เมื่อความขัดแย้งในบ้าน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่
จากเมื่อวานที่รายการออนแอร์ EP2 ตอนที่นำเสนอเรื่องบ้านของผมไปแล้วคนที่รู้จักผมพากัน
ทั้งโทรทั้งไลน์หากันมาเยอะมากตอบไม่หวาดไหวไม่ไหว ก็เลยอยากจะมาเล่าในนี้บ้างครับ เห็นจากที่เห็นผ่านๆ ว่าเจ้าของเรื่องตอนแรกก็มาโพสต์บนกระทู้ ไอ้ผมเลยก็อยากจะลงอวดบ้าง 555
จะได้รู้ว่าผมรู้สึกไงกับการได้เป็นอีกหนึ่งผู้โชคดีในโครงการ Home makeover และรู้สึกไงกับการเปลี่ยนตึกแถวที่โคตรโทรมของครอบครัวผม
แต่ผมก็พิมพ์ไม่ค่อยเก่ง พูดเก่งมากกว่า 555 แต่ก็จะพยายามนะคับ
เอาละเข้าเรื่อง พื้นเพครอบครัวของผม เป็นครอบครัวคนจีนครับ อาศัยอยู่ในตึกแถวแห่งหนึ่ง ย่านตลาดสะพาน 2
มีป๊า มีม๊า เจ้ผึ้ง พี่สาวคนโต เฮียตี๋ใหญ่ พี่ชายคนกลาง แล้วก็ผมตี๋เล็ก
(ภาพนี้ถ่ายไว้ตอนตรุษจีนเลยมีญาติๆ ด้วยครับ)
ทำเลนี้ป๊ากับม๊าชอบ เพราะจะออกไปซื้อวัตถุดิบ เครื่องปรุงก็ง่าย จะเอาออกไปขายก็สะดวก
ตั้งแต่จำความได้เราก็เติบโตมากับสภาพบ้านแบบที่เห็นนี่แหละครับ ของเยอะๆ แน่นๆ เพราะที่บ้านเราขายบ๊ะจ่าง
ซึ่งการทำบ๊ะจ่างก็เป็นรายได้หลักที่เลี้ยงดูพวกเราทุกคนในครอบครัว แต่พวกอุปกรณ์ข้าวของในบ้านเรามันเยอะและแน่นไปหมด เวลาทำอะไรก็จะไม่ค่อยสะดวก
พอไม่มีที่ระบายกลิ่นก็จะอบอวลอยู่ในบ้านตลอดเวลา ทีนี้เวลาทำบ๊ะจ่างกันพวกเราก็เลยจำเป็นต้องออกมาทำหน้าบ้าน ถึงขนาดล้นออกมาริมถนนเลยทีเดียว
พวกเราเติบโต๊ะกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ก็จริง แต่พอผมเริ่มโตขึ้นความคิดของพวกเราพี่น้องแตกต่างกับพ่ออย่างชัดเจน
ว่าอยากให้ครอบครัวอยู่กันอย่างเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่านี้ แต่ป๊าที่ค่อนข้างที่มีความเห็นที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง
เพราะพ่อเลือกที่จะอยู่บ้านในสภาพแบบนี้ จะให้ย้ายหรือจะให้ขนของไปทิ้งยังไงก็ไม่ได้เด็ดขาด
เคยเถียงกันถึงขนาดบอกว่าจะย้ายก็ย้ายไปแต่ป๊าจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนแน่นอน
“ เราก็เลยอยู่ในบ้าน กับครอบครัว 5 คน ในบ้าน อายุ 36 ปี สภาพแบบนี้ ”
ป๊ากับม๊าผม เป็นคนบ้าสมบัติมาก ชอบเก็บทุกสิ่งอย่างไว้ในบ้าน ไม่ยอมทิ้ง..
เวลาค้นหรือรื้อของมาแต่ละครั้ง ก็ไม่น่าเชื่อครับว่ามีสมบัติที่เก็บมาตั้งแต่รุ่นอากงเลย
ตรงไหนมีพื้นที่ว่าง ตรงนั้นมักกลายเป็นห้องเก็บของ
บ้านเรากว้างนะครับ แต่พื้นที่ใช้สอยน้อยมากจริงๆ มีแต่ของวางเรียงรายตามทางเต็มไปหมด
ห้องครัว ที่ทั้งฝ้าและผนังแตกรั่ว แสงก็ไม่พอ แถมของยังเยอะและเหม็นอับมากๆอีกต่างหาก
ห้องน้ำที่ ทำให้ผมพะวงทุกครั้งเวลาออกไปทำงานนอกบ้าน มันทั้งเก่าทั้งลื่น ไม่มีที่จับ
ไม่เหมาะกับคนสูงอายุใช้เลย กลัวว่าวันนึง ถ้าป๊ากับม้าล้มในห้องน้ำพวกผมจะทำยังไง
แม้กระทั่งห้องนอนก็เช่นกัน ของส่วนตัวของแต่ละคนเต็มไปหมด
ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะทำงาน ใช้สอยเต็มพื้นที่สุดๆ
ส่วนบันได ที่แทบไม่มีที่จะเดิน
และทั้งหมดที่เห็นก็คือบ่อเกิดของความขัดแย้งขึ้นครับ ….
จากปัญหาแค่เรื่องพื้นที่หรือความรกทำให้ความขัดแย้งภายในครอบครัวของผมรุนแรงขึ้นครับ
เพราะป๊ากับม๊าไม่เคยจะโละของทิ้งเลย ตู้บางตู้ไม่ได้เปิดมาเป็นเวลาหลายปีก็ไม่ยอมโละ
แถมยังเก็บสะสมของที่คนนู้นคนนี้ให้ จนทำให้บ้านกลายเป็นสภาพอย่างที่เห็น ผมเอง ตี๋ใหญ่ และเจ๊ผึ้ง มีความเห็นที่ตรงกัน
คือ เราควร “ขาย” บ้านหลังนี้ แล้วไปซื้อบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอมากกว่านี้แต่ป๊า ไม่ยอมรับฟังความคิดของพวกเราเท่าไหร่ครับ
ป๊ามักจะบอกว่าพวกเรา ติดเว่อร์ ติดสบาย จะเคลียร์ของ ที่กองอยู่รกเต็มบ้าน ป๊าก็ไม่ยอม หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะไม่ทิ้ง ป๊าเคยพูดถึงกระทั่งว่า
“ถ้ามีปัญญาอยากจะไปอยู่ที่ไหนก็ไป ป๊าจะอยู่ที่นี่” จนบางครั้ง พวกเราสามคน ที่เป็นลูกก็รู้สึกลำบากใจ กับสภาวะแบบนี้อยู่ไม่น้อยเลยครับ
ลึกๆ เราแค่อยากให้ป๊ารู้ว่าที่เราอยากจะเอาของไปทิ้ง หรืออยากจะย้ายที่อยู่ใหม่ ไม่ได้อยากจะดูโก้หรูอะไรเลย
แต่วันนี้ เราทุกคนโตขึ้น มีหน้าที่การงาน ระดับหนึ่ง ก็อยากให้ป๊ากับม๊าอยู่สะดวกสบายขึ้นเราไม่อยากเสียใจทีหลัง
หากวันหนึ่งป๊าหรือม๊าเกิดลื่นล้มในห้องน้ำ หรือกองของที่สูงพะเนินมันตกลงมา ทำให้ป๊ากับม๊าได้รับอันตรายได้
เมื่อความต้องการ ของสมาชิกในครอบครัวสองวัย ไม่ตรงกัน หัวเด็ดตีนขาด อย่างไร ป๊ากับม๊า ก็จะไม่ย้ายไปที่ไหน
ส่วนพวกเราที่เป็นลูกๆ ก็อยากจะให้บ้าน มีสุขลักษณะที่ดี มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้
พวกเราเลยไม่รู้ว่าจะหาทางออกได้อย่างไร เพราะพวกเราก็ไม่อยากให้ป๊าและม๊าอยู่กันลำพังสองคนแน่นอน
จนกระทั่งผมได้เจอประกาศการรับสมัครโครงการ Home Makeover ผมก็ไม่ลังเลที่จะลองสมัครเข้าร่วม
แม้โอกาสจะมีไม่มากแต่ก็ลองสร้างกันดู จนกระทั่งความหวังกลายเป็นจริงเมื่อพวกเราได้รับคัดเลือกจากทางรายการ
ตอนนั้นยังจำได้ดีว่าป๊าก็ยังคัดค้านอยู่ว่าจะทำไปทำไมวุ่นวาย แต่ผมก็บอกไปว่าป๊าครับมันจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นนะ
อีกอย่างเขาทำให้เราฟรีๆ เลยนะทำไหม? กล่อมอยู่นานจนป๊ายอมใจอ่อนลองดูสักตั้ง
เหมือนฝันที่เป็นจริงครับ ได้เจอคุณเกรซตอนที่เขามาสำรวจบ้านด้วย ตื่นเต้น
หน้าบ้าน ถูกกั้นกระจกเพื่อเป็น Function สำหรับให้พ่อและแม่วางตู้แช่สำหรับการทำบ๊ะจ่างขาย และป้องกันไม่ให้กลิ่นเข้ามาในบ้านอีกด้วย
จากพื้นที่เต็มไปด้วยของ และโต๊ะอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ
กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว
จากที่เคยเป็นห้องเก็บของที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้
กลายเป็นมุมพักผ่อนของคนทั้งครอบครัว
จากเดิมที่ ของกระจัดกระจายแออัดเต็มพื้นที่
กลับมาสามารถเก็บของได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น
แถมมีมุมทานข้าว แบบพร้อมหน้าพร้อมตาอีกตังหาก
และมีมุมสำหรับตีจู่เอี๊ยะ ที่บ้านคนจีนทุกบ้านต้องมีก็สวยงามสง่าขึ้น
นอกจากนี้ทางโฮมโปรยังได้ทำ Wall Storage เพื่อใช้พื้นที่ชั้นลอยในการเก็บของได้เป็นสัดส่วน เพราะชั้นล่างของเรา ของเยอะจริงๆ ครับ
จากห้องนอนที่มีพื้นที่ทำได้แค่นอน
เป็นห้องนอนที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาทั่วถึงทั้งห้อง
ห้องครัวที่ทั้งเพนดานแตก น้ำรั่วซึม และแสงสว่างส่องให้ไม่ทั่วถึง
เป็นครัวที่มีแสงสว่างอย่างทั่วถึง มีพิ้นที่ใช้สอยอย่างเป็นสัดส่วน และยังมีอากาศถ่ายเทอย่างทั่วถึงครับ
จากห้องน้ำ ที่ต้องกังวล เป็นห่วงพ่อแม่ทุกครั้ง
เป็นห้องน้ำที่ถูกแบ่ง Function การใช้งาน เป็นสัดส่วน ที่ปูด้วยกระเบื้องกันลื่น และมีราวจับสำหรับผู้สูงอายุวัย อย่างป๊ากับม๊า
บันไดที่เดินตอนกลางคืนก็หวาดเสียวเหลือเกิน ..
ถูกปรับให้มีหน้าตาแบบนี้มีช่องแสงลอดผ่าน
รายการ Home makeover ไม่ได้เปลี่ยนแค่สภาพบ้านของผมเท่านั้น แต่มันเหมือนกับเปลี่ยนชีวิต
ของผมไปเลย ให้ทุกๆ วันที่เดินเข้าบ้านผมยังถามตัวเองเสมอว่า “นี่มันบ้านเราจริงๆ เหรอเนี่ย!”
ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เปลี่ยนชีวิตของพวกเราไปเยอะมากเลยครับ จากที่พี่ชายผมจะชอบหมกตัวชั้นบน ก็มาอยู่ข้างล่างกับทุกคนตลอด
ต่อให้มีงานก็ขนลงมาข้างล่าง พื้นที่ห้องโถงกลางบ้านกลายเป็นส่วนที่ทำให้ ทุกคนคุยกันมากขึ้นเข้าใจกันมากขึ้น เหมือนทำให้พวกเรามีความสุขมากขึ้นกว่าที่เคยมีเลยครับ
ส่วนบริเวณหน้าบ้านที่เราทำบ๊ะจ่างกันก็เป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น เพราะส่วนที่ล้ำออกไปบนถนนก็เข้ามาอยู่ในบริเวณส่วนเวิ้งหน้าบ้าน ไม่ต้องเหนื่อยขนเข้าขนออกแล้ว
รบกวนเพื่อนบ้านน้อยลงกว่าเดิม และเราก็สัญญากันว่าทุกคนจะทำให้พื้นที่ในบ้าน เราสะอาดโล่งและน่าอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ไม่กลับไปวางของรกระเกะระกะอย่างเดิมแน่นอนครับ
30 วันจากที่เราห่างบ้านกันไป จากที่ผมขอให้ทุกคนเชื่อในการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะป๊า ที่ผมอยากให้เขารู้ว่าสิ่งที่ลูกๆ คิดนั้น
ก็เพื่อให้เราทุกคนในครอบครัวมีความสุข และจากที่เห็นคิ้วขมวดๆ ของป๊าทุกครั้งที่เราจะคุยเรื่องการทิ้งของหรือปรับแซมบ้าน
และวันนี้ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มและความรู้สึกที่ดี ขึ้นจริงๆ อยากขอบคุณ Homepro ครับที่ทำให้ความขัดแย้งหายไป ได้ทั้งบ้านใหม่และความรักกลับมา
1. ป๊ายอมให้ทิ้งของได้อย่างไร
2.ของที่มันรกๆ ถูกเอาเก็บ ไว้ที่ไหน?
– ของที่มันรกๆ บางส่วน ถูกเอาไปจัดเก็บไว้ที่ชั้น 4 ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนพักอาศัย คือแต่เดิมที่ของรกแน่นก็เป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ความไม่มีระบบในการจัดเก็บ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง เมื่อได้มีการขนย้ายของไประหว่างปรับปรุงบ้านทำให้การจัดเก็บมีระบบขึ้น
3.บ้านเป็นคนละหลัง รึเปล่า?
– ผมขอยืนยันครับว่าบ้านเป็นหลังเดียวกันอย่างแน่นอน บางภาพ อาจเป็นมุมเปรียบเทียบไม่ได้ตรงกันเป๊ะ เลยดูเหมือนเป็นคนละทีด้วย
อยากเปลี่ยนบ้านจังจะเปลี่ยนได้จริงเหรอค่ะชอบเฟสขี้จัง
เคยดูรายการนี้แล้วก็ติดตามทางหน้าเฟสชอบมากคะอยากให้มาทำที่บ้านบ้างเป็นทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น 17 ตรว. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำคะ