วิธีคืนชีพให้จอ Samsung 932B plus (หรือ B+ ตามที่ชาวโลกกล่าวขาน)…คือมันสร้างปัญหาไปทั่วโลกเลย – –
ดังหัวข้อที่พูดไปครับ ผมนึกว่าเป็นคนเดียวที่ซวยสุดในโลก
ขอย้อนเวลากลับไปเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน เรียกได้ว่าเป็นยุคเริ่มของ LCD ที่กำลังมาแทนจอตูดโด่ง CRT
ผมได้ซื้อเจ้า 932B+ ใหม่ๆ ด้วยราคา 8,990.- ซึ่งเทียบกับสมัยนี้ถือว่าแพงมากกก !
เป็นแค่จอ 18.5″ ที่ยังกินไฟมหาโหด……แต่ก็น้อยกว่าจอแก้วล่ะนะ
และเมื่อใช้ไปได้ไม่นาน…..มันก็พัง
เฮ๊ยย !!
อาการคือเปิดภาพไม่ติด แต่มีไฟขึ้นที่สวิตช์ปกติ ทั้งที่ไม่ได้เปิดทุกวัน ไม่ใช่ร้านเกม งงสิครับ
ยังดีที่มีประกัน 3 ปี เลยไปเคลมซะ
ครั้งแรกรอ 3 วัน เอามาใช้ไม่ถึงอาทิตย์ พังอีก
รอเวลาว่าง ยกไปเคลม
เอากลับมาใช้ได้เดือนนึง…พังอีก…
ก็รอว่างอีกที เอาไปเคลม รออีก 3 วัน ระหว่างนั้นใช้จอแก้วอันเดิมเล็กๆ ไปก่อน
เอากลับมาใช้อีกอาทิตย์นึง…มันก็พังอีก…
คราวนี้รอบที่ 4 เริ่มไม่ไหวละ แต่ละรอบต้องรอเวลาว่างที่จะไปเพราะสาขาอยู่ไกลบ้าน
รอบนี้พนักงานเริ่มจำหน้าได้ เลยสามารถรอรับเครื่องกลับได้เลย (จริงๆ มันก็เปลี่ยนไม่นานนะ แล้วจะให้รออะไร ?)
ok เคลมรอบนี้ใช้ได้จนหมดประกัน (ส่วนมากไม่ได้เปิดนั่นแหละ) พอพ้นประกันปั๊บ…ก็พังอีก…
ผมเลยวางทิ้งไว้จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านไป 7 ปี มีอะไรมากมายเข้ามาในชีวิต
ทั้งย้ายบ้าน เปลี่ยนที่ทำงาน เปลี่ยนรถ เปลี่ยนกล้อง ซื้อตู้เย็น ส่วนแฟนเปลี่ยนไม่ได้เดี๋ยวโดนตบ T T
จะทิ้งจอก็ทำไม่ลง เพราะซื้อมาแพง…
แน่นอนว่า 7 ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้ไม่ได้ใช้คอมเครื่องนี้ด้วย (Samsung……ไอ้เลว 5555)
เนื่องจากทิ้งจอแก้วไปพร้อมกับทีวีโบราณ
ฝากชีวิตไว้แต่กับไอ B+ เนี่ย – –
จนเมื่อไม่นานมานี้ ไม่รู้อะไรเข้าสิงผมให้ Search ชื่อจอ
ปรากฎว่าเจอวิธีซ่อมขึ้นมาเพียบ ทั้งไทย ทั้งนอก ไปยันรัสเซียย
หลังจากที่ผมนั่งดูจนครบ ก็สรุปใจความได้ว่าเป็นที่ Capacitor ไม่กี่ตัว
แต่ก็แอบลุ้นเพราะบางเว็บในบ้านเราบอกว่า เปลี่ยนแล้วไม่หาย ดันไปพังที่หม้อแปลงอีก
บางคนบอกเจอช่างเหมา 600-900 เห็นตัวเลขแล้ว
อ่านไปก็เท่านั้น ผมเลยเริ่มลงมือ โดยขั้นแรกหาข้อมูลก่อนตามนี้ http://pantip.com/topic/34793215
และ http://pantip.com/topic/34813798
(งานนี้ต้องขอบคุณ อ.วรเทพ ที่ช่วยชีวิตผมไว้ตั้งแต่ในเว็บ umb โดยผมเข้าไปแบบมึนๆ เพื่อซ่อมของบางอย่างในบ้าน ก็ได้ อ.นี่แหละครับที่อยู่เป็นเพื่อนจนจบงานได้…รวมถึงขอบคุณท่านอื่นด้วย)
8. ไปซื้อของมา ซื้อมาเผื่อก็ดีหากเจอร้านที่รับราคาได้
9. เริ่มที่ตัวแรก 820 uf 25 v. ค่าตรงของเดิมเป๊ะ
10. แต่แปลกใจที่ 1000 uf 10 v. ค่าตรง…..แต่ทรงเตี้ยค่อมกว่าเยอะ ?
11. ส่วนพวกจิ๋วๆ ได้ของ ELNA มา ดูดีมีชาติตระกูลมาก เสียดายที่ไม่มีขนาดของตัวใหญ่…..และเสียดายที่ไม่ได้ใช้ เพราะของเก่าไม่บวม
12. ซื้อตัวนี้มาเผื่อด้วย แต่ก็งงว่าทำไมขนาดต่างกันมาก รหัสก็ไม่ตรง (แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยน เพราะคิดว่าไม่เสีย)
13. งานนี้ผมเปลี่ยนแค่ 820 และ 1000 uf ตัวปัญหา ผลออกมาคือจอกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมแล้ว
14. แต่ก็เกิดปัญหาใหม่คือ ขอบจอเป็น White Pixel ยังกะอยู่ขั้วโลก หนาวน้ำแข็งเกาะ….เกิดอะไรขึ้น และซ่อมได้ไหมครับ ???
15. รวมค่าอุปกรณ์ทั้งหมด มันไปหนักอยู่ที่ไอแผ่นกลมสีฟ้านั่นแหละ แถมไม่ได้ใช้อีกตะหาก
[รูปนี้ถ้าทำให้พี่ๆ ช่างเสียหายด้านราคาแจ้งผมลบได้นะ] เข้าใจอยู่ว่าจะได้ราคานี้ต้องเสียค่าเดินทางและเวลาไปซื้อ
หรือบางท่านซื้อร้านแถวบ้านก็จะไม่ใช่ราคานี้ครับ…แต่ถ้าไม่มีใครแจ้งผมก็ขอโชว์ไว้
งานนี้ผมสรุปได้ว่า :
จอรุ่นนี้ถือว่าออกแบบได้ดีพอสมควรครับ ทั้งการประกอบ ความทนทาน ส่วนอื่นๆ ใช้ได้เกิน 10 ปี
แต่เหมือนคนออกแบบ กับคนเลือกใช้วัสดุจะไม่ลงรอยกัน 555555
เป็นเหตุให้ Samsung มาตกม้าตายที่ C ห่วยกากได้ขนาดนี้
และปัญหานี้ “เป็นไปทั่วโลก” ดังที่ผมกล่าว !!??
หรือจริงๆ แล้วอาจมี 2 ประเด็นที่เป็นไปได้ คือ
1. Samsung เปิดประมูลหาผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ป้อนเข้าโรงงาน ใครถูกสุดก็ได้งานไป
(เหมือนเปิดซองประมูลตามบริษัททั่วไป ที่เน้นของถูกมาสู้ราคากัน)
2. Samsung ตั้งใจวางยา ใช้แล้วทิ้ง หรือถ้าซ่อมก็ฟันค่าอะไหล่…ที่ไม่มีวันจะหาย เพราะมันใช้ C ล๊อตนี้ ฮ่าๆๆๆ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ; สมาชิกหมายเลข 811397 Pantip.com