Tags : ตกแต่งภายใน

บ้านสไตล์คันทรี่แสนสวย งดงามตั้งแต่เฉลียงหน้าบ้าน ใน Oregon – ลักษณะบ้านสองชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมห้องครัว ห้องพักผ่อน ห้องรับแขก ห้องทำงาน และระเบียง – พื้นที่ใช้สอย 112 ตร.ม. ราคาประมาณ 1.3 ล้านบาท บ้านสไตล์คันทรี่นั้นชวนให้เรานึกถึง ความเป็นอยู่ในช่วงวัยเด็ก ในบ้านที่มีคุณย่าคุณยาย จึงไม่แปลกใจเลยที่พอเราเติบโตขึ้น บางคนจึงหันมาปลูกสร้างบ้านที่มีความเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความสดใสและความทรงจำในวันเด็ก  บ้านที่จะนำมาเสนอวันนี้เป็นบ้านสไตล์คันทรี่ค่ะ ตกแต่งด้วยสีโทนเย็น

บ้านสไตล์ French Country ชนบทที่งดงาม ปลอดโปร่งฝีมือการตกแต่งจากศิลปิน เดี๋ยวนี้คนที่ทำงานในเมืองหลวง หรือเมืองใหญ่ทั่วโลก ต่างก็ถวิลหาบรรยากาศชนบท ต้นไม้ ป่าไม้ที่ร่มรื่นกันทั้งนั้น และโดยมากหากตั้งตัวได้ก็มักจะโยกย้ายไปหาที่อยู่กันให้ห่างไกลจากเมืองใหญ่ ดังเช่นบ้านหลังนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งค่ะ ที่คู่สามีภรรยาเจ้าของบ้าน ได้ซื้อหาเอาไว้แล้วลงมือลงแรงออกแบบตกแต่งเองทั้งหลัง น่าอยู่มาก ๆ เลยทีเดียว บ้านสไตล์ French Country หลังนี้ เป็นบ้านสไตล์โบราณโครงสร้างก่ออิฐฉาบปูนค่ะ ตัวบ้านมีเถาไม้เลื้อยรกครึ้ม  สวยสไตล์คันทรี่ อีกทั้งยังช่วยรักษาอุณหภูมิภายในบ้านได้ด้วยอีกส่วนหนึ่ง หน้าบ้านมีสนามหญ้าขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะเก้าอี้จัดปาร์ตี้ทานอาหารค่ำกันได้ในเวลาพลบค่ำ  มีชิงช้าหวายน่ารักสำหรับนั่งเล่นในเวลากลางวัน  แม้แต่ใต้ร่มชายคาบ้านก็ยังจัดตกแต่งเป็นโต๊ะสนามสำหรับทานอาหารหรือนั่งเล่นสบาย ๆ

ดึงธรรมชาติจากภายนอก เข้ามาตกแต่งภายในบ้าน บ้านกลางเมืองส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีพื้นที่ปลูกต้นไม้มากนัก หรือปลูกแต่ก็ต้องเอาไว้ที่สวนนอกบ้าน  เวลาอยู่ในบ้านก็เลยไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ดื่มด่ำกับความเขียวขจีของต้นไม้เท่าไรนัก วันนี้เราจึงนำเอาแบบบ้านที่ตกแต่ด้วยการดึงธรรมชาติและต้นไม้เข้ามาในบ้านได้มากขึ้น เป็นไกด์ไลน์ให้ผู้อ่านลองตกแต่งตามบ้างนะคะ ห้องนั่งเล่นไม่จำเป็นต้องแห้งแล้ง  ในเมื่อคุณสามารถจัดพื้นที่บนผนังไว้สำหรับปลูกต้นไม้ได้ หรือจะนำเอากระถางต้นไม้มาไว้ในห้องก็ช่วยได้เช่นกัน อีกทั้งสีสันของห้องที่เป็นโทนสีน้ำตาลขาว กับทั้งยังตกแต่งด้วยยังทำให้บ้านรู้สึกสบายน่าอยู่ขึ้นด้วย การตกแต่งภายในห้องครัวก็ยังใช้ไม้สวย ๆ ทั้งหน้าบานชุดครัว หรือโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้ทั้งชุด สวยงามนุ่มนวลด้วยไม้สีอ่อน ๆ  บนพื้นหินสีครีมดูสะอาดตา  ผนังด้านหลังยังติดตั้งแผงสำหรับปลูกต้นไม้แผงใหญ่เลยทีเดียวค่ะ เมื่อได้รับแสงสว่างจากหน้าต่างกระจกแล้วสบายตามากมายเลย ส่วนอีกหลังหนึ่งนั้นตกแต่งต้นไม้บนผนังเช่นกัน แต่นำเอาโครงสร้างไม้มาตกแต่งในบ้านเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งก็คือส่วนของบันไดนั่นเอง เป็นบันไดไม้สีขาวสะอาด และผนังภายในบ้านก็ตกแต่งด้วยไม้เสียส่วนใหญ่  เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในบ้านเลือกชิ้นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น  อย่างโซฟาสีเทาตัวโต เข้าคู่กับโต๊ะกาแฟทรงกลมสองตัวซ้อนกัน และยังมีสตูลไม้สองตัวด้านข้างอีก

บ้านสวยโมเดิร์น หลายรางวัลของนักออกแบบระดับโลก บ้านหลังนี้ออกแบบโดย D4 Designs ค่ะ ได้รับรางวัลมาหลายชิ้นโดนสถาบันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ก็คือ Douglas Paton  ด้วยรูปลักษณ์ของบ้านที่มีความสวยงามและการจัดตกแต่งภายนอกที่ลงตัวทำให้บ้านหลังนี้มีเอกลักษณ์ หรูหรา เสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของบ้านหลังนี้อยู่ผนังกรอบสี่เหลี่ยมสีดำที่อยู่เหมือนบริเวณทางเข้าบ้าน ด้านนอกปลูกสวนไว้ให้ความสดชื่น และให้ความรู้สึกต้อนรับ บ้านหลังนี้เป็นบ้านโครงสร้างสองชั้นค่ะ และสิ่งที่ดีที่สุดของบ้านหลังนี้ก็คือในเวลากลางวันนั้นบ้านจะมีความสว่างทุกมุมเพราะได้รับแสงธรรมชาติตลอดวัน บันไดคอนกรีตผิวเปลือยกับราวกันตกกระจกนิรภัยนั้นเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างชั้นหนึ่งและชั้นสอง ให้ลุคส์แบบดิบ ๆ  Industrial รวมไปถึงพื้นและเพดานก็เป็นคอนกรีตเปลือยผิวด้วยเช่นกัน บริเวณห้องรับรองแขกเรียบง่าย แต่สวยด้วยการตกแต่งจากรูปภาพที่มีเสน่ห์ ในส่วนของชั้นสองเมื่อเดินผ่านบันไดขึ้นไป จะพบกับทางเดินที่กั้นด้วยกระจกสั้น ๆ เป็นจุดที่สามารถมองออกนอกผนังกระจกของบ้านเพื่อรับชมวิวภายนอกได้  จากนั้นเมื่อเดินลึกเข้าไปถึงด้านในจะพบกับห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารค่ะ

กระท่อมเรียบเท่ โครงสร้างเรียบง่าย ราคาประหยัดบนทุ่งหญ้าในประเทศ Scotland – ลักษณะบ้านชั้นเดียว 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พร้อมห้องครัว ห้องพักผ่อน – พื้นที่ใช้สอย 75 ตร.ม. ราคาประมาณ 9.5 แสนบาท กระท่อมยุคใหม่หลังนี้แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็น่าอยู่ ปลูกสร้างอยู่บนผืนดินที่อบอุ่นใน Isle of Skye ทุ่งที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศ Scotland  รังสรรค์โดยสถาปนิกจาก Rural Design มีขนาดประมาณ

อพาร์ทเม้นท์ใต้หลังคา ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ ซ่อนความหวานจากกรุงมอสโคว์ อพาร์เม้นท์สไตล์ลอฟท์ก็เป็นที่นิยมในประเทศรัสเซียเช่นเดียวกันค่ะ แม้อพาร์ทเม้นท์หลังนี้จะอยู่บนชั้นที่ค่อนข้างสูงแต่ก็ได้เปรียบกว่าตรงที่มีห้องใต้หลังคาเจาะช่องแสงที่ให้ความสว่างมากกว่า มีลูกเล่นและลีลาการตกแต่งที่มากกว่าอีกด้วย การตกแต่งห้องนี้เลือกสีโทนสดใสและมีชีวิตชีวา พื้นปูด้วยไม้สีสวยสะอาด มุมห้องนั่งเล่นจัดวางโซฟาสีดำใต้ช่องแสงขนาดใหญ่บนหลังคา มีทีวีและชุดเครื่องเสียง นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้เดี่ยวหุ้มหนังอีกสองตัวตั้งอยู่ด้วย ส่วนของห้องครัวแยกไปต่างหากด้านหลัง ครบชุดด้วยเตาและชุดครัวสเตนเลส มีโต๊ะรับประทานอาหารทรงกลมสีขาวอยู่ในห้องนี้ด้วย ส่วนของห้องนอนใหญ่ Master Bedroom พื้นห้องปูพื้นไม้สีอ่อน ผนังในห้องทาสีขาวและสีเทาเป็นบางโซน  มีมุมนั่งเล่นบิ๊วอินโซฟาติดกับกำแพงมีหน้าต่างที่เจาะไว้บนหลังคาให้แสงแดดอ่อน ตัวโซฟาบุผ้าสีเทา กองหมอนสีดำ เทา และเมทัลลิค ส่วนโต๊ะกลางทำจากสเตนเลสขัดเงา มีแบ็คบีนน่ารักอีกใบอยู่ข้าง ๆด้วย ถัดไปอีกนิดเป็นส่วนของห้องครัวเล็ก ๆ ส่วนตัวค่ะส่วนนี้จะทาผนังเป็นสีเทาเพื่อให้ชุดเครื่องครัวสีขาวเด่นขึ้น

บ้านเรียบเท่แต่งเฟอร์นิเจอร์สีดำยุคเรโทร จากประเทศแคนาดา Stephane  และ Phillippe Chamard  สองสามีภรรยาคู่นี้ย้ายจากปารีสมาทำงานช่วงระยะเวลาหนึ่งในกรุง Toronto ประเทศแคนาดาค่ะ  บ้านหลังนี้ความจริงแล้วก็เป็นบ้านเช่า แต่ด้วยความที่ทั้งสองคนเป็นดีไซเนอร์จึงไม่อยากให้บ้านที่ตัวเองอยู่อาศัยจืดชืด หรืออยู่แล้วแรงบันดาลใจหดหาย  ทั้งสองจึงตัดสินใจตกแต่งบ้านหลังนี้ให้ดูสวย เรียบแต่เท่ด้วยเฟอร์นิเจอร์สีดำ แอบแดงเป็นบางจุดช่วยกระชากอารมณ์ให้ร้อนแรงขึ้น บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าด้วยค่ะ ไม่มีใครอยู่มาได้เกือบสามสิบปีแล้ว จึงต้องตกแต่งภายในใหม่ด้วย  ทั้งสองเลือกทาสีผนังและเพดานบ้านด้วยสีขาว แล้วขัดพื้นไม้เสียใหม่  บริเวณโถงทางเข้าบ้านห้อยโคมไฟสีขาว มีสตูลสีส้มทรงกลมรอต้อนรับ เข้าไปด้านในเป็นห้องสำหรับนั่งเล่นพักผ่อน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ สไตล์เรโทรหลายชิ้น  เรียบเท่ด้วยโทนสีดำ แล้วยังห้อยโคมไฟกระจกทรงเหลี่ยมสีน้ำตาลไว้กลางห้องอีกด้วย บริเวณเตาผิงติดตั้งกระจกกรอบสีดำเข้าใหม่พร้อมกับติดตั้งชั้นหนังสือไว้ด้านข้างทั้งสองด้าน ด้านหลังโซฟาสุดเท่ตัวยาวตั้งหุ่นโชว์พร้อมภาพวาดขนาดใหญ่โทนสีขาวดำไว้อีกด้วย

บ้านชั้นเดียวที่ไร้ขอบเขต ระหว่างภายนอกกับภายใน ตอนแรกที่เห็นแบบบ้านหลังนี้แล้วก็ออกจะสับสนเล็กน้อยว่า.. เอ๊.. ตรงไหนกันนะที่เป็นตัวบ้าน แล้วตรงไหนกันแน่ที่เป็นสวน  แต่คำตอบก็มาเฉลยตรงที่ว่า สถาปนิกและมัณฑนากรผู้ออกแบบบ้านนั้นจงใจทำให้ขอบเขตระหว่างภายนอกกับภายในบ้านนั้นกลมกลืนกันนั่นเอง เป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ บ้านหลังนี้มีลักษณะเป็น Cluster ค่ะ คือบ้านแบบกลุ่มอาคาร ซึ่งออกแบบให้เป็นบ้านชั้นเดียวจับกลุ่มกันแล้วคั่นด้วยพื้นที่สวน บ่อเลี้ยงปลา และพื้นที่พักผ่อนอื่น ๆ  แบ่งออกเป็นสองอาคารได้แก่อาคารที่เป็นห้องนอน  อาคารที่เป็นห้องรับประทานอาหารและห้องพักผ่อน ซึ่งส่วนที่เป็นห้องรับประทานอาหารนั้นจะเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่กว่า ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหลากหลาย ดังเช่นด้านหลังโซฟาจะเป็นผนังหินแผงใหญ่ บริเวณนี้เจาะช่องบนเพดานให้แสงลอดผ่านเข้ามาได้  ผนังอีกด้านหนึ่งเป็นเตาผิงและชั้นโชว์ของขนาดใหญ่เต็มผนังเช่นกัน โซฟาสีครีมตัดกับโครงของชั้นหลังสือเตี้ย ๆ ด้านหลังสีน้ำตาลเข้ม สวยด้วยประติมากรรมผิวเมทัลลิคบนโต๊ะกลาง มาถึงส่วนของห้องนอนกันบ้าง ห้องนี้แยกอาคารออกมาต่างหากอีกชุดหนึ่ง

แต่งอพาร์ทเม้นท์ด้วยไม้ธรรมชาติ สวยน่าอยู่ ไม้คือหนึ่งในวัสดุพื้นฐานสำหรับงานตกแต่งที่เมื่อไร ๆ ก็ไม่เคยตกยุคสมัย  แต่นอกจากการปูพื้นด้วยไม้แล้ว  ดีไซเนอร์ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะได้นำไปตกแต่งพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของบ้านมากนัก แต่ในอพาร์ทเม้นท์หลังนี้ ทีมนักออกแบบจาก PartiDesign  ได้นำเอาความสวยงามของไม้ตามธรรมชาติมาบรรจงแต่มเติมลงไปแทบทุกส่วนของห้อง  ผลลัพท์ก็คืออพาร์ทเม้นท์ที่สวยสไตล์ทันสมัยด้วยวัสดุจากธรรมชาตินั่นเอง     เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องจะพบกับพื้นที่โล่งที่เป็นที่รวมของครอบครัว นับตั้งแต่โซฟานั่งเล่นติดกระจกด้านนอก พร้อมชุดโต๊ะทำงานด้านหลัง มีพื้นที่นั่งข้างหน้าต่าง Window Seat ด้วย ผนังด้านในบิ๊วอินเป็นชั้นและลิ้นชักเก็บหนังสือและของใช้ต่าง ๆ เต็มผนัง  พื้นและผนังปูด้วยไม้เต็มทั้งห้อง เช่นเดียวกับผนังอีกด้านที่ติดตั้งทีวีก็บิ๊วอินผนังไม้ไว้เช่นกัน ถัดเข้ามาด้านในเป็นห้องครัวที่ตกแต่งด้วยไม้เช่นกัน แล้วยังเลือกโต๊ะรับประทานอาหารเป็นไม้สีสวยทั้งชุดด้วย ห้อยโคมไฟสีขาวทรงเรขาคณิตสไตล์โมเดิร์น 

รีโนเวทบ้านเก่าในเมืองเชลซี ให้กลายเป็นบ้านใหม่สุดแซ่บ!!! “นักออกแบบหลายคน ขี้กลัวเกินกว่าจะกล้าใช้สีสด ๆ แต่งบ้าน แต่ฉันไม่ใช่พวกนั้น” นี่คือคำกล่าวของ Steven Favreau  ผู้ออกแบบบ้านหลังนี้และเธอก็เป็นเจ้าของบ้านด้วย บ้านหลังที่เธอรีโนเวทภายในเสียใหม่เพื่ออยู่อาศัยกับสามี Gary Decad จึงมีความสดใส เลือกใช้สีสุดแซ่บอย่างที่เห็น  บ้านหลังนี้มีพื้นที่กว่า 5,000 ตารางฟุต แบ่งออกเป็น 5 ห้องนอนและ 4 ½ ห้องน้ำ เป็นบ้านเก่าที่สร้างไว้ที่ Chelsea ตั้งแต่ปี 1832  เรียกได้ว่าบ้านโบราณเลยล่ะค่ะ