Written by Gift Pannida
สวัสดีผู้อ่าน HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้เราพามาชมโครงการบ้านหรู ทำเลในเมือง จาก SC Asset กันค่ะ กับ โครงการ THE GENTRY พัฒนาการ
บนทำเลศักยภาพ ตั้งอยู่ภายในซอยพัฒนาการ 32 เขตสวนหลวงเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ใกล้จุดขึ้นทางด่วนฉลองรัช 3.4 กม. และไม่ไกลจาก รถไฟฟ้าอย่าง APRL รามคำแหง และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีพัฒนาการ ที่ห่างจากโครงการแค่ 3.4 กม.
รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ใกล้ทองหล่อ-เอกมัย เพียง 10-15 นาที ไปห้างหรือโรงพยาบาลก็ใกล้ทั้งในเมืองเส้นสุขุมวิท, พระราม 9 และฝั่งศรีนครินทร์ นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนนานาชาติอยู่รอบ ๆ ด้วย เช่น Ekkamai International School, Bangkok Prep, St. Andrews, Shrewsbury
THE GENTRY พัฒนาการ บ้านหลังใหญ่ 3 ชั้น ระดับ Luxury Class พื้นที่ใช้สอย 440-657 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 61.9 ตร.วา ฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน 5-7 ห้องน้ำ และ 3-5 ที่จอดรถ พร้อมความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตพักอาศัยเพียง 34 ยูนิต บนที่ดิน 12-0-65.8 ไร่
ฟังก์ชันพิเศษด้วยแนวคิด Urban Sanctuary สอดแทรกธรรมชาติเข้าสู่ตัวอาคารด้วยระเบียง และ Pocket Garden พร้อมปลูกต้นไม้ทุกห้องนอน และยังติดตั้งระบบ Home Automation เชื่อมต่อ Application รู้ใจ รวมถึงสัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor ในบ้านทุกหลัง คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2565
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สวนหย่อมเปิดโล่งภายในโครงการ, พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ และ ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน, Co-Working Room มุมของเล่นเสริมทักษะกลางแจ้ง, Kid’s Room เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass พร้อมรักษาความปลอดภัย ด้วย VDO Door Phone, กล้อง CCTV 24 จุด ทั่วโครงการ และ รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 35.9 ล้านบาท
รายละเอียดโครงการจะน่าสนใจอย่างไรติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 065-502-3999 หรือ Line @GTPK
ลงทะเบียนนัดหมายเข้าชมโครงการ https://www.scasset.com/th/house/the-gentry-phatthanakan/
บ้าน THE GENTRY ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
THE GENTRY วิภาวดี
THE GENTRY พัฒนาการ
THE GENTRY เอกมัย-ลาดพร้าว
THE GENTRY สุขุมวิท
ชื่อโครงการ | เดอะ เจนทริ พัฒนาการ / THE GENTRY Pattanakan |
เจ้าของโครงการ | บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) / SC ASSET |
ลักษณะโครงการ | วิลล่า 3 ชั้น มีทั้งหมด 3 แบบบ้าน |
พื้นที่โครงการ | 12-0-65.8 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 34 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน |
|
พื้นที่ใช้สอย |
|
จำนวนห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด |
|
โซน | เขตสะพานสูง |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ถนนพัฒนาการ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 |
กำหนดการ | พร้อมเข้าชมโครงการ |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 65 |
ราคา | เริ่มต้น 35.9 ล้านบาท* (ต.ค.2564) |
ค่าส่วนกลาง | 83 บาท/ตร.วา |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ ตลาด
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
หน่วยงานอื่น ๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | “THE GENTRY พัฒนาการ” วิลล่าหรู 3 ชั้น ปรับฟังก์ชันการใช้งานให้มากกว่าที่พักอาศัย เปลี่ยนวิธีคิดการออกแบบให้รับกับไลฟ์สไตล์คนเมือง พร้อมรวมทุกความต้องการสำหรับการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบไว้ในที่เดียว เอกสิทธิ์ส่วนตัวเพียง 34 ครอบครัว |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนพัฒนาการ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
พิกัด : 13.729436, 100.622283
โครงการ The Gentry พัฒนาการ ตั้งอยู่ใน ซอยพัฒนาการ 32 เข้ามาจากถนนพัฒนาการ 850 เมตร บรรยากาศโดยรอบสงบ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ใกล้เมือง เชื่อมต่อไปยังย่านเอกมัย – ทองหล่อได้ง่ายเพียง 10 นาที อีกทั้งยังอยู่ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ไม่ไกลจาก Airport Link สถานีหัวหมาก เชื่อมต่อสู่พญาไทได้ภายใน 25 นาที
การเดินทางด้วยรถยนต์ เป็นตัวเลือกหลักในการเดินทางของทำเลโซนนี้ค่ะ โดยเป็นทำเลที่สามารถเข้า – ออกได้หลายเส้นทาง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของทำเลนี้ที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น เพราะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการเชื่อมเข้า-ออก ระหว่างตัวเมืองกับชานเมือง โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน
ซึ่งจากโครงการสามารถเข้า-ออก ทั้งจากถนนใหญ่ 3 เส้น คือ ถนนพัฒนาการ, ถนนศรีนครินทร์ และ ถนนอ่อนนุช เส้นพัฒนาการจะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการเชื่อมเข้า-ออกระหว่างตัวเมืองกับชานเมือง เพราะเป็นเส้นที่เชื่อมต่อทั้งถนนเพชรบุรี และ ถนนอ่อนนุช (หรือซอยสุขุมวิท 77) จึงมีการจราจรที่ค่อนข้างจะคับคั่งใน Rush Hour การที่โครงการสามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นจึงเป็นข้อได้เปรียบของทำเลนี้ โดย จาก ถนนพัฒนาการ สามารถเข้า – ออกโดยใช้ ซอยพัฒนาการ 20, 30, 32, 38 และ 44 ได้ ถ้ารถติดบนเส้นพัฒนาการก็สามารถลัดเข้าซอยที่อยู่ใกล้ได้เลยค่ะ
และซอยพัฒนาการ 25 ยังสามารถใช้วิ่งทะลุไปยังถนนพระราม 9 และซอยรามคำแหง 24 ได้ด้วยอีกด้วย โดยซอยรามคำแหง 24 สามารถไปแถวรามคำแหง, สนามรัชมังคลา และ ABAC ได้สะดวกทีเดียว แต่ถ้าจะไปทางพระราม 9 พอเลี้ยวขวาเข้าซอยพัฒนาการ 25 แล้วให้ชิดซ้าย (ไม่ลงอุโมงค์) ค่ะ
ส่วน ถนนอ่อนนุช สามารถใช้ซอยอ่อนนุช 17 และ ซอยอ่อนนุช 39 ส่วน ถนนศรีนครินทร์ สามารถใช้ซอยศรีนครินทร์ 24 หรือซอยอนามัยค่ะ
นอกจากนั้นยังมีทางด่วนให้เลือกใช้ ที่ใกล้โครงการที่สุดคือ จุดขึ้น-ลง ทางด่วนฉลองรัช ใช้เป็นตัวช่วยหนีการจราจรชั้นล่างได้เป็นอย่างดีเลย จากถนนพัฒนาการวิ่งมุ่งหน้าแยกใต้ทางด่วนพัฒนาการ จะมีทางด่วนแยกไปฝั่งพระราม 9 – รามอินทรา (เชื่อมกับทางด่วนศรีรัชได้) และไปบางนา – ชลบุรี (เชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครได้) โดยจุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ห่างจากโครงการเพียง 3.3 และ 3.4 กม. เท่านั้นค่ะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโคร งการ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ หลัก ๆ แล้วเราสามารถเรียกใช้บริการรถสาธารณะได้บนเส้นพัฒนาการค่ะ แต่ถ้าจากตัวโครงการเลยเรียกใช้ Grab จะสะดวกสุด โดยบนเส้นพัฒนาการจะมีรถประจำทางวิ่งผ่านอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์หรือรถตู้ ส่วนแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ก็สามารถเรียกได้ง่ายค่ะ
นอกจากนั้นยังอยู่ไม่ไกลจาก Airport Link สถานีรามคำแหง ระยะทางประมาณ 5.2 กม. เรียกพี่วิน หรือ Taxi นั่งไปต่อรถก็ได้ ไม่ไกลมากค่ะ และจาก สถานีหัวหมาก สามารถเชื่อมสู่ BTS สถานีพญาไท ได้ภายใน 25 นาที
หรือจะเรียกรถไป สถานีอ่อนนุช เลยก็สะดวกเหมือนกันค่ะ อีกทั้งในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง วิ่งผ่านบนถนนศรีนครินทร์ ช่วงพัฒนาการ – สำโรง ซึ่ง สถานีพัฒนาการ จะเป็นสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ระยะทางประมาณ 3.4 กม. เท่านั้นค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ เป็นทำเลที่ถือว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบ ๆ ครบเลยทีเดียว ในระยะ 5 กม. ก็จะมีทั้ง Tesco Lotus, London Street และ Daiso – Max Value ภายในมี ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร, ร้านขายหนังสือ และ ธนาคาร และในพัฒนาการก็ยังเต็มไปด้วยร้านเด็ดเจ้าเก่าประจำย่านที่หลากหลายอีกด้วย
ส่วนทางฝั่งอ่อนนุช จะมีทั้งตลาดสดเอี่ยมสมบัติ, Pickadaily Bangkok, People Mall, Big C อ่อนนุช, Tesco Lotus อ่อนนุช, คอมมูนิตี้มอลล์อย่าง People Park และ Habito
(ที่มาภาพ : https://www.edtguide.com)
ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ จะมีอยู่ที่เส้นรามคำแหง และเส้นพระราม 9 ตรงนั้นจะมี Central พระราม 9 กับ The Mall รามคำแหงค่ะ ที่เส้นศรีนครินทร์วิ่งลงไปทางเทพารักษ์ก็จะมี Thanya Park, Seacon Square, Paradise Park
(ที่มาภาพ : https://th.wikipedia.org, http://www.painaidii.com, https://www.wongnai.com)
นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้ทั้งโรงพยาบาลและสถานศึกษาชั้นนำอีกหลายแห่งด้วย เช่น รพ.วิภาราม พัฒนาการ, รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์, รพ.รามคำแหง, รพ.กรุงเทพ, รพ.สุขุมวิท, รพ.กล้วยน้ำไท, สถาบันเทคโนฯ ไทย – ญี่ปุ่น, ม.เกษมบัณฑิต, รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ, รร.นานาชาติเซนต์มาร์ค, รร.นานาชาติบีคอนเฮาส์แย้มสอาด พัฒนาการ, ม.แสตมฟอร์ด, ม.รามคำแหง เป็นต้น
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวกรอบ ๆ โครงการ
ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ ตลาด
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
หน่วยงานอื่น ๆ
การเดินทางไปโครงการ
การเดินทางเริ่มจาก ซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ > ถนนเพชรบุรี > ถนนพัฒนาการ > ซ.พัฒนาการ 32 > ถ.พัฒนาการ ขับตรงไปอีก 850 เมตรถึงโครงการ The Gentry พัฒนาการ
เริ่มการเดินทางกันที่ซอยทองหล่อ เลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรี
ตรงมาบนถนนเพชรบุรีเรื่อย ๆ ขึ้นสะพานข้ามคลองตัน
ข้ามสะพานมาแล้วเราจะอยู่บน ถ.พัฒนาการ เราขับมุ่งหน้าฝั่งขาออกไปทางฝั่งศรีนครินทร์
จากนั้นให้ชิดขวาลอดอุโมงค์แยกถาวรธวัช (ถ.พัฒนาการ-รามคำแหง-ถาวรธวัช) โครงการจะอยู่ ซ.พัฒนาการ 32 ค่ะ
แล้วชิดขวาลงอุโมงค์กลับรถค่ะ
พอกลับรถมาแล้วเราก็จะผ่านสำนักงานใหญ่ Makro ข้ามคลองลาว
เราจะผ่านอาคาร True Tower 2 จากนั้นให้ชิดซ้ายไม่ต้องลงอุโมค์นะคะ
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซ.พัฒนาการ 32 ค่ะ
ขับตรงไปตามทางเรื่อย ๆ
ผ่านทางเข้า Shizen พัฒนาการ 32 ตรงข้ามคือ The Gentry พัฒนาการ ด้านหลังจะเป็น Estara Haven พัฒนาการ 20 ถัดไปหน่อยเป็นปราณ พัฒนาการ และ บ้านแสนสิริ พัฒนาการค่ะ
ตรงเข้ามาอีกหน่อยก็จะถึงโครงการ The Gentry พัฒนาการ ค่ะ
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ
พื้นที่โซนนี้จะเป็นอีกหนึ่งโซนที่อยู่อาศัยที่มีความคึกคักพอสมควร หาของทานได้ง่ายไม่ไกลบ้านค่ะ พื้นที่โดยรอบจะมีทั้งโครงการจัดสรรประเภทโฮมออฟฟิศ และบ้านเดี่ยว ที่เหลือจะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลทั้งอาคารพาณิชย์, ทาวน์เฮาส์ และบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
มาดูบรรยากาศรอบ ๆ โครงการกันต่อ เริ่มจากหน้าโครงการเป็นซอยพัฒนาการ 32 ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการในอนาคต
บรรยากาศทางฝั่งซ้ายมือ
เยื้องกับตัวโครงการทางฝั่งซ้ายมือเป็นโครงการทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ Sho & Shizen
ติดกับตัวโครงการเป็นที่ดินเปล่า
ส่วนทางฝั่งขวามือจากโครงการจะเป็นโครงการปราณ พัฒนาการ
ติดกับตัวโครงการเป็นที่ดินเปล่า
ถัดมาที่ซอยด้านข้างเป็นโครงการ Thr e Pride พัฒนาการ 30
โซนทางฝั่งนี้จะเป็นที่พักอาศัยส่วนบุคคลค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นทาวน์เฮาส์ และอาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นกิจการต่าง ๆ
ไม่ไกลจากตัวโครงการจะมี 7-11 และร้านอาหารเล็ก ๆ
ฝั่งตรงข้าม 7-11 เป็นเต็นท์รวมร้านอาหารอีกหลายร้าน
ตัวโครงการ
โครงการ The Gentry พัฒนาการ พัฒนาบนที่ดินประมาณ 12 ไร่ กว่า ๆ และมียูนิตพักอาศัยเพียง 34 ยูนิต เท่านั้น โดยตัวโครงการเน้นเรื่องความ Privacy และความปลอดภัยจึงมีการเลือกใช้ระบบ Triple Security เริ่มตั้งแต่หน้าโครงการจะเป็นตัว Main Gate
หน้า Main Gate เป็นป้ายชื่อโครงการที่ดีไซน์มาในสไตล์ที่ดูโมเดิร์น ตกแต่งให้ดูร่มรื่นด้วยไม้พุ่มแน่น ๆ ด้านหน้า
ระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณ Main Gate ใช้ประตูเลื่อนไฟฟ้า 3 ตอน โดยลูกบ้านจะ เข้า-ออก ด้วยระบบ Easy Pass ส่วน Visitor จะมีตัว VDO Door Phone ต้องติดต่อกับเจ้าของบ้านก่อน เพื่อรับการคอนเฟิร์มแล้วลูกบ้านเองก็จะสามารถเปิดให้ Visitor เข้ามาได้
แต่ละฝั่งติดตั้งกล้อง CCTV 2 จุด เพื่อส่องบริเวณหน้าคนขับและป้ายทะเบียน
ผ่านจุดแรกที่เป็น Main Gate แล้วเข้ามาภายในโครงการเราสังเกตได้คือสภาพแวดล้อมจะดูเป็นระเบียบไม่มีสายไฟเกะกะสายตาเพราะทางโครงการเอาสายไฟลงดินทั้งหมด มองไปก็จะเห็นแต่ต้นไม้ที่ทำให้โครงการดูร่มรื่น และสำหรับส่วนถนนเมนภายในโครงการมีความกว้าง 12 ม. ถนนซอย 9 ม. และภายในโครงการมีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ทั่วโครงการรวม 24 จุด
ติดกับถนนเมนทางฝั่งขวามือจะเป็นส่วนกลางหลักจุดแรกคือสวนหย่อมที่จัด Landscape ให้เป็นทางเดินในสวน และมีม้านั่งกระจายตามจุดต่าง ๆ พร้อมมุมของเล่นสำหรับเด็ก ๆ และศาลานั่งพักผ่อนในสวน
ศาลานั่งพักผ่อนดีไซน์โมเดิร์น สูงโปร่งรับลม
วิวจากมุมศาลามองไปในสวนจะเห็นการดีไซน์เส้นสายทางเดินให้ดูสวยและเป็นจุดนำสายตาไปที่ตัวคลับเฮาส์
มุมของเล่นเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ จะอยู่ติดกับทางเดินในสวน
สวนจะมีขนาดกำลังดีค่ะ ไม่เล็กไม่ใหญ่ เพียงพอให้ออกมาเดินยืดเส้นยืดสายได้ และมีม้านั่งให้ตามจุดต่าง ๆ ในสวน
จากถนนหลักเข้ามาจะเป็นวงเวียนต้นไม้ใหญ่ที่เป็นจุดเชื่อมจากถนนหลักไปยังถนนซอยภายในโครงการ และคลับเฮาส์ที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ กับสวน
บรรยากาศในซอยย่อยแต่ละซอยจะดูเรียบร้อย มีลงต้นไม้ใหญ่มาให้หน้าบ้านทุกหลัง
การดีไซน์ตัวคลับเฮาส์จะใช้ Facade เป็นกระจกและระแนงบังสายตา ตกแต่งออกมาดูโมเดิร์น
ส่วนฟังก์ชันที่จัดมาให้ถือว่าครบ และเพียงพอแน่นอนสำหรับการใช้งานของลูกบ้าน โดยส่วนกลางจะมีโซน Outdoor คือสระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระผู้ใหญ่ ขนาด 16 x 7 เมตร ลึก 1.20 เมตร และสระเด็ก ขนาด 5 x 2 เมตร ลึก 0.50 เมตร พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนบริเวณ Shallow Pool วาง Sunbed ไว้ให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อนริมสระ
เข้ามาดูด้านในตัวอาคารกันต่อค่ะ ส่วนแรกเราจะเจอ Lobby ซึ่งปัจจุบันจะใช้เป็นสำนักงานขายในตัว
ด้านในจัดชุดที่นั่งรับรองมาให้หลายจุด ส่วนพื้นที่ด้านหลังห้องนี้จะมีห้องนิติฯ ประจำโครงการ
อย่างที่บอกว่าที่นี่ออกแบบมาให้อยู่อาศัยได้ทุกวัย จุดนี้ก็หมายรวมถึงส่วนกลางด้วย โดยส่วนกลางของที่นี่จะทำออกมารองรับการใช้งานของผู้สูงอายุด้วยนะคะ โดยจะมีทั้งทางลาดเข้าตัวอาคาร และ Stairlift ที่อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ทีใช้วีลแชร์ ให้สามารถขึ้นลงชั้น 2 ได้สะดวกขึ้น
ติดกับส่วน Lobby จะเป็นทางเดินเชื่อมมาที่ส่วนสระว่ายน้ำ และห้องน้ำชั้น 1
วิวจากบริเวณสระว่ายน้ำ มองออกไปก็จะเห็นพื้นที่โล่ง ๆ ของสวนหย่อมภายในโครงการ
ด้านหลังสระว่ายน้ำเป็นส่วนล้างตัวก่อนลงสระ และห้องน้ำแยกชาย-หญิง พร้อมห้องน้ำสำหรับผู้ใช้วีลแชร์
ด้านในห้องน้ำจะตกแต่งออกมาเรียบ ๆ จัดส่วนอ่างล้างมือ, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำและ ล็อคเกอร์ โดยห้องน้ำชายจะมีห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง
ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวมาตรฐานมาให้พร้อมใช้งาน
ภายในห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ Cotto
และแยกส่วนโถปัสสาวะสำหรับห้องน้ำชาย
ส่วนห้องน้ำสำหรับผู้พิการก็จะดีไซน์ให้มีขนาดกว้าง มีอุปกรณ์ช่วยจับตามมาตรฐาน
ส่วนห้องน้ำหญิงจะแบ่งเป็นห้องน้ำ 4 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง
บันไดขึ้นชั้น 2 จะมีตัว Stairlift ติดตั้งมาให้สำหรับผู้ที่ใช้วีลแชร์ หรือไม่สะดวกที่จะเดินขึ้น-ลง บันไดด้วยตัวเอง
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอโถงทางเดินโล่ง ๆ
ห้องทางขวามือเป็นห้อง Co-Working Space ที่มีการจัดมุมสำหรับคนที่มานั่งทำงานคนเดียว และห้องประชุมสำหรับจัด Meeting แบบเป็นส่วนตัว
มุมที่นั่งติดหน้าต่างแยกเป็นเก้าอี้เดี่ยว เหมาะสำหรับการเอา Laptop มานั่งทำงานคนเดียว
ภายในห้อง Meeting Room จัดโต๊ะยาวสำหรับ 4 ที่นั่ง พร้อมหน้าจอเผื่อการพรีเซ้นต์งาน
อีกด้านนึงบนชั้น 2 จะเป็นห้อง Kid’s Room ที่มีมุมให้เด็ก ๆ นั่งวาดรูป/ทำการบ้าน
ด้านในเป็นบ่อบอลให้เด็ก ๆ เล่นสนุกกันค่ะ
อีกฟังก์ชันจะเป็นห้องฟิตเนส ผนังกระจกรอบด้านทำให้ได้บรรยากาศออกกำลังกายที่โปร่งสบาย โดยโซนคาร์ดิโอจะมี ลู่วิ่ง, Elliptical, จักรยานไฟฟ้า พร้อม Partition กั้นแยกเพื่อความปลอดภัยจาก Covid-19
โซนด้านในเป็นมุมเวทเทรนนิ่ง ผนังกระจกเงาสำหรับเช็กท่าทางการออกกำลังกาย จัดอุปกรณ์มาให้ในส่วนของดัมเบลคละน้ำหนัก, ม้านั่งปรับระดับ และตัว Machine
ภาพรวมของอุปกรณ์ที่จัดมาให้ห้องฟิตเนสค่ะ
แบบบ้าน
มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ คือ
แปลนบ้าน HAVEN ชั้น 1
แปลนบ้าน HAVEN ชั้น 2
แปลนบ้าน HAVEN ชั้น 3
แปลนบ้าน Hideaway ชั้น 1
แปลนบ้าน Hideaway ชั้น 2
แปลนบ้าน Hideaway ชั้น 3
แปลนบ้าน Sanctuary ชั้น 1
แปลนบ้าน Sanctuary ชั้น 2
แปลนบ้าน Sanctuary ชั้น 3
บ้านตัวอย่าง
วันนี้เราจะพาชมบ้านตัวอย่าง ไซซ์เริ่มต้น คือแบบบ้าน Haven ที่ดินเริ่มต้น 61.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 440 ตร.ม.
ก่อนที่เราจะเข้าไปดูในตัวบ้านขอพูดถึง Concept Design ของที่นี่คือ Urban Sanctuary หน้าตาภายนอกบ้านจะมีการดีไซน์ Facade ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Shading Effect มุมตกกระทบของแสง และจะใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติทั้งหิน และ ระแนงอลูมิเนียมทำสีเหมือนคล้ายไม้ ให้ความรู้สึกธรรมชาติ มั่นคง และอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
ส่วนฟังก์ชันที่พิเศษของที่นี่คือมีการสอดแทรกธรรมชาติไว้ภายในตัวบ้านด้วย Pocket Garden บริเวณระเบียงที่พร้อมรองรับการปลูกต้นไม้ในทุกห้องนอนที่เป็นฟังก์ชันที่แตกต่างจาก The Gentry โครงการอื่น
ประตูรั้วบ้านเป็นแบบรางเลื่อนโปร่ง วัสดุเป็นเหล็กสีดำ แยกประตูสำหรับเดินเข้าบ้านไว้อีกชุด ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้งมาให้หน้าบ้านมีกริ่ง, ไฟหน้าบ้าน, ตู้จดหมายและถังขยะ โดยตัวถังขยะจะมีถังอยู่ด้านหลังรั้วทำให้บ้านดูเรียบร้อย
เข้ามาภายในตัวบ้านส่วนแรกเป็นที่จอดรถ สามารถจอดได้ 3 คัน มีจุด Ev Charger รองรับรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนโครงสร้างเป็นแบบ Slab on beam ใช้โครงสร้างเดียวกับตัวบ้าน ส่วนด้านนอกเทแยกจากตัวบ้าน วัสดุปูพื้นเป็นแสตมป์คอนกรีตรอบบ้านมีระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง CCTV ติดรอบบ้าน 3 จุด, สัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor
มาดูพื้นที่รอบตัวบ้าน มุมที่อยู่ติดกับที่จอดรถตรงนี้เป็นมุมที่ส่วนตัวชอบที่สุดในบ้านหลังนี้ เพราะเนื่องจาก The Gentry จะเป็นบ้านในเมืองที่เน้นใช้พื้นที่ดินให้คุ้มค่าที่สุด เลยสร้างตัวบ้านเกือบเต็มผืนที่ดินแต่ละแปลง ทำให้มีพื้นที่รอบบ้านเหลือไม่เยอะ เค้าเลยดีไซน์ให้ตัวบ้านมีจุดที่เว้าเข้ามาตรงฝั่งนึงของบ้าน ทำให้ตรงนี้เกิดเป็น Space ที่เป็นมุมอเนกประสงค์ข้างบ้าน ใช้นั่งพักผ่อน, ออกกำลังกาย หรือเป็นลาน BBQ เล็กๆ เวลาเพื่อนมาปารตี้ที่บ้านก็ได้
นอกจากนั้นลักษณะของตัวอาคารแบบนี้ยังทำให้บ้านได้มีช่องเปิดเยอะขึ้น ทั้งช่องแสงและระเบียง ได้ประโยชน์ทั้ง 3 ชั้น
ส่วนพื้นโซนด้านข้างของตัวบ้านจะเป็น Service Area ที่เค้าทำแยกไว้เป็นสัดส่วน โดยฝั่งที่ค่อนมาทางหน้าบ้านหน่อยจะเป็นโซน Maid Area มีห้องพักและห้องน้ำของแม่บ้าน
หลังบ้านเป็นลานซักล้าง, ห้องเก็บของ ที่เตรียมพื้นที่สำหรับการติดตั้งเครื่องซักและอบผ้าไว้ให้เรียบร้อยค่ะ
ทางเข้าบ้านจะยกสเต็ปขึ้น 2 ชั้น เป็นขั้นกว้างๆ มีระยะให้ก้าวขาหรือยกวีลแชร์ขึ้นได้
สำหรับประตูจะได้เป็นบานไม้สักแท้ ที่มีความสูงถึง 2.75 ม. เปิดได้ 2 ฝั่ง
ส่วนมือจับเป็นทองเหลืองแท้น้ำเข้าจาก USA ยี่ห้อ Baldwin พร้อม Digital Door Lock ที่ใช้งานผ่าน Passcode ได้
เข้ามาภายในตัวบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer หรือพื้นที่โถงทางเข้าเป็นจุดเบรคมู้ดจากภายนอกเข้าสู่ในตัวบ้าน ส่วนสเปกพื้นใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ ขนาด 60*120 ซม. ปูชั้น 1 ทั้งชั้น พอวางต่อกันแล้วจะดูสวยกว่าไซซ์ธรรมดาทั่วๆ ไป ดูหรูหราสมราคา
ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะอยู่ติดกับห้อง Control Room ซึ่งเป็นจุดติดตั้งมอนิเตอร์ CCTV
นอกจากนั้นเค้ายังเตรียมพื้นที่เป็นห้องค่อนข้างใหญ่ให้เราสามารถทำเป็นห้องเก็บรองเท้า เป็นจุดเก็บร่ม/เสื้อโค้ท ได้
พอเราเข้ามาด้านในจะเจอโซนที่เป็นหัวใจของบ้านนั่นก็คือพื้นที่ Common Area นั่นเองค่ะ ลักษณะการออกแบบเค้าจะเป็นโถงขนาดใหญ่ เชื่อมพื้นที่ห้องนั่งเล่น และห้องทานอาหารไว้ด้วยกัน การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็สามารถปรับตามสไตล์ของแต่ละบ้านได้เลย
อย่างที่บอกว่าบ้านที่นี่จะเน้นรองรับทุก Generation ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วแต่ละช่วงวัยก็จะมีความต้องการที่ต่างกัน แต่ที่แน่นอนคือไม่ว่าจะวัยไหนก็ต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะฉะนั้นการจัดโซนของบ้านหลังนี้จึงแบ่งไว้ค่อนข้างชัดเจน พอเราขึ้นไปชั้นบนก็จะเป็นห้องนอนของแต่ละคนแล้ว ชั้นล่างเค้าเลยทำให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างเต็มที่ และเห็นกันและกันในทุกจุด
และในเมื่อเป็นจุดศูนย์รวมของคนในบ้าน และเป็นจุดสำหรับต้อนรับแขกแล้วจึงดีไซน์ให้พื้นที่ตรงนี้เป็น Double Volume ที่มีความสูงถึง 6.85 ม. พร้อมช่องแสงเปิดเต็มความสูง ทำให้ดูสูงโปร่งมาก ๆ และยังสามารถเชื่อมกับพื้นที่เฉลียงข้างบ้านได้อีกด้วย แต่อันนี้คือความสูงของบ้านไซซ์เริ่มต้นนะคะ ถ้าเป็นตัวบ้านไซซ์กลางและไซซ์ใหญ่จะมีความสูงถึง 7.2 ม. เลยทีเดียวค่ะ
ถ้ามองขึ้นไปอีกฝั่งจะเห็นจุดเชื่อมตรงโถงทางเดินชั้น 2
พื้นที่ในห้องนี้วางโซฟารับแขกชุดใหญ่ได้สบายๆ ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะมีส่วนที่เป็นผนังสำหรับทำชั้นวางทีวี หรือชั้นวางของขนาดใหญ่ได้
เชื่อมต่อเข้ามาจากห้องนั่งเล่นเป็นห้องทานอาหาร ความสูงฝ้ามาตรฐานจะอยู่ที่ระดับ 3 ม. ขนาดพื้นที่จะเห็นว่าจัดวางชุดโต๊ะทานข้าว 5-6 ที่นั่งได้แบบเหลือ ๆ และยังมีพื้นที่ด้านข้างที่เราสามารถเพิ่มเป็นบาร์เล็กๆ สำหรับเตรียมเครื่องดื่มได้
พื้นที่ชั้นล่างนอกจากจะเน้นส่วน Common Area แล้ว ยังมีฟังก์ชันของห้องอเนกประสงค์เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะอยู่ติดกับส่วนห้องทานอาหารค่ะ
ห้องนี้เราสามารถจัดเป็นห้อง Entertainment Room หรือเป็นห้องพักผ่อน ก็ได้หมดค่ะ ซึ่งในอนาคตถ้าเรามีสมาชิกในบ้านเพิ่ม ตรงนี้เราก็สามารถกั้นเป็นห้องนอนได้อีก 1 ห้อง หรือไว้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุก็ได้
ซึ่งตรงนี้เราก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันให้เข้ากับสมาชิกในครอบครัวเราได้ ถ้าบ้านไหนมีแขกมาเยี่ยมบ้านบ่อย ๆ และรู้สึกว่าอยากให้ห้องทานอาหารมีความเป็นแยกส่วนออกมาหน่อย ก็สามารถขยับโต๊ะทานข้าวมาไว้ในห้องนี้ได้ ส่วนพื้นที่ทานข้าวด้านนอกก็อาจจะวางเป็น Island, Pantry หรือบาร์เครื่องดื่มสวย ๆ แทน
ถ้าเราเปิดโล่ง ๆ ไว้ก็จะเห็น Space ที่เชื่อมต่อกันทั้งหมดแบบนี้ค่ะ
เรากลับไปดูที่อีกฝั่งของห้องทานอาหารกันต่อ
ติดกันก็จะเป็นห้องน้ำรับรอง และครัวค่ะ
ห้องน้ำบ้านนี้จะมีส่วนอาบน้ำรองรับทุกห้อง โดยสุขภัณฑ์ใช้ยี่ห้อ Kasch เป็นยี่ห้อน้ำเข้าจากยุโรป
พื้นห้องน้ำก็ทำเป็น Step Free ตัว Floor Drain เป็นระนาบเดียวกับพื้นทั้งหมด ป้องกันการสะดุดของเด็ก ๆ หรือผู้สูงอายุที่ใช้ไม้เท้า ส่วนกระเบื้องในห้องน้ำก็ใช้แผ่นใหญ่เช่นกันค่ะ เป็นขนาด 90*90 ซม.
อ่างล้างมือติดตั้งเป็นอ่างทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่พร้อมก๊อกน้ำ
ด้านล่างมีลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำมาให้เรียบร้อย
โถสุขภัณฑ์ใช้ดีไซน์โมเดิร์น และตัวถังพักน้ำด้านหลังมีการดีไซน์ให้เข้ากับภาพรวมของห้องน้ำด้วยค่ะ
ในห้องอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวขนาดใหญ่ พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย โดยจะไม่ได้มีฉากกั้นติดมาให้ ซึ่งตรงนี้เราก็สามารถติดเพิ่มเองได้ แต่จริง ๆ ถ้ามีผู้สูงอายุในบ้านและกังวลว่าน้ำจะกระเซ็นก็ใช้เป็นม่านกั้นดีไซน์สวย ๆ แทนก็น่าจะใช้งานได้สะดวกกว่าค่ะ
ติดกับห้องน้ำเป็นครัวไทยมีประตูกั้นแยกเป็นสัดส่วน มีขนาดกำลังพอดีใช้งาน สามารถทำเคาน์เตอร์ครัวได้เลย มีเดินระบบมาให้เรียบร้อยแล้ว
ส่วนการระบายอากาศในห้องจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง และเราก็สามารถเปิดประตูหลังบ้านออกไปเพื่อช่วยเพิ่มการระบายอากาศได้ด้วย
เรามาดูบริเวณโถงบันไดกันต่อค่ะ
บริเวณโถงบันไดนี้จะเป็นจุดที่รวมหน้าจอของอุปกรณ์ Smart Home ต่าง ๆ ภายในบ้านเลยค่ะ
ส่วนแรกเป็นหน้าจอ inim ตัวนี้จะติดตั้งไว้ในตัวบ้านบริเวณโถงบันไดชั้น 1 และหน้าห้อง Master Bedroom ถ้ามีการงัดแงะระบบดังที่ตัวบ้าน และส่งสัญญาณเตือนไปที่ป้อม รปภ.รวมถึงแจ้งเตือนไปยังเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนไว้ และด้านบนเป็นหน้าจอ VDO Door Phone สามารถเห็นหน้าผู้ติดต่อได้ตั้งแต่ Main Gate เลย
ด้านในเป็นตัวระบบ Smart Home ที่เป็น Signature ของ SC Asset คือระบบ Home Automation และสามารถคุมผ่าน Application รู้ใจได้ด้วย ใช้ควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในบ้าน ที่เราสามารถ Sync ได้ทั้งระบบ ไฟ, แอร์, CCTV และ Smart Device ต่าง ๆ ภายในบ้าน ซึ่งตัวจอควบคุมตัวนี้ก็สามารถใช้งานได้ทั้ง Touch Screen และ ตัว Touch Switch ใช้งานได้ตามความถนัดค่ะ
และด้านในสุดจะเป็นพื้นที่โถงลิฟต์ สำหรับบ้านไซซ์เริ่มต้นหลังนี้ ในบ้านมาตรฐานจะมีการเตรียมพื้นที่ไว้ให้สำหรับติดตั้งลิฟต์เท่านั้นค่ะ ถ้าเราไม่ได้ติดตั้งก็ใช้เป็นห้องเก็บของในแต่ละชั้นได้ แต่ถ้าเป็นบ้านไซซ์กลางและไซซ์ใหญ่ก็จะมีลิฟต์ของ Mitsubishi ติดตั้งมาให้เรียบร้อยค่ะ
จุดเด่นอีกอย่างของบ้านหลังนี้คือทำบันไดมาให้กว้างเลยค่ะ เดินขึ้นลงได้อย่างปลอดภัย โดยใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ใช้วัสดุเป็นไม้สักสีโอ๊คเข้ม รวมถึงพื้นชั้น 2-3 ก็ใช้เป็นไม้สักแท้ทั้งหมด
ระหว่างขั้นจะมีติดตั้งไฟส่องสว่างมาให้ด้วย
และตัวโถงบันไดแต่ละชั้นก็จะมีช่องแสงที่ช่วยให้โถงยังได้รับแสงธรรมชาติในช่วงกลางวัน
ขึ้นมาบนชั้น 2 จะแบ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวของแต่ละคนแล้วค่ะ เป็นห้องนอน 2 ห้อง
ห้องทางฝั่งหน้าบ้านเป็น Master Bedroom
เนื่องจากว่าโถงชั้นล่างเป็น Double Volume ที่ชั้น 2 จึงมีช่องเปิดให้เราสามารถมองลงไปเห็นชั้นล่างได้ด้วย
เรามาดูห้องนอน Master Bedroom กันก่อนค่ะ
ห้องนี้เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่มาก พื้นที่ในห้องสามารถกั้นห้อง Walk-in Closet แบบจริงจังได้เลย ซึ่งลักษณะการแบ่งพื้นที่ในห้องนี้ทำให้เกิดส่วนของโถงทางเดินที่เชื่อมจากห้องแต่งตัว มาที่ส่วนห้องนอน เป็นส่วนที่ทำให้ห้องมีความเป็นสัดส่วนและดูแกรนด์ขึ้นไปอีกค่ะ
หน้าจอ inim จะถูกติดตั้งไว้ในห้อง Master Bedroom บริเวณประตูทางเข้าห้องอีก 1 จุด
พื้นที่ในห้องมีขนาดใหญ่มาก จัดสัดส่วนแบ่งใช้งาน 2 คน ได้สบาย ๆ ซึ่งขนาดของห้องนี้จริง ๆ เราเลือกปรับตามความเหมาะสมได้เองเลยค่ะ เพราะห้องในบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องโล่ง ๆ กว้าง ๆ
ภายในห้องแต่งตัวเชื่อมอยู่กับห้องน้ำ
ห้องน้ำ Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่มาก แยกพื้นที่ทั้งโซน Shower, อ่างอาบน้ำ และพื้นที่โซนแห้ง โดยเค้าจะติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ตามนี้เลยค่ะ
ช่องแสงในห้องน้ำได้มาถึง 2 จุด มีบริเวณในห้องอาบน้ำ และบริเวณอ่างอาบน้ำ ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องทำให้ดูโปร่งสบาย
ที่พิเศษคือตัวอ่างอาบน้ำ Kasch ที่เค้าติดตั้งมาให้จะมีลูกเล่นต่างๆ อย่างทำบับเบิ้ล, ม่านน้ำ และมีระบบโทนสีของไฟในอ่างด้วย
ได้อ่างล้างมือแบบฝังเคาน์เตอร์ มีพื้นที่กว้างๆ ใช้วางอุปกรณ์ต่างๆ ได้ และมีลิ้นชักเก็บของขนาดใหญ่ด้านล่างด้วย
ตัวกระจกเงาก็ได้ขนาดใหญ่รับกับอ่างล้างมือ พร้อมช่องเก็บของด้านหลังที่สามารถใช้เก็บอุปกรณ์ได้เยอะทีเดียว
โถสุขภัณฑ์ได้แบบ Washlet
โซน Shower กั้นมาให้เรียบร้อยด้วยกระจกนิรภัย
ภายในติดตั้งฝักบัวทั้งแบบ Rain Shower และ Hand Shower พร้อมเจาะช่องวางขวดสบู่/แชมพู มาให้เรียบร้อย
มาที่ส่วนห้องนอน เราจะสังเกตเห็นว่าห้องนี้เป็นห้องเดียวที่ไม่มีระเบียงในตัวเพราะต้องการเน้นพื้นที่ใช้งานภายในห้อง แต่ถ้าเรามองออกไปตรงหน้าต่างก็จะเห็นว่าเค้ามีเตรียมพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้มาให้ด้านนอกด้วย และนอกจากช่องแสงภายในห้องแล้วยังมีมุมที่เป็นกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นในส่วน Double Volume ได้อีกจุด ที่ทำให้ห้องนี้ดูโปร่ง และมีวิวส่วนตัว
ส่วนพื้นที่ภายในห้องนอนก็จะมีมุมให้เราทำเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัว และมุมทำงานเล็กๆ เผื่อไว้เคลียร์งานนิดหน่อยก่อนนอนได้ ซึ่งการจัดวางแบบนี้ส่วนตัวคิดว่ากำลังพอดีใช้งาน แต่ถ้าใครคิดว่าอยากได้พื้นที่ห้องนอนกว้างกว่านี้ก็สามารถไปปรับลดส่วน Walk-in Closet ได้ค่ะ
กลับออกมาที่โถงทางเดินชั้น 2 ฝั่งตรงข้ามกับ Master Bedroom จะเป็นห้องนอน 2
เข้ามาในห้องส่วนแรกจะเจอกันส่วนห้องน้ำ ซึ่งพื้นที่ด้านหน้าเค้ากั้นให้ดูเป็น Walk-in Closet ที่เราสามารถวางตู้ขนาดใหญ่ได้ หรือจะเลือกปรับให้กว้างกว่านี้ก็ได้เพราะห้องจริงจะเป็นห้องโล่งๆ ค่ะ
ด้านในห้องน้ำก็แยกโซนแห้ง โซนเปียกมาเรียบร้อย ใช้สุขภัณฑ์มาตรฐานของ Kasch ได้อ่างล้างมือขนาดใหญ่แบบฝังเคาน์เตอร์พร้อมลิ้นชักเก็บของใต้อ่าง พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และเค้าจะเลือกใช้โถสุขภัณฑ์ที่มีดีไซน์โมเดิร์น เข้ากับตัวบ้าน ทำให้ห้องน้ำสวยน่าใช้งานในทุกห้องค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอนรองทุกห้องจะไม่มีฉากกั้นติดตั้งมาให้นะคะ แต่ตรงนี้เราให้ช่างมาติดเพิ่มได้ไม่ยาก
ติดกับส่วน Walk-in Closet ก็จะเป็นพื้นที่ในส่วนพักผ่อน
จะเห็นว่ามีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง จัดวางเตียงคิงส์ไซซ์พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้สบาย ๆ
ที่สำคัญคือเราจะสังเกตว่าห้องนี้ดูสว่างมากค่ะ เพราะมีช่องแสงหลายบาน ซึ่งตัวหลักก็คือบริเวณระเบียงที่ทำเป็นหน้าต่างเข้ามุมมาให้ด้วย
เราสามารถมองเห็นต้นไม้จากในห้องได้ด้วย เป็นวิวเขียว ๆ สบายตา แบบนี้
ตัวระเบียงที่เราบอกกันไปว่าเค้าเน้นพื้นที่สีเขียวในทุกชั้นก็คือส่วนที่เค้าเตรียมไว้ให้ปลูกต้นไม้ หรือ Pocket Garden ที่เราจะเห็นว่าสามารถลงต้นไม้ไซซ์กลางได้เลย ไม่ใช่แค่ต้นเล็กๆ ค่ะ
พื้นที่ระเบียงเองก็ค่อนข้างกว้าง ใครจะปลูกเพิ่มก็ได้ หรือไว้นั่งพักผ่อนก็ได้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะมีส่วนที่เค้าทำเป็นชั้นลอยไว้ให้เพื่อเป็นการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า เพราะถ้าปล่อยไว้ก็จะเป็นแค่โถงบันไดธรรมดา ๆ ไม่ได้ใช้งานพื้นที่ส่วนนี้
พื้นที่ด้านบนมีขนาดพอเหมาะจะจัดเป็นห้องพระก็มีพื้นที่ให้วางชุดโต๊ะหมู่ได้สบายๆ หรือจะทำเป็นมุม Meditaion Corner ก็ได้ค่ะ
ฟังก์ชันที่ชั้น 3 จะมีห้องนอน 2 ห้อง และพื้นที่อเนกประสงค์ จากภาพนี้พื้นที่อเนกประสงค์จะเป็นห้องกลาง ซึ่งตรงนี้ของจริงจะไม่มีประตูกั้นมาให้นะคะ แต่ถ้าเราอยากติดเครื่องปรับอากาศเพิ่ม หรือในอนาคตอยากมีห้องนอนอีกสักห้องก็สามารถกั้นเองได้
ตำแหน่งห้องจะอยู่ตรงส่วนที่เป็น Court กลางบ้าน ทำให้สามารถที่จะเจาะช่องแสงบานใหญ่ได้แบบนี้ ทำให้ห้องนี้รับแสงธรรมชาติเข้าห้องได้เต็ม ๆ
การจัดฟังก์ชันในห้องนี้เราสามารถทำเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวบนชั้น 3 หรือจะใช้ปรับเป็นห้องทำงานก็ได้ค่ะ
เรามาดูที่ห้องนอน 3 กันต่อนะคะ อย่างที่เห็นเลยค่ะว่าห้องนอนทุกห้องที่นี่มีขนาดใหญ่มาก และมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง
การจัดพื้นที่ในห้องนี้จะดูโล่งกว้างเพราะเค้าลองจัดตู้เสื้อผ้ามาให้ดูในลักษณะเกาะตามกำแพงไว้ฝั่งประตูทางเข้าห้องแบบนี้ค่ะ ก็ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากกั้นเป็น Walk-in Closet แบบจริงจังก็เอาไอเดียนี้ไปลองปรับกับ Layout ห้องได้
ถัดเข้ามาด้านในส่วนพื้นที่พักผ่อน จะสามารถจัดวางเตียงไซซ์ใหญ่ได้สบาย ๆ
ข้างเตียงยังมีพื้นที่ให้จัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนส่วนตัว และมุมโต๊ะทำงานได้อีก
มาที่ส่วนระเบียงค่ะ จะเห็นว่าเค้าทำเป็นหน้าต่างกระจกเข้ามุมมาให้ทุกห้องเลย ทำให้มุมมองของห้องนอนดูแล้วโปร่งสบายตา รับแสงธรรมชาติเข้าห้องได้เต็ม ๆ
ห้องนี้ได้ระเบียงกว้างมาก เราจะวางชุดโต๊ะทานกาแฟ หรือไว้ออกกำลังกายก็ได้เลยนะ และด้านข้างก็จะมีส่วน Pocket Garden สำหรับปลูกต้นไม้ อีกอย่างคือตรงนี้เป็นระเบียงที่เปิด 3 ด้าน ช่วยให้ลม Flow ดีมากขึ้น
มองไปฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นระเบียงของห้องนอน 4 และถ้ามองลงไปก็จะเห็นตรงส่วน Court ด้านล่าง
กลับเข้ามาภายในห้อง อีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำในตัวของห้องนี้ค่ะ
ห้องน้ำกว้างขวาง ใช้งานได้สะดวก แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย และถ้าเราสังเกตจะเห็นว่าห้องน้ำทุกห้องติดตั้งหน้าต่างบานใหญ่มาให้ ซึ่งตัวบานใช้กระจกฝ้าที่ช่วยบังสายตาได้ แต่เราจะติดมู่ลี่เพิ่มเพื่อความสบายใจแบบนี้ด้วยก็ได้ค่ะ
ถัดเข้ามาด้านในสุดเป็นส่วนห้องนอนที่ 4
Layout ห้องนอน 4 จะใกล้เคียงกับห้องนอน 2 เลยค่ะ เราสามารถแบ่งพื้นที่ในห้องกั้น Walk-in Closet ได้แบบนี้ วางตู้ไซซ์ใหญ่ได้ หรือจะขยับให้กว้างกว่านี้ก็แล้วแต่จัดสรรค่ะ
ภายในห้องน้ำจะแบ่งฝั่งซ้ายมือเป็นโซนห้องอาบน้ำ
และส่วนฝั่งขวามือเป็นพื้นที่โซนแห้ง ติดตั้งอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ดีไซน์โมเดิร์น
พื้นที่ในห้องนอนจัดวางเตียงได้ตามขนาดที่เราพอใจค่ะ จะวางคิงส์ไซซ์ก็ได้ หรือถ้าใครนอนคนเดียวจะวางเป็นเตียงเดี่ยว หรือควีนไซซ์เพื่อที่จะได้มีพื้นที่เหลือไว้วางของตกแต่งอื่น ๆ ก็ได้
และถ้าเราแบ่งห้องแต่งตัวขนาดประมาณในบ้านตัวอย่าง ก็จะมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะทำงาน และวางชั้นวางของปลายเตียงได้ประมาณนี้
ช่องแสงหลักในห้องนี้ก็ยังคงเป็นประตูระเบียงและหน้าต่างเข้ามุมบานใหญ่เหมือนห้องนอนห้องอื่นค่ะ เปิดมุมมองในห้องให้ดูกว้างขึ้น บวกกับราวกันตกที่เลือกใช้เป็นกระจกทั้งหมดก็ทำให้ได้ความโปร่งค่ะ
ห้องนี้เค้าจะไม่ได้เตรียม Pocket Garden มาให้ เราก็วางเป็นไม้กระถางได้ เลือกต้นไม้ทรงสูงหน่อยก็จะช่วยบังสายตาได้ด้วย
ให้ดูขนาดระเบียงจะเห็นว่าพอให้ปลูกไม้กระถางได้ค่ะ
มองจากระเบียงลงไปจะเชื่อมกับ Court ด้านล่าง
ราคา(ต.ค. 2564)
ลงทะเบียนนัดหมายเข้าชมโครงการ https://www.scasset.com/th/house/the-gentry-phatthanakan/
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ที่ตั้งของ โครงการ THE GENTRY พัฒนาการ จะอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 รอบ ๆ โครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย บรรยากาศค่อนข้างสงบ มีความเป็นส่วนตัวสูง
และเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางทั้งขาเข้าและขาออกเมืองได้สะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบในตัวทำเลเอง ทั้งร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร และคาเฟ่ ตามซอยต่าง ๆ ขับจากบ้านไปได้ไม่ไกล หาของกินแถวบ้านได้สบาย
และถ้าวิ่งเส้นพัฒนาการตรงอย่างเดียวก็เข้าเอกมัย-ทองหล่อ แค่ 10-15 นาที วิ่งไปห้างหรือโรงพยาบาลก็ใกล้ทั้งในเมืองเส้นสุขุมวิท, พระราม 9 แล้วก็ฝั่งศรีนครินทร์ นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนนานาชาติอยู่รอบ ๆ ด้วย เช่น Ekkamai International School, Bangkok Prep, St. Andrews, Shrewsbury
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : เป็นทำเลที่เดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวกมาก ๆ เพราะอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนฉลองรัชแค่ 3.4 กม.และจุดลงทางด่วนประมาณ 6.8 กม. โดยเส้นทางปกติการเข้าออกเมืองหลัก ๆ ก็ต้องพึ่งถนนพัฒนาการ โดยโครงการจะอยู่ในซอยที่สามารถเชื่อมออกได้หลายซอย ทั้งซอยพัฒนาการ 20, 30, 32, 38 และ 44, ซอยอ่อนนุช 17 และอ่อนนุช 39 หรือซอยศรีนครินทร์ 24 ก็ได้ค่ะ
ที่สำคัญคือเป็นเส้นที่เชื่อมถนนเพชรบุรี ที่ใช้วิ่งเข้าเมืองไป เอกมัย, ทองหล่อ, อโศก, นานา, เพลินจิต และ ชิดลมได้สะดวกมาก หรือจะไปฝั่งพระราม 9 และรามคำแหงก็เชื่อมไปออกทางซอยพัฒนาการ 25 ได้เช่นกัน
ถ้าจะไปฝั่งบางนาก็ใช้เส้นศรีนครินทร์ หรือมาออกซอยอ่อนนุช 17 และ 39 แล้วไปออกสุขุมวิท หรือจะใช้ซอยลัดสามารถไปออกช่วง Central บางนา ถ้าไปแถวลาดกระบังก็ใช้เส้นพัฒนาการวิ่งมาจนสุดถึงถนนสุขุมวิท 77 แล้วก็ตรงไปจนถึงลาดกระบัง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : เป็นทำเลที่คนส่วนใหญ่จะใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้รถสาธารณะก็ถือว่ามีตัวเลือกให้ใช้งานค่อนข้างเยอะ และไม่ไกลมาก แค่ออกมาบนเส้นพัฒนาการก็จะมีรถประจำทางวิ่งผ่านอยู่ตลอด ทั้งรถเมล์, รถตู้, Taxi และวินมอเตอร์ไซค์ ก็สามารถเรียกได้ง่ายค่ะ
ส่วนรถไฟฟ้าสามารถเลือกใช้เป็น Airport Link สถานีรามคำแหง สามารถเชื่อมสู่ BTS สถานีพญาไท ได้ภายใน 25 นาที หรือจะเรียกรถไป สถานีอ่อนนุช เลยก็สะดวกเหมือนกันค่ะ
ส่วนอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีพัฒนาการจะอยู่ใกล้โครงการแค่ 3.4 กม. ก็จะมีตัวเลือกในการเดินทางที่มากขึ้นค่ะ
การออกแบบตัวโครงการและตัวบ้าน : ตัวโครงการจะมีความเป็นส่วนตัวสูงด้วยยูนิตพักอาศัยเพียง 34 ยูนิต เท่านั้น จุดเด่นของที่นี่คือการใช้แนวคิด Urban Sanctuary ที่เน้นการเอาธรรมชาติเข้ามาแทรกในการอยู่อาศัยให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นแนวคิดที่จะเรียกว่าสามารถอยู่ได้ในทุกยุคค่ะ เพราะมันจะสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของมนุษย์กับธรรมชาติ นอกจากความสวยงามก็ยังได้ในเรื่องความรู้สึกดีในการอยู่อาศัย
โดยบ้าน The Gentry ทุกทำเลจะเน้นใช้ผืนที่ดินให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เน้นพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้าน จึงทำให้ได้บ้านหลังใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะ เพราะฉะนั้นจึงสามารถที่จะรองรับครอบครัวใหญ่ได้สบาย ๆ
ซึ่งนอกจากพื้นที่ใช้สอยแล้วยังดีไซน์ฟังก์ชันและเลือกใช้ Material ต่าง ๆ รวมถึงการใส่ความเป็น Smart Home ไปในตัวบ้าน ให้คนทุกวัยใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยรองรับทุก Generation ไม่ว่าจะเป็นลิฟต์โดยสารในตัวบ้าน ในพื้นที่ส่วนกลาง, ห้องนอนผู้สูงอายุ และระบบรักษาความปลอดภัย Triple Security ตั้งแต่หน้าโครงการ ถึงตัวบ้านที่มีระบบ Magnetic&Shock Sensor และ VDO Door Phone
สิ่งอำนวยความสะดวก : มีพื้นที่ส่วนกลางที่มีครบฟังก์ชัน ทั้งสวนเปิดโล่งภายในโครงการ, อาคารคลับเฮาส์ ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบ ทั้งคาดิโอและเวทเทรนนิ่ง, Co-Working Space แยกโซนทำงานเดี่ยว และห้อง Meeting Room และสระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็ก-สระผู้ใหญ่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1749 / 065-502-3999
Website : https://www.scasset.com
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น