เด็กจบใหม่ “เงินเดือนไม่พอใช้” เชิญฟังทางนี้ !!!
สวัสดีมนุษย์เงินเดือนทุกท่าน!!! วันนี้เรามีเทคนิคการควบคุมค่าใช่จ่ายของเด็กจบใหม่ จากสมาชิกหมายเลข 2445086 Pantip.com มาฝากกัน โดยเจ้าของกระทู้มีเจตนาที่ต้องการแชร์ประสบการณ์ไว้เป็นกรณีศึกษา สำหรับคนที่สนใจเริ่มต้นออมเงิน พร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะ
เงินเดือนออก จัดการแบ่งเพื่อใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้
- ส่งกลับบ้าน (พ่อแม่ต้องมาก่อน) 4000 บ.
- ค่าห้อง+น้ำไฟ 2500 บ.
- ค่าอาหาร 2500 บ.
- ค่าของใช้อื่นๆ 500 บ.
- ค่าโทรศัพท์ + ค่าเน็ต 500 บ.
- ค่ารถ (เดินไปทำงาน) – บ.
- ค่าสังสรรค์ (ไม่ดื่มเหล้า/ไม่สูบบุหรี่) – บ.
- ค่ายารักษาโรค – บ.
- รางวัลชีวิต (ตามความเหมาะสม ในอัตราที่ไม่กระทบเงินออม และรายจ่าย)
1.ส่งกลับบ้านทันที 4000 บาท พ่อกับแม่ ก็มีรายได้จากการรับจ้าง ก็พอค่าใช้จ่ายประจำวัน ก็ไม่ได้เดือดร้อนครับ แต่ผมอยากให้เป็นรางวัลคนเก่งของลูกทุกๆเดือน ผมคุยกับแม่ และตกลงกันว่า จะส่งให้ทุกเดือนๆละ 4000 บาท ก็แล้วแต่แม่จะเอาไปทำอะไรก็ได้
2. จ่ายค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมแล้ว 2500 บาท ทันทีที่เงินเดือนออก ผมจะกดออกมาจ่ายค่าห้องทันที (กลัวลืมจ่าย เดี๋ยวเสียค่าปรับ )
-ค่าห้อง 1900 บาท
ห้องเปล่า มีพัดลม 1 ตัว ห้องน้ำในตัว สะอาดสะอ้าน พื้นกระเบื้อง ทุกอย่างโอเคครับ (แถวนี้ถือว่าค่าห้องถูก แต่ดีครับ) ส่วนเฟอร์นิเจอร์ ก็ขนมาเองครับ มีทีวี ตู้เย็น พัดลม ชั้นวางของทำเองจากไม้อัด(สมัยเรียนผมเคยทำขายให้นักศึกษาครับ) ฯลฯ
– ค่าน้ำ 160 บาท
อาบน้ำวันละ 2-3 รอบ ต่อวัน (ก่อนไปทำงาน /เลิกงาน / เย็น) ซักผ้าเอง (ไม่ซักเครื่อง)
– ค่าไฟ 350 บาท
มีตู้เย็น ทีวี(เปิดทุกวัน) โทรศัพท์ชาร์จแบตที่โรงงาน 5555+
***หอพัก ใช้ระบบคีย์การ์ด มียามเฝ้า 24 ชม. มีกล้องวงจรปิด ระบบความปลอดภัยถือว่าโอเคครับ
(ประมาณนี้ทุกเดือนครับ ไม่เกิน 2500 ตลอด 1 ปี)
3. ค่าอาหาร 2500 บาท
มื้อเช้า ผมทานที่ โรงอาหารของโรงงาน จานละ 15 บาท (ได้เยอะครับ ราคาสวัสดิการ พนง.) ส่วนกลางวันกลับมากินที่ห้อง และมื้อเย็นก็กินที่ห้อง
ผมทำกับข้าวกินเองครับ หุงข้าวทุกวัน จ่ายตลาดซื้อของมาตุนไว้ในตู้เย็น อยู่คนเดียวเลยชอบทำอาหารครับ อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้าง กินคนเดียวจะแคร์ทำไม กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็กินเหมือนเดิม 555+
สรุป 1 วัน ผมใช้เงินเฉลี่ย ไม่ถึง 100 บาท ผมทำงานโรงงานอาหาร ซึ่งเป็นปกติที่จะมีสินค้าไม่ได้ spec. ก็ถูกคัดออกมาขายเป็นสินค้าเกรด B หน้าโรงงาน ผมก็จะซื้อมาไว้กินครับ
ทำให้ผมประหยัดไปได้เยอะมาก เพราะราคาถูกมากแต่ของดีมีคุณภาพครับ
4.ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 500 บาท
ค่าสบู่ ยาสีฟัน ผงซักผ้า แป้ง ครีม ฯลฯ ของใช้ต่างๆ เหล่านี้ ผมจะซื้อมาไว้ในปริมาณมาก เพราะสามารถใช้ได้นาน และคุ้มค่ากว่า เพราะยังไงก็เป็นของใช้ที่เราใช้เป็นประจำอยู่แล้ว
5.ค่าโทรศัพท์ ค่าเน็ต 500 บาท ผมสมัครเน็ตรายเดือนๆละ 299 บาท และเน้นโทรเฟซฟรีครับ (ประหยัดดี สัญญาณชัด)
6. ค่าเดินทาง ไม่มี
ผมเช่าห้องพักใกล้กลับ โรงงาน เพื่อที่จะเดินไปทำงานได้ ห่างจากโรงงานประมาณ 400 เมตร ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ผมตั้งใจที่จะเดินครับ เพราะว่า ต้องการออกกำลังกายไปด้วย 555+ **สำหรับการเดินทางไปที่อื่นๆ ผมขึ้นรถสองแถวครับ 7บาทตลอดสาย
7. ค่าเหล้า/ บุหรี่ /การพนัน หวย (ไม่มีครับ)
ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นหวย ไม่เล่นการพนัน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เลยไม่มีครับ (ประหยัดได้เยอะ) นานๆที จะซื้อน้ำอัดลมมากินบ้างครับ (รักสุขภาพ)
8. ค่ายา ไม่มีครับ ใช้สวัสดิการพนักงานครับ มีพยาบาลประจำโรงงาน และมีพยาบาลวิชาชีพส่วนตัวครับ และส่วนตัวไม่ค่อยเจ็บป่วยครับ 555+
9. ไม่เคยลืมเรื่องรางวัล ให้ตัวเองครับ รางวัลชีวิต ก็ตามความเหมาะสมครับ
****ที่กล่าวมาทั้งหมด ผมใช้ชีวิตตามปกตินะครับ ไม่ได้รัดเข็มขัดจนเกินไป เพราะวิถีการใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมกินอิ่ม ผมนอนหลับสบาย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมสัดส่วนตามมาตรฐานชายไทย 5555+ ผมเคยใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่เด็กครับ กินง่าย อยู่ง่าย
*ผมจะไม่สบายจนเกินไป ถ้า พ่อกับแม่ยังลำบากอยู่* !!!!
ปล.หลายคนสงสัยเรื่อง กยศ. คือผมแบ่งจ่ายไว้ในเงินลงทุนครับ ผมวางแผนชำระ 10 ปี และคำนวณออกมาเป็นรายเดือน ผมเก็บไว้ในรูปแบบการลงทุนทุกเดือน และลงทุนทิ้งไว้สัก 10 ปี ส่วนเงินที่จะใช้ชำระคือ เงินโบนัสสิ้นปีครับ (ผมจ่ายทุกเดือนมกราคมของทุกปี โบนัสออก จ่ายทันทีครับ)
ส่วนที่เหลือ ก็นำไปลงทุนกองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมหุ้น จะเห็นได้ว่า
เงินเดือน (13000)-ค่าใช้จ่าย(4000-2500-2500-500-500)= เงินเก็บ (3000) +OT
จขกท.มีเงินเก็บแต่ละเดือนประมาณ 7000-10000 บ.
และนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมทุกเดือน เพื่อให้เงินงอกเงย ปัจจุบัน ทำงานครบ 1 ปีแล้วครับ มีเงินเก็บในกองทุนรวมมากกว่า 1 แสนบาทแล้วครับ และลงทุนไปเรื่อยๆทุกเดือนครับ วางแผนถือยาวๆ 5-10 ปี
**ก่อนลงทุนควรมีเงินออมฉุกเฉินสำรองไว้ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือนนะครับ
ผมเชื่อว่า…ถึงแม้ว่า เราจะจบใหม่ เพิ่งเริ่มทำงาน แต่เราก็สามารถมีเงินเก็บได้ “ถ้ามีวินัย” ดี มีประโยชน์ อันไหนจำเป็น หรือแค่ความต้องการของเราเท่านั้น !!! ทิ้งท้าย กับ ข้อคิดในการใช้เงิน ของ David Bach โค้ชการเงินระดับโลก
1. ใช้เงินเกินกว่าที่หามาได้ ชอบหยิบยืมคนอื่น
คำทำนาย : เป็นคนที่มีหนี้สินตลอดชีวิต
2. ใช้จ่ายเท่ากับที่หามาได้ จะออมก็ออมไม่ได้
คำทำนาย : เป็นคนจน
3. ใช้จ่ายเท่าที่หามาได้ หัก 5% เป็นเงินออม
คำทำนาย : เป็นคนชั้นกลาง
4. ใช้น้อยกว่าที่หามาได้ หัก 20% เป็นเงินออม
คำทำนาย : เป็นคนรวย
5. ใช้น้อยกว่าที่หามาได้ หัก 50% เป็นเงินออมและลงทุน
คำทำนาย : เป็นเศรษฐีเงินล้าน
กระทู้นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นแนวทางในการบริหารเงินเดือนที่มีจำกัด และใช้ชีวิตอย่างลงตัวได้ รู้จักวางแผนการเงิน มีน้อยต้องใช้น้อย ถ้ารายจ่ายมากกว่ารายได้ ก็ต้องเพิ่มช่องทางของรายได้ให้มากขึ้น และรู้จักการลงทุนเพื่อให้เงินทำงานแทนเรา
มีคนกล่าวไว้ว่า
การลงทุน ย่อมมีความเสี่ยง แต่ ความเสี่ยงที่น่ากลัว คือการไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย !!!!
ความเสี่ยง จะลดลงเมื่อเรามีความรู้ในสิ่งที่ทำมากขึ้น,
หวังว่า กระทู้นี้คงเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังวางแปนการเงินอยู่ และคนที่กำลังจะเริ่มต้นออมเงิน
ขอขอคุณข้อมูลจาก : สมาชิกหมายเลข 2445086 Pantip.com
สนใจลงโฆษณากับทาง Homenayoo ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวันเฉลิม 086-1290293
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ
แสดงความคิดเห็น