รีโนเวททาวน์โฮมเก่า 20 ตร.ว. สุดโทรม ให้เป็นทาวน์โฮมใหม่ Minimal Style ที่สะอาด และ น่าอยู่
ใครที่กำลังมองหาไอเดียการรีโนเวทบ้านทาวน์โฮมหลังเล็ก ๆ ในงบประมาณจำกัดกันอยู่
วันนี้เรามีรีวิวการรีโนเวทบ้านทาวน์โฮมเก่ามาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ พร้อมแล้วไปรับชมกันเลยยยย
สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิปค่ะ นี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในการเขียนรีวิวในพันทิป ได้แต่เฝ้าตามอ่านรีวิวการรีโนเวทบ้านของหลาย ๆ ท่านมา
มาถึงคราวตัวเองทำบ้านหลังแรกก็เลยอยากมาเขียนรีวิวการรีโนเวทบ้านของตัวเองบ้าง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนหรือเป็นประโยชน์ให้เพื่อน ๆ ได้ดูกัน
ความรู้ก็ปู ๆ ปลา ๆ เพราะไม่ได้เป็นคนคุมช่างทำงานเอง แฟนเป็นคนดูแลการ ซ่อม-สร้าง ทั้งหมด ส่วนเราก็ได้แต่ช่วยเลือกซื้อของ และถ่ายรูปเก็บๆไว้
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เริ่ม จากเรากับแฟนเพิ่งแต่งงานกัน เมื่อเดือน ธ.ค.ปี 61 หลังจากแต่งงานเลยอยากสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์
เลยมองหาซื้อบ้านสักหลัง เพราะคิดว่าต่อไปอนาคตจะต้องมีลูก
ก็คืออยากสร้างความมั่นคงกันตั้งแต่อายุยังน้อยก็ว่าได้ เพราะกลัวว่าแก่ไปจะหากันไม่ไหว
ทีนี้เราก็เริ่ม Search หาดูบ้านมือ 1 และมือ 2 เริ่มจากโซนบางบัวทอง บ้านมือ 2 ขายกันเยอะมาก
ขับรถไปดูถึงที่ แต่ก็ยังไม่มีถูกใจ ด้วยโจทย์ของเราทั้ง 2 คนคือ
1. ราคา
2. บ้านต้องมีที่จอดรถ เพราะไม่อยากจอดรถนอกบ้าน และถ้าเพื่อนหรือญาติมาบ้านต้องมีที่จอด
3. การเดินทางมาทำงาน / ระยะทาง / การคมนาคม
4. สภาพแวดล้อม
5. ฝนตกแล้วน้ำท่วมถนนมากไหม
สรุปแถวบางบัวทอง ไม่ตอบโจทย์ เพราะเราทำงานแถวบางซื่อ แฟนทำงานแถวลาดพร้าว ถ้าต้องผ่อนบ้านแล้วต้องมาเสียค่าเดินทางในการมาทำงานอีกจะไม่ไหว
จึงเริ่มมาดูบ้านแถวลาดพร้าว ก็หาจนถอดใจ เพราะมีแต่ราคา 2.5 ล้านขึ้น จนวันสุดท้ายจำได้ว่าจะไปดูแถวโซนรามอินทรา
แต่แฟนพาขับรถเข้ามาดูในซอยนาคนิวาส 48 ย่านลาดพร้าว เพื่อจะพาไปดูบ้านหลังหนึ่ง ที่ประกาศขายในเว็ป แต่เราไปไม่ถึงบ้านหลังที่จะเข้าไปดู
เราทั้งสองคนได้หันไปเห็นบ้านหลังที่เราซื้อมา แปะประกาศขาย (ตามสภาพ) เสียก่อน พร้อมเบอร์โทร
เราก็ไม่รอช้า หยิบมือถือมากดโทรถามราคาเลยจ้า เจ้าของบ้านบอกว่าขายตามสภาพ หลังบ้านมีปลวกกิน เราก็เลยขอนัดดูบ้านเช้าวันถัดมา
นี่คือบรรยากาศหน้าบ้านในวันที่เราเจอบ้านหลังนี้ครั้งแรก 4 พ.ค.2562 และเป็นรูปแรกที่เราได้ถ่ายบ้านหลังนี้
หลังจากที่โทรคุยกับเจ้าของบ้านวันที่ 4 พ.ค.62 ตอนสาย ๆ ว่าจะขอนัดดูบ้านในวันต่อมา
คืนนั้นเรากับแฟนชวนกันขับรถวนเข้าไปดูบรรยากาศในซอยบ้านอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และเพื่อการตัดสินใจหลาย ๆ อย่างในการซื้อ
เจอข้างบ้านที่เป็นร้านขายอาหารตามสั่ง กำลังนั่งตั้งวงดื่มกันอยู่ เราเลยเปิดกระจกรถถามว่าหลังนี้ขายเท่าไหร่
ได้ข้อมูลจากข้างบ้านว่าขายราคา 1.3 ล้าน ซึ่งเจ้าของบ้านได้บอกกับเราตอนโทรถามเมื่อเช้าว่า 1.4 ล้าน (คงเผื่อต่อ)
ทีแรกเราก็คิดว่าฟังราคาผิด เพราะแถวนั้นมีแต่บ้านราคา 2 ล้านขึ้น หรือบ้านเน่า ๆ เลยก็ 1.8-1.9 ล้าน ใจเต้นแรงขึ้นมาทันทีว่า
จะได้บ้านราคาที่ถูกขนาดนี้ย่านลาดพร้าว 71 จริง ๆ ใช่ไหมเรา
ข้างบ้านก็แนะนำให้เรามาซื้อสิจะได้เป็นเพื่อนบ้านกัน (คิดในใจว่าอย่างน้อยข้างบ้านก็ดีนะ เพราะไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนบ้าน แอบกลัวว่าจะเจอเพื่อนบ้านงี่เง่าเหมือนกัน)
นั่งอยู่บนรถส่องมองเข้าไปในบ้านที่มืด แต่พอมีลมพัดมาเท่านั้น ก็ได้กลิ่น “ขี้แมว” แรงมากกกก เห็นว่าในซอยนี้แมวเยอะก็อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แล้วกลับมารอลุ้นตอนเช้าว่าในบ้านจะเป็นอย่างไร
รุ่งขึ้น เช้าวันที่ 5 พ.ค.62 เวลา 08.00 ก็มาถึงหน้าบ้าน พบเจ้าของบ้าน และเริ่มเดินเข้าไปดู ทาวโฮมหลังนี้มีขนาด 20 ตร.ว.
มีแมวเดินเข้าออกบ้านกันประมาณว่าข้าคือเจ้าถิ่น วิ่งไล่กันบ้าง นอนหลับบ้างตามประสาแมว วนกลิ่นขี้แมวนั้น
อยากบรรยายแบบให้ทุกคนได้กลิ่นตามไปด้วยเพื่อความอรรถรสในการอ่านและเสมือนจริง
แฟนเริ่มเดินเข้าไปดูในบ้านอย่างช้าๆ เราก็ไม่ได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้มากเท่าไหร่
เพราะมัวแต่อึ้งกับสภาพภายบ้าน พร้อมเอามือปิดจมูก เลยได้ภาพมาแค่ไม่กี่ภาพนี่คือโรงจอดรถ
สภาพบ้านโดยรวมบ้านก็ประมาณนี้ค่ะ เราถามแฟนก่อนเลยว่าทำให้ใหม่ได้ไหม (แฟนทำงานเกี่ยวกับตกแต่งภายใน)
แฟนบอกว่าทำได้ ซึ่งในใจเราไม่ได้รู้สึกรังเกียจบ้านหลังนี้เลย เพราะถูกใจที่ราคา และมองเห็นว่า ถ้าเราซื้อบ้านที่แพงกว่านี้เราก็ต้องเอามาทำใหม่อยู่ดี
กลับมานอนคิดอยู่ 2คืน วันที่ 8 พ.ค.62 เลยตัดสินใจวางเงินมัดจำ เพื่อให้เจ้าของบ้านปลดป้ายกระกาศขาย และยื่นเอกสารกับธนาคาร
เราก็เตรียมเอกสาร ยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในวันที่ 10 พ.ค.62 และได้รับการติดต่อเข้ามาประเมินบ้านในวันที่ 29 พ.ค.62 เสียเงินค่าประเมิน 2,800.- บาท
และได้มีการโทรแจ้งจากธนาคาร ในวันที่ 10 มิ.ย.62 ว่าได้รับการอนุมัติผ่านแล้ว
เย้ๆๆ !!และไปเซ็นต์สัญญากันในวันที่ 11 มิ.ย.62 ต่อมา วันที่ 12 มิ.ย.62 ก็ได้ไปโอนที่กรมที่ดินเป็นที่เรียบร้อย ใช้ระยะเวลานานกว่าเดือน
ต่อไปก็เป็นการเข้ารื้อบ้านเพื่อการเข้ารีโนเวท น้ำมาเยอะแล้ว ต่อไปเข้าเนื้อเสียทีค่ะ
รายละเอียดเกี่ยวกับการยื่นกู้ซื้อบ้าน
เรายื่นกู้ไปยอด 1.7 ล้าน แต่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ อนุมัติให้ 95% ของวงเงินที่ยื่น (ซึ่งไปถามธนาคารอื่นมา ให้แค่ 90%)
ส่วนการประเมินบ้าน ธนาคารประเมินให้ในราคา 1.1 ล้าน โดนหักค่าประกันอีกเกือบ 8 หมื่น คุ้มครอง 15 ปี
เบ็ดเสร็จแล้วเหลือเงินประมาณ 1.5 ล้านกว่า ซื้อบ้านราคา 1.3 ล้าน เหลือเงินทำบ้าน 2 แสนกว่า
เริ่มรื้อบ้านเดิม
เริ่มทำบ้าน
คานปูนของเดิม ด้านบนตรงนี้คือห้องน้ำของชั้น 2
เริ่มจากหน้าบ้าน โรงจอดรถถ้าจอดรถแล้ว 1 คัน มีพื้นที่เหลือเกินความจำเป็น
เราจึงทุบเพื่อขยายในตัวบ้านให้กว้างขึ้น เลยไม่ต้องการพื้นที่ตรงโรงจอดรถมากเท่าไหร่
แค่ทุบขยายออกมานิดหน่อยค่ะ (แถวคานปูน)
มาถึงตรงห้องครัว เราทุบออก แล้วจับเซี้ยมใหม่เพื่อจะใส่เฟลมอลูมิเนียมกระจก และรื้อหลังคาออก (ที่ปลวกกิน)
ต่อไปก็สกัดกระเบื้องเก่าในครัว ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องน้ำชั้นบนออก (สกัดออกยากมาก) เนื่องจากผนังเป็นอิฐบลอคมีความกลวง
แล้วเป็นอิฐบลอคที่กันแค่ชั้นเดียวติดกับผนังข้างบ้าน ทะลุไปข้างบ้านเลยจ้า ช่างจึงต้องใช้ความระมัดระวังมากนิดนึงในการสกัดออกค่ะ
ส่วนเศษกระเบื้องก็เอามาถมหน้าบ้านไปเลย เพราะต้องการยกพื้นใหม่ให้สูงเท่ากับถนนหน้าบ้านค่ะ
ต่อมาก็เป็นการเช็ครอยรั่ว อุดรั่วหลังคา และต่อเติมหลังคาโรงจอดรถ
หมดงานทุบแล้วก็มาต่อกันด้วยงานปูน งานฉาบค่ะ จับเซี้ยม ผนังในบ้านทุกส่วนเราทำการสกิมโค้ทใหม่หมดทุกส่วนเพื่อความเรียบเนียบค่ะ
วางท่อระบบ น้ำดี – น้ำทิ้ง ใหม่ค่ะ
เทพื้นหน้าบ้าน และฉาบผนังโรงจอดรถ
รื้อไม้จากหลังคาในครัวหลังบ้าน อันที่สมบูรณ์เอามาทำคานไม้ เพื่อซับเพดานในบ้าน
(เราตั้งใจจะไม่ใส่ฝ้า เพราะอยากให้เพดานดูโปร่ง) เปิดโล่งไปเล้ยยยย
ไปต่อกันที่งานปูกระเบื้องกันเลยจ้า ชั้น 1 Living room เราใช้แกรนิตโต้ ขนาด 60×60′ A จากบุญถาวรค่ะ
มาต่อที่ชั้น 2 กันค่ะ อุดช่องว่างระหว่างข้างบ้านค่ะ กันหนู/กันเสียง
ชั้น2 ห้องนอนใหญ่ เริ่มทำโครงฝ้า ฉาบเรียบ
ชั้น2 ห้องนอนใหญ่ เริ่มทำโครงฝ้า ฉาบเรียบ
เริ่มขัดพื้นไม้ชั้น 2 พร้อมกับซ่อมจุดที่มีปลวกกิน
ปูกระเบื้องระเบียง
เริ่มติดเฟลมอลูมิเนียมค่ะ ทั้งหลังเราจ่ายไป 48,000.- บาท
ติดตั้งประตูห้องนอนค่ะ ประตูบ้านไม้สักได้มาจากซอยประชานฤมิตรค่ะ
เปลี่ยนสานเมนไฟใหม่ และเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้า จาก 5แอมป์ เป็น 15 แอมป์ เสียค่าธรรมเนียม 2,700.- บาท
ระยะเวลาที่เริ่มเข้าทำบ้านตั้งแต่ 21 มิ.ย.62 – เสร็จเมื่อ ธันวาคม 2562 ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 6 เดือน เนื่องจากแฟนต้องทำงานที่บริษัท ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาดูงานที่บ้าน เลยทำให้เสร็จช้า ทำได้จริงจังก็วันเสาร์-อาทิตย์
แต่เราสองคนก็ตั้งใจที่จะเข้าอยู่ปี2563 อยู่แล้ว เลยทำไปเรื่อยๆ โพสนี้ จขกท หวังว่าจะสร้างแรงบันดารใจให้กับเพื่อนหลายๆคนได้นะคะ ในการทำบ้านที่ เละ ให้กลับมาน่าอยู่ มีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง ขอบคุณทุกๆการติดตาม และรออ่านจนจบโพสค่ะ
ปล.บางขั้นตอนการทำ เราอาจจะลงสลับขั้นตอนไปบ้างก็ขออภัยด้วยค่ะ
รูปต่อไปนี้คือรูป Before / After นะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : สมาชิกหมายเลข 2039763 Pantip.com
สอบถามเรื่องผ่อนค่ะ กู้1.7ล้าน ส่งกี่ปี ส่งเดือนเท่าไรค่ะ
ขออนุญาตนะคะ? ค่าโอนรวมอยุ่ในที่กู้เลยไหมค่ะ
รวมราคาทั้งหมดเท่าไหร่ น่าสนใจมากค่ะ
สุดยอดมาเลยครับ ผมก็กำลังหาแบบนี้เหมือนกัน หาบ้านเก่ามารีโนเวทเอง
เห็นหลังนี้ทำเป็นแนวทางแล้วมีกำลังใจเลยครับ
ขอบคุณนะครับที่เอามาลงแบ่งปันความรู้
ค่าจ้างคนงานรวมค่าของทั้งหมดในการรีโนเวทหลังนี้เท่าไหร่คะ.