5 ข้อควรทำ “เพื่อเพิ่มโอกาสในชีวิต และสร้างรายได้ในปี 2016”

5 ข้อควรทำ “เพื่อเพิ่มโอกาสในชีวิต และสร้างรายได้ในปี 2016”

เดือนสุดท้ายของปี 2015 กันแล้ว มีใครบ้าง? ที่กำลังอยากเปลี่ยนการใช้ชีวิตตัวเอง วันนี้เรามีข้อคิดดี ๆ จากคุณ ศิริพงษ์ จากเว็บไซต์ http://iamsiripong.com/ พร้อมแล้วตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ

:: —————————- ::

ผมได้อ่านบทความเรื่อง 10 ข้อควรทำ ‘เพื่อเพิ่มรายได้และโอกาสในชีวิต’ ของคุณ ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ลงไว้ในเว้ปไซท์ www.posttoday.com ผมเห็นพ้องตรงกันกับคุณ ภาววิทย์ ตรงที่ว่า……….

“วันนี้เราอยู่ในโลกที่เงินอยู่รอบตัว ทุกอย่างรอบตัวเราเป็นเงินทั้งหมด เป็นโลกที่เงินหมุนเวียนอย่างไม่จำกัด ขออย่างเดียวคือเราต้องรู้แนวคิด 10 ข้อ……..”

นั่นคือคำที่คุณ ภาววิทย์ บอกไว้

ผมได้นำมากลั่นกรองตามประสบการณ์ของผมเองในช่วงตลอดระยะเวลา 3-4 ปี ที่ผมทำงานออนไลน์ ผมพบว่าแก่นจริง ๆ ของมันมีเพียง 5 ข้อเท่านั้นที่สำคัญ และจำเป็นต่อการทำงานในปัจจุบัน และผมจะนำประสบการณ์ของผมมาถ่ายทอดในบทความนี้……

“5 ข้อควรทำ “เพื่อเพิ่มโอกาสในชีวิต และสร้างรายได้ในปี 2016” ผมขอย่อยมันมาให้คุณได้อ่านกัน…….

1. “ยุคนี้ประสบการณ์สำคัญกว่าความรู้”…..ผมจะเล่าให้ฟัง! ถ้าเป็นสมัยก่อน ในช่วงยุค Gen X เรามักคุ้นหูกับคำว่า “เรียนเก่ง ๆ เรียนสูง ๆ นะลูก โตมาจะได้ทำงานดี ๆ แก่ไปจะได้สบาย” แต่ในความเป็นจริงที่เจ็บปวดสำหรับคนยุค Gen X ก็คือ….พวกที่เรียนเก่ง ๆ ในรุ่นผมตอนนี้ กำลังกลายเป็นลูกจ้างชั้นดีในโรงงานขนาดใหญ่ที่ใคร ๆ ก็บอกว่า “มั่นคง” ไม่ใช่ว่าพวกเค้าเหล่านั้นเก่งจนไม่มีใครกล้ารับเข้าทำงานในที่ใหม่หรอกนะ แต่จริง ๆ แล้วคือ “ไม่มีใครกล้าให้เงินเดือนพวกเค้าสูงเหมือนที่เก่า และที่น่าเจ็บปวดกว่านั้นคือ พวกเขาเองก็ไม่กล้าที่จะย้ายงานด้วยเช่นกัน” และนี่ก็คือกับดักฐานเงินเดือนที่คน Gen X กำลังเผชิญอยู่

ต่างกับพวกที่เรียนไม่ดี พอเริ่มหางาน ก็ได้งานในโรงงานเล็ก ๆ เงินเดือนไม่สูง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ “ประสบการณ์” และ “ความกล้าในการย้ายงาน” นำพาตัวเองไปสู่จุดที่คู่ควรยิ่งกว่า ผลก็คือ หลาย ๆ คนที่เคยเป็นเด็กหลังห้องประเภทนี้ มีฐานะค่อนข้างดี มีอิสระในการทำงานจนน่าอิจฉา……..

ดังนั้น…..การเพิ่มรายได้ในยุคนี้ไม่ใช่การเรียนเพิ่ม แต่คือการเพิ่มประสบการณ์ต่างหาก ยุคนี้คนที่เห็นโอกาสรวยเร็วเพราะเขาหมั่นเพิ่มประสบการณ์ลองทำสิ่งใหม่ๆ

2. “ยุคนี้การท่องเที่ยวไม่ได้ทำให้เราจนลงถ้าเรารู้จักแบ่งปันประสบการณ์”…เมื่อโซเชียลเน็ทเวิร์คเข้ามา การดำเนินชีวิตคนคนไทยก็เปลี่ยนไป เรียกได้ว่า “เป็นสังคมของการแชะ แอนด์ แชร์” ก็ว่าได้….การเดินทางทำให้เราเห็นสิ่งต่าง ๆ มองโลกกว้างและเห็นโอกาสมากกว่าคนไม่ท่องเที่ยว แต่ทั้งหมดจะไม่มีประโยชน์เลยหากเราไม่แชร์ประสบการณ์และเรื่องราวเหล่านั้น

ลองแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยว และการเดินทางของคุณให้คนอื่นได้รับรู้สิครับ ผมว่า มันจะช่วยผลัก หรือดึงดูดคุณให้ไปเจอกับคนในอีกสังคมหนึ่ง ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในชีวิตของคุณเอง และที่สำคัญ! มันอาจจะช่วยคุณสร้างรายได้จาก Connection เหล่านี้ เหมือนที่ผมเป็นอยู่ก็ได้……..

3. “คนเห็นค่าเราจากสิ่งที่เราทำ…ต้องค้นหางานที่อยากทำจริงๆ”…..เคยได้ยินมาว่า “การค้นหาตัวเองเป็นสิ่งที่เราต้องทำตลอดชีวิต” งานที่คุณทำก็เช่นกัน เราก็ต้องคนหางานที่เราอยากทำจริง ๆ ให้เจอให้เร็วที่สุด อาจจะไม่มีใครเจองานในฝันตั้งแต่งานแรกที่ทำ แต่เราจะค่อย ๆ รู้จักตัวเองผ่านการทำงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น..จงอย่าหยุดค้นหา !!….

อีกอย่างนึงที่ผมอยากเสริมเข้ามาก็คือ “อย่าไปเสียเวลา กับงานที่ไม่ใช่” มันคงไม่สนุกนัก ถ้าคุณต้องทนทำงานที่คุณไม่ชอบเป็นปี 2 ปี , 3 ปี หรือนานกว่านั้น กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ไม่กล้าลาออกจากงานนั้นแล้ว….แย่นะ! ถ้าเป็นแบบนี้

4. “ยุคนี้อย่าทำงานที่เรารู้สึกสบายนานเกินไป ..จุดที่อึดอัดคือการเติบโต” ….ทารกในครรภ์ของแม่ หนักเพียง 2-4 กิโล พอคลอดออกมานอกครรภ์ ก็เติบใหญ่ขึ้น ,ไข่ไก่ พอฟักเป็นตัว ก็เจริญเติบโตตามวัย….ผมเปรียบเทียบให้ฟังแบบนี้ เพื่อชี้ให้เห็นว่าเมื่อเราหลุดพ้นจากจุด ๆ นึงที่คับแคบ อึดอัดออกมาได้แล้ว เราล้วนเติบโตไปตามทางที่ควรจะเป็น การทำงานก็เช่นกัน…..คนส่วนใหญ่วิ่งหางานที่สบาย โล่ง โปร่ง ไม่มีแรงกดดัน แล้วเค้าก็อยู่ตรงนั้น ตรงนั้น และตรงนั้น…..ไม่เติบโต ไม่ก้าวหน้าตามความสามารถที่เค้ามี

“อย่าอยู่ตรงนั้นนาน”….เพราะจุดที่เราอึดอัดมันสอนให้เราเติบโตเสมอ กราฟหุ้นตกลงถึงจุดต่ำสุดเมื่อไร มันมักจะพุ่งขึ้นแรงเสมอ กราฟชีวิตก็เช่นกัน!….

5. “หนังสือที่เปลี่ยนชีวิตเรามักเป็นหนังสือที่เราไม่เคยคิดจะอ่าน”…..เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เริ่มต้นที่จะอ่านมันมากกว่า แต่คุณลองหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเล่น ๆ สักเล่มสิ หนังสืออะไรก็ได้ครับ แล้วคุณจะพบไอเดียแปลก ๆ จากหนังสือที่คุณไม่เคยอ่านเหล่านั้น…

หลังจากที่ผมพบเคล็ดลับข้อนี้ กลายเป็นว่าผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เวลาเดินห้างฯ ผมมักแวะเข้าไปหาหนังสือดี ๆ มาอ่านเสริมแนวคิดเป็นประจำ คุณลองดูสิครับ “อ่านหนังสือที่เราไม่คิดจะอ่าน ..คุณจะได้ไอเดียใหม่ ๆ ที่คุณไม่เคยคิดมาก่อน” และนั่นล่ะครับ…จะกลายเป็นแหล่งทำเงินให้กับคุณ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผมหวังว่าคุณผู้อ่านคงได้ไอเดียและแนวคิดดี ๆ จากผมไปบ้าง ไม่ต้องเต็มร้อยเปอร์เซ็นหรอกครับ แค่เศษเสี้ยวก็พอ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณต้องระลึกไว้เสมอก็คือว่า “คุณต้องเริ่มคิดและลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้” อย่าปล่อยให้สิ่งที่คุณอ่านมาทั้งหมดมันเป็นแค่อากาศ คุณสามารถเปลี่ยนมันเป็น “โอกาส” ได้จากการลงมือทำครับ……..

เรียบเรียงจากประสบการณ์ตรงโดย……ศิริพงษ์ http://iamsiripong.com

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คุณ ศิริพงษ์ http://iamsiripong.com