ใกล้ถนนราชพฤกษ์ แยกท่าพระและวงเวียนใหญ่ อยู่ในย่านชุมชน รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร, ตลาดสด และห้างสรรพสินค้า ใกล้รถไฟฟ้า MRT เพชรเกษม 48 ในระยะ 120 ม. และเพียง 1 สถานีถึงจุดเชื่อมต่อ BTS บางหว้า ใกล้ท่าเรือเพชรเกษม 31 ในระยะประมาณ 300 ม.
คอนโด THE BASE ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
THE BASE HEIGHT Chiang Mai
THE BASE สุขุมวิท 71
THE BASE Riverview (เจริญนคร)
THE BASE เพชรเกษม 29
THE BASE สุขุมวิท 50
THE BASE สุขุมวิท 77
THE BEST PARK EAST สุขุมวิท 77
THE BASE PARK WEST สุขุมวิท 77
THE BASE GARDEN พระราม 9
THE BASE พระราม 9-รามคำแหง
THE BASE เพชรบุรี-ทองหล่อ
THE BASE สะพานใหม่
THE BASE แจ้งวัฒนะ
ชื่อโครงการ
เดอะ เบส เพชรเกษม THE BASE Phetkasem
เจ้าของโครงการ
บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง โฟร์ทีน จำกัด
เนื้อที่ทั้งหมด
ประมาณ 3 ไร่
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
30 ชั้น
จำนวนห้อง
640 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom (S) : 23.00-24.50 ตร.ม.
1 Bedroom (M) : 31.00-32.50 ตร.ม.
2 Bedrooms : 44.00-52.75 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
ประมาณ 37% ไม่รวมซ้อนคัน
โซน
เพชรเกษม-บางแค
ขนส่งสาธารณะ
– รถไฟฟ้า BTS บางหว้า
– รถไฟฟ้า MRT เพชรเกษม 48 (ส่วนต่อขยาย)
รถโดยสารที่ผ่าน
n/a
ที่ตั้ง
ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.
กำหนดการ
– เริ่มก่อสร้าง มิ.ย. 2560
ปีที่สร้างเสร็จ
– คาดว่าแล้วเสร็จ ต้นปี 2563
ราคา
เริ่ม 1.99 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
90,000-120,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
– ค่าส่วนกลาง 57 บาท/ตร.ม.
– ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ร้าน 7-11 : 170 ม.
U Center : 800 ม.
Lotus Express : 1.1 กม.
ซีคอน บางแค : 1.5 กม.
ตลาดสดบางแค : 2.6 กม.
Lotus บางแค : 3.1 กม.
ตลาดพลู : 3.7 กม.
The Mall บางแค : 4.2 กม.
ขุนด่านเจ้าพ่อเสือ : 210 ม.
วัดอ่างแก้ว : 900 ม.
วัดพิกุล : 4.5 กม.
วัดกระโจมทอง : 5.4 กม.
วัดสะพาน : 5.9 กม.
ม.สยาม : 700 ม.
รร.ตรีมิตรวิทยา : 4.8 กม.
รร.บางแค : 5.4 กม.
สถานีตำรวจ ภาษีเจริญ : 2.9 กม.
สนง.เขตภาษีเจริญ : 2.1 กม.
รพ.เพชรเกษม 2 : 1.7 กม.
รพ.อินเตอร์เมด : 4.0 กม.
รพ.เกษมราษฎร์ บางแค : 5.3 กม.
MRT สถานีเพชรเกษม 48 (สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) : 120 ม.
BTS สถานีบางหว้า : 1.2 ม.
ท่าเรือเพชรเกษม 31 : 300 ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Lobby
Mailbox
Welcome Pavilion
Kids Play Ground
Co-working space
สระว่ายน้ำระบบเกลือ
ห้องออกกำลังกาย
สวนพักผ่อน
ห้องซักผ้า
Wi-Fi Internet
จุดบริการชาร์ตแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
Access Card Control
กล้องวงจรปิด
รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ
The Base คอนโดใหม่จาก แสนสิริ “ทุกโหมดของชีวิต” 120 เมตรจาก MRT เพชรเกษม 48
คอนโด MRT เพชรเกษม 48 / คอนโดติดรถไฟฟ้า MRT เพชรเกษม 48
คอนโดโดยรอบ MRT เพชรเกษม 48
คอนโดโดยรอบ MRT ภาษีเจริญ
คอนโดโดยรอบ MRT บางแค
คอนโดโดยรอบ MRT หลักสอง
ที่ตั้งโครงการ
ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.
พิกัด google map: 13°42’57.1″N 100°26’50.5″E
THE BASE เป็นแบรนด์คอนโดมิเนียม High Rise ของแสนสิริโดยเน้นจับตลาดกลาง ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70,000 – 100,000 บาท/ตารางเมตร ภาพด้านบนผมได้รวมโครงการ THE BASE ในเขตกรุงเทพฯมาให้ชมครับ โดยตัวแรกสุดคือ THE BASE สุขุมวิท 77 ตามมาด้วย THE BASE แจ้งวัฒนะ , THE BASE พระราม 9-รามคำแหง , THE BASE Park West , THE BASE Park East 2 ตัวหลังนี้มีความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาหน่อย ด้วยส่วนกลางที่ทำออกมาได้น่าใช้งานเรียกว่าดูหรูกว่าโครงการ BLOCS 77 ที่อยู่น่าปากซอยเสียอีกครับ จากนั้นก็เว้นว่างกับแบรนด์นี้ไปสักพักด้วยข่าวจาก THE BASE ตัวแรก และกลับมาเปิดตัวอีกครั้งในปี 2559 กับ THE BASE Garden-Rama9 ที่เปลี่ยนความเป็น THE BASE เก่าทั้งหมดทิ้งไป ทั้งรูปแบบโครงการ ส่วนกลาง และสเปควัสดุที่ให้มาค่อนข้างดีครับ และก็มาถึงตัวปัจจุบันที่ผมจะพามาชมวันนี้กับ เดอะ เบส เพชรเกษม
ที่ตั้งโครงการ โครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม ตั้งอยู่ติดบนถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก อยู่ระหว่างซอยเพชรเกษม 29 กับซอยเพชรเกษม 29/1 ถนนเพชรเกษมเป็นเส้นที่ตัดมาจากวงเวียนใหญ่ สามารถวิ่งเข้าและออกเมืองยาวไปจนถึงต่างจังหวัดได้เลย และยังมีถนนสายสำคัญต่างๆที่ตัดผ่านเช่น ถนนรัชดาภิเษก ถนนจรัญสนิทวงศ์ ราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนพุทธมณฑลสาย 1 , 2 , 3 , 4 , 5 นอกจากนี้ยังมีซอยย่อมเพชรเกษมที่เชื่อมไปออกเส้นอื่นๆได้อีก
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกพอสมควร เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนเพชรเกษมเลย ถ้าจะเข้าเมืองเส้นเพชรเกษมวิ่งไปเข้าวงเวียนใหญ่ หรือวงเวียนอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปตัดเข้าได้ทั้งเส้นประชาธิปกข้ามสะพานพระปกเกล้าไปก็เข้าเขตพระนครแล้วครับ เข้าเยาวราชได้เลย จากวงเวียนมาเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินตัดเข้าถนนกรุงธนบุรี ข้ามสะพานตากสิน ก่อนถึงแยกสาทรมีทางด่วนศรีรัชให้ขึ้น หรือตรงไปก็เข้าสาทรแล้วครับจากนั้นก็ไปแยกเข้าสีลมได้ ไปราชดำริ สามย่าน สยามได้สบายๆ หรือตรงตามถนนสาทรไปออกสวนลุมพินีเข้าพระรามสี่ได้ ไปเชื่อมออกสุขุมวิทได้ มีทางด่วนให้ขึ้นแถวนี้ หรือจากเส้นเพชรเกษมตัดเข้าถนนราชพฤกษ์วิ่งตามแนว BTS เข้าเมืองได้เช่นกัน
ถ้าจะออกนอกเมืองเส้นเพชรเกษมวิ่งออกไปได้ทั้งหนองแขม อ้อมน้อยออกต่างจังหวัดไปนครปฐม เพชรบุรี หรือยาวลงภาคใต้ไปได้เลยครับ หรือเชื่อมออกไปถนนบรมราชชนนีโดยใช้เส้นพุทธมณฑลสาย 1-5 ได้เลย เส้นราชพฤกษ์วิ่งไป เชื่อมบรมราชชนนี นครอินทร์ รัตนาธิเบศร์ ชัยพฤกษ์ และสิ้นสุดที่ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง ถนนกาญจนาภิเษกไปได้ทั้งฝั่งโซนบางใหญ่ บางบัวทอง นนทบุรี ปทุมธานี พระราม 2 บางขุนเทียน ข้ามฝั่งมาสมุทรปราการได้
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ มีหลากหลายให้เลือกครับ หน้าโครงการไม่ไกลจากป้ายรถเมล์ สำหรับรถโดยสารประจำทาง เส้นเพชรเกษมเป็นเส้นที่มีรถโดยสารวิ่งผ่านหลายสาย โดยจะมีสาย 7, 7ก, 80, 80ก, 84, 84ก, 91, 157, 163, 165, 547 อีกทั้งยังเลือกเดินทางด้วยรถสองแถวได้ เป็นรถสองแถวที่วิ่งจาก BTS บางหว้า ไปสุดสายที่พุทธมณฑลสาย 4 หรือเรียก Taxi วินมอเตอร์ไซค์ได้ไม่ยาก เรียกหน้าโครงการได้เลย
และถนนเพชรเกษมจะเป็นเส้นทางที่มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายวิ่งผ่าน ซึ่งอยู่ในช่วงก่อสร้างคาดว่าจะเปิดใช้ในปี 2562 โดยสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดนั่นคือสถานีเพชรเกษม 48 ห่างจากโครงการเพียง 120 ม.เท่านั้น และห่างจาก MRT สถานีบางหว้าประมาณ 1.2 กม. ซึ่งเป็นจุด Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS บางหว้าที่ตรงไปยัง สยาม และสนามกีฬาแห่งชาติ และเชื่อมไปยังเส้นหมอชิต-แบริ่งได้ และมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สีลม โดยลง BTS ที่สถานีศาลาแดงครับ
สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) จะไปเชื่อมกับ MRT สถานีบางซื่อ
สีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่ผ่านหน้าโครงการ (หัวลำโพง-หลักสอง) จะเชื่อมกับ MRT ใต้ดินที่สถานีหัวลำโพง มีจุด Interchange กับสายสีเขียวที่สถานีบางหว้า
คาดว่าแล้วเสร็จประมาณปี 2562 ถ้าสร้างเสร็จจะเดินทางได้สะดวก และหลากหลายเส้นทาง เชื่อมต่อเข้าทั้งในตัวเมืองกรุงเทพและเขตปริมณฑล
นอกจากนี้ BTS สายสีเขียวยังมีส่วนต่อขยายจากสถานีบางหว้า จะมุ่งตรงไปยังตลิ่งชันเชื่อมกับสายสีแดงและสายสีส้มในอนาคตครับ
นอกจากนี้ตรงสถานี BTS บางหว้ายังมีจุดเชื่อมต่อเรือโดยสารคลองภาษีเจริญ โดยมีทางเดินเชื่อมมาที่ท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม โดยโครงการเดินเรือในคลองภาษีเจริญของกรุงเทพมหานคร มีจุดเริ่มต้นเส้นทางจากท่าเทียบเรือประตูน้ำภาษีเจริญถึงท่าเทียบเรือเพชรเกษม 69 รวมระยะทาง 11.5 กม. พร้อมด้วยท่าเทียบเรือจำนวน 15 ท่า ซึ่งประชาชนสามารถเชื่อมต่อการเดินทางจากรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ที่สถานีบางหว้า โดยเปิดให้บริการ 2 ช่วงเวลา คือ ระหว่างเวลา 06.00-09.00 น. และระหว่างเวลา 16.00-19.30 น. ของทุกวัน ถ้าจะนั่งมาโครงการก็ก็มาลงที่ท่าเรือเพชรเกษม 31 ครับ ห่างจากโครงการประมาณ 300 ม.
พื้นที่โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัย โดยตามสองฝั่งทางถนนเพชรเกษมจะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ ชั้นล่างส่วนใหญ่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านโชห่วย อู่ซ่อมรถ และมีอาคารสำนักงาน โกดังเก็บของ ส่วนในซอยย่อยจะเป็นชุมชนบ้านพัหอาศัยครับ ตัวที่ดินโครงการแต่เดิมเป็นสวน ที่ดินมองจากภาพจะเห็นว่าแบ่งเป็น 2 ส่วน เนื่องจากมีแนวรถไฟฟ้าตัดผ่านที่ดินพอดี ส่วนที่เป็นสามเหลี่ยมพื้นที่เล็กตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่อนาคตจะเป็นร้านค้าครับ ส่วนที่ดินแปลงใหญ่จะเป็นที่ตั้งของอาคาร ทางเข้าออกโครงการจะลอดใต้รางรถไฟ้ฟ้าพอดี โดยได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จาก รฟม. ความกว้างประมาณ 13 ม.
การเดินทาง
การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนราชพฤกษ์ตรง BTS วุฒากาศ ขับตรงตามป้ายถนนเพชรเกษม และมาเลี้ยวเข้าถนนเพชรเกษมตรง BTS บางหว้า จากนั้นขับตรงไปอีกประมาณ 1.2 กม. พื้นที่โครงการและสำนักงานขายจะอยู่ทางซ้ายมือครับ
สรุปการเดินทาง ถนนราชพฤกษ์ > ถนนเพชรเกษม > THE BASE เพชรเกษม
วันนี้ผมเริ่มจากบนถนนราชพฤกษ์ ซ้ายมือเป็น BTS วุฒากาศ ขับตรงมุ่งหน้าไปทางถนนเพชรเกษมครับ
ตามป้ายถนนเพชรเกษมไปครับ
จากนั้นจะเจอป้ายพุทธมณฑลสาย 1 เตรียมเบี่ยงซ้ายออกครับ
เบี่ยงซ้ายออกลงไปตามทาง
ลงมาจะเจอ BTS บางหว้าตรงหน้า
จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางครับ จาก BTS บางหว้าห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม.
เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นถนนเพชรเกษม ข้างบนเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค ตรงนี้คือ MRT บางหว้าซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับ BTS บางหว้า ซ้ายมือมีจุดจอดรถรับ-ส่งไปซีคอนบางแคฟรีครับ
จากนั้นก็ขับตรงตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินไปครับ ริมสองฝั่งทางก็จะมีร้านค้า ร้านอาหารเป็นระยะๆ
จากนั้นซ้ายมือจะเจอธนาคารกรุงไทย ขวามือเป็นศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ
จากนั้นด้านบนจะเห็นรางรถไฟฟ้าแยกออกจากกัน ซ้ายมือเป็นรางที่ไปสถานีซ่อมบำรุง ขวามือเป็นรางเดินรถปกติครับ และจะถึงพื้นที่โครงการข้างหน้าครับ
พื้นที่โครงการอยู่ติดถนนเพชรเกษมเลย พื้นที่ด้านหน้าโครงการจะมีส่วนที่เป็นพื้นที่ของใต้รางรถไฟฟ้า MRT ด้วยครับ
พื้นที่โดยรอบโครงการฝั่งทิศเหนือด้านหน้าโครงการติดกับ ถนนเพชรเกษมและแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ และบ้านพักอาศัย มีศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ ฝั่งทิศใต้ด้านหลังโครงการติดกับคลองภาษีเจริญไม่มีอาคารสูง ฝั่งทิศตะวันออกด้านหน้าติดกับอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น ด้านในติดกับบ้านพักอาศัย และทิศตะวันตกติดกับแนวรางรถไฟฟ้าที่ไปสถานีซ่อมบำรุง
มองเข้าไปด้านในพื้นที่โครงการ
มองไปฝั่งซ้ายพื้นที่โครงการติดกับอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น
มองไปฝั่งขวาพื้นที่โครงการด้านหน้าที่โดนแบ่งด้วยแนวรถไฟ้ฟา ตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่ อนาคตพื้นที่ส่วนนี้จะทำเป็นร้านค้าครับ พื้นที่ติดกับซอยเพชรเกษม 29/1 ถัดไปเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการจะเป็นแนวอาคารพาณิชย์
มองไปทางซ้ายเป็นสถานี MRT เพชรเกษม 48 ในระยะ 120 ม. ด้านหน้าโครงการจะเห็นว่างเยื้องๆกับจุดกลับรถ
มองไปฝั่งขวาจะเห็นศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ
ถัดจากศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ มีสะพานลอยเดินข้ามไป มีร้านค้าและร้านอาหารเยอะกว่าฝั่งเดียวกับโครงการ ข้ามไปได้ง่ายด้วยสะพานลอยที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก
ในซอยตรงข้ามคือเพชรเกษม 46 อยู่ใกล้ศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ มีร้านค้าและร้านอาหารในซอยให้เลือกฝากท้องกันได้ และบริเวณซอยข้างๆ คือ ซอยเพชรเกษม 48 เป็นซอยที่สามารถทะลุลัดไป จากถนนบางแวก เพื่อออกถนนราชพฤกษ์ หรือ พุทธมณฑลสาย 1
ตรงมาจะเป็นอาคารพาณิชย์ ในระยะใกล้โครงการด้านนี้จะไม่ค่อยมีร้านค้าหรือร้านอาหารเท่าไหร่ แต่ถ้าเดินไปประมาณ 700 ม. ใกล้ๆกับ ม.สยาม จะมีร้านค้าร้านอาหารมากกว่าครับ
ผมพาเดินไป MRT เพชรเกษม 48 ในระยะเดินประมาณ 120 ม.
ถัดมาจะเจอซอยเพชรเกษม 29/1
ซอยเพชรเกษม 29/1 เป็นซอยตันครับ
หันกลับมาทางเดิมต่อครับ จากโครงการมีทางเท้าเดินสะดวกถึงบันไดขึ้นสถานีเลย ซ้ายมือเป็นร้านซ่อมรถ
ถัดมามีร้านอาหารเป็นร้านเพิงเล็กๆมีที่นั่ง เป็นพวกอาหารตามสั่งและข้าวแกงราด มีต้นไม้ให้หลบร้อนสามารถมานั่งทานที่ร้านได้
เลยมาจะเจอ MRT เพชรเกษม 48 จากโครงการมา 120 ม. ก็จะถึงทางขึ้นสถานีพอดีครับ
เลยไปอีกหน่อยเป็นเพชรเกษมซอย 31 ในซอยนี้เดินเข้าไปจะเจอท่าเรือเพชรเกษม 31 ส่วนร้านข้างทางก็จะมีร้านโชห่วย และคลินิกหมอฟันข้างหน้า
พื้นที่โครงการตอนนี้อยู่ในช่วงปรับหน้าดิน
ที่ดินฝั่งด้านข้างทิศตะวันตก ขอบที่ดินจะสุดที่แนวรถไฟฟ้าพอดีครับ เฉพาะพื้นที่ด้านหน้าที่ถูกแบ่งเป็นสองส่วน
ด้านข้างอีกฝั่งจะติดบ้านพักอาศัย
วิวทิศเหนือชั้น 30 มองไปฝั่งตรงข้ามหน้าโครงการ ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถว อาคารสูงยังไม่ค่อยมีครับ
วิวทิศเหนือชั้น 30 เวลากลางคืน
วิวทิศใต้ชั้น 30 ด้านหลังโครงการพื้นที่ติดกับคลองภาษีเจริญ ฝั่งนี้ยังมีพื้นที่ว่างเปล่าอีกพอสมควร มองตามรางรถไฟฟ้าไปจะเห็นสถานีซ่อมบำรุง
วิวทิศใต้ชั้น 30 เวลากลางคืน
วิวทิศตะวันออกชั้น 30 มองไปฝั่งสถานีบางหว้าเข้าไปในเมือง ฝั่งนี้ก็ยังโล่งอยู่ จะเห็นแนวอาคารสูงในเมืองเป็นแนวขอบฟ้าสวยไปอีกแบบ
วิวทิศตะวันออกชั้น 30 เวลากลางคืน
วิวทิศตะวันตกชั้น 30 ฝั่งนี้จะออกนอกเมืองตามเส้นเพชรเกษม จะเห็นอาคารสูงบ้างตามริมถนนเพชรเกษม มองเห็นสถานี MRT เพชรเกษม 48
วิวทิศตะวันตกชั้น 30 เวลากลางคืน
เราออกมาดูสำนักงานขายด้านหน้ากันต่อครับ ตอนนี้สำนักงานขายเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา ใครที่สนใจก็แวะเข้ามาชมกันได้ครับ และจะเปิด Pre-sale ในวันที่ 20-21 พ.ค. 2560
ด้านหน้าทางเข้าจัดเป็นสวนหย่อม ทั้งไม้พุ่มและไม้ใหญ่
อีกฝั่งเป็นป้ายชื่อโครงการทำไว้ชัดเจน
ทางเดินเข้าสำนักงานขายจำลองส่วนที่เป็น Green Tunnel ที่เป็นทางเดินจากประตูด้านหน้าเข้าไปโครงการ
Green Tunnel เป็นโครงเหล็ก และใช้ไม้เรื้อยไปตามโครงเหล็กเพิ่มบรรยากาศความร่มรื่น
ด้านบนก็เป็นโครงเหล็กที่ให้ไม้เลื้อยขึ้นไปได้ ถ้าต้นไม้เริ่มโตและเลื้อยมากกว่านี้จะปกคลุมเป็นหลังคาบังแดดได้เลย
ซูมตรงโครงเหล็กให้ดู
ตรงตามทางเข้าไปจะเจอทางเข้าสำนักงานขายพอดี
มองกลับไปจะเห็นแบบนี้ครับ ดูแล้วร่มรื่นดีครับ
ประตูทางเข้าสำนักงานขาย
ด้านในสำนักงานขายแบ่งมาเป็น 2 ชั้นครับ ชั้นล่างจะเป็นเคาน์เตอร์ต้อนรับ และโมเดล ชั้น 2 จะเป็นห้องตัวอย่าง
ด้านในจัดโซฟาไว้ 1 ชุด ผนังรอบๆเป็นกระจก
มองกลับเข้าไปด้านใน
มีทางเดินไปขึ้นบันได
มุมนี้จัดโต๊ะไว้ 1 ชุด
มองไปอีกฝั่งจะเห็นบันไดทางขึ้นชั้น 2
บันไดไม้ ราวจับบันไดเป็นกระจก
มองขึ้นไปที่ชั้น 2
ชั้น 2 จะแบ่งเป็นห้องตัวอย่าง 2 ห้องครับ
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ที่ตั้งโครงการอยู่ในย่านพักอาศัย บนถนนเพชรเกษมหน้าโครงการและด้านข้างก็จะมีอาคารพาณิชย์ เป็นร้านค้า และสำนักงาน ร้านอาหารก็พอมีในระยะที่เดินไปได้ ถ้าข้ามสะพานลอยไปฝั่งศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ จะมี 7-11, Lotus Express ร้านอาหารก็มี หรือถ้าเดินไปประมาณ 700 ม.จะเจอกับ ม.สยาม ซึ่งรอบๆนั้นมีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกอีกเช่นกัน ตามสองฝั่งทางเส้นเพชรเกษมก็มีให้เลือกเป็นระยะๆครับ หรือไปซีคอนบางแค, Lotus บางแค , The Mall บางแค , Big C ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยในย่านนี้ วันหยุดหรือช่วงเย็นก็มาเดินเล่น และทานอาหารได้ หรือถ้าตลาดสดใหญ่ๆก็จะมีตลาดสดบางแค หรือเข้ามาโซนตลาดพลู วงเวียนใหญ่ แถวนี้ของกินอร่อยๆเพียบครับ ส่วนเส้นราชพฤกษ์จะเป็นเส้นที่มีร้านอาหารหลายร้านครับ มีทุกประเภทตั้งแต่อาหารไทย อาหารต่างชาติ มีให้เลือกหลายแบบ จะมานั่งชิวตอนเย็นหรือทานอาหารกลางวันก็ได้
สถานที่สำคัญ
ร้าน 7-11 : 170 ม.
U Center : 800 ม.
Lotus Express : 1.1 กม.
ซีคอน บางแค : 1.5 กม.
ตลาดสดบางแค : 2.6 กม.
Lotus บางแค : 3.1 กม.
ตลาดพลู : 3.7 กม.
The Mall บางแค : 4.2 กม.
ขุนด่านเจ้าพ่อเสือ : 210 ม.
วัดอ่างแก้ว : 900 ม.
วัดพิกุล : 4.5 กม.
วัดกระโจมทอง : 5.4 กม.
วัดสะพาน : 5.9 กม.
ม.สยาม : 700 ม.
รร.ตรีมิตรวิทยา : 4.8 กม.
รร.บางแค : 5.4 กม.
สถานีตำรวจ ภาษีเจริญ : 2.9 กม.
สนง.เขตภาษีเจริญ : 2.1 กม.
รพ.เพชรเกษม 2 : 1.7 กม.
รพ.อินเตอร์เมด : 4.0 กม.
รพ.เกษมราษฎร์ บางแค : 5.3 กม.
MRT สถานีเพชรเกษม 48 (สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) : 120 ม.
BTS สถานีบางหว้า : 1.2 ม.
ท่าเรือเพชรเกษม 31 : 300 ม.
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
แยกท่าพระ : 3.2 กม.
แยกต่างระดับเพชรเกษม : 5.8 กม.
แยกไฟฉาย : 7.3 กม.
ถนนราชพฤกษ์ : 1.2 กม.
ถนนกัลปพฤกษ์ : 1.9 กม.
ถนนพุทธมณฑลสาย 1 : 2.1 กม.
ถนนเทอดไท : 2.1 กม.
ถนนบางแค : 2.9 กม.
ถนนวุฒากาศ : 3.1 กม.
ถนนจรัญสนิทวงศ์ : 3.2 กม.
ถนนพานิชการธนบุรี : 3.5 กม.
ถนนบางแวก : 3.5 กม.
ถนนรัชดาภิเษก : 3.9 กม.
ถนนกาญจนาภิเษก : 4.4 กม.
ถนนกาญจนาภิเษกโรจน์ : 5.2 กม.
ถนนพุทธมณฑลสาย 2 : 5.7 กม.
ถนนพรานนก : 9.4 กม.
Model
ตัวโครงการออกแบบมาภายใต้แนวคิดโครงการ “Living with nature” ตัวอาคารออกแบบมา 1 อาคาร บนที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ รูปทรงอาคารคล้ายตัว L แต่ตรงมุมตัว L องศาจะกว้างกว่า 90 องศา ส่วนนี้ช่วยให้เห็นวิวได้มากขึ้นครับแต่ก็ยังมองเห็นเพื่อนบ้านด้วยกันถ้าอยู่ฝั่งทิศตะวันตก สีของอาคารเลือกใช้สีเขียวเทอร์คอยซ์ เล่นสีเข้มจากชั้นล่างและสีจะอ่อนลงในชั้นสูง ออกแบบมาสวยดีครับ มีสีตัดด้วยสีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน ส่วนกลางหลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1 , 5 , 28 – 30 ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5 – 30 ถนนในโครงการวิ่งรอบได้ทั้งหมด
ภาพจำลองโครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม จากภาพจะเห็นว่าอยู่ติดกับแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้งรางรถปกติ และรางที่ไปสถานีซ่อมบำรุง ตัวสีอาคารค่อนข้างโดดเด่นเป็นสีเขียวเทอร์คอยซ์ ไล่ระดับเข้มไปอ่อน ตัดด้วยสีน้ำตาล
ฝั่งด้านหน้าโครงการเป็นทิศเหนือ ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนเพชรเกษม และติดแนวรางรถไฟฟ้าที่เข้าไปสถานีซ่อมบำรุง ซึ่งรางนี้รถไฟฟ้าจะไม่ได้วิ่งตลอดเหมือนรางปกตินะครับจะเดินเป็นเวลา เรื่องเสียงก็อาจจะมีบ้าง
ด้านหน้าโครงการอยู่ห่างจากทางขึ้น MRT เพชรเกษม 48 ประมาณ 120 ม. พื้นที่โครงการด้านหน้าแบ่งเป็น 2 ส่วนเนื่องจากโดนแนวรางรถไฟฟ้าตัดผ่าน ส่วนแรกคือส่วนที่เป็นอาคารพักอาศัย อีกส่วนที่ทำเป็นสำนักงานขายอยู่ตอนนี้อนาคตจะเป็นร้านค้าครับ แต่ยังไม่แน่ว่าจะเป็นร้านอะไร
ซูมทางเข้าใกล้ๆ มีทางเดิน Green Tunnel ยาวเชื่อมเข้าไปถึง Lobby ตัว Green Tunnel เป็นอุโมงค์ทางเดินออกแบบเป็นโครงหลังคา สลับกับลวดสลิงขึงให้มีไม้เลื้อย เพื่อปรับเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเดินเข้าโครงการมา ขวามือที่เห็นเป็นกล่องขาว ตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่ อนาคตจะเป็นร้านค้าครับ
มองจากด้านบนลงมาจะเห็นพื้นที่ด้านหน้าโครงการที่ถูกแบ่งจากแนวรางรถไฟฟ้าเป็น 2 ส่วน โดยตรงทางเข้าออกที่เป็นใต้รางโครงการได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จาก รฟม. ความกว้างประมาณ 13 ม. จาก Green Tunnel เข้าไปจะมีพื้นที่สวนหย่อมไว้นั่งพักผ่อนได้อยู่ติดกับที่จอดรถกลางแจ้ง
ภาพจำลองส่วน Green Tunnel มีส่วนที่เป็นหลังคาทึบ และหลังคาลวดสลิงไม้เลื้อย ตรงนี้ออกแบบได้ดูน่าใช้งานดีนะครับ ช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์ตอนเดินเข้าออกโครงการได้เลย ขวามือมีทางเดินเชื่อมเข้าไปที่สวนพักผ่อน
ด้านข้างฝั่งทิศตะวันตกพื้นที่ติดกับแนวรางรถไฟฟ้า รั้วโครงการจะโค้งตามแนวรางเลย ถัดออกมาจะเป็นบ้านพักอาศัยวิวมองออกนอกเมือง
ที่ชั้นล่างจากทางเข้ามา จะเจอ Drop Off และ Lobby อีกฝั่งเป็นสนามเด็กเล่น แนวรั้วฝั่งนี้จะจัดต้นไม้มาให้เยอะหน่อย ช่วยกรองเสียงได้บ้างครับ
ซูมตรงส่วน Green Tunnel จากด้านหน้าโครงการเข้ามาตัวอาคาร มีทางเชื่อมเข้าสวนหย่อม
ตรงส่วนสนามเด็กเล่นอยู่ใกล้กับจุด Drop Off และ Lobby
ภาพจำลองสนามเด็กเล่น
ภาพจำลองส่วน Lobby ฝ้าสูงโปร่ง ผนังฝั่งขวาเป็นกระจกมองวิวสวนด้านนอกได้ จัดชุดโซฟาไว้ให้
สวนหย่อมส่วนกลางที่ชั้น 5 ลูกบ้านขึ้นมาชมวิวกันได้
ส่วนยอดของอาคารที่ชั้น 28 – 30 จะเป็นชั้น Facility หลักครับ ตรงยอดอาคารมีชื่อ THE BASE ติดไว้ชัดเจน
มองจากมุมด้านบนจะเห็นแบบนี้ครับ ชั้น 30 จะเป็นพื้นที่สีเขียวตามกฎหมาย
ส่วนชั้น 28 – 29 เป็นฟิตเนสและสระว่ายน้ำ
ด้านหลังโครงการฝั่งทิศใต้ติดกับคลองภาษีเจริญ โดยด้านหลังโครงการจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนริมน้ำมาให้ด้วย และมีสวนที่ชั้น 5
ภาพจำลองด้านหลังโครงการติดกับคลองภาษีเจริญ แนวคลองจัดตกแต่งเป็นสวนหย่อมสวยงาม ต้องรอชมตอนสร้างเสร็จครับว่าจะทำได้สวยเหมือนในภาพรึเปล่า
พื้นที่พักผ่อนริมน้ำแบ่งเป็น 2 จุด ใต้อาคารเป็น Co-working Space
พื้นที่พักผ่อนริมน้ำจัดเตียงนอนและจัดสวนมาให้ รั้วจะเป็นระแนงชมวิวคลองได้ พื้นที่จะสูงกว่าคลองเพื่อการมองลงมาจะเห็นวิวได้ง่ายขึ้น
ภาพจำลองสวนพักผ่อนริมน้ำ ไว้นอนชมวิวคลอง
อีกจุดเป็นพื้นที่นั่งจัดเป็น Terrace
ซูมส่วนที่เป็น Co-working Space ทำเป็นผนังกระจกเปิดรับวิวด้านนอก มีทางเดินเชื่อมเข้าตัวอาคาร
ภาพจำลอง Co-Working Space มุมด้านหลังโครงการมองออกไปเห็นวิวคลองภาษีเจริญ ตรงฝ้าออกแบบไล่ระดับเหมือนขั้นบันได จัดโซฟารอบๆ ตรงกลางวางโต๊ะกลาง
Co-Working Space สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Theater Room ได้มีจอโปรเจคเตอร์เลื่อนลงมาไว้ดูหนังได้ครับ
ที่ชั้น 5 ฝั่งนี้จัดเป็นสวนหย่อมไว้ให้เดินชมวิวได้ ระดับจะต่ำกว่าพื้นชั้น 5 ประมาณ 1.6 ม. ยูนิตที่ชั้นนี้จะได้วิวมุมที่มองลงมาจากห้องตัวเองและเห็นสวนครับ ได้ความร่มรื่นไปในตัว
ด้านข้างอีกฝั่งทิศตะวันออก ติดกับบ้านพักอาศัย และแนวอาคารพาณิชย์ ตัวโครงการรอบด้านตอนนี้ในระยะประชิดไม่มีอาคารสูงเลย ดังนั้นทุกห้องวิวก็จะโล่งพอสมควรครับ
ฝั่งนี้ชั้น 5 มีสวนหย่อมไว้ให้เดินเล่นได้ ระดับจะต่ำกว่าพื้นชั้น 5 ประมาณ 1.6 ม. ยูนิตที่ชั้นนี้จะได้วิวมุมที่มองลงมาจากห้องตัวเองและเห็นสวนครับ ได้ความร่มรื่นไปในตัว
ประตูทางเดินเข้าออกมาสวนจากชั้น 5 ครับ
ภาพจำลองสวนที่ชั้น 5 ฝั่งทิศตะวันออกและทิศใต้
ที่ชั้น 28 จะเป็นสระว่ายน้ำความยาว 40 ม. ระบบเกลือ ซึ่งมีไม่กี่โครงการของแสนสิรินะครับที่ยก Facility ไว้ชั้นบนสุดของอาคาร ชั้น 28 – 30 เป็นฟิตเนส
ภาพจำลองส่วนยอดของอาคารที่ชั้น 28-30 จะเป็น Facility
ริมสระว่ายน้ำทำเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ราวกันตกรอบด้านจะเป็นกระจกทั้งหมดไม่บดบังวิว
ภาพจำลองสระว่ายน้ำที่ชั้น 28 ความยาวกว่า 40 ม. แบ่งสระเด็ก วิวมองไปทางทิศตะวันออก
ห้องฟิตเนสแบ่งเป็น 2 ชั้น จะเป็นเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio ชั้นบนจะออกแนวแบบ Active เช่น โยคะ ชกมวย ทั้ง 2 ชั้นรับวิวได้รอบด้านผนังเป็นกระจก
ภาพจำลองสระว่ายน้ำและฟิตเนส ตัวฟิตเนสแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างจะเน้นแบบออกกำลังกายเบาๆใช้แสงไฟโทนอ่อนๆ ส่วนชั้นบนจะเน้นใช้กำลังหนักๆ ใช้แสงไฟแรงๆเพิ่มความสนุกในการออกกำลังกาย
ที่ชั้น 30 เป็นพื้นที่สีเขียวตามกฎหมาย
ที่ชั้น 30 อีกฝั่งก็เป็นพื้นที่สีเขียวตามกฎหมายครับ
Floor Plan
Master Plan โครงการ ตัวพื้นที่โครงการคือขอบเขตเส้นสีแดงครับ จะเห็นเป็น 2 ส่วน เนื่องจากโดนแนวรางรถไฟฟ้าตัดผ่าน แบ่งเป็นส่วนที่เป็นอาคารพักอาศัย อีกส่วนจะเป็นร้านค้า โดยตรงทางเข้าออกที่เป็นใต้รางรถไฟ โครงการได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จาก รฟม. ความกว้างประมาณ 13 ม. จากทางเข้ามี Green Tunnel ทางเดินเชื่อมเข้ามาในอาคาร ถนนรถวิ่งได้รอบอาคาร ผ่านเข้ามาจะเจอจุด Drop Off มีพื้นที่จอดรถกลางแจ้ง และจอดใต้อาคารได้ หรือวนไปที่จอดรถในอาคารที่ชั้น 2-4 พื้นที่ด้านหลังโครงการติดคลองภาษีเจริญ มีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมน้ำ ที่ชั้น 1 ในอาคารจะมี Lobby และ Co-working Space ลิฟท์โดยสารมี 3 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว
แปลนชั้น 5 จะเริ่มเป็นส่วนพักอาศัยครับ และมีสวนส่วนกลางที่ลูกบ้านเข้ามาเดินเล่นกันได้ โดยระดับสวนจะต่ำกว่าพื้นชั้น 5 ประมาณ 1.6 ม. เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านและวิวที่มองจากห้องพักจะเห็นสวนได้แบบเต็มๆ ส่วนพักอาศัยจะมีประตูแยกไว้เข้าได้เฉพาะลูกบ้านที่พักชั้นนี้ ยูนิตพักอาศัยชั้นนี้มีทั้งหมด 26 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง 2 ห้องนอน 3 ยูนิต ที่เหลือเป็นขนาด 1 ห้องนอน บันไดหนีไฟมี 2 ฝั่ง
แปลนชั้น 6 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมดมี 27 ห้อง เป็นห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้อง ที่เหลือเป็น 1 ห้องนอนทั้งหมดครับ
แปลนชั้น 7 เหมือนชั้น 6 จะต่างตรงฝั่งทิศตะวันตก ยูนิตห้อง 1 ห้องนอน จะเป็นขนาด 23.00 – 24.00 ที่ชั้น 5-6 จะเป็นห้องขนาด 31.25 – 32.25
แปลนชั้น 8-26 จะเหมือนกันครับ ยูนิตพักอาศัยมีทั้งหมด 27 ยูนิต แบ่งเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้อง ที่เหลือเป็น 1 ห้องนอนขนาดต่างๆ
แปลนชั้น 27 ยูนิตพักอาศัยจะเหลือเพียง 15 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัวหน่อย เนื่องจากอีกฝั่งเป็นส่วนของระบบสระว่ายน้ำครับ
แปลนชั้น 28 ส่วนพักอาศัยจะอยู่โซนด้านหลังครับมี 10 ยูนิต โซนด้านหน้าจะเป็น Facility มีสระว่ายน้ำยาว 40 ม. มีฟิตเนส 2 ชั้น และห้องน้ำแบ่งชายหญิง
แปลนชั้น 29 จะเป็นยูนิตพักอาศัย 11 ยูนิต
แปลนชั้น 30 มียูนิตพักอาศัย 11 ห้อง หลังคาของห้องฟิตเนสจะเป็นสวนหย่อม
Units Type
โครงการมีห้องให้เลือกดังนี้
1 Bed 1 Bath ขนาด 23.00-24.50 ตร.ม.
1 Bed 1 Bath ขนาด 31.00-32.50 ตร.ม.
2 Bed 1 Bath ขนาด 44.00-52.25 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 23.00 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 24.25 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31.25 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31.50-31.75 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31.75-32.00 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 32.00 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31.50 – 31.75 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31.75 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 44.00 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 49.75 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 51.00 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 52.25 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 52.25 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 2 แบบ
1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31.75 ตร.ม.
แบบแรกที่จะพามาชมเป็น 1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ใช้งานร่วมกับพื้นที่รับประทานอาหาร ด้านในสุดเป็นห้องนอน โดยผนังได้เป็นฉากกั้นบานเลื่อน 3 ตอน เปิดปิดแยกส่วนจากห้องนั่งเล่นได้ ภายในห้องนอนมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะได้ ทางเข้าห้องครัวอยู่ถัดเข้ามาจากห้องนั่งเล่น ครัวได้เป็นครัวปิดมีประตูบานเลื่อนให้ 1 บาน ภายในห้องครัวได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว ห้องน้ำเข้าจากส่วนครัว มีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง อีกฝั่งเป็นระเบียงห้อง
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องเป็นบานสีขาว ขนาดประมาณ 2.2 x 0.9 ม.
ประตูได้ Digital Door Lock พร้อมมือจับแบบคันโยกของ Yale ใช้งานได้ทั้ง Key Card ใส่รหัส และสแกนนิ้วมือและกุญแจ
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ด้านในเป็นห้องนอนมีฉากกั้นบานเลื่อนกระจก 3 บาน ขวามือมีทางเดินเข้าห้องครัว ห้องน้ำ และระเบียง พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.55 ม. ผนังได้ฉากเรียบทาสีทั้งห้อง ไฟได้แบบดาวน์ไลท์
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้ครับ
ฝั่งนี้ไว้วางโซฟา
วางโซฟาตัวยาวให้ดู พร้อมวางโต๊ะ ใช้พื้นที่ส่วนนี้รับประทานอาหารไปในตัวได้เลย
ระยะดูทีวีประมาณ 2.45 ม. แขวนทีวีติดที่ผนังเพื่อประหยัดพื้นที่ได้ครับ ซ้ายมือมีทางเดินเข้าห้องครัว
ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องนอน ขวามือมีทางเดินไปห้องครัว
ส่วนห้องนอนได้เป็นฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน สูงถึงฝ้า สามารถเลื่อนเปิดปิดแยกส่วนจากห้องนั่งเล่นได้
ภายในห้องนอนตกแต่งมาให้ดูแบบนี้ครับ
วางเตียง 5 ฟุตมาให้ดูครับ
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 33 ซม.
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 1.24 ม.
พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 53 ซม.
ปลายเตียงมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ หรือใครจะติดทีวีที่ผนังปลายเตียงก็ได้ครับ ระยะดูทีวีประมาณ 3.2 ม. ในห้องนอนจะได้แอร์ติดผนังปลายเตียง 1 ตัว
หน้าต่างภายในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed มีส่วนที่เป็นกระจกเข้ามุมฝั่งซ้ายมือ
บานกระทุ้งเปิดออกได้ประมาณ 40 องศา
กระจกในห้องนอนจะได้แบบ Bay Windows
มองกลับเข้ามาด้านใน
ห้องครัวได้เป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อน 1 บาน
ภายในห้องครัวจะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้ให้นะครับ พื้นครัวปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.
ตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 1 บาน
ตู้ด้านล่างได้แบบบานเปิด 1 บาน และลิ้นชัก 2 ชั้น
ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ผนังด้านในมีช่องวางของได้ และกรุกระเบื้องมาให้เรียบร้อย
อ่างล้างจานที่ได้แบบหลุมเดียวแบบไม่มีที่พักจานของ Hafele
ได้เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele
มองกลับเข้ามาด้านในเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำ เข้ามาจะเจอส่วนแห้งก่อน
กระจกเงาได้บานเล็กไปหน่อย ขวามือมีช่องไว้วางของได้
อ่างล้างหน้าที่ได้ทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard ผนังด้านในไว้วางของได้
ติดกับอ่างล้างหน้าเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard
อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ได้ฉากกั้นบานเลื่อน 3 ตอน เฟรมกระจกสีดำ
ด้านในติดฝักบัว ผนังสองฝั่งกรุกระเบื้องลายโมเสค
หน้าตาฝักบัวที่ได้ขนาดพอดีมือของ American Standard
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.43 x 0.79 ม.
ธรณีประตูทำมาสูงพอประมาณ
ออกจากห้องน้ำมา มองออกไปอีกฝั่งจะเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน
มือจับประตูบานเลื่อน
เปิดออกมาจะเจอระเบียงขนาด 1.55 x 1.08 ม.
มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าได้
เดินระบบน้ำ และปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบมาเรียบร้อย
ด้านบนแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 1 ตัว ติดกริลเป่าลมออกด้านนอก
อีกแบบที่พามาชมเป็น 1 Bedroom ขนาด 31.75 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่ส่วนนี้ขนาดค่อนข้างกว้างครับ ฝั่งซ้ายเป็นห้องครัวได้เป็นครัวปิด ห้องน้ำจะอยู่ถัดจากห้องครัว ด้านในสุดเป็นห้องนอนผนังห้องเป็นฉากกั้นบานเลื่อน 3 ตอน ฝั่งปลายเตียงมีห้อง Multipurpose Area จะทำเป็นห้องแต่งตัว ห้องทำงาน หรือห้องเก็บของก็ได้ครับ ติดกันจะเป็นระเบียง
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ใช้งานร่วมกับส่วนรับประทานอาหาร ซ้ายมือเป็นห้องครัว และห้องน้ำ ด้านในเป็นห้องนอน และมีห้องอเนกประสงค์อีกห้อง พื้นห้องได้เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังได้แบบฉาบเรียบทาสี ฝ้าสูง 2.55 ม.
เดินเข้าห้องมาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้า แอร์ห้องนี้จะได้ 2 ตัวครับ ตรงส่วนห้องนั่งเล่นแอร์ติดผนังฝั่งเดียวกับประตูห้อง
ห้องตัวอย่างตกแต่งมาให้ดูแบบนี้ครับ ใครชอบก็ทำตามกันได้
วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งให้ดูพร้อมโต๊ะกลาง
ติดกับโซฟาวางโต๊ะทำงานให้ดู หรือใครจะวางโต๊ะรับประทานอาคารก็ได้ครับ
ระยะดูทีวีประมาณ 2.55 ม. ขวามือเป็นห้องครัว
ส่วนครัวได้เป็นครัวปิดมีประตูบานเลื่อน 3 ตอน
ภายในห้องครัวมีพื้นที่เดินได้กว้างประมาณ 90 ซม. ยาวเข้าไปด้านในประมาณ 2.23 ม. ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ พื้นครัวปูกระเบื้องเซรามิก
ชุดเคาน์เตอร์ครัวได้เหมือนห้องแรกเลยครับ
อ่างล้างจาน และเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง
ชุดอ่างล้างหน้าติดไว้ฝั่งนี้ครับ
อ่างล้างหน้าของ American Standard
ฝั่งตรงข้ามเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard
ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียกมีฉากกั้นบานเลื่อนให้
ด้านในติดฝักบัวของ American Standard มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำให้
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.79 x 0.80 ม.
ธรณีประตูทำมาสูงพอประมาณ
ออกจากส่วนครัวมา ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอน ได้ฉากกั้นบานเลื่อน 3 ตอน
ภายในห้องนอนตกแต่งมาให้ดูแบบนี้ครับ ด้านในมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน
วางเตียง 5 ฟุตมาให้ดู
พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 52 ซม.
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 58 ซม.
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 53 ซม.
ผนังปลายเตียงติดแอร์ 1 ตัว ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.5 ม. ตรงปลายเตียงมีห้องอเนกประสงค์มาให้
ตรงห้องอเนกประสงค์จะมีประตูบานเลื่อน 3 ตอน
พื้นที่ในห้องประมาณ 1.52 x 2.1 ม. ใครจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ ห้องแต่งตัว หรือไว้เป็นห้องนอนเล็กอีกห้องก็ได้ครับ
ห้องตัวอย่างทำเป็นห้องแต่งตัวให้ดูครับ ทำตู้เสื้อผ้า และชั้นวางของให้ดูแบบนี้ ใครชอบก็ทำตามได้ครับ
ตรงห้องอเนกประสงค์ มีประตูบานเลื่อนอีก 3 บาน ออกไปตรงระเบียงได้
เปิดประตูออกมาเจอระเบียงขนาด 2.1 x 0.90 ม.
ฝั่งด้านข้างมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า และด้านบนแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 2 ตัวเป่าลมออกด้านนอก
มองกลับเข้ามาด้านในจะเห็นแบบนี้ครับ
ราคา (พ.ค.60)
1 Bedroom 23.00 – 24.50 ตร.ม. ราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท (จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท)
1 Bedroom 31.00 – 32.50 ตร.ม. ราคาเริ่ม 2.44 ล้านบาท (จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 40,000 บาท)
2 Bedroom 44.00 – 52.25 ตร.ม. ราคาเริ่ม 4.3 ล้านบาท (จอง 30,000 บาท ทำสัญญา 60,000 บาท)
ดาวน์ 10% : แบ่งเป็น 27 งวด งวดพิเศษ 4 งวด (ผ่อนดาวน์ต่อเดือนเริ่ม 2,990 บาท)
ค่าส่วนกลาง 57 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม
โปรโมชั่นพิเศษ
– โปรโมชั่นวันที่ 13-19 พ.ค. 2560 เปิดจองผ่านระบบออนไลน์ Sansiri Online Booking รับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท และรับ Paragon Voucher สูงสุด 8,000 บาท
– โปรโมชั่นวัน Pre-sale สำหรับลูกค้าที่จองพร้อมทำสัญญา ภายในวันที่ 21-22 พ.ค. 2560
ฟรี Home Automation*
สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าที่ลงทะเบียนออนไลน์ รับส่วนลดสูง 20,000 บาท*
ลูกค้า SCB ผ่อน 0% x 6 เดือน*
– โปรโมชั่นสำหรับลูกค้าเก่าแสนสิริ Sansiri Family ได้รับส่วนลด On-Top
1 Bedroom-S : 30,000 บาท
1 Bedroom-M : 40,000 บาท
2 Bedroom : 50,000 บาท
– โปรโมชั่น SCB Sansiri Platinum Card เมื่อจองผ่านบัตรได้ส่วนลดเงินทำสัญญา 5% (ส่วนลดสูงสุดไม่เกิน 2,500 บาท) และสามารถแบ่งชำระ 0% 6 เดือนเมื่อจองและทำสัญญาด้วยบัตร SCB
***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ – THE BASE เพชรเกษม ตั้งอยู่ในย่านฝั่งธน พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่พักอาศัย ริมสองฝั่งทางถนนเพชรเกษมจะเป็นอาคารพาณิชย์ตึกแถว มีอาคารสำนักงานบ้าง ส่วนในซอยย่อยก็จะเป็นบ้านพักอาศัยของชุมชนย่านนี้ ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการออกแนวชุมชนมีร้านค้าร้านอาหารริมสองฝั่งทางถนนเพชรเกษมเป็นระยะๆ ร้านโชห่วย ร้านสะดวกซื้อก็มีครับ ตลาดสดใกล้ๆมีตลาดบางแค ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมีซีคอนบางแค , The Mall , Tesco Lotus , Big C ร้านอาคารแนวๆนั่งชิวมีตรงเส้นราชพฤกษ์หลายร้านให้เลือก รวมไปถึงคอมมูนิตี้มอลล์ด้วยครับ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก การเดินทางเข้าออกหลักๆก็ใช้เส้นเพชรเกษมได้เลย ตรงไปวงเวียนใหญ่ไปเข้าเส้นประชาธิปกข้ามสะพานพระปกเกล้าก็เข้าเขตพระนครแล้วครับ ไปเยาวราชได้เลย
หรือจากวงเวียนตัดเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินมาเข้าถนนกรุงธนบุรี และตรงไปข้ามสะพานตากสิน ก่อนถึงแยกสาทรมีทางด่วนศรีรัชให้ขึ้น หรือตรงไปก็เข้าสาทรแล้วครับจากนั้นก็ไปแยกเข้าสีลมได้ ไปราชดำริ สามย่าน สยามได้สบายๆ หรือตรงตามถนนสาทรไปออกสวนลุมพินีเข้าพระรามสี่ได้ ไปเชื่อมออกสุขุมวิทได้ มีทางด่วนให้ขึ้นแถวนี้ หรือจากถนนเพชรเกษมมาตัดเข้าถนนราชพฤกษ์ วิ่งเข้าเมืองตามแนว BTS ได้เลย
ถ้าจะออกนอกเมืองเส้นเพชรเกษมวิ่งออกไปหนองแขม อ้อมน้อย ยาวออกต่างจังหวัดไปนครปฐม เพชรบุรี สมุทรสงคราม ยาวลงไปทางภาคใต้ได้เลย มีเส้นพุทธมณฑลสาย 1, 2, 3, 4, 5 เชื่อมจากเพชรเกษมไปออกถนนบรมราชชนนีได้ เส้นราชพฤกษ์วิ่งออกไปเชื่อมบรมราชชนนี นครอินทร์ รัตนาธิเบศร์ ชัยพฤกษ์ และสิ้นสุดที่ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง การเดินทางค่อนข้างสะดวกและหลากหลายดีครับ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – จุดเด่นอยู่ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง รถ เรือ ราง ตัวโครงการอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่อยู่ในช่วงก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดใช้ใกล้กับที่โครงการสร้างเสร็จพอดี โดยห่างจาก MRT เพชรเกษม 48 ประมาณ 120 ม. และห่างจาก MRT บางหว้า ประมาณ 1.2 กม. นั่งเพียงสถานีเดียว ซึ่งเป็นจุดตัดกับ BTS สายสีเขียวสถานีบางหว้ามีทางเดินเชื่อมถึงกันได้สะดวก และมีทางเดินไปยังท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม ถ้าจะมาโครงการก็นั่งมาลงที่ท่าเรือเพชรเกษม 31 และเดินไปโครงการประมาณ 300 ม. ครับ เลยหน้าโครงการไปหน่อยมีป้ายรถเมล์มีวิ่งผ่านไปมาหลายสาย Taxi รถสองแถว และวินมอเตอร์ไซค์ก็โบกเรียกหน้าโครงการได้เลยสะดวกดี อยู่ที่นี่ไม่ต้องมีรถส่วนตัวก็ได้ครับ
การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมา 1 อาคาร สูง 30 ชั้น บนพื้นที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ อาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมเป็นตัว L ออกแบบมาเต็มพื้นที่ ตัวสีอาคารออกแบบโดยใช้สีเขียวเทอร์คอยซ์ ไล่ระดับเข้มไปอ่อน ตัดด้วยสีน้ำตาล ถือว่าโดดเด่นในย่านนี้เลย ที่ชั้น 1 จะเป็นสวนพักผ่อนทั้งด้านหน้า และด้านหลังที่ติดริมคลองภาษีเจริญ มีสนามเด็กเล่น ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1, 5, 28-30
การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือกแบบ 1 Bed ขนาด 23.00-32.50 ตร.ม. และ 2 Bed ขนาด 44.00-52.25 ตร.ม. ห้องออกแบบมาดูโปร่งไม่อึดอัด ฝ้าสูง 2.55 ม. มียูนิตที่มีห้องอเนกประสงค์มาให้ด้วย สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นห้องแต่งตัว ห้องทำงาน เก็บของหรือห้องนอนเล็กอีกห้องก็ได้ครับ โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมี Digital door lock ชุดเคาน์เตอร์ครัวอ่างล้างจาน และ Hob & Hood ของ Hafele สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard พร้อมฉากกั้นส่วนเปียก แอร์ได้แบบติดผนังตรงห้องนั่งเล่นและทุกห้องนอน เฉพาะห้อง 1 Bed ขนาด 23.00 -24.50 จะได้แอร์ 1 ตัวในห้องนอน
สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 , 5 และ 28-30 ที่ชั้น 1 มีสวนหย่อม ตกแต่งทางเดินเข้าออกโครงการเป็น Green Tunnel ยาวเชื่อมเข้าไปถึง Lobby ตัว Green Tunnel ออกแบบเป็นโครงหลังคา สลับกับลวดสลิงขึงให้มีไม้เลื้อย เพื่อปรับเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเดินเข้าโครงการมา มีสนามเด็กเล่น พื้นที่ด้านหลังที่ติดคลองจัดเป็นที่นั่งพักผ่อน ภายในอาคารมีโถง Lobby และ Co-working space ที่ปรับเปลี่ยนเป็นห้องดูหนังได้ในตัว ที่ชั้น 5 มีสวนส่วนกลาง ที่ชั้น 28 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 40 ม. มีฟิตเนสแบ่ง 2 ชั้น โครงการของแสนสิริที่ยกส่วนกลางไปไว้ชั้นบนๆนี่หายากนะครับ แบรนด์สูงกว่า THE BASE ยังไม่ค่อยมีเลย ตัวนี้ถือว่าจัดเต็มพอสมควรครับ
ลิฟต์โดยสารมีให้ 3 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว ที่จอดรถจอดได้ที่ชั้น 1-4 จอดได้ประมาณ 37% ไม่รวมซ้อนคัน มีจุดบริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access ที่เป็นบัตร Rabbit ในตัวใช้ได้ทั้งเข้าออกโครงการ เข้าห้องพัก ใช้เดินทางทั้ง BTS และเรือโดยสาร
สนใจติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1685
Website : http://www.sansiri.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น