รีวิว : การแต่งห้องนอนเด็กหลากสีสันสไตล์นอร์ดิก แบบฉบับผู้หญิงก็ทำได้!!
สวัสดีค่า วันนี้เราอยากมารีวิวการแต่งห้องนอนเด็กสไตล์นอร์ดิกค่ะ แต่เราไม่ได้ทำเอาไว้ให้ลูกนอนนะคะ (เพราะยังไม่มี ^^’) แต่ทำเอาไว้สำหรับให้คนมาถ่ายรูปค่ะ พูดง่าย ๆ คือตกแต่งห้องนี้สำหรับใช้เป็นสตูดิโอให้เช่าถ่ายรูปนั่นเองค่ะ
เพราะเราทำธุรกิจนี้อยู่แล้ว และห้องนี้เป็นห้องที่ 2 ของเราหลังจากเปิดห้องแรกไป 8 เดือน เราก็เริ่มขยับขยายค่ะ โดยกลุ่มเป้าหมายของห้องนี้คือเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายสินค้าของเด็ก หรือถ่ายรูปครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ประมาณนี้ค่ะ
อันนี้เป็นกระทู้ห้องก่อนหน้านี้ของเราค่ะ
*ขอออกตัวเรื่องสไตล์นอร์ดิกก่อนนิดนึงได้มั้ยคะ แอบกลัวดราม่าอ่ะ 555 จริง ๆ สไตล์นี้ส่วนใหญ่จะเป็นสีทึม ๆ ซะมากกว่า อาจจะเพราะประเทศของพวกเค้าเป็นประเทศหนาวก็ได้ค่ะ
แต่เรารู้สึกว่าถ้ามันเป็นห้องเด็ก ก็ควรจะมีสีสันสิ ก็เลยนำแนวทางการตกแต่งมาประยุกต์เอาค่ะ และเนื่องจากว่าของตกแต่งนอร์ดิก หรือสแกนดินั้นหายากมาก ๆ ในไทย ถึงหาได้ก็มีราคาสูงมาก
อุปสรรคตรงนี้อาจจะทำให้ห้องที่ตั้งใจว่าจะนอร์ดิก มันไม่นอร์ดิกอย่างตั้งใจ ตรงนี้ก็ต้องขอออกตัวไว้ก่อนค่ะ แต่เราเอาแบบการตกแต่งสไตล์นอร์ดิกเป็นตัวตั้งจริง ๆ นะคะ >__<
หลายท่านอาจจะบอกว่าซื้อจากอิเกียสิ อันนั้นน่ะของแท้เลยล่ะ ใช่ค่ะ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ก็อิเกียอยู่แล้วค่ะ ของตกแต่งเองก็อิเกียเยอะเหมือนกัน
แต่บางทีเราก็ไม่ได้อยากให้มันมีอิเกียเยอะไปนักในสตูดิโอ เพราะกลัวมันจะกลายเป็นโชว์รูมอิเกียไปแทนอ่ะค่ะ 555
เริ่มเรื่องนะคะ ^_^ ห้องที่เราทำอยู่ชั้น 4 โดยสตูดิโอห้องเดิมจะอยู่ชั้น 2 และทำออฟฟิศสำหรับขายของออนไลน์ที่ชั้น 3 ค่ะ
อันนี้สภาพห้องก่อนทำค่ะ ขนาดห้องคือ 4 x 8 เมตรค่ะ ถึงแม้ว่าห้องนี้กระจกจะไม่เต็มบานเหมือนชั้น 2 แต่มีดีตรงที่ว่ามีหน้าต่างอีกฝั่งนึงด้วย ทำให้มีแสงเข้ามาจากทั้ง 2 ทางเลยค่ะ
สำหรับขั้นตอนการทำอย่างละเอียด ไม่ได้ลงให้ดูค่ะ เพราะว่าพอดีมือถือเสีย ข้อมูลเลยหายหมด ต้องขอโทษด้วยค่ะ จะมีรูปหลงเหลือมาบางส่วนเท่านั้น เลยจะขออธิบายเป็นข้อความแล้วกันนะคะ
การปรับปรุงห้องจริง ๆ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ทาสี และปูพื้นกระเบื้องยาง ซึ่งงานพวกนี้เราก็ทำกันเองหมดค่ะ ไม่ได้จ้างช่าง เพราะต้องการเซฟเงิน
เราจะไม่รีวิวการปูพื้นกระเบื้องยางนะคะ เพราะเคยรีวิวไปแล้ว ถ้าท่านไหนสนใจสามารถดูได้ที่นี่ค่ะ
http://pantip.com/topic/34871086/comment1
จุดที่ยากของห้องนี้ ที่ทำให้เราเสียเวลาที่สุดคือเรื่องของ “สี” คือเลือกยากมาก เราหมดไปหลายพันกับเรื่องสีทาผนัง เพราะดูจากชาร์ตแล้วมันสวย
แต่พอเอามาทาจริง ๆ มันเข้มไป เราแก้สีเยอะมาก ทาทับประมาณ 3-4 รอบกว่าจะได้สีที่ต้องการ (วิธีแก้ของเราคือทาสีขาวทับแล้วลงสีใหม่ค่ะ)
จริง ๆ กำแพงสีเหลืองนั่นยังไม่ค่อยโอเคสำหรับเรา แต่ ณ ตอนนั้นคือมันไม่ไหวแล้วจริง ๆ ถึงกับร้องไห้เลย
แล้วเราลองใช้กล้องถ่ายออกมาดูแล้วมันก็ยังพอรับได้ ก็เลยปล่อยใช้สีเหลืองตามที่เห็นในภาพค่ะ
ปล. สำหรับโครงบ้านไม้ กับกล่องที่เป็นสี ๆ ทางด้านซ้ายนั่น ให้พ่อทำให้ค่ะ
รีวิวการลงสีที่ไม้ค่ะ ทั้งหมดนี่เราใช้สีน้ำมันในการทาค่ะ เพราะทั้งที่หาข้อมูลมา และคนขายต่างก็บอกว่าควรจะใช้สีน้ำมันในการทาไม้ เพราะมันจะติดทนกว่า แต่ก็ทายาก เหม็น เลอะเทอะกว่ามากค่ะ ซึ่งเป็นความจริงค่ะ
กล่องพวกนี้ในรอบแรกเราเป็นคนทาเองทั้งหมด ทาติดต่อกันประมาณ 2 วันเท่านั้น เรามีอาการปวดหัวอย่างหนัก
เราเลยหยุดไป ในส่วนของการทารอบ 2 เราเลยตัดสินใจจ้างช่างสีมาทา ทั้งหมดนี่ 1,500 บาทค่ะ แต่พอมาเช็คงานอีกที กลับไม่ค่อยเรียบร้อย เราเลยต้องทาเก็บงานอีกรอบนึงค่ะ เซ็งเลยทีเดียว T_T
อันนี้เป็นสีที่เราใช้งานค่ะ อันนี้ก็เสียเงินเป็นพันเหมือนกันกว่าจะได้สีที่ถูกใจ
กล่องรูปบ้านพวกนี้ก็ให้พ่อทำให้ค่ะ ดูแบบมาจากใน Pinterest แล้วก็เขียนแบบให้พ่อทำค่ะ ใช้ไม้สนเก่ามาทำค่ะ
อธิบายเพิ่มเติม
- งานสีน้ำมันเป็นงานที่เลอะมาก เราไม่ได้จับมือถือเลยตอนทำเลย เลยไม่มีภาพตอนขณะทำมาให้ดูนะคะ
- เราใช้น้ำมันสนผสมสีน้ำมันแทนทินเนอร์ค่ะ เพราะพนักงานแนะนำว่าจะแห้งไวกว่า และสีจะด้านด้วย ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของเรา เราไม่อยากให้ชิ้นงานเป็นมันเงา เพราะถ่ายรูปแล้วจะมีแสงสะท้อนค่ะ
มาถึงงานทาสีลิ้นชักของอิเกียบ้างค่ะ งานนี้เฝ้ารอมากๆ อยากทำที่สุดเลยค่ะ เราไปเจอแบบมาจากใน Pinterest แล้วชอบมากๆ จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้คะ
ก่อนอื่นประกอบให้เป็นรูปร่างก่อนค่ะ เพื่อที่จะได้รู้ว่าชิ้นไหนเป็นบานลิ้นชัก จะได้ไม่ทาผิดชิ้น เราให้แฟนประกอบให้ค่ะ ^_^
ก่อนทาให้หาอะไรมารองข้างใต้ก่อน เพื่อไม่ให้ไหลลงพื้น (จำจากช่างสีมา) ถ้าสังเกตดี ๆ จะมีช่องว่างระหว่างบานลิ้นชักกับพื้นค่ะ ทา 2 รอบนะคะ ให้รอบแรกแห้งก่อนแล้วทารอบ 2 ทับค่ะ
หลังจากนั้นก็มาทาสีที่มือจับค่ะ เราเอาน๊อตเจาะเข้าไปกับกระดาษลังเลยค่ะ ง่ายดี ทา 2 รอบเหมือนกันค่ะ
จากนั้นรอให้สีแห้งแล้วทำมาประกอบเข้าด้วยกันค่ะ
เสร็จแล้วก็จะได้แบบนี้ค่ะ ^___^
อันนี้เป็นสตูดิโอที่เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
ห้องนี้ไม่มีสรุปค่าใช้จ่ายนะคะ ไม่ได้จดเอาไว้เลย เพราะช่วงที่ทำยุ่งมาก เอาเข้าจริงควรจะเปิดให้บริการตั้งแต่กันยายนแล้ว
แต่พอดีว่าช่วงก่อนหน้านั้นติดเทศกาลวันแม่ หน้าร้านเสื้อเรายุ่งมากเลยไม่มีเวลามาดูสตูดิโอ พอมีเวลาอีกทีก็กลางเดือนสิงหาคมแล้ว แต่ดันติดปัญหานู่นนี่มากมายเลย
ห้องนี้ทำยากกว่าห้องแรกมาก ๆ เพราะของตกแต่งก็หายาก ต้องสั่ง (พ่อ) ทำด้วย ต้องทาสีเองด้วย พวกตุ๊กตา ของตกแต่งกระจุกกระจิกนี่ต้องสั่งจากต่างประเทศ รอของทีก็ 20-30 วัน
คือยากทุกอย่างเลย ยากตั้งแต่คุมโทนสีของห้อง จนมาถึงเลือกของตกแต่ง ช่วงแรก ๆ นี่สนุกมาก แต่หลัง ๆ เริ่มไม่ไหวแล้ว เหนื่อยกับการหาของ
แต่พอเสร็จก็ภูมิใจนะคะ หายเหนื่อย ^_^ แต่ถ้าจะให้ประเมินจริง ๆ คิดว่าแสนอัพค่ะ แพงค่าพื้น ค่าสีทาผนัง สีทากล่อง ประมาณนี้ค่ะ นอกนั้นก็ถัว ๆ กันไปค่ะ
ขอบคุณมากเลยค่ะที่อ่านมาถึงตรงนี้ หากมีคำถามสามารถถามทิ้งไว้ได้เลยนะคะ ถ้าตอบได้จะตอบค่ะ ^_^ อ้อขอแอบใส่สปอยด์ชื่อสตูดิโอไว้นิดนึงนะคะ สตูดิโอของเราชื่อ CUB Studio ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : คุณ HappyAries สมาชิก Pantip.com
สนใจลงโฆษณากับทาง Homenayoo ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวันเฉลิม 086-1290293
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ
แสดงความคิดเห็น