยแบบเรา…ก็ประเมินวนไปเนอะ ตามงวดที่ผู้รับเหมาแจ้ง (ของเราประมาณ 4 งวด)
ส่วนสาม ของมันดี…ต้องมีบอกต่อ
ขอเล่าให้ฟัง แนะนำต่อ ในสิ่งที่เราได้พบเจอมาเเละคิดว่าดี
สิ่งที่ไม่แนะนำให้ทำตามด้วยก๊ะ ( ไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น)
การเลือกผู้รับเหมา
-มองผลงานที่ผ่านมาหลายๆงาน
– ถ้าเป็นไปได้สอบถามประสบการณ์ตรงจากเจ้าของบ้านที่ผ่านมา ว่างานของผู้รับเหมาเจ้านี้เป็นอย่างไร
– พูดคุยให้เข้าใจ ถ้าเริ่มต้นด้วยปัญหา เพิ่มเงินโน้นนี่ บอกลาได้เลย ลางไม่ดีตั้งแต่ต้น ไม่ต้องฝืนเนอะ
– BOQ คือ รายละเอียดแสดงปริมาณวัสดุพร้อมราคาในการก่อสร้างอย่างละเอียด ยึดถือตามนี้!
เราควรเขียนให้ละเอียด ถ้าเป็นไปได้จ้างคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้รับเหมาถอด BOQ ก็ได้ เพื่อความชัดเจน ป้องกันการเพิ่มเงินทีหลัง
– อย่าเชื่อคำว่า “ง่ายๆ อะไรก็ได้ เราคุยกันได้ทั้งนั้น” มันไม่มีอยู่จริง ทุกอย่างเป็นเงินหมด
ดังนั้นเขียนสัญญา และ BOQ ให้ละเอียด เรื่องเงินนี่ไม่เข้าใครออกใคร…พลาดมามันเจ็บเนอะ
– ตัดสินใจให้ชัดเจนยึดตามที่คุยกัน…อย่าปรับไปเปลี่ยนมา เงินทั้งนั้นที่เพิ่มอ่า (ส่วนใหญ่ไม่มีลดหรอก…)
– ยึดสัญญาเป็นหลัก (อย่าลืมว่าเราคือคนที่ต้องใช้หนี้และดอกเบี้ย)
การเลือกผู้คุมงาน
– มองหามืออาชีพที่เข้าใจแบบบ้าน เข้าใจความต้องการของเรา ต้องลองคุยกันนะ จะได้รู้ว่า คลิกกันไหม
ส่วนใหญ่วิศวกรรับคุมงานนะ ของบ้านเราก็ใช้วิศวกรเหมือนกัน
– ทำสัญญาการว่าจ้างการทำงาน ขอบเขตงานต้องชัดเจน เข้าสัปดาห์ละกี่ครั้ง คิดเงินเท่าไหร่ อย่างไร
เริ่มต้นงานจากอะไร จบงานที่ตรงไหน เพราะจบงานเขากับจบงานเราไม่เหมือนกัน…
(เป็นเพื่อนกัน เป็นรู้จักกันก็ต้องทำ ที่ใดมีผลประโยชน์ ที่นั่นไม่เเน่ไม่นอน)
ของเราเริ่มต้นดีมากกกกก แต่พอจบงาน…ถึงกับต้องโบกมือลา
เจ้าของบ้าน
– เลือกผู้รับเหมามืออาชีพ อย่าเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
– ตกลงใจกับตัวเองให้ได้ตั้งแต่ก่อนทำสัญญา ว่าแบบบ้านของเราเป็นอย่างไร
ความต้องการของตัวเองต้องชัด ไม่เปลี่ยนใจบ่อยๆ ทุกอย่างเป็นเงินทั้งนั้น
– ซื่อสัตย์ต่อสัญญา สัญญาแบบไหนทำตามนั้น
– ถ้าเป็นไปได้ตรวจสอบงานด้วยตนเองและ Feedback ทันที
มาถึงส่วนดีดีกันบ้าง ช่วงของดี…มีบอกต่อ (สนใจหลังไมค์ได้ ยินดีแนะนำสุดใจ เพราะความเป๊ะในงาน)
1. งานกระจกทั้งบ้าน
เราต้องใช้บริการของพ่อเพื่อน เพราะผู้รับเหมาแจ้งตอนงวดงานกระจก ว่า…ช่างของเขาทำกระจกแบบนี้ไม่ได้แล้วเพราะแบบยากเกินไปเราเองก็ต้องหาทางแก้ปัญหา ตอนนั้นเครียดมากจริงๆ โชคดีมากที่พ่อของเพื่อนรับทำให้ (ทั้งที่งานของพ่อเพื่อนแน่นมาก)
แน่นอนว่าราคาสูงกว่าผู้รับเหมาประเมินไว้เดิมประเมินที่ 200,000 บาท รวมค่าประตูทั้งบ้านพร้อมค่าติดตั้งเมื่อทำไม่ได้เราจึงต้องจ่ายเพิ่ม 2 ทาง คือ ค่ากระจกรอบบ้าน & ค่าประตูและค่าจ้างติดตั้งประตูทั้งบ้านอันนี้รวมๆแล้วมากกว่า 200,000 บาท
….. บ้าน จึง บาน…..
อย่างไรก็ตาม ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี พ่อเพื่อนทำให้งานกระจกเนี๊ยบมาก ใครๆก็ชมว่าว่าสวย บริการหลังการขายดีมากด้วย
2. ช่างไม้ ติดประตูไม้ทั้งบ้าน (ตรงนี้ต้องจ่ายเพิ่ม)
เราได้น้าของเราที่เป็นช่างไม้มาช่วยทำให้ นี่ก็โชคดีเพราะงานเนี๊ยบ งานเร็ววันเดียวเสร็จ
3. ช่างทำรั้ว
อันนี้ต้องแนะนำต่อ เพราะเขาทำให้เราเข้าใจคำว่า“ช่างมืออาชีพ” เสนอแบบ เสนอราคา เป๊ะมาก!เขารับงานปูน งานเหล็กนะ ราคาต่อรองได้ อาจสูงนิดนึงแต่เชื่อเราเหอะ โคตรสบายใจ คุยกันแป๊บเดียวเข้าใจ รับผิดชอบงานไม่ต้องตามให้เหนื่อย เสียความรู้สึก…
กลับมาก่อน…เรามีแนะนำอีกนิดนึงใครที่วางแผนจะทำรั้วบ้านอยู่แล้วอย่าให้ช่างเทปูนที่บริเวณหน้าบ้านจนเต็มเนื้อที่เพราะต้องเสียค่ารื้อวางรางเหล็กประตูอีกหลายตังค์
4. ผ้าม่าน
ตอนแรกจะให้พ่อทำให้ แต่พ่อคิดไปคิดมาว่าไม่ไหวเลยได้รู้จักกับร้านนึง นี่ก็ทำให้ได้รู้จักคำว่า มืออาชีพอีกแล้วครับท่านงานดีมาก ไวมาก เนี๊ยบมาก โอนมัดจำปุ๊บไม่เกิน 7 วัน มาติดตั้งเลยที่สำคัญ…ไม่แพงด้วยนะ ต่อรองได้ (เจ้กับเฮีย น่ารักมาก) บ้านเรากระจกเยอะมากกกก ความสูงกระจกประมาณ 2.5 เมตร ยังได้ราคาที่โดนใจมากเลย
5. ร้านต้นไม้ (ทางไกล)
ไทรเกาหลี สูง 1.5 เมตร จากคลอง 15 นครนายก เมืองหน้าด่านโบราณราคาตกต้นละ 50 บาท เจ้าของสวนใจดีมาส่งเอง
6. ร้านต้นไม้ (หน้าหมู่บ้าน)
อันนี้สดๆร้อนๆไปได้มาเมื่อช่วงสงกรานต์ต้นทองกวาว และ ต้นอินทนิลแม่ค้าใจดีมากกกก … ลดแล้วลดอีก … ลดจนได้งบที่ลูกค้ามีราคาพร้อมปลูกไปอี๊ก….รอเจ้าเติบโตนะ
พาพันชอบพาพันรดน้ำต้นไม้พาพันดี๊ด๊า
สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ”บ้ า น ป ร ะ ม ว ล สุ ข” หลังน้อยจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับเเรงสนับสนุนจากพ่อแม่ พี่สาว ญาติ แฟน เพื่อนร่วมงาน และกัลยาณมิตรที่ให้การสนับสนุนทั้งเเรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์ มาตลอด
…เชื่อมั่นค่ะว่า…
ความพยายาม ความตั้งใจจริง ที่เรามีจะนำพาให้เราเดินถึงฝั่งฝันของเราได้เเน่นอนเมื่อบ้านเสร็จเเล้ว ชีวิตต้องเดินหน้า ทำงาน หาเงินต่อไป เพื่อส่งบ้านต่อเพราะฉะนั้น จะทำอะไรตัดสินใจดีดีนะคะทุกการตัดสินใจ…คือเงินทอง ของหายากค่ะ 555
หวังว่าทุกประสบการณ์จะมีประโยชน์ต่อทุกท่านที่เข้าได้มาอ่านนะคะยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้แบ่งปัน หลังจากเป็นผู้รับใน พันทิป และเว็บไซต์ต่างๆมากมาย
– ข อ บ พ ร ะ คุ ณ ทุ ก ท่ า น ที่ ติ ด ต า ม ค่ ะ-
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : สมาชิกหมายเลข 1444338 Pantip.com
อยากได้พิกัดไทรเกาหลีค่า