พาชมบ้านหรู Precious Classic มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

พาชมบ้านหรู Precious Classic มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกท่าน วันนี้เรามีบทความพิเศษพาชมคฤหาสน์สไตล์คลาสสิคมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทของ ศ.นพ.อาทิ เครือวิทย์และภรรยาคุณอารยา เครือวิทย์ เจ้าของบ้านใจดีที่เปิดบ้านให้เราเข้าไปชมกันวันนี้ค่ะ

โดยบ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่สูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยถึง 1,056 ตารางเมตร ก่อสร้างโดยบริษัทรับสร้างบ้าน Royal House ที่รับออกแบบตามความต้องการทั้งคุณหมอและคุณอารยาและก่อสร้างจนเสร็จพร้อมอยู่บนที่ดินในซอยพหลโยธิน 24 ซึ่งตอนนี้ก็สร้างเสร็จและตกแต่งพร้อมอยู่ด้วยมูลค่าตัวบ้านรวมตกแต่งภายในแล้วกว่า 100 ล้านบาท

ก่อนจะไปชมบ้านกันวันนี้เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณหมออาทิ เครือวิทย์ และภรรยา คุณอารยา เครือวิทย์ เจ้าของบ้าน เกี่ยวกับประสบการณ์ในการสร้างบ้านและแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้านของทั้งคู่ด้วยค่ะ จะเป็นยังไงไปฟังกันเลย:) 

คุณหมออาทิ เครือวิทย์ และภรรยา คุณอารยา เครือวิทย์ ให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเองริมสระน้ำหินอ่อนที่ลานกลางบ้าน

ช่วยเล่าประสบการณ์การเลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านให้ฟังหน่อยค่ะ

“ก่อนที่พี่จะสร้างบ้านหลังนี้ พี่เรียกบริษัทก่อสร้างเข้ามาคุยกับพี่ถึง 7 บริษัท บริษัทดังๆทุกบริษัทค่ะ แต่ละบริษัทนี่ก็จะขอเงินล่วงหน้าเลย ก่อนที่จะเข้ามาคุยกับเรา ห้าหมื่นบ้าง หนึ่งแสนบ้าง แต่ด้วยความที่ว่าเราลงทุนในการสร้างบ้านเยอะ เราเลยไม่ยอมจ่าย เพราะเราก็ไม่รู้ว่ามันจะดีจริงรึเปล่า บริษัท Royal House เป็นเจ้าเดียวที่ไม่ขอเงินก่อน ไม่ขออะไรก่อนเลย แล้วเค้าจะพยายามทำความเข้าใจกับเรา และคอนเซ็ปต์ของบ้านที่เราต้องการ ว่าเราต้องการอะไร 

อย่างตัวพี่เองพี่ต้องการสระว่ายน้ำตรงกลาง แล้วก็ตัวบ้านโอบล้อมสระ ด้วยเหตุผลจากที่ดินเราที่อยู่กลางเมืองแบบนี้ รอบๆมีคอนโดขึ้นตลอดเวลา ความ Privacy มันก็หมดไป อย่างบ้านหลังเก่าพี่ อยู่ห่างจากที่นี่ไปห้านาที หลังใหญ่เหมือนกันแต่เจอคอนโดขึ้นขนาบหน้าหลัง มองไม่เห็นอะไรเลย จากประสบการณ์ตรงนั้นคือเรารู้เลยว่าเราต้องการแบบนี้”

“บริษัทสร้างบ้านส่วนใหญ่จะไม่ชอบ ไม่อยากทำสระตรงกลางบ้านแบบนี้ เพราะค่าใช้จ่ายมันจะสูงมาก ก็จะเชียร์ให้เราไปวางสระหน้าบ้านบ้าง หลังบ้านบ้าง  แต่เราบอกเลยว่าไม่ได้ เพราะเรามีประสบการณ์มาแล้วว่ามันไม่เป็นส่วนตัว

เรารู้ข้อได้เปรียบเสียเปรียบยังไง เราต้องการความเป็นส่วนตัวสูง แล้วมันต้องเป็นสเปซแบบนี้ แล้วทางบริษัท Royal House เค้าไม่มีมาเรียกร้องเงินก่อน แต่รับไปออกแบบมาเพื่อครอบฟังก์ชั่นที่พี่และสามีขอไปให้ได้  ไม่พยายามเปลี่ยนใจพี่กับสามี แล้วปรับแบบกันมาจนลงตัวได้ในที่สุด

คิดว่านี่คือเหตุผลหลักเลยที่เลือก Royal House  เพราะบริษัทนี้ตามใจลูกค้า บริษัทอื่นจะไม่ค่อยตามใจ เพราะว่าหลังจากเราจ่ายเงินไปเราจะรู้ว่าเค้าเป็นยังไง  ส่วนใหญ่บริษัทอื่นคือจะพยายามบีบเราให้อยู่ในกรอบของเค้าให้มากที่สุด หรือสิ่งที่สะดวกสำหรับเค้า ไม่ใช่สะดวกสำหรับลูกค้า  ซึ่งจริงๆ Royal House ก็มีพยายามตะล่อมเราเหมือนกันแหละ (หัวเราะ) แต่เค้าจะไม่ Force เราให้เราได้ในสิ่งที่เราไม่ต้องการ สุดท้ายแล้วคือเค้าให้เราเป็นใหญ่ พยายามให้เราได้สิ่งที่เราต้องการมากที่สุด”

“แล้วอีกอย่างคือพวกบริษัทบ้านทั่วไปนี่จะไม่ค่อยชอบหรอก ที่จะให้ทีมงานอื่นเข้ามายุ่ง แล้วอย่างของพี่นี่มีทีมหินอ่อนเข้ามายุ่ง มีทีมกระจกเข้ามายุ่ง มากันเป็นทีมใหญ่เลย ซึ่งเค้าก็โอเค ทำงานด้วยกันได้ดี ไม่มีปัญหา ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นโชคของพี่  ถือว่าบริษัท Royal House ใจสปอร์ต

แล้วยังมีเรื่องรับประกันโครงสร้างบ้านถึง 20 ปี ซึ่งถือว่ามากที่สุด ขณะที่บริษัทอื่นรับประกันเพียง 10 ปีเท่านั้น แล้วเรื่องโครงสร้างนี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดของบ้านเลย ก่อนสร้างบ้านเราก็ไปดู Process การก่อสร้างของหลายๆบริษัทมา ถ้าเทียบกับเจ้าอื่นแล้ว Royal House จะเด่นเรื่องความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างบ้านมากที่สุด เรื่องนี้ก็เป็นอีกแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้เราเลือกเจ้านี้”  คุณอารยากล่าว

อีกจุดเด่นนึงของตัวบ้านคือบันไดขนาดใหญ่ ที่สร้างได้แข็งแรง แม้ไม่มีเสาหรือคานรับน้ำหนัก  ทำให้ดูสวยโปร่ง ใช้พื้นที่ใต้บันไดได้อีกด้วย

ที่มาของรีวิวบ้านหลังนี้คือทาง Homenayoo ได้ไปเจอบ้านคุณหมอและคุณอารยาในเฟซบุคของ Royal House เลยติดต่อขอประสานงานกับทางเจ้าของบ้าน ซึ่งทางคุณหมอก็ใจดียอมเปิดบ้านให้เข้ามารีวิวกันในวันนี้นั่นเอง

เราเริ่มสำรวจกันจากด้านหน้าบ้านก่อนเลยค่ะ ตัวบ้านเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์คลาสสิคแบบที่คุณหมออาทิชอบ ซึ่งเป็นสไตล์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากทางฝั่งตะวันตกทั้งกรีก โรมัน สเปน เป็นสไตล์บ้านที่ให้ความรู้สึกหรูหรา โอ่โถง หลังคาส่วนโถงตรงกลางเป็นหลังคาโดมที่เพิ่มความสง่างามให้ตัวบ้าน

ภายนอกบ้านมีคิ้วบัวประดับที่เชิงชาย หน้าจั่ว แต่งกรอบหน้าต่างและประตูบ้านด้วยเส้นสายโค้งแบบ Arch และใช้เสากลมที่มีการประดับหัวเสาสไตล์โรมัน รวมถึงองค์ประกอบตกแต่งซึ่งแสดงถึงความหรูหรามีฐานะอย่าง รูปปั้น บ่อน้ำพุหินอ่อนอิตาลี และทาสีภายนอกเป็นสีคุมโทนเรียบๆด้วยสีครีมและเดินเส้นตัดขอบด้วยสีขาว มีแต่งหินชั้นสีน้ำตาลอ่อนที่ส่วนฐานของบ้าน

ภาพมุมมองด้านข้างของบ้านที่จะเห็นอาคารจอดรถชั้นเดียวด้านหน้าบ้าน การออกแบบเน้นทางเข้าที่โอ่โถง โดยส่วนด้านบนโถงทางเข้าจะเป็นส่วนห้องทำงานคุณหมอและทางขึ้นไปส่วนยอดโดมของบ้าน

ตัวบ้านออกแบบมาให้เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ มีพื้นที่มุมมองหน้าบ้านและหลังบ้านทำให้บ้านหลังนี้ดูโปร่งโล่งรับลมธรรมชาติได้อย่างเหมาะสม

ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 1,056 ตร.ม. มี 5 ห้องนอน,6ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องพักผ่อน, ห้องดูหนังฟังเพลง, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องทำงาน, เรือนแม่บ้าน และ เรือนออกกำลังกาย จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวเราพาชมกันไปทีละส่วนนะคะ

เริ่มจากโรงจอดรถที่จอดได้เต็มที่ถึง 6 คันในร่ม ขวามือของภาพจะมีห้องติดรั้วหน้าบ้านมาให้ กรณีใช้เป็นป้อมรปภ. ห้องเก็บของ หรือห้องพักคนขับรถ สามารถจอดรถกลางแจ้งเพิ่มได้อีกกรณีมีแขกมาเยี่ยม พื้นลานหน้าบ้านปูกระเบื้องเรียงเป็นลายพัดโค้งสีน้ำตาล

สวนตีขอบโค้งล้อไปกับบ่อน้ำพุหินอ่อนที่ลานกลางบ้าน ในสวนปูสนามหญ้า ปลูกไม้พุ่มคลุมดินเป็นแนวตามขอบสวน และริมกำแพงปลูกไม้ยืนต้นไว้เป็นแนว

โถงทางเข้าบ้านด้านหน้าทำเป็นหลังคาเพดานสูงโปร่ง และแต่งขอบโค้งพร้อมมีคิ้วปูนตกแต่งสไตล์คลาสสิค เป็นจุด Drop off หน้าบ้าน ที่ขับรถวนมาส่งคนลงหน้าบ้านได้โดยมีหลังคาบังแดดบังฝนไปในตัว ที่เพดานมีติดโคมไฟระย้าเอาไว้พร้อมไฟผนังตามเสาสำหรับตอนกลางคืน

ภาพถ่ายโคมไฟระยะตอนกลางคืนที่เพดานของโถงทางเข้าบ้าน

ส่วนทางเข้าบ้านเป็นสเต็ปบันไดขึ้นไปสูงกว่าพื้นลานจอดรถประมาณ 1 เมตร ช่วยกันความชื้นและฝุ่นจากพื้นไม่ให้เข้าไปในตัวบ้านและให้ความรู้สึกโอ่โถงด้วยความสูงของโถงทางเข้าบ้านแบบนี้  พื้นและบันไดของโถงทางเข้าบ้านจะเป็นหินอ่อนอิตาลีสีเขียว

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเปิด 2 บาน และเปิดได้ 2 ชั้น ชั้นในจะเป็นประตูกรอบไม้ติด Insect Screen กันแมลงกรณีเปิดรับลมเข้าบ้านให้อากาศถ่ายเท  ส่วนประตูชั้นนอกเป็นกรอบไม้ลูกฟักกระจกทำสีแบบ Stained glass  

หน้าต่างและประตูของบ้านนี้แทบทุกบานจะมีลูกฟักเป็นกระจกทำสี Stained glass แทบทุกบานนะคะ ซึ่งก็จะมีลวดลายที่แตกต่างกันไปในแต่ละบานนะคะ อย่างที่ประตูทางเข้าบ้านนี่จะเป็นลายช่อดอกไม้สีสันสดใส

กรอบประตูหน้าต่างก็ทำขอบโค้งแบบ Arch และแต่งขอบปูนหรือขอบหินอ่อนเพิ่มมิติให้กับผนัง ที่ขอบประตูทางเข้าบ้านก็จะเป็นเสาหินอ่อนสีขาวหัวเสาเป็นหินอ่อนแกะสลักแบบคอรินเทียนที่ดูหรูหรา

พื้นทางเข้าเป็นหินอ่อนสลับสี แกะลายด้วยเลเซอร์เป็นลายหรีดช่อดอกไม้สีขาว

พอเข้ามาภายในโถงรับรองของบ้าน จะมีการเจาะช่องเป็นเพดานสูงขึ้นไปถึงเพดานชั้นสอง ซึ่งนอกจากจะให้ความโอ่โถงและหรูหราในสไตล์คลาสสิคแล้ว ยังช่วยนำสายตาไปยังการตกแต่งเพดานและผนังของบ้าน ที่มีการตกแต่งคิ้ว บัวเชิงผนัง บัวเชิงเพดานและฝ้าหลุมพร้อมออกแบบงานไฟเอาไว้อย่างสวยงาม

เข้ามาที่โถงรับรองจะเจอประตูเปิดออกไปส่วนสระว่ายน้ำที่ลานกลางบ้านได้ทั้งสองบาน พร้อมด้านข้างประตูมีหน้าต่างกระจกสี Stained glass คู่วางขนาบกระจกเงากรอบทองแบบหลุยส์และโต๊ะติดผนังประดับแจกันดอกไม้ตรงกลาง เป็นการวางช่องเปิดแบบสมมาตรหรือเท่ากันทั้งสองด้านซึ่งเป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิคนั่นเอง

ที่หน้าต่างคู่ข้างประตูทั้งสองบานนั้นเป็นหน้าต่างกระจกสี Stained glass ลายนกยูง ซึ่งดีเทลลายของกระจกสีในส่วนต่างๆของบ้านคุณหมออาทิได้ออกแบบเอง โดยจะมี gimmick ที่แตกต่างกันไปในแต่ละบาน

อย่างหน้าต่างคู่ลายนกยูงนี้ คุณหมอออกแบบให้ขนหางนกยูงมีความอ่อนช้อย  และมีขนหางของแต่ละบานจะมีสีที่แตกต่างกันคือสีเขียวและสีฟ้า ซึ่งเป็นสีแทนวันเกิดของคุณหมอและภรรยา เป็นต้น

จากโถงรับรองมองไปทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปส่วนห้องรับแขกและห้องพักผ่อนของตัวบ้านซึ่งเดี๋ยวเราจะไปไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ

ห้องพักผ่อนของบ้านขนาดกว้างขวางประมาณ 7 x 4.5 เมตร วางเปียโน โซฟาหนังรูปตัว L ขนาดใหญ่ และโซฟาคู่อีกตัวพร้อมโต๊ะกาแฟตรงกลางและเหลือระยะเดินได้สบายๆ ซ้ายมือของภาพทำ Built in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของยาวเต็มความกว้างผนัง โดยมีระยะดูทีวีจากโซฟาถึงชั้นวางทีวีประมาณ  3.5 เมตร สามารถวางทีวีจอใหญ่ 70 นิ้วได้สบายๆค่ะ

ในห้องพักผ่อนนอกจากโคมไฟระย้าตกแต่งเพดานให้แสงสว่างตอนกลางคืนแล้ว  ห้องนี้จะมีฝ้าหลุมไฟซ่อนซึ่งเปลี่ยนสีได้เรื่อยๆซึ่งก็สร้างบรรยากาศที่น่าสนใจให้กับห้องพักผ่อนได้ดี

ถัดมาเป็นประตูห้องน้ำที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องรับแขกและห้องพักผ่อนของบ้าน ผนังหน้าห้องน้ำมีกระจกเงาบานใหญ่กรอบทองติดอยู่ ส่องได้เต็มตัว ใช้ตรวจสอบความเรียบร้อยของการแต่งตัวก่อนออกจากบ้านได้

ห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room คือมีห้องโถสุขภัณฑ์ แต่จะไม่มีส่วนอาบน้ำนั่นเอง ห้องน้ำตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลและทอง

เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นเคาน์เตอร์หินอ่อนสีน้ำตาลอมทอง ก๊อกน้ำและแท่นหมุนเปิดปิดเป็นสีทองและแก้วคริสตอล เข้ากับไฟผนังและกรอบกระจกเงาทรงกลมแบบหลุยส์สีทองสร้างบรรยากาศที่หรูหรา

ภายในห้องรับแขกวางชุดโซฟาโค้งสไตล์หลุยส์, โซฟาเบด และโต๊ะข้างเข้าชุดกันมาให้ พร้อมโคมไฟระย้ากลางห้อง

ห้องนี้จะมีผนังยื่นแบบสี่เหลี่ยมคางหมู พร้อมกระจกบานสูงทำขอบโค้งติดลูกฟักเป็นกระจกสี Stained glass ทั้ง 3 บาน

ลวดลายบนกระจกสีทั้งสามบานจะเป็นลายภูเขาและแม่น้ำ ซึ่งก็จะมีลวดลายที่ต่อเนื่องเป็นภาพเดียวกันแบบนี้

บันไดทางขึ้นไปชั้น 2 เป็นอีกจุดเด่นนึงของบ้านค่ะ เนื่องจากเป็นบันไดขนาดใหญ่และไม่ใช้เสาเลย เนื่องจากใช้โครงสร้างบันไดเป็นคานเหล็กเส้นขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแรงสูงและทำหน้าที่เป็นเสาและคานบันไดไปในตัว ทำให้สามารถทำสแปนบันไดได้กว้างอย่างที่เห็น

ห้องรับประทานอาหารมีขนาด 9 x 4.5 เมตร ตกแต่งมาในสไตล์คลาสสิคเช่นกันค่ะ ผนังสีขาว ตกแต่งด้วยบัว คิ้วและเสาไม้สีน้ำตาล จัดโต๊ะอาหารแบบ 8 ที่นั่ง และมี Pantry หรือเคาน์เตอร์พร้อมชุดครัวอยู่ในห้องด้วย เครื่องเรือนในห้องเป็นของสะสมของคุณหมอและคุณอารยาที่ซื้อมาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่

จากโต๊ะอาหารมองไปที่ส่วน Pantry จะเห็นประตูออกไปส่วนห้องครัวด้านหลังบ้านอยู่

เมื่อเดินผ่านประตูออกมาจะเป็นห้องครัวสีฟ้า ซึ่งเราขอเรียกว่าห้องครัวเล็ก เราจะเห็นประตูเชื่อมต่อไปยังห้องครัวใหญ่และห้องซักรีดหลังบ้านได้ด้วย ซึ่งในห้องนี้จะมีประตูห้องน้ำ(ฝั่งซ้ายมือของภาพ) เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยค่ะ

เป็นห้องน้ำที่อยู่ใกล้ห้องอาหารและสระว่ายน้ำที่ลานกลางบ้านค่ะ ภายในห้องน้ำก็จะมีส่วนห้องอาบน้ำอยู่ด้วย  ห้องนี้จัดมาในสีโทนฟ้าและสีเงิน โทนเข้ากันกับห้องครัวสีฟ้านั่นเอง

เคาน์เตอร์เป็นท้อปหินอ่อนลายขาวเทา เข้ากับผนังที่เป็นลายหินอ่อนและกระเบื้องสีเงิน  โดยตัวอ่างล้างมือและกระจกเงาก็จะเป็นสีเงินโทนเดียวกัน ใต้เคาน์เตอร์มีที่เก็บของพร้อมบานปิดสีฟ้าเข้าชุดกันกับประตูห้องน้ำ

กลับออกมาที่ห้องครัวเล็กอีกครั้งนะคะ จะมีประตูเปิดออกไปสระว่ายน้ำที่ลานกลางบ้านด้วย

สระว่ายนำ้นี่จัดเป็นไฮไลท์อีกอย่างของบ้านหลังนี้เลยค่ะ  ตัวสระตั้งอยู่ที่ลานกลางบ้านและถูกโอบล้อมด้วยตัวบ้านเองเพื่อความเป็นส่วนตัวจากอาคารรอบด้าน ตามความต้องการของคุณหมออาทิและคุณอารยา

ตัวสระก็ออกแบบมาในสไตล์คลาสสิคเข้ากับธีมของบ้านนะคะ โดยเป็นสระที่ยกขอบสระขึ้นมาเป็นหินอ่อนแกะสลัก พื้นรอบสระก็เป็นพื้นหินอ่อนสีเทาเข้มตัดลายด้วยเส้นหินอ่อนสีขาว

ตัวสระมีขนาดประมาณ 10 x 4.5 เมตร ลึกประมาณ 1.2 เมตร ช่วงกลางคืนจะเห็นว่าลานกลางบ้านและภายในสระว่ายน้ำถูกจัดแสงเอาไว้อย่างสวยงาม

ภายในสระจะมีส่วน Jacuzzi พร้อมที่นั่งสำหรับนั่งพักผ่อนในสระแบบนี้

ส่วนอีกฟากของสระจะอยู่ติดประตูสองฝั่งที่เปิดเข้าไปโถงรับรองนั่นเอง ฝั่งนี้จะมีรูปปั้นที่มุมขอบสระและที่ระเบียงชั้นบนอยู่ด้วย

จากต้นสระมองไปทางท้ายสระที่มีอ่างจากกุซซี่ค่ะ จะเห็นว่าตอนกลางคืนเราจะเห็นลายกระเบื้องโมเสกที่ก้นสระชัดขึ้นนิดหน่อยถ้าเทียบกับตอนกลางวันนะคะ  เป็นกระเบื้องโมเสกที่คุณหมออาทิออกแบบเอง ไม่ว่าจะเป็นปลาวาฬ เต่า หรือลายสัตว์ในท้องทะเลต่างๆ

ฝั่งท้ายสระที่ติดกับสวนหลังบ้านจะมีลานที่นั่งข้างสระเป็นหินอ่อน พร้อมเสาทรงกลมเซาะร่องรับเพดานโค้งแบบโรมันแบบนี้  ใช้นั่งเล่นรับลมชมวิวสวนหรือสระว่ายน้ำก็เหมาะค่ะ เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้สำหรับตอนกลางคืน พร้อมพัดลมในวันที่อากาศร้อน

ที่ซุ้มโค้ง เราจะเห็นการฉาบปูน การเซาะร่องลายร่องเสา และความละเอียดของงานหินอ่อน

จากที่นั่งข้างสระมองไปทางสวนหลังบ้านค่ะ ปลูกไม้เลื้อยและแขวนกระถางดอกไม้เล็กๆน่ารักเอาไว้ดด้วยดูร่มรื่นดี

สวนหลังบ้านปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่น และมีน้ำตกพร้อมบ่อปลาคาร์พอยู่ สวนน้ำตกจัดมาเป็นกลุ่มหิน มอส และพืชน้ำที่จัดวางเรียงตัวกันดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ

ในสวนหลังบ้านจะมีเรือนอเนกประสงค์อีกหลังตั้งอยู่ติดกับเรือนแม่บ้านและครัวใหญ่ ซึ่งเป็นความต้องการของเจ้าของบ้านซึ่งต้องการให้สร้างขึ้นมาเพื่อบังวิวจากคอนโดด้านหลังบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัวนั่นเอง

เราพาเดินขึ้นมาดูชั้น 2 ของบ้านกันต่อค่ะ โถงบันไดสูงโปร่งแขวนโคมระย้าแก้วคริสตัลขนาดใหญ่เอาไว้ให้บรรยากาศที่ดูหรูหรา ราวกันตกเป็นเหล็กดัดลายเถาองุ่น ส่วนมือจับและพื้นบันไดเป็นไม้มะค่า

ขึ้นมาชั้น 2 พื้นจะเป็นไม้มะค่าเช่นกัน โดยเชื่อมต่อขึ้นมาจากพื้นบันไดเลย โดยจะมีราวกันตกข้างทางเดินมาให้ มองลงไปชั้นล่างได้  โดยโถงทางเดินของชั้น 2 ก็จะแจกไปยังห้องนอนห้องต่างๆ, ระเบียง, ห้องพระ และห้องทำงานของคุณหมอ เราเข้าไปดูห้องพระฝั่งขวามือของภาพกันต่อเลยค่ะ

ภายในห้องพระ มีหิ้งพระ Built in มาเข้าชุดกันกับบัวเพดานและผนังห้องซึ่งจัดมาในโทนสีเขียว ซึ่งในห้องพระก็จัดเรียงพระพุทธรูปมาอย่างสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมแต่งแสงดาวน์ไลท์และโคมระย้ามาได้แบบกำลังเหมาะ

ถัดจากห้องพระมาจะเจอระประตูบานเลื่อนพร้อม Insect Screen หรือตาข่ายกันแมลงอีกชั้น เปิดออกไประเบียงวิวสระว่ายน้ำได้

พื้นระเบียงลดระดับต่ำกว่าพื้นชั้น 2 ประมาณ 10 เซนติเมตร  ปูกระเบื้องแผ่นเล็กพิมพ์ลายสีสันสดใส  ระเบียงส่วนนี้จะมองลงไปเห็นวิวสระน้ำที่ลานกลางบ้านที่ชั้นล่างได้ และตัวระเบียงมีขนาดพอวางเก้าอี้คู่และโต๊ะข้างอีกตัวนึงได้ค่ะ

จากระเบียงตรงกลางมองลงไปที่สระว่ายน้ำชั้นล่าง

ที่โถงทางเดินแยกไปแต่ละห้องนอน จะมีตู้กรอบทองแกะสลักหน้าบานกระจกสำหรับเก็บของสะสมซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตุ๊กตาคริสตัลของคุณอารยา วางเป็นแนวยาวชิดผนังไปแบบนี้

ภาพรวมชั้น 2 มองไปฝั่งบันไดจะเห็นว่า ทางเดินชั้น 2 จะมีเว้นช่องตรงกลางและติดตั้งราวกันตกโดยรอบ สามารถมองลงไปชั้นล่างได้  ซ้ายมือของภาพเป็นระเบียงวิวสระว่ายน้ำ ถัดไปเป็นทางเข้าไปส่วนห้องพระ ส่วนขวามือของเป็นทางเข้าไปส่วนห้องทำงานของคุณหมออาทิ

เข้าไปดูส่วนห้องทำงานของคุณหมออาทิกันต่อเลยค่ะ

ภายในห้องทำงานของคุณหมออาทิ ผนังห้องเป็นผนังสีขาว ติดคิ้ว บัว ผนังตกแต่งและเครื่องเรือนเข้าชุดกันเป็นไม้สีน้ำตาลตัดด้วยเส้นสีทอง  ภายในห้องมีทั้งโต๊ะทำงานของคุณหมอ ชุดโซฟาและเก้าอี้พักผ่อน จอทีวีขนาดใหญ่สุด พร้อมชั้นวางของ ตู้เก็บของ และชั้นเก็บหนังสือและตำราต่างๆที่ใช้ไม้สีเข้มเข้าชุดกัน โดยห้องทำงานของคุณหมออาทิจะเป็นห้องที่มีบันไดวนขึ้นไปส่วนยอดโดมอยู่นั่นเอง

ชุดโซฟาสำหรับพักผ่อนของคุณหมอ เป็นโซฟาเบาะหนัง ขอบเป็นไม้แกะสลักลายพร้อมแต่งสีทองเข้าชุดกัน  ด้านหลังเป็นชั้นวางหนังสือ ซึ่งมีหน้าบานกระจกปิดกันฝุ่นเข้าไปอีกที  ส่วนมุมด้านข้างทั้งสองฝั่งของชั้นวางหนังสือโค้งมนเข้าหาผนังเข้ากับเครื่องเรือนอื่นๆในห้อง ซึ่งเป็นไม้แกะสลักเป็นเส้นโค้งอ่อนช้อยเต็มไปด้วยรายละเอียด

ปีนขึ้นไปดูส่วนโดมชั้นบนสุดกันต่อเลยค่ะ

ขึ้นมาชั้นบนส่วนโดมของบ้านซึ่งตอนนี้ยังเป็นห้องเปล่าว่างๆ ยังไม่มีฟังก์ชั่นชัดเจนค่ะ จะเป็นเหมือนชั้นลอยที่เปิดออกไปส่วนระเบียงชั้นดาดฟ้าของบ้านได้

มองไปที่เพดานหรือส่วนยอดโดมของบ้าน ติดไฟดาวน์ไลท์ แขวนโคมระย้า และมีเจาะช่องแสงธรรมชาติเอาไว้โดยรอบแบบนี้

หลังจากพาชมบ้านคุณหมออาทิและคุณอารยาแล้ว เราเดินทางมาสัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัท Royal House กันต่อที่ไซต์ก่อสร้างย่านปทุมธานีค่ะ 🙂

บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณสมชาย สุพัฒน์ทวีคุณ ซึ่งบริษัท Royal House ได้ออกแบบและตอนนี้ได้ทำการก่อสร้างไปกว่า 80% แล้วค่ะ ตัวบ้านมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 946 ตร.ม. 6 ห้องนอน 9 ห้องน้ำ

บ้านหลังนี้จะมีขนาดพอๆกับบ้านคุณหมออาทิและคุณอารยาที่เราพาไปชมกันมานะคะ โดยหลังนี้ราคาปลูกสร้างอยู่ที่ 19.5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้มาเยี่ยมชมขั้นตอนการทำงานก่อสร้างบ้านก่อนที่บ้านจะออกมาเสร็จสมบูรณ์นะคะ

คุณโกศล โควิสุทธิ์ และ คุณประสงค์ โควิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัดได้พาเราเดินสำรวจไซต์ก่อสร้างและตัวบ้านที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง พร้อมให้สัมภาษณ์กันไปในตัว

“Royal House มีประสบการณ์งานก่อสร้างมา 30 ปีและสร้างบ้านมามากกว่า 5,000 หลังแล้ว เรามีช่างที่มีประสบการณ์สูง และระบบการทำงานที่มีการตรวจสอบและรักษาคุณภาพของบ้านที่ละเอียดและเข้มงวดมาก

ปีหนึ่งๆรอแยลเฮ้าส์รับงานก่อสร้างบ้านประมาณ 150 หลัง ซึ่งบ้านทุกหลัง ทุกแบบ ทุกราคา รอแยลเฮ้าส์ดำเนินการสร้างบทมาตรฐานเดียวกันหมด คือ ISO 9001″

ถ้ามีคนสนใจ มีที่ดินเปล่า อยากสร้างบ้านกับ Royal House นี่เริ่มต้นยังไงดีคะ?

“ง่ายสุดคือเข้ามาคุยที่บริษัท Royal House สาขาใกล้บ้าน หรือจากตามบู้ธหรืออีเว้นต์ต่างๆของเรา แต่เท่าที่สังเกตนี่มาจากทางเฟซบุ๊คแฟนเพจของบริษัทเองนี่ก็เยอะเหมือนกัน ราคาของบ้านเริ่มตั้งแต่ 3 – 120 ล้านบาท พูดง่ายๆว่าเรารับแทบทุก Segment ของลูกค้าเลย” 

สิ่งที่ลูกค้าควรเตรียมตัวมาคือคุยกับสมาชิกในบ้านว่าอยากได้บ้านแบบไหน แต่ละคนต้องการฟังก์ชั่นอะไรบ้าง และมีงบประมาณประมาณเท่าไหร่ พอคุยรู้เรื่องแล้ว เรามี 3 แนวทางคือ

1. ลูกค้านำแบบบ้านของตัวเองมาให้ทางเราดู ซึ่งสถาปนิกเรารับข้อมูลมาขัดเกลาเป็นแบบก่อสร้างและขัดเกลาแบบตามงบประมาณกันอีกที 
2. ลูกค้าไม่มีแบบบ้านก็สามารถเข้ามาเลือกแบบบ้านที่ทางเรามีให้เลือกถึง 80 แบบ ซึ่งตรงนี้ก็จะมีราคามี Price list ส่วนต่างๆที่มีความชัดเจนอยู่แล้ว
3. นำแบบบ้านมาตรฐานของเรามาปรับให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น อย่างเพิ่มหน้าต่าง เพิ่มห้อง ลดห้อง เป็นต้น
4. รอแยลเฮ้าส์ออกแบบบ้านใหม่เพื่อให้ตรงใจกับลูกค้าที่สุดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

“เพราะการสร้างบ้านจริงๆมันมีหลายขั้นตอนซึ่งมีความซับซ้อนและมีรายละเอียดสูง ตรงนี้บริษัทเรามีคอนเซ็ปต์ว่า ‘Royal House สร้างบ้านด้วยสมอง มาหารอแยลเฮ้าส์ที่เดียวจบ’

ที่เดียวจบที่ว่านี้หมายถึงเราเริ่มตั้งแต่ต้นเลย ตั้งแต่ที่ดินเปล่า หรือขั้นตอนรื้อถอนบ้านเคลียร์ที่ ถมดิน วางฐานราก ออกแบบบ้าน ติดต่อหน่วยงานราชการ ทำเรื่องขออนุญาติก่อสร้างบ้านต่างๆ ขอทะเบียนบ้าน ติดต่อขอสาธารณูปโภค รวมถึงการติดต่อสถาบันการเงินในการจัดหาแหล่งเงินกู้ เป็นต้น

เรียกได้ว่าลูกค้ารออยู่ตอนสร้างเสร็จได้เลย  คือลูกค้าจะสะดวกสบายไม่ต้องกังวลใดๆ เพราะทางเรามีบุคลากรที่ทำงานด้านนี้มา 20 – 30 ปีแล้ว ด้วยประสบการณ์เราจะรู้เลยว่าอะไรควรจะจัดการอย่างไร ซึ่งอันนี้เราก็จะไกด์ไลน์ลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ” คุณโกศลกล่าว

“ช่างก่อสร้างของเรามีการเทรนงานมาเป็นอย่างดีและมีประสบการณ์สูง ซึ่งทางเราเองมีความมั่นใจในด้านการทำงานของเราอยู่แล้ว ปัจจุบันนี่ก็จะมีการเสริมเรื่องคุณภาพวัสดุเข้ามาอีก โดยเฉพาะส่วนโครงสร้างนี่เราให้ความสำคัญมากที่สุด อย่างพวกเสาคานต่างๆ เราจะมีวิศวกรทางเราตรวจงานตลอด เราจะไม่ปล่อยให้ช่างทำเอง”

ภาพถ่ายภายในบ้านระหว่างก่อสร้าง จะเห็นว่ามีการดูแลป้องกันพื้นของลูกค้า ด้วยการปูผ้าใบคลุมถนอมพื้นกระเบื้องของลูกค้าเอาไว้เรียบร้อย  วัสดุที่ใช้ก็เป็นวัสดุคุณภาพสูงเพื่อประสิทธิภาพของการใช้งานในระยะยาว

เช่นตัวบ้านก่อสร้างด้วยผนังอิฐมวลเบา ฉาบด้วยปูนคุณภาพดีและเรียกได้ว่ามีราคาสูงสุดในตลาดอย่างปูนแพลตตินั่ม มอลตาร์ จาก SCG ซึ่งข้อดีของการใช้ปูนตัวนี้งานซ่อมน้อยลง และมีความทนทานสูง ซึ่งก็เป็นการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับงานที่สุดจากประสบการณ์การทำงานจริงกว่า 30 ปีของ Royal House

สำหรับคนที่มีที่ดินและกำลังต้องการสร้างบ้านกันอยู่และเริ่มสนใจนั้น สามารถโทรเข้าไปสอบถามรายละเอียดหรือเข้าไปพูดคุยกับทีมงาน Royal House ได้ที่สำนักงานขายสาขาใกล้บ้านค่ะ

โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  02-459-4646

WEBSITE : http://www.royalhouse.co.th/

FACEBOOK : https://www.facebook.com/TheRoyalHouse

หากท่านเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติม  สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างค่ะ