แจกสูตร! สบู่สปา – สบู่สมุนไพร ทำไว้ใช้เองที่บ้าน ล้างหน้าก็ได้ ถูตัวก็ดี

แจกสูตร! สบู่สปา – สบู่สมุนไพร ทำไว้ใช้เองที่บ้าน ล้างหน้าก็ได้ ถูตัวก็ดี 

วันนี้มีเกร็ดความรู้ และ วิธีทำสบู่สปา สูตรสมุนไพรต่าง ๆมาฝากกันอีกแล้ว สูตรนี้ได้มาจากคุณ นุสิตา สมาชิก thailandsusu.com พร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยค่ะ

:: ————————————::

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวไทยแลนด์สู้ๆ ทุกคน วันนี้นุสิตา จะมาสอนเพื่อนๆ ทำสบู่ใช้เองในครัวเรือนค่ะ เพราะนอกจากประหยัดแล้ว เรายังสามารถเลือกส่วนผสมที่เหมาะสมกับผิวเรามาใช้ด้วย  เมื่อก่อนนุสิจะมีปัญหาเรื่องผิวพรรณ ซึ่งไม่ทราบสาเหตุว่าแพ้อะไรมา ออกนอกบ้านแต่งหน้าไม่ได้เลยค่ะ กลัว

อาการแพ้ที่ใบหน้าจะเห่อออกมาอีก ไปเที่ยวแล้วไม่แต่งหน้า ไม่มั่นใจเลยค่ะ แต่หลังจากเริ่มหันมาทำสบู่สมุนไพรไทยใช้เองแล้ว ใบหน้าที่เคยมีผื่นขึ้นก็เริ่มแห้งลง ผิวหน้าดีขึ้นเป็นลำดับ เดี๋ยวนี้

แต่งหน้าไปทำงาน ไม่โด่นเพื่อนล้อแล้วค่ะ จะไปไหนก็มีความมั่นใจมากขึ้น เรื่องอาย ไม่มีซะล่ะ

ขั้นตอนการทำก็ง่ายแสนง่ายค่ะ แค่เรามีใจที่อยากจะทำ เราก็จะได้มีสบู่ไว้ใช้เองแล้ว แต่ก่อนจะเรียนรู้การทำสบู่ เรามาทำความรู้จักกับสบู่กรีเซอรีน และ เกล็ดสบู่ก่อนนะคะ

กลีเซอรีน/เกล็ดสบู่ที่ขายกัน มีอยู่ 2 แบบ แบบที่เป็นของแท้จะทำมาจากน้ำมันพืช (เกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างด่างกับ น้ำมันพืช) ส่วนอีกอย่างหนึ่งทำมาจากปิโตรเคมี ซึ่งจะมีส่วนผสมของสารซักล้าง (detergent) ทำให้มีฟองมาก

ลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกันคือ

สบู่กลีเซอรีนจากน้ำมันพืช จะมีลักษณะกึ่งใส (Translucent) แต่ถ้าทำมาจากปิโตรเคมี จะใสแจ๋ว (Transparent)ค่ะ

ก่อนอื่น ขอแนะนำชนิดของสบู่ที่นุสิเลือกนำมาใช้ก่อนนะคะ ภาพด้านล่างนี้ เป็นกรีเซอรีนค่ะ เมื่อหลอมแล้วจะได้สบู่ที่ขุ่น ตามภาพนี้ ขนาด 1 กิโลกรัมค่ะ ราคา 150 บาท

เกล็ดสบู่ชนิดที่ 2 ค่ะ ซื้อมา 1 กิโลกรัม 130 บาท เมื่อหลอมแล้ว เมื่อสบู่แข็งตัว สบู่จะใสค่ะ

วันนี้นุสิจะพาเพื่อนๆ ทำสบู่ทั้ง 2 แบบกันนะคะมาดูกันค่ะ ว่า**ส่วน หน้าตาของสบู่จะออกมาเป็นยังงัย

นุสิตาใช้กรีเซอรีน 8 ส่วน + น้ำสมุนไพร 2 ส่วน (น้ำผึ้ง + น้ำผสมสมุนไพร ) บางท่านก็จะใช้น้ำหมักผลไม้ผสมน้ำผึ้งนะคะ

เรามาเริ่มจากกรีเซอรีน ก้อนนี้ก่อนแล้วกันนะคะ นุสิใช้ที่ซอยหัวไช้เท้ามาขูดค่ะ เพื่อให้กรีเซอรีนละลายได้ง่ายขึ้น ใช้เวลาไม่นาน เสร็จแล้วมาชั่งตวงดูเพื่อหาปริมาณที่เราต้องใส่น้ำสมุนไพรลงไป

เตรียมสมุนไพรที่เราต้องการใช้เป็นส่วนผสมให้พร้อม

ก้อนแรกในชีวิตขอเป็นสบู่กากกาแฟนมสดแล้วกัน (กากกาแฟแค่หยิบมือ + น้ำผึ้ง 2 ชิ้น + โยเกิร์ต)

หม้อที่จะใช้ต้มสบู่ต้องเป็นหม้อเซรามิก ใส่วางในหม้อสแตนเลสอีกชั้นใส่น้ำลงไปนิดหน่อย เพื่อไม่ให้หม้อสแตนเลสไหม้ และสบู่ก็จะไม่ไหม้เมื่อต้มอยู่ในหม้อเซรามิกด้วยค่ะ ใช้ไฟอ่อนๆ นะคะ ค่อยๆ ต้ม

เมื่อเกล็ดสบู่หรือกรีเซอรีนละลาย ก็ยกลง และใส่น้ำสมุนไพร (โยเกิร์ต+กากกาแฟ + น้ำผึ้ง) รวมทั้งหมดต้องเป็น 2 ส่วนของปริมาณเกล็ดสบู่ เสร็จแล้วยกลงค่อยๆ ตักเทลงพิมพ์เลยค่ะ

ใช้พิมพ์ที่ทำวุ้น หรือ พิมพ์จากซิลิโคน ก็ได้ ภาพสบู่ที่ได้ ก็จะออกมาเป็นแบบนี้ ฟองเยอะไปหน่อยค่ะ ทำครั้งแรกค่ะ ฟองเยอะเลย เพราะไม่ได้ฉีดแอลกอฮอล์ (จะช่วยลดฟองได้)

การฉีดแอลกอฮอล์ ต้องฉีดเล็กน้อยซัก 3 ฟ้อต ค่ะ ตอนที่เทลงพิมพ์แล้ว ในภาพนี้ นุสิไม่ทราบมาก่อนเลยไม่ได้ฉีด ภาพที่เห็นก็เลยปรากฎฟองเต็มเลย

สบู่ น้ำผึ้งทองคำเปลว (Honey  Gold) ช่วยในเรื่องผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล นุสิเทสบู่ลงในพิมพ์วุ้นรูปหัวใจ (หัดทำใหม่ๆ ไม่ควรลงทุนเยอะ)

เริ่มคล่องแล้วค่ะ ชักอยากได้สีสรร และสมุนไพรที่ใช้สคลับผิวด้วย ก็เลยทดลองทำสบู่ดอกคำฝอยค่ะ

สูตร ( ดอกคำฝอย + น้ำผึ้ง + น้ำหมักผลไม้ )

เอาไปต้มเหมือนเดิม แต่สมุนไพรต่างกันค่ะ

สูตรนี้ใส่น้ำสมุนไพร 2 %  ผลคือ สบู่แข็งกำลังดีเลย สีสวยด้วย เวลาถูก็มีดอกไว้สคลับผิว

ป็นยังงัยบ้างคะ หน้าตาตอนทำออกมา สวยมั้ย ล้างหน้าก็ได้ ถูตัวก็ดี ใช้ดีมากๆ ค่ะ สะอาดมั่นใจ บำรุงผิวระยะยาว เพราะเราใช้สมุนไพรล้วนๆ หรือที่เขาเรียกกันว่าสบู่สปานั่นแหละค่ะ

สบู่สีเขียวด้านบน ได้จากผงชาเขียว + น้ำผึ้ง (รวม 2 % ของสบู่) ทำออกมาแล้ว เขียวอ่อนค่ะ สีเป็นธรรมชาติกว่าภาพที่เห็น เพราะตอนถ่ายตั้งเป็นถ่ายใบไม้

ภาพที่เพื่อนๆ เห็นตอนนี้จึงมีสีเขียวสดใส ไม่ได้สกัดเอาใบชาเขียวออก เพราะต้องการให้ใบชาสคลับผิว ไม่ได้ใส่น้ำหอม เพราะมีกลิ่นใบชาที่หอมอยู่แล้ว

สบู่ก้อนสีแดงที่เห็น คือ สบู่บรีทรูส (บีทรูส + น้ำผึ้ง )

สบู่ทั้งหมดที่เห็นทำจากน้ำสมุนไพร ทั้งนั้น และทุกครั้งที่ทำเราต้องใส่น้ำผึ้งลงไปด้วย 1-2 ช้อนเพื่อความชุ่มชื่นของผิว แค่ 2 ช้อนก็ช่วยได้แล้วค่ะ แต่น้ำสมุนไพรกับน้ำผึ้งรวมกัน ไม่ควรเกิน 2 % ของปริมาณสบู่ ไม่เช่นนั้น สบู่จะนิ่มเป็นดินน้ำมันเชียวค่ะ และเคล็ดลับที่ขาดไม่ได้ ที่ฟอกแล้วทำให้สบู่สะอาดมากๆๆ คือ ใส่ส่วนผสมของน้ำหมัก ที่รวมอยู่ใน 2 % นั้นด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : คุณ นุสิตา สมาชิก thailandsusu.com