homenayoo

ทิ้งเงินเดือน 400,000 บาท มาเลี้ยงแพะดำ-ไนจีเรี่ยนดะวาฟ รายได้ 35,000 ต่อเดือน แต่ครอบครัวได้สุขภาพดี

โพสโดย : pure / วันที่ : 1 October 2015

ทิ้งเงินเดือน 400,000 บาท มาเลี้ยงแพะดำ-ไนจีเรี่ยนดะวาฟ รายได้ 35,000 ต่อเดือน แต่ครอบครัวได้สุขภาพดี

11210408_719375458173493_8664429326881426584_n

ฟาอิซฟาร์มแพะ เป็นหนึ่งในฟาร์มมาตรฐานของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเกิดขึ้นด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของ คุณอารักษ์ สันประเสริฐ ที่ผันตัวจากที่ปรึกษาด้านธุรกิจ ซึ่งอัตราเงินเดือนครั้งสุดท้ายอยู่ที่ประมาณ 400,000 กว่าบาท มาเป็นเกษตรกรเต็มตัว ในปี 2547 และสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จ จนได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เข้ารับรางวัล เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพเลี้ยงสัตว์ ประจำปี 2557

ระยะเวลา 11 ปี ของการทำฟาร์ม ฟาอิซฟาร์มแพะได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการรับรองตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ โดยฟาร์มตั้งอยู่ เลขที่ 32/2 หมู่ที่ 2 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ โทร. (083) 221-0007

ปัจจุบัน เลี้ยงแพะนม ประมาณ 150 ตัว ผลิตนมแพะพาสเจอไรซ์ นมแพะสเตอริไลซ์ โยเกิร์ต-นมแพะ ส่งจำหน่ายให้สมาชิกได้บริโภคถึงบ้าน และยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น อาหารเมนูแพะ (ข้าวหมก แกงแพะต่างๆ แพะตุ๋นยาจีน) สบู่ครีมนมแพะ ไอศกรีม หมวก กระเป๋า เป็นต้น

12075055_788709831240055_6810527936780034457_n

ย้อนอดีตจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิต

จุดเริ่มต้นนั้นของการผันเปลี่ยนชีวิตมาสู่การเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะของคุณอารักษ์สืบเนื่องจากบุตรชาย2 คนแรกเป็นโรคภูมิแพ้จนต้องเข้าโรงพยาบาลแบบฉุกเฉินเพื่อให้ออกซิเจน และต้องเข้ารับการรักษาโดยการฉีดสารกระตุ้นภูมิทุกสัปดาห์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ภรรยาตั้งครรภ์ลูกคนที่ 4 ก็เกิดความกังวลว่า อาจเป็นโรคภูมิแพ้ตามพี่ๆ ในขณะนั้น มีญาติผู้ใหญ่มาแนะนำ ให้ลูกและภรรยาดื่มนมแพะเพื่อช่วยรักษาโรคภูมิแพ้

12033182_783321545112217_111340721505358105_n

จากนั้นจึงได้ซื้อนมแพะมาให้ภรรยาดื่ม แต่ไม่สามารถดื่มได้ เนื่องจากนมแพะมีกลิ่นสาบ จึงพยายามศึกษาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงแพะ และตัดสินใจซื้อแม่แพะนมแม่ลูกอ่อนมา 1 ตัว นำมาเลี้ยงโดยการผูกไว้กับเสาโรงรถและลงมือรีดนมแพะด้วยตนเอง

“ผมมองว่าปัญหาต้องมีไว้แก้ เพราะเคยเป็นที่ปรึกษามาก่อน ดังนั้น ถ้าน้ำนมแพะมีกลิ่นสาบ ผมเลยแก้ด้วยการเลี้ยงเอง”
น้ำนมแพะที่ได้จากแม่แพะที่เลี้ยงมีรสชาติดีและที่สำคัญไม่มีกลิ่นสาบ เมื่อนำนมแพะที่รีดได้มาให้ภรรยาดื่ม ปรากฏว่าดื่มได้โดยไม่มีกลิ่น และยังได้แบ่งปันน้ำนมแพะให้แก่ญาติผู้ใหญ่ที่ไม่สบายได้ดื่มด้วย

เมื่อภรรยาคลอดบุตรชายมีผิวพรรณดีและสุขภาพแข็งแรงมาก ไม่เป็นโรคภูมิแพ้ และญาติที่ดื่มนมแพะก็มีสุขภาพดีขึ้น ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2547 จึงตัดสินใจเกษียณตัวเองจากบริษัทโดยผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรเลี้ยงแพะเต็มตัว

แม้ช่วงแรกๆ เนื่องจากขาดประสบการณ์ แพะเจ็บ ป่วย ตาย สายพันธุ์ไม่ดี ให้น้ำนมน้อย ใช้เวลาและแรงงานมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง คุณอารักษ์จึงได้ศึกษาหาความรู้การเลี้ยงแพะจากการอ่านหนังสือ ตำรา ค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต เข้ารับการฝึกอบรมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ และได้ลงมือเลี้ยงแพะด้วยตนเองทุกขั้นตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเอาหลักวิชาการที่ถูกต้องมาประยุกต์ใช้ ทำให้สามารถลดปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งยังพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ดียิ่งขึ้น

12144746_789133611197677_8892369636380990601_n

“อย่างเรื่องของกลิ่นสาบในน้ำนมแพะ ผมก็ใช้ประสบการณ์จากที่เลี้ยงแพะตัวแรกมาใช้ เพราะจากจุดนั้นทำให้เรารู้แล้วว่า การที่นมแพะมีกลิ่นนั้นต้นเหตุไม่ได้มาจากตัวน้ำนมแพะ แต่มาจากการบริหารจัดการก่อนการรีดนม หากมีการจัดการดี อาบน้ำให้สะอาด ทำอย่างไร น้ำนมก็ไม่มีกลิ่นสาบ และต่อมาเมื่อมาเลี้ยงได้ประสบการณ์ จึงทำให้รู้ปัจจัยอื่นที่จะมีผลอีกคือ เรื่องอาหารและเรื่องของการทำความสะอาดในคอกแพะ รวมถึงการแยกแพะตัวผู้ออกจากคอกแพะนม เพราะกลิ่นจากปัสสาวะแพะตัวผู้จะเป็นอีกจุดที่ทำให้น้ำนมแพะมีกลิ่นได้ด้วย สุดท้ายคือ ขั้นตอนของการรีดนม” คุณอารักษ์ กล่าว
ส่วนทำไมนมแพะจึงมีกลิ่นได้ เป็นเพราะในน้ำนมมีปริมาณไขมันสูง และสามารถดูดซึมกลิ่นจากโดยรอบได้ดี จึงต้องมีการจัดการฟาร์มให้ดี เพื่อให้ปลอดจากกลิ่น

สำหรับนมแพะที่เกษตรกรจำหน่ายได้ในเวลานี้ หากส่งให้กับโรงงานแปรรูปจะอยู่ที่ลิตรละ 50 บาท แต่หากจำหน่ายเองจะอยู่ที่ลิตรละ 60 บาท โดยแพะ 1 ตัว จะให้นมเฉลี่ยประมาณ 2 ลิตร

“ถ้าจะเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพ ขอให้คิดเร็ว ทำเร็ว และขยายให้เร็ว เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ดีตามเป้าหมาย” คุณอารักษ์ กล่าว

เทคนิคเลี้ยงแพะ แบบ ฟาอิซฟาร์มแพะ

สำหรับในการจัดการฟาร์มแพะ คุณอารักษ์ ได้ใช้องค์ความรู้ต่างๆ จากการศึกษาเรียนรู้ทั้งด้วยตนเองและจากการปรึกษาหน่วยงานต่างๆ จนประสบความสำเร็จ โดยมีข้อแนะนำที่น่าสนใจ อาทิ

ด้านพันธุ์และสายพันธุ์แพะ จากแม่แพะเดิมที่สามารถรีดนมได้เพียง 1-1.5 ลิตร/ตัว/วัน ได้พัฒนาปรับปรุงพันธุ์แพะมีสายเลือดพันธุ์นมที่สูงขึ้น ได้แก่ พันธุ์ซาแนนขาว ซาแนนดำ ท็อกเก็นเบิร์กและอัลไพน์ น้ำนมเฉลี่ยอย่างน้อย 2 ลิตรขึ้นไป และมากกว่า 1 ใน 3 ของแม่แพะให้นม 3 ลิตรขึ้นไป

12042817_783322551778783_4616754887221404064_n

นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาสายพันธุ์แพะ “ซาแนนดำ” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้ลักษณะเหมือนซาแนนแต่ขนเป็นสีดำทั้งตัว พบว่าให้น้ำนมสูง น้ำนมมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าสายพันธุ์ซาแนนขาว และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคว่าน้ำนมแพะดำมีผลดีต่อสุขภาพ โดยสามารถวางตำแหน่งสินค้าเป็นนมเกรดพรีเมี่ยมที่ให้ราคาสูงกว่าน้ำนมแพะทั่วไป 50-80%

ปัจจุบัน มีแพะซาแนนดำประมาณ 60 ตัว เป็นแม่พันธุ์ที่ให้น้ำนมสูงมากกว่า 25 ตัว และยังมีแพะพ่อพันธุ์ แพะรุ่น-หนุ่มสาว และลูกแพะซาแนนดำที่จะนำมาทดแทนในรุ่นต่อไปได้อีกจำนวนหนึ่ง

อีกสายพันธุ์ที่น่าสนใจและเป็นสายพันธุ์ใหม่ของฟาร์มได้แก่แพะนมพันธุ์ไนจีเรี่ยนดะวาฟ แพะนมพันธุ์แคระ สูงแค่ 50 เซนติเมตร จากประเทศสหรัฐอเมริกา นิสัยเชื่อง เลี้ยงง่าย มีโปรตีนและไขมันสูงที่สุดถึง 7% ในขณะที่แพะนมทั่วไปให้ปริมาณไขมันประมาณ 3-4% ทางฟาร์มเพิ่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ เมื่อไม่นานนี้

ด้านอาหารแพะ ปัจจุบัน ได้พัฒนาสูตรอาหารและผสมอาหารข้นไว้ใช้เองเพื่อประหยัดต้นทุน โดยยึดหลักให้แพะได้รับโปรตีน ไขมัน พลังงาน และสารอาหารอื่นๆ อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน โดยมี 2 สูตร คือ สูตรสำหรับแพะรีดนมและแพะท้องแก่ และสูตรสำหรับตัวผู้และแพะวัยรุ่น มีการจัดทำแปลงหญ้าขึ้นเองเพื่อลดปัญหาโรคพยาธิที่ติดมากับหญ้าตามแหล่งธรรมชาติ

ในช่วงแล้งจะให้หญ้าแห้งและฟางในระบบตาข่ายแขวนเพื่อลดการสูญเสียให้กินตลอดเวลา ใช้ผงเกลือแร่รวมกับวิตามินเสริมเติมในรางขณะให้อาหารข้นและมีเกลือแร่ก้อนแขวนให้เลียกินได้ตลอดเวลา มีการผลิตน้ำหมักชีวภาพผสมลงในน้ำดื่มเพื่อช่วยระบบการย่อยอาหาร ลดกลิ่นของปัสสาวะและมูลที่ถ่ายออกมา

ด้านการดูแลรักษาสุขภาพ มีการทำวัคซีนและการเจาะเลือดเพื่อตรวจโรคโดยปศุสัตว์เป็นประจำตามกำหนดเวลา เพื่อให้มั่นใจว่าแพะปราศจากโรค อาบน้ำและกำจัดเห็บ ไร ทุก 2 สัปดาห์

ด้านการจัดการฟาร์ม เป็นฟาร์มที่ได้รับรองมาตรฐานฟาร์มแพะนม มีการบริหารจัดการโดยเน้นความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ออกแบบโรงเรือนแบบยกสูงเป็นรูปตัวยูทำให้สามารถระบายอากาศได้ดี มีแผ่นมุ้งพลาสติกรองใต้คอกเพื่อกรองแยกมูลแพะจากน้ำปัสสาวะ

ทำให้มูลไม่แฉะ พื้นคอนกรีดลาดเอียงและมีรางเชื่อมเพื่อนำน้ำปัสสาวะลงสู่บ่อบำบัด มีการใช้น้ำหมักชีวภาพราดพื้นคอกเพื่อกำจัดกลิ่น ภายในแบ่งเป็นสัดส่วนแยกตามประเภทของแพะ นอกจากนี้ ยังมีมุ้งตาข่ายรอบคอกเพื่อกันยุงและแมลง มีอ่างน้ำยาจุ่มเท้าและสบู่ล้างมือก่อนขึ้นคอก

10995578_719374594840246_2218482334690309698_n

ด้านคุณภาพน้ำนมแพะ ทางฟาร์มมีขั้นตอนที่พิถีพิถันมากในการรีดนม เช่น การแยกคอกเลี้ยงและสถานที่รีดแยกห่างจากกัน แพะที่รีดนมต้องทำความสะอาดตามขั้นตอน อันประกอบด้วย การแปรงขน ล้างเต้านมด้วยน้ำอุ่นจากเครื่องทำน้ำร้อน เป่าด้วยลมและซับด้วยผ้าจนแห้ง จากนั้นพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนและทดสอบน้ำนมแต่ละเต้าด้วยน้ำยา CMT ส่วนการรีดนมจะรีดด้วยเครื่องรีดระบบสุญญากาศ นมที่ได้จะลงสู่ถังเก็บที่แช่น้ำแข็งตลอดเวลา และจะเก็บในรูปแช่แข็งภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาคุณภาพน้ำนม หลังการรีดนมจะจุ่มหัวนมด้วยน้ำยาทุกครั้ง

12079628_789194024524969_311927032373523484_n

ด้านการตลาด ปัจจุบัน ฟาอีซฟาร์มแพะมีผลิตภัณฑ์จากแพะนม ประกอบด้วย นมพาสเจอไรซ์และโยเกิร์ต ประมาณ 600 ขวด/วัน นมดิบ นมสเตอริไลซ์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ สบู่และครีมนมแพะ นอกจากนี้ มีการจำหน่ายแพะเพื่อเป็นพ่อแม่พันธุ์และแพะเนื้อเพื่อการบริโภค โดยรวมแล้ว คุณอารักษ์มีรายได้จากการเลี้ยงแพะหลังหักต้นทุนแล้ว เดือนละประมาณ 35,000 บาท

1009802_423687601075615_1925385859_n

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : มติชนออนไลน์, เทคโนโลยีชาวบ้าน


สนใจลงโฆษณากับทาง Homenayoo ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวันเฉลิม  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ทิ้งเงินเดือน 400,000 บาท มาเลี้ยงแพะดำ-ไนจีเรี่ยนดะวาฟ รายได้ 35,000 ต่อเดือน แต่ครอบครัวได้สุขภาพดี "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.