ด้วย Air Ventilation ระบบหมุนเวียนอากาศในบ้านตลอด 24 ชม., Smell Protection ระบบแยกท่ออากาศในห้องน้ำ, Heat Resistance กระจกคุณภาพสูงสะท้อนความร้อนช่วยลดอุณหภูมิให้บ้านเย็นอยู่สบาย, Sound Proof ด้วย Door & Window Seal, ระบบ Home Automation ควบคุมอุปกรณ์ระบบรักษาความปลอดภัยผ่าน Application รวมไปถึง Solar Cell ช่วยประหยัดค่าไฟ และ EV Charger ในบ้านทุกหลัง
| ชื่อโครงการ |
ไซมิส คิน รามอินทรา 2 / Siamese Kin Ramintra 2 |
| เจ้าของโครงการ |
บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) / Siamese Asset |
| ลักษณะโครงการ |
- บ้านแฝด 2 ชั้น
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น
|
| พื้นที่โครงการ |
3-0-44 ไร่ (พื้นที่ทั้งหมดเฟส 1 และเฟส 2 17-3-23.96 ไร่) |
| จำนวนบ้าน |
36 หลัง |
| เนื้อที่บ้าน |
เริ่มต้น 23.3-35.9 ตร.ว. |
| พื้นที่ใช้สอย |
194-206 ตร.ม. |
| จำนวนห้อง |
3-4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ |
| ที่จอดรถทั้งหมด |
2 คัน |
| โซน |
รามอินทรา |
| เส้นทางคมนาคม |
- ถนนรัชดา-รามอินทรา
- ถนนรามอินทรา
- ถนนนวมินทร์
- ถนนเกษตร-นวมินทร์
- ถนนประดิษฐ์มนูธรรม
- วงแหวนกาญจนาภิเษก
- ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา
|
| ที่ตั้ง |
ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. 10230 |
| กำหนดการ |
n/a |
| ปีที่สร้างเสร็จ |
ไตรมาส 4 ปี 2566 |
| ราคา |
ราคาเริ่มต้น 6.49-8.99 ล้านบาท* (พ.ค.67) |
| ค่าส่วนกลาง |
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ว./เดือน
- เงินกองทุน 400 บาท/ตร.ว.
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
ศูนย์การค้า
- Fashion Island : 1.5 กม.
- The Promenade : 1.5 กม.
- Max Valu นวมินทร์ : 3.9 กม.
- Amorini : 4.9 กม.
- Makro Food Service นวมินทร์ 70 : 4.9 กม.
- The Junction : 5.2 กม.
- Chic Republic รามอินทรา : 5.5 กม.
- Lotus’s สุขาภิบาล 1 : 5.7 กม.
- ไทวัสดุ นวมินทร์ : 5.9 กม.
- KM.8 Place : 5.9 กม.
- Marketplace นวมินทร์ : 6 กม.
- Chocolate Ville : 6.8 กม.
- The Walk เกษตร-นวมินทร์ : 7.6 กม.
- Design Village เกษตร-นวมินทร์ : 8.3 กม.
- CDC : 9.1 กม.
- Central Eastville : 9.9 กม.
- The Crystal เอกมัย-รามอินทรา : 11.5 กม.
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
- ตลาดนัด กม.9 : 4.7 กม.
- ตลาดนัดเลียบด่วน : 6.6 กม.
- ตลาดโพธิ์สุวรรณ : 7.9 กม.
- ตลาดนัดหัวมุม : 10.3 กม.
สถานศึกษา
- รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 : 4.7 กม.
- รร.สายอักษร : 5.6 กม.
- รร.เลิศหล้า เกษตร-นวมินทร์ : 5.8 กม.
- รร.นวมินทราชูทิศ : 6.2 กม.
- รร.นานาชาติกีรพัฒน์ : 7.8 กม.
- NIDA : 8.4 กม.
- รร.สตรีวิทยา 2 : 9 กม.
- รร.ยุวฑูตศึกษา : 9 กม.
- รร.สารสาสน์วิเทศนิมิตใหม่ : 12.7 กม.
- ม.รามคำแหง : 13 กม.
- ABAC : 13.5 กม.
- ม.เกษตรศาสตร์ : 17.1 กม.
ศูนย์การแพทย์
- รพ.สินแพทย์ รามอินทรา : 3.2 กม.
- รพ.นพรัตนราชธานี : 4.7 กม.
- รพ.อินทรารัตน์ : 5.2 กม.
- รพ.พญาไท นวมินทร์ : 5.3 กม.
- รพ.นวเวช : 5.6 กม.
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
- สวนหย่อม
- ถนนหลัก Boulevard กว้าง 19 ม.
- ระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน
- Double Gate Security
- Key Card Access
- CCTV
- รปภ. 24 ชม.
|
| Tel |
1306 |
| Line |
https://lin.ee/QvLgi2C |
| Website |
https://siamesekin2.com/ |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. 10230
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/3tGZHehuVdA1ATvn9
ทำเลที่ตั้ง : โครงการ Siamese Kin รามอินทรา 2 ตั้งอยู่ใจกลางย่านรามอินทรา ตรงซอยรามอินทรา 64 ติดถนนรัชดา-รามอินทรา เป็นทำเลที่เชื่อมต่อระหว่าง ถนนรามอินทรา, วงแหวนกาญจนาภิเษก, ถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนเลียบด่วนรามอินทรา (ถนนประดิษฐ์มนูธรรม) โดยจะอยู่ระหว่างช่วงวงแหวนกาญจนาภิเษกและถนนรามอินทราพอดีค่ะ
โดยภาพรวมของทำเลเป็นทำเลที่มีความสะดวกเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย เพราะสามารถเดินทางเชื่อมต่อทางเข้า-ออกเมืองหรือวิ่งไปโซนอื่น ๆ ได้ง่าย จะใช้รถไฟฟ้าก็สะดวกเพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู และยังอยู่ใกล้ห้างขนาดใหญ่อย่าง Fashion Island รวมไปถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลชั้นนำอีกมากมาย บรรยากาศรอบ ๆ โครงการก็ได้ความเป็นส่วนตัวสูง โดยจะมีพวกโครงการบ้านจัดสรร ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, คอนโดมิเนียม และโฮมออฟฟิศ ขึ้นอยู่ในบริเวณใกล้เคียงค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว จากตัวโครงการเองสามารถเข้า-ออกได้ 2 ฝั่ง คือจากฝั่งถนนรัชดา-รามอินทรา และจากฝั่งถนนสวนสยาม โดยฝั่งถนนรัชดา-รามอินทราจะเชื่อมต่อระหว่างถนนเกษตร-นวมินทร์และถนนรามอินทรา ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่ใช้เดินทางเข้าเมือง และทั้ง 2 เส้นนี้จะตัดกับถนนเลียบด่วนรามอินทรา จะเดินทางไปโซนลาดพร้าว, เอกมัย, ทองหล่อ, พระราม 9, รามคำแหง, พัฒนาการ หรือพหลโยธิน ก็ไปได้สะดวก โดยเราใช้ถนนเลียบด่วนรามอินทราไปเชื่อมต่อกับถนนพระราม 9 และถนนเพชรบุรีได้ จากนั้นก็เชื่อมเข้า CBD ได้แล้ว หรือจะขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ตรงยาวไปเลยก็สะดวกมาก
นอกจากนี้ถนนเกษตร-นวมินทร์และถนนรามอินทราก็ยังตัดกับถนนนวมินทร์ สามารถใช้วิ่งลงไปเชื่อมกับถนนลาดพร้าวย่านบางกะปิเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองได้อีกทาง หรือถ้าจะเดินทางไปยังโซนอื่น ๆ ก็ยังใช้เส้นรามอินทราวิ่งออกไปฝั่งแจ้งวัฒนะ-มีนบุรี ออกนนทบุรี-ฉะเชิงเทราได้สะดวกอีกด้วย ส่วนฝั่งถนนสวนสยามจะเชื่อมต่อกับถนนเสรีไทยได้ ไปออกลาดพร้าว, รามคำแหง และสุวินทวงศ์ได้เช่นกัน
ทางด่วน ที่สำคัญคือโครงการยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกเพียง 1.5 กม.* ใช้ลงไปทางลาดกระบัง-กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ หรือขึ้นไปทางลำลูกกาได้ง่าย
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนฉลองรัชจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 7.5 กม.* เราใช้เข้า CBD ได้อย่างรวดเร็ว
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
- ถนนรัชดา-รามอินทรา : 0 ม.
- ถนนรามอินทรา : 950 ม.
- ถนนนวมินทร์ (แยกนวมินทร์-รัชดา-รามอินทรา) : 4 กม.
- ถนนเกษตร-นวมินทร์ : 5.3 กม.
- ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 7.2 กม.
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ บนเส้นรัชดา-รามอินทราจะมีรถเมล์ผ่านสาย 1-76, 2-45 และ 96 ส่วนหลัก ๆ จะอยู่บนเส้นรามอินทราค่ะ มีรถประจำทางหลายสายมาก ไม่ว่าจะเป็นรถสองแถว, รถตู้ หรือรถเมล์ และที่สำคัญคือยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูตัดผ่านด้วย สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีวงแหวนรามอินทรา ตรงหน้า Fashion Island ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 1.5 กม.* เท่านั้น นั่งไปอีก 9 สถานีจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ แล้วค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ในเรื่องของความสะดวกสบาย ทำเลนี้ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่ง จึงเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยแบบเป็นครอบครัวมาก ๆ ที่เด่นที่สุดจะอยู่บนเส้นรามอินทราค่ะ นั่นก็คือ Fashion Island และ The Promenade เป็นห้างขนาดใหญ่ที่มีครบทุกอย่างแล้ว นอกจากนี้บนเส้นรามอินทราก็ยังมี ตลาดนัด กม.9, Amorini, Chic Republic และ KM.8 Place ให้เปลี่ยนบรรยากาศการเดิน Shopping หรือหาของอร่อย ๆ ทานได้
บนเส้นรัชดา-รามอินทราเองก็จะมี The Junction, Max Valu และ Mc Donald อยู่ตรงแยกนวมินทร์-รัชดา-รามอินทรา มีโซนร้านค้าและร้านอาหารให้ไปฝากท้องกันได้ ใกล้กันบนเส้นนวมินทร์ก็จะมี Makro Food Service กับ Market Place ฝั่งตรงข้ามกัน หรือเลยขึ้นไปทางแยก กม.8 ก็จะมี Lotus’s สุขาภิบาล 1 รวมไปถึง ไทวัสดุ ค่ะ
ถ้าออกมาที่เส้นเกษตร-นวมินทร์และเส้นเลียบด่วนรามอินทรา จะมีทั้ง Chocolate Ville, The Walk เกษตร-นวมินทร์, Design Village, ตลาดนัดเลียบด่วน, ตลาดนัดหัวมุม, CDC, Central Eastville และ The Crystal เป็นอีกบรรยากาศของการเดินห้างหรูและตลาดนัดขนาดใหญ่
สถานศึกษาก็อยู่ใกล้กับโครงการหลายที่นะคะ มีครบทุกระดับ เช่น รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2, รร.สายอักษร, รร.เลิศหล้า, รร.นวมินทราชูทิศ, รร.นานาชาติกีรพัฒน์, รร.สตรีวิทยา 2, รร.ยุวฑูตศึกษา, รร.สารสาสน์วิเทศนิมิตใหม่ และยังไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยดังอย่าง NIDA, ม.รามคำแหง, ABAC และ ม.เกษตรศาสตร์ อีกด้วย
ส่วนโรงพยาบาลใกล้เคียงโครงการในระยะประมาณ 5 กม.* จะมีทั้ง รพ.สินแพทย์, รพ.นพรัตนราชธานี, รพ.อินทรารัตน์, รพ.พญาไท นวมินทร์ และ รพ.นวเวช เป็นต้นค่ะ
ศูนย์การค้า
- Fashion Island : 1.5 กม.
- The Promenade : 1.5 กม.
- Max Valu นวมินทร์ : 3.9 กม.
- Amorini : 4.9 กม.
- Makro Food Service นวมินทร์ 70 : 4.9 กม.
- The Junction : 5.2 กม.
- Chic Republic รามอินทรา : 5.5 กม.
- Lotus’s สุขาภิบาล 1 : 5.7 กม.
- ไทวัสดุ นวมินทร์ : 5.9 กม.
- KM.8 Place : 5.9 กม.
- Marketplace นวมินทร์ : 6 กม.
- Chocolate Ville : 6.8 กม.
- The Walk เกษตร-นวมินทร์ : 7.6 กม.
- Design Village เกษตร-นวมินทร์ : 8.3 กม.
- CDC : 9.1 กม.
- Central Eastville : 9.9 กม.
- The Crystal เอกมัย-รามอินทรา : 11.5 กม.
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
- ตลาดนัด กม.9 : 4.7 กม.
- ตลาดนัดเลียบด่วน : 6.6 กม.
- ตลาดโพธิ์สุวรรณ : 7.9 กม.
- ตลาดนัดหัวมุม : 10.3 กม.
สถานศึกษา
- รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2 : 4.7 กม.
- รร.สายอักษร : 5.6 กม.
- รร.เลิศหล้า เกษตร-นวมินทร์ : 5.8 กม.
- รร.นวมินทราชูทิศ : 6.2 กม.
- รร.นานาชาติกีรพัฒน์ : 7.8 กม.
- NIDA : 8.4 กม.
- รร.สตรีวิทยา 2 : 9 กม.
- รร.ยุวฑูตศึกษา : 9 กม.
- รร.สารสาสน์วิเทศนิมิตใหม่ : 12.7 กม.
- ม.รามคำแหง : 13 กม.
- ABAC : 13.5 กม.
- ม.เกษตรศาสตร์ : 17.1 กม.
ศูนย์การแพทย์
- รพ.สินแพทย์ รามอินทรา : 3.2 กม.
- รพ.นพรัตนราชธานี : 4.7 กม.
- รพ.อินทรารัตน์ : 5.2 กม.
- รพ.พญาไท นวมินทร์ : 5.3 กม.
- รพ.นวเวช : 5.6 กม.
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
เรามีภาพการเดินทางไปโครงการโดยใช้รถส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนเกษตร-นวมินทร์ > ถนนรัชดา-รามอินทรา >Siamese Kin รามอินทรา 2
เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนเกษตร-นวมินทร์ ฝั่งขาออกมุ่งหน้าไปทางวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ทางฝั่งซ้ายมือเราจะผ่าน Design Village ค่ะ
จากนั้นให้เราชิดซ้ายไปทางถนนรัชดา-รามอินทรา
แล้วเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าถนนรัชดา-รามอินทราค่ะ
พอเข้าถนนรัชดา-รามอินทรามาแล้ว ทางฝั่งซ้ายมือเราจะผ่าน รพ.นวเวช
จากนั้นให้เราวิ่งตรงไปบนถนนรัชดา-รามอินทราแล้วขึ้นสะพานยกระดับไปทางกาญจนาภิเษก
ลงมาจากสะพานยกระดับทางฝั่งซ้ายมือเราจะผ่าน The Junction
ตรงต่อไปเรื่อย ๆ ให้เราขึ้นสะพานยกระดับข้างหน้าไปทางถนนกาญจนาภิเษกอีกครั้ง
บนสะพานยกระดับให้เราลงทางออกซ้ายไปทางถนนกาญจนาภิเษก
พอลงมาจากสะพานแล้วให้เราชิดขวาเพื่อกลับรถใต้สะพานยกระดับ
พอกลับรถมาแล้วให้เราชิดซ้ายตรงซอยรามอินทรา 64 โครงการ Simese Kin รามอินทรา 2 จะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของเราแล้วค่ะ
ภาพบรรยากาศบริเวณทางเข้าโครงการ Siamese Kin รามอินทรา 2
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ
โครงการ Siamese Kin รามอินทรา (เฟส 1 และเฟส 2) จะพัฒนาอยู่บนพื้นที่โครงการประมาณ 17-3-23.96 ไร่ สำหรับเฟส 2 (เส้นประสีแดง) มีพื้นที่ 3-0-44 ไร่ ตัวโครงการเข้า-ออกได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากถนนรัชดา-รามอินทรา (ทางเข้าหลัก) และถนนสวนสยาม (ทางเข้ารอง) รอบ ๆ โครงการจะมีคอนโดมิเนียมในเครือเดียวกัน และหมู่บ้านจัดสรรใกล้เคียง บรรยากาศได้ความเป็นส่วนตัวสูง แต่ยังได้ความสะดวกสบายเพราะอยู่ติดถนนใหญ่เลยค่ะ
รอบโครงการ
- ทิศเหนือ ติดกับ ถนนรัชดา-รามอินทรา
- ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัย
- ทิศตะวันออก ติดกับ หมู่บ้านจัดสรร
- ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินบุคคลอื่น
ตัวโครงการ
เราเข้าไปดูบรรยากาศภายในโครงการ Siamese Kin รามอินทรา 2 กันเลยค่ะ เฟสที่เราจะพาไปชมคือเฟส 2 นะคะ
ด่านแรกเราจะต้องผ่านระบบ Double Gate Security ก่อน เป็นซุ้มทางเข้าโครงการขนาดใหญ่มีป้อม รปภ. คั่นตรงกลางพร้อมกล้อง CCTV และรั้วอัตโนมัติที่ลูกบ้านสามารถผ่านเข้า-ออกได้ด้วยระบบ Access Card
ส่วน Visitor จะต้องทำการแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ รปภ. ก่อนทุกครั้ง ซึ่งในปัจจุบันทางโครงการยังทำการเปิดขายอยู่ จึงมีการใช้รั้วกั้นจราจรร่วมด้วย แต่ภายหลังการขายก็จะปิดรั้วสูงตลอดเวลาค่ะ
ตรงเข้ามาภายในโครงการจะเข้าสู่ส่วนถนนหลัก Boulevard เป็นการออกแบบถนนหลักกว้างถึง 19 ม. มีเกาะกลางถนนแยกการจราจรฝั่งขาเข้า-ออกอย่างชัดเจน และปลูกต้นหางนกยูงให้ทั้ง 2 ฝั่งเป็นอุโมงค์ต้นไม้ให้ตลอดทั้งโครงการเลย ได้บรรยากาศที่ร่มรื่น เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยมาก ๆ
ตรงเข้าไปจะเจอ Gate ที่ 2 ก่อนเข้าสู่โซนพักอาศัยจริง ๆ จุดนี้ก็จะมีป้อม รปภ., กล้อง CCTV และรั้วอัตโนมัติที่เข้า-ออกด้วยระบบ Key Card Access เช่นกัน
พอผ่าน Gate ที่ 2 มาแล้วจะเข้าสู่โซนพักอาศัย บรรยากาศภายในโครงการร่มรื่นน่าอยู่ และเราจะสังเกตเห็นว่าทัศนียภาพของโครงการจะดูสะอาดตามากกว่าโครงการอื่น ๆ เพราะมีการเดินระบบไฟฟ้าลงดินให้ทั้งหมดนั่นเอง
ที่เป็น Highlight นึงของโครงการนี้ก็คือการวางผังแบบ Cluster Home โดยจากถนนหลัก Boulevard จะเชื่อมต่อกับซอยย่อย ซึ่งแต่ละซอยย่อยจะมีการกั้นด้วยรั้วเลื่อนอีก 1 ชั้น เปิด-ปิดได้ด้วยการใช้รีโมตคอนโทรล ทำให้ได้การอยู่อาศัยแบบเป็นส่วนตัวสูงสุด
ที่รั้วมีการดีไซน์ประตูสำหรับคนเดินเข้า-ออกด้วยระบบ Passcode
และมีตู้จดหมายติดตั้งมาให้จุดเดียวเรียบร้อยเลยค่ะ เพราะฉะนั้นคนนอกจะไม่สามารถเดินผ่านเข้ามาได้เลยถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้าน
สำหรับเฟส 2 นี้จะมีบ้านเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 205-206 ตร.ม.
และมีบ้านแฝด พื้นที่ใช้สอย 194 ตร.ม. อยู่แยกซอยกัน
นอกจากนี้บริเวณท้ายโครงการฝั่งถนนสวนสยามจะมีสวนพักผ่อนจัดมาให้ด้วยนะคะ ภายในสวนลงต้นไม้ใหญ่ให้เยอะ ได้ความร่มรื่นมาก ๆ
ภายในมีทางเดินใช้เดินเล่นพักผ่อนหรือ Jogging เบา ๆ ไปรอบ ๆ สระน้ำได้ นอกจากนี้ก็ยังมีมุมนั่งเล่นพักผ่อนจัดเอาไว้ให้ตามร่มเงาไม้อีกด้วยค่ะ
แบบบ้าน
โครงการ Siamese KIN รามอินทรา 2 มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ดังนี้
ภาพแปลนบ้าน
- บ้านแฝด 2 ชั้น หน้ากว้าง 7.6 ม.
- ที่ดินเริ่มต้น 35.8-2.8 ตร.ว.
- พื้นที่ใช้สอย 194 ตร.ม.
- ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม.
- ที่ดิน 23.3-50.8 ตร.ว.
- พื้นที่ใช้สอย 205-206 ตร.ม.
- ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2 | แปลนบ้านชั้น 3
บ้านตัวอย่าง
วันนี้เราจะพาชมบ้านทั้ง 2 แบบของโครงการค่ะ
ความน่าสนใจของบ้านโครงการนี้ก็คือ เป็นบ้านที่ใช้วัสดุคุณภาพและประหยัดพลังงาน โดยได้รับ Green Certificate, The 1st Edge Champion Thailand ซึ่งเป็นมาตรฐานอาคารเขียวและวัดผลการก่อสร้างอย่างยั่งยืนจากสถาบัน IFC ซึ่งเป็นสถาบันระดับโลก
ตัวบ้านมาพร้อมนวัตกรรมการอยู่อาศัย ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- Air Ventilation ระบบหมุนเวียนอากาศในบ้านตลอด 24 ชม. พร้อมกรองอากาศ 3 ชั้น ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 ลดแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์ 2 จุดในบ้าน (ให้ลูกบ้านเลือกจุดที่จะติดตั้งเองได้)
-
Smell Protection ระบบแยกท่ออากาศของท่อน้ำทิ้งทั่วไปออกจากท่อน้ำทิ้งชักโครก ช่วยป้องกันกลิ่นจากโถชักโครกย้อนกลับขึ้นมาผ่านทางอ่างล้างหน้าหรือท่อระบายน้ำ
-
Heat Resistance กระจกคุณภาพสูงสะท้อนความร้อน ป้องกันรังสีความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน ช่วยลดอุณหภูมิให้บ้านเย็นอยู่สบาย
-
Sound Proof ด้วย Door & Window Seal ช่วยลดทอนและซับเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
Solar Cell เปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศได้ทั้งวันโดยไม่ต้องกลัวเปลืองค่าไฟ (ทาวน์โฮม 3.3 kW. / บ้านแฝด 4.4 kW.)
- EV Charger รองรับการใช้งานรถยนต์ Hybrid และรถยนต์ไฟฟ้า
- Security System มี IP Camera 2 จุด บริเวณโรงจอดรถและ Living Area, Door & Window Sensor, Smart Siren และ Home Automation ควบคุมอุปกรณ์ระบบรักษาความปลอดภัยผ่าน Application
บ้านตัวอย่าง บ้านแฝด 2 ชั้น หน้ากว้าง 7.6 ม. พื้นที่ใช้สอย 194 ตร.ม.
เราเริ่มต้นจากบ้านแฝด พื้นที่ใช้สอย 194 ตร.ม. กันค่ะ ตัวบ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Japanese ดูเป็นบ้านแบบญี่ปุ่นที่เน้นความเรียบง่าย ดู Homey ด้วยหลังคาทรง Gable และโทนสีขาวกับสีน้ำตาลอ่อนจากระแนงไม้เทียมตกแต่ง โครงสร้างบ้านใช้ระบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบา มีความคงทนแข็งแรงทนทาน ช่วยป้องกันเสียงและความร้อนจากภายนอก
บริเวณหน้าบ้านจะมีรั้วบ้านแบบบานเฟี้ยมติดรางเลื่อนสีขาว ออกแบบตัวรั้วให้ไม่สูงมากเพื่อให้บริเวณบ้านดูโปร่งสบาย แต่ยังได้ความเป็นส่วนตัว
แปลนบ้านชั้น 1 บริเวณโรงจอดรถจอดรถได้ 2 คันในร่ม ฝั่งข้างบ้านมีเฉลียงเชื่อมต่อไปยังประตูทางเข้าบ้านหลัก โดยออกแบบให้เข้าด้านข้างตัวบ้าน เข้าไปภายในบ้านเราจะเจอฟังก์ชัน Genkan เป็นโถงทางเข้าบ้านสำหรับถอดรองเท้า เชื่อมต่อกับห้องน้ำแขกและห้องนอนชั้นล่างฝั่งหน้าบ้าน และเชื่อมต่อกับ Living & Dining Area, ห้องครัว และลานซักล้างที่ฝั่งหลังบ้าน โดยมีโถงบันไดอยู่ช่วงกลางบ้านค่ะ
แปลนบ้านชั้น 2 มีห้องนั่งเล่นพักผ่อนเป็นโถงตรงกลางที่เชื่อมกับ Master Bedroom พร้อมห้องน้ำในตัวฝั่งหน้าบ้าน, ห้องน้ำชั้น 2, ห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ฝั่งหลังบ้าน โดยห้องนอนแต่ละห้องสามารถวางเตียงนอนไซซ์ 5-6 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์หลักอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว
เราไปดูบ้านตัวอย่างกันค่ะ พอเข้าไปภายในโรงจอดรถจะมีการลงเสาเข็มแบบปูพรมให้ลึก 4 ม. แยกโครงสร้างจากตัวบ้านหลัก มีเฉลียงทางเข้าบ้านทางฝั่งซ้ายเพื่อเข้าสู่ประตูทางเข้าบ้านหลัก
สำหรับเฉลียงทางเข้าบ้านและประตูหลักจะถูกออกแบบให้เข้าจากฝั่งข้างบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัว เป็นข้อนึงที่แตกต่างจากโครงการอื่น ๆ ที่มักจะโชว์ประตูทางเข้าบ้านเอาไว้ที่ฝั่งหน้าบ้านเลย พื้นเฉลียงปูด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติโทนสีเทาเข้มผิวด้านกันลื่นขนาด 30 x 60 ซม.
ส่วนประตูทางเข้าบ้านใช้ประตูบานสวิง ตัวบานเป็นอะลูมิเนียมลายไม้ดูสวยงาม มีความทนทานสูง ที่บานประตูจะมี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้ ใช้งานได้ 3 ระบบ ทั้งการสแกนลายนิ้วมือ, การใช้รหัสผ่าน และการใช้คีย์การ์ด
ด้านข้างประตูฝั่งในบ้านมีโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับป้อม รปภ. ติดตั้งมาให้ด้วยนะคะ เผื่อเวลามีแขกมาเยี่ยมก็สามารถโทรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ รปภ. ก่อนได้เลย
พอเข้ามาภายในบ้านแล้วฟังก์ชันส่วนแรกก็คือ Genkan เป็นมุมสำหรับถอดและเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบ้านแบบญี่ปุ่น สเต็ปของพื้นจะยังต่ำกว่าระดับพื้นบ้านจริงเล็กน้อย และปูด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติแบบเดียวกับพื้นเฉลียงเพื่อกันฝุ่นและกันน้ำ เพื่อสุขอนามัยที่ดีในการอยู่อาศัยและง่ายต่อการทำความสะอาดนั่นเองค่ะ
พอเข้ามาภายในตัวบ้านแล้วจะปูพื้นด้วย SPC ลายไม้ ให้สัมผัสที่คล้ายไม้ เหมาะสำหรับการพักผ่อน และยังมีความทนทานสูง ผนังภายในบ้านฉาบเรียบทาสีติดวอลล์เปเปอร์ให้ทั้งหลัง ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคม Downlight มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 ม. ทั้ง 2 ชั้นค่ะ
เรามาเริ่มจากพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านกันก่อน ทางโครงการวางแปลนบ้านเป็นห้องน้ำแขกและห้องนอนชั้นล่าง
ห้องน้ำรับแขกออกแบบมาเป็น Powder Room ได้พื้นที่แบบโปร่ง ๆ ใช้งานสะดวก ภายในตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนโทนสีเทาแผ่นใหญ่ สุขภัณฑ์ใช้ของแบรนด์ Cotto ทั้งหมด ที่เห็นในห้องนี้จะเป็นรุ่นมาตฐานที่ใช้ทั้งบ้านค่ะ
เป็นอ่างล้างมือแบบแขวนผนังพร้อมกระจกเงาและก๊อกน้ำแบบก้านโยก
โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
สำหรับห้องนอนชั้นล่างจะเหมาะสำหรับการทำเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ ตำแหน่งห้องถูกวางเอาไว้หน้าบ้านใกล้กับบริเวณประตูทางเข้า-ออก เพื่อให้ผู้สูงอายุเดินเข้า-ออกได้ง่าย ระยะเดินไม่ไกลจนเกินไป พื้นห้องปูด้วย Soft Floor ช่วยลดแรงกระแทกหากเกิดการหกล้ม โดยรอบห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ให้ทั้ง 2 ฝั่งเพื่อรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้อย่างเต็มที่
โดยพื้นที่ของห้องนั้นสามารถวางโต๊ะ-ตู้-เตียงนอนไซซ์ 3-5 ฟุตได้ลงตัวนะคะ นอกจากนี้เรายังสามารถปรับการใช้งานของห้องให้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้อีกด้วย อย่างบ้านตัวอย่างก็ตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน ทำได้ลงตัวเหมือนกัน
นอกจากนี้การออกแบบของห้องนอนชั้นล่างยังมีความเป็น Senior-Friendly ด้วยระดับพื้นห้องและห้องน้ำในตัวที่เสมอกันทั้งหมด และยังเลือกใช้ประตูบานเลื่อนเพื่อให้ผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นสามารถเปิดประตูเองได้ง่ายอีกด้วย
พื้นที่ภายในห้องน้ำมีความกว้างขวางมากเป็นพิเศษเพื่อให้รองรับการใช้งานรถเข็นได้ พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนโทนสีเทา สุขภัณฑ์ใช้ของแบรนด์ Cotto รุ่นมาตรฐานของบ้าน
มีอ่างล้างมือแบบแขวนผนัง
โถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
พื้นที่โซน Shower ขนาดใหญ่ มีหน้าต่างระบายอากาศติดตั้งมาให้
และบริเวณผนังจะมีชุด Hand Shower และเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้แล้ว
คราวนี้เราไปดูฟังก์ชันฝั่งหลังบ้านกันต่อค่ะ
พื้นที่ Living & Dining Area จะเชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่โถงกลางบ้านโปร่ง ๆ ขนาดใหญ่แบบนี้ รอบ ๆ มีประตู-หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่รับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ พวกประตูและหน้าต่างนี้ใช้บานกรอบอะลูมิเนียมติดกระจกสะท้อนความร้อนพร้อม Door & Window Seal กันเสียงรบกวนจากภายนอก เพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน
การใช้สอยพื้นที่จะได้ความอิสระ สามารถจัดแบ่งขนาดของฟังก์ชันได้ตามต้องการเลยค่ะ ส่วนแรกจัดเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่แบบนี้ ดูโปร่งสบายมาก
บ้านตัวอย่างวางโซฟา L Shape และโต๊ะรับแขก รองรับได้ประมาณ 3-4 ที่นั่ง ซึ่งจากพื้นที่ของห้องแล้วเรายังเพิ่มพวกอาร์มแชร์เข้าไปได้อีก 1-2 ตัวเลยค่ะ ส่วนพื้นที่ด้านข้าง Genkan ก็ Built-in เป็นชั้นวางของโปร่ง ๆ เพื่อทำให้บ้านได้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น และยังวางของตกแต่งได้ในเรื่องของความสวยงามอีกด้วย
ฝั่งตรงข้ามมีผนังทึบกั้นระหว่างโถงบันได มีการเดินงานระบบต่าง ๆ ให้เรียบร้อยสามารถติดตั้งทีวีและวางชั้นวางทีวีได้ ระยะนี้ดูทีวีจอขนาด 80 นิ้วได้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีห้องเก็บของเป็นพื้นที่ใต้โถงบันไดเตรียมมาให้ด้านข้างด้วย โดยประตูทางเข้าห้องจะมีความสูงเท่าประตูไซซ์มาตรฐาน ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกค่ะ
ถัดไปฝั่งหลังบ้านเป็นส่วนของห้องรับประทานอาหารและห้องครัว
บ้านตัวอย่างจัดชุดโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย กำลังลงตัวกับพื้นที่บ้าน แต่ถ้าบ้านหลังนี้มีแขกหรือเพื่อนมาทานข้าวด้วยบ่อย ๆ จะขยายเป็น 8 ที่นั่งก็ยังลงตัวนะ
บริเวณพื้นที่ห้องครัวมีการเดินระบบท่อน้ำมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ดีไซน์เป็นครัวฝรั่งเป็นเคาน์เตอร์ I Shape กับ Island ขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ
เปิดประตูบานเลื่อนฝั่งหลังบ้านออกไปจะเป็นพื้นที่ลานซักล้างนะคะ จะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ
บ้านตัวอย่างตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียแบบนี้
ภาพบรรยากาศภายในตัวบ้านอีก 1 มุม
เราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ สำหรับบันไดใช้โครงสร้าง คสล. ปิดผิวด้วยไม้ยางประสาน ดีไซน์ราวจับบันไดติดผนังด้านข้าง
ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมี Family Area อยู่ตรงกลาง เชื่อมต่อระหว่างห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำชั้นบน และยังมีมุมอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเป็นตู้เก็บของและหิ้งพระได้
มุม Family Area ถือเป็นอีกมุมพักผ่อนของครอบครัว จัดเป็นมุมพักผ่อนดูทีวีด้วยกันก่อนเข้านอนได้ นอกจากนี้ยังปรับเป็นมุมห้องสมุดในบ้านได้อีกด้วยค่ะ
เราเข้ามาดูภายใน Master Bedroom ที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านกันก่อน ได้พื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่โปร่งสบาย วางเฟอร์นิเจอร์ไซซ์ใหญ่ ๆ แล้วก็ยังเหลือพื้นที่รอบ ๆ ที่เดินผ่านได้สะดวก
บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้าง และชั้นวางทีวีฝั่งปลายเตียงกำลังลงตัว
บริเวณฝั่งระเบียงหน้าบ้านตกแต่งเป็นมุมแต่งตัว วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ได้
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน แบ่งโซนเปียก-โซนแห้งอย่างเป็นสัดส่วน และใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto รุ่นมาตรฐานของบ้าน ในส่วนของ Shower Screen บ้านตัวอย่างติดตั้งมาให้ดูเป็นไอเดีย เราสามารถติดตั้งเพิ่มเติมเองได้ไม่ยากค่ะ
มีอ่างล้างมือแขวนผนัง
โถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
โซน Shower มีธรณีกั้นส่วนขึ้นมาเพื่อกันน้ำไหลย้อน ได้พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างกำลังดี
ด้านในมีหน้าต่างระบายอากาศ และมีชุด Rain Shower & Hand Shower ติดตั้งมาให้
พื้นที่บริเวณระเบียงจะยังมีชายคาคลุมกันแดดกันฝน และมีผนังปิด 2 ด้านทำให้ได้เป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor เหมาะสำหรับจัดเป็นมุมพักผ่อน ตกแต่งด้วยสวนกระถางเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศได้
สำหรับห้องน้ำชั้นบนบริเวณกลางโถงจะเป็นแชร์การใช้งานระหว่างห้องนอน 2 และ 3 ภายในห้องแบ่งโซนเปียก-โซนแห้ง และมีสุขภัณฑ์ให้ครบครันเป็นรุ่นมาตรฐานของบ้าน ใช้งานได้สบายค่ะ
ภายในห้องนอน 2 ห้องฝั่งหลังบ้านจะมีพื้นที่ที่ใกล้เคียงกันเลยค่ะ ห้องแรกจัดเป็นห้องนอนของลูกคนโต
พื้นที่ภายในห้องวางเตียงนอนไซซ์ 5 ฟุตได้
และยังมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้าได้พอดี
สำหรับห้องนอนอีกห้องจัดเป็นห้องนอนของลูกคนเล็ก ห้องนี้วางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดีย
พื้นที่ที่เหลือสามารถวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ลงตัวเช่นกันค่ะ แต่จะได้ความโปร่งมากขึ้น
บ้านตัวอย่าง ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม. พื้นที่ใช้สอย 205-206 ตร.ม.
เรามาดู ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 205-206 ตร.ม. กันต่อค่ะ ตัวบ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Japanese ดูเรียบง่ายและ Homey ด้วยโทนสีขาวกับสีน้ำตาลอ่อนจากระแนงไม้เทียมตกแต่ง โครงสร้างบ้านใช้ระบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบาเช่นกัน
แปลนบ้านชั้น 1 บริเวณโรงจอดรถจอดรถได้ 2 คันในร่ม เชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้าบ้าน เข้าไปภายในบ้านเราจะเจอฟังก์ชัน Genkan เป็นโถงทางเข้าบ้านสำหรับถอดรองเท้า เชื่อมต่อกับ Living & Dining Area และห้องครัว และจากห้องครัวออกไปฝั่งหลังบ้านจะได้พื้นที่สวนหลังบ้านขนาดใหญ่ ส่วนห้องน้ำรับแขกและโถงบันไดจะอยู่ช่วงกลางบ้านค่ะ
แปลนบ้านชั้น 2 มีห้องนั่งเล่นพักผ่อนขนาดใหญ่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนฝั่งหลังบ้านจะเป็น Master Bedroom พร้อมห้องน้ำในตัว
แปลนบ้านชั้น 3 มีห้องนอน 2 และห้องนอน 3 พร้อมห้องน้ำในตัว โดยห้องนอนแต่ละห้องสามารถวางเตียงนอนไซซ์ 5-6 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์หลักอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว เหมือนเป็น Master Bedroom ทุกห้อง
พอเข้าไปภายในโรงจอดรถจะมีการลงเสาเข็มแบบปูพรมให้ลึก 4 ม. แยกโครงสร้างจากตัวบ้านหลัก มีเฉลียงทางเข้าบ้านยกระดับขึ้นมาปูด้วยกระเบื้อง
ส่วนประตูทางเข้าบ้านใช้ประตูบานสวิง ตัวบานเป็นอะลูมิเนียมลายไม้พร้อม Digital Door Lock
พอเข้ามาภายในบ้านแล้วฟังก์ชันส่วนแรกก็คือ Genkan เป็นมุมสำหรับถอดและเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบ้านแบบญี่ปุ่น สเต็ปของพื้นจะยังต่ำกว่าระดับพื้นบ้านจริงเล็กน้อย และปูด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติ
จากนั้นจะเชื่อมต่อเข้าไปยัง Living & Dining Area โดยจะมี Living Area อยู่บริเวณหน้าบ้านเลยค่ะ ภายในตัวบ้านปูพื้นด้วย SPC ลายไม้ ผนังภายในบ้านฉาบเรียบทาสีติดวอลล์เปเปอร์ให้ทั้งหลัง ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคม Downlight มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 ม. ทั้ง 2 ชั้น
พื้นที่ห้องนั่งเล่นได้ขนาดกำลังดี วางโซฟาไซซ์ใหญ่ L Shape และโต๊ะรับแขก รองรับได้ประมาณ 3-4 ที่นั่ง ฝั่งตรงข้ามมีผนังทึบกั้นระหว่างโถงบันได มีการเดินงานระบบต่าง ๆ ให้เรียบร้อยสามารถติดตั้งทีวีและวางชั้นวางทีวีได้
เข้าไปด้านในเชื่อมสู่ Dining Area บริเวณนี้มีพื้นที่ใช้สอยที่สามารถปรับการใช้งานได้อย่างอิสระเลยค่ะ บ้านตัวอย่างตกแต่งมาเป็นชั้นวางหนังสือและเคาน์เตอร์อเนกประสงค์
พื้นที่บริเวณโซน Dining Area จะได้ความกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ส่วนนี้เราสามารถวางชุดโต๊ะตัวใหญ่ ๆ ขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบาย
โดยที่ผนังฝั่งข้างบ้านยังสามารถเพิ่มเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่ในการเตรียมอาหารแบบง่าย ๆ ได้อีกด้วย อย่างพวกอาหารเช้า ขนมปังปิ้ง กาแฟ ออมเล็ต เป็นต้น
จาก Dining Area จะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังห้องครัวฝั่งหลังบ้านได้ ถือเป็นทาวน์โฮมที่มีฟังก์ชันครบจริง ๆ ไม่ต้องต่อเติมห้องครัวเพิ่มเอง โดยเราได้พื้นที่ห้องครัวมาขนาดใหญ่เลยนะ พวกระบบท่อต่าง ๆ จะเดินเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วให้เรา Built-in เคาน์เตอร์ครัวเพิ่มได้เลย ส่วนพื้นจะปูด้วยกระเบื้องลายไม้เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
มุมเคาน์เตอร์ครัวที่บ้านตัวอย่างตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย
อีกฝั่งมีประตูเปิดออกไปยังสวนหลังบ้านได้ ซึ่งข้อดีอีกข้อของทาวน์โฮมที่นี่ก็คือ จะได้ที่ดินเริ่มต้นมาขนาดใหญ่พอสมควร บ้านทุกหลังจะได้พื้นที่สวนส่วนตัวหลังบ้านแบบนี้ด้วย บ้านตัวอย่างเลยตกแต่งเป็นมุมนั่งทานข้าวง่าย ๆ อีก 1 มุม
เรากลับเข้ามาภายในโถงหลักของบ้าน สำหรับห้องน้ำรับแขกจะอยู่ด้านข้างโถงบันไดค่ะ บริเวณใต้บันไดจะมีห้องเก็บของมาให้ด้วย
สำหรับห้องน้ำรับแขกออกแบบมาเป็น Powder Room ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติ ใช้สุขภัณฑ์แบรนด์ Cotto รุ่นมาตรฐานของบ้าน มีอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ให้ครบตามการใช้งาน
เราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ สำหรับบันไดใช้โครงสร้าง คสล. ปิดผิวด้วยไม้ยางประสาน ดีไซน์ราวจับบันไดติดผนังด้านข้าง
ขึ้นมาบนชั้น 2 แล้วเรามาดูฟังก์ชันฝั่งหน้าบ้านกันก่อน บ้านที่นี่ออกแบบให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ เราสามารถปรับการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของครอบครัวเราเลย จะใช้เป็นห้องพักผ่อนครอบครัวอีกห้อง หรือจะเป็นห้องสำหรับการทำงาน หรืองานอดิเรกก็ได้
บ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องสำหรับการดื่มชาและมุมเล่นหมากล้อมญี่ปุ่นเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของบ้าน
ส่วนฝั่งหลังบ้านจะเป็น Master Bedroom ค่ะ
Master Bedroom ได้พื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่โปร่งสบาย วางเฟอร์นิเจอร์ไซซ์ใหญ่ ๆ แล้วก็ยังเหลือพื้นที่รอบ ๆ ที่เดินผ่านได้สะดวก
ฝั่งด้านในห้องวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้าง และชั้นวางทีวีฝั่งปลายเตียง กำลังลงตัว
ส่วนมุมด้านหน้าห้องจัดเป็นมุมแต่งตัวขนาดใหญ่ วางตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่งพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้
ภายในห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำให้ในตัวแล้ว ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน แบ่งโซนเปียก-โซนแห้งอย่างเป็นสัดส่วน และใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto รุ่นมาตรฐานของบ้าน ในส่วนของ Shower Screen บ้านตัวอย่างติดตั้งมาให้ดูเป็นไอเดีย เราสามารถติดตั้งเพิ่มเติมเองได้ไม่ยาก
มีอ่างล้างมือแขวนผนัง
โถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
โซน Shower มีธรณีกั้นส่วนขึ้นมาเพื่อกันน้ำไหลย้อน ได้พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างกำลังดี และมีชุด Rain Shower & Hand Shower ติดตั้งมาให้
เราขึ้นมาบนชั้น 3 กันต่อค่ะ ชั้นนี้จะเป็นส่วนของห้องนอน 2 และห้องนอน 3 มีพื้นที่โถงอเนกประสงค์ตรงกลางสามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นเล็ก ๆ หรือมุมหิ้งพระได้ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบ Skylight บริเวณโถงบันไดเพื่อรับแสงธรรมชาติในเวลากลางวันให้อีกด้วย ช่วยประหยัดไฟได้ดีเลย
มาดูห้องนอนฝั่งหน้าบ้านกันก่อนค่ะ การตกแต่งในห้องนี้จะอิงสไตล์ญี่ปุ่นด้วยการวางฟูกที่นอนบนพื้น แต่มีการยกระดับขึ้นมาเพื่อความเป็นสัดส่วน
ฐานเตียงนอนทำเป็นไซซ์สำหรับรองรับฟูก 5 ฟุต มีพื้นที่ข้างเตียงทำเป็นโต๊ะข้างสำหรับวางของและโต๊ะเขียนหนังสือ
ส่วนอีกฝั่งของห้องบริเวณโถงด้านหน้าห้องน้ำสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้แบบนี้
ภายในห้องแบ่งโซนเปียก-โซนแห้ง และมีสุขภัณฑ์ให้ครบครันเป็นรุ่นมาตรฐานของบ้าน ใช้งานได้สบายค่ะ
และห้องสุดท้ายเป็นห้องนอนฝั่งหลังบ้าน มีขนาดของห้องเท่า ๆ กันเลย ตกแต่งเป็นห้องนอนสำหรับเด็กเล็ก วางเตียงนอนไซซ์ 5 ฟุต พื้นที่ที่เหลือทำเป็นมุมสำหรับนั่งเล่น
ส่วนอีกฝั่งของห้องบริเวณโถงด้านหน้าห้องน้ำสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เหมือนกัน
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวกสบาย
ราคา (พ.ค. 67)
- ทาวน์โฮม ราคาเริ่มต้น 6.49 ล้านบาท*
- บ้านแฝด ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท*
- เงินจอง 50,000 บาท*
- เงินทำสัญญา 50,000 บาท*
- ส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท*
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ว./เดือน
- เงินกองทุน 400 บาท/ตร.ว.
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://bit.ly/3xWjy1K
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Siamese Kin รามอินทรา 2 ตั้งอยู่ใจกลางย่านรามอินทรา ตรงซอยรามอินทรา 64 ติดถนนรัชดา-รามอินทรา ภาพรวมของทำเลเป็นทำเลที่มีความสะดวกเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย เพราะสามารถเดินทางเชื่อมต่อทางเข้า-ออกเมืองหรือวิ่งไปโซนอื่น ๆ ได้ง่าย จะใช้รถไฟฟ้าก็สะดวกเพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู มีบรรยากาศการอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัว และยังอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น เช่น Fashion Island, The Promenade, Central Eastville, รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2, รร.สารสาสน์ วิเทศนิมิตใหม่, ม.เกษตรศาสตร์, รพ.สินแพทย์, รพ.นพรัตนราชธานี และ รพ.พญาไท นวมินทร์ เป็นต้นค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว ความได้เปรียบของทำเลโครงการคือสามารถเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งจากฝั่งถนนรัชดา-รามอินทรา และจากฝั่งถนนสวนสยาม ทำให้มีทางหนีทีไล่ในการเดินทางพอสมควร จากโครงการเชื่อมต่อถนนหลักอย่าง ถนนรามอินทรา, ถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนเลียบด่วนรามอินทรา ได้ และยังอยู่ใกล้จุดขึ้นวแหวนกาญจนาภิเษกเพียง 1.5 กม.* และใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์เพื่อเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้า โครงการเชื่อมออกถนนรามอินทราได้ง่าย ซึ่งเป็นจุดที่มีรถสาธารณะผ่านค่อนข้างเยอะ โดยที่เด่น ๆ เลยก็คือรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา ห่างจากโครงการแค่ 1.5 กม.* สามารถใช้ต่อเข้าตัวเมืองได้ง่ายในวันที่ไม่ต้องการขับรถเอง
การออกแบบโครงการ, แบบบ้าน และวัสดุ จุดเด่นของโครงการที่หาไม่ได้ง่าย ๆ ในประเทศไทยก็คือการวางผังโครงการแบบ Cluster Home คือจากถนน Boulevard เชื่อมกับซอยย่อย จะยังมีการกั้นด้วยประตูรั้วที่ควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรลหลังจากผ่าน Double Gate Security มาแล้วถึง 2 ชั้น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด บรรยากาศภายในโครงการมีความร่มรื่นด้วยซุ้มต้นไม้ตั้งแต่ต้นโครงการไปจนถึงท้ายโครงการ ทำให้เป็นโครงการที่ดูน่าอยู่มาก
ส่วนบ้านพักอาศัยในเฟส 2 นี้จะเป็นบ้านแฝด 2 ชั้นและทาวน์โฮม 3 ชั้นในสไตล์ Modern Japanese ที่ไม่ได้มีแต่รูปลักษณ์หน้าตาของบ้านที่เหมือนญี่ปุ่น แต่ยังมีลักษณะของการแบ่งฟังก์ชันภายในบ้านอย่าง Genkan มาใช้ การออกแบบแปลนบ้านที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง มีความเรียบง่าย จัดฟังก์ชันได้ง่าย และโปร่งโล่งสบาย การใช้วัสดุภายในเลียนแบบไม้โทนสีอ่อน รวมไปถึงนวัตกรรมต่าง ๆ ภายในบ้านที่ช่วยยกระดับการใช้ชีวิตให้ได้สุขภาพที่ดี ประหยัดพลังงาน และสะดวกสบายเลย
โดยบ้านแฝดจะเป็นบ้านที่มีห้องนอนชั้นล่าง ออกแบบมาให้รองรับผู้สูงอายุได้ ส่วนทาวน์โฮมจะเป็นบ้านที่ได้ห้องนอนขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง และยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่บนชั้น 2 อีกด้วยค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย ภายในโครงการนี้ไม่ได้เน้น Facilities เหมือนโครงการอื่น ๆ แต่จะเน้นในเรื่องของบรรยากาศการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพตั้งแต่เข้ามาภายในโครงการด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม เก็บสายไฟลงดินทั้งหมด ได้ความร่มรื่นของต้นไม้ สวนพักผ่อน ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยที่หนาแน่นเป็นหลักตลอด 24 ชม. ถือว่าดีมากแล้วค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1306
Line : https://lin.ee/QvLgi2C
Website : https://bit.ly/3xWjy1K
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น