10 วินัยการเงิน ที่ต้องทำให้ได้ ก่อนอายุ 30 ถ้าอยากมีเงินใช้ ไม่ขาดมือ

10 วินัยการเงิน ที่ต้องทำให้ได้ ก่อนอายุ 30 ถ้าอยากมีเงินใช้ ไม่ขาดมือ!

10 วินัยการเงินที่คุณต้องมี ถ้าอยากให้ชีวิตมีความมั่นคงตั้งแต่อายุย่างเข้าเลข 3 และถ้าคุณคิดว่าวิธีเก็บเงินเพียงอย่างเดียวจะเพียงพอที่จะทำให้คุณเป็นเศรษฐีแล้วละก็ คุณคิดผิด !

1. ใช้หนี้ให้หมด

หนี้ ในที่นี้หมายรวมถึงหนี้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น หนี้ กยศ. หนี้บัตรเครดิต หนี้รถ หนี้บ้าน หรือแม้แต่หนี้ที่ไปยืมเพื่อนมาก็ควรจะต้องรีบไปเคลียร์ซะให้หมดก่อนอายุ 30 เพราะอย่าลืมว่า ยิ่งเป็นหนี้นาน ดอกเบี้ยยิ่งเบ่งบาน คุณลองคิดดูว่าถ้าคุณปล่อยให้ตัวเองเป็นหนี้จนถึงอายุ 30 หนี้จำนวนเล็กน้อยจะกลายเป็นหนี้ก้อนโตขนาดไหน

2. ทำรายรับรายจ่าย

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนทางการเงิน ถามว่าเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนทางการเงินอย่างไร ตอบได้เลยทันทีว่าเมื่อใดก็ตามที่คุณใช้จ่ายเงินโดยไม่ได้แบ่งสรรปันส่วนหรือกะเกณฑ์ว่าในแต่ละวันจะต้องใช้เท่าไร หรือใช้ไปแล้วเท่าไร เมื่อนั้นจะทำให้เงินในกระเป๋าหายไปโดยไม่รู้ตัว คุณจะใช้เงินมันมือเป็นอย่างมาก แต่ถ้าคุณทำบัญชีรายรับรายจ่ายแล้วละก็ มันจะทำให้คุณทราบทันทีว่าวันนี้คุณใช้เงินไปมากน้อยเท่าไร และพรุ่งนี้ควรใช้เท่าไรเพื่อให้เพียงพอตลอดทั้งเดือน

3. อย่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย

ก่อนจะใช้จ่ายอะไรก็แล้วแต่ ให้ถามตัวเอง 1 คำถาม คือ “จำเป็นไหม” ถ้าคำตอบที่ได้คือคุณลังเล นั่นเข้าข่ายว่าความจำเป็นยังไม่ถึงขั้นสุด ถามว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น ดูจากอะไร ยกตัวอย่างเช่น ให้คุณลองจินตนาการดูว่า ถ้าไม่ได้กินสิ่งนี้จะสามารถอิ่มได้ไหม เช่น วันนี้เงินเหลือ 400 บาท ใจนึกอยากกินบุฟเฟ่ต์ราคา 350 บาท (รวม VAT แล้ว) ถามว่าถ้าเปลี่ยนเป็นข้าวแกงจานละ 40 บาท ได้กับข้าว 3 อย่าง จะอิ่มเหมือนกันไหม

ถ้าคำตอบของคุณคืออิ่มเหมือนกัน นั่นก็แปลว่าบุฟเฟ่ต์ราคา 350 บาทไม่ใช่สิ่งจำเป็นมากหรือจำเป็นที่สุด ซึ่งถ้าคุณกินข้าวแกงคุณจะมีเงินเหลือตั้ง 360 บาท ต่างกันถ้าคุณกินบุฟเฟ่ต์คุณจะเหลือเงินแค่ 50 บาท ถามต่อว่าวันต่อไปจะใช้ยังไงให้พอ แล้วแผนการที่จะเก็บเงินก็พับเก็บไปได้เลย จำไว้เสมอว่าคุณต้องมีวินัยการคลังให้มาก เพื่อชีวิตที่สบายในวัย 30 !

4. วางแผนความก้าวหน้าในอาชีพการงาน

ถ้าคุณทำงานดี เจ้านายรักเจ้านายเมตตา ก็จะมีการเลื่อนขั้นหรือขึ้นเงินเดือนให้ แน่นอนว่าถ้าคุณทำผลงานได้ดีอย่างสม่ำเสมอ อาชีพการงานของคุณก็จะยิ่งเจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่าเมื่อเงินเดือนคุณเพิ่มขึ้นก็ย่อมมีอิสรภาพทางการเงินเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่วินัยการใช้เงิน ไม่แนะนำให้คุณหลงระเริงไปกับเงินทองที่ได้เพิ่มขึ้นมา แต่อยากจะให้มองมันเป็นโอกาสในการที่คุณจะได้เงินเก็บเพิ่มขึ้น ใช้หนี้หมดไวขึ้น ได้เงินไปลงทุนเพิ่มมากขึ้น

นี่มันโอกาสก้าวหน้าชัด ๆ ดังนั้นก่อนที่จะมโนภาพตัวเองได้ขึ้นเงินเดือน ลองวาดแผนการเติบโตในสายงานที่ตัวเองทำดูก่อน แล้วลองจัดสรรรายได้เป็นส่วน ๆ อย่างคร่าว ๆ รับรองว่าคุณจะเห็นภาพแน่นอนว่าชีวิตการงานและการเงินจะไปในทิศทางใด และจุดใดที่เรียกได้ว่าชีวิตประสบความสำเร็จแล้ว

5. เลิกซื้อของฟุ่มเฟือย

ของฟุ่มเฟือยในที่นี้ได้แก่ สิ่งของจำพวกกระเป๋าแบรนด์เนม, เสื้อผ้าแบรนด์เนม, น้ำหอมราคาแพง, เครื่องสำอางราคาแพงมาก, กาแฟแก้วละร้อยกว่าบาท หรือการกินอาหารมื้อละหลายร้อยหลายพัน คุณรู้หรือไม่ว่าการใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งของหรู ๆ ราคาแพง ๆ นั้นเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ และการเสียเงินไปกับสิ่งของพวกนี้แหละที่จะทำให้คุณไม่มีวันรวย

6. จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ให้ตรงเวลา

ข้อนี้เหมือนจะไม่สำคัญแต่สำคัญมาก เพราะถ้าคุณเป็นคนที่ไม่มีวินัยและไม่เคารพการตรงต่อเวลา สิ่งนี้จะสร้างภาพลักษณ์ในด้านลบให้กับคุณ เพราะขนาดแค่ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์คุณยังจ่ายตรงเวลาไม่ได้เลย แล้วจะไปหวังความตรงต่อเวลาได้จากเรื่องอะไร เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้ามันพอกพูนมันก็มากได้ ดังนั้นแปะบิลต่าง ๆ ไว้ในที่ที่ง่ายต่อการมองเห็น พอถึงวันครบกำหนดจ่ายก็ไปจ่าย หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้นจ่ายก่อนก็ดีนะ

7. กันเงินไว้บ้างเผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน คำกล่าวนี้จริงยิ่งกว่าจริง สมมติวันหนึ่งคุณเผลอไปกินกาแฟที่เจ้านายชงไว้ เจ้านายโมโหมากไล่คุณออก คุณลองคิดดูว่าถ้าทั้งชีวิตการทำงานไม่มีเงินเก็บเลยสักบาท คุณจะทำอย่างไร หันหน้าพึ่งพ่อแม่ ? ไม่เอาน่า คุณโตแล้วให้ท่านได้ใช้เงินที่่ท่านหามาเถอะ งั้นตัวเลือกก็ไม่มากแล้วสิ จะไปหางานพาร์ทไทม์ทำระหว่างรองานประจำก็เวิร์กดีนะ

แต่ ! ถ้าโชคชะตาเล่นตลกกับเราล่ะ สมมติอยู่ดี ๆ วันหนึ่งในขณะนั้นคุณตกงานอยู่ เดิน ๆ ไปตกท่อ เกิดขาหักขึ้นมา โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดเป็นโรงพยาบาลเอกชน (อะไรมันจะไปซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนั้น) คุณจะทำอย่างไร ถ้าไม่มีเงินเก็บมาไว้เป็นค่ารักษาพยาบาล เพราะฉะนั้นออมเงินไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินบ้างเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระของเพื่อนฝูง

8. เก็บเงินซื้อบ้าน

หลายคนอาจสงสัยว่า อายุ 20 กว่า ๆ เด็กไปไหมที่จะคิดเรื่องซื้อบ้าน ถ้าสงสัยให้ย้อนกลับไปอ่านที่ชื่อบทความอีกครั้งนะครับ ถ้าคิดแบบธรรมดาก็ไม่ใช่แนวคิดแบบเท่ ๆ สิ คนเรามีอายุเฉลี่ยแค่ 70-80 ปีเท่านั้น ลองคิดดูว่าคุณต้องเสียเวลาในชีวิตไปอีกเท่าไรกว่าจะมีบ้านมีรถพร้อมเสียที 35 ? 40 ? ถ้าคุณปฏิบัติตามข้อ 1-7 อย่างเคร่งครัดแล้วละก็ บอกเลยบ้านก็บ้านเถอะ ต่อให้เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากกว่าบ้านก็ซื้อได้ถ้าวินัยการคลังดี รู้จักบริหารสินทรัพย์ให้งอกเงยอยู่เสมอ

9. นำเงินไปลงทุน

เงินทองเก็บไว้ปลวกมันก็ไม่กินหรอก คำกล่าวนี้จริงครับ แต่ไม่จริงทั้งหมด ปลวกไม่กินแปลว่าไม่ลดถูกไหม แต่ทำยังไงเมื่อใจมันอยากได้เพิ่ม คำตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ เลยครับ “ลงทุน” จะกองทุน หุ้น พันธบัตร หรือจะเอาไปทำธุรกิจเล็ก ๆ ก็ไม่ว่ากัน ขอแค่คุณศึกษาแนวทางการลงทุนที่ถูกต้องและต้องยอมรับความเสี่ยงของการลงทุนให้ได้ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงทั้งหมด และจะบริหารความเสี่ยงอย่างไรให้เกิดประโยชน์อันนี้ก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคลครับ การนำเงินไปลงทุนดีกว่าให้เงินอยู่เฉย ๆ โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด จริงแท้แน่นอนครับ

10. ประหยัดวันนี้เพื่อชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ

ความชราไม่เคยปรานีใคร ทุกคนเกิดมายังไงก็ต้องถึงวัยเกษียณ พอถึงวันนั้นเรี่ยวแรงที่เคยมีมันก็ค่อย ๆ หายไปทีละเล็กทีละน้อย จะให้ไปลุยทำนั่นทำนี่เหมือนสมัยหนุ่ม ๆ สาว ๆ คงไม่ไหว หลายคนเลยอยากพัก ใช่ครับ…พัก ! การพักผ่อนอยู่บ้าน ได้ชมนกชมไม้ ทำไร่ทำสวนเล็ก ๆ น้อย ๆ ถือเป็นความสุขของคนวัยเกษียณครับ

แต่ใช่ว่าชีวิตนี้พอเกษียณปุ๊บ จะสต็อปการใช้เงินไปเลยก็ไม่ใช่ โลกทุนนิยมทุกวันนี้บีบให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกตีค่าออกมาเป็นเงินทั้งนั้นครับ ดังนั้นถ้าอยากมีเงินใช้ในวัยเกษียณก็เริ่มตั้งแต่อายุ 20 เลย เก็บทีละน้อยก็ได้ รับรองได้เลยว่าคุณจะมีเงินใช้สบายไปตลอดทั้งชาติเลยล่ะ

10 วิธีนี้เป็นเพียงคำแนะนำคร่าว ๆ สำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จก่อนอายุ 30 เพราะยุคนี้สมัยนี้คนประสบความสำเร็จกันไวมาก ส่วนหนึ่งมาจากแนวคิดหัวก้าวหน้า แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวจะไม่ได้ผลเลยถ้าหากปราศจากการลงมือปฏิบัติที่ถูกต้องและเหมาะสม

ไม่ใช่ว่าเอา 10 วิธีนี้ไปปฏิบัติดื้อ ๆ ไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือพลิกแพลงเลยมันก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ ฉะนั้นรู้วิธีใช้เงินแล้วควรรู้จักวิธีพัฒนาตนเองด้วย อย่าลืมว่าโลกทุกวันนี้การแข่งขันสูงมาก ผู้ชนะคือคนที่พร้อมเสมอ ขอให้โชคดีกันทุกคน

ขอขอบคุณข้อมูล : Kapook.com