สภาพแวดล้อมโดยรวมภายในซอยมีที่อยู่อาศัยแนวราบหลากหลายโครงการ โดยที่ดินใหญ่ๆที่เด่นในซอยนี้จะเป็นของ อารียา พร็อพเพอร์ตี้ค่ะ ซึ่งในซอยจะมีโครงการของอารียาหลายโครงการเลย โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการบ้านจัดสรร ประเภทบ้านแฝดและทาวน์โฮม 2 ชั้น แต่ถึงจะมีโครงการหมู่บ้านหลากหลายแต่บรรยากาศจะมีความเป็นส่วนตัวอยู่มากเพราะแต่ละหมู่บ้านก็แยกกันเป็นสัดส่วนค่ะ
จากภาพมุมสูงจะแสดงที่ดินของอารียาทั้งหมดในซอยมหาชัยนี้โดยพื้นที่ต้นซอยบางนา กม.8 จะเป็นคอนโด A Space Me Bangna ถัดเข้ามาเป็น The Colors Premium เฟส 1 และ 2 ถัดเข้ามาเป็น The Colors Leisure บางนา กม.8 ภายในจะมีซีรี่ย์บ้าน The Colors และ The Village รวม 4 โครงการ โดยถนนส่วนนี้จะเป็นถนนของอารียาเอง มีป้อมรปภ. รักษาความปลอดภัยด้วยค่ะ
ส่วนพื้นที่ด้านในสุดจะเป็นที่ดินที่พัฒนาแปลงล่าสุด เป็นส่วนที่เราจะมาดูกันในวันนี้ มีที่ดินทั้งหมด 5 โครงการ เป็น The Colors Premium บางนา – วงแหวน (เฟส 6 , 7) 2 โครงการ , โครงการ The Village , The Village 2 และ Areeya COMO ค่ะ
โดยจะมีถนนของโครงการที่เชื่อมต่อออกไปจนถึงปากซอย บางนา กม.8 ทำให้ตัวโครงการมีทางเข้าออกได้ 3 เส้นทางคือ
- ปากซอยบางนา กม.8 ไปทางเส้นเลียบถนนกาญจนาภิเษก
- ปากซอยบางนา กม.10 หรือซอยมหาชัย (ถนนส่วนบุคคล) เชื่อมกับเส้นบางนา – ตราด
- ซอยหมู่บ้านบางพลีนิเวศน์ เชื่อมออกไปทางถนนกิ่งแก้ว
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ของโครงการนี้สะดวกแน่นอนจากที่บอกไปข้างต้นว่าตัวโครงการมีทางเข้าออกไปยังถนนหลักได้ 3 เส้น โดยเส้นหลักที่สำคัญของโครงการนี้คือถนนเส้นบางนา – ตราดที่เป็นถนนเส้นยาว มีจุดตัดกับถนนเส้นที่สำคัญอื่นๆอีกหลายเส้น ที่ช่วยให้เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก และสามารถเลือกใช้เส้นทางในการหลีกเลี่ยงรถติดในเวลาต่างๆได้ทั้ง
- ถนนสุขุมวิท (ตัดกันที่แยกบางนา) สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองไปทางวัฒนา, อโศก หรือโซนกลางเมืองได้หมดค่ะ
- ถนนศรีนครินทร์ (ตัดกันที่แยกศิครินทร์) สามารถใช้เดินทางไปเส้นอ่อนนุช, พัฒนาการ
- วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ สามารถใช้เดินทางไปอ่อนนุช, รามคำแหง, มอเตอร์เวย์
- ถนนกิ่งแก้ว สามารถใช้เดินทางไปสุวรรณภูมิ, ลาดกระบังได้ค่ะ
ส่วนทางด่วนที่ใกล้โครงการจะมี 2 เส้นคือทางพิเศษบูรพาวิถีและทางด่วนกาญจนาภิเษกโดยจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าพระราม 2, บางขุนเทียน และจุดขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถีฝั่งขาเข้าเมือง โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 – 15 นาทีค่ะ
และจุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีฝั่งมุ่งหน้าฉะเชิงทราจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 7.7 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 – 25 นาทีค่ะ
ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะของโครงการนี้มีตัวเลือกไม่มากนัก โดยถ้าจะออกมาจากบ้านไปข้างนอกก็อาจจะต้องเรียกใช้บริการ Grab Taxi หรือจะขอเบอร์พี่วินที่หน้าโครงการไว้เพื่อเรียกให้เข้ามารับไปส่งที่ปากซอยติดถนนใหญ่ก็จะมีรถ Taxi ผ่านไปมาเยอะกว่า หรือจากปากซอยมหาชัยถัดไปประมาณ 100 เมตร จะมีป้ายรถเมล์ที่มีรถเมล์สาย 132ร, 133ร, 553, 558 วิ่งผ่านค่ะ
แต่สำหรับการจะเข้ามาสู่ตัวโครงการก็จะมีตัวเลือกมากขึ้น ที่นิยมเลยคือนั่ง Taxi ตรงเข้ามาเลย หรือใช้รถไฟฟ้า BTS บางนา จากตัวสถานีจะมีรถรับส่งมาที่ห้าง Mega Bangna จากนั้นก็สามารถเรียกพี่วินหรือ Taxi เข้าโครงการมาทางซอยบางนา กม.8 ได้ค่ะ
นอกจากนั้นในอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากลาดพร้าวมาถึงสำโรง โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้ จะสามารถเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้าสายสีเทา, รถไฟฟ้าสายสีส้มและ Airport Rail Link โดยวิ่งมาตามเส้นลาดพร้าว, ถนนศรีนครินทร์ และสิ้นสุดที่สถานีสำโรง รวมทั้งสิ้น 23 สถานี และจะมีสถานีศรีเอี่ยม ที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยตัวสถานีจะอยู่บริเวณแยกศรินครินทร์ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นค่ะ (กำหนดการเสร็จปี 2562)
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้จะอิงตามทำเลบางนาเลยค่ะ ในวงกว้างถือว่ามีความสมบูรณ์ค่อนข้างสูง เนื่องจากบนถนนบางนาจะมีห้างใหญ่ๆเยอะ โดยที่จากฝั่งถนนบางนามุ่งหน้าฉะเชิงเทราใกล้แยกบางนาจะมี Central บางนา และ Big C ถัดมาก็จะมี Chic Republic และ Index Living Mall, Tesco Lotus Extra ถัดมาอีกหน่อยช่วงสะพานกลับรถเข้าโครงการก็จะมีและจะมี Lotus บางพลี ที่มีทั้ง Market Villa, Home Pro รวมอยู่เป็นห้างใหญ่เลยค่ะ
นอกจากนั้นห้างใหญ่ที่เด่นดังของโซนนี้คือ Mega บางนาและ Ikea อยู่บริเวณแยกบางนาตราดตัดกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท ซึ่งเป็นห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด เดินทางมาสะดวกมากในระยะทางประมาณ 3 กม.
ส่วนใครอยากเดินตลาดนัดใหญ่ๆก็สามารถขับไปตามเส้นกาญจนาภิเษกขึ้นไปทางอ่อนนุชก็จะมี Number One Plaza ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีทั้งตลาดสดตลาดนัดและ Hyper Market อยู่ด้านใน ที่มีไว้รองรับนักศึกษาม. รามคำแหงและ ABAC บางนาค่ะ
ส่วนโรงพยาบาลใกล้เคียงก็จะมีโรงพยาบาลปิยะมินทร์และไทยนครินทร์ สวนสาธารณะที่ใกล้โครงการจะมีสวนหลวงร.9 เป็นสวนขนาดใหญ่บนเส้นศรีนครินทร์ค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นกันบนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา – ตราด ฝั่งมุ่งหน้าฉะเชิงเทราขับตรงมาตามทางเรื่อยๆ ผ่านแยกศรีนครินทร์, แยกถนนกิ่งแก้วตัดบางนา – ตราด ขึ้นสะพานกลับรถเข้า Mega Bangna กลับรถมาที่ฝั่งถนนบางนา – ตราดมุ่งหน้าถนนสุขุมวิท ขับตรงต่อไปประมาณ 2.3 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยบางนา กม.10 หรือซอยมหาชัย ขับตามทางในซอยมาเรื่อยๆประมาณ 1.2 กม. จะถึง Sale Office และขับตรงต่อมาอีกประมาณ 300 เมตร จะถึงโครงการ The Colors Premium บางนา – วงแหวน ค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > แยกบางนา > ถนนบางนา – ตราด > แยกศรีนครินทร์ > แยกกิ่งแก้วตัดบางนา – ตราด > สะพานกลับรถ > ซอยมหาชัย > The Colors Premium บางนา – วงแหวน
เริ่มการเดินทางบนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนา เราจะเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายไปชลบุรี
ถึงแยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา – ตราด
เมื่อเข้ามาบนเส้นบางนา – ตราดแล้วเราเบี่ยงเข้าเลนขวาเพื่อจะไปวิ่งใต้ทางด่วนนะคะ
ขับตรงมาบนถนนบางนา – ตราด เรื่อยๆ ผ่านแยกศรีนครินทร์ และผ่านแยกถนนกิ่งแก้วตัดบางนา – ตราด จะเห็นป้ายเบี่ยงออกซ้ายเพื่อขึ้นสะพานกลับรถ
เบี่ยงซ้ายออกเพื่อขึ้นสะพานกลับรถ
ขึ้นสะพานกลับรถแล้วให้เราขับชิดเลนขวา
เราขับชิดเลนขวามาเรื่อยๆจะวนกลับรถไปบนถนนบางนา – ตราด ฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท ส่วนถ้าเราขึ้นสะพานมาแล้วขับชิดเลนซ้ายจะตรงไปยังจุดเก็บเงินค่าผ่านทางด่วนบูรพาวิถีฝั่งมุ่งหน้าฉะเชิงเทรานั่นเองค่ะ
ลงมาจากสะพานกลับรถแล้วเราจะอยู่บนถนนบางนา – ตราด ฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท
ผ่าน Tesco Lotus บางพลีทางซ้ายมือ
ในเวิ้งเดียวกันจะมี Market Village และ Home Pro สามารถแวะก่อนเข้าบ้านได้ สะดวกดีเหมือนกันค่ะ ที่เดียวครบ
เราขับตรงมาเรื่อยๆให้สังเกตุศูนย์ Izusu ทางซ้ายมือ เมื่อเห็นแล้วให้เตรียมชิดซ้ายและชะลอความเร็วได้ค่ะ
ผ่านศูนย์ Izusu มาอีกหน่อยจะเจอซฮยมหาชัยทางซ้ายมือ ให้เราเลี้ยวเข้าซอยไปเลยค่ะ
เข้าซอยมาแล้วช่วงต้นๆซอยจะเป็นพวกโรงงานทั่วไป แต่ในซอยลึกๆจะเป็นพวกบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮมซะเป็นส่วนใหญ่แล้วค่ะ
ขับตามทางในซอยมาเรื่อยๆ ระยะทางประมาณ 1.3 กม. แล้วเราจะเห็น Sale Office ทางขวามือ มีจุดสั่งเกตุคือ Air Tube สีส้มสดใส ดิ้นๆอยู่ติดถนน สังเกตุง่ายค่ะ
จาก Sale Office ขับตรงต่อมาประมาณ 300 เมตร จะถึงโครงการที่เราจะมาดูกันในวันนี้ค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
- ถนนบางนา – ตราด 1.9 กม.
- แยกศรีนครินทร์ 8.1 กม.
- ถนนศรีนครินทร์ 8.8 กม.
- ถนนกาญจนาภิเษก 3.3 กม.
- ถนนอุดมสุข 12 กม.
- แยกหนองบอน 11.6 กม.
- ถนนสุขุมวิท 12.3 กม.
- แยกบางนา 12.3 กม.
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
- Mega บางนา, Ikea 3.3 กม.
- Lotus บางพลี 4.2 กม.
- เมืองแก้ว กอล์ฟ คอร์ส 5.3 กม.
- Makro ศรีนครินทร์ 9.9 กม.
- BigC ศรีนครินทร์ 10 กม.
- Number One Plaza 11.2 กม.
- Index Living Mall 11.2 กม.
- Foodland ศรีนครินทร์ 11.5 กม.
- Central บางนา 11.5 กม.
- BigC บางนา 11.7 กม.
- Paradise Park 11.7 กม.
- Seacon Square 15.2 กม.
- Imperial สำโรง 15.4 กม.
- Tesco Lotus ศรีนครินทร์ 16 กม.
- รพ. ศิครินทร์ 9.7 กม.
- รพ. ไทยนครินทร์ 12 กม.
รอบๆโครงการ
เราซูมมาดูพื้นที่โครงการล่าสุดของอารียาในซอยมหาชัยกัน จะเห็นภาพรวมใหญ่ของโครงการ โดยทางเข้าหลักจะเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะเป็นซอยขนาดมาตรฐานพอให้รถวิ่งสวนกันได้ สภาพแวดล้อมทั้ง 2 ฝั่งถนนในซอยเป็นโรงงานขนาดกลาง
พื้นที่รอบๆโครงการใหญ่ (ทั้ง 4 โครงการ) ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า ไม่ต้องกังวลเรื่องอาคารสูง เพราะแถวนี้ไม่มีค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับโรงงาน
- ทิศตะวันออก ติดกับถนนสาธารณะและโรงงาน
- ทิศใต้ ติดกับท่ีดินเปล่า
- ทิศตะวันตก ติดกับที่ดินเปล่า
เข้ามาภายในโครงการใหญ่ ที่จะมี โครงการย่อยๆ 4 โครงการ คือ The Colors Premium บางนา – วงแหวน เฟส 6 และ 7 , The Village และ Areeya COMO โดยทุกโครงการจะเชื่อมต่อกันด้วยถนนส่วนบุคคลของอารียา มีส่วนกลางหลัก คือ Club House ที่ใช้ร่วมกันทุกโครงการ ตั้งอยู่บริเวณกลางโครงการใหญ่ ให้ลูกบ้านทุกโครงการสามารถออกมาใช้งานได้ค่ะ โดยตัว Club House จะประกอบไปด้วยฟิตเนส, Lobby, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ และสระว่ายน้ำ Outdoor ขนาด 10 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่
มาลองดูบรรยากาศภายในโครงการโดยรวมกันก่อน เริ่มจากหน้าโครงการ จะมีป้ายโครงการอารียาขนาดใหญ่ ด้านข้างจะมีป้ายเล็กๆระบุชื่อโครงการย่อยด้านในค่ะ
ทางเข้าไปในพื้นที่โครงการจะเป็นสะพาน ด้านในจะเป็นถนนของอารียา
เข้ามาด้านในโครงการจนถึงบริเวณประมาณกลางโครงการ จะเป็นที่ตั้งของส่วนกลางคือ Club House ที่จะใช้ร่วมกันของทั้ง 4 โครงการย่อยด้านในค่ะ โดยตัว Club House จะประกอบไปด้วยอาคารคลับเฮ้าส์ ด้านในมีฟิตเนส, Lobby, ห้องน้ำ, สระว่ายน้ำและพื้นที่ด้านหลังจะเป็นส่วนของสวนหย่อมและที่จอดรถ ตัวอาคารคลับเฮ้าส์สไตล์โมเดิร์นลอฟ สระว่ายน้ำแบบ Outdoor
เข้ามาด้านในจะเจอที่วางรองเท้าและเคาน์เตอร์สำหรับเจ้าหน้าที่คอยให้ความสะดวก
เข้ามาด้านในจะเจอโถง Lobby เล็กๆทางซ้ายมือ
ส่วนทางขวามือจะเป็นส่วนของฟิตเนสขนาดย่อม
อุปกรณ์ฟิตเนสจะมีเบาะซิทอัพ 1 ชิ้น
ดัมเบลคละขนาด 12 ชิ้น
เครื่อง Abdominizer 1 เครื่อง
ลู่วิ่ง 1 ลู่
จักรยานไฟฟ้า 1 เครื่องและเครื่องบริหารเอว 1 เครื่อง
บอลโยคะ 2 ใบ 2 รูป
และเสื่อโยคะ 2 ผืนพร้อมที่นั่งสำหรับพักผ่อนค่ะ
จากส่วน Lobby มองออกไปด้านนอกจะสามารถมองเห็นพื้นที่สระว่ายน้ำ Outdoor ได้แบบนี้
เราออกไปดูพื้นที่ส่วนห้องน้ำและสระว่ายน้ำด้านนอกกันต่อค่ะ
ออกมาจากตัวโถง lobby ด้านในจะเจอกับตู้ล็อคเกอร์ มีให้บริการทั้งหมด 24 ช่อง พร้อมกุญแจล็อค สามารถนำของมาเก็บและไขกุญแจแล้วเก็บไว้กับตัวได้ค่ะ
ส่วนห้องน้ำที่นี่จะแยกห้องน้ำชายในห้องน้ำหญิง เราเข้าไปดูในห้องน้ำชายกันก่อนค่ะ
ภายในห้องน้ำชายจะมีอ่างล้างมือ 2 อ่าง
ถัดมาเป็นโถปัสสาวะชาย 2 โถ
ห้องน้ำ 1 ห้องและห้องอาบน้ำ 1 ห้อง
ภายในห้องอาบน้ำจะมีฝักบัว, ราวแขวนผ้าเช็ดตัวและที่ตั้งสบู่ติดตั้งมาให้เรียบร้อย
ไปดูในห้องน้ำหญิงกันบ้าง
ภายในห้องน้ำหญิงจะมีอ่างล้างมือ 2 อ่าง
ห้องน้ำ 3 ห้องและห้องอาบน้ำ 1 ห้อง
ภายในห้องอาบน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำค่ะ
ถัดดมาเราเดินมาดูในส่วนของสระว่ายน้ำกันต่อ
ออกมาด้านนอกจะสามารถมองเห็นพื้นที่สระว่ายน้ำ Outdoor บรรยากาศมีความร่มรื่น
พื้นที่ข้างสระจะเป็น Pool Terrace ฝั่งซ้ายมือจะมีที่นั่งสำหรับพักผ่อนริมสระ พร้อมหลังคาระแนงกันแดดรำไร
ตัวสระว่ายน้ำจะมีขนาดประมาณ 10 x 20 เมตร แยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่ โดยสระจะอยู่ติดกับส่วน Pool Terrace ฝั่งตัวคลับเฮ้าส์ ช่วยให้ผู้ปกครอบดูแลเด็กๆได้ง่ายค่ะ
ด้านข้างสระจะมีพื้นที่สำหรับล้างตัว มีฝักบัว 2 จุด
มุมจาก Pool Terrace ด้านข้างสระมองย้อนไปทางอาคารคลับเฮ้าส์ค่ะ
ตัวสระเป็นระบบน้ำล้น มีกรวดประดับรอบสระ ภายในสระดูสะอาดน่าลงว่ายค่ะ
ตัวโครงการ
สำหรับโครงการที่เราจะพามาดูกันวันนี้จะเป็นชื่อโครงการ The Colors Premium บางนา – วงแหวน โดยจะมีทั้งหมด 2 โครงการย่อย แบ่งเป็น 2 เฟส คือเฟส 6 และเฟส 7 ซึ่งแบบบ้านจะมีความแตกต่างกันคือ ตัวเฟส 6 จะเป็นแบบบ้านทาวน์โฮม 2 จอด ส่วนเฟส 7 จะเป็นทาวน์โฮมแบบ 1 จอด หน้ากว้าง 5.7 เมตร เท่ากัน ซึ่งการที่ทั้ง 2 โครงการแยกออกจากกันในลักษณะนี้ทำให้มีข้อดีตรงที่ มีความเป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยไม่ต้องมารวมเป็นโครงการใหญ่และมีการแยก Type ของบ้านชัดเจน ทำให้มีการแยกลักษณะของลูกบ้านที่ชัดเจนเพิ่มขึ้นไปด้วย
โดยโครงการแรกที่เราจะมาเริ่มดูกันคือ The Colors Premium บางนา – วงแหวน เฟส 7 ที่เป็นบ้านแบบ 1 จอดนะคะ พื้นที่รอบโครงการ
- ทิศเหนือ จะติดกับหมู่บ้าน Areeya COMO
- ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก ติดกับที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ ติดกับที่ดินเปล่า
ตัวบ้านของทั้ง 2 เฟส จะมีระบบการก่อสร้างแบบ Aluminuim Form ซึ่งเป็นนวัตกรรมการก่อสร้างจากเยอรมันทีจะมีความแข็งแรงกว่าโครงสร้างแบบการก่ออิฐทั่วๆไปหลายเท่า และจะไม่มีปัญหาน้ำซึมตามรอยต่อของผนังเนื่องจาก เป็นการเทคอนกรีตครั้งเดียวทั้งหลัง จึงทําให้ไม่มีรอยต่อระหว่างเนื้อคอนกรีตและการก่อสร้างโดยใช้เทคโนโลยีนี้ยังทําให้การก่อสร้างมีประสิทธิภาพมากยิงขึ้น
นอกจากนั้นยังมั่นใจด้วยระบบท่อน้ำประปา PPR และ PP Brown ที่มีอายุการใช้ งานที่ยาวนานกว่าท่อประปา PVC ทั่วไปค่ะ
มาเจาะดูที่ดินโครงการการต่อ ภายในโครงการเมื่อเข้ามาจากถนนร่วมของอารียาแล้วจะต้องผ่านซุ้มทางเข้ารปภ. ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล 24 ชั่วโมง เข้าออกด้วยระบบ Key Card Access ระยะใกล้ มีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ฝั่งละ 2 ตัว
เข้ามาในโครงการจะเจอถนนกว้าง 12 เมตร และจะเริ่มมียูนิตพักอาศัยตั้งแต่ต้นโครงการเลยค่ะ โดยยูนิตแรกที่เราเข้ามาเห็นจะเป็นส่วนของบ้านตัวอย่าง ติดกันจะเป็นอาคารนิติบุคคล เข้ามาภายในโครงการจะแยกเป็นถนนซอยย่อยทั้งหมด 8 ซอย โดยที่ถนนในซอยจะกว้าง 8 เมตร ความกว้างถนนขนาดนี้พอให้รถสวนกันได้พอดี แต่ถ้ามีบ้านไหนที่เอารถมาจอดหน้าบ้านก็อาจจะทำให้ขับรถลำบากขึ้นอีกนิดหน่อยค่ะ
สำหรับส่วนกลางภายในโครงการนี้นอกจากตัว Club House ที่สามารถใช้ร่วมกันได้ด้านนอกแล้ว ภายในโครงการจะมีส่วนของสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่กลางโครงการไว้ให้ลูกบ้านได้มานั่งพักผ่อนวันสบายๆ รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
มาดูของจริงกันต่อ เริ่มที่ทางเข้าโครงการที่อยู่ต่อจากถนนหลักภายในโครงการของอารียา
ซุ้มทางเข้าหลักสไตล์ Tropical Modern แยกทางเข้า – ออก มีหลังคาคลุมทั้ง 2 ฝั่ง ด้านหน้ามีป้าย Areeya และ The Colors ติดอยู่
ซุ้มโครงการฝั่งทางเข้าจะมีแยกทางสำหรับคนเดินไว้ให้ทางซ้าย โครงการนี้คัดกรองลูกบ้านด้วยระบบ Key Card Access ระยะใกล้ ใช้รั้วกั้นไม้กระดก
กล้อง CCTV จะติดไว้ที่ทางเข้าออกฝั่งละ 2 ตัว ตัวแรกติดตั้งไว้ข้างแป้นแตะคีย์การ์ด
และอีกตัวติดตั้งไว้หลังรั้วกั้นไม้กระดกเพื่อส่องป้ายทะเบียน
เข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนหลักกว้าง 2 เมตร อาคารเล็กฝั่งขวามือที่เราเห็นจะเป็นอาคารของนิติบุคคล ติดกับอาคารนิติบุคคลจะเป็นบ้านตัวอย่างและถัดไปจะเป็นยูนิตพักอาศัยที่เปิดขายค่ะ
ให้ดูบรรยากาศโดยรวมบนถนนหลัก ด้วยถนนที่กว้าง 12 เมตร ช่วงต้นโครงการทำให้รถสวนกันได้สะดวก
สำหรับบ้านยูนิตต้นๆโครงการจะมีข้อดีตรงที่ได้ถนนหน้าบ้านกว้างและสามารถเข้าถึงตัวบ้านได้ใกล้โดยไม่ต้องเข้าโครงการไปลึกนัก แต่ก็จะมีข้อเสียตรงที่มีความเป็นส่วนตัวน้อยลง เนื่องจากรถทุกคันจะต้องขับผ่านหน้าบ้านเราไปค่ะ
สำหรับบ้านทาวน์โฮมก็จะเป็นมาตรฐานอยู่แล้วที่จะต้องมี Gap ระหว่างชุดอาคาร สำหรับโครงการนี้พื้นที่ว่างระหว่างอาคารทางโครงการจะจัดให้เป็นที่กลับรถและมีสวนหย่อมเล็กๆ ลงต้นไม้และหญ้าไว้ให้สำหรับพักผ่อน ช่วยให้อากาศถ่ายเทระหว่างตัวอาคารด้วยค่ะ
เดินเข้ามาด้านในโครงการเรื่อยๆ จนถึงทางแยก จากตรงนี้เดิรตรงไปจะเป็นยูนิตพักอาศัยและทางขวามือก็จะเป็นซอยย่อย ที่ลึกเข้าไปจะมีซอยย่อยอีกประมาณ 5 ซอยค่ะ
โดยที่ดินตรงมุมระหว่างทางแยกนี้ จะเป็นส่วนของส่วนสาธารณะ ซึ่งตำแหน่งอถือได้ว่าอยู่ประมาณกลางโครงการ ทำให้ลูกบ้านทั้งด้านในและด้านหน้าโครงการเข้ามาใช้ได้สะดวก
ภายในสวนสาธารณะจะมีการจัดสวนไว้ให้ตามแบบมาตรฐาน ลงหญ้าและมีทางเดิน, ไฟส่องสว่างรอบสวน พร้อมม้านั่งไว้ให้ 2 จุด ค่ะ ด้านในสวนจะมีศาลาพักผ่อนให้ 1 หลัง
หน้าตาศาลาภายในสวนสาธารณะ จะมีม้านั่งตัวยาว พร้อมหลังคาคลุมเป็นหลังคาทึบทำให้เราสามารถมานั่งในวันที่ฝนตกปรอยๆได้หรือนั่งในเวลากลางวันก็ไม่ร้อนมากค่ะ
มุมจากศาลามองย้อนไปทางถนน
กลับมาที่ถนนหลัก ถัดมาเราจะมาดูซอยทางขวามือ บรรยากาศซอยทางขวามือจะเป็นประมาณนี้ค่ะ ตรงไปจะเริ่มเป็นถนนซอยกว้าง 8 เมตร
สำหรับยูนิตที่อยู่ติดสวนสาธารณะก็จะมีข้อได้เปรียบตรงที่ไม่ต้องหันหน้าเข้าหาเพื่อนบ้าน และมีพื้นที่หน้าบ้านที่กว้างและวิวสวนสาธารณะที่สวย โดยเฉพาะโครงการที่มีส่วนกลางเพียงแค่สวนสาธารณะก็จะไม่มีปัญหาเรื่องความวุ่นวายเท่าไหร่ เพราะจะไม่ค่อยมีคนมาใช้มากเท่ากับส่วนกลางที่เป็นคลับเฮ้าส์ค่ะ
บรรยากาศภายในซอยย่อยที่มีความกว้าง 8 เมตร สำหรับถนนในซอยที่มีความกว้าง 8 เมตร นี้มีขนาดความกว้างที่พอให้รถสวนกันได้สะดวก แต่ถ้ามีลูกบ้านนำรถมาจอดหน้าบ้านก็อาจจะทำให้คนที่ขับรถสวนไปมาต้องหลบหลีกกันนิดนึงค่ะ
ให้ดูบรรยากาศโดยรวมภายในซอย ทางฝั่งขวามือจะเป็นยูนิตติดถนนและฝั่งซ้ายมือจะเป็นซอยย่อยยาวไปอีก 5 ซอย
ภายในซอยก็จะมียูนิตพักอาศัยแบบนี้ค่ะ
สำหรับรั้วของโครงการสูง 2.5 เมตร เป็นรั้วทึบสีขาว ริมรั้วจะมีลงไม้พุ่มและต้นไม้ไว้ให้ทำให้บรรยากาศดูไม่แห้งแล้งค่ะ
บ้านตัวอย่าง
เรามาดูบ้านตัวอย่างกันต่อสำหรับโครงการนี้บ้านตัวอย่างจะเป็นทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5.7 เมตรพื้นที่ใช้สอย 105 ตารางเมตรเป็นทาวน์โฮม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำและหนึ่งที่จอดรถ
หน้าตาภายนอกของตัวบ้านมาในสไตล์ Tropical Modern สไตล์การออกแบบโมเดิร์นเน้นโทนสีน้ำตาลและเทา สำหรับจุดเด่นอีกอย่างของบ้านในโครงการนี้คือเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ใช้เป็น German Aluminium Form มีลักษณะคล้าย Precast แต่ไม่มีรอยต่อ ลดปัญหาน้ำซึมตามรอยต่อของผนังเนื่องจากเป็นการเทคอนกรีตครั้งเดียวทั้งหลัง จึงทำให้ไม่มีรอยต่อระหว่างเนื้อคอนกรีตและการก่อสร้าง
นอกจากนั้นระบบประปาภายในบ้านยังใช้ท่อสีเขียวที่เรียกว่า PP Brown ที่มีระยะการใช้งานมากกว่าท่อสีฟ้าที่เราเห็นในบ้านทั่วไปค่ะ โดยทางโครงการเคลมมาว่ามีระยะการใช้งานนานกว่าหลายเท่าค่ะ
รั้วหน้าบ้านของจริงจะได้เป็นประตูรั้วโปร่งพร้อมติดตั้งกล่องจดหมายและกริ่งหน้าบ้าน มีช่องสำหรับทิ้งขยะข้างบ้านติดตั้งมาให้ทุกหลังค่ะ
หน้าตากล่องจดหมายและกริ่งหน้าบ้านมาตรฐาน จะได้แบบนี้ทุกหลัง
รั้วประตูทางเข้าหน้าบ้านจะได้เป็นบานพับ 4 ตอน วัสดุเป็นอลูมิเนียมโค้ทติ้งสีดำซึ่งถือว่ามีมาตรฐานดีกว่าโครงการทาวน์โฮมทั่วไป ที่จะใช้เป็นเหล็กทาสีพื้นผิว การ Coating จะเนียนกว่าและหลุดลอกได้ยากกว่าค่ะ
สำหรับรั้วระหว่างบ้านจะเป็นรั้วทึบต่อโปร่งแบบนี้ ความสูงประมาณ 1.5 เมตร
ที่จอดรถภายในบ้านมาตรฐาน พื้นจะได้เป็นคอนกรีตฉาบเรียบโดยทางโครงการจะลงเสาเข็มแบบปูพรมมาให้เลย ลดโอกาสเกิดการทรุดตัวที่ทำให้เกิดรอยแยกระหว่างที่จอดรถและตัวบ้านค่ะ
สำหรับที่จอดรถด้านบนจะติดตั้งโคมซาลาเปามาให้ 1 ดวง และจากที่จอดรถเราจะเห็นว่ามีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานยาวซึ่งก็คือช่องแสงที่ต่อไปบริเวณโถงบันไดค่ะ
สำหรับใครที่ไม่ได้มีรถยนต์ส่วนตวก็สามารถใช้พื้นที่จอดรถหน้าบ้านจัดเป็นส่วนพักผ่อน วางโต๊ะทานกาแฟเล็กๆแบบในบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้ค่ะ
เรามาดูพื้นที่ข้างบ้านกันต่อ เริ่มจากพื้นที่หน้าบ้าน ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นทรายปรับระดับ ด้านหลังรั้วหน้าบ้านจะมีถังขยะติดตั้งไว้ให้ สำหรับให้เราเอาขยะมาหย่อนและเมื่อมีรถเก็บขยะมาเก็บหน้าบ้านก็สามารถที่จะเปิดประตูขยะหน้าบ้านได้เลย ไม่ต้องเข้ามาในบ้านทำให้ภาพรวมของโครงการมีเป็นความเป็นระเบียบค่ะ
ให้ดูการจัดสวนหน้าบ้านในบ้านตัวอย่าง ใช้ไม้กระถางทรงสูงวางเรียงไว้แบบนี้สามารถช่วยในการแยกสัดส่วนพื้นที่และช่วยบังสายตา แต่ถ้าใครกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวมากกว่านี้ก็สามารถที่จะลงไม้พุ่มสูงๆบริเวณรั้วหน้าบ้านก็จะช่วยให้บังสายตาจากคนภายนอกได้ดีเลยค่ะ
พื้นที่หลังบ้านจะเป็นส่วนของลานซักล้าง มีปูพื้นคอนกรีตมาให้บางส่วน อีกครึ่งจะเป็นทรายปรับระดับทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะปูหญ้าหรือเทพื้นเป็นแบบเต็มพื้นที่หรือจะต่อเติมเป็นครัวภายนอกก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ โดยพื้นที่ลานซักล้างจะได้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์มา 1 ดวง และมีการเดินท่อมาให้เพื่อรองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้าเรียบร้อยค่ะรั้วด้านหลังระหว่างบ้านจะได้เป็นรั้วทึบสีขาว สูง 1.5 เมตร
พื้นที่หน้าบ้านจะแบ่งเป็นส่วนที่จอดรถและ ทางเข้าตัวบ้าน
เรามาดูพื้นที่หน้าบ้านกันต่อ โดยหน้าบ้านจะมีเฉลียงกว้างประมาณ 1.2 x 2.7 เมตร มีความกว้างพอให้วางตู้วางรองเท้าไว้ด้านข้างได้
ด้านบนจะเห็นว่ามีระแนงหรือกันสาดติดตั้งมาให้เพื่อเป็นส่วนตกแต่งและบังแดดฝนได้บางส่วน
สำหรับประตูทางเข้าหลักของบ้าน จะได้เป็นชุดประตูบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียม Powder Coat สีขาว กระจกเขียวตัดแสง หนา 5 มม.
มือจับหน้าตาแบบนี้ค่ะ ทั้งด้านนอกและด้านในจับได้สะดวก
เข้ามาในตัวบ้านพื้นชั้นหนึ่งยกสูงขึ้นมาประมาณ 9 ซม. เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วนห้องรับแขกก่อน มองตรงไปจะเป็นพื้นที่ส่วนทานอาหารและครัว
สำหรับในบ้านจริงก็จะได้เป็นโถงโล่งๆให้ลูกบ้านได้จัดสรรพื้นที่ด้านในกันเองค่ะ โดยพื้นชั้นหนึ่งปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสี ความสูงฝ้าเพดานห้องทั่วไป 2.7 เมตร ห้องน้ำ 2.4 เมตร
สำหรับชั้น 1 จะได้โคมซาลาเปาทั้งชั้น ยกเว้นในห้องน้ำและลานซักล้างหลังบ้านค่ะ
พื้นที่ส่วนห้องรับแขกนี้ทางโครงการจัดโซฟาขนาดประมาณ 2 – 3 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูเหมาะสมกับพื้นที่ดีค่ะ
ฝั่งตรงข้ามทางโครงการจัดมาเป็นชั้นวางทีวีและตู้โชว์ของ ซึ่งในบ้านจริงจะได้เป็นผนังโล่ง เราสามารถที่จะใช้โต๊ะมาวางทีวีธรรมดาหรือจะ Built – in เป็นตู้สวยงามแบบนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
ระยะดูทีวีของบ้านหลังนี้อยู่ที่ประมาณ 2.4 เมตร เหมาะสำหรับที่จะวางทีวีขนาด 55″ – 60″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตาค่ะ
ถัดจากห้องนั่งเล่นเข้าไปจะเป็นพื้นที่ของส่วนทานอาหาร ติดกับพื้นที่สวนทานอาหารจะเป็นโถงบันไดห้องเก็บของในห้องน้ำยาวต่อเนื่องไปยังห้องครัวด้านหลัง
พื้นที่ทานอาหารทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นโต๊ะกลมขนาด 5 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าเป็นโต๊ะทานอาหารที่มีจำนวนที่นั่งเยอะสำหรับพื้นที่ขนาดย่อมแบบนี้ค่ะ
พื้นที่ทานอาหารจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ 1 จุด
เป็นประตูบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังเฉลียงข้างบ้าน โดยประตูด้านข้างที่ได้จะได้เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
ด้านนอกจะมีเฉลียงที่มีขนาดประมาณ 0.9 x 1.5 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคมาตรฐาน
แต่ถ้าใครไม่ชอบก็สามารถที่จะต่อเติมได้ อย่างในบ้านตัวอย่างจะมีการต่อเติมเฉลียงออกไปจนเกือบเต็มพื้นที่ข้างบ้าน
มีลงต้นไม้ทรงสูงพร้อมทางเดินไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างแบบนี้ค่ะ
กลับเข้ามาด้านในติดกับห้องทานอาหารจะเป็นส่วนของครัว โดยทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นครัวเปิดแบบครัวฝรั่ง มีการเจาะช่อง Pantry ไว้ส่งอาหาร ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถ้าบ้านไหนที่ไม่ค่อยทำอาหารแบบจริงจังก็สามารถที่จะต่อเติมครัวแบบนี้ได้ แต่โดยปกติแล้วจะแนะนำให้ทำเป็นครัวปิดโดยจะกั้นเป็นห้องกระจกโดยใช้พื้นที่ในบ้านก็ได้ หรือจะออกไปต่อเติมเป็นครัวไทยแยกในพื้นที่ซักล้างหลังบ้านก็ได้ค่ะ โดยแบบหลังจะเป็นที่นิยมมากกว่าสำหรับบ้านแบบทาวน์โฮม
ส่วนในบ้านจริงพื้นที่ครัวจะได้เป็นพื้นที่โล่ง มีเดินท่อมาให้พร้อมสำหรับติดตั้งเป็นเคาน์เตอร์พร้อมช่องแสงที่เหมาะสม
เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว ระยะการติดตั้งจะพอดีกับส่วนเคาน์เตอร์บริเวณซิงค์ล้างจานค่ะ
มือจับของหน้าต่างส่วนครัวจะเป็นแผ่นแบน ยื่นออกมาจากตัวบานจับแบบนี้
พื้นที่ภายในครัวเรามีตัวอย่างเคาน์เตอร์มาให้ดู เป็นการ Built – in รูปทรง U – Shape
มีส่วน Pantry เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหารสามารถที่จะส่งอาหารได้จากตรงนี้ค่ะ
ระยะทําครัวหลังจาก Built – in เคาน์เตอร์แบบนี้ลงไปจะเหลือประมาณ 1.1 เมตร พอให้เข้าไปช่วยกันเตรียมอาหารได้ 2 ฝั่ง
ถัดจากห้องครัวเราจะไปดูในส่วนลานซักล้างหลังบ้านกันต่อ โดยประตูที่เชื่อมระหว่างสองพื้นที่จะเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว
ออกมาด้านนอก พื้นที่ลานซักล้างในบ้านตัวอย่างจะจัดเป็นสวน ลงต้นไม้ทรงสูงไว้แบบนี้จะช่วยให้ตัวบ้านมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ช่วยบังสายตาจากบ้านหลังติดกันได้
ทางโครงการติดตั้งหลังคาแบบโปร่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการตกแต่งลานซักล้างหลังบ้านเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้แม้ในวันที่ฝนตก (ในกรณีที่ไม่มีแพลนจะต่อเติมเป็นครัวไทยด้านหลังนะคะ)
กลับเข้ามาในบ้าน เรามาดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ โดยบานประตูห้องน้ำที่ได้จะได้เป็นบานสำเร็จรูปสีขาวหน้าตาดูดี ลูกบิดกลมมาตรฐาน
เข้ามาได้ในห้องน้ำ พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาประมาณ 6 cm พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคโทนสีเทาและขาว ฟังก์ชันภายในห้องน้ำชั้น 1 จะมีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก
อ่างล้างมือจะได้อ่างทรงกลม พร้อมก๊อกน้ำเย็น ขนาดอ่างกระทัดรัดและได้ของยี่ห้อ Englefield
ติดกับอ่างล้างมือเป็นของสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Englefiled ได้มาพร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระระยะการใช้งานพอดีๆ
ตัวสายชำระขนาดพอดีมือสีขาวล้วน
ด้านหลังอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จะมีบ่าวางของไว้ให้สำหรับวางพวกอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น แก้วใส่ยาสีฟันและแปรงสีฟัน หรือขวดสบู่, แชมพูเล็กๆสามารถวางได้ค่ะ
ส่วนพื้นที่ส่วนเปียก จะเป็นพื้นที่อาบน้ำที่มีธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 6 cm แต่จะไม่มี Shower Box ติดตั้งมาให้
สำหรับห้องน้ำห้องนี้จะมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งที่เชื่อมออกไปทางลานซักล้างหลังบ้าน ทำให้เราสามารถที่จะเปิดเพื่อระบายอากาศได้ ภายในพื้นที่ส่วนอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ของ Englefield มาให้ พร้อมเดินสายไฟสำหรับติดตั้งน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยเลยค่ะ
ขนาดของพื้นที่อาบน้ำในห้องน้ำชั้น 1 ประมาณ 0.9 x 1.4 เมตร กว้างพอให้สามารถยืนอาบน้ำได้สบายๆ
ออกมาที่ส่วนโถงบันไดกันต่อ พื้นที่ข้างบันไดจะเป็นห้องเก็บของ
โดยในบ้านตัวอย่างจะมีการกั้นห้องข้างบันไดไว้แยกเป็นสัดเป็นส่วน ให้ดูแบบนี้ ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงเราไม่จำเป็นที่จะต้องกั้นห้องขึ้นมาเพิ่มก็ได้ค่ะ เพราะว่าจะทำให้มีความรู้สึกทึบกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ก็ยังมีข้อดีคือมีพื้นที่เก็บของมากขึ้นโดยจะพื้นที่หน้าห้องเก็บของได้ด้านในไปด้วยค่ะ
สำหรับห้องเก็บของเล็กมาตรฐานที่ได้เป็นประตูบานเปิดแบบนี้ ด้านในจะเป็นพื้นที่เก็บของใต้บันได สามารถเก็บของได้พอประมาณ ตามมาตรฐานห้องเก็บของใต้บันไดทั่วไป
ขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อ สำหรับบันไดในโครงการนี้จะได้เป็นโครงสร้างเหล็ก ลูกนอนไม้สำเร็จรูป วัสดุเป็นไม้พาราอัดประสาน ราวจับเป็นไม้เนื้อแข็งสีเข้ากันกับลูกนอน
ขึ้นมาด้านบนเห็นว่ามีโถงบันไดค่อนข้างสูงแนะนำให้ติดโคมไฟเก๋ๆเพื่อให้ได้แสงสว่างเวลากลางคืนค่ะ
ชานพักบันได เป็นชานพักสามเหลี่ยม 4 ตอน แบบนี้อาจจะต้องเดินด้วยความระมัดระวังนิดนึงค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นที่ชั้นนี้จะแบ่งออกเป็นห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง
พื้นบนชั้น 2 จะปูด้วยลามิเนตสีไม้เข้ากับลูกนอนบันได มีตัวจบใส่มาให้เรียบร้อย
ให้ดูพื้นที่โถงโดยรวม พื้นที่โถงชั้น 2 จะได้โคมซาลาเปา 1 จุด
เรามาดูในส่วนของห้อง Master Bedroom กันก่อนนะคะ
ภายในห้องนอนปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตเช่นเดียวกัน และมีตัวจบลามิเนตติดตั้งมาให้ในทุกห้องแบบนี้ค่ะ
ในบ้านจริงด้านหลังประตูทางโครงการจะมีตัว Stopper ติดตั้งมาให้แบบนี้
เข้ามาภายในห้องนอน Master Bedroom จะเป็นห้องนอนฝั่งหน้าบ้าน เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน
สามารถแบ่งพื้นที่ได้เป็น 2 ฝั่งคือ พื้นที่ส่วนห้องนอนและพื้นที่ส่วน Walk – in Closet ส่วนในบ้านจริงจะได้เป็นห้องโล่งกว้างแบบนี้ค่ะ ผนังแปะวอลเปเปอร์ให้ทั้งห้อง
ทั้งห้องได้ไฟโคมซาลาเปาสองดวง
เรามาดูพื้นที่ส่วนห้องนอนกันก่อน พื้นที่ส่วนห้องนอนนี้จะมีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง บานใหญ่ ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาในตัวห้องได้พอประมาณ
ในห้องตัวอย่างทางโครงการจัดเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
จะเห็นว่าจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองด้านไว้พอให้วางโต๊ะหัวเตียงหรือโคมไฟได้สบายๆค่ะ
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงหรืออีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นพื้นที่ส่วน Walk – in Closet ในบ้านตัวอย่างทางโครงการจะกั้นเป็นผนังทึบมาให้ส่วนหนึ่ง เพื่อติดตั้งทีวีและมีตู้เก็บของเล็กๆ แต่ถ้าใครที่ไม่คิดว่าจะต้องกั้นจริงจังก็สามารถที่จะหาฉากกั้นแต่งตัวหรือจะกั้นเป็นแค่ระแนงโปร่งๆก็ได้ จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วน Walk – in Closet จะมีช่องแสง 2 จุด เป็นประตูที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอกและช่องแสงบานยาว 1 บาน
ในส่วน Walk – in Closet สามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าได้หลายบาน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
ระยะการใช้งานที่เหลือหลัง Built – in ตู้เสื้อผ้าไปแล้ว ก็เหลือกว้างพอให้ใช้งานได้สบายๆค่ะ
ถัดมาเราไปดูระเบียงด้านนอกกันต่อ โดยประตูที่เชื่อมระหว่างระเบียงและ Walk – in Closet จะเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
ออกมายังพื้นที่ระเบียงด้านนอก ขนาดระเบียงกว้างประมาณ 0.5 เมตร พอให้วางไม้กระถางเล็กๆได้ หรือถ้าใครไม่อยากให้มีอะไรเกะกะก็ปล่อยให้เป้นระเบียงโล่งๆ ไว้ก็จะมีพื้นที่ให้ออกมายืนสูดอากาศได้ค่ะ
กลับเข้ามาด้านในบ้านแล้วเราจะไปดูห้องที่ติดกับห้อง Master Bedroom กันต่อนั่น ก็คือส่วนของห้องน้ำค่ะ
สำหรับห้องน้ำที่ชั้น 2 จะมีเพียงห้องเดียวและใช้ร่วมกันในห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ซึ่งในเวลาเร่งด่วนอาจจะไม่เพียงพอ จะต้องผลัดกันลงไปใช้ห้องน้ำที่ชั้น 1 ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะว่าที่ชั้น 1 ทางโครงการได้จัดฟังก์ชันมาไว้รองรับสำหรับอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว
ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ชัดเจน โดยในห้องน้ำที่ชั้นสองนี้ ทางโครงการจะติดตั้ง Shower Box มาให้ตามแบบนี้เลยค่ะ
อ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างพร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่าง และก๊อกน้ำเย็น พื้นที่ใต้เคาน์เตอร์สามารถเก็บของกระจุกกระจิกได้พอประมาณ
ลักษณะอ่างเป็นทรงสี่เหลี่ยม ขนาดค่อนข้างกว้างมีพื้นที่เหลือด้านบนให้เก็บของนิดหน่อย
ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ครบชุด ระยะการใช้งานพอดีๆ
เหนืออ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จะมีกระจกเงาและบ่าวางของ
พื้นที่ส่วนเปียกหรือพื้นที่ห้องอาบน้ำทางโครงการจะติดตั้ง Shower Box มาให้ตามแบบ เป็นกระจกนิรภัยกรอบสีขาวลักษณะบานเปิดเป็นบานเลื่อนเดี่ยว
มือจับเป็นแผ่นยื่นออกมาแบบนี้ค่ะ
ธรณีของห้องอาบน้ำยกสูงขึ้นมาประมาณ 8 ซม. ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวและเดินสายไฟสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย มีช่องแสงหนึ่งจุด สำหรับระบายอากาศ ฝักบัวขนาดพอดีมือยี่ห้อ Englefield
ขนาดของห้องอาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.3 เมตร พอให้ยืนอาบน้ำได้สะดวก
ถัดมาเราจะไปดูในส่วนของห้องนอนรองอีก 2 ห้องกันต่อค่ะ
เริ่มที่ห้องทางขวามือ เข้ามาในห้องจะได้เป็นห้องโล่งสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต หรือควีนไซส์ได้
ภายในห้องตัวอย่างจะจัดเป็นห้องเด็กเล็กมาให้ดูซึ่งภายในห้องจะมีฟังชั่นครบทั้งตู้เสื้อผ้า, เตียงและยังมีไอเดียการตกแต่งเป็นแปลเชือกเหนือเตียง สามารถใช้เป็นไอเดียตกแต่งให้ตัวเล็กๆได้ค่ะ
ให้ดูระยะการใช้งานในกรณีที่วางเตียงขนาดประมาณ 3.5 ฟุต จะเหลือระยะการใช้งานประมาณนี้ค่ะ แต่ถ้าวางเตียงขนาดใหญ่ขึ้นก็จะมีพื้นที่การใช้งานที่น้อยลง ซึ่งในกรณีนี้ถ้าอยู่คนเดียวอยู่แล้วก็ขอแนะนำให้วางเตียง 3.5 ฟุต ก็เพียงพอแล้วค่ะ จะได้มีพื้นที่ให้พอขยับตัวใช้ฟังก์ชันอื่นได้
อีกด้านหนึ่งของห้อง
ถัดมาเราไปดูในส่วนของห้องนอนรองห้องที่ 2 กันต่อ
เข้ามาด้านในห้อง มีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว สำหรับบ้านตัวอย่างห้องนี้จะถูกใช้เป็นห้องหนังสือ ตัวอย่างการตกแต่งห้องมี Built – in เก้าอี้ยาวเข้ามุมรอบผนังจะทำให้มีพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนเยอะขึ้น สามารถใช้เป็นพื้นที่ของครอบครัวได้อีกจุดหนึ่งค่ะ
อีกด้านหนึ่งของห้องมี Built – in ตู้เก็บของไว้แบบนี้
อีกมุมหนึ่งของห้องค่ะ โดยห้องนี้ถ้าใครที่ไม่ต้องการมีห้องอ่านหนังสือ ก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานหรือจะใช้เป็นห้องนอนเมื่อมีสมาชิกเพิ่มขึ้นก็ได้ค่ะ
ตัวโครงการ
เรามาดูโครงการ The Colors Premium บางนา – วงแหวน เฟส 6 ที่เป็นบ้านแบบ 2 จอด กันต่อ เริ่มที่ผังโครงการกันเลยค่ะ ลักษณะที่ดินโครงการจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู มีทางเข้าออกทางเดียว ติดกับถนนของอารียา เมื่อเข้ามาในโครงการจะต้องผ่านซุ้มทางเข้าและรปภ. เข้ามาจะเจอถนนกว้าง 12 เมตร บ้านหลังแรกทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของบ้านตัวอย่างและฝั่งตรงข้ามบ้านตัวอย่างจะเป็นอาคารนิติบุคคล ฝั่งขวามือจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่
เข้าไปด้านในจากถนนหลักจะถูกแบ่งแยกเป็นซอยย่อยที่มีถนนความกว้าง 8 เมตร เข้าไปจนสุดถนนหลักจะเป็นซอยย่อยๆ อีก 5 ซอยแบบนี้ค่ะ รั้วโครงการสูง 2.5 เมตร
เรามาดูของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากทางเข้าโครงการติดกับถนนส่วนบุคคลของอารียา บรรยากาศโดยรวมร่มรื่น
ด้านหน้าโครงการมีน้ำพุเล็กๆและป้ายอารียา จัดสวนเล็กๆไว้ให้แบบนี้ค่ะ
ตัวซุ้มทางเข้าจะเป็นซุ้มมีหลังคาคลุมทั้ง 2 ด้าน ใช้รั้วกั้นไม้กระดก แยกทางเข้าและออกมีป้อมรปภ. อยู่ตรงกลาง คอยรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
การเข้าออกโครงการจะต้องใช้ Key Card Access ระยะใกล้ มีกล้อง CCTV ฝั่งละ 2 ตัวค่ะ
เข้ามาด้านในโครงการเจอถนนกว้าง 12 เมตร
ซอยย่อยทางซ้าย บ้านยูนิตแรกจะเป็นบ้านตัวอย่าง
ฝั่งตรงข้ามบ้านตัวอย่างจะเป็นอาคารนิติบุคคล
ส่วนซอยย่อยแรกทางขวามือ จะเป็นยูนิตติดกับสวนหน้าโครงการ
ไปดูสวนสาธารณะหลักของโครงการกันต่อค่ะ
เข้ามาด้านในสวนมีการลงต้นไม้แผ่นทางเดินไฟสวนและที่นั่งมาให้
มุมจากในสวนมองย้อนไปทางถนนซอยค่ะ
เราเดินเข้าไปดูบรรยากาศกันซักหน่อย ตอนนี้เรายังอยู่บนถนนหลักกว้าง 12 เมตร
ซอยย่อยที่ 2 ทางซ้ายมือ ลักษณะการวางอาคารหันหน้าเข้าหากันตามแบบทาวน์โฮมทั่วไป
ซอยทางขวามือค่ะ
บรรยากาศโดยรวมภายในซอย
บนถนนหลักจะมีลงไม้พุ่มและจัดทางเดินไว้ให้สำหรับคนเดิน กว้างประมาณ 1 คนเดินค่ะ
เดินมาจนสุดถนนหลักจะเป็นซอยย่อยแยกไปอีก 5 ซอย ซ้ายและขวา
Gap ระหว่างอาคารจะเป็นพื้นที่สำหรับกลับรถและมีจัดสวนลงต้นไม้ไว้ให้แบบนี้ค่ะ
หน้าตาบ้านโดยรวมของโครงการนี้
แบบบ้าน
สำหรับแบบบ้านของ The Colors Premium บางนา – วงแหวน เฟส 6 จะมีหน้าตาคล้ายกับบ้านในเฟส 7 ที่เราดูกันมาแล้ว เพียงแต่ว่าจะมีข้อแตกต่างกันตรงที่ฟังก์ชันในบ้านจะเพิ่มพื้นที่จอดรถหน้าบ้านเป็น 2 คันและเพิ่มห้องอเนกประสงค์ด้านในชั้น 1 ขึ้นมาอีก 1 ห้อง นอกนั้นฟังก์ชันก็จะเหมือนเดิมค่ะคือ ที่ชั้น 1 จะมีห้องรับแขก, ห้องทานอาหาร, พื้นที่ครัว, ห้องน้ำ, ห้องอเนกประสงค์ บนชั้น 2 ก็จะมีห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง
เรามาดูของจริงกันต่อค่ะ หน้าตาบ้านภายนอกออกแบบมาในสไตล์ Tropical Modern เน้นโทนสีน้ำตาลและเทา หน้ากว้างบ้าน 5.7 เมตร รั้วหน้าบ้านจะได้กว้างกว่าบ้านแบบที่แล้วเพราะว่าต้องเปิดกว้างสำหรับรถ 2 คัน
โดยประตูจะได้เป็นบานเปิด 3 ตอน วัสดุยังคงเป็นเหล็ก Coating สีดำ หน้าบ้านก็จะติดตั้งกล่องจดหมาย, ช่องทิ้งขยะ ส่วนกริ่งจะติดตั้งไว้ที่กำแพงด้านในบ้านแทนค่ะ
เข้ามาในบ้านจะเจอกับพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คัน เป็นพื้นที่จอดรถแบบ Outdoor ซึ่งถ้าใครกลัวว่ารถจะร้อนหรือแดดจะเลียสีรถก็สามารถที่จะติดตั้งหลังคาเพิ่มเติมเป็นโรงจอดรถได้ค่ะ
ในบ้านจริงพื้นจะได้เป็นคอนกรีตลงเสาเข็มมาให้เรียบร้อย
รั้วบ้านเป็นแบบทึบ สูง 1.5 เมตร จะเห็นว่ามีกริ่งติดตั้งไว้ให้ใกล้กับรั้วประตูทางเข้าบ้าน
กลับมาที่หน้าบ้าน จากภายนอกเราจะมองเห็นว่าแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายจะเป็นช่องแสงบานหน้าต่างที่เชื่อมกับห้องอเนกประสงค์ด้านใน ส่วนขวามือจะเป็นประตูทางเข้าบ้านค่ะ
โดยประตูทางเข้าบ้านที่ได้จะได้เป็นบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
ทางเข้าบ้านจะมีเฉลียงหน้าบ้าน กว้างประมาณ 75 ซม.พอให้วางชั้นวางรองเท้าได้
เข้ามาด้านในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ทานอาหารเป็นส่วนแรก พื้นที่ส่วนนี้สำหรับการจัดการพื้นที่ใช้สอยในบ้านแบบที่ 2 เราสามารถที่จะปรับเปลี่ยนพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นห้องรับแขกได้ในกรณีที่ต้องการเก็บห้องอเนกประสงค์ไว้ทำเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ
ในกรณีที่จะตกแต่งบ้านตามแบบบ้านตัวอย่างพื้นที่ตรงนี้ก็จะสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้พอดี
ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มเข้ามา จะได้เป็นผนังที่กั้นไว้บางส่วนแบบนี้ เพื่อให้เราปรับแต่งเพิ่มเติมได้เองตามลักษณะการใช้งาน เช่นถ้าหากว่าเราต้องการที่จะทำเป็นห้องนั่งเล่น/ห้องรับแขกก็สามารถที่จะติดตั้งประตูกระจกหรือระแนงที่สามารถเชื่อมต่อพื้นที่ทานอาหารและพื้นที่รับแขกเข้าด้วยกันได้
แต่ถ้าหากว่าอยากเปลี่ยนพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นห้องนอนก็สามารถที่จะก่อผนังปิดและเว้นเป็นช่องประตูเพื่อที่จะให้มีความเป็นส่วนตัวสำหรับ user ที่ใช้ห้องนอนที่ชั้น 1 ค่ะ โดยคนที่เหมาะที่จะใช้ห้องนอนที่ชั้นนี้จะเป็นผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีความพิการ ไม่สามารถเดินขึ้นลงบันไดได้สะดวกก็เหมาะที่จะใช้งานห้องนอนที่ชั้น 1 ค่ะ
เข้ามาด้านในห้องอเนกประสงค์ ในบ้านตัวอย่างจะจัดเป็นห้องรับแขก วางโซฟารูปทรง L – Shape ขนาดประมาณ 5 ที่นั่งได้พอดี
ระยะดูทีวีของห้องนี้ก็จะอยู่ที่ประมาณ 2.4 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 55″ – 60″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตาค่ะ
มุมจากในห้องมองย้อนไปทางฝั่งห้องทานอาหารก็จะได้มุมมองประมาณนี้ค่ะ
กลับมาที่ห้องทานอาหาร เราไปดูในส่วนของห้องครัว, ห้องน้ำและลานซักล้างหลังบ้านกันต่อ
โดยพื้นที่ระหว่างห้องทานอาหารจนถึงห้องครัวจะมีประตูเชื่อมออกไปยังเฉลียงด้านนอกออกข้างบ้าน
โดยบานประตูที่ได้จะเป็นบานประตูบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง ลักษณะการเปิดแบบเปิดสลับด้านกันค่ะ ออกมาจะเจอเฉลียงขนาดประมาณ 0.90 x 1.50 เมตร พื้นปูกระเบื้องเซรามิค
กลับเข้ามาในบ้าน มองจากฝั่งห้องทานอาหารไปทางหลังบ้าน แล้วจะเห็นโถงบันได, ห้องเก็บของ, ห้องน้ำ, ห้องครัวและประตูเชื่อมออกไปลานซักล้างหลังบ้าน
สำหรับพื้นที่ส่วนครัว ทางโครงการจัดมาเป็นห้องครัวในบ้านเป็นครัวแบบเปิด ซึ่งในกรณีที่เป็นครอบครัวใหญ่ต้องทำอาหารทานกันเองบ่อยๆแนะนำให้ต่อเติมครัวไทยกันเองหลังบ้านจะสะดวกกว่าค่ะ
ติดกับห้องครัวจะเป็นส่วนของห้องน้ำรับรองที่ชั้น 1
เราไปดูด้านในห้องน้ำกันค่ะ
ภายในห้องน้ำที่ชั้น 1 จะมีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก แต่จะไม่มีการแยกส่วนเปียกอย่างเป็นสัดเป็นส่วน โดยจะเห็นว่ามีการติดฝักกบัวลอย ไม่มีธรณีกั้นแยกให้ค่ะ
สำหรับอ่างล้างมือที่ได้ จะได้เป็นอ่างทรงกลมพร้อมก๊อกน้ำเย็น ยี่ห้อ Englefield
ส่วนโถสุขภัณฑ์จะได้พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระยี่ห้อ Englefield
ฝักบัวจะติดตั้งอยู่ข้างโถสุขภัณฑ์ พร้อมเดินสายไฟไว้เผื่อสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเรียบร้อยค่ะ
พื้นที่ในการใช้งานห้องอาบน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 90 x 90 ซม. แต่การติดตั้งจะอยู่กระชั้นกับโถสุขภัณฑ์ไปหน่อย ทำให้เวลาอาบน้ำ โถสุขภัณฑ์จะเปียกได้ตลอดเวลาค่ะ
สำหรับห้องน้ำพรุ่งนี้จะมีช่องแสง 1 บาน ที่เชื่อมต่อไปยังพื้นที่หลังบ้าน สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศและฆ่าเชื้อโรคได้
มาดูบริเวณโถงบันไดกันต่อ พื้นที่โถงบันไดในบ้านตัวอย่างจะมีการต่อเติมเพิ่มห้องเป็นประตูบานเลื่อนแบบนี้
ซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่สำหรับห้องเก็บของใต้บันไดแบบนี้ค่ะ
ภายในห้องเก็บของใต้บันไดจะสามารถจุของได้พอประมาณ
ขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ โดยบันไดในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นโครงสร้างเหล็ก ปิดหน้าด้วยลูกนอนไม้สำเร็จรูป ยางพาราอัดประสาน ราวจับไม้เนื้อแข็ง
โถงบันไดสูง มีไฟโคมซาลาเปามาให้ 1 ดวง ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอในตอนกลางคืน แนะนำให้ติดโคมไฟน่ารักๆเพิ่มเติมค่ะ
ชานพักบันไดแบบสามเหลี่ยมสี่ตอน
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง
มองย้อนไปดูภาพรวมของโถงบันไดค่ะ
เราไปดูห้องนอนทางฝั่งหน้าบ้านกันก่อนค่ะ
เริ่มจากห้อง Master Bedroom
พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนต มีตัวจบลามิเนตการเรียบร้อยในทุกห้องนอน
เข้ามาด้านในห้องนอนจะเป็นห้อง Master Bedroom โดยห้องนี้จะได้พื้นที่ในส่วนของหน้าบ้านไปทั้งหมดจึงทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยในห้องให้เป็นพื้นที่ส่วนห้องนอนและพื้นที่ส่วน Walk – in Closet ได้ หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่นั่งทำงานก็ได้ค่ะ
เรามาดูในส่วนของห้องนอนกันก่อน
พื้นที่ส่วนห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้พอดี
พื้นที่ปลายเตียงจัดเป็นตู้เสื้อผ้า
ระยะการใช้งานเหลือพอให้ใช้งานได้สะดวก
อีกฝั่งของห้องจัดเป็นพื้นที่เก็บของตู้วางทีวีและโต๊ะเขียนหนังสือ
โดยพื้นที่ส่วนนี้สามารถที่จะ Built – in โต๊ะเขียนหนังสือแบบยาวได้ 1 ชุด และยังเหลือระยะเดินค่อนข้างกว้างค่ะ และสำหรับใครที่ไม่ต้องการมีโต๊ะเขียนหนังสืออยู่ในห้องนอน ก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนตรงนี้ให้เป็นพื้นที่ Walk – in Closet ได้โดยการ Built – in ตู้เสื้อผ้าติดผนังทั้งสองด้านก็จะมีพื้นที่แต่งตัวเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
พื้นที่ส่วนนี้จะเชื่อมต่อออกไปยังระเบียงภายนอกได้ด้วยประตูบานเลื่อน บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
ออกมาด้านนอกระเบียงมีขนาดค่อนข้างกว้างโดยจะมีขนาดประมาณ 1.8 x 1.5 เมตร พอที่จะวางต้นไม้กระถางเล็กๆได้ เพื่อความร่มรื่นค่ะ
ราวกันตกจะได้เป็นราวเหล็ก Coating สีดำ มีช่องเจาะไว้ที่ผนังด้านข้าง ช่วยให้พื้นที่ระเบียงมีความโปร่งมากขึ้น
อีกด้านของระเบียงจะเป็นบานหน้าต่างที่เชื่อมอยู่กับห้องนอนรองห้องถัดไปค่ะ
ถัดมาเราไปดูในส่วนของห้องนอนรองที่อยู่ติดกับห้องนอน Master Bedroom กันต่อ
เข้ามาในห้องจะมีช่องแสง 2 บาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนที่เชื่อมต่ออยู่กับระเบียงภายนอกและหน้าต่างบานฟิกซ์ทรงยาว
สำหรับห้องนี้สามารถที่จะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตไปจนถึงควีนไซส์ได้
ในห้องตัวอย่าง ทางโครงการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยมาได้คุ้มค่าค่ะ สามารถดูเป็นตัวอย่างได้โดยการวางเตียงพร้อมตู้เสื้อผ้าที่บิวท์อินแบบลอยตัวขึ้นมาหน่อยนึง ทำให้ไม่ต้องเสียพื้นที่ระหว่างเตียงและตู้เสื้อผ้าเหมือนการจัดห้องแบบธรรมดาทั่วไป
พื้นที่ข้างเตียงถ้าหากเราวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต จะเหลือพอให้ติดตั้งโต๊ะเขียนหนังสือขนาดย่อมได้แบบนี้ค่ะ
มุมจากเตียงมองย้อนไปทางโถงบันไดด้านนอก
กลับเข้ามาที่โถงบันไดเรา จะไปดูในส่วนของห้องนอนรองห้องที่ 2 กันต่อ เป็นห้องทางขวามือ
เข้ามาด้านในห้องมีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อน ห้องนอนห้องนี้จะเป็นห้องนอนฝั่งหลังบ้าน ขนาดห้องสามารถที่จะวางเตียง 3.5 ฟุต ถึงควีนไซส์ได้ พร้อมตู้เสื้อผ้าและจะโต๊ะเครื่องแป้งขนาดเล็กๆได้ค่ะ
แต่สำหรับในบ้านตัวอย่างทางโครงการจัดมาเป็นห้องนอนเด็กเล็ก มีการตกแต่งห้องที่น่าสนใจโดยสามารถให้เด็กๆอยู่ได้ 2 คน ด้วยการจัดเตียงด้านล่าง 1 หลัง และมีทางขึ้นบันไดไปชั้น 2 มีเตียงอีก 1 หลัง ซึ่งเป็นไอเดียที่หน้าสนใจค่ะ
ส่วนตู้เสื้อผ้าก็จะแอบซ่อนไว้ใต้เตียงชั้น 2 เป็นบานเปิด 3 ตอนระยะการใช้งานเหมาะสมค่ะ
จากในห้องมองย้อนไปทางโถงบันไดด้านนอก ผนังด้านข้างสามารถที่จะเจาะตัวแขวนไว้แขวนพวกหมวกหรือกระเป๋าเล็กๆได้
ถัดมาเรามาดูในส่วนของห้องน้ำชั้น 2 ซึ่งจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันของห้องนอนทั้ง 3 ห้องค่ะ
เข้ามาด้านในห้องน้ำห้องนี้จะมีการแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกอย่างเป็นสัดส่วน พร้อม Shower Box ติดตั้งมาให้เรียบร้อย
อ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมของ Englefield ใต้อ่างมีเคาน์เตอร์สามารถเก็บของได้พอประมาณ เหนืออ่างมีกระจกเงาติดตั้งมาให้ครบ
ขนาดอ่างค่อนข้างกว้างมีที่เก็บของด้านบนนิดหน่อย
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Englefield ระยะการใช้งานพอดีๆ
ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะติดตั้ง Shower Box มาให้ตามแบบเ ป็นกระจกนิรภัยบานกรอบสีขาว บานประตูเป็นลักษณะบานเลื่อนเดี่ยว
เข้ามาด้านในห้องน้ำจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ Englefield มาให้ พร้อมเดินสายไฟสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อย
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.8 x 1.4 เมตร สามารถยืนอาบได้สบายๆ ไม่อึดอัดค่ะ
ราคา
- แบบบ้าน T2-L แป้งที่ H056 พื้นที่ใช้สอย 105 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 17.50 ตารางวา ราคา 2.49 ล้านบาท
- จอง 1,500 บาท
- ทำสัญญา 28,500 บาท
- แบบบ้าน C2-R แปลงที่ J092 ขนาดพื้นที่ใช้สอย 118 ตารางเมตร ขนาดที่ดิน 20 ตารางวา ราคา 2.79 ล้านบาท
- จอง 1,500 บาท
- ทำสัญญา 33,150 บาท
- ค่าส่วนกลางตารางวาละ 52 บาท/เดือน ชำระล่วงหน้า 3 ปี
สรุป
ทำเล :โครงการ The Colors Premium บางนา – วงแหวน ตั้งอยู่ใกล้ในซอยมหาชัน ใกล้ถนนบางนา – ตราด มีทางเข้าออกเชื่อมอต่อกับถนนใหญ่ 3 ทาง คือ ซอยบางนา กม.10 หรือซอยมหาชัย, ซอยบางนา กม.8 และซอยออกไปถนนกิ่งแก้ว เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน 2 เส้น
บรรยากาศภายในซอยมีหมู่บ้านเยอะ และมีโรงงานแทรกอยู่บ้าง ทำเลในวงกว้างถือว่าเป็นทำเลชานเมืองที่มีความคึกคักสูง มีคนอาศัยอยู่เยอะ มีออฟฟิศเยอะ และมีความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างสูง ใกล้ห้าง Meg Bangna มากๆ และมีห้างใหญ่ๆในรัศมี 10 กิโลเมตรหลายห้าง จุดเด่นของทำเลนี้คือตัวถนนบางนา – ตราด ที่เป็นถนนใหญ่ กว้าง 12 เลน ที่มีความคึกคักสูง มีการสัญจรผ่านไปมาเยอะทั้งกลางวันและกลางคืนทำให้บนถนนบางช่วงเวลาจะมีฝุ่นค่อนข้างเยอะ แต่ตัวโครงการจะไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่เพราะเข้ามหาชัยไปประมาณ 1 กิโลกว่าๆ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : การเดินทางด้วยรถยนต์ ดูจะเป็นวิธีสะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้โดยจากตัวโครงการจะมีเส้นทางเข้าออก 3 ทาง ที่สามารถเชื่อมออกไปยังถนนเส้นหลักคือ
- ถนนบางนา – ตราดซึ่งจะใช้เชื่อมไปยังถนนเส้นสำคัญๆต่างๆ เช่น ถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์, ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ได้
- ถนนกิ่งแก้ว ที่ช่วยให้เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก และสามารถเลือกใช้เส้นทางในการหลีกเลี่ยงรถติดในเวลาต่างๆได้
- ถนนเลียบด่วนกาญจนาภิเษก ใช้เลี่ยงรถติดเชื่อมไปถนนบางนา – ตราดได้
และอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี และทางด่วนวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ (ถนนกาญจนาภิเษก)
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ที่สะดวกสำหรับการเดินทางออกจากโครงการตอนนี้จะเป็นพี่วินและ Taxi โดยอาจจะต้องขอเบอร์กันไว้เพื่อเรียกเข้ามารับในโครงการเพื่อออกไปถนนใหญ่หรือรถไฟฟ้า ส่วนการเดินทางเข้ามายังตัวโครงการจะสะดวกกว่าคือจะมีทางเลือกทั้งใช้รถไฟฟ้า BTS บางนา ต่อรถบัสเข้าห้าง Mega Bangna แล้วนั่งพี่วินหรือ Taxi เข้าโครงการ หรือจะนั่ง Taxi ยาวตั้งแต่ BTS อุดมสุขก็สะดวกค่ะ
นากจากนั้นการเดินทางด้วยรถเมล์จะต้องออกมาปากซอยมหาชัย จะมีรถเมล์สาย 132ร, 133ร, 553, 558 วิ่งผ่านค่ะ
ส่วนรถไฟฟ้าในปัจจุบันจะมีสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ BTS สถานีอุดมสุข และ BTS บางนา พอให้ใช้บริการได้ แต่ยังไงก็ต้องนั่งแท็กซี่เพื่อไปยังตัวสถานีก่อนอยู่ดีค่ะ นอกจากนั้นในอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จะมีสถานีศรีเอี่ยมที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยตัวสถานีจะอยู่บริเวณแยกศรินครินทร์ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นค่ะ (กำหนดการเสร็จปี 2562)
แบบบ้านและวัสดุในบ้าน : เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 105 ตร.ม.และ 118 ตร.ม. บนที่ดินมาตรฐาน 17.5 ตร.วา. และ 20 ตร.วา มีการออกแบบโดยรวมในสไตล์ Modern Tropical เน้นสีน้ำตาลและเทาเป็นหลัก ใช้เส้นสายสี่เหลี่ยมสไตล์โมเดิร์นฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
มีบ้าน 2 แบบคือแบบที่จอดรถ 1 คัน มีจำนวน 178 ยูนิต และแบบที่จอดรถ 2 คัน มีจำนวน 191 ยูนิต ฟังก์ชั่นภายในบ้านจะคล้ายๆกันแตกต่างกันที่พื้นที่ใช้สอยที่บ้านแบบ 2 จอดจะมีเยอะกว่า และมีฟังก์ชั่นห้องอเนกประสงค์เพิ่มมา 1 ห้อง นอกจากนั้นแล้วการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยในบ้านจะคล้ายๆกัน มีการจัดพื้นที่ได้พอเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก – กลาง โดยรวมพื้นที่ใช้สอยพอดีๆไม่ติดขัด เสียแค่ไม่มีครัวไทย และห้องนอนรองไซส์เล็กสุดของแบบ 1 จอด อาจจะดูเล็กไปหน่อยค่ะ
วัสดุได้มาแบบมาตรฐานค่อนข้างดี โดยบ้านที่ทางโครงการขายจะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) ลานซักล้างเป็นคอนกรีตบางส่วน, พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตมีลงเสาเข็มแบบปูพรมให้, พื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม., พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตทั้งชั้น ยกเว้นส่วนระเบียงและห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิค, ผนังบ้านฉาบเรียบทาสี ติด Wallpaper ให้บนชั้น 2 ทุกห้อง พร้อมบัวเชิงผนังมาให้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง, ฝ้าเพดาน สูง 2.70 เมตร ไฟภายในตัวบ้านได้เป็นโคมซาลาเปา ยกเว้นในห้องน้ำที่จะได้เป็นไฟดาวน์ไลท์ค่ะ
ประตูและหน้าต่างบานเลื่อนทุกบานได้เป็นอลูมิเนียม Powder Coat สีขาว กระจกเขียวตัดแสง, บานประตูห้องทั่วไปเป็นบานสำเร็จ HDF สีขาว ลูกบิด Colt มาตรฐาน, ประตูห้องน้ำได้ UPVC สีขาว
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำได้ครบชุดของ Englefield ในบ้านแบบ 1 มีแบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกให้ในห้องน้ำทุกห้อง และห้องน้ำบนชั้น 2 มี Shower Box ให้ ส่วนบ้านแบบ 2 จอด ห้องน้ำที่ชั้น 1 ไม่มีการแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ ชั้น 2 แยกส่วนแห้งส่วนเปียกพร้อมติดตั้ง Shower Box ให้ค่ะ
ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง, บานประตูภายในบ้านเป็นบานไม้จริงทำสีขาว, บานประตูห้องน้ำ HDF สีขาว, อุปกรณ์ปลั๊กและสวิทช์ไฟของ Bticino
สาธารณูปโภค : มีซุ้มทางเข้าที่มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วย รั้วไม้กระดก พร้อมกล้อง CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับฝั่งละ 2 ตัว เข้า-ออกโครงการด้วย Key Card Access ระยะใกล้
รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ถนนในโครงการกว้าง 12 เมตร ถนนซอยกว้าง 8 เมตร
ส่วนกลางในโครงการจะมีสวนสาธารณะเป็นของตัวเอง และสามารถใช้ Club House ส่วนรวมของ Areeya ได้ โดยจะมีฟิตเนส, สระว่ายน้ำ ขนาด 10 x 20 เมตร, Lobby, ห้องน้ำ+ล็อคเกอร์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-798-9999, 1797 กด 35
Website : http://www.areeya.co.th
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น