บทเรียนจาก Google – มันเป็นเรื่องง่ายที่จะประสบความสำเร็จเมื่องานของคุณกับวิชาที่คุณเรียนจบมาไม่ตรงกัน

บทเรียนจาก Google – มันเป็นเรื่องง่ายที่จะประสบความสำเร็จเมื่องานของคุณกับวิชาที่คุณเรียนจบมาไม่ตรงกัน

บทเรียนจากกูเกิล – มันเป็นเรื่องง่ายที่จะประสบความสำเร็จเมื่องานของคุณกับวิชาที่คุณเรียนจบมาไม่ตรงกัน
จากการศึกษาของ CareerBuilder พบว่านักศึกษาจบใหม่ร้อยละ 54 บอกว่างานที่ทำอยู่ไม่ตรงกับสาขาที่พวกเขาได้เล่าเรียนในมหาวิทยาลัย สำหรับนักศึกษาที่พึ่งเรียนจบใหม่ๆ โอกาสที่จะได้งานทำตรงกับสาขาที่เรียนมานั้นริบหรี่มาก

แต่พวกเขาประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ เมื่อทำงานคนละอย่างกับที่เรียนมา และนี่ก็คือประสบการณ์ที่ผู้บริหารของกูเกิลและ TOPICAกำลังนำมาใช้

ทำงานต่างจากสาขาที่เรียนมา – กูเกิลประสบความสำเร็จได้อย่างไร
ในยุคที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเร่งตัวเร็วขึ้น วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จคือต้องดึงดูดคนเก่งที่มีความคิดริเริ่มเข้ามาร่วมงาน และเอื้อสิ่งแวดล้อมให้พวกเขาสามารถเติบโตก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

นี่คือความเห็นของ Eric Schmidt และ Jonathan Rosenberg ที่กล่าวไว้ในหนังสือ “How Google Works” ในหนังสือเล่มนี้ทั้งสองชี้ให้เห็นสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ถึงวิธีการที่ทำให้กูเกิลติดอันดับ
แบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

Jonathan Rosenberg อดีตรองประธานอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ของกูเกิลกล่าวว่า “เหตุผลหลักก็คือเมื่อคุณอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีพลวัตสูงซึ่งเงื่อนไขต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ฉะนั้นประสบการณ์และสิ่งต่างๆ ที่คุณเคยทำมาก่อนก็แทบจะไม่มีความสำคัญเท่ากับความสามารถในการคิดของคุณ

ด้วยเหตุนี้คนที่มีมนต์ดึงดูดเราก็คือคนที่สามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่าง ไม่ใช่คนที่มีความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่ง คนที่มีความชำนาญเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมักมีอคติฝังลึกต่อปัญหา และมักจะรู้สึกว่าถูกขู่เข็ญถ้าต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่ๆ”

ในหนังสือยังกล่าวถึงความเห็นของ Laszlo Bock รองประธานอาวุโสของกูเกิลในทำนองเดียวกันด้วยว่า “ถ้าให้คนสองคนแก้ปัญหาเดียวกัน คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจะพูดว่า

“ฉันเจอปัญหานี้มาหลายครั้งแล้ว และนี่ก็คือวิธีแก้ปัญหาของเรา” ในขณะที่คนที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญก็สามารถหาทางแก้ปัญหาด้วยวิธีที่คล้ายๆ กันได้เพราะว่าปัญหาทางธุรกิจส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงมากนัก บางครั้งเขาก็แก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่ถอดด้ามเลย”

Jack Ma ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของอาลีบาบาเป็นตัวอย่างที่ดีตัวอย่างหนึ่ง เขาเรียนจบปริญญาตรีด้านภาษาอังกฤษในปี 1988 จากนั้นก็ทำงานเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษและการค้าระหว่างประเทศที่มหาวิทยา ลัยหางโจวเตี้ยนจื่อ

ไม่มีใครเชื่อว่าครูหนุ่มอย่างเขาจะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกคนหนึ่ง ด้วยความที่เขาชอบหมั่นศึกษาเรียนรู้ฝึกฝนและหาประสบการณ์ด้วยตนเอง เขาจึงประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่เรียนจบปริญญาทางธุรกิจเสียอีก

Jack Ma ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา

ประสบความสำเร็จจากบทเรียนของกูเกิล
ถึงแม้ว่าหลายบริษัทจะประเมินพนักงานจากปริญญาที่พวกเขาร่ำเรียนมา สตาร์ทอัพบางบริษัทก็เริ่มมีแนวโน้มที่จะรับสมัครพนักงานจากหลากหลายสาขา ความสำเร็จของกูเกิลสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เชื่อในวิถีทางของตนเอง TOPICA เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จซึ่งได้เรียนรู้จากบทเรียนของกูเกิล

ผู้ นำรุ่นใหม่ที่มีความสามารถมีโอกาสที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งระดับผู้จัดการใน บริษัทชั้นนำที่เป็นผู้ให้บริการด้านการศึกษาออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้ได้ด้วยการสมัครเข้าร่วมโครงการ “22 ซีอีโอแห่งอนาคต” ของกลุ่ม TOPICA EdTech

โครงการ “22 ซีอีโอ” ซึ่งออกแบบโดยกลุ่ม TOPICA Edtech กำลังจัดขึ้นในประเทศไทยและเวียดนาม เป็นโครงการระยะ 6 เดือน เพื่อสรรหาผู้สมัครที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำเข้ารับการฝึกอบรมและส่งเสริม

ให้ก้าวสู่ตำแหน่งระดับหัวหน้างานและผู้จัดการของบริษัท เป้าหมายสุดท้ายคือคัดเลือกผู้สมัครอย่างพิถีพิถันให้ได้ผู้ที่มีคุณสมบัติ โดดเด่นเป็นพิเศษ 6 คน

ซึ่งจะได้เรียนรู้การทำงานเป็นเวลา 6 เดือนในระดับหัวหน้างาน 3 ตำแหน่งใน 5 ประเทศคือสิงคโปร์ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เมื่อทำงาน 5 ปี ผู้สมัครจะได้รับข้อเสนอตำแหน่งซีอีโอหรือหัวหน้าฝ่ายในบางแผนกของบริษัท TOPICA

นี่เป็นโอกาสของคนหนุ่มสาวที่มีความกระตือรือล้น มีอายุ 24-30 ปี และไม่กลัวที่จะเผชิญกับความท้าทายเพื่อทำความฝันอันยิ่งใหญ่ให้เป็นจริง

ที่ TOPICA พนักงานจะได้รับค่าตอบแทนและวัฒนธรรมองค์กรที่ดี หนึ่งในคำขวัญของ TOPICA คือ “ผู้ชนะคือราชา ผู้แพ้คืออัศวิน” ซึ่งสนับสนุนให้ทุกคนยอมรับความท้าทาย

เรามีตำแหน่งว่างในระดับผู้ จัดการและผู้เชี่ยวชาญหลายตำแหน่ง อายุเฉลี่ยของผู้จัดการคือ 28 ปี และผู้นำที่อายุน้อยที่สุดคือ 23 ปี พนักงานจะมีโอกาสพัฒนาทักษะโดยเข้าร่วมการอบรมภายในของบริษัทอีกด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเรา……..

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : มติชนออนไลน์